|
|
|
|
|
harmony
ชั้นประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 144
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 31 มีนาคม 2014, 18:56:14 » |
|
ยังดับไม่ได้ครับ เพราะธรรมชาติของร่างกายเรา ฮอร์โมน หรือสารเคมี มันทำงาน ตามปกติเมื่อมีสิ่งเร้า หรือถูกกระตุ้น มันจะทำให้ กิเลส มันทำงานในทันทีที่ถูกกระตุ้น เพราะนิสัยเรามันสั่งสมกิเลสมาเป็นแบบนี้ เรื่อง กามไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องเพศ แม้แต่ติดใจในรสชาติอาหาร ก็ยังเป็นการติดในกามครับ มีแต่วิธีกดข่มมันไว้เท่านั้น โดยการใช้สมาธิ หรือการพิจารณาร่างกาย เป็นของไม่สวย ไม่งาม พอทำสมาธิมาก ๆ เข้า เราจะได้ตัวที่เรียกว่า สติ และเอาตัวสตินี่แหละ ไปรู้ทัน เวลาใดที่เรามีความรู้สึก ว่ามีกามราคะเกิดขึ้น เมื่อสติระลึกได้ กามราคะก็จะดับไป แล้วสติมันก็จะจำสภาวะนี้ไว้ เมื่อใดสภาวะกามราคะเกิด เมื่อสติระลึกได้มันก็จะดับหายไป เมื่อเราฝึกมาก ๆ เข้า สติมันจะเร็ว พอมีกามราคะเกิดปุ๊บ สติระลึกได้ กามราคะจะดับปั๊บ แต่ต้องอาศัยการฝึก อาจต้องใช้เวลานานหลายปี หรือ ถ้าบุญบารมีมาก ก็จะเข้าใจได้ใน ทันที หาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่นี่ครับ www.wimutti.net
|
|
|
|
|
|
|
|
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 1,579
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 06 เมษายน 2014, 18:36:29 » |
|
ไหว้สา พระธัมม์ สายบุญ คนบ้า มักไม่รู้ตัว ว่า ตนบ้า คนโง่ มักโกรธ หากมีคนว่าตนง่าว แต่ คนบ้า คนง่าว ที่ยังรู้ตัว ยอมรับตัวตน ถึงยังมีอัตตาตัวตนอยู่ อย่างหนา พวกนี้ ค่อยยังดี ดีกว่าค่อยยังชั่ว ยังไม่รู้สึกตัว ว่า บ้า ว่า ง่าว เขาเหล่านี้ คือ คนผู้มีโอกาสพัฒนา ไปสู่ ความเป็น นักปราชญ์ ชาติบัณฑิต ได้ ทว่า ต้องลดละ อัตตา มานะตน ลดมิจฉาทิฏฐิ อันใดไม่ใช่ วิสัย วิถี ของ นักธัมมะ ที่ดี ต้องฝึกฝีน ลดละ ทิ้งขว้างออกไป อาสัยอิทธิบาท 4 มีความวิริยะ อุตสาหะ เพียร พยายาม คำเมืองว่า เปียนไปติกๆ เหมือน คนขนมีด ขนพร้า คน ฝนทั่งให้เป็นเข็ม ใช้สติ ปัญญาทางธัมมะ มาให้ จิตคิดบวก กำกึ๊ดดี เหล็กจี เป๋น พร้าโต้ กำกึ๊ดโล้ พร้าโต้ เป๋น เหล็กจี การกินมูตร ไม่ใช่สิ่งน่าอาย อย่าได้แคร์ ศาสนาใดๆ จงสัทธา ใน การตรัสรู้ ของ พระสัพพัญญู สัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งปวง ท่านทรงเล็งพระพุทธญาณ ว่า ดี พระบวชใหม่ อุปัชฌายะ คือ ผู้รับผู้บวชให้เข้าหมู่ภิกษุ ท่านจะบอกให้ ตั้งแต่ยังไม่ออกจากโบสถ์ ว่า จง ทำสิ่งเหล่านี้ มี ฉันยาดองน้ำมูตร / อยู่ป่าเขาโคนไม้ / ออกกุมบาตรเพื่อหาอาหารการกินขบฉัน / ใช้ผ้านุ่งห่มจากที่เขาทิ้งแล้ว หรือ ผ้ารีไซเคิล ผ้าไตรเก่าผ่านการใช้งานมาก่อน ก็อาจอนุโลมเป็นไปได้ แม้น กินคูตร คือ ขี้ พระพุทธเจ้า ยังทรงแนะนำ นักบวชที่โดนงูพิษขบกัด ฉันเป็นยา แต่ ต้องอย่าให้อุจจาระ ตกถึงพื้น สาธุ ๆ ๆ อนุโมทามิ
|
หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์ โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m มือถือ 081 777 51 76
|
|
|
|
|
|
|
naylex
ระดับ :ป.โท
ออฟไลน์
กระทู้: 2,993
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 10 กันยายน 2014, 10:49:15 » |
|
ฟังหลวงพ่อปราโมทย์ เทศน์ ท่านว่า อย่าระงับกิเลส แต่ให้มีสติ เห็นตัวกิเลส เห็นมันตามหลักไตรลักษณ์ คือ เห็นว่ากิเลสเกิดมา ตั้งอยู่ ดับไป เป็นอนิจจัง เห็นทุกข์ที่เกิดจากกิเลสเป็นเหตุ เห็นความไม่คงทนของกิเลส เป็นอนัตตา เห็นมันไปอย่างนั้น อย่าอยากจะดับมัน หรือ ฝืนใจระงับมัน เพราะไม่เพียงแต่จะไร้ผล กลับยิ่งเพิ่มกิเลส ให้เห็นมัน คอยดูมัน ขณะที่เราเห็นและดูมันนั้น เราจะอยู่ในกรรมฐาน คือวิปัสสนากรรมฐาน ขณะนั้นเราจะไม่หลงไปกับกิเลส คือระงับกิเลสเฉพาะตัวที่เราเห็นแบบอัตโนมัติ เป็นการระงับที่เกิดขึ้นเอง ไม่ได้เป็นการบังคับกาย บังคับใจให้ระงับ เมื่อเราเห็นกิเลสที่เกิดขึ้น เห็นมันตามหลักไตรลักษณ์ เชื่อว่าจะเกิดปัญญา เป็นปัญญาที่สามารถชนะกิเลสได้จริง แม้ไม้ถาวร แต่ก็ได้ชนะบ้างเป็นครั้งๆไป ผิดถูกประการใดขออภัย และขอผู้รู้เพิ่มเติมด้วยครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 10 กันยายน 2014, 11:05:36 โดย naylex »
|
IP :
บันทึกการเข้า
|
ปรารถนาสารพัดในปฐพี เอาไมตรีแลกได้ดั่งใจจง
|
|
|
|
|
ร้อยป่า
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 1,864
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 10 กันยายน 2014, 17:54:28 » |
|
เครื่องดับไฟราคะ / Extinguish the great fire of lust.
*I am burning with sensual lust, my mind is engulfed by fire. Please tell me how to extinguish it, out of compassion, 0 Gotama. ข้าพเจ้าเร่าร้อนเพราะกามราคะ จิตของข้าพเจ้ารุ่มร้อน ขอท่านจงบอกวิธีเป็นเครื่องดับราคะ เพื่ออนุเคราะห์แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด ท่านผู้โคดม ฯ
"It is through an inversion of perception; That your mind is engulfed by fire. Turn away from the sign of beauty; Provocative of sensual lust. See formations as alien, as suffering, not as self. Extinguish the great fire of lust; Don't burn up again and again.' Develop the mind on foulness; One-pointed, well concentrated; Apply your mindfulness to the body; Be engrossed in revulsion. Develop meditation on the signless, and discard the tendency to conceit. Then, by breaking through conceit; You will be one who fares at peace." จิตของท่านรุ่มร้อน เพราะสัญญาอันวิปลาส ท่านจงละเว้นนิมิตอันสวยงาม อันเป็นที่ตั้งแห่งราคะเสียท่านจงดับราคะอันแรงกล้า ท่านจงอย่าถูกราคะเผาผลาญบ่อยๆ ท่านจงเจริญจิตในอสุภกัมมัฏฐาน ให้เป็นจิตมีอารมณ์เป็นอันเดียวตั้งมั่นด้วยดีเถิดท่านจงเห็นสังขารทั้งหลาย โดยความเป็นของแปรปรวน เห็นสังขารโดยเป็นทุกข์และอย่าเห็นโดยความเป็นตน ท่านจงมีกายคตาสติ ท่านจงเป็นผู้มากด้วยความหน่าย ท่านจงเจริญความไม่มีนิมิต และจงถอนมานานุสัยเสีย เพราะการรู้เท่าถึงมานะ ท่านจักเป็นผู้สงบระงับเที่ยวไป ฯ
Saññāya vipariyesā cittaṃ te pariḍayhati, Nimittaṃ parivajjehi subhaṃ rāgūpasaṃhitaṃ. Saṅkhāre parato passa dukkhato mā ca attato, Nibbāpehimahārāgaṃ mā ḍayhittho punappunaṃ. Asubhāya cittaṃ bhāvehi ekaggaṃ susamāhitaṃ, Sati kāyagatā tyatthu nibbidābahulo bhava. Animittañca bhāvehimānānusayamujjaha, Tato mānābhisamayā upasanto carissasīti.
[๗/๗๓๗] สญฺญายวิปริเยสา จิตฺตนฺเต ปริฑยฺหติ นิมิตฺตํ ปริวชฺเชหิ สุภํ ราคูปสญฺหิตํ สงฺขาเร ปรโต ปสฺส ทุกฺขโต มา จ อตฺตโต นิพฺพาเปหิ มหาราคํ มา ฑยฺหิตฺโถ ปุนปฺปุนนํ อสุภาย จิตฺตํ ภาเวหิ เอกคฺคํ สุสมาหิตํ สติ กายคตา ตฺยตฺถุ นิพฺพิทาพหุโล ภว อนิมิตฺตญฺจ ภาเวหิ มานานุสยมุชฺชห ตโต มานาภิสมยา อุปสนฺโต จริสฺสสีติ ฯ
|
|
|
|
|