สอบถาม เรื่องการรับเขียนโปรแกรมสต็อกสินค้าหรือโปรแกรมการเก็บประวัติลูกค้า

[Aom ja]

ในการรับเขียนโปรแกรมแต่ละงาน คนเขียนต้องคุยกะผู้ว่าจ้างก่อนใช่หรือเปล่า
ถ้าเราบอกว่าต้องการโปรแกรมเกี่ยวกะร้านของเรา แต่คนเขียนไม่เคยสอบถามเราเลยว่าต้องการอะไรบ้าง แบบไหนบ้าง
อยู่ๆก้อเขียนออกมาแล้ว พอเราบอกให้แก้หรือเพิ่มในสิ่งที่เราต้องการ(ขอย้ำว่าคนเขียนไม่เคยถามเราเลยว่าต้องการแบบไหน อย่างไร).  ก็มาหาว่าเราโยกโย้ไม่อยากจ่ายบ้าง หาว่าเราเพิ่มโน่นนั่นนี่เกินไปบ้าง ป.ล เมียคนเขียนเป็นคนรับงานแต่ก้อไม่เคยถามว่าใครเป็นคนใช้งาน ต้องการอะไรบ้าง ตอนรับงานพูดเป็นดิบเป็นดีว่ารับประกันและแก้ไขให้ตลอด (ขอความคิดเห็นหน่อยครับ ว่าใครเป็นคนผิด)

[Chilla_King]

ต้องคุยถึงขอบเขตของงานก่อนครับ ว่าต้องการแบบไหน อย่างไร
ถึงจะคิดราคาโปรแกรมได้ และถ้านอกจากที่ตกลงกันแล้ว ก็จะคิด
เพิ่มครับ ปกติผมจะคิดอย่างนี้ แต่ส่วนใหญ่ที่เพิ่มเติมถ้าไม่มากก็ฟรี

สงสัยอะไร PM มาถามไดครับ

[{Cyberman}]

ก่อนเขียนโปรแกรมน่าจะมีใบเสนอราคา
ถ้าไม่มีหรือกรณีแบบคนรู้จักกัน ก็ต้องมีเอกสารระบุคุณสมบัติของโปรแกรม (Spec)
ถ้าเขียนได้ครบจึงจะถือว่าผ่าน ถ้าไม่ครบถือว่าไม่เสร็จ

ถ้าเกินถือว่าเป็นฟีเจอร์เสริม เกินแล้วรวนเรียกว่าข้อผิดพลาด

[prakasit51]

การรับงานที่ดี "Win ทั้ง2ฝ่าย"
1.ต้องรู้ขอบเขตของงาน เข้าไปดูถึงที่ว่าคนใช้งานมีความต้องการอะไร สินค้าประเภทไหน
2.หาข้อมูลมาอ้างอิงให้ลูกค้าดู หาข้อดีข้อเสีย ของแต่ละส่วน
3.เมื่อได้ขอบเขตและตัวอย่างที่พอใจแล้ว วางแผนความเป็นไปได้
4.แจงให้ลูกค้าทราบว่ามีความยากง่ายอย่างไร สำหรับงานที่ทำ
5.ตกลงราคากับลูกค้า
6.นำสัญญาไปทำว่า ขอบเขตงานเราแค่ไหน และกำหนดเสร็จงานเมื่อไร
7.เมื่อเขียนเสร็จแล้ว  ควรนำไปให้ลูกค้าทดสอบก่อน ว่าได้ตามขอบเขตหรือไม่ ถ้ามีเพิ่ม ต้องเพิ่มเงินเท่าไร และอ้างตามสัญญาครับ
8.ถ้าเรื่องไหนพอประณีประณอมได้ ก็ญวนๆ กันไปเพื่อ อนาคต
9.ควรเก็บมัดจำ ตอนทำสัญญา
จากที่อ่าน ผมว่าเขาต้องมีโปรแกรมหรือ Code อยู่แล้วแน่นอน แต่เขาน่าจะปรับให้เหมาะกับความต้องการลูกค้า
มีความคิดเห็นแค่นี้ครับ...อิอิ(เคยรับงานแบบไม่ทำสัญญา งานยาวเลย เหมือน ต่อเติมบ้าน)

[tk2512]

"ในการรับเขียนโปรแกรมแต่ละงาน คนเขียนต้องคุยกะผู้ว่าจ้างก่อนใช่หรือเปล่า"
ใช่ครับ และคุยเยอะด้วย ปกติเวลาผมรับงานจ้างเขียน ผมต้องคุยกับผู้ว่าจ้างให้ละเอียด
โดยเฉพาะเป้าหมายที่ต้องการ อยากได้ Output อะไรบ้าง รายงานหน้าตาประมาณไหน
จากนั้นผมจะทำ เอกสารเสนอราคาให้ผู้ว่าจ้างครับ มีรายละเอียดของงานให้มากที่สุด
ตั้งแต่วัตถุประสงค์ในงาน ตัวอย่างหน้าจอทำงาน ตัวอย่างหน้ารายงาน อาจจะไม่เหมือนสุดท้ายซะทีเดียว
คือประมาณว่าผู้ว่าจ้างเห็นว่าจะออกมาเป็นอย่างไร จะใช้เวลาเขียนเท่าไร ส่งมอบงานอย่างไร และราคาเท่าไร
การรับประกันผลงานอย่างไร นานแค่ไหน และเงื่อนไขการบริการหลังส่งมอบงาน
แบ่งจ่ายตามงวดงานอย่างไร คือเหมือนงานรับเหมาก่อสร้างแบบมืออาชีพ
หลังงานนี้จบถ้าจะต่อเติม ก็เป็นงานใหม่ คุยใหม่ครับ

คราวนี้กรณีของเจ้าของกระทู้ กลายเป็นว่าคนจ้างคิดอย่าง คนทำคิดอีกอย่าง
อยากให้ทำรถบัส ดันไปทำเป็นรถสิบล้อ เป็นผม ผมก็ไม่จ่ายครับ กรณีนี้ผมถือว่าผู้รับจ้างผิดเต็ม ๆ
ส่วนผู้ว่าจ้างจะชดเชยค่าเสียเวลาให้ผู้รับจ้างหรือไม่ ผมก็มองว่าไม่จำเป็นครับ

ผมก็ทำโปรแกรมสินค้าคงคลังนะครับ ติดต่อมาพูดคุยได้ครับ

[Manutpong]

ถ้ามืออาชีพจริงในการพัฒนาโปรแกรม จะมี Software Development Lifecycle ครับ เพื่อลดความเสี่ยงและพัฒนาโปรแกรมตามความต้องการมากที่สุดครับ

แต่ในชีวิตจริง การพัฒนาโปรแกรมแบบนี้จะขึ้นอยู่กับคุณให้ Requirement ถุกต้องแค่ไหน มันจะมีขอบเขตอยู่ครับ ถ้าคุณมีการเพิ่มเงื่อนไข คุณต้องจ่ายตังเพิ่มนะครับ แล้วแต่จะคิดเป็นแบบไหน แต่ถ้าบริษัท Software จะขึ้นเป็น Manday เลย วันเท่าไร ใช้กี้คน

ผมก็เป็นอีกคน ที่จะไม่ยอมถ้าเปลี่ยน Requirement ครับ

[hydrojen]

เท่าที่อ่าน คาดว่าคงทำมาแล้ว หรือมีโปรแกรมอยู่แล้วมาขายต่อครับ

[Weeraphatr]

ผมก้อเขียนมาหลายงานแล้วครับ  สิ่งที่ต้องทำสำหรับตัวผมเองคือ
1.   ไปเก็บ Requirement ณ พื้นที่การทำงานจริง
2.   เขียน Flow Chart และเสนอราคาตาม Flow Chart เพื่อ  Break Down Cost  ในแต่ล่ะ Sector
3.   รอให้ลูกค้าลงนาม
4.   เก็บเงินล่วงหน้า 70% ของใบเสนอราคา
5.   ส่งงานให้ลูกค้าลองใช้งานจริงในแต่ล่ะ Sector เพื่อปรับปรุงตัวโปรแกรมให้เข้ากับสภาพการทำงานของลูกค้า
6.   เมื่อเขียนครบทุก Sector  ให้ทำการส่งงานเพื่อให้ลูกค้าตรวจสอบ หากลูกค้าไม่แก้ไขใดๆ ของเก็บเงินในส่วนที่เหลือภายใน 15  วันทำงาน หากเก็บเงินไม่ได้โปรแกรมจะล็อค ไม่สามมารถทำงานได้
7.   หากลูกค้าขอแก้ไข สามารถแก้ไขเพิ่มเติมเล็กๆน้อยได้ เรียกว่าเก็บรายละเอียด เก็บ Feature และความสะดวกสบาย
8.   การแก้ไขของลูกค้าจะต้องไม่เกินขอบเขตของ Sector ในใบเสนอราคา
9.   หากการแก้ไขของลูกค้าเกินขอบเขตของ Sector ในใบเสนอราคา ลูกค้าจะต้องจบงานนี้ก่อนแล้วชำระ 30% ที่เหลือเพื่อปิดจ๊อบแรกก่อน แล้วออกใบเสนอราคาใหม่ในส่วน Sector  ที่เพิ่มแล้วเริ่มดำเนินกาตามข้อ 1 อีกครั้ง
10.   ติดตามเก็บ Bug หลังการขายภายใน 3 เดือน ตามลูกค้าแจ้งหากภายใน 3 เดือนไม่แจ้งถือว่าจบงานความรับผิดชอบของผู้เขียนครับ
(ลูกค้าจะต้องให้ความร่วมมือในการเขียนโปรแกรมตลอดการทำงาน เวลาจะเข้าไปเก็บขอมูลให้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรและลูกค้าลงนามทุกครั้งหากลูกค้าไม่สดวกให้ลูกค้าแจ้งว่าจะเป็นวันใด)
     หากสงสัยลองโทมาถามได้ครับ 087-9134716 วีรภัทรครับ