ธุรกิจร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ถูกวางตำแหน่งทางการตลาดให้เป็นร้านอิ่มสะดวกของคนไทย มีรายได้และกำไร
เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะยอดขายเฉลี่ยต่อ
สาขาต่อวันของร้านสูงขึ้น
อันเป็นความสำเร็จจากการปรับเปลี่ยนนโยบายจาก
ร้านสะดวกซื้อเป็นร้านอิ่มสะดวก โดยเพิ่มสัดส่วนของ
สินค้าประเภทอาหารพร้อมรับประทานและเครื่องดื่ม
มากขึ้น
เนื่องจากธุรกิจอาหารก็เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และเป็น
สินค้าจำเป็นที่มีการบริโภคทุกวัน วันละ 3 มื้อ และยังให้
ผลตอบแทนที่สูงกว่าสินค้าอุปโภค อาหารมีราคาเฉลี่ย
39 บาทต่อกล่อง
เทียบกับของใช้เฉลี่ยราคา 10 บาทต่อชิ้น และกลยุทธ์
ด้านการคัดเลือกสินค้าที่มุ่งตอบสนองความต้องการ
ของลูกค้า ทั้งอาหารพร้อมรับประทานแช่เย็นและแช่แข็ง
ที่มีความอร่อย สด สะอาด พร้อมการให้บริการที่สะดวก
รวดเร็ว ตรงกับวิถีชีวิตสมัยใหม่ของลูกค้าที่มีเวลาน้อยลง
นอกจากนี้ยังเพิ่มช่องทางรับชำระค่าบริการเพื่ออำนวย
ความสะดวกให้กับลูกค้ามากขึ้นอีกด้วย
ปัจจุบันสินค้าอาหารและของใช้มีสัดส่วน 70:30 เพิ่มขึ้น
จาก 60:40 เชื่อว่าจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นได้ถึง 75:25
ในอนาคต ซึ่งขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามคอนเซ็ปต์
ที่ต้องการมุ่งไปสู่การเป็นร้านสะดวกซื้อในเรื่องอาหาร
โดยจะเพิ่มเมนูใหม่ทั้งในกลุ่มอาหาร เบเกอรี่ เครื่องดื่ม
สำหรับปัจจัยแห่งความสำเร็จของการทำธุรกิจ คือ
การนำความต้องการของลูกค้ามาเป็นตัวตั้ง เนื่องจาก
ความต้องการของลูกค้า มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
องค์กรจึงไม่หยุดนิ่ง ที่จะสร้างความแตกต่างและหาวิธี
การตอบสนองให้ทันกับความต้องการของลูกค้าอย่าง
รวดเร็วและต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังได้สร้างนวัตกรรมใหม่ในอุตสาหกรรม
ค้าปลีก โดยการเปิดโรงเรียนปัญญาภิวัฒน์เทคโนธุรกิจ
ระดับปวช. ปวส. ศูนย์การศึกษาปัญญาภิวัฒน์
ระดับปวช. และ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM)
ระดับอุดมศึกษา โดยมุ่งเน้นการเรียนรู้คู่การทำงานจริง
(Work Based Learning) ซึ่งแตกต่างจากรูปแบบ
การศึกษาโดยทั่วไป
สนับสนุนข้อมูลโดย
นิตยสารแมกเก็ตติ้ง (Magketing)
สามารถดาวน์โหลดนิตยสารฉบับเต็ม...ฟรี...ได้ที่
หรือLINK
http://www.ebooks.in.th/ebook/20270/magketing_vol1/
หน้าหลักเว็บไซต์
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."
ผู้เขียน
