เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 20 เมษายน 2024, 01:35:03
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การเกษตร,ฟาร์มสัตว์,ปศุสัตว์ (ผู้ดูแล: bm farm)
| | |-+  นักเรียนโรงเรียนชาวนาพุทธเศรษฐศาสตร์
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 3 4 พิมพ์
ผู้เขียน นักเรียนโรงเรียนชาวนาพุทธเศรษฐศาสตร์  (อ่าน 19672 ครั้ง)
wongsa
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 202


« เมื่อ: วันที่ 22 มีนาคม 2014, 19:56:00 »

ตอนนี้ไปเป็นนักเรียนชาวนา หลักสูตร 1 ปี เรียนทุกวันเสาร์ ที่ไร่เชิญตะวัน ต.ห้วยสัก  ทาง ท่าน ว.วชิรเมธี อยากให้มีประชาชนในเชียงรายและใกล้เคียงที่สนใจไปเรียนด้วยกัน เรียนฟรี ขอแค่ห่อข้าวมาทานด้วยกัน และมีชุดทำนาไปด้วย  ตอนนี้ที่เรียนไปแล้วมีเรื่องการทำจุลินทรีย์เพื่อปรับปรุงดิน ทำน้ำหมัก ทำนาอินทรีย์ ทำปุ๋ยหมัก แต่ยังเรียนไปไม่มาก โดยส่วนใหญ่เป็นเกษตรอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี ใช้สมุนไพร และของใกล้ตัวค่ะ และยังมีนักเรียนใหม่ทยอยไปเรียนเรื่อย ๆ  จึงขอแจ้งให้ท่านที่สนใจ ไปเรียนด้วยกัน บรรยากาศการเรียนแบบสบาย ๆ  และได้ความรู้จากอาจารย์ปราชญ์ชาวบ้านที่ทำมาแล้ว  เริ่มเรียนตั้งแต่เวลา 09.00 - 16.00 น.
IP : บันทึกการเข้า
~ lทวดาไร้ปีก ~
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 609



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 22 มีนาคม 2014, 23:01:09 »

ตอนนี้เริ่มเรียนกันนานรึยังครับ
IP : บันทึกการเข้า


Thanks: ฝากรูป [url=http
Ck 401
"....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,267


...งานหนักไม่เคยฆ่าคน...


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 23 มีนาคม 2014, 08:50:34 »

เรื่องดี ดี
ปักหมุดให็แล้วนะครับ
เข้ามาเพิ่มข้อมูลบ้างนะครับ
ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

"....คณะเรา ไม่ยอมให้ด้อยถอยลง ต่ำเราต้องค้ำชูให้สูงจรุงศรี....."
....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา  ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
wongsa
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 202


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 23 มีนาคม 2014, 20:27:55 »

ไปเรียนวันแรก 8 ก.พ. 57 ค่ะ เรียนร่วมกันกับนักเรียนรุ่นแรก แต่อาจารย์ผ่าน ปันคำ จะเน้นสอนให้รุ่นสอง และบางครั้งก็ให้นักเรียนรุ่นแรกมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ค่ะ
อยากให้ท่านที่สนใจทำเกษตรไปเรียนค่ะ หรือนำความรู้ไปแลกเปลี่ยนกัน
อาจารย์ที่สอน เป็นหลัก คือ อ.ผ่าน กับ อ.พรรณพิมล ปันคำ เป็นปราชญ์ชาวบ้าน อยู่ ต.ศรีเมืองชุม อ.แม่สายค่ะ   และมีวิทยากรช่วย ก็เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ค่ะ  อาจารย์เขาผ่านประสบการณ์ทำมาแล้ว เราก็ไม่ต้องไปเริ่มต้นใหม่ เรียนรู้และต่อยอดได้เลย
ตอนนี้ความรู้ที่ได้จากการเรียน ก็ทำจุลินทรีย์หน่อกล้วย ใช้ปรับปรุงบำรุงดิน  และทำสมุนไพรไล่แมลง เอาไปฉีดไล่แมลงในสวนผักที่บ้านค่ะ สมุนไพรไล่แมลง ก็ช่วยไม่ให้แมลงมากินผัก แต่อาจจะฉีดบ่อยๆ 2-3 วัน แต่ทำไม่มากก็ไม่เหนื่อยค่ะ ตัวเองก็เพิ่งเป็นเกษตรกรมือใหม่ พอออกงานก็อยากอยู่บ้านด้วยวัยที่มากแล้ว มาเป็นนักเรียนชาวนา ก็ได้ความรู้ในการทำเกษตรมากขึ้นค่ะ
IP : บันทึกการเข้า
wongsa
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 202


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 23 มีนาคม 2014, 20:56:17 »

ดีใจที่แอดมิน ปักหมุดให้ ตอนแรกงง ว่าปักหมุดคืออะไร มาดูแล้วพอเข้าใจ ขอบคุณมากค่ะ ตัวเองเป็นเกษตรกรมือใหม่ ยังไม่มีความรู้ในการทำเกษตรเลยค่ะ เป็นลูกชาวนาแต่ไม่สนใจทำนา  พอออกงานก็ต้องหันกลับมาหาฐานเดิม ไปขอที่นาของแม่มาทำ ว่าจะทำเกษตรผสมผสาน ตอนนี้ปรับที่นา ยังไม่เรียบร้อย หมดเงินไปหลายหมื่นแล้ว แต่ก็ต้องทำให้ได้ หวังเป็นที่พึ่งในการอยู่รอดอย่างมีความสุขค่ะ  เข้ามาอ่านในห้องนี้บ่อย ๆ  หาความรู้ค่ะ  การไปเรียนที่โรงเรียนชาวนาฯ ก็ได้ความรู้เยอะค่ะ  อาจารย์ผ่านยำ้เสมอว่า ที่ผ่านมาเกษตรกรเราทำนาปีมีแต่หนี้กับซัง ทำนาปรังมีแต่ซังกับหนี้ จริงกันไหมค่ะ
เสาร์ที่ผ่านมา ทาง ท่าน ว.วชิรเมธี ได้เดินมาหาพวกเรานักเรียนปีสอง ที่กำลังเรียนเรื่องจุลินทรีย์  ท่าน ว.บอกว่า อยากให้มาเรียนกันเยอะ ๆ เพราะอยากให้ชาวนามีความรู้ เพื่อจะได้อยู่รอด  แล้วสามารถอยู่ได้โดยไม่เดือดร้อน และค่อยมีอยู่ดี มีธรรมะประจำใจ
การมาเรียนทุกวันเสาร์ บางคนบอกไม่มีเวลา แต่เราต้องจัดการตัวเองค่ะ และการเรียนไม่ได้มานั่งเรียน ช่วงเช้าไปดูแปลงนา ไปช่วยกันโยนนา เอาน้ำใส่ ใส่ปุ๋ย ดูความเป็นกรดด่างของดิน ถอนวัชพืช  แล้วช่วงบ่าย ค่อยมาเรียนรู้เรื่องเป็นสูตรในการทำ


* IMG_20140322_135947_0.jpg (75.51 KB, 640x480 - ดู 2685 ครั้ง.)

* P1100298.JPG (241.95 KB, 640x480 - ดู 2661 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
~ lทวดาไร้ปีก ~
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 609



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 24 มีนาคม 2014, 01:04:16 »

เยี่ยมครับ เป็นการช่วยเหลือ ให้ความรู้ที่ยั่งยืนจริง ๆ
IP : บันทึกการเข้า


Thanks: ฝากรูป [url=http
pradi
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 148


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 24 มีนาคม 2014, 07:02:36 »

เป็นอีกหนึ่งสถาบันที่มุ่งช่วยเหลือผู้รักการเกษตร องค์กรใดมีการฝึกอบรมแก่บุคคลากรบ่อยๆ ถึงแม้จะเสียงบประมาณ แต่จะมีผลทำให้องค์กรมีประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัดกว่าองค์กรที่ไม่ใส่ใจการพัฒนาบุคคลกร
ไปเรียนกัน   ผมกลับเข้ามาอยู่ในชุมชนเห็นเลยว่า บุคคลากรในสาขาอาชีพชาวนายังไม่ได้พัฒนา ทำแบบเดิมที่เคยทำ ไม่กล้าเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เคยทำ กลัวผลผลิตไม่ได้ตามเป้าที่เคยได้ กลัวเป็นคนแปลก ฯลฯ ไม่กล้าลอง ไม่กล้าค้นคว้า จ้องจับผิด

ผมเห็นแนวทางของท่าน ว.  ที่มีทุนให้นักวิจัยในแนวทางพุทธเศรษฐศาสตร์เพื่อมุ่งพัฒนาอาชีพเกษตรที่เป็นอาชีพหลักของประชากรของประเทศ เหมือนองค์กรที่มีหน่วยงาน ด้านวิจัยและพัฒนา(Research&Development)
ตอนนี้อยู่ที่ชาวนาจะสนใจใคร่รู้ละครับ ไปเรียนรับความรู้ แถมยังได้เพื่อน แลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์  ตามที่ผมเคยผมได้เพื่อนมีคุณค่ามากนอกเหนือความรู้ที่เรียนมา

ไปเรียนกันนักๆ ไกลหน่อย จะได้รู้สึกมีคุณค่ามากกว่าได้มาง่ายๆ ดีกว่าที่มาอบรมให้ถึงที บางคนก็ไม่เอามาใช้ให้เป็นประโยชน์

ผมมีตัวอย่าง
ผมเคยไปพบอาจารย์ อดิศร ผู้ดูแลโครงการ ๑ไร่๑แสน ทางกันดารมากเป็นโคลนติดล้อ รถปาเจโร่ของลูกน้องเก่าเขาขับมาส่ง  ขับมาเจอหลุมน้ำ เราเกรงใจเลย บอกกลับเถอะ มีรถขับตามหลังมาด้วย ก็วกกลับไปแล้ว คนที่ไปส่งเราเขาก็ดึงดัน ไปสิพี่ ทั้งที่เขาทำงานเป็นวิศวะใน ทศท. ไม่ใช่อาชีพเกษตร โชคดีที่เจอเพราะท่านจะอยู่เฉพาะวันพุธ พอไปเจอบ่นให้ท่านฟัง อาจารย์ท่านบอกว่า เป็นการคัดกรองผู้ที่สนใจจริงๆ ในระดับหนึ่ง  เพราะไม่งั้นก็จะต้องคอยต้อนรับแขกมากมาย เออคงจะจริงของท่าน

ไว้จะเล่าข้อคิดที่ไปพบอาจารย์เพื่อเป็นการดันกระทู้ให้ และให้มีความน่าสนใจ คนที่ไปอบรมอะไรที่ไหน เอามาเล่ามาแบ่งปันกันเลยครับ

IP : บันทึกการเข้า
wongsa
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 202


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 24 มีนาคม 2014, 19:39:08 »

อยากเชิญชวนเกษตรกรที่สนใจไปเรียนด้วยกัน อาจารย์ผ่านบอกว่า อยากให้เป็นชาวนามืออาชีพ ที่มีความรู้ มีการสังเกต บันทึก เปรียบเทียบ  ซึ่งการเรียนรู้ของโรงเรียนชาวนาฯ เป็นการเรียนรู้ที่มีการปฏิบัติไปด้วย
เห็นด้วยค่ะ พอไปเรียนแล้วได้เพื่อน รุ่นพี่บางคนมีความรู้เรื่องทำที่ห่อผลไม้ ทำจักรยานสูบน้ำ ปลูกมะนาวในวงบ่อ ทำฮอร์โมนไข่จากไก่ชน  ซึ่งพอรู้จักกัน ก็มีการแบ่งปันข้อมูลกัน เป็นเครือข่ายกัน
คำพูดที่ว่า "เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาเป็นของจริง" อันนี้แหละที่ทำให้เห็นว่า ตัวเองควรเลือกไปทางไหน แม้ว่ากำลังทั้งด้านกาย ,สติปัญญา และกำลังทรัพย์ อาจจะมีไม่มากพอ แต่คิดว่า ถ้าเราทำจริงจัง ด้วยความรู้ และความตั้งใจ ถือว่าทำให้ดีที่สุด ผลจะออกมาอย่างไร ก็น้อมรับ


* IMG_20140301_142232_0.jpg (72.76 KB, 480x640 - ดู 2589 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
~ lทวดาไร้ปีก ~
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 609



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 24 มีนาคม 2014, 23:15:48 »

เป็นอีกหนึ่งสถาบันที่มุ่งช่วยเหลือผู้รักการเกษตร องค์กรใดมีการฝึกอบรมแก่บุคคลากรบ่อยๆ ถึงแม้จะเสียงบประมาณ แต่จะมีผลทำให้องค์กรมีประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัดกว่าองค์กรที่ไม่ใส่ใจการพัฒนาบุคคลกร
ไปเรียนกัน   ผมกลับเข้ามาอยู่ในชุมชนเห็นเลยว่า บุคคลากรในสาขาอาชีพชาวนายังไม่ได้พัฒนา ทำแบบเดิมที่เคยทำ ไม่กล้าเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เคยทำ กลัวผลผลิตไม่ได้ตามเป้าที่เคยได้ กลัวเป็นคนแปลก ฯลฯ ไม่กล้าลอง ไม่กล้าค้นคว้า จ้องจับผิด

ผมเห็นแนวทางของท่าน ว.  ที่มีทุนให้นักวิจัยในแนวทางพุทธเศรษฐศาสตร์เพื่อมุ่งพัฒนาอาชีพเกษตรที่เป็นอาชีพหลักของประชากรของประเทศ เหมือนองค์กรที่มีหน่วยงาน ด้านวิจัยและพัฒนา(Research&Development)
ตอนนี้อยู่ที่ชาวนาจะสนใจใคร่รู้ละครับ ไปเรียนรับความรู้ แถมยังได้เพื่อน แลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์  ตามที่ผมเคยผมได้เพื่อนมีคุณค่ามากนอกเหนือความรู้ที่เรียนมา

ไปเรียนกันนักๆ ไกลหน่อย จะได้รู้สึกมีคุณค่ามากกว่าได้มาง่ายๆ ดีกว่าที่มาอบรมให้ถึงที บางคนก็ไม่เอามาใช้ให้เป็นประโยชน์

ผมมีตัวอย่าง
ผมเคยไปพบอาจารย์ อดิศร ผู้ดูแลโครงการ ๑ไร่๑แสน ทางกันดารมากเป็นโคลนติดล้อ รถปาเจโร่ของลูกน้องเก่าเขาขับมาส่ง  ขับมาเจอหลุมน้ำ เราเกรงใจเลย บอกกลับเถอะ มีรถขับตามหลังมาด้วย ก็วกกลับไปแล้ว คนที่ไปส่งเราเขาก็ดึงดัน ไปสิพี่ ทั้งที่เขาทำงานเป็นวิศวะใน ทศท. ไม่ใช่อาชีพเกษตร โชคดีที่เจอเพราะท่านจะอยู่เฉพาะวันพุธ พอไปเจอบ่นให้ท่านฟัง อาจารย์ท่านบอกว่า เป็นการคัดกรองผู้ที่สนใจจริงๆ ในระดับหนึ่ง  เพราะไม่งั้นก็จะต้องคอยต้อนรับแขกมากมาย เออคงจะจริงของท่าน

ไว้จะเล่าข้อคิดที่ไปพบอาจารย์เพื่อเป็นการดันกระทู้ให้ และให้มีความน่าสนใจ คนที่ไปอบรมอะไรที่ไหน เอามาเล่ามาแบ่งปันกันเลยครับ


1 ไร่ 1 แสนแนวความคิดนี้เป็นไปได้จริง ๆ ใช่มั้ยครับ ตอนนี้ทำอยู่รึเปล่าผมอยากไปเรียนรู้มาก ๆ ครับ
IP : บันทึกการเข้า


Thanks: ฝากรูป [url=http
Ck 401
"....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,267


...งานหนักไม่เคยฆ่าคน...


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 25 มีนาคม 2014, 16:42:25 »

ดีใจที่แอดมิน ปักหมุดให้ ตอนแรกงง ว่าปักหมุดคืออะไร มาดูแล้วพอเข้าใจ ขอบคุณมากค่ะ ตัวเองเป็นเกษตรกรมือใหม่ ยังไม่มีความรู้ในการทำเกษตรเลยค่ะ เป็นลูกชาวนาแต่ไม่สนใจทำนา  พอออกงานก็ต้องหันกลับมาหาฐานเดิม ไปขอที่นาของแม่มาทำ ว่าจะทำเกษตรผสมผสาน ตอนนี้ปรับที่นา ยังไม่เรียบร้อย หมดเงินไปหลายหมื่นแล้ว แต่ก็ต้องทำให้ได้ หวังเป็นที่พึ่งในการอยู่รอดอย่างมีความสุขค่ะ  เข้ามาอ่านในห้องนี้บ่อย ๆ  หาความรู้ค่ะ  การไปเรียนที่โรงเรียนชาวนาฯ ก็ได้ความรู้เยอะค่ะ  อาจารย์ผ่านยำ้เสมอว่า ที่ผ่านมาเกษตรกรเราทำนาปีมีแต่หนี้กับซัง ทำนาปรังมีแต่ซังกับหนี้ จริงกันไหมค่ะ
เสาร์ที่ผ่านมา ทาง ท่าน ว.วชิรเมธี ได้เดินมาหาพวกเรานักเรียนปีสอง ที่กำลังเรียนเรื่องจุลินทรีย์  ท่าน ว.บอกว่า อยากให้มาเรียนกันเยอะ ๆ เพราะอยากให้ชาวนามีความรู้ เพื่อจะได้อยู่รอด  แล้วสามารถอยู่ได้โดยไม่เดือดร้อน และค่อยมีอยู่ดี มีธรรมะประจำใจ
การมาเรียนทุกวันเสาร์ บางคนบอกไม่มีเวลา แต่เราต้องจัดการตัวเองค่ะ และการเรียนไม่ได้มานั่งเรียน ช่วงเช้าไปดูแปลงนา ไปช่วยกันโยนนา เอาน้ำใส่ ใส่ปุ๋ย ดูความเป็นกรดด่างของดิน ถอนวัชพืช  แล้วช่วงบ่าย ค่อยมาเรียนรู้เรื่องเป็นสูตรในการทำ
เรื่องดี ดี เกี่ยวกับการเกษตร ผมยินดีปักหมุดกะทู้(ล็อคกะทู้)ให้เพราะเดี๋ยวโดนดันตกหมด อิอิ และจะยินดีมากที่เพื่อนสมาชิกเจ้าของกะทู้ มาเพิ่มเรื่องราวดี ดี ในสิ่งที่ตนเองตั้งใจมาเผยแผ่
ขอให้ประสบความสำเร็จในอาชีพที่ตั้งใจทำนะครับ
ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

"....คณะเรา ไม่ยอมให้ด้อยถอยลง ต่ำเราต้องค้ำชูให้สูงจรุงศรี....."
....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา  ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
wongsa
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 202


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 25 มีนาคม 2014, 20:34:49 »

วันนีี้แวะไปเยี่ยม อ.สุมาลี ร้านเฮือนกาแฟ ต.แม่กรณ์ อ.เมือง เป็นร้านกาแฟและอาหารตามสั่ง ที่ใช้ผักปลอดสาร ที่ปลูกเองทั้งหน้าร้านและหลังร้านมาปรุงเป็นอาหารให้ลูกค้า อ.สุมาลีเล่าว่า หลังจากทำสวนอินทรีย์มา 6 ปี ก็ให้ธรรมชาติช่วยกันจัดการเอง เช่น หากเจอหนอนมากินใบผัก ถ้าตัวใหญ่ ก็จะตัดใบที่มีหนอนไปไว้ด้านหลังให้กินใบไม้อื่นแทน ส่วนหนอนตัวเล็กๆ ก็จะมีนกมาช่วยจิกกินบ้าง และพอปลูกผักหลากหลาย มีดอกไม้หลายสีสัน แมลงก็คงงง ว่ารู้จะกินอะไร  อ.สุมาลีไม่ได้ฉีดพ่นสารสมุนไพรอะไร นอกจากมีน้ำหมักไปช่วยรดบำรุงดินและพืชบ้าง
ที่สำคัญวันนี้ได้ต้นต๋าว หรือลูกชิด มาสามต้น พริกอีกหลายต้น แต่เสียดายลืมลูกน้อยโหน่งที่อาจารย์เอาให้ คนมันอายุนัก ก็ได้หน้าลืมหลัง
กลับมาบ้าน ก็กลับมาคนฮอร์โมนไข่สำหรับพืชและสัตว์  เอาเศษอาหารมาหมักทำปุ๋ย และแวะไปทักทายต้นผักที่ตอนเช้ารดปุ๋ยหมักนมวัว
หลังจากฝนตก ไปดูว่าต้นผักจะติดเชื้อรา เชื้อไวรัสไหม (พูดไปงั้นไม่รู้อาการเป็นไง) พรุ่งนี้ต้องเอาน้ำหมักสูตรปรามโรค ไปฉีดพ่นซะหน่อย พอทำน้ำหมักเอง มีอะไรก็เอาไปฉีดพ่น บางทีก็ใส่มากเกินสูตร ซึ่งนักเรียนโรงเรียนชาวนา มักพูดกันว่า นายห้างมาเอง จะใส่มากเท่าไร ก็ของเรา เราทำเอง  เป็นคำพูดที่มีความสุขกับการได้ทำเอง ไม่ต้องไปพึ่งบริษัทเคมีทั้งหลาย  แต่ต้นผักจะเป็นอย่างไร นักเรียนก้ต้องสังเกตดูผลงานกันต่อไป
IP : บันทึกการเข้า
wongsa
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 202


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 29 มีนาคม 2014, 20:08:28 »

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่พวกเรานักเรียนโรงเรียนชาวนาฯ รวมตัวกันไปเรียน  ในช่วงเช้า นักเรียนปีสองก็ไปดูแปลงนา  ช่วยกันเติมน้ำ ถอนหญ้า  ส่วนนักเรียนรุ่นพี่ปีหนึ่ง ก็ร่วมกันถวายงานพระอาจารย์ ปลูกผัก ทำรั้วไม้ไผ่  ทุกคนดูแข็งแรงแข็งขันทั้งที่อากาศร้อน
หลังจากทานข้าวเที่ยงด้วยกันแล้ว พวกเรานักเรียนปีสอง ก็มาเรียน วันนี้อ.ผ่านสอนเรื่องการทำน้ำมันตะไคร้หอมไล่ยุง  มีสูตรให้ แล้วให้นักเรียนช่วยกันทำ  อีกสูตรที่เรียนวันนี้ที่คนสนใจกันคือ ฮอร์โมนไข่เพื่อสุขภาพสำหรับคน  อ.ผ่านเล่าว่า สูตรนี้ได้มาเพราะเป็ดก้าบๆ ที่ไม่ค่อยสบาย แล้วให้ฮอร์โมนไข่สำหรับสัตว์ หลังจากนั้นเป็ดก็ขยัน ทำให้ออกไข่วันละสองฟอง  อ.ผ่านก็เลยมาทำให้คนบ้าง เพื่อบำรุงสุขภาพให้แข็งแรง
ข้าเจ้าก็ได้ลองซื้อมาทานแล้ว และแนะนำให้น้องชาย ลองทานบ้าง และอีกหลายคนก็ยืนยันว่า หลังจากทานกันแล้ว จะรู้สึกว่าแข็งแรง ไม่ค่อยเหนื่อยง่าย ซึ่งตอนนี้ข้าเจ้าก็ลองทำแล้ว แต่ต้องใช้เวลากันเป็นเดือน ต้องคนทุกวัน กว่าจะได้ต้องใช้เวลา และที่สำคัญคือ พอได้ทำ ก็ต้องสังเกต บันทึก ไว้ เป็นการเรียนรู้ที่พอเราได้ทำเอง เราก็สบายใจ


* IMG_20140329_133731_0.jpg (83.48 KB, 640x480 - ดู 2526 ครั้ง.)

* IMG_20140329_131822_0.jpg (83.8 KB, 640x480 - ดู 2546 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
Ck 401
"....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,267


...งานหนักไม่เคยฆ่าคน...


« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 30 มีนาคม 2014, 08:55:48 »

สาตุ๊ๆๆ [/col ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

"....คณะเรา ไม่ยอมให้ด้อยถอยลง ต่ำเราต้องค้ำชูให้สูงจรุงศรี....."
....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา  ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
9phon
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 351



« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 30 มีนาคม 2014, 21:21:30 »

โครงการดีๆมีโอกาสไปแน่นอนครับ
IP : บันทึกการเข้า

ถึงไม่ใช่คนดี แต่ขอทำความดี ให้ได้มากที่สุด เท่าที่เราทำได้
wongsa
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 202


« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 30 มีนาคม 2014, 21:22:43 »

เอารูปการทำฮอร์โมนไข่เพื่อสุขภาพ มาให้ดูเจ้า อ.ผ่าน บอกว่า มีคณะดูงานมา ตัวนี้ขายดีสุด เพราะส่วนใหญ่จะบอกต่อกันมา ข้าเจ้าก็ทั้งลองกิน ลองทำ เหมาะสำหรับการเสริมสุขภาพได้อย่างดี มีแรงดีเจ้า


* P1100430.JPG (96.37 KB, 480x640 - ดู 2486 ครั้ง.)

* P1100432.JPG (175.48 KB, 640x480 - ดู 2496 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
pradi
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 148


« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 31 มีนาคม 2014, 21:40:42 »

เป็นอีกหนึ่งสถาบันที่มุ่งช่วยเหลือผู้รักการเกษตร องค์กรใดมีการฝึกอบรมแก่บุคคลากรบ่อยๆ ถึงแม้จะเสียงบประมาณ แต่จะมีผลทำให้องค์กรมีประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัดกว่าองค์กรที่ไม่ใส่ใจการพัฒนาบุคคลกร
ไปเรียนกัน   ผมกลับเข้ามาอยู่ในชุมชนเห็นเลยว่า บุคคลากรในสาขาอาชีพชาวนายังไม่ได้พัฒนา ทำแบบเดิมที่เคยทำ ไม่กล้าเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เคยทำ กลัวผลผลิตไม่ได้ตามเป้าที่เคยได้ กลัวเป็นคนแปลก ฯลฯ ไม่กล้าลอง ไม่กล้าค้นคว้า จ้องจับผิด

ผมเห็นแนวทางของท่าน ว.  ที่มีทุนให้นักวิจัยในแนวทางพุทธเศรษฐศาสตร์เพื่อมุ่งพัฒนาอาชีพเกษตรที่เป็นอาชีพหลักของประชากรของประเทศ เหมือนองค์กรที่มีหน่วยงาน ด้านวิจัยและพัฒนา(Research&Development)
ตอนนี้อยู่ที่ชาวนาจะสนใจใคร่รู้ละครับ ไปเรียนรับความรู้ แถมยังได้เพื่อน แลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์  ตามที่ผมเคยผมได้เพื่อนมีคุณค่ามากนอกเหนือความรู้ที่เรียนมา

ไปเรียนกันนักๆ ไกลหน่อย จะได้รู้สึกมีคุณค่ามากกว่าได้มาง่ายๆ ดีกว่าที่มาอบรมให้ถึงที บางคนก็ไม่เอามาใช้ให้เป็นประโยชน์

ผมมีตัวอย่าง
ผมเคยไปพบอาจารย์ อดิศร ผู้ดูแลโครงการ ๑ไร่๑แสน ทางกันดารมากเป็นโคลนติดล้อ รถปาเจโร่ของลูกน้องเก่าเขาขับมาส่ง  ขับมาเจอหลุมน้ำ เราเกรงใจเลย บอกกลับเถอะ มีรถขับตามหลังมาด้วย ก็วกกลับไปแล้ว คนที่ไปส่งเราเขาก็ดึงดัน ไปสิพี่ ทั้งที่เขาทำงานเป็นวิศวะใน ทศท. ไม่ใช่อาชีพเกษตร โชคดีที่เจอเพราะท่านจะอยู่เฉพาะวันพุธ พอไปเจอบ่นให้ท่านฟัง อาจารย์ท่านบอกว่า เป็นการคัดกรองผู้ที่สนใจจริงๆ ในระดับหนึ่ง  เพราะไม่งั้นก็จะต้องคอยต้อนรับแขกมากมาย เออคงจะจริงของท่าน

ไว้จะเล่าข้อคิดที่ไปพบอาจารย์เพื่อเป็นการดันกระทู้ให้ และให้มีความน่าสนใจ คนที่ไปอบรมอะไรที่ไหน เอามาเล่ามาแบ่งปันกันเลยครับ


1 ไร่ 1 แสนแนวความคิดนี้เป็นไปได้จริง ๆ ใช่มั้ยครับ ตอนนี้ทำอยู่รึเปล่าผมอยากไปเรียนรู้มาก ๆ ครับ


ในเนื้อที่ 1 ไร่  เป็นการแบ่งเอาพื้นที่จากที่มีอยู่กี่ไร่ก็ตามมาทำโดย ให้มีพื้นที่ทำนาข้าว (ใช้พันธุ์ข้าวหอมนิล) ขุดร่องลึกรอบแปลงนี้ โดยเอาดินมาทำคันกว้างรอบพื้นที่  1 ไร่ที่แบ่งมานี้ใช้พื้นที่เป็น เล้าเป็ด สำหรับเป็ด 50ตัว กระต็อบที่พักอาศัยตลอดทำโครงการ พืชยืนต้นที่ปลูกเป็นหลักคือ ต้นมะรุม (เพื่อเป็นพืชเอนกประสงค์ กินและยาใช้รักษาโรคได้กว่า 300ชนิด ท่านบอก มีคนที่มาเข้าโครงการหายจากโรคที่เคยเป็นก่อนมาร่วมโครงการหลายคน)

ล้อมตาข่าย รอบพื้นที่  ปลูกพืชบนขอบคัน อยากกินหวาน ก็ปลูกอ้อย อยากกินขม ก็ปลูกสะเดา อยากเปรี้ยวก็ปลูกมะนาว อยากกินเผ็ดก็ปลูกพริก ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก เลี้ยงปลาดุก กบ กุ้งฝอย

ที่ปลูกไม่ได้คือรสเค็ม ต้องซื้อคือเกลือ ตลอดโครงการ ประมาณ 5เดือน ประมาณ 100บาท

งบที่ใช้ตลอดโครงการทั้งปรับที่ ใช้จ่ายบ้างก่อนจะมีรายได้อีก 50000บาท เสื้อผ้าไม่ต้องซื้อเอาจากที่มีในตู้มาใช้

ที่น่าสนใจคือ ระหว่างอยู่ในโครงการคือ ไม่มี วิทยุ หนังสือพิมพ์  ไฟฟ้าก็ไม่จำเป็น มือถือก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะท่านให้เหตุผลว่าคงเคยได้ยินคำว่า เสื่อผืนหมอนใบ มาแล้วว่ามาจากคนจีนที่ประสบผลสำเร็จในการสร้างฐานะจนเป็นปึกแผ่น

ปลูกพืชทุกอย่างที่อยากปลูก ทั้งเป็นอาหารเป็นยา ตลอดโครงการไม่ต้องจับจ่ายซื้อหาเพราะมีผัก ปลา กบ ไข่ ฯลฯ ที่ทำได้อยู่แล้ว

สร้างให้มีรายได้จากผลผลิตทุกวัน ลงบัญชีรายรับ รายจ่าย
มีการทำ อาหารปลาที่ใช้เป็นปุ๋ยได้แบบครบวงจร หลักการหลักๆ ก็เป็นอย่างนี้

แนวความคิด1 ไร่ 1 แสนนี้ ตามผมมองก็เป็นการปรับ  หรือย่อส่วนเอาไร่นาสวนผสมลงมา แล้วเอาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการจัดการ ทำให้สามารถดูแลเอาใจใส่ได้ทั่วถึง เหมาะกับการใช้แรงงานภายในครอบครัว

ขออนุญาตยืมรูปจากข้อความที่คุณaeknea ลงไว้ในกระทู้อื่น ซึ่งจะมีในเอกสารที่รับแจกของโครงการ1 ไร่ 1 แสน ได้ดูเพิ่มเติม น่าจะช่วยทำให้เข้าใจง่ายขึ้นครับ

แต่จะให้ดีต้องเข้าอบรมเข้ม ชาวนาเฮาต้องมีการอบรม รับความรู้แนวคิดใหม่ๆ ที่หลากหลาย อาจไม่ตรงกับที่ต้องการก็ตาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 04 เมษายน 2014, 06:45:09 โดย pradi » IP : บันทึกการเข้า
wongsa
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 202


« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 02 เมษายน 2014, 21:13:29 »

มีหลายแนวคิด ดีค่ะช่วยกันให้อยู่รอดให้ได้ และสุดท้าย เมื่อเราพึ่งตนเองได้ มีความพอเพียง เราก็จะมีความสุขค่ะ  ยิงฟันยิ้ม
เมื่อวานฮอร์โมนไข่ชุดแรกที่ทดลองทำ ก็ครบ 1 เดือน นำขวดรีไซเคิล จากขวดแบรนด์ ที่ขอเขามา และได้รับมาช่วงปีใหม่ เอามาใส่ แจกญาติๆ ให้ลองชิม และวันนี้ก็ได้นำไปถวายพระ ก็ถามท่านอยู่ค่ะว่า ท่านจะฉันได้ไหม เพราะผ่านการหมัก ท่านบอกว่า เจตนาคืออะไร เพื่อบำรุงสุขภาพ ท่านก็บอกว่า ฉันได้
IP : บันทึกการเข้า
สวนเห็ดกรรณิการ์
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,486



« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 04 เมษายน 2014, 21:03:15 »

น่าเรียนมากคะ แอบไปเรียนกับเขาเหมือนกัน


* 20140322_105911_20140404_210238.jpg (52.01 KB, 427x240 - ดู 2420 ครั้ง.)

* 20140315_143045_20140404_210304.jpg (158.67 KB, 427x759 - ดู 2398 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

การเพาะเห็ดเป็นอาชีพ ไม่ใช่เรื่องยากหากแต่คนที่ทำไม่สำเร็จ ไม่ใช่เขาไม่เก่งแค่เขาล้มเลิกไปก่อนก็เท่านั้นเอง
wongsa
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 202


« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 10 เมษายน 2014, 22:21:33 »

เสาร์ที่ผ่านมา ไม่ได้ไปเรียน ติดปรับที่ ช่วงนี้อากาศร้อนมาก หลังพายุฤดูร้อนพัดหายไป สงสารต้นไม้ที่ปลูกไปไม่กี่ต้น ต้องหมันไปรดน้ำ เนื่องจากทุนน้อย เลยใช้ขวดพลาสติกเติมน้ำและให้น้ำค่อยซึมหยดไป  โดยเอาขวดตัดก้นขวด เอากลับหัวทิ่มลงไปในดิน ตอนแรกเจาะรูที่ฝา ปรากฎว่าดินไปอุด น้ำไม่ออก เลยแก้ปัญหาเอาฝาออก บางขวดก็ค่อยซึม บางขวดก็ดินอุดปากขวด  บางขวดพอเติมน้ำไปไหลหายไปหมดเลย  วันนี้เอาใหม่ เอาฝาปิด ใช้เศษผ้ามาพาดให้น้ำค่อย ๆ หยด ไม่รู้จะได้ผลไหม และไปหามามีอีกวิธีที่มีคนทำแล้ว น่าสนใจ ว่าจะลองทำดู ดังรูปนี้ค่ะ

ลองแนบไฟล์ ไม่รู้จะขึ้นไหมนะคะ เขาบอกว่าวิธีนี้เป็นชลประทานขวดน้ำค่ะ น่าสนใจ พรุ่งนี้ลองทำ ได้ผลอย่างไรจะมารายงานเน้อ
IP : บันทึกการเข้า
Ck 401
"....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,267


...งานหนักไม่เคยฆ่าคน...


« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 28 เมษายน 2014, 21:24:19 »

จขกท หายแซ๊บ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

"....คณะเรา ไม่ยอมให้ด้อยถอยลง ต่ำเราต้องค้ำชูให้สูงจรุงศรี....."
....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา  ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
หน้า: [1] 2 3 4 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!