iamakha
บุคคลทั่วไป
|
|
« เมื่อ: วันที่ 23 มกราคม 2011, 12:21:58 » |
|
“อาข่า” เสวนายันไม่จริง จี้รัฐป้องสิทธิ-ฟ้องยูเอ็น มิดะ-ลานสาวกอด
เมื่อวันที่ 21 มกราคม ที่อาคาร 10 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ชมรมอาข่าในประเทศไทยร่วมกับโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์อารยธรรมลุ่มน้ำโขง ของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงร่วมกันจัดเสวนาเรื่อง “มายาคติอาข่าในสังคมไทย คลายปมมิดะและลานสาวกอด” มีกลุ่มผู้แทนองค์กรพัฒนาเอกชน ประชาชน และเยาวชนชาวอาข่าร่วมเสวนาจำนวนมาก เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็น และคลี่คลายปมวาทกรรม “มิดะ” และ ”ลานสาวกอด” อันก่อให้เกิดการกระตุ้นให้ตระหนักถึงวัฒนธรรมและความเป็นชาวอาข่า นายอาจู จูเปาะ ประธานชมรมอาข่าในประเทศไทย กล่าวว่า เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับเรื่องมิดะและลานสาวกอด จนมีการเผยแพร่ออกไปสู่สาธารณะในทางที่ผิดสร้างความเสียหายและความอับอายแก่ชนเผ่าอาข่าขณะนี้ความพยายามที่จะใช้คำว่า มิดะและลานสาวกอด ไปเผยแพร่ในทางที่เสียหายยังคงมีอย่างต่อเนื่อง เดือนธันวาคมที่ผ่านมา มีนิตยสารบางฉบับนำเสนอออกมาในรูปของการ์ตูนล้อเลียนว่า มิดะเป็นผู้สอนกามารมณ์ ซึ่งในข้อเท็จจริงไม่เป็นเช่นนั้น คำว่า มิดะ ไม่มีในภาษาอาข่ามีเพียงคำว่า “หมี่ดะ” ที่แปลว่า ผู้หญิงสาวธรรมดาชาวอาข่าที่ยังไม่ได้แต่งงาน” ส่วนลานสาวกอดที่ถูกมองว่าเป็นลานที่ให้คนหนุ่มสาว มากอดกันนั้นก็ไม่มี มีเพียงลานวัฒนธรรมที่มีการถ่ายทอดภูมิปัญญาจากคนรุ่นก่อนสู่คนรุ่นหลังที่เรียกว่า “แตห่อง” เท่านั้น นายอาจูกล่าวด้วยว่า ชาวอาข่าในประเทษจึงต้องขับเคลื่อนด้วยตัวเองเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีและชื่อเสียง หากยังมีกลุ่มองค์กรหรือบุคคลที่ยังละเมิดนำไปล้อเลียนหรือไปใส่ร้ายในทางที่ผิดก็จำเป็นต้องมีการดำเนินการตามกฏหมายหากพึ่งทางรัฐบาลไทยไม่ได้ก็จำเป็นต้องพึ่งสหประชาชาติให้เข้ามาช่วยเหลือ ระยะนี้จะมีบทสรุปของการเสวนาโดยทางมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงทำเป็นหนังสือออกแจกจ่ายไปยังสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เพื่อชี้แจงให้ทุกฝ่ายได้เข้าใจของประเพณีและวัฒนธรรมชาวอาข่า นายแสนชัย จูเปาะ อายุ 22 ปี ชาวอาข่าบ้านห้วยนำมา อ.แม่สรวย จ.เชียงราย นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ กล่าวว่าความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม เืชื้อชาติและความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของจารีตประเพณีขาวอาข่า ทำให้ตนและเยาวชนอาข่าถูกมองในทางลบ และถูกล้อเลียนมาโดยตลอด ทั้งที่แต่ละชนชาติมีวัฒนธรรมทีดีงามเหมือนกัน ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยพบเห็นผู้หญิงที่มาสอนเรื่องเพศหรือลานที่ให้หนุ่มสาวมากอดกัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทำให้ชาวอาข่ารู้สึกบอบช้ำ แต่เพื่ออนาคตในการเล่าเรียนก็จำเป็นต้องทน แต่อยากให้ทุกคนเข้าใจและเห็นใจ อยากให้มองชาวอาข่าเป็นเหมือนคนอื่น ๆ ที่มา หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 22 มกราคม 2554 และ http://www.iamakha.com
|
matichon.jpg (39.43 KB, 560x420 - ดู 2145 ครั้ง.)
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 23 มกราคม 2011, 12:56:33 โดย ชนเผ่าอาข่า »
|
IP :
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
ตาต้อม
ผู้ดูแลบอร์ด
ระดับ :ป.โท
ออฟไลน์
กระทู้: 2,562
รับสร้างบ่อปลาแฟนซีคาร์ฟ สระว่ายน้ำราคาประหยัด
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 23 มกราคม 2011, 17:32:18 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 23 มกราคม 2011, 20:50:12 โดย ตาต้อม »
|
IP :
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr.R
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 23 มกราคม 2011, 17:45:18 » |
|
การหาข้อเท็จจริง ให้มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ
เรื่องนี้ควรจะหาที่มาของ ผู้แต่งหนังสือและผู้ประพันธุ์บทเพลง มิดะ ว่ามีที่มาอย่างไร ? มีข้อมูลมาจากแหล่งใด บ้านไหน ดอยไหน เมื่อไหร่ จากใคร...มีหรือไม่ เฉพาะกลุ่ม เฉพาะหมู่บ้าน หรืออย่างไร ?
แต่ไม่ว่าข้อเท็จจริงจะออกมาอย่างไร
ผมมองแง่ดีของผู้แต่ง และผู้ร้องเพลง มิดะ ก็ช่วยให้ผู้คนนักท่องเที่ยว ชาวไทยและต่างประเทศ ให้รู้จักชาวอาข่ามากขึ้น และมากกว่าชนเผ่าอื่น ๆ
และชาวอาข่าเองควรจะนำวิกฤติเป็นโอกาส เช่น สร้างบทเพลงออกมาร้องแก้ หรือสร้างแบรนด์การค้า ตราสินค้า "มิดะ" จากชื่อเสียงที่ติดตลาดอยู่แล้วนำมาใช้เกิดคุณค่าทางธุรกิจ และอื่น ๆ ฯลฯ
|
|
|
|
|
iamakha
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 23 มกราคม 2011, 19:33:12 » |
|
ขอบคุณมากครับ...เพลงนี้แต่งก่อนจะถึงวันสัมมนา 1 วันครับ..อนาคตจะมีมิวสิควีดีโอออกมาให้ชมกันแน่นอนครับ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
pond_marine49
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 24 มกราคม 2011, 07:43:24 » |
|
การหาข้อเท็จจริง ให้มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ
เรื่องนี้ควรจะหาที่มาของ ผู้แต่งหนังสือและผู้ประพันธุ์บทเพลง มิดะ ว่ามีที่มาอย่างไร ? มีข้อมูลมาจากแหล่งใด บ้านไหน ดอยไหน เมื่อไหร่ จากใคร...มีหรือไม่ เฉพาะกลุ่ม เฉพาะหมู่บ้าน หรืออย่างไร ?
แต่ไม่ว่าข้อเท็จจริงจะออกมาอย่างไร
ผมมองแง่ดีของผู้แต่ง และผู้ร้องเพลง มิดะ ก็ช่วยให้ผู้คนนักท่องเที่ยว ชาวไทยและต่างประเทศ ให้รู้จักชาวอาข่ามากขึ้น และมากกว่าชนเผ่าอื่น ๆ
และชาวอาข่าเองควรจะนำวิกฤติเป็นโอกาส เช่น สร้างบทเพลงออกมาร้องแก้ หรือสร้างแบรนด์การค้า ตราสินค้า "มิดะ" จากชื่อเสียงที่ติดตลาดอยู่แล้วนำมาใช้เกิดคุณค่าทางธุรกิจ และอื่น ๆ ฯลฯ
รู้จักแบบนี้ก็ไม่ไหวมั้งครับ คงเหมือนกับที่คนต่างชาติมาเที่ยวพัทยา เพื่อมาเที่ยวผู้หญิงนั้นแหล่ะครับ
|
|
|
|
|
น้อยหน่า
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 24 มกราคม 2011, 07:45:54 » |
|
เป็นกำลังใจให้ครับ :)ขอให้ตำนานที่ไม่มีอยู่จริง และทำร้ายจิตใจชาวอาข่า
มานาน จะถูกอธิบายให้คนทั่วไปเข้าใจในความจริงซะทีนะครับ
ไม่รู้ว่้าอ้าย จรัญฯ ที่ร้องเพลง มิดะ ที่โด่งดังไปทั่วจะโดนหางเลขหรือไม่เพลงก็คือเพลงค่ะ ไม่ใช่บันทึกประวัติศาสตร์ อยู่ที่ความคิดของผู้แต่งเพียงคนเดียว ถ้าหากจะอ้างอิงประติศาสตร์โดยใช้เพลงก็คงไม่ถูก... แต่ชอบเพลงนี้มากเลยฟังเเล้วเพราะดีนะคะ
|
|
|
|
น้อยหน่า
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 24 มกราคม 2011, 08:30:18 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 24 มกราคม 2011, 09:07:14 โดย น้อยหน่า »
|
IP :
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
iamakha
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 24 มกราคม 2011, 08:49:49 » |
|
ตกลงอาข่ากับอี่ก้อ เป็นเผ่าเดียวกันหรอ เห็นเขาร้องเป็นเผ่าอีก้อไม่ใช่หรอ แล้วจะเรียกร้องทำไม ในเมื่อ มันอาจเป็นวัฒนธรรมของอาข่าโบราณแต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว ก็บอกไปเลยดิว่าเมื่อก่อนมีแต่เดี๋ยวนี้เลิกแล้ว จะทำให้วุ่นวายกันทำไม อีกอย่างอย่าออกมารวมตัวเรียกร้องแบ่งแยกดินแดนอีกล่ะจะวุ่นวายไปกันใหญ่ได้คืบเดี๋ยวจะเอาศอกอีก คนเหนือรักสงบไม่อยากวุ่นวายเหมือนชายแดนใต้นะคับ คุณอาข่า
ศึกษาดูแล้วหรือยังครับ? อาข่ากับอีก้อคือใครกันแน่....( แล้วค่อยมาเขียน ) คำว่า อาข่า เป็นคำที่เรียกชนเผ่าอาข่าเอง ( เรียกตนเองว่า อาข่า มาแต่เกิด) คำว่า อีก้อ เป็นคำเรียกของสังคมภายนอกต่อชนเผ่าอาข่า...เฉพาะประเทศไทย ( คำนี้ เราไม่ต้องการ เพราะไม่ใช่ตัวตน..แล้วคุณละ..ถ้าโดนเรียก หรือ ตั้งให้เป็นอย่างอื่น..ที่คุณไม่ต้องการ..คุณจะคิดเหมือนกันไหม...) ชาวอาข่าทั้งหมดก็ออกมายืนยันแล้ว มิดะ ลานสาวกอด อย่างที่หลายๆท่านเขียน และร้องไว้ไม่เคยปรากฏในประวัิติศาสตร์อาข่า...ถ้ามี เหตุใด ปู่ ทวด บรรพบุรุษไม่เคยให้ผมฟังเลย..วัฒนธรรมประเพณีอาข่า..สืบทอดกันมาหลายต่อหลายรุ่นด้วยมุขปาฐะ ( ปากต่อปาก ) แล้วจะมาบอกว่า อาจเป็นวัฒนธรรมโบราณของอาข่า แล้่วคุณศึกษาอย่างชัดเจนหรือยังล่ะ?? เป็นเจ้าของวัฒนธรรมหรือเปล่า ..ใครจะรู้ดีกว่าตัวของตนเอง หรือว่า มีใครรู้ดีกว่าตัวตนที่เป็นอยู่ พวกเรา ไม่ได้ต้องการแบ่งแยกดินแดน หรือ สร้างความวุ่นวายให้กับใคร ( กล่าวหาแรงเกินไปหรือเปล่า ) แต่พวกเราต้องการสร้างความชัดเจนในอัตลักษณ์ของตนเอง ต้องการให้เข้าใจตัวตนที่แท้จริง และต้องการสิ่งที่ตนเองเป็น ไม่ใช่สิ่งที่หลายๆคนยกให้เป็น .........ถ้าคุณยังไม่ได้เข้าไปสัมผัสด้วยตนเอง อย่าด่วนตัดสินครับ...ศึกษาสิครับ..ลองดูสิครับ..มีแต่บอกว่า..ก็เขาว่ามา เขาบอกมา...แบบนี้เชื่อถือได้มากแค่ไหนเหรอครับ... ....ด้วยรักษ์อาข่า ชนเผ่าอาข่า
|
|
|
|