เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 28 มีนาคม 2024, 21:23:36
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลท่องเที่ยว-โพสรูป
| |-+  ร้านอาหาร เมนูเด็ด ร้านดัง เชียงราย (ผู้ดูแล: แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-.)
| | |-+  กุ้งแม่น้ำสองน้ำ มันกุ้งอร่ามสีแดงอมเหลืองไหลเยิ้มยั่วใจ ที่ "เรือนร่มไทร"
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน กุ้งแม่น้ำสองน้ำ มันกุ้งอร่ามสีแดงอมเหลืองไหลเยิ้มยั่วใจ ที่ "เรือนร่มไทร"  (อ่าน 1056 ครั้ง)
namfah.w
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 47


« เมื่อ: วันที่ 08 มกราคม 2014, 20:18:52 »

กุ้งแม่น้ำสองน้ำ มันกุ้งอร่ามสีแดงอมเหลืองไหลเยิ้มยั่วใจ ที่ "เรือนร่มไทร"



อยู่ในเมืองกรุงที่แสนวุ่นวาย การจะหาของกินสดๆ ที่มาจากธรรมชาติ และถูกส่งตรงจากแหล่งกำเนิดมาวางไว้บนจานแบบไม่ทันข้ามวัน คงจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากอยู่สักหน่อย เพราะของที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้ อันไหนมาจากธรรมชาติ อันไหนเพาะเลี้ยง อันไหนสด อันไหนไม่สด ก็แยกไม่ค่อยจะออกกันแล้ว.... แต่…เพียงเดินทางออกจากกรุงเทพฯ มาไม่ไกล ใช้เวลาเพียง 2-3 ชั่วโมงเศษๆ เท่านั้น ก็จะได้พบเจอกับกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ๆ ที่เติบโตในแหล่งน้ำธรรมชาติ และปลากะพงที่เลี้ยงในกระชังริมฝั่งแม่น้ำที่อยู่ใกล้กับทะเลมากที่สุด....เรากำลังเดินทางมาที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จังหวัดที่ถือเป็นประตูเข้าสู่ภาคตะวันออก อยู่ติดกับชายทะเล และเป็นพื้นที่สำคัญในการเพาะเลี้ยงกุ้งและเพาะเลี้ยงปลา



และมาถึงบางปะกงทั้งทีแล้ว ก็ควรจะมองหาร้านอาหารที่อยู่ติดริมน้ำบางปะกงเพื่อนั่งรับสายลมเย็นๆ เสียหน่อย และที่"เรือนร่มไทร" ร้านอาหารที่มีพื้นที่ใต้ต้นไทรอันแสนร่มรื่นที่มีอายุกว่า 50 ปี และตั้งอยู่ติดกับริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับการมาเยือนบางปะกง และยิ่งได้ลิ้มรสกุ้งแม่น้ำตัวโตๆ และปลากะพงเนื้อแน่นๆ ที่ "เรือนร่มไทร" คัดสรรมาอย่างดีด้วยแล้ว สวรรค์ก็อยู่แค่เอื้อมนี่เอง



"กุ้งแม่น้ำใหญ่เผา" (ราคา 1,150 บาท/ก.ก.)

เมื่อมาบางปะกงทั้งที จะไม่สั่ง "กุ้งแม่น้ำ" มากินได้ยังไง เพราะกุ้งแม่น้ำของที่นี่มีทีเด็ด และมีเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ที่หลายคนไม่เคยรู้เกี่ยวกับกุ้งแม่น้ำที่เติบโตตามธรรมชาติ....

กุ้งแม่น้ำของฉะเชิงเทราเป็น "กุ้งสองน้ำ" เพราะช่วงเดือนธันวาคมจะมีน้ำทะเลหนุนเข้ามาในแม่น้ำบางปะกง ทำให้น้ำในแม่น้ำเริ่มเค็มและกลายเป็นน้ำกร่อยอยู่ประมาณ 6  เดือน จนกว่าจะถึงฤดูฝนที่ฝนตกจนน้ำจืดมีปริมาณเพิ่มขึ้น และไล่น้ำเค็มออกไป น้ำในแม่น้ำบางปะกงก็จะกลับมาเป็นน้ำจืดอยู่อีกประมาณ 6 เดือน แล้วจึงมีน้ำเค็มหนุนเข้ามาผสมอีก สลับกันไปมาอยู่แบบนี้ เป็น "น้ำเค็ม  6 เดือน น้ำจืด 6 เดือน" ด้วยเหตุนี้ "กุ้งแม่น้ำ" จึงเจริญเติบโตอยู่ทั้งในน้ำเค็มและน้ำจืด จึงได้ชื่อว่าเป็น "กุ้งสองน้ำ"

"น้ำกร่อย" มีความสำคัญต่อการฝักตัวของของกุ้งแม่น้ำ เพราะตัวอ่อนของกุ้งแม่น่้ำจะฝักตัวได้ในน้ำกร่อยเท่านั้น ไม่สามารถฝักตัวในน้ำจืดได้ และหากต้องการจะแยกความแตกต่างของ "กุ้งแม่น้ำเพาะเลี้ยง" และ "กุ้งแม่น้ำตามธรรมชาติ" ก็มีวิธีดูง่ายๆ คือ "มันกุ้ง" เพราะมันกุ้งของ "กุ้งแม่น้ำ" ตามธรรมชาติจะมีสองสีผสมกันในตัว คือ "สีแดงอมส้ม" และ "สีเหลือง" แลดูน่ากิน ส่วนมันกุ้งของ "กุ้งแม่น้ำเพาะเลี้ยง" จะมีแค่สีแดงอมส้มสีเดียวเท่านั้น

แต่กุ้งแม่น้ำตามธรรมชาตินั้นขนาดจะคละกันไปทั้งใหญ่และเล็ก ไซส์ของกุ้งจะไม่เท่ากันหมดทุกตัวแบบกุ้งเลี้ยง และวิธีการจับกุ้งตามธรรมชาติมีอยู่ 2 วิธี คือ "การตก" และ "การสุ่ม" ซึ่งคนรุ่นเก่าๆ จะสุ่มกุ้งแม่น้ำได้เก่งมากๆ แต่ปัจจุบันคนที่สุ่มกุ้งแม่น้ำเก่งๆ เหลือน้อยลงทุกที

ว่าแล้วก็สั่ง "กุ้งแม่น้ำใหญ่เผา" (ราคา 1,150 บาท/ก.ก.) มากินสักหนึ่งจาน และก็ได้พบความจริงดังที่ว่า คือ "มันกุ้ง" มีสองสีผสมกัน คือแดงอมส้มกับเหลือง แถมเนื้อกุ้งก็ยังเด้งดึ๋งดั๋ง เคี้ยวแล้วสู้ฟันสุดๆ กินเปล่าๆ ไม่ต้องจิ้มกับอะไร ก็จะได้ลิ้มรสชาติความหวานเนื้อกุ้งแม่น้ำสดๆ แต่หากต้องการเพิ่มความแซ่บ น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดของ "เรือนร่มไทร" ก็ช่วยสร้างความแซ่บให้บังเกิดขึ้นได้



ปลากะพงกระชังไร้กลิ่นสาบโคลน



"ปลากะพงทอดราดน้ำปลา" (ราคา 340 บาท)

ตามมาด้วย "ปลากะพงทอดราดน้ำปลา" (ราคา 340 บาท) อีกเมนูเด่นที่ทำมาจากอีกหนึ่งของดีบางปะกง นั่นคือ "ปลากะพงที่เพาะเลี้ยงในกระชัง" ซึ่งอ.บางปะกง เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงปลากะพงกระชังที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จุดเด่นของปลากะพงที่เพาะเลี้ยงในกระชัง คือ ไม่มีกลิ่นสาบโคลนแบบปลากะพงที่เลี้ยงในบ่อ ทำให้รสชาติดีกว่าปลากะพงที่มีกลิ่นสาบโคลนติดมา แล้วยิ่งเอามาทอดจนกรอบไปถึงก้างแล้วราดด้วยน้ำปลาหอมๆ ก็ยิ่งอร่อยแบบดับเบิ้ล


อาหารทะเลสดๆ ของดีที่หาได้ง่ายในเมืองชายทะเล

และนอกจาก "กุ้งแม่น้ำ" กับ "ปลากะพง" แล้ว อาหารทะเลอื่นๆ ก็ไม่ยอมน้อยหน้า เพราะที่นี่ยังมีเมนูอีกมากมายที่น่าลิ้มลอง ทั้งเมนูง่ายๆ แต่อร่อยโดยธรรมชาติของวัตถุดิบอย่าง "ปูม้านึ่ง" (ราคา 500 บาท/ก.ก.) ปูม้าสดๆ เนื้อหวาน มีไข่สีส้มเต็มกระดอง แถมยังกินง่าย เพราะทางร้านแกะกระดอง และทุบก้ามปูมาให้ในแบบที่ แค่รูดเปลือกของก้ามปูขึ้นมาด้านบนเท่านั้น ก็จะได้ลิ้มรสเนื้อก้ามปูและกรรเชียงปูได้อย่างเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่แตกสลายเลยแม้แต่ชิ้นเดียว


"ปูม้านึ่ง" (ราคา 500 บาท/ก.ก.)



"ฉู่ฉี่ลิ้นจี่กุ้งแม่น้ำ" (ราคา 420 บาท)

หรือจะเป็นเมนูที่ปรุงแต่งรสชาติสไตล์ไทยแท้ เข้มข้นถึงรสถึงเครื่อง เช่น "ฉู่ฉี่ลิ้นจี่กุ้งแม่น้ำ" (ราคา 420 บาท) ที่ใช้กุ้งเเม่น้ำไซส์เล็กลงมาหน่อย  ทอดจนกรอบแล้วเข้ากับเครื่องแกงและลิ้นจี่จนกลายเป็นฉู่ฉี่ที่รสชาติเข้มข้น เผ็ดร้อนนิดๆ เค็มระคนหวาน กลมกล่อมแบบไทยๆ



"ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน" (ราคา 180 บาท)

อีกเมนูหนึ่งที่เข้มข้นถึงรสเครื่องเทศแบบไทยๆ ไม่แพ้กัน คือ "ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน" (ราคา 180 บาท) ห่อหมกทะเลที่ระดมใส่ทั้งกุ้งทะเลตัวใหญ่ ปลาหมึกเนื้อหนึบหนับ และปลา ผสมน้ำมะพร้าวอ่อนลงไปเพื่อเพิ่มความหวานมัน แล้วจัดใส่ลงในลูกมะพร้าวเพื่อความสวยงาม เป็นห่อหมกที่เนื้อค่อนข้างเป็นครีมนุ่มนิ่มละม้ายคล้ายแกงมากกว่า ไม่ได้เป็นห่อหมกเนื้อแน่นๆ แบบที่คุ้นเคย แต่ก็อร่อยลงตัวและกินเพลินจนหมดโดยไม่รู้ตัว



"ยำ 3 ทะเล" (ราคา 200 บาท)

และถ้าไม่อยากพลาดความแซ่บแบบทะเลๆ ก็ควรจะต้องสั่ง "ยำ 3 ทะเล" (ราคา 200 บาท) มาลิ้มรสและกลิ่นอายทะเลกันอีกสักจาน เป็นเมนูรวมมิตร "หอยนางรมสด" พร้อมเครื่องเคียง คือน้ำพริกเผา หอมแดงทอด ยอดกระถิน กระเทียมสดฝานบางๆ ตะไคร้ซอย "พล่ากุ้ง" และ "หมึกมะนาว" เลือกแซ่บได้ตามใจ



"ขาหมูทอดร่มไทร" (ราคา 320 บาท)

ปิดท้ายด้วย เมนูที่ไม่ใช่ซีฟู้ดสักหนึ่งเมนู กับ "ขาหมูทอดร่มไทร" (ราคา 320 บาท) ขาหมูปรุงรสแล้วทอดจนกรอบไปถึงเนื้อใน กินคู้กับผักดองเปรี้ยวอมหวาน และน้ำจิ้มสองแบบ คือซีอิ๊วกับงาสำหรับคนที่ชอบรสชาติออกหวาน หรือน้ำจิ้มซีฟู้ดสำหรับคนที่ชอบรสชาติแซ่บๆ มาตัดเลี่ยน




แดดร่มลมตก นั่งกินอาหารทะเลอร่อยๆ กินไปคุยไป ชมความงามของริมฝั่งแม่น้ำบางปะกงไปด้วย แทบไม่อยากจะกลับเข้ากรุงเทพฯ อีกเลย


น้ำจิ้มซีฟู้ดสุดแซ่บ


ค้นหาและอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.wongnai.com/articles/ruen-romsai
 เจ๋ง เจ๋ง เจ๋ง เจ๋ง เจ๋ง เจ๋ง เจ๋ง เจ๋ง เจ๋ง เจ๋ง เจ๋ง เจ๋ง เจ๋ง เจ๋ง เจ๋ง เจ๋ง เจ๋ง
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!