กลยุทธ์ >> ซีพี : เมื่อหนึ่งบวกหนึ่งไม่ใช่แค่สอง

[oldfriend]

ภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจค้าปลีก โดยเฉพาะ
ร้านค้าปลีกขนาดเล็กที่มีผู้ประกอบการหลายรายหันมาบุก
ตลาดนี้มากขึ้น ผู้ประกอบการแต่ละรายต้องปรับตัวให้
สอดรับความต้องการของลูกค้าและตลาดให้ได้มากที่สุด
กลยุทธ์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) คือการสร้างเครือ
ข่ายค้าปลีกของตัวเองขึ้นมา เพื่อเป็นการลดการพึ่งพา
ช่องทางการขายอื่นๆ ขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างโอกาส
ทางการตลาดให้สามารถตอบสนองความต้องการของ
ผู้บริโภคได้มากขึ้น ทั้งในเรื่องความสะดวกสบาย ทันสมัย
และที่สำคัญความใกล้ชิดระหว่างตราสินค้ากับผู้บริโภค
นั้นมีโอกาสที่จะเกิดความคุ้นเคยและจดจำกันง่ายขึ้น

ที่ผ่านมาข้อจำกัดของการกระจายสินค้าของซีพีเอฟล้วน
ต้องอาศัยช่องทางค้าปลีกของผู้ประกอบการรายอื่นๆที่
บางครั้งเครือซีพีไม่สามารถคอนโทรลได้ดั่งใจนึก เมื่อหัน
ไปหาช่องทางผ่านร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น ของ
เครือซีพีด้วยกันอย่างซีพีออลก็ไม่สามารถตอบสนอง
ด้านการกระจายสินค้าได้ครบถ้วนเพราะรูปแบบถูก
จำกัดไว้ทำให้ไม่สามารถนำอาหารสดไปวางจำหน่ายได้

ขณะที่โดยภาพรวมของตลาดพบว่าคู่แข่งขันแต่ละราย
ต่างล้วนวางแนวทางในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้
ตนเอง ด้วยการขยายสาขาร้านค้าปลีกของตนเองเข้าไป
เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน ภายใต้แนวคิดการคำนึงถึงความ
ต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งเป็นแนวคิดที่คล้ายคลึงกัน
เครือซีพีมีการปรับโครงสร้างกลุ่มค้าปลีกอย่างเข้มข้นใน
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยสร้างโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ
จัดแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ




1.กลุ่มธุรกิจค้าปลีกที่ถูกวางตำแหน่งทางการตลาดให้เป็น
Food Retail หรือร้านขายอาหารพร้อมปรุงพร้อมทาน
ได้แก่ เซ เว่น-อีเลฟเว่น , ซีพีเฟรชมาร์ท ,
ซีพีเฟรชมาร์ทพลัสที่เปลี่ยนชื่อจาก “ซีพีฟู้ดมาร์เก็ต” ,
ตู้เย็นชุมชน และธุรกิจค้าส่งคือแม็คโครที่เข้ามาเติมเต็ม
และขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ โดยเฉพาะการสร้างเครือ
ข่ายค้าปลีกด้านอาหารที่สอดรับกันทำให้การบริหาร
ต้นทุนต่างๆ ลดลง ซื้อสินค้าได้ถูกลง เพิ่มศักยภาพการ
แข่งขันได้มากขึ้น

แม้ดีลการซื้อแบรนด์แม็คโครจะทำให้เครือซีพีต้องใช้เงิน
ลงทุนในระดับมหาศาล แต่ในสายตาของผู้บริหารเครือซีพี
กลับมองว่าเป็นดีลการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดของเครือซีพี
เพราะสามารถนำแม็คโครมาเติมเต็มช่องว่างในธุรกิจ
ค้าปลีก-ค้าส่งได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเกื้อหนุนกับธุรกิจ
อาหารของบริษัทในเครือได้เช่นกัน เนื่องจากเครือซีพี
เป็นทั้งผู้ผลิตวัตถุดิบครอบคลุมตั้งแต่การผลิตอาหารสัตว์
การเพาะพันธุ์สัตว์ การเลี้ยงสัตว์เพื่อการค้า การแปรรูป
เนื้อสัตว์ เนื้อดิบๆ กึ่งปรุงสุก ปรุงสุก ไปจนถึงผลิตภัณฑ์
อาหารสำเร็จรูป ซีพีจึงมองว่าเป็นดีลการลงทุนที่
สามารถต่อยอดหลายชั้น

สำหรับเซ เว่น-อีเลฟเว่น ถือเป็นค้าปลีกรูปแบบแรกของ
เครือซีพีที่ซื้อไลเซนส์จากบริษัทเซาท์แลนด์ ได้ตั้งเป้า
ขยายสาขาให้ครบ 10,000 สาขาภายในปี 2561-2562
จากเดิมที่มีประมาณ 7,000 สาขา ทั่งประเทศ



2.กลุ่มร้านอาหาร (Restuarant) ได้แก่ ฟาสต์ฟู้ดส์
เชสเตอร์กริลล์ , ธุรกิจห้าดาว , ร้านอาหารจานด่วน
ซีพีคิทเช่น , ร้านเดอะกริลล์ , ร้านสเต๊กหมูคุโรบูตะ
สเต๊กปลา , ร้านสแน็กทูโก โดย 4 แบรนด์หลังเน้น
เปิดในศูนย์อาหารโมเดลใหม่ “ซีพี ฟู้ด เวิลด์”
(CP Food World)

ทั้งหมดคือเป้าหมายของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) 
ที่ต้องการดำเนินธุรกิจให้ครอบคลุมแบบครบวงจร
หรือตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยเครือ
ข่ายค้าปลีกของซีพีเป็นปลายน้ำที่ทำหน้าที่สำคัญ
ในการผลักดันสินค้าของเครือซีพีทั้งหมดออกไปยัง
ผู้บริโภค 

ดังนั้นการผันตัวเองจากผู้ผลิตมาสู่ผู้จัดจำหน่ายของ
เครือซีพีเป็นการมองการณ์ไกลและตอบโจทย์ทางกา
รตลาดครั้งสำคัญนำมาซึ่งโอกาสทางการตลาดที่
เหนือกว่าคู่แข่งทำให้เครือซีพีก้าวหนีคู่แข่งขันทาง
ธุรกิจไปอีกหลายก้าว

สนับสนุนข้อมูลโดย
นิตยสารแมกเก็ตติ้ง (Magketing)

สามารถดาวน์โหลดนิตยสารฉบับเต็ม...ฟรี...ได้ที่



หรือLINK
http://www.ebooks.in.th/ebook/20270/magketing_vol1/