เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 18 เมษายน 2024, 08:07:01
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  กระทู้ใครรู้วิธีที่จะออกจากทุกข์ได้บ้าง ? มาสนทนากันหน่อย หายไปไหนเอ่ย ?
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 [3] 4 พิมพ์
ผู้เขียน กระทู้ใครรู้วิธีที่จะออกจากทุกข์ได้บ้าง ? มาสนทนากันหน่อย หายไปไหนเอ่ย ?  (อ่าน 7125 ครั้ง)
fulltime
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 131


« ตอบ #40 เมื่อ: วันที่ 22 สิงหาคม 2014, 07:23:03 »

ขอสาธุ อนุโมทนา  ให้กับท่านหนานทองอีกครั้งครับ

คำเซนกล่าวไว้ว่า   

เมื่อโลกแห่งปรากฎการณ์   ถูกเห็นว่าเป็นความจริง  ชีวิตก็ถูกล่ามไว้ด้วยสายโซ่แห่งทุกข์
IP : บันทึกการเข้า
naylex
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,993



« ตอบ #41 เมื่อ: วันที่ 22 สิงหาคม 2014, 19:03:39 »



ผู้เดินถูกทาง แม้จะยังไม่รู้จักเป้าหมาย ยังไงก็ต้องไปถึงเป้าหมาย(พ้นทุกข์)
ผู้เดินทางอ้อม แม้รู้จักเป้าหมาย ก็มิรู้ว่าจะถึงเป้าหมายเมื่อใด
ผู้เดินผิดทาง แม้รู้จักเป้าหมาย แต่ก็ไม่มีวันถึงเป้าหมาย
ผู้ที่ไม่รู้แม้แต่ทางเดินอยู่ตรงไหน ......(สงสัยกระผมเอง อิอิ)


 ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 22 สิงหาคม 2014, 19:21:38 โดย naylex » IP : บันทึกการเข้า

ปรารถนาสารพัดในปฐพี เอาไมตรีแลกได้ดั่งใจจง
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #42 เมื่อ: วันที่ 08 กันยายน 2014, 22:12:56 »



           ขออนุญาติครับท่าน สบายแมน

           ผมขออนุโมทนาในกุศลจิตของท่านสบายแมนอีกครั้ง  ที่จะพยายามอธิบาย

ปรัชญามิตตรา  เพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อผู้ที่สนใจ

           ผมเห็นด้วยกับเหตุและผล  ที่ท่านได้แสดงความคิดเห็นมาทั้งหมดครับ ท่านสบาย

แมน  ถ้าท่านถูก  เราก็ถูกทั้งสองคนครับ  ถ้าท่านผิด  เราก็ผิดทั้งสองคนครับ  ถ้าเราสองคน

ยังหลงเรื่องผิด ๆ ถูก ๆ   เกิดมีคนว่าเราสองคนผิด  มันก็ต้องมีการอธิบายโต้ตอบกันไปมา 

แล้วความผิดและถูกมันจะจบลงตรงไหน ?

            แต่ถ้าเราสองคนไม่หลงเรื่องผิด ๆ ถูก ๆ  เพราะเข้าใจตามที่พระพุทธองค์ตรัสบอก

ว่า มันไม่เที่ยง  เป็นทุกข์ มันเป็นอนัตตา  ไม่ใช่ตัวใช่ตนที่จะยึดไว้ได้  มันจะไปมีปัญหาไหม

ครับ ?

            ปัญหามันอยู่ที่เราต่างก็ยึดติดในความคิดของเรา  เลยสุข ทุกข์ กับเรื่องที่คิดหรือ

เปล่า ? 

            ตกลงกายและใจที่ชาวโลกเข้าใจว่าเป็นตัวเป็นตนนี่  มันเป็นตัวเป็นตนของเราได้

จริง ๆ หรือ ?  หรื่่อว่ามันไม่ใช่ตัวใช่ตน  แต่เป็นเพียงสิ่งที่เกิดจากเหตุ  คือจากความคิด 

แล้วหลงในความคิด จึงไปทำกรรม  ดีบ้าง ชั่วบ้าง  ตามที่พระพุทธองค์ตรัสบอกไว้ 

             ถ้ามันไม่ใช่ตัวตนของเรา  มันก็เป็นตัวตนที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ที่เกิด ๆ

ดับ ๆ  ของขันธ์ 5  เขา  เรื่องเกี่ยวกับตัวเราจะเป็นความจริงได้อย่างไร ?   ในเมื่อมีแต่ขันธ์

5  ที่เกิดมา       

              ผมพิมพ์ได้ช้ามาก  เพราะใช้เนทไม่ค่อยเป็น  จึงไม่อาจแสดงความคิดเห็นได้     

ยาว ๆ ต้องขอภัยถ้าทำให้สับสน 
ุ้

ใช่แล้วครับครับดั่งที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย นั้นเป็นทุกข์ เมื่อมีกายก็ต้องมีเกิดแก่เจ็บตาย แต่ว่าเราก็สามารถใช้กายนี้สั่งสมบุญกุศลเอาไว้ได้ แม้แต่พระพุทธเจ้าเมื่อท่านจะตรัสรู้เป็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ต้องมาเกิดให้มีกายเพื่อเจริญบารมี 30 ทัศให้เต็ม ผมว่าธรรมะบางอย่างต้องใช้ปัญญาพิจารณมากเลยครับ เพื่อไม่ให้หลงผิดเพื่อให้ตั้งอยู่บนสัมมาทิฏฐิ คำพูดของพระอริยบุคคลบางอย่างปุถุชนธรรมดาอาจไม่เข้าใจความหมาย เหตุเพราะระดับจิตและปัญญายังไม่ถึง ดังนั้นเราตั้งอยู่บนความดีงาม ทำจิตใจให้บริสุทธิ หมั่นสร้างบุญกุศล ผมคิดว่าวันหนึ่งบุญบารมีที่เราทำก็จะทำให้เรามีดวงตาเห็นธรรมได้โดยง่ายโดยไม่หลงผิด สำหรับผมในตอนนี้ก็ยังยืนยันคำเดิมที่เคยพิมพ์ในกระทู้นี้ครั้งหนึ่งว่า ยังไม่หวังว่าจะบรรลุธรรมนิพานในชาตินี้ด้วยประมาณตน แต่ก็จะขอทำดีไปเรื่อยๆครับเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นขอให้บุญกุศลคุ้มครองให้ตั้งอยู่บนความดี มีสติเป็นสัมมาทิฏฐิ บุญบารมีถึงเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นครับ ตอนนี้ก็พยายามทำความดี พยามละเว้นความไม่ดี และทำจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใสอยู่เสมอ เพียงเท่านี้ก็เป็นสุขแล้วครับ ขออนุโมธนากับท่าน fulltime ด้วยครับ

และสำหรับท่าน naylex อยากทักเหลือเกิน ถ้าหากท่านชอบฟังบทสวดลองคลิ๊กฟังนะครับฟังแล้วจิตใจเบาสบายดีครับ ยิ้ม



ผู้เดินถูกทาง แม้จะยังไม่รู้จักเป้าหมาย ยังไงก็ต้องไปถึงเป้าหมาย(พ้นทุกข์)
ผู้เดินทางอ้อม แม้รู้จักเป้าหมาย ก็มิรู้ว่าจะถึงเป้าหมายเมื่อใด
ผู้เดินผิดทาง แม้รู้จักเป้าหมาย แต่ก็ไม่มีวันถึงเป้าหมาย
ผู้ที่ไม่รู้แม้แต่ทางเดินอยู่ตรงไหน ......(สงสัยกระผมเอง อิอิ)


 ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ

IP : บันทึกการเข้า
naylex
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,993



« ตอบ #43 เมื่อ: วันที่ 10 กันยายน 2014, 15:59:43 »

ขอบคุณครับท่านสบายแมน
ที่จริง ความพอใจเสียงที่ไพเราะ ก็เป็นกิเลสจำพวกราคะ
คือความพอใจ ในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส
เพลงธรรม หรือเพลงทั่วไป จึงเกิดจากกิเลสตัวเดียวกัน

แต่กิเลส(ราคะ)เป็นแค่ปัจจัย(สมุทัย) ผล ที่เกิดจึงไม่เหมือนกัน
คือฟังเพลงธรรม แล้วได้ใจที่สงบ เป็นสุข(สุขที่เกิดจากการปรุงแต่ง ไม่ใช่สุขจากความดับทุกข์)
สุขที่เกิดขึ้นจากการฟังเพลง จึงเป็นเพียงเวทนา

แต่ก็นั่นแหละครับ ผมเองเป็นปุถุชนคนมีกิเลส
ยังไงก็ดีเสียกว่าฟังเพลงประเภทแย่งผัวแย่งเมีย ให้ว้าวุ่นใจครับ


ขอบคุณครับ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า

ปรารถนาสารพัดในปฐพี เอาไมตรีแลกได้ดั่งใจจง
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #44 เมื่อ: วันที่ 10 กันยายน 2014, 18:26:26 »

ไหว้สา พระธัมมวินัย  สายบุญ

ผม กราบเรียนขอ นิทานเซน เรื่อง พระตาดี เป็น อาคันตุกะ แขกมาเยือน วัดเซนที่น้องเจ้าอาวาสตาบอดมาต้อนกลับขับไล่   พระตาบอดเป็นปลื้ม ในภารกิจ ที่ตนทำลงไป

ขอกราบขอบพระคุณ โดย ขอยกบุญกุศลทุกภพชาติ ของ หนานธงไปเต็ม ๆ เลยครับ

สาธุ ๆ ๆ  อนุโมทามิ



IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
naylex
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,993



« ตอบ #45 เมื่อ: วันที่ 10 กันยายน 2014, 22:12:36 »

ลุงหนานธงตาดี ช่วยพาน้องเล็กไปดูช้างสักหน่อยครับ

สมถกรรมฐาน40 ตามถนัด พอให้ดับทุกข์หรือไม่
วิปัสนากรรมฐานดับทุกข์ได้จริงไหม

แล้วจริงๆควรทำอย่างไรน่อ.....จึงจะดับทุกข์ได้
 ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า

ปรารถนาสารพัดในปฐพี เอาไมตรีแลกได้ดั่งใจจง
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #46 เมื่อ: วันที่ 10 กันยายน 2014, 23:28:13 »

ไหว้สา  พระธัมมวินัย  สายบุญ

พระบวรนาถ สอนว่า  เรียนคำสอน คือ จดจำคำพระรัตนตรัย ให้ได้อย่างถูกต้องเสียก่อน คือ ทำคันถธุระ พระปริยัติ ให้เข้าใจอย่างถูกต้อง ตาม พระพุทธธัมมวินัย  แล้วจึงไปทำวิปัสสนาธุระ ที่เป็นเรื่องใหญ่ ใหญ่กว่าคันถธุระ

สาวกอวดดี มีมานะ นักปริยัติผีบ้า ไม่เอาจริงในคันถธุระ  พอเรียนมาก อัตตาแมน  ไม่สนใจ  ดูแคลนการวิปัสสนาธุระ ภาวนาอบรมจิต

นักกัมมัฏฐานขี้หมา ก็ ไม่เอาตามคำพระศาสดาเจ้า  จ้องเอาแต่ พระนิพพาน งานใหญ่ ๆ  ไม่เรียนคำสอน อย่างถูกแท้ตามพระบรมศาสดาเจ้า

เล็ก ๆ ไม่  ใหญ่ ๆ ทำ    เลียนคำโฆษณาเครื่องถ่ายเอกสารญี่ปุ่น     พระพุทธะ ครูอาจารย์ ผู้รู้ ท่านตำหนิ  พวก นักปริยัติผีบ้า  นักภาวนาขี้หมา  สาวกมารสิงใจ
 

นึกว่า   หยะได้   ดี  ก๋ายมา เป๋น   เพี้ย    ยิงฟันยิ้ม                      เพี้ย คือ ขี้อ่อน วัวควาย มีรสชาติขม คล้ายดีวัว ดีควาย

   
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
fulltime
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 131


« ตอบ #47 เมื่อ: วันที่ 11 กันยายน 2014, 06:15:33 »

ไหว้สา  พระธัมมวินัย  สายบุญ

พระบวรนาถ สอนว่า  เรียนคำสอน คือ จดจำคำพระรัตนตรัย ให้ได้อย่างถูกต้องเสียก่อน คือ ทำคันถธุระ พระปริยัติ ให้เข้าใจอย่างถูกต้อง ตาม พระพุทธธัมมวินัย  แล้วจึงไปทำวิปัสสนาธุระ ที่เป็นเรื่องใหญ่ ใหญ่กว่าคันถธุระ

สาวกอวดดี มีมานะ นักปริยัติผีบ้า ไม่เอาจริงในคันถธุระ  พอเรียนมาก อัตตาแมน  ไม่สนใจ  ดูแคลนการวิปัสสนาธุระ ภาวนาอบรมจิต

นักกัมมัฏฐานขี้หมา ก็ ไม่เอาตามคำพระศาสดาเจ้า  จ้องเอาแต่ พระนิพพาน งานใหญ่ ๆ  ไม่เรียนคำสอน อย่างถูกแท้ตามพระบรมศาสดาเจ้า

เล็ก ๆ ไม่  ใหญ่ ๆ ทำ    เลียนคำโฆษณาเครื่องถ่ายเอกสารญี่ปุ่น     พระพุทธะ ครูอาจารย์ ผู้รู้ ท่านตำหนิ  พวก นักปริยัติผีบ้า  นักภาวนาขี้หมา  สาวกมารสิงใจ
 

นึกว่า   หยะได้   ดี  ก๋ายมา เป๋น   เพี้ย    ยิงฟันยิ้ม                      เพี้ย คือ ขี้อ่อน วัวควาย มีรสชาติขม คล้ายดีวัว ดีควาย

   


        สาธุ  อนุโมทนา 

  ขอน้อมรับ  ในความจริงใจของท่าน  nantong ครับ
IP : บันทึกการเข้า
fulltime
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 131


« ตอบ #48 เมื่อ: วันที่ 11 กันยายน 2014, 06:31:27 »



ใช่แล้วครับครับดั่งที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย นั้นเป็นทุกข์ เมื่อมีกายก็ต้องมีเกิดแก่เจ็บตาย แต่ว่าเราก็สามารถใช้กายนี้สั่งสมบุญกุศลเอาไว้ได้ แม้แต่พระพุทธเจ้าเมื่อท่านจะตรัสรู้เป็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ต้องมาเกิดให้มีกายเพื่อเจริญบารมี 30 ทัศให้เต็ม ผมว่าธรรมะบางอย่างต้องใช้ปัญญาพิจารณมากเลยครับ เพื่อไม่ให้หลงผิดเพื่อให้ตั้งอยู่บนสัมมาทิฏฐิ คำพูดของพระอริยบุคคลบางอย่างปุถุชนธรรมดาอาจไม่เข้าใจความหมาย เหตุเพราะระดับจิตและปัญญายังไม่ถึง ดังนั้นเราตั้งอยู่บนความดีงาม ทำจิตใจให้บริสุทธิ หมั่นสร้างบุญกุศล ผมคิดว่าวันหนึ่งบุญบารมีที่เราทำก็จะทำให้เรามีดวงตาเห็นธรรมได้โดยง่ายโดยไม่หลงผิด สำหรับผมในตอนนี้ก็ยังยืนยันคำเดิมที่เคยพิมพ์ในกระทู้นี้ครั้งหนึ่งว่า ยังไม่หวังว่าจะบรรลุธรรมนิพานในชาตินี้ด้วยประมาณตน แต่ก็จะขอทำดีไปเรื่อยๆครับเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นขอให้บุญกุศลคุ้มครองให้ตั้งอยู่บนความดี มีสติเป็นสัมมาทิฏฐิ บุญบารมีถึงเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นครับ ตอนนี้ก็พยายามทำความดี พยามละเว้นความไม่ดี และทำจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใสอยู่เสมอ เพียงเท่านี้ก็เป็นสุขแล้วครับ ขออนุโมธนากับท่าน fulltime ด้วยครับ

     เห็นด้วยกับท่านสบายแมน ครับ  สาธุ  อนุโมทนา  ในการทำดี ด้วยครับ

         ผมก็ขอยืนยันว่า  ผู้ที่เข้าใจในปรัชญามิตรา ไม่มีผู้ใดปฎิเสธในการทำความดีครับ

ต่างกันที่ผู้ที่เข้าใจใน ปรัชญามิตรา  จะทำความดี  โดยไม่หลงยึดติดในความดี  หรือไม่หลง

ในผลของความดีครับ
IP : บันทึกการเข้า
fulltime
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 131


« ตอบ #49 เมื่อ: วันที่ 11 กันยายน 2014, 06:39:15 »

นิทานเซน ตามที่ท่าน nantong ขอมาครับ             

    วันหนึ่งมีอาคันตุกะมาขอพักที่วัด  ที่วัดมีกติกาว่า  ผู้ที่จะมาพักที่วัดต้อง ถามตอบปัญหา

ธรรมะกันก่อน  ถ้าชนะจึงจะอนุญาตให้พักที่วัดได้  เผอิญเจ้าอาวาสมีกิจนิมนต์  จึงให้พระ

น้องชายที่เป็นพระลูกวัดเป็นผู้ ถามตอบแทน

     ผู้มาเยือน  ยกนิ้วชี้ขึ้นมาหนึ่งนิ้ว  ในความหมายว่า พระพุทธ 

     พระน้องชาย  ยกนิ้วชี้และนิ้วกลางขึ้นมาสองนิ้ว  อาคันตุกะเข้าใจว่า  เมื่อมีพระพุทธ 

ย่อมมีพระธรรม

     ผู้มาเยือน  จึงชูนิ้วขึ้น ๓ นิ้ว  ในความหมายว่า  เมื่อมีพระพุทธ  พระธรรม  ย่อมมีพระ

สงฆ์

      พระน้องชาย  ชูกำปั้นขึ้นมาด้วยหน้าตาถมึงทึง

      ผู้มาเยือน  ก้มลงกราบลา  ยอมแพ้  เพราะเข้าใจว่า  กำปั้นที่ชูขึ้นมาหมายถึง  พระ

พุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์  รวมกันเป็นหนึ่ง  คือพระรัตนตรัย

       เมื่อเจ้าอาวาสกลับมาไม่เห็นพระอาคันตุกะในวัด  เกิดความประหลาดใจ  จึงถามพระ

น้องชายที่ค่อนข้างโง่เขลา  และมีดวงตาเพียงข้างเดียวว่า  เจ้าตอบปัญหาชนะได้อย่างไร ?
 
       พระน้องชายเล่าว่า   หนอย  มันมาถึง  ก็ชูนิ้วชี้ขึ้นมาถากถางว่า  ผมมีแค่ตาเดียว  ผม

อุตส่าห์ให้เกียรติ ยกนิ้วขึ้นสองนิ้วตอบมันไปว่า  ท่านโชคดี  ที่มีสองตา  ไม่พิการเหมือน

ผม  มันกลับชูนิ้วขึ้นมา ๓ นิ้ว  ล้อเลียนว่าเรา ๒ คน รวมกันมี ๓ ตา  ผมโมโหจึงชูกำปั้นขึ้น

มา  กะจะสัดปากมันสักที  มันเลยเผ่นแนบออกจากวัดไปเลย ครับ

IP : บันทึกการเข้า
naylex
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,993



« ตอบ #50 เมื่อ: วันที่ 11 กันยายน 2014, 08:21:17 »

ไหว้สา  พระธัมมวินัย  สายบุญ

พระบวรนาถ สอนว่า  เรียนคำสอน คือ จดจำคำพระรัตนตรัย ให้ได้อย่างถูกต้องเสียก่อน คือ ทำคันถธุระ พระปริยัติ ให้เข้าใจอย่างถูกต้อง ตาม พระพุทธธัมมวินัย  แล้วจึงไปทำวิปัสสนาธุระ ที่เป็นเรื่องใหญ่ ใหญ่กว่าคันถธุระ

สาวกอวดดี มีมานะ นักปริยัติผีบ้า ไม่เอาจริงในคันถธุระ  พอเรียนมาก อัตตาแมน  ไม่สนใจ  ดูแคลนการวิปัสสนาธุระ ภาวนาอบรมจิต

นักกัมมัฏฐานขี้หมา ก็ ไม่เอาตามคำพระศาสดาเจ้า  จ้องเอาแต่ พระนิพพาน งานใหญ่ ๆ  ไม่เรียนคำสอน อย่างถูกแท้ตามพระบรมศาสดาเจ้า

เล็ก ๆ ไม่  ใหญ่ ๆ ทำ    เลียนคำโฆษณาเครื่องถ่ายเอกสารญี่ปุ่น     พระพุทธะ ครูอาจารย์ ผู้รู้ ท่านตำหนิ  พวก นักปริยัติผีบ้า  นักภาวนาขี้หมา  สาวกมารสิงใจ
 

นึกว่า   หยะได้   ดี  ก๋ายมา เป๋น   เพี้ย    ยิงฟันยิ้ม                      เพี้ย คือ ขี้อ่อน วัวควาย มีรสชาติขม คล้ายดีวัว ดีควาย

   

ลุงหนานหมายความว่า
ผู้ที่ฝึกภาวนาจิต โดยไม่รู้พระปริย้ติ คือเพี้ย(ขี้อ่อน)
คือนักภาวนาขี้หมา ผีบ้า ถูกมารสิงใจ
ไม่สนใจคำสอนพระศาสดา

ผมว่าไม่ใช้ เพราะ "อย่าประมาท" เป็นโอวาทของพระศาสดา
การฝึกภาวนาจิต เป็นการทำโดยสติ จะกล่าวว่านอกคำสอนได้อย่างไร
สำหรับคนบ้าน ฝึกภาวนาเป็นก็ดีอยู่แล้ว ให้ศึกษาพระปริยัติเพิ่มเติมควบคู่กันไป
น่าจะดีกว่า

เห็นด้วยลุงหนานเรื่องการศึกษาพระปริยัติเพิ่มเติม เพราะ..
ปฏิบัติโดยขาดพื้นฐานความรู้ แม้ทำถูกทาง ก็ไม่รู้ว่าทำถูก
หรือ แม้ทำผิดทาง ก็ไม่รู้ว่าทำผิด

สุดท้ายอยากกล่าวว่านักภาวนา ไม่น่าจะเป็นเพี้ย เป็นขี้หมา เป็นผีบ้า อย่างที่ลุงหนานกล่าว
คนทำดี ทำบุญ ก็ควรได้รับคำอนุโมทนา
เพียงแต่ทำไม่ครบ เรียนรู้ไม่ครบ ก็ให้คำแนะนำกันไป

ยกเว้นเสียทำไม่ถูกใจหนาน ใจหนานเลยพาล มากระทบกระเทียบสักน้อย
ตามแบบ "ยอมหัก ไม่ยอมงอ" 
อิอิ..... ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ

IP : บันทึกการเข้า

ปรารถนาสารพัดในปฐพี เอาไมตรีแลกได้ดั่งใจจง
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #51 เมื่อ: วันที่ 13 กันยายน 2014, 18:39:22 »

ขอบคุณครับท่านสบายแมน
ที่จริง ความพอใจเสียงที่ไพเราะ ก็เป็นกิเลสจำพวกราคะ
คือความพอใจ ในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส
เพลงธรรม หรือเพลงทั่วไป จึงเกิดจากกิเลสตัวเดียวกัน

แต่กิเลส(ราคะ)เป็นแค่ปัจจัย(สมุทัย) ผล ที่เกิดจึงไม่เหมือนกัน
คือฟังเพลงธรรม แล้วได้ใจที่สงบ เป็นสุข(สุขที่เกิดจากการปรุงแต่ง ไม่ใช่สุขจากความดับทุกข์)
สุขที่เกิดขึ้นจากการฟังเพลง จึงเป็นเพียงเวทนา

แต่ก็นั่นแหละครับ ผมเองเป็นปุถุชนคนมีกิเลส
ยังไงก็ดีเสียกว่าฟังเพลงประเภทแย่งผัวแย่งเมีย ให้ว้าวุ่นใจครับ


ขอบคุณครับ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ

แม่นล่ะครับเหมือนกำเปิ้นว่าไว้ กำขี้ดีกว่ากำตดเน๊าะครับ ฮ่าๆ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
littikorn
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 70


« ตอบ #52 เมื่อ: วันที่ 14 กันยายน 2014, 10:07:38 »

ให้เข้าไปดู www.thammatipo.comคับ
IP : บันทึกการเข้า
fulltime
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 131


« ตอบ #53 เมื่อ: วันที่ 16 กันยายน 2014, 08:50:25 »

     วงกลมเกิดจากปลายภู่กัน  เปรียบเหมือน  สังสารวัฏที่เกิดจากจิต 

     จิตที่คิดดี  คิดชั้่ว  เลยทำกรรมดี  กรรมชั่ว  เป็นต้นเหตุแห่งทุกข์  นำไปสู่  การเกิด - การ

ตาย  วนเวียนมาแล้วนับไม่ถ้วน  ทุกชีวิตล้วนแต่ถูกขังอยู่ในวงกลมแห่งสังสารวัฏนี้   พระ

พุทธองค์เองได้สลายวงกลมแห่งสารวัฏนี้แล้ว  มาชี้  มาบอกต่อ  ส่วนท่านใดจะเห็นหรือไม่

เห็น  ก็แล้วแต่ปัญญาบารมีของแต่ละท่านครับ

      ส่วนคำของหลวงปู่ชา  ที่ว่า  ส้วมไม่ล้าง  จ้องเอาแต่พระนิพพาน  มีความหมายลึกซึ้ง

มาก ครับนะครับ  ขึ้นอยู่กับปัญญาว่าจะมองมุมใด

       สำหรับผู้ที่ศึกษาเซนเห็นว่า  จิตของปุถุชนคนทั่วไปมักสั่งสมแต่  โลภะ  โทสะ  โมหะ

ซึ่งเป็นสิ่งสกปรกโสโครก เหมือนกับส้วม   จึงต้องคอยดูแลรักษาจิต ดูแลจิต  รู้ทันจิต  ไม่ให้

เกิดเกิด  โลภะ  โทสะ  โมหะ  อยู่ตลอดเวลาครับ   ถ้ายังปล่อยจิตไปหลงสิ่งที่เห็น  ทาง

ตา  หู จมูก ลิ้น  กาย  ใจ  อยู่  มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะพบนิพพานครับ

       สาธุ  เจริญในธรรมทุกท่านครับ
IP : บันทึกการเข้า
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #54 เมื่อ: วันที่ 16 กันยายน 2014, 12:46:16 »

     วงกลมเกิดจากปลายภู่กัน  เปรียบเหมือน  สังสารวัฏที่เกิดจากจิต 

     จิตที่คิดดี  คิดชั้่ว  เลยทำกรรมดี  กรรมชั่ว  เป็นต้นเหตุแห่งทุกข์  นำไปสู่  การเกิด - การ

ตาย  วนเวียนมาแล้วนับไม่ถ้วน  ทุกชีวิตล้วนแต่ถูกขังอยู่ในวงกลมแห่งสังสารวัฏนี้   พระ

พุทธองค์เองได้สลายวงกลมแห่งสารวัฏนี้แล้ว  มาชี้  มาบอกต่อ  ส่วนท่านใดจะเห็นหรือไม่

เห็น  ก็แล้วแต่ปัญญาบารมีของแต่ละท่านครับ

      ส่วนคำของหลวงปู่ชา  ที่ว่า  ส้วมไม่ล้าง  จ้องเอาแต่พระนิพพาน  มีความหมายลึกซึ้ง

มาก ครับนะครับ  ขึ้นอยู่กับปัญญาว่าจะมองมุมใด

       สำหรับผู้ที่ศึกษาเซนเห็นว่า  จิตของปุถุชนคนทั่วไปมักสั่งสมแต่  โลภะ  โทสะ  โมหะ

ซึ่งเป็นสิ่งสกปรกโสโครก เหมือนกับส้วม   จึงต้องคอยดูแลรักษาจิต ดูแลจิต  รู้ทันจิต  ไม่ให้

เกิดเกิด  โลภะ  โทสะ  โมหะ  อยู่ตลอดเวลาครับ   ถ้ายังปล่อยจิตไปหลงสิ่งที่เห็น  ทาง

ตา  หู จมูก ลิ้น  กาย  ใจ  อยู่  มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะพบนิพพานครับ

       สาธุ  เจริญในธรรมทุกท่านครับ


อนุโมธนาสาธุครับท่าน fulltime เห็นด้วยกับท่าน เราพึ่งควรสำรวมและสำรวจตนให้ดีใช้ธรรมะในการขัดเกลาพัฒนาจิตของตน ลักษณะของผู้มีธรรมย่อมมีความสำรวมมีธรรมะเป็นตัวป้องกันกิเลศในใจให้เบาบาง 
IP : บันทึกการเข้า
ชันเทน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 256


« ตอบ #55 เมื่อ: วันที่ 21 กันยายน 2014, 07:09:00 »

     
      ส่วนคำของหลวงปู่ชา  ที่ว่า  ส้วมไม่ล้าง  จ้องเอาแต่พระนิพพาน  มีความหมายลึกซึ้ง

มาก ครับนะครับ  ขึ้นอยู่กับปัญญาว่าจะมองมุมใด

       สำหรับผู้ที่ศึกษาเซนเห็นว่า  จิตของปุถุชนคนทั่วไปมักสั่งสมแต่  โลภะ  โทสะ  โมหะ

ซึ่งเป็นสิ่งสกปรกโสโครก เหมือนกับส้วม   จึงต้องคอยดูแลรักษาจิต ดูแลจิต  รู้ทันจิต  ไม่ให้

เกิดเกิด  โลภะ  โทสะ  โมหะ  อยู่ตลอดเวลาครับ   ถ้ายังปล่อยจิตไปหลงสิ่งที่เห็น  ทาง

ตา  หู จมูก ลิ้น  กาย  ใจ  อยู่  มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะพบนิพพานครับ

       สาธุ  เจริญในธรรมทุกท่านครับ


       
       น้อง hi มีความรู้สึกว่ามีตัวหนูอยู่ในจิตในใจตลอดเวลาเลย  ยังงี้หนู ก็อยู่ในถังส้วม

ตลอดเวลาเลยซิคะ  มิน่าเพื่อนน้อง hi  ว่า ทำไมตัวแกเหม็นจังอยู่บ่อย ๆ 

       แล้วทำอย่างไร ?  ถึงจะออกมาจากถังส้วมได้คะ  พี่ fulltime

IP : บันทึกการเข้า
fulltime
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 131


« ตอบ #56 เมื่อ: วันที่ 24 กันยายน 2014, 08:07:10 »

      ตัวน้องไฮ  ไม่มี   มีแต่ความหลงผิดว่าเป็นตัวน้อง ไฮ  เพราะชีวิตที่เกิดมามันเป็นแค่  

กาย  และ ใจ  ที่เกิดมาตามเหตุตามปัจจัย  คือใจในชาติอดีต  ที่คิดดีบ้าง  คิดชั่วบ้าง  จึงทำ

กรรมดีบ้าง ทำกรรมชั่วบ้าง  กรรมจึงส่งผลให้มาเกิด  เพราะไม่รู้ว่าเป็นใครเขาจึงตั้งชื่อให้

หรือสมมุติว่า  เป็นน้องไฮ  เพื่อจะเรียกได้ถูกว่าใครเป็นใครครับ  สิ่งต่าง ๆ บนโลกล้วนไม่รู้ว่า

อะไรเป็นอะไร ?มาแต่แรก  เขาจึงต้องตั้งชื่อหรือสมมุติขึ้นเพื่อใช้เรียกให้รู้ว่าอันไหนเป็นอัน

ไหน ?  สมมุติเขามีไว้ใช้  ไม่ได้มีไว้หลง  หลงสิ่งใด  ย่อมทุกข์กับสิ่งนั่น ครับน้องไฮ

      เมื่อตัวน้องไฮไม่ได้เกิดมา  เรื่องความรู้สึกว่ามีตัวน้องไฮอยู่ในส้วม จึงไม่เป็นความจริง  

และส้วมก็ไม่มีอยู่จริง  เพราะเป็นแค่การเปรียบเทียบให้เห็นของครูบาอาจารย์ให้รู้ว่า   ใจที่

เต็มไปด้วยกิเลส คือความโลภ ความโกรธ ความหลง ของปุถุชนคนธรรมดานั่น  เป็นสิ่ง

สกปรกโสโครกเหมือนกับส้วม  ส่วนกายก็มีผู้เปรียบเทียบไว้  เหมือนกับหลุมฝังศพ  เพราะมี

การเอาศพหมู  ศพวัว  ศพเป็ด  ศพไก่ กุ้ง หอย ปู ปลา ฯ  เอาไปฝังอยู่ในกายนี้วันละ 3

เวลาทุกวัน  กายนี้มันจึงเน่าเหม็นไปด้วยกลิ่นซากศพ  มีสิ่งเน่าเหม็นระบายออกมาตลอด

เวลา  เป็นขี้  เป็นเยี่ยว  เป็นเหงื่อ  ขี้หู ขี้ฟัน  ขี้หมูก ฯ เป็นต้น  นั่นจึงเป็นเหตุให้เพื่อนของ

น้อง ไฮ รู้สึกว่า  ทำไมตัวน้องไฮเหม็นจัง  ผู้เกิดก่อนเขามีปัญญา  เขาจึงจัดเทศการกินเจขึ้น

มา  เพื่อให้ชาวโลกได้หยุดทำบาปกรรมในการฆ่าสัตว์ชั่วระยะหนึ่ง  เพื่อกระตุ้นเตือนให้ชาว

โลกได้สำนึกต่อ บาปกรรม  ที่ได้กระทำต่อสรรพสัตว์ที่เป็นเพื่อนทุกข์ ?  เกิด แก่ เจ็บ ตาย

ครับ  การถือศิลกินเจ  จึงเป็นเทศการชำระกาย  ชำระใจ ให้สะอาด ชั่วครั้งชั่วคราวครับ
 
         ขออนุโมทนากับผู้ถือศิลกินเจทุกท่านครับ
IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #57 เมื่อ: วันที่ 26 กันยายน 2014, 02:36:04 »

ไหว้สา  พระธัมมวินัย  สายบุญ

 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม  จุมพิต จุมพิต  ขยิบตา ขยิบตา    ผม ช้อบบ  ชอบ  นิทานเซน พระสองตา กับ พระตาเดียว

สาธุ ๆ ๆ  อนุโมทมิ
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
fulltime
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 131


« ตอบ #58 เมื่อ: วันที่ 26 กันยายน 2014, 09:26:46 »

คำเซนว่า

คนตาบอดถือตะเกียง  ยังดีกว่า  คนตาดีที่เดินชนคนตาบอด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 27 กันยายน 2014, 05:30:47 โดย fulltime » IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #59 เมื่อ: วันที่ 27 กันยายน 2014, 15:56:21 »

ไหว้สา พระธัมมวินัย สายบุญ

คนตาบอด แทน คนนักเผยแผ่ธัมมะ  นักเทศน์ นักสวด แต่  ไม่ได้นำไปทำตามที่รู้ ที่เรียน ที่สอน  ทว่า ยังมีดี มีประโยชน์  สามารถจดจำธัมมะได้ดี ได้ถูกต้อง เป็นผู้ทรงจำ

ยังดีกว่า  นักภาวนาวิปัสสนา ผู้ทรงธัมมะ  ที่เกิดอัตตาตัวตนงอกงาม แล้วทำการปรามาส ประมาทพลาดพลั้ง ต่อ ผู้ทรงจำ ดั่ง คนตาบอดผู้ถือตะเกียง  โดน คนตาดีเดินชน  อย่างน่าละอายใจ

ตะเกียง  แทน แสงสว่าง แห่ง ปัญญา

การขบคิด ตีความ  หาก มีผิดพลาดประการใด  กราบขอสมมาอภัย ใน โอกาสนี้ด้วยเถิด  ขอผู้รู้ได้ชี้แนะ เสริมช่วย

สาธุ ๆ  ๆ  อนุโมทามิ


IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
หน้า: 1 2 [3] 4 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!