ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ตม.เชียงราย - ฉก.ม.3 ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน มาตั้งฐานในจังหวัดเชียงราย เพื่อโทรไปหลอกลวงคนจีนด้วยกันถึงเมืองจีน และไต้หวัน ถือเป็นเครือข่ายต้มตุ๋นรายใหญ่
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 15 มิ.ย.57 พ.ต.อ.สิทธิ ศิริกังวานกูล ผกก.ตม.เชียงราย สืบทราบว่า มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนเครือข่ายใหญ่ เข้าไปตั้งสำนักงานในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โทรศัพท์ไปหลอกเหยื่อที่ไต้หวัน จึงสั่งการให้ สว.ตม.แม่สาย นำกำลังประสาน พ.อ.ทรงยศ ทองก้อน รอง ผบ.ฉก.ม.3 นำกำลังแบ่งออกเป็น 2 สายจุดแรกมี ร.อ.สุชิน วังชิ้น ผบ.ร้อย ม.3.ฉก.ม.3 ร.ต.อ.ธวัชศิลป์ บุญต้นหล้า รอง สว.ตม.เชียงราย
เข้าปิดล้อมบ้านคอนกรีต 2 ชั้นขนาดใหญ่ เลขที่ 436/21 ซอยเหมืองแดง 2 หมู่ 10 ต.แม่สาย พบชาวไต้หวัน และจีน เป็นชาย 19 คน หญิง 12 คน กำลังนั่งโทรศัพท์อยู่บนโต๊ะทำงานชั้นล่าง ซึ่งจัดเรียงคล้ายห้องเรียนหนังสือ มีเครื่องโทรศัพท์วางบนโต๊ะจำนวน 16 เครื่อง และเอกสารรายชื่อเป็นภาษาจีน เบอร์โทรศัพท์ของเหยื่อจำนวนมาก และบนห้องโถงชั้น 2 พบโต๊ะ และเครื่องโทรศัพท์จำนวน 20 เครื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์ 10 เครื่อง เครื่องโทรศัพท์มือถือ 30 เครื่อง มีชาวจีนและไต้หวันกำลังวุ่นกับการนั่งโทรศัพท์หาเหยื่อที่ไต้หวัน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น และควบคุมทั้งหมดไปดำเนินคดีที่ ตม.เชียงราย
ส่วนอีกสายนำโดย ร.ต.อ.กฤษณ์ สมณาศักดิ์ รอง สว.ตม.เชียงราย ร.ต.อ.ธงชัย พวงพิลา รอง สว.เชียงราย นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 388/112 หมู่ 2 ต.แม่สาย อ.แม่สาย พบชาวจีนและไต้หวัน เป็นชาย 11 คน หญิง 3 คน ได้ไหวตัวทันกำลังรีบเก็บเครื่องโทรศัพท์ และเครื่องรับสัญญาณไว-ไฟ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และเอกสารบัญชีรายชื่อลูกค้าใส่กล่องกระดาษจำนวน 6 กล่อง และกระเป๋าเสื้อผ้า 15 ใบ เตรียมหลบหนี จากการตรวจค้นภายในบ้านพบสายโทรศัพท์โยงเต็มบ้าน ตั้งแต่ชั้นล่างขึ้นไปชั้นบน เจ้าหน้าที่จึงรื้อเก็บและยึดกล่องอุปกรณ์ทั้งหมด พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนดำเนินคดีที่ ตม.แม่สาย
พ.ต.อ.สิทธิ ศิริกังวานกูล ผกก.ตม.เชียงราย กล่าวว่า การจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ครั้งนี้เป็นรายใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา จากการสอบสวนเบื้องต้น นายหม่อฮั่น แซ่ฮ๋อ อายุ 33 ปี หัวหน้าแก๊งที่ควบคุมสมุนทำงานในไทย ให้การว่า ได้มี นายเพื่อน ไม่ทราบนามสกุล เป็นหัวหน้าใหญ่ พามาเช่าบ้านทั้ง 2 หลัง โดยตัวเองได้เงินเดือน 150,000 บาท ส่วนคนอื่นจะได้เงินเดือนคนละ 25,000 บาท มีหน้าที่โทรศัพท์ไปหาเหยื่อที่ไต้หวัน หลอกลวงว่าเป็นหนี้ต่างๆ ตามที่จะหาข้อมูลของเหยื่อได้ จากนั้นให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีที่ไต้หวัน ส่วนที่มาเลือก อ.แม่สาย เป็นที่ทำงาน เพราะไม่วุ่นวายเหมือนกรุงเทพฯ และเป็นย่านคนจีนยูนนานอยู่มาก จึงดูแล้วจะกลมกลืน ไม่เป็นที่ผิดสังเกตของเจ้าหน้าที่ไทย.
คัดลอกจาก
http://www.thairath.co.th/content/429726