เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 19 เมษายน 2024, 12:39:53
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลท่องเที่ยว-โพสรูป
| |-+  ร้านอาหาร เมนูเด็ด ร้านดัง เชียงราย (ผู้ดูแล: แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-.)
| | |-+  Sushi-OO ดับเบิ้ล ซูชิ ที่รวม “ซูชิ” และ “ซาชิมิ” ไว้ในหนึ่งคำ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน Sushi-OO ดับเบิ้ล ซูชิ ที่รวม “ซูชิ” และ “ซาชิมิ” ไว้ในหนึ่งคำ  (อ่าน 915 ครั้ง)
namfah.w
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 47


« เมื่อ: วันที่ 06 มกราคม 2014, 22:55:27 »




Sushi-OO ดับเบิ้ล ซูชิ ที่รวม “ซูชิ” และ “ซาชิมิ” ไว้ในหนึ่งคำ เจ้าแรกและเจ้าเดียวจากโอซาก้า

เมื่อเหล่าขุนนางแห่งเมืองโอซาก้า มีความต้องการลิ้มลองซูชิในรูปแบบที่แปลกแตกต่างไปจากซูชิแบบเดิมๆ ที่คุ้นเคย จึงได้เกิดการคิดค้น “ซูชิโอ” หรือ “ซูชิสองชั้น”  ขึ้น เพื่อให้เหล่าขุนนางได้ลิ้มรสชาติความอร่อยของ “ซูชิ” และ “ซาชิมิ”ในคำเดียว เพราะเป็นการนำเอาปลาดิบมาวางไว้ด้านบนของซูชิอีกหนึ่งชิ้น ซึ่งเวลากิน จะกินปลาดิบชิ้นบนก่อน เพื่อลิ้มรสชาติของปลาสดๆ แบบเต็มๆ คำ แล้วจึงตามด้วยซูชิ หรือจะกินเข้าไปพร้อมกันทั้งสองชั้นในคำเดียวเลยก็ได้ เพื่อให้รสชาติความอร่อยของปลาได้เต็มปากเต็มคำมากขึ้น




และหลังจากนั้นเป็นต้นมา “ซูชิสองชั้น” หรือ “ดับเบิ้ล ซูชิ” ก็เริ่มแพร่หลายจากราชสำนักมาสู่ชาวเมืองโอซาก้า กลายเป็นที่มาของความอร่อยในแบบที่ไม่มีใครเหมือน

และในวันนี้ความอร่อยจากเมืองโอซก้าก็ได้บินตรงมาถึงเมืองไทยแล้ว จากการค้นพบของเจ้าของร้านสุดหล่อที่มีอาชีพเป็นนักบินของการบินไทย ที่มักจะใช้ชีวิตบินไปประเทศโน้นประเทศนี้อยู่บ่อยๆ และได้พบเจอกับร้าน “Sushi-OO” ที่โอซาก้าเข้า จึงนำกลับมาเปิดเป็นร้าน “Sushi-OO” ที่ขาย “ดับเบิ้ล ซูชิ” เป็นแห่งแรกในประเทศไทย....แต่ไม่ต้องห่วงว่าพอมีชิ้นปลาแบบดับเบิ้ลคูณสองแล้วราคาจะอัพเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวด้วยรึเปล่า เพราะเจ้าของร้านต้องการให้ร้าน “Sushi-OO” เป็นร้านซูชิที่ลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย ทุกสาขาอาชีพสามารถเดินเข้ามากินได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องห่วงว่าจะเจอกับของแพงๆ จนกระเป๋าฉีก แต่ในขณะเดียวกัน แม้ว่าราคาจะถูกกว่าร้านซูชิโดยทั่วไป แต่คุณภาพของวัตถุดิบก็ไม่ได้ลดลงตามราคาแต่อย่างใด เพราะร้าน “Sushi-OO” ใช้แต่ของสดที่นำเข้าจากต่างประเทศเท่านั้น ไม่มีการใช้ของแช่แข็งอย่างเด็ดขาด แถมยังรักษาความสะอาดในทุกขั้นตอนการทำอีกด้วย



อร่อยดับเบิ้ลกับ “ดับเบิ้ล ซูชิ”
ดับเบิ้ล ซูชิ ที่ “Sushi-OO” จะขายเป็นคำๆ ในราคาที่ย่อมเยา (ยกเว้นวัตถุดิบบางอย่างที่มีราคาสูง) เริ่มกันที่สุดยอดแห่งปลาดิบอย่าง “โอโทโร่” (คำละ 380 บาท) ที่อร่อยสะใจกันไปข้าง กับโอโทโร่ ซาชิมิชิ้นโตๆ ที่วางอยู่ด้านบนของซูชิอีกที,“ปลาฮามาจิ” (คำละ 80 บาท) ปลาฮามาจิชิ้นหนาเต็มคำ และมีความเหนียวนุ่ม ที่ทำให้รู้ได้เลยว่าปลาสดจริงๆ, “เอนงาวะ” (คำละ 120 บาท) ครีบปลาตาเดียวที่เบิร์นไฟเล็กน้อย ให้น้ำมันในเนื้อปลาละลายออกมาเคลือบชิ้นปลาเอาไว้ ทำให้เอนงาวะทั้งชิ้นบนและชิ้นล่าง มันลื่นนุ่มลิ้นสุดๆ, “แซลมอนโทโร่” (คำละ 70 บาท) ส่วนท้องของปลาแซลมอนที่นุ่มลื่นและอุดมไปด้วยไขมันมากกว่าส่วนอื่นๆ สะใจคนชอบเนื้อปลามันๆ แน่นอน, “ปลาไหลย่าง” (คำละ 70 บาท) ปลาไหลเนื้อนุ่มๆ ชุ่มไขมันที่อยู่ในเนื้อปลา ย่างกับน้ำซอสรสชาติเข้มข้นแล้วยิ่งอร่อย, “ปลาเงินทอด” (คำละ 50 บาท) เหมาะสำหรับคนที่ชอบความกรอบอร่อยของปลาเงินทอด, “ฟัวกราส์” (คำละ 250 บาท) ฟัวกราส์ชิ้นหนานุ่มให้รสฟัวกราส์เต็มคำๆ, “กุ้งหวานใหญ่” (ราคา 220 บาท) โบตันอิบิเนื้อแน่นๆ กรุบๆ รสชาติหวานตามธรรมชาติโดยไม่ต้องปรุงแต่งใดๆ



"ดับเบิ้ล ซูชิ"



"โอโทโร่ ซูชิ" และซาชิมิในคำเดียว


ชิราชิ 3 หน้า เลือกมิกซ์แอนด์แมทช์หน้าได้ตามชอบ


นอกจาก “ซูชิโอ” หรือ “ดับเบิ้ลซูชิ” ที่เป็นเมนูเด่นของ “Sushi-OO” แล้ว ยังมี “ชิราชิ” หรือข้าวหน้าต่างๆ ที่สามารถเลือกได้ 3 หน้าตามต้องการ เป็นเมนูเด่นอีกหนึ่งอย่างของร้านด้วย โดยต้องสั่งขั้นต่ำอย่างน้อย 2 หน้าขึ้นไป และราคาจะขึ้นอยู่กับแต่ละหน้าที่สั่ง ซึ่งมีหลายระดับราคาแตกต่างกันไปตามประเภทของวัตถุดิบหน้าต่างๆ ของ “ชิราชิ” มีดังนี้ “แซลมอน” (ราคา 120 บาท), “ปลาทูน่า” (ราคา 140 บาท), “ปลาแซลมอนแบบเผ็ด” (ราคา 80 บาท), “ไข่หอยเม่น” (ราคา 760 บาท), “กุ้ง” (ราคา 80 บาท), “กุ้งหวาน” (ราคา 120 บาท), “ปลาไหลย่าง” (ราคา 140 บาท), “ไข่ปลาแซลมอน” (ราคา 300 บาท), “ชูโทโร่” (ราคา 560 บาท), “ปลาทูน่าสับ” (ราคา 300 บาท), “ปลาทูน่าแบบเผ็ด” (ราคา 100 บาท), “ปลาฮามาจิ” (ราคา 160 บาท), “โอชิราชิ” (ราคา 100 บาท) และ “โอโทโร่”  (ราคา 760 บาท)



“ชิราชิหน้าปลาแซลมอน-ไข่ปลาแซลมอน-ปลาไหลย่าง”
และจากการผสมผสานปลาดิบและปลาย่างเข้าด้วยกัน ก็จะได้ “ชิราชิหน้าปลาแซลมอน-ไข่ปลาแซลมอน-ปลาไหลย่าง” ที่มีทั้งความนุ่มลื่นของปลาแซลมอน และความนุ่มมันของปลาไหลย่าง และความหนึบของไข่ปลาแซลมอน หรืออิคุระ เป็น 3 รสชาติในชามเดียวที่ไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละคำ


เมนูเบาๆ กินเล่นๆ แต่เพลิน

และใช่จะมีแต่เมนูข้าวที่หนักท้องเท่านั้น ที่ “Sushi-OO” ยังมีเมนูเบาๆ ที่เหมาะจะสั่งมากินเล่น หรือเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยก่อนอาหารจานหลักอยู่หลายเมนูเหมือนกัน เช่น “โอไทเซอร์” (ราคา 148 บาท) หนวดปลาหมึกยักษ์ต้มและปลาแซลมอนดิบหั่นเต๋าคลุกเคล้ากับมายองเนสวาซาบิ เป็นเมนูที่เคี้ยวมันๆ เพราะมีความแตกต่างของเทกซ์เจอร์สองแบบอยู่ในถ้วยเดียว คือ “ความนุ่ม” ของแซลมอน และ “ความหนุบหนับ” ของหนวดปลาหมึกยักษ์ บวกกับรสชาติของวาซาบิที่เผ็ดฉุนขึ้นจมูก เป็นเมนูที่เหมาะกับคนที่รักรสชาติเฉพาะตัวของวาซาบิ และชอบเคี้ยวอะไรมันเขี้ยวมันลิ้น




“ทงคัทสึกุ้งเด้ง”



“สลัดปลาเงิน”

“ทงคัทสึกุ้งเด้ง” (ราคา 148 บาท) ทงคัทสึกุ้งเด้งที่ทอดมาแบบกรอบนอกนุ่มใน และไม่ได้ใช้กุ้งแช่แข็งแต่อย่างใด เนื้อข้างในจึงมีรสกุ้งแบบเป็นธรรมชาติ ยิ่งพอราดด้วยมายองเนสรสชาติกำลังดี ก็ยิ่งเพิ่มความอร่อย ส่วนคนที่ชอบสลัด ต้องลองสั่ง “สลัดปลาเงิน” (ราคา 188 บาท) ที่ใช้กรรมวิธีการทอดแบบพิเศษ ทำให้ปลาเงินยังคงความกรอบอยู่ได้นาน ไม่เหนียวหนืดเมื่อทิ้งไว้นานแบบบางร้าน และสลัดจะอร่อยยิ่งขึ้นเมื่อราดด้วยน้ำสลัดแบบญี่ปุ่นที่หอมงาและรสชาติกลมกล่อมกำลังดี เป็นสลัดเบาๆ ที่ไม่เลี่ยนและไม่หนักจนเกินไป


เครื่องดื่มเปรี้ยวซ่า และของหวานรสละมุน

ดับความมันของปลา ด้วยเครื่องดื่มรสชาติเปรี้ยวๆ ซ่าๆ “ซากุระโซดา” (ราคา 68 บาท) หอมหวานดับกระหายและสร้างความสดชื่นหลังกินซูชิได้เป็นอย่างดี แล้วตบท้ายด้วยของหวานรสชาตินุ่มละมุนละไมอย่าง “ไอศกรีมนมฮอกไกโด-ถั่วแดง” (ราคา 58 บาท) ที่ทำจากนมสดนำเข้าจากฮอกไกโด ซึ่งเป็นนมสดที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความเข้มข้น เพราะฮอกไกโดนั้นเป็นแหล่งผลิตน้ำนมที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น ด้วยกรรมวิธีเฉพาะตัวที่ทำให้นมสดที่ผลิตออกมา มีความเข้มข้นหวานมันเต็มรสนมกว่านมสดโดยทั่วไป ซึ่งพอยิ่งเอามาทำเป็นไอศกรีมก็ยิ่งอร่อยมากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว



“ซากุระโซดา” และ “ไอศกรีมนมฮอกไกโด-ถั่วแดง”

ลิ้มรส “ซาชิมิ” บน “ซูชิ” ได้แล้ววันนี้ ที่ “Sushi-OO” หรือ ค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.wongnai.com/articles/sushi-oo


 ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!