เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 25 เมษายน 2024, 19:46:03
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  พระมหาสมปอง ให้ชื่อลูกแพนดาถ้าเป็นตัวผู้ชื่อ ′ช่วงชิง′ เป็นตัวเมียชื่อ ′หลิงเป็ง
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 พิมพ์
ผู้เขียน พระมหาสมปอง ให้ชื่อลูกแพนดาถ้าเป็นตัวผู้ชื่อ ′ช่วงชิง′ เป็นตัวเมียชื่อ ′หลิงเป็ง  (อ่าน 1781 ครั้ง)
adul
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 27


« เมื่อ: วันที่ 07 มกราคม 2014, 09:17:31 »

พระมหาสมปอง ตาลปุตโต พระนักเทศน์ชื่อดังได้แวะมาเยี่ยมหลินฮุ่ย พร้อม ดร.สิงห์ทอง บัวชุม ประธานคณะกรรมการด้านนโยบาย และกำกับดูแลเพื่ออภิบาลหมีแพนด้า องค์การสวนสัตว์ฯ ได้เข้าชมหลินฮุ่ยผ่านกล้องวงจรปิด และได้กล่าวว่า หากเป็นเกิดเป็นแพนดาเพศผู้ ขอให้ชื่อช่วงชิง คือช่วงชิงความสุขกลับมาให้กับคนไทย เพราะความสุขหายไปเยอะ แต่หากเป็นตัวเมีย ขอให้ชื่อว่า หลินเป็งปุ๊ด ตามชื่อแม่หมีแพนด้า หลินฮุ่ย มีความหมายสอดคล้องกับการตักบาตร เป็งปุ๊ด หรือการตักบาตรเที่ยงคืน(มติชน วันที่ 06 มกราคม พ.ศ. 2557)
IP : บันทึกการเข้า
adul
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 27


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 07 มกราคม 2014, 09:18:01 »

“วันเป็งปุ๊ด (เพ็ญพุธ)” ชาวล้านนา มีความเชื่อว่า พระอุปคุตซึ่งเป็นภิกษุที่พระพุทธเจ้าทรงเป็นองค์อุปัชฌาย์ เมื่อสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว ได้เสด็จลงไปจำศีลภาวนาอยู่ ณ สะดือทะเล ในรอบ ๑ ปี จะขึ้นมาโปรดชาวเมืองก่อนเวลารุ่งอรุณ ถ้าผู้ใดได้ใส่บาตรกับพระอุปคุตแล้วบุคคลนั้น จะประสบแต่ความสุขร่ำรวยด้วยทรัพย์สินเงินทองได้อานิสงส์แรง ดังนั้นเมื่อถึงวันเพ็ญตรงกับวันพุธชาวเหนือทุกคนจะไปคอยใส่บาตรเป็นพิเศษ
IP : บันทึกการเข้า
adul
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 27


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 07 มกราคม 2014, 09:18:24 »

“วันเป็งปุ๊ด (เพ็ญพุธ)” เป็นวันสำคัญที่มีกิจกรรมและความหมายเฉพาะ เกี่ยวข้องกับศรัทธาที่มีต่อพระรัตนตรัย ที่ไม่ควรเอาไปตั้งชื่อสัตว์เดรัจฉาน ไม่ว่าจะพยายามแปลไปทางดีแค่ไหนก็ไม่ควรทำ
แพนด้าน้อยเป็นที่มุ่งหวังของไทยและจีน เมื่อได้ลูกหมีดั่งใจหวังควรตั้งชื่อว่า “สมปอง”เพราะสมใจปองของทุกฝ่าย
หรือตั้งว่า “หลินปอง”  จะได้สอดคล้งกับพื่ เป็น “หลินปิง หลินปอง”
ฮ้องยามลมดีก็ว่า “อี่หล้า”  ฮ้องธรรมดาก็ว่า “อี่น้อย”  ยามลมบ่จอยก่อฮ้อง “อี่ปอง”
IP : บันทึกการเข้า
meela
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 530


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 07 มกราคม 2014, 10:41:49 »

ตัวเมียน่าจะชื่อว่า หลินปอง  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
ขี้เหล้าอาวุโส
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,062



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 07 มกราคม 2014, 10:51:14 »

“วันเป็งปุ๊ด (เพ็ญพุธ)” เป็นวันสำคัญที่มีกิจกรรมและความหมายเฉพาะ เกี่ยวข้องกับศรัทธาที่มีต่อพระรัตนตรัย ที่ไม่ควรเอาไปตั้งชื่อสัตว์เดรัจฉาน ไม่ว่าจะพยายามแปลไปทางดีแค่ไหนก็ไม่ควรทำ
แพนด้าน้อยเป็นที่มุ่งหวังของไทยและจีน เมื่อได้ลูกหมีดั่งใจหวังควรตั้งชื่อว่า “สมปอง”เพราะสมใจปองของทุกฝ่าย
หรือตั้งว่า “หลินปอง”  จะได้สอดคล้งกับพื่ เป็น “หลินปิง หลินปอง”
ฮ้องยามลมดีก็ว่า “อี่หล้า”  ฮ้องธรรมดาก็ว่า “อี่น้อย”  ยามลมบ่จอยก่อฮ้อง “อี่ปอง”

แม่นครับแม่น เรื่องหมีแพนด้านี่เห่อกั๋นจริง แลบลิ้น
IP : บันทึกการเข้า

ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
Paul@CR
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,758


- หาหัวใจให้เจอ ก็เป็นสุข -


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 07 มกราคม 2014, 10:55:46 »

..ไม่น่าจะใช่กิจของสงฆ์นะ..
IP : บันทึกการเข้า

..ยุคนี้มันไม่มีใครเห็นแก่บ้านเมืองจริงๆ หร­อก..เกล้าผมอยากรู้นัก มีใครคิดถึงเรื่องของแ­ผ่นดินกันบ้าง..  - ขุนรองปลัดชูฯ -
poypang
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 695


โอ้ววว !!! พระเจ้า เชียงรายโฟกัส มันดีมากเลย


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 07 มกราคม 2014, 11:01:51 »

ถ้าตัวผู้ชื่อช่วงชิงจริง ได้ยินชื่อแล้วนึกถึงน้องช้างบ้านเราขึ้นมาตะหงิด ๆ ยังไงก็ไม่รู้

รึว่า คิดลึก ไปเองคนเดียว
IP : บันทึกการเข้า

อยู่อย่างคนธรรมดา แต่จงใช้ปัญญาเยี่ยงนักปราชญ์ : ท่าน ว.วริชเมธี
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 09 มกราคม 2014, 00:22:55 »

adul
“วันเป็งปุ๊ด (เพ็ญพุธ)” ชาวล้านนา มีความเชื่อว่า พระอุปคุตซึ่งเป็นภิกษุที่พระพุทธเจ้าทรงเป็นองค์อุปัชฌาย์ เมื่อสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว ได้เสด็จลงไปจำศีลภาวนาอยู่ ณ สะดือทะเล

กราบ ขออภัย ท่านอดุลย์

 ผมหนานธง จดจำมาว่า  พระอุปคุต เป็น พระอรหันตบุคคล  ยุคหลังพุทธกาล  ที่มีการพยากรณ์  ทำนายเอาไว้ ล่วงหน้า ว่า  จะเป็นผู้ ปราบพระยามาราธิราช ทำให้ พระยามาร ระลึก นึกถึงความปรารถนาพุทธภูมิ ของตน

พระพุทธเจ้า ไม่ได้เป็น พระอุปัชฌายะ ผู้รับเข้าหมู่เพศนักบวช ของ ท่านพระอุปคุต  
พระอุปัชฌายะ ของ ท่าน เป็น พระภิกษุ ยุค พระยาอโศกมหาราช

บิดา ของท่าน เป็น พ่อค้า ของหอม  มีท่านเป็น บุตรชาย ผู้ที่สาม

 เดิมที พ่อค้านี้ ว่าหากมีลูกบ่าว จะยกให้ครูบาจะให้ลูกได้บวช  

พอได้ลูก คนหนึ่งเป็น ชาย ก็เบี้ยว  ได้คนสอง ก็บิด  พอได้คนสาม ครูบาเจ้าวัด ท่านจึงไม่ยอม ให้มีการเสียสัจจะอีก

พระอุปคุตโตมหาเถระ  เป็น  พระผู้มีฤทธิ์มาก ในยุคหลังพุทธกาล  แต่อย่างไร ท่าน ก็น่าจะเป็น รอง ของ พระโมคคัลลานะมหาอัครสาวก เบื้องซ้าย

ที่ผมจำมา อาจคลาดเคลื่อนก็เป็นไปได้  อาศัยจำมาอีกที              แฮ่   ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
adul
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 27


« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 09 มกราคม 2014, 09:24:47 »

ขึ้นชื่อว่าตำนาน ไม่มีใครรู้จริงหรอกครับ
ผมก็เอามาจาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%8A%E0%B8%94
ที่ท่าน"nantong " ทราบมาน่าจะเข้าไปเพิมเติมใน "wikipedia" ได้นะครับ
ให้ท่านอื่นๆ ได้ประกอบการพิจารณา จะเชื่ออย่างไรย่อมเป็นความเชื่อ หรือศรัทธาของแต่ละท่านไป
แต่ที่แน่ ๆ เป็นกิจกรรมการกุศลที่เกิดจากศรัทธาต่อพระรัตนตรัยแน่นอน แม้ภาคอื่นไม่มีแต่ล้านนาเรามี จะมากล่าวถึงในเชิงไม่เชื่อถือ หรือออกแนวล้อเล่นไม่ได้ พูดติดตลกเรื่องอื่นได้ ติดตลกความเชื่อหรือศรัทธาไม่ได้ เข้าทำนองไม่เชื่ออย่าลบหลู่
  ขอบคุณท่าน"nantong " ที่นำสิ่งที่รู้มาสู่สังคม ที่ท่านกล่าวมาเป็นความรู้ใหม่ของผม

   
IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 11 มกราคม 2014, 09:46:38 »

adul  & nantong

“วันเป็งปุ๊ด (เพ็ญพุธ)” เป็นวันสำคัญที่มีกิจกรรมและความหมายเฉพาะ เกี่ยวข้องกับศรัทธาที่มีต่อพระรัตนตรัย ที่ไม่ควรเอาไปตั้งชื่อสัตว์เดรัจฉาน ไม่ว่าจะพยายามแปลไปทางดีแค่ไหนก็ไม่ควรทำ
 
 ยิงฟันยิ้ม   ยิ้มกว้างๆ    ยิ้มเท่ห์    น่าคิด หนานว่า มีช้างเผือก ได้รับ พระราชทานนาม เป็น ถึง ยศพระยา ดูเหมือน มีคำพ้อง กับ พระเจ้าแผ่นดินเราเลย คือ  

อดุลยเดชพาหน ก็มีนะ

แพนด้าน้อยเป็นที่มุ่งหวังของไทยและจีน เมื่อได้ลูกหมีดั่งใจหวังควรตั้งชื่อว่า “สมปอง”เพราะสมใจปองของทุกฝ่าย
หรือตั้งว่า “หลินปอง”  จะได้สอดคล้งกับพื่ เป็น “หลินปิง หลินปอง”
ฮ้องยามลมดีก็ว่า “อี่หล้า”  ฮ้องธรรมดาก็ว่า “อี่น้อย”  ยามลมบ่จอยก่อฮ้อง “อี่ปอง”

 ยิงฟันยิ้ม   ยิงฟันยิ้ม    ยิงฟันยิ้ม  นี่  ก็ มีความเป็นไปได้  มีโอกาส  ในการใช้ นามว่า  สมปอง หรือ จะเป็น สมหวัง  สมคิด  สมใจปอง

แต่  หาก เป็นการเสียดสี แก้แค้น พระมหาสมปอง จึงเอาชื่อ มาตั้ง ให้พ้องกัน   นี่ อันตราย  สุ่มเสี่ยง  ต่อ  ไฟนรก กองที่ 6
ไฟนรก  7 กอง  มี
1 พระพุทธ            2 พระธัมมวินัย           3 พระสงฆ์(อริยบุคคล)

4 บุพพการีชน        5 ครูบาอาจารย์
  
6 สมณชีพราหมณ์(นักบวช)             และ   7 สามี

พระมหาสมปอง จัดอยู่ ใน ข้อ 6 แน่ ๆ      

หาก ท่านเป็น  พระอริยบุคคล ก็ เป็น กองที่ 3 อีก  หาก ว่า ท่านเป็น ผู้ให้ก่อน ก็ เป็น บุพพการีชน ด้วย  ท่าน เป็น  นักเทศน์ สอน เผยแผ่ ธัมมะ ก็เป็น  ไฟนรก กอง 5

สิ่งใด ที่เราปรามาส ติเตือน เราอันตราย เล่นไฟนรก      
ส่วนการติ  เพื่อ ก่อ ให้ ถูกต้อง ตาม พระธัมมวินัย  เราย่อม ได้ เหตุ  ตรงข้าม กับ  ไฟนรก

ไม่ว่า  ด้วย เจตนา หรือ ไม่เจตนา ก็มีผลกัมม์      มีเจตนา ย่อม  เป็น กัมม์

พระ ท่านว่า  ในชีวิตปกติ  กัมม์ ที่มาจาก  การไม่เจตนา  นี่สำคัญ

ระเบิดนิวเคลียร์ มีหลายลูก  แต่  ที่จงใจ  เอาไปโยน มีแค่  2 หน่วย
 ฮิโรชิมา แก่น 1   นางาซากิ แก่น 2  

ยานพาหนะ  รถ เรือ ฮอ เครื่องบิน    โดย ปกติ ไม่มีเจตนา  สร้างมัน เป็น อาวุธ  

แต่  คน ก็ เอามาเป็น  อาวุธ ได้  รถสงคราม เรือสงคราม บนน้ำ  ดำน้ำ เครื่องบินรบ  ฮอด เครื่องบินพลีชีพกามิกาเซ่

ยานพาหนะ  เอาไปเอามา อันตราย มีคนตายย้อนมัน ทุกวัน  ค่วยโลก  จำนวน  สะสม มากยิ่งกว่า การตาย จาก การบอร์มนิวเคลียร์ ใน สงครามโลก หนสอง ในวันโน้นน.........  ตั้งแต่ ผมยังไม่เกิด



ตำนาน  ที่ ว่า ไม่มี ใครรู้จริง  ผมว่า  มันก็ ไม่แน่ เสมอไป  ตำนาน อาจ เป็น เรื่องจริง หรือ  ไม่จริง ก็ได้     
ทุกสิ่ง ล้วน สมมุติ คือ  อนัตตา  หา แก่นสาร มิได้      มี เรา  แหละ  ชอบ ยึดอัตตา   ผมด้วย คนหนึ่ง ยังมี อัตตา

กู คือ ธัมม์    ธัมม์ คือ กู       ค่อยยังดีกว่า        กู คือ  มาร อธัมม์         อธัมม์ มาร คือ กู ใช่ไหม ?

ผม จดจำ  นำมาถ่ายทอดเป็น  ตัวอักษร   

        V  V  V

มีผู้รู้ เขา ให้ แง่คิด ผม จำ มาว่า   
 
บางสิ่ง  บางอย่าง  เราอาจไม่ได้ รู้  ไม่ได้เห็น หรือ ไม่ต้องจำเป็น ต้อง รู้  ต้องเห็น เสมอไป

ตำรวจ  จำเป็นด้วยหรือ ? ที่จะต้อง  จับ  คนร้าย  ใน ขณะทำการ  ต้องจับได้ คาหนัง  คาเขา เท่านั้น หรือ ? 

ศาล  ทำไม  พิพากษา ได้ลงคอ    ทั้งที่  ไม่ได้  อยู่ ใน เหตุการณ์  กับ เขา

เอา ให้ เข้าใจ  ยิ่งขึ้น  คือ   V V V       
  
คนเรา เกิดมา เรา ยังไม่เห็น       ตอน ที่  พ่อแม่ เรา    เ   า กัน  ตอนไหน เลย น๊อ ?        

  แต่  ถือ เป็น เรื่อง ของ ตำนาน             ผลจาก ตำนาน คือ เป็น ตัวเรา  ตัวท่าน

ใน การสนทนา  ได้อรรถรส  ยิ่งกว่า ตัวอักษรสมมุติ เน้อ     ขยิบตา     ยิงฟันยิ้ม   แลบลิ้น    จุมพิต   ตกใจ     

ผม  จดจำมา ถ่ายทอด  อีกทีนะ      อาจ มี ขาดตก บกพร่อง ได้    หรือ    
สายบุญ  อาจคิดไป ว่า  เกินเลย  มีการ ต่อเติม ตกแต่ง  ตัดแต่ง

ให้ ถือ เสียว่า เป็น ธัมมะ  เป็น อนิจจัง    เป็น คำสอน
      
  มองแบบบัณฑิต ก็ว่า ดี    มอง แบบพาลชน  คนง่าว  ก็ ว่า หยาบคาย

ลองไปอ่าน นิทานเซน  พระตาบอด ในอาวาส กับ พระอาคันตุกะ ผู้มาเยือน  ใน หัวข้อ ใคร รู้วิธี ออกจาก ทุกข์ บ้าง ?


    ม้าลาย เครื่องหมาย เต๋า            มีทั้ง ขาว และ ดำ      

 สาธุ สวัสดี              
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 11 มกราคม 2014, 10:21:36 โดย nantong » IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 11 มกราคม 2014, 10:42:32 »

การให้ กำเนิด ไม่ว่า จะเป็น วิธีใด  หนีไม่พ้น กำเนิดสี่  ที่  พระบรมครู  ตรัสไว้แล้ว

มีที่ ในไข่  ในครรภ์  ในที่ชุ่มชื้น  ในการผุด

คำ ที่ เกี่ยวกับการไม่เกิด หรือ เกิด     ที่เราทราบกันดี มี           การไม่เอา กับ การเอา  

บางที  มีการเ า         แต่ เขาไม่เอาลูก มีคำสุภาพ เรียกว่า การคุมกำเนิด                   แฮ่     ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

พระพุทธเจ้า หรือ พระเจ้า  หรือ พระศาสดา สอน  ให้ ฉลาด   เท่าทัน ความเป็น จริง     มีแต่  เราโดน  มาร ซาตาน  กิเลส หลอกเอา  
        

  5     5     ฮิ้ว   ยิงฟันยิ้ม    กิเลส  ชอบ การคุม ฯ   มากกว่า       ไหมหนอ  ฮืม  

ออก จาก ธัมม์   ตามใจ  กิเลส  ตามใจมาร     จะกลายเป็น  คำว่า    กู มิใช่ ธัมมะ     ธัมมะ  มิใช่ กู

หนาน  ต้อง กราบ ขอสมาอภัย  ที่  อาจทำให้  สายบุญ ผิดหวัง ลดสัทธา  ขาดความเชื่อถือ   ทุกสิ่ง  ล้วนอนัตตา  หาแก่นสาร บ่ ได้

อัตตา  กับ  อนัตตา     อยู่ติดกันแหละ                    แฮ่   ยิงฟันยิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 11 มกราคม 2014, 10:59:55 โดย nantong » IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
adul
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 27


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 13 มกราคม 2014, 13:27:35 »

   .......พอได้รู้  ได้ยินมาเรื่องทำกรรมกับ สมณชีพราหมณ์(นักบวช)
กรรมหนักเบาอยู่ที่ศีลหรือความบริสุทธ์ของท่านผู้ถูกกระทำนั้น
    สูงสุด คือพระพุทธเจ้า ผู้ทำได้รับกรรมทันตาเห็น  นั่นต้องเจตนาฆ่า ได้ลงมือทำ ผลแม้เล็กน้อยก็ได้รับผลกรรมที่ทำ
      พระพุทธเจ้า พระอริยสาวก พระอรหันต์ที่พระพุทธเจ้าตรัสรับรอง “บุตรของเรา.....” ไม่มีอีกแล้ว
        จะมีก็พระอริยบุคคล ที่ไม่ประกาศตน    ซึ่งก็นับตั้งแต่ พระโสดาบัน จนถึงอรหันต์ 
               ระดับพระอริยบุคคล  แล้ว.... ศีล อันเป็นหนึ่งในไตรสิกขา จะมั่งคงมาก...
       ใจมั่นคง  การแสดงออกทางกายย่อมมั่นคง
             การแสดงออกก็มั่นคง ไปในทาง มักน้อย สันโดษ เป็นไปในทางละ วาง ไม่แสวงหา สะสม ลาภสักการะ
                  ธรรมที่พระอริยบุคคล แสดงออกมา ย่อมเป็นไปในทางไปสู่    การ ละ  วาง
        ธรรมของพระอริยบุคคล  ไม่ต้องส่งถึงบ้านก็มีพุทธศาสนิกชนเดินทางไปหา
ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยออกปากสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ ศีลและวัตรปฏิบัติของท่านชักนำมวลมหาประชาชนมาทำจนเสร็จ
หลวงปู่แหวนสุจินโน อยู่ในป่าเขา ศีลและวัตรปฏิบัติของท่านชักนำมวลมหาประชาชนมาหาที่วัด
ท่านพุทธทาสภิกขุ ไม่ออกวัดไปไหน ศีลและวัตรปฏิบัติของท่านชักนำมวลมหาประชาชนมาหาท่านที่วัด
IP : บันทึกการเข้า
adul
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 27


« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 13 มกราคม 2014, 13:29:52 »

คนดิบอย่างผม ที่ได้แต่อ่านจากหนังสือ ฟังพระธรรมบท สังเกต...พระที่ที่มหาชนเลื่อมใสไปหา(ไม่ต้องส่งธรรมถึงบ้าน) อนุมานเอาเองว่าพระระดับ พระอริยบุคคล 
            เบื้องแรกวัตรปฏิบัติของท่านมั่นคง ไปในทาง มักน้อย สันโดษ เป็นไปในทางละ วาง ไม่สะสม 
            ธรรมที่ท่านแสดงก็เป็นธรรมที่พระพุทธองค์แสดงไว้แล้วแต่ปรับให้เข้าใจง่ายขึ้น 
   ไม่แสวงหา สะสม ลาภสักการะ ผลประโยชน์ได ๆ จากการเป็นพระ
   ตั้งแต่ครั้งพุทธกาลมา การฟังธรรมควรตั้งใจฟังอย่างสงบ พิจารณาไตรตรองไปตามธรรมเท่านั้น จึงจะรู้ธรรม
            ผมไม่เชื่อว่าการฟังไปหัวเราะไปจะเข้าใจธรรม
                เพราะคำพูดที่ก่อให้เกิดเสียงหัวเราะได้มักจะเป็นคำพูด ส่อเสียด....
                      กระทบกระเทียบเปรียบเปรย... ประชดประชัน...  เหน็บแนม...
คำพูดเช่นนี้จัดอยู่ในศีลข้อ4ศีล เป็นข้อห้าม ถ้าทำก็ผิด!
           ยิ่งเป็นพระต้องมั่นคงในศีล เพราะพระดำรงชีพด้วยการบิณฑบาตจากพุทธศาสนิกชน
                 พระที่มีศีล เป็นเนื้อนาบุญ ให้พุทธศาสนิกชน ตักบาตรทำบุญ
                    พระทุศีล เหมือนที่นาดินไม่ดี ให้ผล(บุญ)น้อย   
                                 หลอกลวงพุทธศาสนิกชน หากิน
..............ผมมีความเชื่อเช่นนี้…………………………………
IP : บันทึกการเข้า
adul
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 27


« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 13 มกราคม 2014, 15:49:12 »

ที่ท่านหนานว่า “พระมหาสมปอง จัดอยู่ ใน ข้อ 6 แน่ ๆ  หาก ท่านเป็น  พระอริยบุคคล ก็ เป็น กองที่ 3 อีก “
    ท่านหนาน บวชเรียนมาก่อน ย่อมเรียนรู้ลักษณะพระอริยบุคคล มากกว่าคนดิบอย่างผม
“การหัวเราะและการยิ้มโดยทั่วไป เกิดจากจิตหลายประเภท   
บุคคลที่ไม่ใช่พระอรหันต์ ย่อมหัวเราะหรือยิ้ม ด้วยโลภมูลจิต ที่เป็นโสมนัส หรือมหากุศลจิตที่เป็นโสมนัส     
พระอรหันต์ท่านไม่มีกิเลสแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะทำให้ท่านหัวเราะ อย่างมากก็เพียงแค่ยิ้มเท่านั้น 
ขณะที่พระอรหันต์ยิ้มนั้น ท่านอาจยิ้มด้วย มหากิริยาจิตที่เป็นโสมนัส หรือหสิตุปปาทจิต ซึ่งเป็นอเหตุกกิริยาจิตก็ได้ (http://www.buddhism-online.org/Section03A_09.htmX
ในความเห็นผม ตราบใดที่ยังเห็นออกสื่อ ยิ้มระรื่น พึงพอใจในเสียงหัวเราะ เสียงปรบมือ ผมสงวนสิทธิ์ที่จะเห็นว่าเป็น พระอริยบุคคล 
IP : บันทึกการเข้า
adul
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 27


« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 13 มกราคม 2014, 15:49:49 »

ที่ท่านหนานว่า “หาก ว่า ท่านเป็น ผู้ให้ก่อน ก็ เป็น บุพพการีชน ด้วย  ท่าน เป็น  นักเทศน์ สอน เผยแผ่ ธัมมะ ก็เป็น  ไฟนรก กอง 5”
-   สมีนิกร อดีตพระนักเทศน์ สอน เผยแผ่ ธัมมะ คนนิยมยกย่องทั่วบ้านทั่วเมือง...  แท้จริงเป็นอย่างไร?
-   สมียันตระ อดีตพระนักเทศน์ สอน เผยแผ่ ธัมมะ คนนิยมยกย่องทั่วบ้านทั่วเมือง ไปไหน คนปูผ้าให้เดินประทับรอยเท้าไปกราบไหว้บูชา… แท้จริงเป็นอย่างไร?
-   สมีเจี๊ยบ อดีตพระตำแหน่งหน้าที่ทางสงฆ์ แสวงหาลาภ
-   ล่าสุด......สมีคำ  ใช้ความเป็นพระ ที่มีผ้าเหลืองห่อหุ้มคลุมกาย นักเทศน์ สอน เผยแผ่ ธัมมะ
............แท้จริงแล้วหวังลาภสักการะสร้างความสุขสบายให้กับตนและพวกพ้อง.....
การเป็นพระ เป็นนักเทศน์ สอน เผยแผ่ ธัมมะ ไม่ใช่หลักประกันว่าเป็นผู้มีศีลสูงเสมอไป  อาจจะเป็นเพียงสมมติสงฆ์
ที่ปฏิบัติศาสนกิจให้ครบ พระรัตนตรัย เท่านั้น  ศีลของสมมติสงฆ์ เต็ม ๆ ขาด ๆ ไปตามประสา “ปุถุชน”
         กรรม(ถ้าหากจะมี)ก็เป็นกรรมที่ “ปุถุชน”กระทำต่อกัน !
IP : บันทึกการเข้า
adul
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 27


« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 13 มกราคม 2014, 15:51:25 »

ผมคนดิบ อาศัยการศึกษาเรียนรู้ จากการฟัง การอ่าน อ่านเจอ กาลามาสูตร เห็นพ้องด้วย นำมาเป็นหลักคิด
     จึงมักจะไม่เชื่อถือ ศรัทธา บุคคลตามกระแสนิยม
           มหาสมปอง เทศน์ สอน เผยแผ่ ธัมมะ ตามหน้าที่ของท่าน
                 ผมคนดิบไม่แตกฉานในธรรมมากนัก ดังนั้น สิ่งที่ท่านเทศน์ ผมไม่ยุ่งด้วย
    การตั้งชื่อหมี เป็นเรื่องทางโลกล้วน ๆ ไม่มีธรรม มาเจือปน
        ผมรู้สึกว่า หากผมจึงเสนออย่างที่เห็นบ้าง ด้วยเห็นผลประกอบอย่างปุถุชนอ้างกัน
             หลินปอง สมปอง ไม่ใช่ มหาสมปอง ท่านแปลงเอาเองหรือเปล่า
                   พอใจ....ไม่พอใจ....ก็ว่าตามเหตุผล ที่“ปุถุชน”กระทำต่อกัน !
                     ใช่ว่า “ฆราวาส”  จะตกนรกฝ่ายเดียว หากพระทุศีลก็ตกนรกได้เช่นกัน 
                               หนักกว่าด้วย  “เพราะ  สอนคนอื่นแต่ทำเสียเอง”
IP : บันทึกการเข้า
adul
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 27


« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 13 มกราคม 2014, 15:53:40 »

 สมมติสงฆ์เดี๋ยวนี้ไว้ใจได้ที่ไหน ……
      เดียรถี อลัชชี คนหมดทางหากิน โจรชั่ว แห่กันมาบวช ทั้งบวชจริง และแอบห่มเหลืองเป็นครั้ง....ก็มาก
          เพราะหาลาภสักการะในพระพุทธศาสนา  ได้ง่าย
 หรือ เพราะชาวพุทธมัวแต่คิดว่า “ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์” เราทำบุญเราได้บุญกระมัง จึงมีคนทำบุญไม่เลือก   
ไม่ไตร่ตรอง  เห็นผิด เห็นถูกอย่างไร ไม่กล้าแสดงความเห็น  ด้วยกลัว บาป กลัวตกนรก 
           เป็นโอกาส เป็นช่องทางให้....เดียรถี... อลัชชี...  คนหมดทางหากิน... โจรชั่ว
                   คนมุ่งแสวงหาลาภจากการบวช แห่กันมาบวชในพุทธศาสนา ........
          ขนาด มส. ยังต้องออก กฎ มส. ประกาศห้ามพระ-เณรขับทุกชนิด
                 พร้อมขอความร่วมมือพระ-เณรเลิกโบกรถเดินทาง หวั่นสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน
                 สร้างภาพไม่เหมาะสมแก่สมณสารูป 
คงเพราะ....ไม่อาจประกันได้ว่า คนโกนหัว ห่มเหลืองสะพายย่าม แบกกรด พูดดี จะเป็นผู้ทรงศีลเสมอไป กระมัง?
IP : บันทึกการเข้า
adul
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 27


« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 13 มกราคม 2014, 15:59:39 »

........ผมไม่ใช่พระ ไม่ใช่นักบวช ไม่เคยบวช มี อัตตาและกิเลสหนาปึ๊ก  ไม่กล้าบวช
...............เกรงบวชแล้วรักษาศีลไม่ได้ สร้างความมัวหมองแก่ตนเองและพระศาสนา
.....................พอมีปัญญาหาเลี้ยงชีพในฐานะฆราวาส
............................จึงได้แต่ ศึกษาพระธรรมตามสมควร ทำบุญตามแต่โอกาส   กับวัดใกล้บ้าน
...........วัดไม่โด่งดัง แต่สร้างมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษของหมู่บ้าน มีพระประธาน สมมติพุทธ ก่ออิฐฉาบปูน(ปูนขาว+...)ทาสี.....มีสมมติสงฆ์ บวช ๆ สึก ๆ หมุนเวียนเปลี่ยนไป
.........ยามไปทำบุญตามวันสำคัญทางศาสนา ผมกราบสมมติพุทธ คิดในใจ....
.............อย่างนี่สิหนอ...เมื่อครั้งพุทธกาลวัดเชตวันมหาวิหาร คงมีพระสัมมาสัมมาพุทธเจ้าเป็นประธานอย่างนี้
…………….กราบพระสมมติสงฆ์.... คงมีเหล่าบรรดาพระอริยสาวกห้อมล้อมอย่างนี้ ทำพิธีกรรมอย่างนี้
................มีการแสดงพระธรรมอย่างนี้ 
.....................จนครบกระบวนการพิธีการ........ผมคิดว่าผมได้บุญเป็นความสุขใจ
......ได้บริจาค ปัจจัย ให้วัดใกล้บ้าน สืบทอดความคงอยู่ของวัดให้คนรุ่นหลังได้ใช้เป็นที่ทำบุญสร้างกุศลสืบต่อไป
       มากกว่าที่จะไปทำบุญกับวัดดัง พระดัง ที่เลิศหรูอลังการมากด้วยปัจจัย ......
IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 13 มกราคม 2014, 17:41:45 »

ไหว้สา

หนาน  ขี้อู้  หำยาน       ปะ     คนดิบ ปากได้  หำแข็ง                  แฮ่   ยิงฟันยิ้ม 
 
ผู้รู้ กล่าว ว่า  อยากรู้ โลก ถามพระ          อยากรู้ธัมมะ  ถาม คฤหัสถ์

ผม ไม่ได้ แสดงความโทสะ คือ  ไม่พอใจ โขดโกรธ      แต่ ปรามความโมโห  คือ  ความหลง โมหะ  ที่อาจ ล่วงเกิน นักบวชได้

โบราณ หม่าเก่า  ว่า 
นักปราชญ์  เป็น  เปรต          นักเทศน์  เป็น  ปาราชิก      เลี้ยง คนเฒ่า  เฝ้า หม้อหระฮก (นรก)

ผมเอง รู้ เข้าใจ ระวัง  ยัง มีพลาด โดย ไม่ได้ตั้งใจ  พลาด โดย ตั้งใจ ก็มี

มีคำว่า  เก่งนัก  มัก พลาด      ขลาดนัก  มัก แพ้         แพ้ เป็น  พระ  ชนะ  เป็น  มาร

เจตนา  ไม่เจตนา  ก็  มีผล พึงได้  ที่มาแต่  เหตุ ที่ทำ   กัมม์  ที่ สร้าง

พระ แท้  อยู่ ที่  จิตใจ    พระภายในจิต              พระ ในรูปแบบสมณะ  เป็น  พระภายนอก  ตาม ผ้าเหลือง ยูนิฟอร์ม

สมณนักบวช แม้น  บวชออกโบสถ์หมาด ๆ   
ถวายทาน  คิดว่า  หวังบุญกุศล   แต่  เป็นของไม่ถูกต้อง  ตาม พระพุทธบัญญัติ ใน วินัยพระ  ยังต้องรับ ผลร้าย  จาก  เหตุบาป ที่ หวังว่า จะเป็น บุญ

หาก  ท่านบวชนาน  บารมีดี ก็ มิใช่น้อย     การบวช เป็น ของยาก     การอยู่ ใน เพศนักบวช  ยากเสียยิ่งกว่า

หนานบวช  สองหนมาแล้ว ทั้งที่ หนสอง มี่ทั้งฝ่าย ที่ อยาก ไม่อยาก ให้บวช  สู้กัน  โดย  ผมตัดสินใจ เอาในที่สุด

หลวงปู่ครูบาไชยวงศาพัฒนาโพธิสัตว์ (ผู้ศิษย์ครูบาศรีวิไชย ครูบาพรหมจักรพระบาทตากผ้า) คุณตาจันทร์  แสงแก้ว คุณพี่กบ  3 ท่านนี้ สำคัญ สนับสนุน ใน หนสอง

แต่ ผู้อื่นส่วนใหญ่ ไม่ค่อย มีใคร เห็นด้วย ที่จะบวช ตั้งแต่ แม่ ของ ผม  น้าเขย น้าสาว ญาติ แม้แต่ พระภิกษุ  ก็มี  ถูกมาร  มาผ่าน  มาลองใจ โดย  อาศัย เขาเหล่านี้

ตัดสินใจ  สึก หนสอง  ยังมี ผู้ บอกว่า  ผม จะต้องตาย ใน ดงขมิ้น      ทุกสิ่ง  ล้วนอนิจจัง   ไม่มี อะไร แน่นอน  อนาคต ยังไม่มาถึง ขอเอา ปัจจุบัน กันก่อน

ผม ว่า  ท่านอดุลย์ ใจดี  มีธัมมเมตตา  ห่วงใย ใน พระไตรรัตน์

 ผม เข้าใจ  เห็นใจ แล้วก็ยัง ห่วงท่าน  จะพลาดพลั้งเผลอได้
แต่ก็ เป็น  ธัมมดา  ของ  ผู้ท่องยุทธจักร นักรบ  นักต่อสู้      ย่อมมี  บาดแผล เหวอะหวะ  เป็น  ธัมมดา

พลาดเผลอ  ต่อ ไฟนรก  กองที่  6          ย่อม  มีความไม่สบายกาย  ไม่สบายใจ ตามมา   
 แล้ว  มารกิเลส  เทพมาร(จิตวิญญาณ หรือ เทวดา ที่ ขัดขวางการทำดี มีจริง พระพุทธเจ้า มีสอนด้วย) อาจตาม มาซ้ำ
จงได้ ระวัง 

ไม่ได้ มาขู่ หนา      ผมโดน มาแล้ว   โดน ลบหัวข้อเสวนา             แฮ่   ยิงฟันยิ้ม

IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 13 มกราคม 2014, 18:41:10 »


 สมมติสงฆ์เดี๋ยวนี้ไว้ใจได้ที่ไหน ……
      เดียรถี อลัชชี คนหมดทางหากิน โจรชั่ว แห่กันมาบวช ทั้งบวชจริง และแอบห่มเหลืองเป็นครั้ง....ก็มาก
          เพราะหาลาภสักการะในพระพุทธศาสนา  ได้ง่าย
 หรือ เพราะชาวพุทธมัวแต่คิดว่า “ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์” เราทำบุญเราได้บุญกระมัง จึงมีคนทำบุญไม่เลือก   
ไม่ไตร่ตรอง  เห็นผิด เห็นถูกอย่างไร ไม่กล้าแสดงความเห็น  ด้วยกลัว บาป กลัวตกนรก 
           เป็นโอกาส เป็นช่องทางให้....เดียรถี... อลัชชี...  คนหมดทางหากิน... โจรชั่ว
                   คนมุ่งแสวงหาลาภจากการบวช แห่กันมาบวชในพุทธศาสนา ........
          ขนาด มส. ยังต้องออก กฎ มส. ประกาศห้ามพระ-เณรขับทุกชนิด
                 พร้อมขอความร่วมมือพระ-เณรเลิกโบกรถเดินทาง หวั่นสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน
                 สร้างภาพไม่เหมาะสมแก่สมณสารูป 
คงเพราะ....ไม่อาจประกันได้ว่า คนโกนหัว ห่มเหลืองสะพายย่าม แบกกรด พูดดี จะเป็นผู้ทรงศีลเสมอไป กระมัง?

ไหว้สา

หนานธง ขอเป็น  ฝ่าย ของ พระพุทธเจ้า       แต่ก็อาจ  โดน  เทวดามาร มาอาศัย ผ่าน ร่างกาย  จิตใจ ได้เช่นกัน

ขอกราบแนะนำ ให้ ท่าน  กราบ ระลึกไหว้พระธัมมะ  คือ  เคล็ดลับ ของ  หลวงปู่บุดดา  ถาวโร  สิงห์บุรี
ที่ ผม ได้มา
จะได้ มี พลังเทพพรหมสัมมาทิฏฐิ  คอยดูแล ใน ทางลับ แก่ท่าน  ผู้รู้ เขากล่าว ว่า เท้าสหัมบดีพรหม ผู้อาราธนาพระพุทธเจ้าแสดงสอนพระศาสนา  ทรง  พรหมวิหารสี่
 
            อาจรออยู่ โดย วางอุเบกขา คอย รอดูท่าทีก่อน

ใคร สนใจ ในการ เผยแผ่ พระพุทธธัมมวินัย แล้ว ระลึก นึกถึงท่าน ท่านก็ต้อง ให้ความเมตตา กรณีพิเศษ ด้วย

ยัง มี พระมหาอุปคุตมหาเถระ  พระอรหันต์ผู้บวช หลังพุทธกาล  ราวเกือบจะถึง ราว พ.ศ. 218  ผู้ปราบ พระยามารโพธิสัตว์ ใน วาระสมโภชน์พระมหาสถูป บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

ท่านมีอำนาจ  เป็น คู่เวร ของ พระยามาร     ผมก็ หมั่น รับพลังบารมีธัมมะ ที่ เป็น พลังแฝง ใน อากาศ อันว่างเปล่า ใน จักรวาล ฮอด  อนันตจักรวาล

ครูอาจารย์ สอนว่า  การอธิษฐาน  รับเอา พลังจักรวาล  ทำหลัง ทำใจ ให้ สงบ จะรับพลังได้ดี
อาจารย์สรโชติ  เอ่งฉ้วน  ผู้ลูกพี่ลูกน้อง มีศักดิ์เป็น น้องชาย ของ ส.ส.อาคม สอนผมมา ท่านเคยได้ แสงสีขาวสว่าง จาก เทพเจ้า ผู้ใช้ภาษาอาหรับ มากับตนเองมาแล้ว อย่างบังเอิญ ที่ไม่บังเอิญ

ผม รู้ แล้วทำ  ยังไม่พ้น โดน  มารทดสอบ           ยิงฟันยิ้ม   แฮ่ 


อันว่า  สมมุติสงฆ์ คนทั่วไป ว่า เป็น พระภิกษุ         
แต่  ผมศึกษา จดจำมา นั้นเป็น  ฆราวาส  คฤหัสถ์ ผู้ไม่ครองเพศสมณะ  นักบวช ที่มี  ภูมิจิต  ภูมิธัมม์

ใน ระดับ อริยชน ผู้มีอริยทรัพย์แล้ว ตั้งแต่ โสดาบันบุคคล จนถึงฮอด อรหันตบุคคล
ใจ เป็น พระแท้  แต่ ไม่ได้ ห่มเหลือง ว่างั้น

บนพรหมสุทธาวาส หลายชั้นนั้น  เป็น แหล่ง ทิพยจิต ของ พรหมอนาคามี ที่ รอจบกิจ เป็น อรหันตบุคคล อยู่บนนั้น  ผม ว่า น่าจะถือเป็น  สมมุติสงฆ์ เกิดอยู่ ใน ชั้น พรหม

พระสมมุติสงฆ์  ตามความเข้าใจ ของ  ท่านอดุลย์ น่าจะหมายถึง ภิกษุ นักบวช ครองสมณเพศ
นี่ เป็น การพลาด โดย ขาดเจตนา ว่า สมมุติสงฆ์ ของ ผมหนานธง นะ

ส่วน หนานธง  กล้า กล่าว ว่า  แม้น  อริยชน  กัลยาณชน พระโพธิสัตว์ นักบวช ปุถุชน อันธปุถุชน ผู้อยู่ อบายภูมิสี่ 
ก็มีสิทธิ์  ผิดพลาด ใน บุญกิริยาสิบ มีทานมัย  สีลมัย ภาวนามัย ฯ  กันได้

ใคร  บุญบารมี เพียงใด     ก็มี  มาร  เทพมาร  ระดับเพียงนั้น  มาทดสอบ

ดูเหมือน ว่า ครูบาอาจารย์ คือ หลวงตามหาบัว ท่าน ว่าไว้ ทำนองนี้



เผลอ ๆ  หนานธง  กลายเป็น  มาร มาทดสอบ ท่าน    อยู่ ในหัวข้อนี้                แฮ่   ยิงฟันยิ้ม

มาร บ่ มี         ป๋ารมี  บ่ เกิด     เน้อ        5           5      ฮิ้ว

ไหว้สา  สมมาเตอะ
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
หน้า: [1] 2 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!