|
Fortune
ชั้นประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 170
|
|
« ตอบ #61 เมื่อ: วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2014, 15:47:25 » |
|
ผมเป็นบุคลากรคนหนึ่งใน รพ.เชียงรายคับ เห็นใจทั้ง2ฝ่ายมีเหตุและผลกันทั้งคู่ ลองมองต่างมุมกันคับ ถ้าเป็นผู้รับบริการก็ต้องการการบริการที่ดีที่สุด ในระดับที่แต่ละคนตั้งเกณฑ์ไว้ในใจ แต่ในมุมของผู้ให้บริการคือ รพ.เค้าก็มีมาตรฐานของเค้าระดับหนึ่ง รพ.เชียงราย เป็น รพ.ศูนย์ขนาดใหญ่แต่มีบุคลากรทางการแพทย์เมื่อ BenchMark กับ รพ.ในระดับเดียวกันเช่น รพ.ลำปาง รพ.ขอนแก่น รพ.อุดรธานี รพ.ชลบุรี ในด้านจำนวน case เทียบกับบุคลากรทางการแพทย์นั้น รพ.เชียงราย จำนวนcase มากแต่บุคลากรทางการแพทย์น้อย มีคนไข้OPD เฉลี่ยมากกว่า 1,500 คน ต่อวัน อัตราการครองเตียงสูงมาก จนต้องเสริมเตียงไม่มีที่จริงๆเป็นปัญหาclassicสำหรับที่นี่หรือที่อื่นๆ(รัฐมนตรีมันก็ทราบปัญหาน่ะ) และผู้ใช้บริการอื่นๆเช่นชาวไทยภูเขา(หลายเผ่าอยู่นะ) ชาวพม่า ชาวลาว ชาวจีน ที่เข้ามา รพ.ไม่สามารถปฏิเสธการรักษาได้ (หนี้NPLเยอะมาก) อันนี้ในด้านบุคลากรน่ะ สถานที่ ตึก 14 ชั้นกำลังก่อสร้างคาด 3 ปีเสร็จ อันนี้แหละช่วยให้พวกเราชาวเชียงรายได้(ถ้าไม่โดนต่างด้าวเข้ามาใช้บริการก่อนนะ อิ อิ)สถานที่จะเริ่มมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น ด้านเครื่องมือแพทย์/สนับสนุน เหมือนๆรพ.อื่นๆครับอยากมีเครื่องมือดี ทันสมัย แต่จำกัดที่งบประมาณเชื่อไหมครับปีที่แล้วงบซื้อเครื่องมือใหม่แทบเลือดตากระเด็น เดี๋ยวว่างๆไว้มาเล่าต่อคับ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
iFirstz
ชั้นประถม
ออฟไลน์
กระทู้: 196
Administrator
|
|
« ตอบ #72 เมื่อ: วันที่ 25 เมษายน 2014, 17:36:04 » |
|
เมื่อวันที่ 16 มกราคม 57 ผมลองไปใช้บริการของโรงบาลไทย ตรงตึกเหลือง ตรงลาน ร.5 หรือ อบจ.เก่า เนื่องจากมีอาการปวดหู ไปสิบโมงกว่าได้ตรวจบ่ายสอง พอเข้าไปหาหมอก็เล่าอาการให้หมอฟัง หลังจากนั้นหมอก็ค้นหาอุปกรณ์ในลิ้นชักแต่ไม่เจอ จึงหันไปถามผู้ช่วย ผู้ช่วยตอบทันใดว่าไม่มีเครื่องมือ หมอจึงให้ผมออกไปรอข้างนอกก่อน หลังจากนั้นประมาณสิบห้านาทีก็มีพยาบาลมาเรียก แล้วก็เอาใบส่งตัวให้บอกว่าให้ไปหาหมอที่โรงพยาลเชียงรายตึกใหญ่ข้างโรงเรียนสันโค้ง...(ป๊าดโท๊ะ) ผมต้องถ่อสังขารจากตึกเหลืองไปตึกใหญ่ มันไม่ใช่ใกล้ๆนะครับ โดยมีใบส่งตัวจากหมอเพียงกระดาษA4 และลงชื่อหมอแค่นั้น(เอารูปลงให้ดูครับ)...แล้วก็ รอ รอ รอ ที่ตึกใหญ่ พอเจอหมออีกคน พอดีว่าเวลาผมไปโรงพยาบาลผมจะชอบใส่หน้ากากอนามัยเพราะว่าเราต้องป้องกันตัวเองเพราะเชื้อโรคทางระบบทางเดินหายใจในโรงพยาบาลเยอะมาก แต่หมอกลับถามว่าเป็นหวัดเหรอ ผมก็บอกผมไม่ได้เป็นหวัด แล้วหมอก็บอกว่าไม่ได้เป็นหวัดแล้วจะใส่หน้ากากอนามัยทำไม!!!!!! (อึ้ง กั๊ดอก อู้บ่าออก) เค้ารณรงค์กันทั่วประเทศให้ใส่หน้ากากอนามัยแต่หมอกลับไม่สนใจ....(ขี้คร้านเถียงหมอ เดียวจะหาว่าล๊วกกว่าหมอแห๋มเม๊าะ) ...อยากให้ผู้บริหารหรือผู้ที่เกี่ยวข้องมาสนใจหน่อยเถอะครับ รู้ทั้งรู้ว่าประกันสังคมจะเหลือแค่โรงพยาบาลเดียวคือโรงพยาบาลไทย น่าจะมีระบบรองรับหรือเตรียมความพร้อมบ้างนะครับ เข้าใจว่าคนเยอะ แต่มันไม่มีการจัดระบบอย่างนี้จะให้เรียกว่ายังไงดีครับ เสียค่าประกันสังคมเดือนละหกเจ็ดร้อย เห้อๆๆๆ เหนื่อยเน้อ..
ไปเวลานั้นถือว่าสายมาก คิวก็ยาวเป็นเรื่องธรรมดาของรพ.หลักในเชียงราย แล้วอาการปวดหูเป็นมากี่วัน ถ้าเป็นวันนั้นเลยไปเวลานั้นก็น่าจะทำใจไว้บ้าง ถ้าเป็นมาหลายวัน อันที่จริงถ้ารีบก็ไปหาหมอที่คลินิคเบื้องต้นก่อนยอมเสียตังค์หน่อยแลกกับเวลาที่เป็นตัวกำหนดว่าต้องได้รับบริการที่ไว ถ้าเป็นเยอะที่ต้องตรวจในรพ.หมออาจจะนัดมาที่รพ.เลย มีจดหมายน้อยจากหมอมาด้วยโหก็ไวอยู่นะ จะเล่านะไปสวนดอกไปตั้งแต่ตี5 ได้ตรวจตอนบ่าย2 ก็เคยมาแล้ว ตรวจแล้วไม่ได้เจอหมอเฉพาะทางต้องมาตรวจอีก2วันถัดไป เสียเวลาไปอีกก็เคยมาแล้ว เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่ากรุณากลับไปอ่านให้ดีๆ ผมพูดเรื่องการให้บริการของประกันสังคม ถ้าใช้สามสิบบาทจะไม่ว่าไรนี่เสียเงินแต่ละเดือนหกเจ็ดร้อย แล้วที่เจอหมอเฉพาะทางเพราะโรงพยาบาลตึกเหลืองไม่มีความพร้อมในการรักษาผู้ป่วยและที่ไปก็ไม่ได้ไปโรงพยาบาลหลักเป็นโรงพยาบาลเล็กๆห่างจากโรงบาลหลักสามสีาไฟแดง กว้าจะฝ่ารถติดและหาที่จอดรถอีก และอันนั้นพยาบาลบอกว่าเป็นใบส่งตัวไม่ใช่จดหมายน้อย ที่ตั้งกระทู้อยากให้ดูเรื่องการบริหารของประกันสังคม คนไม่เจ็บไม่รู้ และนี่คือโีรงบาลไทยไม่ใช่สวนดอก และถ้าจะเสียเงินไปคลีนิกและจะมีทำไมประกันสังคม ประกันสังคม อ่านดีแล้วคะ ไม่ว่ารพ.ไหนๆของรัฐคิดว่าเขาน่าจะใช้มาตรฐานเดียวกันในการให้บริการนะคะ แต่ละรพ.ก็อาจมีเงื่อนไขในการจัดระบบการจัดคิวที่แตกต่างกันออกไปตามบริบทของรพ.นะคะ แล้วรพ.ชร.ต่างจากสวนดอกมากแค่ไหนคะ อาจจะมีบางอย่างที่แตกต่าง นี้ก็ใช้ปกส.อยู่ ไปสวนดอกปกส.เช่นกัน รอนานเหมือนกัน รพ.ศูนย์ที่เดียว เรื่องเงินที่เขาเก็บไป แน่นอนมันต้องเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายบ้างเช่นค่ายา ซึ่งยาชนิดเดียวกันแต่ราคาไม่เท่ากัน การเบิกจ่ายต้องดูว่าสามารถเบิกกลับมาเท่าไหร่ จ่ายเยอะอาจจะได้ยาแพงหน่อยเพราะเป็นยาผลิตนอกรพ. ประเด็นนะถ้าขี้เกียจรอนานไปเอกชนจบไหม ยอมจ่ายเงินเองบ้างเพื่อแลกกับเวลาที่เป็นตัวกำหนด แค่นี้น่าจะเป็นสิ่งมี่ใครๆก็พึงพอใจ เรื่องใบส่งตัวที่พยาบาลพูด ก็เป็นรพ.เดียวกันแค่แบ่งที่ตรวจ ตามความเข้าใจของเรานะคิดว่าพยาบาลอาจเข้าใจกันภายในว่าในจดหมายเล็กๆแบบนี้ให้เรียกกันว่าใบส่งตัว แล้วเขียนหมายเหตุว่าทำไมถึงต้องส่งไปรักษาที่ศูนย์ใหญ่อีกที เพราะขาดอะไร เขาอาจใช้คำหรือข้อความง่ายไป ทำให้ผป.เกิดงงๆนิดหน่อย บวกกับปวดหูมากทำให้เกิดอารมณ์โมโหด้วยป่าว คือ สำหรับเรานะถ้าเห็นมันนานเกิน ก็บอกเขาไปตรงๆว่าไม่ตรวจแล้วนะขอยกเลิก แล้วก็ไปตรวจเอกชนเอา ถ้าพูดผิดหูผิดตาไปต้องบอกว่าขอโทษด้วย นี้พูดแบบคนกลางจริงๆนะ เพราะไปมาหลายรพ.ถ้ากระทู้นี้จะมีคนที่เกี่ยวข้องมาตอบบ้างคงจะดีมากๆๆๆๆๆ คือผมเข้าใจ จขกท. ครับว่าสื่อถึงอะไร แล้วผมก็เคยมีประสบการณ์การไปประกันสังคม รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ คิดว่ามันน่าจะเป็นเพราะระบอบการบริหารครับ คือจะให้เสียค่าประกันสังคมพอรอนานจะให้บอกว่า"ไม่ตรวจแล้ว จะไปตรวจเอกชนเอา" ใครก็ทำได้แล้วจะเสียค่าประกันสังคมทุกเดือนทำไม พอหลัง 4โมงก็มีเก็บค่ารักษานอกเวลาอีก คือก่อนหน้านี้มี รพ. เกษมราษฎ์ศรีบุรินทริ์รับประกันสังคมครับ ตลอดเวลาที่ผมทำงานและเสียค่าประกันสังคมทางโรงพยาบาลได้รักษาดูแลตามอาการอย่างทันท่วงที ทั้งๆที่บางทีอาการเดียวต้องไป 2-3 รอบ เผลอไม่หาย แต่ก็คือใช้สิทธิ์ประกันสังคม ** คือไม่ได้เสริมให้ทะเลาะกันนะครับ เพียงคิดว่าอาจจะเข้าใจไม่ตรงกัน ผิดพลาดประการได ขออภัยด้วยครับ++
|
|
|
|
|
|
|