**** พระธาตุจอมหมอกแก้ว.....ถล่ม ( เเม่ลาว )

[ร้อยป่า]

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครับ

พระธาตุจอมหมอกแก้ว อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย
พระธาตุจอมหมอกแก้ว ตั้งอยู่ที่บ้านดงมะเฟือง ตำบลจอมหมอกแก้ว อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย เป็นพระธาตุ 1 ใน 9 จอมของจังหวัดเชียงรายเช่นกัน..

ตามประวัติ...พระธาตุจอมหมอกแก้ว ถูกสร้างขึ้นมาในสมัยใดยังไม่มีปรากฏหลักฐาน แต่มีเรื่องเล่าว่า เมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว ชาวบ้านที่ตั้งถิ่นฐานอยู่แถบนั้นได้เข้าไปหาของป่า และได้พบจอมปลวกมีลักษณะคล้ายพระธาตุ ตั้งอยู่บนเนินเตี้ยๆ ลูกหนึ่ง และในบริเวณนั้นมีต้นไม้ที่ชาวเหนือเรียกว่า "ต้นส้มป่อย" อยู่มากมาย มีลักษณะโน้มเอียงเหมือนพญานาค และได้พบเครื่องปั้นดินเผาที่แตกกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ชาวบ้านจึงได้พากันกราบไหว้จอมปลวกนั้น ใครจะเข้าไปทำอะไรในป่าบริเวณนี้ต้องมากราบไหว้บูชาขออนุญาตเสียก่อน ไม่เช่นนั้นก็จะมีอันเป็นไปต่างๆ นานา ชาวบ้านแถบนั้นเชื่อว่าจอมปลวกนั้นเป็นที่บรรจุ อัฐิของเชื้อพระวงค์ในสมัยโบราณ สันนิษฐานว่าเจดีย์ถูกสร้างขึ้นมาครอบจอมปลวกภายหลัง..

การกราบไหว้พระธาตุดอยจอมหมอกแก้ว เชื่อกันว่า...อุปสรรคที่เปรียบเหมือนหมอกควันสีดำ ถ้ากราบไหว้และตั้งจิตอธิฐานแล้วอุปสรรคทั้งหลายก็จะจางใสเหมือนหมอกแก้ว และจะประสบความสำเร็จ..

การเดินทางไปพระธาตุจอมหมอกแก้ว..กรณีเดินทางมาจากเชียงใหม่ แนะนำไปแวะกราบไหว้พระธาตุจอมผ่ออำเภอเวียงป่าเป้าก่อน ต่อจากนั้นก็มากราบไหว้พระธาตุจอมแจ้งที่อำเภอแม่สรวย จากนั้นขับต่อเส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย เมื่อขับมาถึงปากทางหนองเก้าห้อง (ดงมะดะ)อำเภอแม่ลาว ให้เลี้ยวซ้ายไปกราบพระธาตุจอมหมอกแก้ว ระยะทาง 5 กิโลเมตร ขับตรงไปเรื่อยๆ วัดพระธาตุจอมหมอกแก้วก็จะอยู่ฝั่งซ้ายมือเช่นกัน หาง่าย อยู่ติดถนน..

[ร้อยป่า]

รอยปริแตกครับ ความช่วยเหลือยังไปไม่ถึงครับ ที่บ้านดงมะเฟืองและวัดพระธาตุจอมหมอกแก้ว แม่ลาว

[ร้อยป่า]

กรมศิลป์เร่งบูรณะโบราณสถานเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว หวั่นทรุดตัวจากอาฟเตอร์ช็อก สั่งสำรวจความเสียหาย พร้อมจัดทำแผนแม่บทการจัดการโบราณสถานที่อาจเกิดอุบัติภัย...

เมื่อวันที่ 9 พ.ค.57 ที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวภายหลังตรวจความเสียหายโบราณสถานในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ว่า จากการสำรวจความเสียหายโบราณสถานในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ พบว่าได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากแรงแกว่งไหว ส่งผลทำให้ส่วนยอดฉัตรเอียงเท่านั้น แต่ที่น่าเป็นห่วง คือโบราณสถานใน จ.เชียงราย ได้รับความเสียหายมาก โดยเฉพาะที่วัดดงมะดะ และวัดอูปแก้ว อ.แม่ลาว พบว่า เศียรพระพุทธรูปประธานเก่าแก่มีอายุมากกว่า 100 ปี หักโค่นลงมาแตกเป็นชิ้นส่วน อีกทั้ง เกิดรอยร้าวที่ศาลาบาตรเก่าแก่เป็นแนวยาว นอกจากนี้ ที่วัดพระธาตุจอมหมอกแก้ว ก็มีความเสียหายหนักถึงขั้นยอดองค์พระธาตุหักจนฉัตรพัง ขณะที่ ใน อ.เชียงแสนนั้น โบราณสถานสำคัญที่เป็นที่เคารพของชาวบ้านเสียหายได้แก่ พระธาตุวัดเจดีย์หลวง และพระธาตุจอมกิตติ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ สำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ รวบรวมข้อมูล พร้อมบันทึกความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพื่อนำมาจัดทำกรอบงบประมาณเสนอคณะรัฐมนตรี โดยในเบื้องต้น อาจจะนำงบประมาณฉุกเฉิน มาใช้ดำเนินการบูรณะเร่งด่วนก่อน เพราะหากปล่อยไว้ โบราณสถานหลายแห่งมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการทรุดตัวลงได้ เพราะขณะนี้ยังมีแรงสั่นสะเทือนอาฟเตอร์ช็อกอย่างต่อเนื่อง

อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ตนยังสั่งการให้ สำนักศิลปากรที่อยู่ในพื้นที่ความเสี่ยง สำรวจความเสียหายของโบราณสถานและวัดอื่นๆ พร้อมประสานงานกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อเข้ามาร่วมกันหารือในแผนการบูรณะ ในส่วนโดยกรมศิลปากรพร้อมที่จะให้องค์ความรู้ในการบูรณะ ส่วน พศ. และ อปท.ก็จะต้องเข้ามาช่วยพิจารณาและจัดลำดับความสำคัญรวมถึงสนับสนุนงบประมาณเพื่อใช้ในการบูรณะร่วมด้วย

อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้สำนักสถาปัตยกรรม จัดทำแผนแม่บทบริหารจัดการโบราณสถานที่อาจจะเกิดจากอุบัติภัย โดยเฉพาะการจัดสร้างเครื่องเตือนภัยติดตั้งบริเวณโบราณสถาน ทั้งที่เกิดจากแรงสั่งสะเทือน น้ำท่วม อัคคีภัย เพื่อรองรับการเฝ้าระวังความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับโบราณสถานทั่วประเทศ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการ 2 ปี.

[ร้อยป่า]

ข่าว 7 สี - มีการตรวจสอบพบ หนึ่งในพระธาตุ 9 จอม แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย เสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว ที่ต้องทุบทิ้งทั้งองค์ แล้วสร้างขึ้นใหม่ โดยวันนี้ เกิดอาฟเตอร์ช็อคถึง 20 ครั้ง

เจ้าหน้าที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จังหวัดเชียงราย เข้าตรวจสอบวัดพระธาตุจอมหมอกแก้ว อำเภอแม่ลาว หนึ่งในพระธาตุ 9 จอม แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ของจังหวัด พบว่าส่วนยอดของพระธาตุ รวมทั้งยอดฉัตร ยาวประมาณ 3 เมตร หักร่วงหล่นลงมาได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ยังพบว่าศาสนสถาน และศาสนวัตถุหลายอย่าง ภายในวัดชำรุดเสียหายด้วยเช่นกัน

เจ้าหน้าที่ ระบุว่า รอบองค์พระธาตุ พบรอยร้าวเป็นทางยาวอาจพังทลายลงมาได้ทุกเมื่อ การบูรณะซ่อมแซม ไม่สามารถทำได้แล้ว ต้องทุบทำลายทิ้ง แล้วสร้างขึ้นมาใหม่

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ระบุว่า ขณะนี้ความถี่ของอาฟเตอร์ช็อคเริ่มลดลงแต่ยังคงมีความสั่นไหวอยู่บ้าง ประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ยังคงต้องพักอาศัยในพื้นที่ปลอดภัยต่อไปอีก 3-6 ชั่วโมง

สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสถานการณ์ การเกิดอาฟเตอร์ช็อค วันนี้เกิดขึ้นประมาณ 20 ครั้ง ขนาด 2.4-4.7 ริกเตอร์ ประชาชนบางพื้นที่สามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้ และจากเหตุแผ่นดินไหวตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม จนถึงวันนี้ เกิดอาฟเตอร์ช็อค ที่จังหวัดเชียงรายรวม 454 ครั้ง

[ร้อยป่า]

ต้องการความช่วยเหลือด่วน !!!! ครับ

[ร้อยป่า]

พระธาตุจอมหมอกแก้ว อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย
พระธาตุจอมหมอกแก้ว ตั้งอยู่ที่บ้านดงมะเฟือง ตำบลจอมหมอกแก้ว อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย เป็นพระธาตุ 1 ใน 9 จอมของจังหวัดเชียงรายเช่นกัน..

ตามประวัติ...พระธาตุจอมหมอกแก้ว ถูกสร้างขึ้นมาในสมัยใดยังไม่มีปรากฏหลักฐาน แต่มีเรื่องเล่าว่า เมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว ชาวบ้านที่ตั้งถิ่นฐานอยู่แถบนั้นได้เข้าไปหาของป่า และได้พบจอมปลวกมีลักษณะคล้ายพระธาตุ ตั้งอยู่บนเนินเตี้ยๆ ลูกหนึ่ง และในบริเวณนั้นมีต้นไม้ที่ชาวเหนือเรียกว่า "ต้นส้มป่อย" อยู่มากมาย มีลักษณะโน้มเอียงเหมือนพญานาค และได้พบเครื่องปั้นดินเผาที่แตกกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ชาวบ้านจึงได้พากันกราบไหว้จอมปลวกนั้น ใครจะเข้าไปทำอะไรในป่าบริเวณนี้ต้องมากราบไหว้บูชาขออนุญาตเสียก่อน ไม่เช่นนั้นก็จะมีอันเป็นไปต่างๆ นานา ชาวบ้านแถบนั้นเชื่อว่าจอมปลวกนั้นเป็นที่บรรจุ อัฐิของเชื้อพระวงค์ในสมัยโบราณ สันนิษฐานว่าเจดีย์ถูกสร้างขึ้นมาครอบจอมปลวกภายหลัง..

การกราบไหว้พระธาตุดอยจอมหมอกแก้ว เชื่อกันว่า...อุปสรรคที่เปรียบเหมือนหมอกควันสีดำ ถ้ากราบไหว้และตั้งจิตอธิฐานแล้วอุปสรรคทั้งหลายก็จะจางใสเหมือนหมอกแก้ว และจะประสบความสำเร็จ..

การเดินทางไปพระธาตุจอมหมอกแก้ว..กรณีเดินทางมาจากเชียงใหม่ แนะนำไปแวะกราบไหว้พระธาตุจอมผ่ออำเภอเวียงป่าเป้าก่อน ต่อจากนั้นก็มากราบไหว้พระธาตุจอมแจ้งที่อำเภอแม่สรวย จากนั้นขับต่อเส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย เมื่อขับมาถึงปากทางหนองเก้าห้อง (ดงมะดะ)อำเภอแม่ลาว ให้เลี้ยวซ้ายไปกราบพระธาตุจอมหมอกแก้ว ระยะทาง 5 กิโลเมตร ขับตรงไปเรื่อยๆ วัดพระธาตุจอมหมอกแก้วก็จะอยู่ฝั่งซ้ายมือเช่นกัน หาง่าย อยู่ติดถนน..

[ร้อยป่า]

ข่าวช่อง 7 ครับ

[ร้อยป่า]

รอยร้าวรอบองค์และยอดพระธาตุที่หักลงมา

[ร้อยป่า]

1.  พระธาตุดอยจอมทอง  วัดดอยทอง หรือ ดอยตองในภาษาเหนือ  ต.เวียง อ.เมือง
สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าพังคราช แห่งโยนกนครไชยบุรีศรีเชียงแสน พร้อม ๆ กับพระธาตุจอมกิตติและพระธาตุจอมสัก เชื่อกันว่าถ้ากราบไหว้และตั้งจิตอธิฐานจะมั่งมีทรัพย์สินเงินทอง

2.  พระธาตุจอมหมอกแก้ว  วัดพระธาตุจอมหมอกแก้ว บ้านดงมะเฟือง  ต.จอมหมอกแก้ว  อ.แม่ลาว
มีตำนานเล่าว่า สร้างขึ้นครอบจอมปลวกที่เชื่อว่าบรรจุอัฐิเชื้อพระวงค์พระองค์หนึ่ง ถ้าได้กราบไหว้และตั้งจิตอธิฐานอุปสรรคทั้งหลายซึ่งเปรียบเหมือนหมอกควันสีดำ ก็จะจางใสเหมือนหมอกแก้วและประสบความสำเร็จ

3.  พระธาตุจอมผ่อ  วัดอรัญวิเวกคีรี ต.เวียง  อ.เวียงป่าเป้า 
สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นในราว พ.ศ. 2263 ต่อมาในปี พ.ศ. 2522 ได้รับการบูรณะปฏิสังขณ์ขึ้นใหม่ จึงได้ค้นพบแผ่นเงินจารึกโบราณ จารึกเรื่องราวเกี่ยวกับการสร้างองค์พระธาตุ คำว่า “ผ่อ” เป็นภาษาเหนือ แปลว่า ดูหรือมอง เชื่อกันว่าถ้าได้กราบไหว้และตั้งจิตอธิฐานเปรียบเหมือนการลืมตาเจอแสงสว่างในชีวิต

4.  พระธาตุจอมแจ้ง  วัดจอมแจ้ง  ต. แม่สรวย  อ.แม่สรวย 
ตามตำนานเล่าว่า องค์พระธาตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระบรมศาสดาจากพระเถระรูปหนึ่ง ซึ่งเดินธุดงค์มาถึงบริเวณที่ตั้งพระธาตุ โดยขณะนั้นเป็นเวลาเช้าพอดี จึงได้ตั้งชื่อองค์พระธาตุว่า 'พระธาตุจอมแจ้ง' ซึ่งคำว่า “แจ้ง” ในภาษาเหนือ หมายถึง เช้า โดยถ้าได้กราบไหว้และตั้งจิตอธิฐาน จะประสบความสำเร็จและรู้แจ้งเห็นจริง

5.  พระธาตุจอมแว่  วัดพระธาตุจอมแว่ อ. พาน
กล่าวกันว่าสร้างขึ้นในสมัยพระยางำเมือง เจ้าเมืองพะเยาราว พ.ศ. 1839  ในตอนที่พระองค์เสร็จมาถึงดอยซางคำหรือดอยจอมแว่ เพื่อทอดพระเนตรอาณาเขตอาณาจักรของพระองค์

6. พระธาตุจอมจ้อ  วัดจอมจ้อ อ. เทิง
จากคัมภีร์โบราณอ้างว่า เป็นเจดีย์บรรจุพระเกศาของพระบรมมหาศาสดาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคราวที่พระองค์ทรงเสร็จเผยแพร่พระพุทธศานามาถึงล้านนา  พระองค์ทรงพำนักอยู่ใต้ต้นอโศกบนดอยใกล้น้ำอิง พญานาคที่อาศัยในน้ำแห่งนั้นเกิดเลื่อมใสในพุทธานุภาพ จึงได้ขอพระเกศาของพระองค์เพื่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นในบริเวณเดียวกันนั้น ถ้าได้กราบไหว้ก็จะประสบความสำเร็จทุกสิ่ง เหมือนกับการเริ่มเจรจาก็นำมาซึ่งความสำเร็จและสมประสงค์ทุกประการ

7.  พระธาตุจอมกิตติ  วัดพระธาตุจอมกิตติ อ. เชียงแสน
องค์พระธาตุเดิมสร้างขึ้นพร้อมกับพระธาตุดอยจอมทองและพระธาตุจอมสัก ในสมัยพระเจ้าพังคราช บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระเถระนามว่า 'พระพุทธโฆษา' นำมาถวายพระองค์ในครั้งนั้น จึงแบ่งพระเกศาธาตุเพื่อสร้างพระธาตุทั้ง 3 องค์ในเวลาเดียวกันนั้น เชื่อกันว่า ถ้าได้กราบไหว้และตั้งจิตอธิฐานจะอุดมไปด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ ลาภยศผู้คนสรรเสริญ ได้เป็นเจ้าคนนายคน

8.  พระธาตุจอมจัน วัดจอมจัน อ. แม่จัน 
สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ. 2458  แล้วเสร็จในพ.ศ. 2468  โดยพระครูบาทิพย์ เจ้าอาวาสวัดบ้านแหลว เห็นนิมิตในคืนหนึ่งเป็นแสงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าสว่างไสวระยิบระยับสีเขียวบนดอยที่ตั้งขององค์พระธาตุ เช้าวันรุ่งขึ้นพระครูบาทิพย์จึงขึ้นไปสำรวจดูบนยอดดอยแห่งนี้ และเห็นว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสมแก่การสร้างพระธาตุเจดีย์เป็นอย่างยิ่ง เชื่อกันว่าถ้าได้กราบไหว้และตั้งจิตอธิฐาน ผิวพรรณสวยงามเปล่งปลั่งรัศมีดุจแสงจันทร์งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

9.  พระธาตุจอมสัก วัดพระธาตุจอมสัก ต.บ้านดู่ อ.เมือง 
สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าพังคราช แห่งโยนกนครไชยบุรีศรีเชียงแสน เดิมชื่อว่าพระธาตุบ้านดอยยาง จนถึงปี พ.ศ. 2490  ครูบาคำหล้าสังวโร พระเกจินักบุญของคนเหนือได้ทำการบูรณะพระธาตุขึ้นมาใหม่ แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น “พระธาตุจอมสัก” จนถึงปัจจุบัน เชื่อกันว่าถ้าได้กราบไหว้ จะได้รับสิริมงคลสูงสุดและพานพบแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์

[ร้อยป่า]

กรมทรัพยากรธรณี ยัน จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวใหญ่ อยู่ที่ อ.แม่ลาว เผย อ.พาน เสียหายหนักเพราะมีสิ่งปลูกสร้างมาก เร่งตรวจสอบรอยเลื่อนอีก 4 พื้นที่


เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 8 พ.ค. มีรายงานว่า นายสมใจ เย็นสบาย ผอ.ส่วนธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี พร้อมด้วย นายสุวิทย์ โคสุวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหว ผอ.ส่วนรอยเลื่อนมีพลัง กรมทรัพยากรธรณี ได้เปิดเผย ภายหลังตรวจสภาพการทรุดตัวของถนนคอนกรีตในหมู่บ้านห้วยส้านยาว หมู่ 13 ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว ซึ่งมีการดันดินขึ้นมาทำให้ถนนคอนกรีตโก่งขึ้น ส่วนบ้านหลังใหญ่ที่พังทลายลงตรวจสอบพบว่าบริเวณเสาบ้านคอนกรีตมีลักษณะหักโค่นลงจากแรงแกว่งของแผ่นดินไหว และจากการตรวจสอบด้วยเครื่องมือ พบว่าถนนเชียงราย-เชียงใหม่ ที่ยุบตัวพังลง ได้พบรอยแยกของพื้นดินบริเวณกว้าง จึงได้ติดตามแนวรอยเลื่อนไปถึงบริเวณหมู่บ้านห้วยส้านยาว พบรอยเลื่อนพาดผ่านตัวบ้านหลังใหญ่ ทำให้เกิดแรงสั่นไหวจนเสาบ้านหักพังทรุดตัวลงมาทั้งหลัง และยังพาดผ่านไปรอบหมู่บ้าน ทำให้ถนนเข้าหมู่บ้านทรุดตัว และบ้านอีก 2 หลัง มีการยุบตัวลง แต่ไม่ถึงพังทลายลงมา โดยจากการตรวจสอบ พบว่ามีแนวรอยเลื่อนจำนวนมาก กระจายอยู่รอบหมู่บ้าน

ผู้เชี่ยวชาญจาก กรมทรัพยากรธรณี ยังเผยอีกว่า จากการลงพื้นที่และใช้เครื่องมือตรวจวัดทำให้เจ้าหน้าที่คณะตรวจสอบได้ข้อสรุปใหม่ว่า ศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 5 พ.57 อยู่ที่ ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ไม่ใช่ที่ ต.ทรายขาว อ.พาน เพราะมีแนวรอยแยกปรากฏอยู่จำนวนมาก ตามหลักวิชาการว่า พื้นที่ที่เป็นจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว จะมีการสั่นสะเทือนมาก มีการเคลื่อนตัวมากถึง 2.6 เซนติเมตร ทำให้มีรอยเลื่อนเกิดขึ้นมากตามไปด้วย

 

แผ่นดินไหวทำให้พื้นถนนแตกเป็นทางยาว

นอกจากนี้ นายสมใจ และ นายสุวิทย์ ยังระบุอีกว่า ในกรณีที่ อ.พาน พบความเสียหายต่อตัวอาคารและสิ่งปลูกสร้างหลายแห่ง เนื่องจากความหนาแน่นของตัวอาคารและสิ่งปลูกนั้นมีความหนาแน่นมากกว่า จึงทำให้เสียหายมาก ส่วน อ.แม่ลาว บ้านเรือนส่วนมากสร้างด้วยไม้ ความหนาแน่นน้อยกว่า จึงไม่ค่อยได้รับความเสียหาย แต่หลังจากตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ในวันที่ 9 พ.ค.จะออกตรวจสอบตามแนวรอยเลื่อนต่อใน 4 พื้นที่ ได้แก่ ต.โป่งแพร่ และ ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว ต.แม่สรวย อ.แม่สรวย และต.แม่กรณ์ อ.เมือง ต่อไป.

[ร้อยป่า]

ภาพความเสียหาย

[ร้อยป่า]

ชงรื้อ"พรบ.คุมอาคาร" รับมือภัยแผ่นดินไหว

รมต.ปวีณา รุดเยี่ยมชาวเชียงราย ที่อ.พาน และอ.แม่ลาว หลังประสบภัยแผ่นดินไหว เผยห่วงสภาพจิตใจชาวบ้านเสียขวัญหลังเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาหลายครั้ง สั่งพม.ส่งนักสังคมสงเคราะห์เข้าไปดูแลเยียวยาตามบ้าน ขณะที่ประชุมวุฒิสภา ส.ว.เชียงราย ชงปรับปรุง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร รองรับเหตุแผ่นดินไหว ส่งทีมแพทย์-นักจิตวิทยา เข้าไปช่วยเหลือ พร้อมประสานจุฬาฯ ส่งนักวิชาการ ร่วมกับโยธาฯจังหวัด สำรวจตึกที่ได้รับความเสียหาย สั่ง สนง.เลขาวุฒิฯ เปิดรับบริจาคเงินจากสมาชิก นำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย



เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 9 พ.ค. นางปวีณา หงสกุล รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ที่ปรึกษา รมว.พม. นายวิเชียร ชวลิต ปลัดพม. และนางญาณี เลิศไกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ พร้อมคณะผู้บริหาร ทุกภาคส่วน เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในพื้นที่ จ.เชียงราย ที่ร.ร.บ้านห้วย ส้าน ม.13 ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว และอบต.ธารทอง อ.พาน โดยมอบถุงยังชีพ และมอบเงินสงเคราะห์ผู้ประสบปัญหากรณีฉุกเฉิน จำนวน 10 ราย ก่อนจะไปเยี่ยมประชาชนและกลุ่ม ผู้สูงอายุ ที่วัดดงมะเฟือง บ้านจอมหมอกแก้ว อ.แม่ลาว และมอบถุงยังชีพและมอบเงินสงเคราะห์ผู้ประสบปัญหากรณีฉุกเฉิน จำนวน 15 ราย



นางปวีณากล่าวว่า พม.มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ จึงเดินทางลงพื้นที่ตรวจดูความเสียหาย และเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชน ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพและมอบเงินสงเคราะห์ผู้ประสบปัญหากรณีฉุกเฉิน ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อช่วยบรรเทา ความเดือดร้อนของประชาชนในเบื้องต้น จำนวน 2,500 ครอบครัว ครอบครัวละ 2,000 บาท รวมเป็นเงิน 5 ล้านบาท นอกจากนี้ พม.ได้ส่งนักสังคมสงเคราะห์ไปดูแลสภาพจิตใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบอีกด้วย



"หลังแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 5 พ.ค. แล้วยังมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 03.43 น. วัดระดับความแรงได้ที่ 4.7 ริกเตอร์ ยิ่งทำให้ชาวบ้านที่ขวัญเสียและหวาดกลัวมากขึ้น จึงมีคำสั่ง และขอความร่วมมือกับนักสังคมสงเคราะห์ในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง ให้เข้ามาช่วยดูแลสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ของชาวบ้าน โดยให้นักสังคมสงเคราะห์เข้าไป ดูแลทุกๆ บ้านที่ประสบภัย ส่วนงบประมาณเฉพาะช่วยเหลือเร่งด่วนจากเหตุแผ่นดินไหว 500 ล้านบาทนั้น คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไปแล้ว กำลังรอทางจังหวัดสรุปสำรวจความเสียหายเพื่อนำเสนอไปยังรัฐบาลอย่างเป็นทางการ" นางปวีณากล่าว



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว จ.เชียงราย แถลงว่า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 7 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.พาน อ.แม่ลาว อ.แม่สรวย อ.เวียงชัย อ.ป่าแดด และ อ.พญาเม็งราย รวมทั้งสิ้น 45 ตำบล 519 หมู่บ้าน 18,488 ครอบครัว มีผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบจำนวน 54,542 คน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บ้านเรือนเสียหายทั้งหลังจำนวน 12 หลัง บ้านเสียหายบางส่วน 8,371 หลัง วัดเสียหาย 63 แห่ง โรงเรียนเสียหาย 3 แห่ง โรงแรมเสียหาย 1 แห่ง สะพานเสียหาย 4 แห่ง ถนนเสียหาย 5 สาย สถานที่ราชการเสียหาย 31 แห่ง อาคารชุมชนเสียหาย 1 แห่ง ระบบไฟฟ้าเสียหาย 2 แห่ง และท่อส่งน้ำประปาหมู่บ้านเสียหาย 1 แห่ง ซึ่งตัวเลขที่ยังไม่ครบถ้วนเพราะบางจุดอยู่ระหว่างการสำรวจ



วันเดียวกันที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา สมัยวิสามัญ โดยนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ก่อน เข้าสู่วาระได้เปิดให้สมาชิกหารือถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยนายมงคลชัย ดวงแสงทอง ส.ว.เชียงราย หารือถึงกรณีแผ่นดินไหว ที่จ.เชียงรายว่า ได้ประสานจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่งนักวิชาการมาประสานกับโยธาธิการจังหวัด เพื่อสำรวจอาคารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบและไม่กล้ากลับเข้าไปอาศัยในบ้านเรือน เห็นว่าควรระดมบุคลากรทางการแพทย์และนักจิตวิทยาเข้าไปช่วยเยียวยาประชาชน



นายมงคลชัยกล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาระยะยาวควรมีการทบทวน พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร เพื่อรองรับเหตุแผ่นดินไหว ขณะที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรมีบทบาทให้ความช่วยเหลือ ส่วนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยควรให้มีการจัดซ้อมรับเหตุแผ่นดินไหว นอกจากนี้ ควรตั้งคณะทำงานเพื่อหารือกับบริษัทประกันภัย ให้เป็นหลักประกันแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ



จากนั้น นายสุรชัยชี้แจงว่า จะนำข้อเสนอดังกล่าวแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เปิดรับบริจาคเงินจากสมาชิก เพื่อนำไปช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยด้วย

[ร้อยป่า]

ทีมงานฯสรุปความเสียหายเบื้องต้นวันนี้!! จากการลงสำรวจความเสียหายเหตุแผ่นดินไหว
วันที่ 08 พฤษภาคม 2557 ทีมงานร่วมด้วยช่วยกันจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว ในพื้นที่ ต.จอมหมอกแก้ว อ.แม่ลาว และ ต.ธารทอง อ.พาน จ.เชียงราย ความเสียหายดังนี้

ที่วัดดงมะเฟือง ตำบลจอมหมอกแก้ว อำเภอแม่ลาว โดยพระปลัดฐิติรัชกฤต อุทโย เจ้าอาวาสวัดดงมะเฟือง กล่าวกับทางทีมงานว่า ขณะนี้สิ่งปลูกสร้างต่างๆภายในวัดได้รับความเสียหายทั้งหมด ไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายทั้งหมดได้ อยากให้ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมมาสำรวจว่าสามารถบูรณะซ่อมแซมได้หรือไม่ อย่างไร ขณะนี้รอเพียงการช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆและคณะศรัทธาผู้ใจบุญทั้งหลาย ซึ่งสามารถติดต่อได้ที่ 081-9196285

จากนั้นเดินทางไปที่บ้านของคุณสมพัตร อุดทาคำ ที่บ้านเลขที่ 160/1 บ้านป่ารวก หมู่ 4 ต.ธารทอง อ.พาน จ.เชียงราย คุณสมพัตร ให้ข้อมูลว่า บ้านหลังนี้สร้างเสร็จมาไม่นาน สภาพบ้านพังทลายทั้งหลัง โชคดีขณะเกิดเหตุไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ รถยนต์กระบะ1 คันและรถจักรยานยนต์อีก 5 คันถูกบ้านพังทับเสียหายทั้งหมด มาถึงตอนนี้ยังไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรต่อไป รอเพียงการช่วยเหลือจากหน่วยงานทางราชการ ซึ่งล่าสุดนายหวิง ไชยวงค์ ผู้ใหญ่บ้านป่ารวก แจ้งว่า ทางจังหวัดพิจารณาช่วยเหลือแล้วเพียง 33,000 บาท

และที่บ้านของน.ส.นงเยาว์ สมมณี บ้านเลขที่ 320บ้านป่ารวก หมู่ 4 ต.ธารทอง อ.พาน จ.เชียงราย เล่าว่า บ้านหลังนี้สร้างมา 4 ปี ประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ สภาพบ้านตอนนี้ถึงไม่พังทลายลงมาทั้งหลัง แต่ก็ไม่สามารถเข้ามาพักอาศัยอยู่เหมือนเดิมเดิมได้ ขณะนี้ตัวบ้านมีรอยแตกร้าว ฐานด้านล่างกำลังจะทรุดตัวลงจากแรง Aftershock ทำได้เพียงตัดท่อนไม้ขนาดเท่าๆกันนำมาหนุนพยุงตัวบ้านไว้ก่อน เพื่อรอการช่วยเหลือ

นอกจากนี้ยังพบว่า ที่บ้านป่ารวก หมู่ 4 ต.ธารทอง อ.พาน จ.เชียงรายแห่งนี้ พี่น้องชาวบ้านกว่า 13 ครัวเรือน ยังคงอยู่ในความหวาดผวา ต่างอาศัยกางเต้นท์นอนรวมกันอยู่กลางทุ่งนา เพราะ Aftershock ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทุกคนจึงไม่กล้าเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้าน ต่างรอความหวังจากทุกภาคส่วนเข้าไปเยียวยาให้การช่วยเหลือ ต่อไป

[ร้อยป่า]

มีรอยร้าวทั่วบริเวณพระธาตุครับ

[ร้อยป่า]

เนื่องจาก  วัดพระธาตุจอมหมอกแก้ว มีพระภิกษุที่จำพรรษาอยู่เพียงไม่กี่รูป มีเจ้าอาวาสวัดอยู่เพียง 1 องค์ และพระลูกวัดอีก 2 รูป เจ้าอาวาสวัดอาพาธอยู่หลายโรค อาทิ โรคหัวใจ เบาหวาน และเริ่มไตเสื่อมนิดๆ และมีอายุมากแล้ว สุขภาพภาวะร่างกายและอารมณ์ไม่ค่อยดี เนื่องจากสุขภาพที่ไม่ดีของสังขารท่านที่เริ่มเสื่อมไปตามกาละเวลา ส่วนพระลูกวัดก็มีอยู่เพียง 2 รูป รูปหนึ่งดูแลแทนท่านเจ้าอาวาสวัดชื่อ หลวงพี่มหาวิชัย ท่านเป็นเรี่ยวแรงในการดูแลวัด ส่วนอีกรูปหนึ่ง ชื่อ หลวงตาดุสิทธิ์ ท่านบวชที่ประเทศอินเดียและเพิ่งมาพักจำพรรษาที่วัดนี้ เนื่องจากที่วัดได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก จึงขอแรงพุทธศาสนิกชนไปช่วยกันดูแลด้วย

[ร้อยป่า]

เฝ้าระวัง! อีก5รอยเลื่อนเหนือ อาฟเตอร์ช็อกซ้ำ ถึงกว่า100ครั้ง! แรงสุดรอบพันปี ยอดตาย1เจ็บ23 ฝนถล่มกรุงอ่วม

อาฟเตอร์ช็อกเขย่าซ้ำ 100 ครั้ง ชาวบ้านผวาย้าย นอนเต็นท์ นักวิชาการคาดยังไหวอีก 7 วัน เผยเขย่าแรงสุดในรอบพันปี ทธ.สั่งจับตาอีก 5 รอยเลื่อนภาคเหนือ "ชัชชาติ" รุดตรวจถนนพัง วอนหยุดปล่อยข่าวลือดินไหว ปภ.เผยยอดดับแล้ว 1 เป็นแม่เฒ่าเชียงรายโดนฝาบ้านถล่มทับ บาดเจ็บรวม 23 คน ด้านวัดร่องขุ่นก็พังยับ อ.เฉลิมชัยชี้ถ้าซ่อมไม่ได้ ปล่อยทิ้งเป็นอนุสรณ์ สรุปโบราณสถานเสียหาย 16 แห่ง ทุกเขื่อนยันดินไหวไม่กระทบ ปภ.เตือน 8 จว.เหนือ-ระวังดินถล่มซ้ำ รัฐบาลตั้งคกก.ช่วยเหลือผลกระทบแผ่นดินไหว ขณะที่มหา"ลัยสั่งสอบน.ศ.มั่วภาพ-อ้างตกบันไดดับ



"ชัชชาติ"รุดตรวจถนนพัง



เมื่อ วันที่ 6 พ.ค. สำหรับสถานการณ์แผ่นดินไหวความรุนแรง 6.3 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.ทรายขาว อ.พาน จ.เชียงราย ซึ่งสร้างความเสียหายให้บ้านเรือน อาคาร สถานที่ราชการและวัดจำนวนมาก โดยถือเป็นเหตุแผ่นดินไหวที่รุนแรงมากที่สุดในประเทศไทย แรงสั่นสะเทือนรู้สึกถึงพื้นที่กรุงเทพฯ และภาคอีสาน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา



ความคืบหน้า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ปฏิบัติหน้าที่รมว.คมนาคม ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพผิวถนนทางหลวงหมายเลข 118 ระหว่างเชียงราย-เชียงใหม่ บริเวณบ้านห้วยส้าน ต.ดงมะคะ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ซึ่งถนนเกิดทรุดตัวหลังเกิดแผ่นดินไหวเป็นทางยาวกว่า 1 ก.ม. โดยนายชัชชาติแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยว ข้องดูแลเรื่องความปลอดภัยแก่ผู้ใช้เส้นทาง



นายชัช ชาติกล่าวว่า ขณะนี้แขวงเชียงราย 1 ตรวจสอบความเสียหาย พบทางหลวงที่ได้รับความเสียหายและสั่งปิด 2 เส้นทาง ได้แก่ ทางหลวง 118 ช่วงก.ม.141 (บ้านโป่งฟูเฟือง) สภาพความเสียหาย โครงสร้างทางมีการแตกร้าวเป็นแนวยาว และแนวขวางประมาณ 200 เมตร ผิวทางต่างระดับประมาณ 1-3 ซ.ม. และทางหลวง 118 ก.ม.151-152 (บ้านห้วยส้านยาว) สภาพความเสียหาย ผิวทางทรุดตามแนวยาวประมาณ 500-600 เมตร ผิวทางต่างระดับประมาณ 1-2 เมตร นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการแก้ไข โดยประสานไปศูนย์สร้างทางลำปางเข้าดำเนินการในช่วงก.ม.151-152 ซึ่งจะเข้าดำเนินการแก้ไขให้ผิวจราจรภายใน วันที่ 6 พ.ค.นี้



วอนหยุดปล่อยข่าวลือดินไหว



นาย ชัชชาติกล่าวอีกว่า ส่วนท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงยังเปิดให้บริการตามปกติ แต่พนักงานควบคุมการจราจรทางอากาศได้ลงมาใช้ระบบสำรองที่ด้านล่าง โดยติดต่อโดยใช้ระบบวิทยุสื่อสาร ขณะที่ระบบสื่อสารต่างๆ ยังใช้การได้ดี ตัวหอมีกระจกร้าว 4 บาน อย่างไรก็ตาม สั่งการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย จัดเส้นทางหนีภัยให้ชัดเจนและจัดเจ้าหน้าที่ประจำจุด พร้อมทั้งให้งดใช้สะพานเทียบชั่วคราว เปลี่ยนไปใช้ทางจอดระยะไกลและบันไดเทียบข้างแทนเพื่อความปลอดภัยในการอพยพ และลดความเสี่ยงของความเสียหายจากสะพานเทียบกับตัวเครื่อง และยังให้เพิ่มความระวังสิ่งของที่จะร่วงใส่ ผู้โดยสาร เช่น ฝ้า ไฟ ผนัง ป้าย



"ปัญหาเกิดอาฟเตอร์ช็อกยังน่าเป็นห่วง เมื่อคืนที่ผ่านมาผมหนีภัยมากกว่า 3 ครั้ง และขอเตือนประชาชนอย่าสร้างข่าวเท็จ การเผยแพร่ข้อมูลข่าวเท็จในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กโดยไม่รู้จริงจะสร้างความ สับสนให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ จึงขอความกรุณาหยุดการกระทำดังกล่าว เช่น การปล่อยข่าวเขื่อนแตก โรงเรียนถล่มทับนักเรียนเสียชีวิต โดยขอให้รอฟังข่าวจากจังหวัดเป็นหลัก ซึ่งจะแจ้งเตือนประชาชนทุก 2 ช.ม." นายชัชชาติกล่าว



เกิดอาฟเตอร์ช็อกนับ 100 ครั้ง



ที่ จ.เชียงราย ภายหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่ พบยังคงเกิดอาฟเตอร์ช็อกหลายครั้งตลอดคืนที่ผ่านมาจนมาถึงช่วงเช้า โดยที่วัดอุดมวารี บ้านสันต้นม่วง ม.10 ต.ทรายขาว อ.พาน พระพุทธอุดมมงคลหรือหลวงพ่อขาว สร้างเมื่อปี 2528 ได้พังเสียหาย นอกจากนี้ อาคาร อุโบสถ กุฏิ หอไตร และห้องสมุด เกิดรอยร้าวอย่างหนักแทบทุกอาคาร ส่วนพระครูอุดม วีรวัฒน์ ติขะวิโร เจ้าอาวาสก็ได้รับบาดเจ็บที่แขนเล็กน้อยจากเศษกระจกบาด ล่าสุดพระสงฆ์และชาวบ้านต่างช่วยกันเก็บกวาดเศษซากของอิฐที่ร่วงหล่นลงมา แม้ขณะกำลังเก็บกวาดก็ยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกขึ้นอีก ทำให้ชาวบ้านตกใจเป็นระยะ



นอกจากนี้ โรงเรียนบางแห่งในจังหวัดเริ่มทยอยเปิดเรียนวันนี้เป็นวันแรก แต่ผู้ปกครองส่วนใหญ่เกรงอาจไม่ปลอดภัยจากเหตุแผ่นดินไหว ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบ เหงา และโรงเรียนหลายแห่งเลื่อนเปิดเรียนไปอีก 1 สัปดาห์เพื่อความปลอดภัย



ด้าน สำนักงานอุตุนิยมวิทยา จ.เชียงราย แจ้งว่าหลังแผ่นดินไหวมีอาฟเตอร์ช็อกความแรง 2-4 ริกเตอร์ตามมา กระทั่งเวลา 04.00 น. ได้สั่นไหวแรง 5.1 ริกเตอร์ ศูนย์กลางอยู่ที่ อ.พาน และเวลา 06.04 น.สั่นสะเทือนแรง 5.2 ริกเตอร์ ศูนย์กลางที่ อ.แม่สรวย เวลา 07.50 น.สั่นสะเทือนแรง 5.6 ริกเตอร์ ศูนย์กลางที่ อ.พาน และเวลา 07.58 น. สั่นสะเทือนแรง 5.6 ริกเตอร์ ศูนย์กลางที่ อ.แม่สรวย จากนั้นยังมีการสั่นไหวเบาๆ อย่างต่อเนื่องมากกว่า 100 ครั้ง โดยเฉพาะ อ.แม่ลาว ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง



แม่เฒ่าเชียงรายดับ-เซ่นดินเขย่า



ขณะ ที่นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผวจ.เชียงราย จัดประชุมกองอำนวยการแก้ไขปัญหาเหตุแผ่นดินไหวและประกาศให้ อ.พาน อ.แม่ลาว อ.ป่าแดด บางส่วนของ อ.แม่สรวย อ.เมือง อ.เวียงชัย และอ.พญาเม็งราย เป็นพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหว พร้อมสรุปผลความเสียหายพบมีผู้เสียชีวิต 1 คน ทราบชื่อนางแสง รินคำ อายุ 83 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 ม.8 ต.โป่งแพร่ อ.แม่ลาว โดยเสียชีวิตขณะอยู่ในบ้านคอนกรีตที่มีฝาบ้านเป็นคอนกรีตบล็อก และช่วงเกิดเหตุฝาบ้านพังทลายลงมาทับจนเสียชีวิต ส่วนผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่มี 23 คน ซึ่งจังหวัดสั่งการให้ทุกอำเภอสำรวจความเสียหายให้ชัดเจนเพื่อช่วยเหลือทั้ง จ่ายค่าชดเชยบ้านที่พังเสียหายทั้งหลัง ซึ่งพบมี 4 หลังในอ.แม่ลาว ส่วนบ้านที่พังเสียหายมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล



สำหรับ บ้านของผู้เสียชีวิตในอ.แม่ลาว พบญาติของนางแสงนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านญาติภายในหมู่บ้านเดียวกัน เนื่องจากจุดเกิดเหตุตัวบ้านยังเสี่ยงต่อการพังเสียหายและอยู่บนเนินเขา รวมทั้งยังมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นอยู่



"วัดร่องขุ่น"เสียหายยับ



สำหรับ ชาวบ้านจำนวนมากโดยเฉพาะ อ.แม่ลาว ได้ตั้งเต็นท์ในที่โล่ง โดยส่วนใหญ่ยังไม่กลับเข้าไปนอนในบ้านเนื่องจากบ้านยังมีความเสียหายและ เสี่ยงต่อการทรุดตัว รวมทั้งเกิดอาการหวาดกลัวจากอาฟเตอร์ช็อก ที่ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ถนนสายแม่สรวย-เวียงป่าเป้า ซึ่งเป็นถนนสายหลักไปจ.เชียงใหม่ และเกิดการทรุดเสียหายลึกกว่า 2 เมตร ยาวประมาณ 50 เมตรนั้น เจ้าหน้าที่กั้นให้รถวิ่งผ่านทางเดียว ทำให้การจราจรติดขัดใน บางช่วง



ด้านวัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ แม้ว่านายเฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ผู้รังสรรค์ผลงานสร้างวัดดังกล่าวจะประกาศปิดไม่ให้เข้าชมภายในวัดชั่วคราว จนกว่าจะซ่อมแซมเสร็จ พบยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าชม โดยยืนอยู่ด้านนอกจุดกั้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม ขณะที่สภาพของวัดพบยอดฉัตรส่วนปลายของอาคารหลังหนึ่งหักและโค้งงอ หลังคาแตกและพังทลายลงมาหลายจุด



นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ความเสียหายของวัดร่องขุ่นตรวจสอบพบเสียหายทั้งโครงการ ทั้งโบสถ์ หอพระธรรมและสะพานสุขาวดี ซึ่งต้องขอสำรวจอีกครั้ง แต่หากซ่อมแซม ไม่ได้ก็จะปล่อยทิ้งไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ของเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้



สอบน.ศ.แพร่ข่าวตกบันไดดับ



ส่วน กรณีสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์ภาพนักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย นอนตกบันไดเสียชีวิตหลังตกใจแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนพบเป็นการหยอกล้อกันในกลุ่มเพื่อน ทำให้เป็นที่วิจารณ์ในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กถึงความไม่เหมาะสม



ล่า สุดนายปรมินทร์ อริเดช คณบดีคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย กล่าวว่า ได้พูดคุยกับนักศึกษาแล้วและตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งนักศึกษาคนดังกล่าวศึกษาอยู่ชั้นปี 3 โดยให้ข้อมูลว่าภาพดังกล่าวถ่ายไว้นานแล้ว ในภาพเกิดอุบัติเหตุตกบันไดจริง ซึ่งเพื่อนถ่ายไว้ โดยเพื่อนของนักศึกษาที่เป็นบุคคลภายนอกเป็นผู้โพสต์ภาพลง เฟซบุ๊ก ซึ่งขณะนี้มหาวิทยาลัยเรียกตัวมาอบรมและตักเตือน พร้อมดำเนินการตามระเบียบ นอกจากนี้ ผู้โพสต์ภาพได้ทำหนังสือชี้แจงและขอโทษบุคคลที่อยู่ในภาพ พร้อมขอโทษมหาวิทยาลัย

[ร้อยป่า]

สรุปความเสียหาย วัดพระธาตุจอมหมอกแก้ว  ดังนี้.....

1.) กุฏิที่พักพระ หลังเล็ก ( หลังคาสีเขียว ) พื้นยุบ คานหัก ทรุดลงไป
2.) องค์พระธาตุ
3.) รอยร้าวบนพื้นพระธาตุ
4.) ศาลาหลังใหม่ หลังพระธาตุ ( บูรณะใหม่ )
5.) ศาลแม่ย่าสร้อยมาลา
6.) ศาลสมเด็จพระนเรศวร
7.) ศาลาที่พักริมบันไดนาค
8.) กุฏิเจ้าอาวาสวัด
9.) กุฏิที่พักริมห้องน้ำด้านหลัง