เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 19 มีนาคม 2024, 10:13:49
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  บอร์ดกลุ่มชมรม
| |-+  ชมรมคนรักรถ
| | |-+  ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสีพ่นซ่อมรถยนต์
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสีพ่นซ่อมรถยนต์  (อ่าน 478 ครั้ง)
benz2549
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 27



« เมื่อ: วันที่ 03 มีนาคม 2014, 15:06:51 »

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสีพ่นซ่อมรถยนต์



ช่วงที่ฝนตกบ่อย ๆ อย่างนี้ เวลาขับรถก็มักจะต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะสายฝนที่ตกลงมานั้นนอกจากจะทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่จะแย่ลงแล้ว ยังทำให้ถนนลื่นกว่าปกติอีกด้วย ดังนั้นเราจึงเห็นกันได้บ่อย ๆ ว่าพอฝนตกรถก็มักจะชนกัน เนื่องจากเบรกไม่อยู่

สำหรับคุณผู้อ่านที่ประสบอุบัติเหตุทั้งที่เป็นคนไปชนเขาและถูกเขามาชน หลังจากจัดการเรื่องประกันกับคู่กรณีกันเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงคราวต้องเอารถเข้าอู่ไปซ่อมตัวถังและทำสีกันล่ะ ซึ่งคุณผู้อ่านก็ควรจะมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการซ่อมสีรถยนต์เอาไว้บ้าง เวลาคุยกับช่างจะได้รู้ว่าช่างเขาเอาสีแบบไหนมาพ่นรถเรา และสีแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียอย่างไร

สำหรับสีที่ใช้พ่นรถยนต์กันในปัจจุบันจะแบ่งได้ 3 ประเภทใหญ่คือ สีโออีเอ็ม (Original Equipment Manufacturer) สีแบบ 1เค และสีแบบ 2เคสีแบบโออีเอ็มนั้นพูดกันแบบง่าย ๆก็คือสีที่ทำจากโรงงาน สีแบบนี้จะมีคุณสมบัติที่ดีมากหลังจากเข้าห้องอบ จนสีแห้งตัวแล้วคือมีความแข็งแรงของชั้นฟิล์มสีสูง มีการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม ให้ความเงางาม สามารถทนทานต่อสารเคมีต่าง ๆ หรือตัวทำละลายอย่างทินเนอร์ น้ำมันเบนซินหรือดีเซล และน้ำมันเบรกได้ดีมาก รวมทั้งสามารถทนทานต่อแสงแดดได้ดี จึงไม่ซีดจางง่าย

แต่ถ้าคุณอยากเอารถไปทำสีแบบนี้ เพื่อให้รถของคุณกลับมาสวยเงางามเหมือนเมื่อออกจากโชว์รูมใหม่ก็คงจะเป็นเรื่องยากอยู่สักหน่อย เพราะการอบแบบสีโออีเอ็มขนานแท้แบบโรงงานนั้น จะต้องใช้ห้องอบสีที่มีอุณหภูมิอบที่สูงมาก ประมาณ 120-160 องศาเซลเซียส ซึ่งที่อุณหภูมิสูงขนาดนี้ ชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ไม่ใช้โลหะไม่สามารถทนความร้อนได้แน่นอน ดังนั้นคุณต้องจัดการถอดชิ้นส่วนต่าง ๆ ออกให้หมด ซึ่งรับรองได้ว่าไม่สนุกแน่นอน ดังนั้นเรามองข้ามการพ่นสีแบบโออีเอ็มนี้ไปได้เลย

ทีนี้ก็มาถึงสีแบบ 1เค กับ 2เค ซึ่งเป็นที่นิยมใช้เวลาซ่อมสีรถยนต์ สำหรับตัวเค (K) ที่ต่อท้ายเลข 1 กับ 2 นั้นเป็นคำย่อจากภาษาเยอรมันว่า คอนโพเนนต์ ซึ่งแปลว่าองค์ประกอบ ดังนั้นสี 1เค คือสีที่มีเนื้อสีเป็นส่วนประกอบเพียงอย่างเดียว เวลาจะใช้งานก็ต้องผสมเนื้อสีกับตัวทำละลาย สีจะแห้งตัวได้เมื่อตัวทำละลายระเหยไป ส่วนสี 2เค จะเป็นสีที่มี 2 องค์ประกอบคือมีเนื้อสีและตัวเร่งปฏิกิริยา  ซึ่งก่อนใช้งานต้องนำทั้ง 2 องค์ประกอบมาผสมกันตามอัตราส่วน เพื่อให้เกิดการทำปฏิกิริยาทางเคมีและทำให้สีเกิดการแห้งตัว

สำหรับการพ่นซ่อมสีรถยนต์ในอู่หรือศูนย์ซ่อมสีทั่วไปนั้น ช่างจะเลือกใช้สีได้แค่ 2 แบบคือสี 1เค หรือสี 2เค เท่านั้น แต่ถ้าอยากจะให้งานสีออกมาดูดี อู่หรือศูนย์ซ่อมสีดี ๆ จะใช้สีแบบบ 2เค เนื่องจากมีคุณภาพโดยรวมที่ดีกว่าสี 1เค มากคือมีความแข็งแรงของชั้นฟิล์มสีสูง ทนทานต่อสารเคมีและตัวทำละลาย เช่น ทินเนอร์ น้ำมันเบนซินหรือดีเซล และน้ำมันเบรกได้ดี นอกจากนี้ยังมีการยึดเกาะที่ดีเยี่ยมให้ความเงางามสูง รวมทั้งสามารถทนทานต่อแสงแดดได้ดีจึงไม่ซีดจางง่าย โดยรวมแล้วมีคุณภาพใกล้เคียงกับสีจากโรงงานเลยทีเดียว แต่ในขณะเดียวกัน เวลาในการทำงานและค่าใช้จ่ายก็สูงกว่าสี 1เค ด้วย

สี 1เค นั้นมักจะเป็นทางเลือกของลูกค้าที่มีงบน้อย ไม่เน้นความละเอียดของงาน ต้องการความรวดเร็ว อย่างงานซ่อมสีรถแท็กซี่ที่ต้องเอารถออกวิ่งหาเงินโดยเร็ว หรือบรรดาร้านขายรถมือสองที่ต้องเก็บรอยตำหนิต่าง ๆ ก่อนเอานำไปขายต่อเพื่อไม่ให้ราคาขายต่อตก แต่เมื่อเวลาผ่านไปสัก 2-5 ปี คุณภาพของสีที่ด้อยกว่าจะทำให้สภาพสีเปลี่ยนไป เช่น สีบวม ลอก หรือซีดจางลง เป็นต้น

สรุปโดยรวมแล้ว ถ้าเป็นรถบ้านที่มีประกันชั้น 1 หรือมีงบพอ แนะนำว่าควรจะเลือกใช้สีแบบ 2เค และควรสอบถามดูให้แน่ใจด้วยว่าสีที่อู่เอามาพ่นให้นั้นเป็นสีแบบที่เราต้องการจริง ๆ และต้องมีการรับประกันงานหลังจากทำสีแล้วด้วย เพื่อว่าเมื่อมีปัญหาภายหลังจะได้นำรถกลับไปให้ทางอู่แก้ไขได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย.

สมฤกษ์ รื่นสัมฤทธิ์

ขอขอบคุณเดลินิวส์ (ครบเครื่องเรื่องรถ)

ที่มา : http://www.9carthai.com/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C/
IP : บันทึกการเข้า

หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!