เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 24 เมษายน 2024, 11:04:10
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  เรื่องล้านนา ภาษากำเมือง
| | |-+  ตี้สวรรคตของพญามังราย ณ เวียงเจียงใหม่
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] 3 พิมพ์
ผู้เขียน ตี้สวรรคตของพญามังราย ณ เวียงเจียงใหม่  (อ่าน 45965 ครั้ง)
hackerhell
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 336


นกน้อยสร้างรังแต่พอตัว


« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 26 มีนาคม 2010, 08:29:18 »

ได้ความรู้อีกเยอะ ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆ
IP : บันทึกการเข้า
คนไกลบ้านเกิด
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,874



« ตอบ #21 เมื่อ: วันที่ 28 มีนาคม 2010, 01:32:55 »

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆเจ้า ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
ปิ๊กบ้านเมืองพาน
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 599


@Phan


« ตอบ #22 เมื่อ: วันที่ 23 เมษายน 2010, 11:52:05 »

รู้อะไรที่มากกว่าเดิมมากๆๆครับ
IP : บันทึกการเข้า

ทำแล้วเสียใจ ยังดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ ^^^
@kanin
AIT
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,914



« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 25 เมษายน 2010, 03:04:45 »

สุดยอด
IP : บันทึกการเข้า
Jean Screen Club..ของขวัญมีไอเดีย
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 608


Screen Club ..ของขวัญมีไอเดีย


« ตอบ #24 เมื่อ: วันที่ 06 พฤษภาคม 2010, 22:31:24 »

ในศาลนี้เปิ้นฮื้อจุดธูปจุดเทียนก่อครับ หรือว่ากลัว ไฟไหม้บ้าน เลยบ่หื้อจุด


ก็จุดได้นิครับ วันก่อนขี่รถก๋ายยังหันเปิ้นเอาโต๊ะมาตั้งไว้อยู่เลย
แต่ก็บ่าแน่น่อ แล้วแต่อารมณ์เจ้าของที่ ก็เปิ้นเป๋นเจ้าของโฉนดนิเนาะ
เปิ้นจะยะหยังกับศาลนี้ก็ได้ จะห้ามคนมาจุดธูปเตียนก็ได้




ผมคนเจียงฮายแต้ๆ  เพิ่งฮู้ว่ามีข้อมูลจะอี้ตวย

ขอบคุณหล๋ายๆ ที่มาแบ่งปั๋นกันฮู้  ยิงฟันยิ้ม



บ่แปลกน่อครับ ที่คนล้านนาอย่างหมู่เฮาจะบ่ฮู้ประวัติศาสตร์ล้านนา
เพราะ ชาติพันธุ์ของหมู่เฮาโดนคนสยามคนใต้ล้างสมองมา 100 กว่าปี๋แล้ว
ตั้งแต่เขามายึดเอาแผ่นดินของหมู่เฮาไปเมื่อ พ.ศ.2442
เขาก็ใจ๊ระบบการเมือง เศรษฐกิจ ศาสนา และการศึกษา มาล้างสมองคนล้านนา
ยะหื้อคนล้านนากึดว่าตั๋วเก่าเป๋นคนสยาม
ยะหื้อคนล้านนาลืมรากเหง้า ลืมภาษาของตั๋วเก่า

มีคนกล้าที่ต่อต้านสยาม เช่น พญาปราบสงคราม
เจ้าพิริยเทพวงศ์ เจ้าหลวงเมืองแป้
ครูบาศรีวิชัย (รายนี้โดนยับเข้าคอก 3 รอบ)

ในโฮงเฮียน ต้องสอนประวัติศาสตร์สยาม ห้ามสอนประวัติศาสตร์ล้านนา
ต้องสอนภาษากรุงเทพฯ ห้ามสอนภาษาล้านนา ห้ามเขียนตั๋วหนังสือล้านนา
มีก๋านเผาหนังสือ คัมภีร์ใบลาน พับสา ที่เป๋นภาษาล้านนา อ้างว่าเป๋นกบฏสารพัด

จ๋นบ่าเดี่ยวนี้คนล้านนาได้สูญเสียตั๋วตนเกือบจะเสี้ยงแล้ว
ครูกับนักเฮียนอู้เมืองก็จ้าง แต่กลับต้องปากไทยใส่กั๋นเวลาอยู่ในห้องเฮียน (มันทุเรศก่อ?)

ป้อก็เมือง แม่ก็เมือง แต่ลูกอู้เมืองบ่จ้าง เพราะสลิดสอนลูกอู้ไทย (มันบัดซบก่อ?)

คนล้านนาฮู้จักแต่พระนเรศวร พระเจ้าตาก แต่บ่ฮู้จักพญามังราย
พญากือนา พญาแสนเมืองมา พระเจ้าติโลกราช พระเจ้ากาวิละ (มันน่าอนาจก่อ?)





  ผมว่าคุณมีอคติอะไรกับเมืองไทยหรือป่าวครับ?
สมัยผมเด็กๆ ผมก็เคยได้เรียนประวัติของชาวล้านนา
ไม่มีใครเขาห้ามหรอกครับที่จะสอนประวัติศาสตร์ล้านนา
ตอนที่ผมเรียนเขาก็เล่าประวัติศาสตร์ล้านนา

    สมัยก่อนอาจจะไม่เหมือนสมัยนี้น่ะครับ
ตอนนี้ความรู้มีอยู่ทั่วไปในอากาศ
แค่เสียบปลั๊กแต่เน็ต ความรู้ก็มาแล้ว
คนเขาก็สามารถร่ำเรียนได้

     คุณไม่ต้องน้อยใจไปหรอกครับ
ประวัติศาสตร์ล้านนาได้ถูกจารึกไว้เรียบร้อยแล้ว

      แล้วก็เรื่องสอนลูกให้พูดไทยน่ะ (มันไม่บัดซบหรอกน่ะ)
เด็วนี้ยิ่งรู้หลายภาษา ยิ่งดี
ยิ่งรู้ภาษาอังกฤษ ก็ยิ่งดี
รู้ภาษาจีน ก็ยิ่งดี
รู้ภาษาหลายภาษาก็ยิ่งดี ไม่ใช่หรอครับ

     หรือใครว่าไม่จริง
IP : บันทึกการเข้า

เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« ตอบ #25 เมื่อ: วันที่ 07 พฤษภาคม 2010, 14:52:04 »

 ผมว่าคุณมีอคติอะไรกับเมืองไทยหรือป่าวครับ?
สมัยผมเด็กๆ ผมก็เคยได้เรียนประวัติของชาวล้านนา
ไม่มีใครเขาห้ามหรอกครับที่จะสอนประวัติศาสตร์ล้านนา
ตอนที่ผมเรียนเขาก็เล่าประวัติศาสตร์ล้านนา

    สมัยก่อนอาจจะไม่เหมือนสมัยนี้น่ะครับ
ตอนนี้ความรู้มีอยู่ทั่วไปในอากาศ
แค่เสียบปลั๊กแต่เน็ต ความรู้ก็มาแล้ว
คนเขาก็สามารถร่ำเรียนได้

     คุณไม่ต้องน้อยใจไปหรอกครับ
ประวัติศาสตร์ล้านนาได้ถูกจารึกไว้เรียบร้อยแล้ว

      แล้วก็เรื่องสอนลูกให้พูดไทยน่ะ (มันไม่บัดซบหรอกน่ะ)
เด็วนี้ยิ่งรู้หลายภาษา ยิ่งดี
ยิ่งรู้ภาษาอังกฤษ ก็ยิ่งดี
รู้ภาษาจีน ก็ยิ่งดี
รู้ภาษาหลายภาษาก็ยิ่งดี ไม่ใช่หรอครับ

     หรือใครว่าไม่จริง

ผมว่าผมพิมพ์ตัวหนังสือให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายๆแล้วนะ
ขออำไพครับ ที่ใช้ตัวอักษรสื่อความหมายให้แก่ผู้อ่านได้ไม่ดี
จนทำให้ผู้อ่านเข้าใจประเด็นผิดไป

จริงครับ ที่ลูกหลานรู้หลายๆภาษาน่ะดี
ผมเองก็รู้หลายภาษา ทั้งภาษาตะวันออกและภาษาตะวันตก
แต่ประเด็นของเรื่องในกระทู้นี้คือ
คนที่สอนลูกพูดไทย จำนวนหนึ่ง (เยอะด้วย) มักจะไม่สอนลูกพูดเมือง
ทำให้ลูกหลานพูดคำเมืองไม่เป็น พูดได้แต่ภาษาไทย
ถ้าลูกหลานพูดได้ทั้งคำเมืองและคำไทยจะไม่ว่าเลย
การที่ลูกหลานพูดได้แต่ภาษาไทย มันไม่ใช่แค่เรื่องการสื่อสารเท่านั้น
แต่ในบางกรณีก็ทำให้เขาดูแปลกแยกในหมู่เครือญาติในชุมชน
(บางส่วนนะครับ ส่วนที่เข้ากันได้ก็มี อย่าเหมารวม)
ทำให้ความสัมพันธ์ห่างเหินไปก็มี


ผมรู้จักกับมนุษย์หลายคนที่ "พ่อก็เมือง แม่ก็เมือง ลูกอู้เมืองบ่จ้าง"
โดยเฉพาะที่นครเชียงใหม่เนี่ย เพียบเลย ยังไม่นับที่เสาไห้ สระบุรี และที่คูบัว ราชบุรี นะครับ
ผมจะยกตัวอย่างคนหนึ่งที่สนิทกัน
ผมรู้จักกับน้องนักศึกษาคนหนึ่ง พ่อเขาเป็นคนแม่สรวย แต่มาทำธุรกิจที่เชียงใหม่
พ่อแม่พูดคำเมืองได้ แต่พ่อเขาสอนให้น้องคนนี้พูดแต่ภาษาไทย
จนน้องเขาพูดคำเมืองไม่ได้ (มาหัดเอาตอนโตคงจะยาก)
น้องคนนี้เขาบ่นให้ผมฟังเสมอว่า เวลาไปเยี่ยมญาติฝั่งพ่อหรือแม่
เขามักจะรู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยว ไม่กล้าพูดคุยกับญาติๆ
แถมบางครั้งก็ฟังที่พวกเขาพูดไม่รู้เรื่อง

อย่างไรก็ตาม โชคยังดีที่น้องคนนี้เขาอยู่ในเมืองใหญ่ เขาไม่จำเป็นต้องยึดติดเครือญาติเหมือนคนชนบท
เขาสามารถไปมีสังคมใหม่ๆได้ เช่น กลุ่มเพื่อนโรงเรียนเก่า กลุ่มเพื่อนที่มหาวิทยาลัย
กลุ่มเพื่อนที่ชมรม กลุ่มเพื่อนใน facebook เป็นต้น
น้องเขาบอกว่าที่นั่น น้องเขารู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากกว่า

เรื่องภาษานี่ก็แล้วแต่คนอ่ะเนาะ จะพูดภาษาไหนมันก็ไม่ผิดกฎหมายนิ
ตราบใดที่เขายังเป็นคนดีมีศีลธรรม


ส่วนเรื่อง "อคติ"
ผมไม่ได้มีอคติกับประเทศไทย (เมืองไทย) หรอกครับ แต่มีอคติกับ "คนไทยบางกลุ่ม" เท่านั้น
เช่น นักการเมืองบางกลุ่ม ดาราบางคน นายทุนบางจำพวก เป็นต้น

ส่วนเรื่องประวัติศาสตร์ล้านนา
"สมัยก่อน" ที่คุณว่า คงจะนานมาแล้ว ซึ่งผมเองก็เกิดไม่ทัน
ผมจะพูดถึงช่วงที่ผมเกิดทันแล้วกัน
ผมว่าการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ช่วงนี้ก็ดีครับ
แต่ถ้าหวังจะให้คนมาสนใจเยอะๆ เราคงเหนื่อยหน่อย
เพราะไม่ใช่ความรู้กระแสหลักที่อยู่ในห้องเรียน
แต่บางทีการอยู่นอกห้องเรียนแบบนี้ก็อาจจะเป็นผลดีมากกว่า....... อุๆ


* X.jpg (23.69 KB, 325x346 - ดู 1184 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 07 พฤษภาคม 2010, 14:59:49 โดย เชียงรายพันธุ์แท้ » IP : บันทึกการเข้า
palomoji
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 364



« ตอบ #26 เมื่อ: วันที่ 08 พฤษภาคม 2010, 21:38:04 »

เพิ่งจะได้ยินนี่ละครับ
IP : บันทึกการเข้า
uddtar
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #27 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม 2010, 21:40:02 »

ในศาลนี้เปิ้นฮื้อจุดธูปจุดเทียนก่อครับ หรือว่ากลัว ไฟไหม้บ้าน เลยบ่หื้อจุด


ก็จุดได้นิครับ วันก่อนขี่รถก๋ายยังหันเปิ้นเอาโต๊ะมาตั้งไว้อยู่เลย
แต่ก็บ่าแน่น่อ แล้วแต่อารมณ์เจ้าของที่ ก็เปิ้นเป๋นเจ้าของโฉนดนิเนาะ
เปิ้นจะยะหยังกับศาลนี้ก็ได้ จะห้ามคนมาจุดธูปเตียนก็ได้




ผมคนเจียงฮายแต้ๆ  เพิ่งฮู้ว่ามีข้อมูลจะอี้ตวย

ขอบคุณหล๋ายๆ ที่มาแบ่งปั๋นกันฮู้  ยิงฟันยิ้ม



บ่แปลกน่อครับ ที่คนล้านนาอย่างหมู่เฮาจะบ่ฮู้ประวัติศาสตร์ล้านนา
เพราะ ชาติพันธุ์ของหมู่เฮาโดนคนสยามคนใต้ล้างสมองมา 100 กว่าปี๋แล้ว
ตั้งแต่เขามายึดเอาแผ่นดินของหมู่เฮาไปเมื่อ พ.ศ.2442
เขาก็ใจ๊ระบบการเมือง เศรษฐกิจ ศาสนา และการศึกษา มาล้างสมองคนล้านนา
ยะหื้อคนล้านนากึดว่าตั๋วเก่าเป๋นคนสยาม
ยะหื้อคนล้านนาลืมรากเหง้า ลืมภาษาของตั๋วเก่า

มีคนกล้าที่ต่อต้านสยาม เช่น พญาปราบสงคราม
เจ้าพิริยเทพวงศ์ เจ้าหลวงเมืองแป้
ครูบาศรีวิชัย (รายนี้โดนยับเข้าคอก 3 รอบ)

ในโฮงเฮียน ต้องสอนประวัติศาสตร์สยาม ห้ามสอนประวัติศาสตร์ล้านนา
ต้องสอนภาษากรุงเทพฯ ห้ามสอนภาษาล้านนา ห้ามเขียนตั๋วหนังสือล้านนา
มีก๋านเผาหนังสือ คัมภีร์ใบลาน พับสา ที่เป๋นภาษาล้านนา อ้างว่าเป๋นกบฏสารพัด

จ๋นบ่าเดี่ยวนี้คนล้านนาได้สูญเสียตั๋วตนเกือบจะเสี้ยงแล้ว
ครูกับนักเฮียนอู้เมืองก็จ้าง แต่กลับต้องปากไทยใส่กั๋นเวลาอยู่ในห้องเฮียน (มันทุเรศก่อ?)

ป้อก็เมือง แม่ก็เมือง แต่ลูกอู้เมืองบ่จ้าง เพราะสลิดสอนลูกอู้ไทย (มันบัดซบก่อ?)

คนล้านนาฮู้จักแต่พระนเรศวร พระเจ้าตาก แต่บ่ฮู้จักพญามังราย
พญากือนา พญาแสนเมืองมา พระเจ้าติโลกราช พระเจ้ากาวิละ (มันน่าอนาจก่อ?)





รอวันกอบกู้ล้านนาคืนคับ   สู้ๆ   
IP : บันทึกการเข้า
avartar
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 91


« ตอบ #28 เมื่อ: วันที่ 20 กรกฎาคม 2010, 15:45:09 »

ผมเห็นด้วยที่จะสอนเด็กๆ รุ่นใหม่ ของบ้านเราให้ พูดคำเมืองได้ก่อน

ญาติผู้ใหญ่ผั่งภรรยา ผมอยากให้หัดลูกหลานพูดไทย เพราะกลัวว่าไปอยู่ในกลุ่มคนกรุงจะอาย

เขา ที่พูดไทยไม่ชัดถ้อยชัดคำ เหมือนรุ่นเราๆ ที่เด็กๆ มีแต่เพื่อนที่พูดเหนือกันทั้งห้อง

เดี๋ยวนี้ ไปฟังหน้าห้องเรียนดูสิครับ เพื่อนๆ นักเรียนพูดกันเป็นภาษากลางหมดแล้ว  สาเหตุ

สำคัญ อันหนึ่งก็มาจาก ผู้ใหญ่บ้านเรากลัวเด็กจะโดนเขาดูถูกเหมือน รุ่นท่านเมื่อก่อน กลัวคน

กรุงจะเอาเปรียบ ถ้ารู้ว่าเราเป็นคนเหนือ เพราะพูดไทยไม่ชัด  จึงให้ฝึกพูดแต่ภาษากลาง  

 เด็กวัยรุ่นยุคนี้ยัง ไม่รู้คำเมืองบางคำที่พูดกัน ด้วยซ้ำ

ตอนนี้ผมมีลูก แล้ว ผมยืนยันกับผู้ใหญ่หัวชนฝาเลยว่ายังไง ต้องให้ลูกพูดคำเมืองให้ได้

เด็กสมัยนี้ฉลาด การศึกษาก็กว้างกว่ายุคเรา ภาษากลางคงไม่ยากสำหรับเขาหรอก  ผมเชื่อ...
IP : บันทึกการเข้า

ถ่ายภาพรับปริญญา .. ถ่ายโปรไฟล์ในสตูดิโอ..
NEONAZI
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 476


รัก กล้วยไม้ รักษ์ ต้นไม้


« ตอบ #29 เมื่อ: วันที่ 21 กรกฎาคม 2010, 17:41:07 »

น่าน้อยใจขาหนาดลูกหลานล้านนาบ่าฮู้จักความเป๋นตัวเก่า
IP : บันทึกการเข้า

อย่าทำดี เพียงเพื่อ ดีกว่าคนอื่น
ptucky
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 15


« ตอบ #30 เมื่อ: วันที่ 21 กรกฎาคม 2010, 21:54:07 »

ผมมีลูกก็จะสอนหื้อกำเมืองกับป่อกับแม่ นี่แหละคับ
เปื่อนรุ่นๆผมนี่บ่ค่อยมีคับที่ป่อแม่อู้เมืองแล้วลูกอู้ไทยกลาง
แต่เปื่อนรุ่นน้องที่ทำงานผม(ผมยะก๋านเจียงใหม่คับ)มีคนหนึ่งคับ พ่อก่อเมือง แม่ก็เมือง ได้ยินเวลาอู้โทรศัพท์กับบ้านเปิ้นก็อู้เมือง
แต่เวลาอู้สนทนากับผมหรือเพื่อนร่วมงานคนอื่น ไอ่น้องนี่ปัดไทยกลางใส่ เฮาบ่เข้าใจ๋แต่ ขยิบตา แต่ก็สิทธิส่วนบุคคล ผมไปบังคับน้องเปิ้นบ่ได้ เลยตามเลยตึงวันนี่ก็ปัดไทยกลางใส่กั๋น

ผมฮักและภูมิใจที่เกิดบนแผ่นดินไทย ที่มีเชื้อสายล้านนา อู้กำเมืองจ่าง หน้าตาและ นามสกุลก็บ่งบอกว่าเป็นคนเมืองล้านนาค้าบ ยิ้มกว้างๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 21 กรกฎาคม 2010, 22:01:29 โดย ptucky » IP : บันทึกการเข้า
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« ตอบ #31 เมื่อ: วันที่ 21 กรกฎาคม 2010, 22:22:24 »

ผมมีลูกก็จะสอนหื้อกำเมืองกับป่อกับแม่ นี่แหละคับ
เปื่อนรุ่นๆผมนี่บ่ค่อยมีคับที่ป่อแม่อู้เมืองแล้วลูกอู้ไทยกลาง
แต่เปื่อนรุ่นน้องที่ทำงานผม(ผมยะก๋านเจียงใหม่คับ)มีคนหนึ่งคับ พ่อก่อเมือง แม่ก็เมือง ได้ยินเวลาอู้โทรศัพท์กับบ้านเปิ้นก็อู้เมือง
แต่เวลาอู้สนทนากับผมหรือเพื่อนร่วมงานคนอื่น ไอ่น้องนี่ปัดไทยกลางใส่ เฮาบ่เข้าใจ๋แต่ ขยิบตา แต่ก็สิทธิส่วนบุคคล ผมไปบังคับน้องเปิ้นบ่ได้ เลยตามเลยตึงวันนี่ก็ปัดไทยกลางใส่กั๋น

ผมฮักและภูมิใจที่เกิดบนแผ่นดินไทย ที่มีเชื้อสายล้านนา อู้กำเมืองจ่าง หน้าตาและ นามสกุลก็บ่งบอกว่าเป็นคนเมืองล้านนาค้าบ ยิ้มกว้างๆ


คนเมืองส่วนใหญ่ก็ใคร่สอนลูกตั๋วเก่าอู้ไทยน่อครับ มีส่วนหน้อยที่สอนลูกอู้ไทย
ในบอร์ดคนเจียงใหม่เขาก็ห่วงเรื่องนี้อยู่ เพราะเจียงใหม่เป๋นเมืองใหญ่ มีคนหลายที่ย้ายมาอยู่
ก๋านฮักษาเอกลักษณ์ของตั๋วเก่าเลยยะยากกว่าเจียงฮาย
แต่ก็บ่แน่ อนาคตเจียงฮายอาจเป๋นอย่างเจียงใหม่ก็ได้

ลองเข้าลิงค์นี้ครับ ของเพื่อนบ้านคนเจียงใหม่

http://www.cm108.com/bbb/index.php?showtopic=25379

http://www.cm77.com/cmb/bbs/archiver/?tid-1064.html

http://www.cm77.com/cmb/bbs/archiver/?tid-2789.html
IP : บันทึกการเข้า
AEK13@กว่างกรุง
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,991


กว่างกรุง


« ตอบ #32 เมื่อ: วันที่ 20 สิงหาคม 2010, 16:56:05 »

ขอบคุณมากๆครับ สำหรับความรู้ดีๆที่มาช่วยตอกย้ำความรักในบ้านเกิดให้มันยิ่งกว่าเเดิม
IP : บันทึกการเข้า

วีรบุรุษไซร้ ไร้น้ำตา ร่ำสุราหยาดโลหิตคลุกเคล้า หมื่นพันอดีตกาลแสนเศร้า ยิ้มเยาะเย้ามลายสิ้น กระบี่เดียว
Candyman
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 272

คนเหมือนคน แต่คนไม่เหมือนกัน


« ตอบ #33 เมื่อ: วันที่ 20 สิงหาคม 2010, 17:00:54 »

ผมไปมาแล้วครับ อ่านในหนังสือล้อล้านนา  วันรุ่งขึ้นขับรถไปเชียงใหม่เลย
แต่ถ้าไม่สังเกตจะไปไม่ถูก ขนาดไปถามคนเชียงใหม่ ยังไม่รู้จักเลย
IP : บันทึกการเข้า

ไม่กล้าแตกต่าง ก็ไม่มีวันโดดเด่น
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« ตอบ #34 เมื่อ: วันที่ 20 สิงหาคม 2010, 20:28:31 »

ผมไปมาแล้วครับ อ่านในหนังสือล้อล้านนา  วันรุ่งขึ้นขับรถไปเชียงใหม่เลย
แต่ถ้าไม่สังเกตจะไปไม่ถูก ขนาดไปถามคนเชียงใหม่ ยังไม่รู้จักเลย


ดั้นด้นไปถึงที่
สุดยอดครับ
IP : บันทึกการเข้า
Mmer
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 45



« ตอบ #35 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2010, 02:55:20 »

ผมเกยเอาหมายพ่อพญาผาบสงครามไปลง ในบอร์ดลาว พระอาจารย์อริยะ เป็นตุ๊เจ้าลาวเปิ้นกะได้มาอ่าน แล้วกะแปลเป็นภาษาลาว หื้อคนลาวได้อ่าน บันยายเถิงความคับแค้นใจที่คนล้านนา มีต่อคนสยาม คนลาว เปิ้นอ่านแล้วยังขนลุกเลยครับ


อ้ายครับ ช่วยแป๋เป๋นภาษาไทยได่ก่อคับ ...ไค่ฮู้ขนาดว่าเปิ้นว่าจะได

...ขอบคุณจ้า้ดนัก คับ
IP : บันทึกการเข้า
ละอ่อนโบราณ
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,466



« ตอบ #36 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2010, 05:48:16 »

^
^^^
^^^^^
^^^^^^^
^^^^^^^^^
^^^^^^^^^^^
^^^^^^^
^^^^^^^
^^^^^^^
^^^^^^^
^^^^^^^
หมายพ่อพระญาผาบสงคราม บ้านสันป่าสัก มาเถิงพระญาโกหาบ้านถ้ำ
ด้วยเราเป๋นพระญาใหญ่ เป๋นโป่ทัพพ่อเจ้าก๋าวิโลรส ได้มาร่ำเปิงเลงหันว่า
เมื่อพ่อเจ้ายังบ่เสี้ยงบุญเทื่อ ค่จ๋ำเริญวุฒิฟ้าฝนค่ตกบ่ได้ขาด ข้าวนาปล๋าท้าว
ค่เหลือกิ๋นเหลือทาน บัดเดี่ยวนี้คนไธยชาวไต้ได้ขึ้นมาข่มเหงเต๋งเต๊กพ่อเจ้าเก๊า
สนามหลวงของเราค่ปากันกลั๋วมันไปเสี้ยง จาวหมู่เจ๊กจี๋นหินแฮ่มันค่มาเก็บภาษีต้นหมาก
ต้่นปู ต้มเหล้า กันไผบ่มีเงินเสียภาษีมันค่เอาโซ่เหล็กมาล่าม ค่กุ๋มตั๋วใส่
ขื่อใส่ีคาไปเฆี่ยนไปตี บ้านเมืองของเฮาค่ฮ้อนไหม้นัก หื้อพี่พระญาโกหาเอาคน
สองร้อยทังหอกดาบสีนาด ไปช่วยเฮาเอาเมืองเจียงใหม่ ยับเอาชาวเจ๊กชาวใต้ข้าหื้อ
เสี้ยง แม่นเด็กน้อยนอนอู่ค่อย่าได้ไว้เต๊อะ หื้อพร้อมกั๋นที่หน้าวัดเกตุริมปิง หัวขัวกูลา
เช้ามืดไก่ขันสามตั้ง เดือน 11 แรม 11 ค่ำ
หมายนี้หื้อหนานปัญญาบ้านฟ้ามุ่ยเอาเมือส่ง

หมายเหตุ  ผาบสงคราม = ปราบสงคราม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 01 กันยายน 2010, 05:53:33 โดย [_ละอ่อนโบราณ_] » IP : บันทึกการเข้า

..............
>:l!ne-po!nt:<
~: ดาบราชบุตร :~
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,256

~>: แขกดอย :<~


« ตอบ #37 เมื่อ: วันที่ 02 กันยายน 2010, 06:23:44 »


[/quote]

ผมว่าผมพิมพ์ตัวหนังสือให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายๆแล้วนะ
ขออำไพครับ ที่ใช้ตัวอักษรสื่อความหมายให้แก่ผู้อ่านได้ไม่ดี
จนทำให้ผู้อ่านเข้าใจประเด็นผิดไป

จริงครับ ที่ลูกหลานรู้หลายๆภาษาน่ะดี
ผมเองก็รู้หลายภาษา ทั้งภาษาตะวันออกและภาษาตะวันตก
แต่ประเด็นของเรื่องในกระทู้นี้คือ
คนที่สอนลูกพูดไทย จำนวนหนึ่ง (เยอะด้วย) มักจะไม่สอนลูกพูดเมือง
ทำให้ลูกหลานพูดคำเมืองไม่เป็น พูดได้แต่ภาษาไทย
ถ้าลูกหลานพูดได้ทั้งคำเมืองและคำไทยจะไม่ว่าเลย
การที่ลูกหลานพูดได้แต่ภาษาไทย มันไม่ใช่แค่เรื่องการสื่อสารเท่านั้น
แต่ในบางกรณีก็ทำให้เขาดูแปลกแยกในหมู่เครือญาติในชุมชน
(บางส่วนนะครับ ส่วนที่เข้ากันได้ก็มี อย่าเหมารวม)
ทำให้ความสัมพันธ์ห่างเหินไปก็มี


ผมรู้จักกับมนุษย์หลายคนที่ "พ่อก็เมือง แม่ก็เมือง ลูกอู้เมืองบ่จ้าง"
โดยเฉพาะที่นครเชียงใหม่เนี่ย เพียบเลย ยังไม่นับที่เสาไห้ สระบุรี และที่คูบัว ราชบุรี นะครับ
ผมจะยกตัวอย่างคนหนึ่งที่สนิทกัน
ผมรู้จักกับน้องนักศึกษาคนหนึ่ง พ่อเขาเป็นคนแม่สรวย แต่มาทำธุรกิจที่เชียงใหม่
พ่อแม่พูดคำเมืองได้ แต่พ่อเขาสอนให้น้องคนนี้พูดแต่ภาษาไทย
จนน้องเขาพูดคำเมืองไม่ได้ (มาหัดเอาตอนโตคงจะยาก)
น้องคนนี้เขาบ่นให้ผมฟังเสมอว่า เวลาไปเยี่ยมญาติฝั่งพ่อหรือแม่
เขามักจะรู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยว ไม่กล้าพูดคุยกับญาติๆ
แถมบางครั้งก็ฟังที่พวกเขาพูดไม่รู้เรื่อง

อย่างไรก็ตาม โชคยังดีที่น้องคนนี้เขาอยู่ในเมืองใหญ่ เขาไม่จำเป็นต้องยึดติดเครือญาติเหมือนคนชนบท
เขาสามารถไปมีสังคมใหม่ๆได้ เช่น กลุ่มเพื่อนโรงเรียนเก่า กลุ่มเพื่อนที่มหาวิทยาลัย
กลุ่มเพื่อนที่ชมรม กลุ่มเพื่อนใน facebook เป็นต้น
น้องเขาบอกว่าที่นั่น น้องเขารู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากกว่า

เรื่องภาษานี่ก็แล้วแต่คนอ่ะเนาะ จะพูดภาษาไหนมันก็ไม่ผิดกฎหมายนิ
ตราบใดที่เขายังเป็นคนดีมีศีลธรรม


ส่วนเรื่อง "อคติ"
ผมไม่ได้มีอคติกับประเทศไทย (เมืองไทย) หรอกครับ แต่มีอคติกับ "คนไทยบางกลุ่ม" เท่านั้น
เช่น นักการเมืองบางกลุ่ม ดาราบางคน นายทุนบางจำพวก เป็นต้น

ส่วนเรื่องประวัติศาสตร์ล้านนา
"สมัยก่อน" ที่คุณว่า คงจะนานมาแล้ว ซึ่งผมเองก็เกิดไม่ทัน
ผมจะพูดถึงช่วงที่ผมเกิดทันแล้วกัน
ผมว่าการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ช่วงนี้ก็ดีครับ
แต่ถ้าหวังจะให้คนมาสนใจเยอะๆ เราคงเหนื่อยหน่อย
เพราะไม่ใช่ความรู้กระแสหลักที่อยู่ในห้องเรียน
แต่บางทีการอยู่นอกห้องเรียนแบบนี้ก็อาจจะเป็นผลดีมากกว่า....... อุๆ

[/quote]
ชอบครับ ข้อความนี้ บางคน ฮ้อง ปู่ ย่า ตา ยาย อี้หว่าะ อุ้ยกะบ๋อ อุ้ย เวลาได้ยินก่ายขนาด
IP : บันทึกการเข้า

!!!!!  กว่า ๑,๑๐๐ กม.จากยอดดอยสู่ทะเล...ตะวันออก  !!!!!

www.facebook.com/1100kilometer

||||| ธรรมชาติสร้างอากาศบริสุทธิ์    ส่วนมนุษย์นั้นสร้างอาวุธเพื่อทำลาย |||||
>:l!ne-po!nt:<
~: ดาบราชบุตร :~
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,256

~>: แขกดอย :<~


« ตอบ #38 เมื่อ: วันที่ 02 กันยายน 2010, 06:28:38 »

^
^^^
^^^^^
^^^^^^^
^^^^^^^^^
^^^^^^^^^^^
^^^^^^^
^^^^^^^
^^^^^^^
^^^^^^^
^^^^^^^
หมายพ่อพระญาผาบสงคราม บ้านสันป่าสัก มาเถิงพระญาโกหาบ้านถ้ำ
ด้วยเราเป๋นพระญาใหญ่ เป๋นโป่ทัพพ่อเจ้าก๋าวิโลรส ได้มาร่ำเปิงเลงหันว่า
เมื่อพ่อเจ้ายังบ่เสี้ยงบุญเทื่อ ค่จ๋ำเริญวุฒิฟ้าฝนค่ตกบ่ได้ขาด ข้าวนาปล๋าท้าว
ค่เหลือกิ๋นเหลือทาน บัดเดี่ยวนี้คนไธยชาวไต้ได้ขึ้นมาข่มเหงเต๋งเต๊กพ่อเจ้าเก๊า
สนามหลวงของเราค่ปากันกลั๋วมันไปเสี้ยง จาวหมู่เจ๊กจี๋นหินแฮ่มันค่มาเก็บภาษีต้นหมาก
ต้่นปู ต้มเหล้า กันไผบ่มีเงินเสียภาษีมันค่เอาโซ่เหล็กมาล่าม ค่กุ๋มตั๋วใส่
ขื่อใส่ีคาไปเฆี่ยนไปตี บ้านเมืองของเฮาค่ฮ้อนไหม้นัก หื้อพี่พระญาโกหาเอาคน
สองร้อยทังหอกดาบสีนาด ไปช่วยเฮาเอาเมืองเจียงใหม่ ยับเอาชาวเจ๊กชาวใต้ข้าหื้อ
เสี้ยง แม่นเด็กน้อยนอนอู่ค่อย่าได้ไว้เต๊อะ หื้อพร้อมกั๋นที่หน้าวัดเกตุริมปิง หัวขัวกูลา
เช้ามืดไก่ขันสามตั้ง เดือน 11 แรม 11 ค่ำ
หมายนี้หื้อหนานปัญญาบ้านฟ้ามุ่ยเอาเมือส่ง

หมายเหตุ  ผาบสงคราม = ปราบสงคราม
ขอบคุณครับตี้แปล๋ฮื้ออ่าน
IP : บันทึกการเข้า

!!!!!  กว่า ๑,๑๐๐ กม.จากยอดดอยสู่ทะเล...ตะวันออก  !!!!!

www.facebook.com/1100kilometer

||||| ธรรมชาติสร้างอากาศบริสุทธิ์    ส่วนมนุษย์นั้นสร้างอาวุธเพื่อทำลาย |||||
150 cc.
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 309


« ตอบ #39 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2010, 16:20:04 »

ถ้าบ่อมีไผบอกสีท่าจะเซาะหาบ่อปะแน่  น้อยเหลือเซเว่นก่อนเนาะ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!