ประวัติศิลาจารึกหลักนี้ หม่อมเจ้าทรงวุฒิภาพ ดิศกุล ทรงส่งสำเนาจารึกมาถวายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๕๗ ต่อมา กรมศิลปากรได้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้อ่านจารึก แผนกหนังสือตัวเขียนและจารึก กองหอสมุดแห่งชาติ คือ นายฉ่ำ ทองคำวรรณ กับ นายประสาร บุญประคอง เดินทางไปที่จังหวัดลำพูน ทำการอัดสำเนาจารึก เมื่อวันที่ ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๐ ศิลาจารึกวัดพระยืน เป็นหลักฐานทางเอกสารอันสำคัญ และเป็นศิลาจารึกหลักเดียวเท่านั้น ที่บ่งบอกการแผ่อิทธิพลของอักษรสุโขทัย เข้าไปสู่อาณาจักรล้านนา ในรัชสมัยของพญากือนา โดยพระสุมนเถระ พระภิกษุสุโขทัย เป็นผู้นำขึ้นไป
ในชินกาลมาลีปกรณ์ ซึ่งแปลโดย ร.ต.ท. แสง มนวิทูร ได้กล่าวถึงการมาเมืองเชียงใหม่ของพระสุมนเถรว่า ครั้งเมื่อพญากือนากษัตริย์แห่งล้านนามีความปรารถนาใคร่ได้พระภิกษุ อันอาจมาเพื่อจะกระทำสังฆกรรมทั้งปวง มาไว้ในเมืองนพบุรีศรีนครพิงค์ (เชียงใหม่) จึงได้ส่งราชทูตไปยังสำนักแห่งพระครูอุทุมพรมหาสามี ในรามัญประเทศ เพื่อขอพระภิกษุองค์หนึ่ง ชื่อพระอานนท์ภิกษุซึ่งเป็นศิษย์ พญากือนาทรงมีความยินดียิ่ง และปฏิบัติพระอานนท์เป็นเจ้าด้วยจตุปัจจัย แต่พระอานนท์ยังไม่ได้ปรารถนาเพื่อจะกระทำสังฆกรรมมาก่อน เพราะพระครูยังไม่ได้อนุญาต จึงบอกให้พญากือนานิมนต์พระสุมนเถระ ซึ่งเป็นพระอาจารย์แห่งตนจากเมืองสุโขทัย พญากือนาจึงส่งราชทูตไปสุโขทัย เพื่อนิมนต์พระสุมนเถระจากพระยาลิไทย ซึ่งพระองค์ก็ให้พระสุมนเถระนั้นไป และได้นำเอาพระบรมธาตุไปสู่เมืองนพบุรีศรีนครพิงค์ เมื่อพระสุมนเถระออกจากเมืองสุโขทัย และไปจำวัดในที่ใด พระบรมธาตุก็บังเกิดพระรัศมีเป็นอัศจรรย์ พระผู้เป็นเจ้าก็อุปัฏฐากบูชาพระบรมธาตุ ด้วยความเคารพเป็นอย่างดี ฝ่ายพญากือนามหากษัตริย์ โปรดให้สร้างพระพุทธรูป ๔ องค์ไว้ในพระมหาวิหารใหญ่ ด้านทิศบูรพาแห่งเมืองหริภุญชัย ในศักราช ๗๓๑
เนื้อหาโดยสังเขปข้อความที่จารึก คำขึ้นต้นของจารึกด้านที่ ๑ บรรทัดแรก เป็นคำนอบน้อมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยภาษาบาลี ข้อความต่อจากนั้นไปเป็นภาษาไทย กล่าวถึงพระนามกษัตริย์แห่งราชวงศ์มังรายบางพระองค์ ได้กล่าวถึงมูลเหตุที่ไปอาราธนาพระสุมนมหาเถร จากนครสุโขทัย มาเผยแพร่พระพุทธศาสนายังล้านนา ในปี พ.ศ. ๑๙๑๒ และได้นิมนต์ท่านมาอยู่ที่วัดพระยืน ในหริภุญไชยนคร คือ จังหวัดลำพูน และได้กล่าวสรรเสริญเกียรติคุณแห่งพระมหาเถร
ด้านที่ ๒ กล่าวถึงการปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุต่างๆ ภายในวัดพระยืน รวมทั้งพระเจดีย์ที่มีพระพุทธรูปสมัยหริภุญไชย ประดิษฐานประทับยืนอยู่ในซุ้มคูหา
ผู้สร้างพญากือนา
การกำหนดอายุในด้านที่ ๒ บรรทัดที่ ๑๙ “…ปีจอ…” ตรงกับ จ.ศ. ๗๓๒ (พ.ศ. ๑๙๑๓)
ข้อมูลอ้างอิงเรียบเรียงข้อมูลโดย: วชรพร อังกูรชัชชัย และดอกรัก พยัคศรี, โครงการฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย ศมส., ๒๕๔๖, จาก:
๑) ฉ่ำ ทองคำวรรณ, “หลักที่ ๖๒ ศิลาจารึกวัดพระยืน,” ใน ประชุมศิลาจารึก ภาคที่ ๓ : ประมวลจารึกที่พบในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลางของประเทศไทย อันจารึกด้วยอักษรและภาษาไทย, ขอม มอญ, บาลีสันสกฤต (พระนคร : คณะกรรมการจัดพิมพ์เอกสารทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และโบราณคดี สำนักนายกรัฐมนตรี, ๒๕๐๘), ๑๓๕ - ๑๔๔.
๒) ฉ่ำ ทองคำวรรณ, “ศิลาจารึกวัดพระยืน พุทธศักราช ๑๙๑๓,” ใน จารึกสมัยสุโขทัย (กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, ๒๕๒๖), ๙๒ – ๑๐๑.
๓) จำปา เยื้องเจริญ, เทิม มีเต็ม, และคงเดช ประพัฒน์ทอง, “จารึกวัดพระยืน,” ใน วิเคราะห์ศิลาจารึกในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย, พิมพ์ครั้งที่ ๒ (กรุงเทพฯ : หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร, ๒๕๓๓), ๗๘ – ๘๐.
ภาพประกอบ ภาพสำเนาจารึกจาก : ประชุมศิลาจารึก ภาคที่ ๓ (พระนคร : สำนักนายกรัฐมนตรี, ๒๕๐๘)
ที่มาhttp://www2.sac.or.th/databases/jaruk/th/main.php?p=ZGV0YWls&id=141