ไหว้สา พระธัมมวินัย สายบุญ
พระบวรนาถ สอนว่า เรียนคำสอน คือ จดจำคำพระรัตนตรัย ให้ได้อย่างถูกต้องเสียก่อน คือ ทำคันถธุระ พระปริยัติ ให้เข้าใจอย่างถูกต้อง ตาม พระพุทธธัมมวินัย แล้วจึงไปทำวิปัสสนาธุระ ที่เป็นเรื่องใหญ่ ใหญ่กว่าคันถธุระ
สาวกอวดดี มีมานะ นักปริยัติผีบ้า ไม่เอาจริงในคันถธุระ พอเรียนมาก อัตตาแมน ไม่สนใจ ดูแคลนการวิปัสสนาธุระ ภาวนาอบรมจิต
นักกัมมัฏฐานขี้หมา ก็ ไม่เอาตามคำพระศาสดาเจ้า จ้องเอาแต่ พระนิพพาน งานใหญ่ ๆ ไม่เรียนคำสอน อย่างถูกแท้ตามพระบรมศาสดาเจ้า
เล็ก ๆ ไม่ ใหญ่ ๆ ทำ เลียนคำโฆษณาเครื่องถ่ายเอกสารญี่ปุ่น พระพุทธะ ครูอาจารย์ ผู้รู้ ท่านตำหนิ พวก นักปริยัติผีบ้า นักภาวนาขี้หมา สาวกมารสิงใจ
นึกว่า หยะได้ ดี ก๋ายมา เป๋น เพี้ย
เพี้ย คือ ขี้อ่อน วัวควาย มีรสชาติขม คล้ายดีวัว ดีควาย
ลุงหนานหมายความว่า
ผู้ที่ฝึกภาวนาจิต โดยไม่รู้พระปริย้ติ คือเพี้ย(ขี้อ่อน)
คือนักภาวนาขี้หมา ผีบ้า ถูกมารสิงใจ
ไม่สนใจคำสอนพระศาสดา
ผมว่าไม่ใช้ เพราะ "อย่าประมาท" เป็นโอวาทของพระศาสดา
การฝึกภาวนาจิต เป็นการทำโดยสติ จะกล่าวว่านอกคำสอนได้อย่างไร
สำหรับคนบ้าน ฝึกภาวนาเป็นก็ดีอยู่แล้ว ให้ศึกษาพระปริยัติเพิ่มเติมควบคู่กันไป
น่าจะดีกว่า
เห็นด้วยลุงหนานเรื่องการศึกษาพระปริยัติเพิ่มเติม เพราะ..
ปฏิบัติโดยขาดพื้นฐานความรู้ แม้ทำถูกทาง ก็ไม่รู้ว่าทำถูก
หรือ แม้ทำผิดทาง ก็ไม่รู้ว่าทำผิด
สุดท้ายอยากกล่าวว่านักภาวนา ไม่น่าจะเป็นเพี้ย เป็นขี้หมา เป็นผีบ้า อย่างที่ลุงหนานกล่าว
คนทำดี ทำบุญ ก็ควรได้รับคำอนุโมทนา
เพียงแต่ทำไม่ครบ เรียนรู้ไม่ครบ ก็ให้คำแนะนำกันไป
ยกเว้นเสียทำไม่ถูกใจหนาน ใจหนานเลยพาล มากระทบกระเทียบสักน้อย
ตามแบบ "ยอมหัก ไม่ยอมงอ"
อิอิ.....