เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 20 เมษายน 2024, 15:17:24
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  หาวัดที่ไม่ไกลตัวเมือง
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] พิมพ์
ผู้เขียน หาวัดที่ไม่ไกลตัวเมือง  (อ่าน 2272 ครั้ง)
chaplainbalm
magdafVE
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19



« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2014, 20:44:23 »

ต่อยอดอีกนิด

ถ้าเราพิจารณาการบำเพ็ญทานบารมีในชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นบารมีขั้นสุดยอด (ปรมัตถบารมี)

ถามว่าพระเวสสันดรรอให้ทานกับคนมีศีลบริสุทธิ์ใช่หรือไม่
คำตอบคือ ไม่  เพราะคนที่มาขอทานและพระเวสสันดรให้ทานไป คือ ชูชก จอมตะกละ และเป็นตัวแทนของความโลภ

แล้วทำไมการให้ทานนั้นจึงจัดเป็นการบำเพ็ญบารมีขั้นสุดยอด ?
คำตอบคือ.. (น่าจะตอบกันได้นะครับ)
IP : บันทึกการเข้า

สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #21 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2014, 21:10:42 »

ขอกราบขอบคุณ ผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านที่ได้แสดงความคิดเห็นและชี้แนะในทางธรรม  แม่ผมสวดมนต์ที่บ้านชอบไปใส่บาตรให้กับสิ่งที่แม่สัมผัสได้ และมาขอส่วนบุญ แม่ปฏิบัติมานานมากแล้วช่วยคนก็เยอะ แต่แม่ไม่เคยอวดใครดูแม่มีความสุขมาก ผมดีใจที่ได้เกิดเป็นลูกแม่ แต่ที่หาวัดนั้นแม่บอกว่าอยากไปดูที่แปลกตาบ้างมีอะไรให้เห็นแตกต่างไปบ้าง แม่ผมเป็นคนต่างถิ่น ครั้งแรกไปใส่บาตรเจอผู้หญิงใส่ชุดขาวชอบเข้าวัดไปนอนวัดวันพระฟังเทศน์ฟังธรรม มาสะกิดแม่แล้วพูดว่า ใส่ทำไมพระนี่มาจากไหนก็ไม่รู้วัดอื่นไม่ต้องไปใส่ ใส่วัดที่เราศรัทธา ผมไม่เข้าใจครับ  ศรัทธา ต้องทำยังไงครับ แม่บอกยายคนนั้นว่า  ฉันตั้งใจ และตั้งมั่นที่จะใส่ และฉันก็ตั้งจิตให้แล้วดีแล้วด้วย  ขอกราบขอบคุณอีกครั้งครับ ยิ้ม ยิ้ม

สาธุครับ คุณแม่ท่านมีดวงจิตที่เป็นบุญเป็นกุศลมากเป็นบุญแล้วที่ จขกท.ได้เป็นลูกท่าน ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #22 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2014, 21:29:37 »

ขอต่ออีกนิดไม่ได้อวดเน๊าะครับเพียงแต่เอามาเล่าสู่กันฟันเน๊าะ
สมัยที่ผมไปทำงานลำพูนวันหนึ่งผมได้เจอกับพระธุดงค์ ซึ่งเส้นทางนั้นปกติไม่มีพระเดินบิณฑบาต ถ้าจะมีพระก็ต้องเลยไปอีกถนนหนึ่ง ผมเลยจอดรถใส่บาตรปรากฎว่าในบาตรพระไม่มีใครใส่เลยผมเป็นคนแรกที่ใส่บาตร ทั้งๆที่เวลาเจ็ดโมงกว่าแล้ว อาจเป็นเพราะชาวบ้านแถวนั้นไม่รู้ว่าจะมีพระมาเดินบิณฑบาตเส้นทางนั้น ผมเลยรู้สึกปราบปลื้มมากๆถ้าไม่จอดรถใส่บาตรก็ไม่รู้จะมีใครใส่บาตรท่านหรือเปล่า ใส่บาตรพระมาก็หลายครั้งแต่ครั้งนั้นเป็นครั้งที่ผมปลื้มมากมานึกถึงตอนนี้ก็ยังปลื้มอยู่เลยครับ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2014, 21:32:00 »

ต่อยอดอีกนิด

ถ้าเราพิจารณาการบำเพ็ญทานบารมีในชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นบารมีขั้นสุดยอด (ปรมัตถบารมี)

ถามว่าพระเวสสันดรรอให้ทานกับคนมีศีลบริสุทธิ์ใช่หรือไม่
คำตอบคือ ไม่  เพราะคนที่มาขอทานและพระเวสสันดรให้ทานไป คือ ชูชก จอมตะกละ และเป็นตัวแทนของความโลภ

แล้วทำไมการให้ทานนั้นจึงจัดเป็นการบำเพ็ญบารมีขั้นสุดยอด ?
คำตอบคือ.. (น่าจะตอบกันได้นะครับ)


ไลท์เลยครับคำตอบนี้ ผมเคยสงสัยว่าทำไมพระเวสสันดรทำไมถึงให้ช้างแก่ชาวเมืองอื่นทั้งๆที่เป็นช้างวิเศษก็เข้าใจว่าท่านให้เพราะเป็นโพธิสัตว์ที่ต้องให้ทานอย่างที่สุดแบบว่าใครขออะไรก็ให้เหมือนที่เคยได้ยินในตำนาน แต่พอฟังพระอธิบายท่านว่าที่พระเวสสันดรท่านให้เพราะว่าเมื่อมีช้างบ้านเมืองก็อุดมสมบูรณ์แล้ว แต่ชาวเมืองอื่นที่มาขอนั้นบ้านเมืองยังแห้งแล้งอยู่ท่านจึงให้ไป จึงทำให้ผมเข้าใจว่าอ่อท่านไม่ได้ให้แบบใครขอก็ให้นะ แต่ท่านให้ด้วยปัญญาและเมตตากรุณาเป็นองค์ประกอบด้วย  อย่างตอนที่ให้กัณหากับชาลี ท่านก็ใช้ปัญญาพิจารณาแล้วว่าชูชกต้องเอาไปส่งให้ปู่กับย่าในวังเพื่อเอารางวัลแน่จึงได้ให้ไปและเป็นการส่งให้ลูกไปอยู่ในวังด้วยครับ
IP : บันทึกการเข้า
naylex
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,993



« ตอบ #24 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2014, 21:42:26 »

ต่อยอดอีกนิด

ถ้าเราพิจารณาการบำเพ็ญทานบารมีในชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นบารมีขั้นสุดยอด (ปรมัตถบารมี)

ถามว่าพระเวสสันดรรอให้ทานกับคนมีศีลบริสุทธิ์ใช่หรือไม่
คำตอบคือ ไม่  เพราะคนที่มาขอทานและพระเวสสันดรให้ทานไป คือ ชูชก จอมตะกละ และเป็นตัวแทนของความโลภ

แล้วทำไมการให้ทานนั้นจึงจัดเป็นการบำเพ็ญบารมีขั้นสุดยอด ?
คำตอบคือ.. (น่าจะตอบกันได้นะครับ)


สาธุ

ทานของพระเวสสสันดร เป็นปรมัตถปารมี
เพราะเป็นการคลายความยึดติด ขึ้นสูงสุด
ผลของการคลายความยึดติด ชนิด ให้ลูกเป็นทาน ของพระเวสสันดร
จึงไม่ใช่กุศล ทั้งไม่ใช่อกุศล
แต่เป็นปัญญา เป็นพุทธ(รู้ ตื่น เบิกบาน)

ทั่วๆไปหากผู้ให้ทาน เป็นปุถุชนอย่างเราท่าน ผู้รับเป็นชูชก บุรุษโทษ
ผลกรรมก็ไม่แน่ว่าจะเป็นบุญ หรือ บาป

เหมือนให้อาหารโจร เมื่อโจรทานอาหารมีเรี่ยวแรง ก็ออกไปเที่ยวปล้นฆ่าผู้คน
จึงต้องตั้งคำถามว่าให้อาหารเป็นทานแก่โจร จะเป็นบุญ หรือ บาปกันแน่....

เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เยาว์ปัญญา เชิญผู้รู้แนะนำเพิ่มเติมด้วยครับ
 ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ



IP : บันทึกการเข้า

ปรารถนาสารพัดในปฐพี เอาไมตรีแลกได้ดั่งใจจง
harmony
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 144


« ตอบ #25 เมื่อ: วันที่ 19 กันยายน 2014, 06:57:14 »

ทำไปเถอะครับ อะไรที่เป็นบุญ จะเป็นบุญเล็กบุญน้อย อะไรจะบริสุทธิ์
หรือไม่บริสุทธิ์ก็ตาม มันจะเป็นปัจจัยสั่งสมเป็นบารมี อย่าไปดูถูกบุญเล็ก
บุญน้อย เมื่อสั่งสมไปเรื่อยๆ บารมีในเรื่องของการให้ทานมันจะสั่งสม
เข้าไปในวัฏฏะ จิตใจจะเริ่มฉลาดขึ้น และจะได้ใช้ประโยชน์ในภายภาคหน้า
ธรรมะแท้ๆ จะเกิดขึ้นได้ก็จะต้องได้แรงจากบารมีในทุกๆ ข้อก่อน
และบารมีเหล่านี้ก็จะไปผนึกกำลังรวมตัวเข้ากับมรรค เพื่อทำลายสังโยชน์เบื้องต่ำ

ทำไมพระโพธิสัตว์ ถึงกล้าลุยไฟนรก กล้าให้ในสิ่งที่ให้ ที่สละได้ยาก
เพราะบารมีที่เติมเต็มแล้วไงครับ จิตใจที่ให้หรือเสียสละออกไปนั้น
มาจากจิตใจท่านที่บริสุทธิ์ ไม่มีความโลภ ความโกรธ ความหลง
เจือปนในขณะจิตนั้น จะไปสงสัยอะไร
IP : บันทึกการเข้า
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #26 เมื่อ: วันที่ 19 กันยายน 2014, 12:51:34 »

ทำไปเถอะครับ อะไรที่เป็นบุญ จะเป็นบุญเล็กบุญน้อย อะไรจะบริสุทธิ์
หรือไม่บริสุทธิ์ก็ตาม มันจะเป็นปัจจัยสั่งสมเป็นบารมี อย่าไปดูถูกบุญเล็ก
บุญน้อย เมื่อสั่งสมไปเรื่อยๆ บารมีในเรื่องของการให้ทานมันจะสั่งสม
เข้าไปในวัฏฏะ จิตใจจะเริ่มฉลาดขึ้น และจะได้ใช้ประโยชน์ในภายภาคหน้า
ธรรมะแท้ๆ จะเกิดขึ้นได้ก็จะต้องได้แรงจากบารมีในทุกๆ ข้อก่อน
และบารมีเหล่านี้ก็จะไปผนึกกำลังรวมตัวเข้ากับมรรค เพื่อทำลายสังโยชน์เบื้องต่ำ

ทำไมพระโพธิสัตว์ ถึงกล้าลุยไฟนรก กล้าให้ในสิ่งที่ให้ ที่สละได้ยาก
เพราะบารมีที่เติมเต็มแล้วไงครับ จิตใจที่ให้หรือเสียสละออกไปนั้น
มาจากจิตใจท่านที่บริสุทธิ์ ไม่มีความโลภ ความโกรธ ความหลง
เจือปนในขณะจิตนั้น จะไปสงสัยอะไร

ผมเห็นด้วยครับ พระพุทธศาสนาเน้นใช้ธรรมะเพื่อศึกษาตนเอง เพื่อพัฒนาตนเองให้สูงขึ้น
เราทำเราก็ได้ บุญเล็กบุญน้อยค่อยสั่งสมไปเมื่อถึงบุญใหญ่ใจจะได้พร้อมรับ มัวแต่คิดเล็กคิดน้อยเวลาทำบุญได้แต่มันไม่บริสุทธิ์
ถ้าเราคิดดีเจตนาดีผมเชื่อว่ายังไงความดีก็เกิดขึ้นที่ใจของเราแล้วครับ
IP : บันทึกการเข้า
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #27 เมื่อ: วันที่ 19 กันยายน 2014, 13:16:02 »

แถมนิทานก่อนนอนพอดีนึกขึ้นได้ล่ะเป็นนิทานที่ผมเคยได้ยินในสมัยเด็ก เอามาเล่าในกระทู้นี้ดีกว่ามันกำลังเข้ากับสถานการณ์
นิทานก่อนนอนเรื่องเหยี่ยวรุ้ง
สมัยก่อนในชนบทแห่งหนึ่งได้มีวัดที่อยู่ติดกับหมู่บ้านบ้านข้างวัดได้เลี้ยงไก่ไว้ วันหนึ่งไก่ที่เลี้ยงไว้ได้พาลูกไปคุ้ยเขี่ยหาอาหารกินตามลานวัด ครั้งนั้นได้มีเหยี่ยวรุ้งบินผ่านมามองเห็นลูกไก่ที่กำลังหากินในลานวัดมันบินวนอยู่หลายรอบเพื่อหาจังหวะที่จะโฉบลงไปจับลูกไก่ พอได้จังหวะมันก็ดิ่งตัวโฉบลงไปอย่างรวดเร็วแต่มันพลาดแทนที่จะได้ลูกไก่แต่กลับได้เศษใบไม้ติดกรงเล็บมา ทีนี้ไก่ก็แตกตื่นวิ่งหนีเข้าไปในพุ่มไม้เหยี่ยวนั้นเลยบินจากไปหากินที่อื่น โดยที่มีเศษใบไม้ติดอยู่แล้วหลุดร่วงจากกรงเล็บไปตกในเขตทุ่งนา หลังจากเหยี่ยวตัวนั้นตายได้ไปบังเกิดเป็นเทพบุตรบนสวรรค์ เหตุเพราะเหยี่ยวได้สร้างกุศลโดยการทำความสะอาดลานวัด จากเหตุการณ์นี้จะเห็นได้ว่าแม้แต่เหยี่ยวที่จ้องจะจับลูกไก่กินไม่ได้ตั่งใจจะทำความสะอาดลานวัดอะไรเลยตายไปยังได้อานิสงค์ในการจับเอาเศบใบไม้เพียงชิ้นเดียวได้ไปบังเกิดเป็นเทพบุตรเสวยสุขบนสวรรค์ แล้วคนเราตั่งใจจะทำดีมันก็ต้องได้ผลดีเรื่องของบุญมันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเราก็ไม่เข้าใจทั้งหมด แต่ผมคิดว่าหลักสำคัญส่วนหนึ่งมันอยู่ที่ใจเราถ้าเราเจตนาดีก็ไม่ต้องกลัวที่จะทำบุญเพราะฉะนั้นทำใจของเราให้ดีให้เป็นบุญกุศลเถอะครับ นี้ก็เป็นนิทานในวัยเด็กที่ผมเคยได้ยินครับ
IP : บันทึกการเข้า
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #28 เมื่อ: วันที่ 20 กันยายน 2014, 10:31:12 »

ลองฟังดูครับ  ยิ้ม

IP : บันทึกการเข้า
ILoVePaNgYa
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 973


« ตอบ #29 เมื่อ: วันที่ 21 กันยายน 2014, 09:02:45 »

สาธุ สาธุ กับทุกตำตอบที่โพสต์ผมรู้สึกดีมีความรู้เพิ่มขึ้นอีกมากมาย ผมเรียนรู้จากการกระทำและการปฏิบัติของแม่ ปกติผมอยากเรียนหนังสืออย่างเดียว แม่บอกว่าความรู้สูง หากจิตใจไม่ไฝ่ดีก็ไร้ประโยชน์โลกนี้กว้างใหญ่ คงเรียนรู้ได้ไม่จบ ผมอายุ 23 กำลังต่อปริญญาโท แม่ผมจบปอหก บางครั้งการบ้านบางอย่างผมคิดไม่ออกปรึกษาแม่ กลับพบคำตอบที่น่าค้นหา และโล่งอย่างบอกไม่ถูก ขอบคุณครับ ขอบคุณมิตรที่ดีทุกท่าน ยิ้ม ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า

ไม่หล่อแต่จน....
หน้า: 1 [2] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!