วันที่ 04 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 34 ฉบับที่ 4250 ประชาชาติธุรกิจ
นักท่องเที่ยวจีนทะลัก'R3A'สู่ไทย ทัวร์จีนแห่ดัมพ์ราคาหน้าร้านรับตลาดโตก้าวกระโดด
นักท่องเที่ยวจีน-ไทยทะลักเส้นทาง อาร์สามเอ แนวโน้มพุ่งสูงถึงแสนคน ล่าสุดมณฑลหยุนหนานให้รางวัลคนจีนมาเที่ยวเมืองไทยเกือบหมื่นคน พร้อมจัดแพ็กเกจ เที่ยวเชียงราย-เชียงใหม่-กรุงเทพฯ-พัทยา ด้านทัวร์จีน "หย่าไทร์เอเชี่ยนทัวร์" ดัมพ์ราคาหน้าร้านรับตลาดทัวร์จีนใต้บูม
นายพงษ์ธร ชยาตุลชาต ประธานบริษัท หย่าไทร์เอเชี่ยนทัวร์ จำกัด และผู้อำนวยการศูนย์กระจายสินค้าและท่องเที่ยวสิบสองปันนา ประจำ จ.เชียงราย เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ภายหลังเกิดเหตุการณ์ทางการเมืองทำให้นักท่องเที่ยวจีนหยุดเดินทางมาท่องเที่ยวผ่านถนนอาร์สามเอไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ และนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปจีนตอนใต้ลดลงกว่า 30% ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยคนจีนเดินทางผ่านถนนอาร์สามเอมากขึ้น และมีแนวโน้มว่าตั้งแต่เดือน ต.ค. 2553-เม.ย. 2554 จะเข้ามามากขึ้นเป็นประวัติการณ์ เพราะมณฑลหยุนหนานซึ่งอยู่ใกล้ จ.เชียงรายที่สุดมีโครงการส่งเสริมให้คนจีนลงมาเที่ยวประเทศไทย
"มณฑลหยุนหนานมีโครงการให้แต่ละหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และเมืองต่าง ๆ แข่งขันทางด้านศิลปวัฒนธรรมและกีฬา พื้นบ้าน และให้รางวัลคนจีนเดินทางมาเยือน จ.เชียงราย เมืองละประมาณ 2,500 คน โดยมีข้อกำหนดให้เดินทางลงมาพักที่ จ.เชียงราย 1 คืน เชียงใหม่ 2 คืน จากนั้นไปกรุงเทพฯ-พัทยา รวมระยะเวลา 5 คืน 6 วัน ซึ่งในมณฑลหยุนหนานมี 5 เมืองใหญ่ จึงคาดว่าจะมีคนจีนเดินทางลงมาอีกไม่ต่ำกว่า 11,000-12,000 คน"
ทั้งนี้สถิติตั้งแต่เดือน ม.ค.-ส.ค. 2553 มีนักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางด้วยรถยนต์ไปตามถนนอาร์สามเอโดยผ่านการบริการของศูนย์ 60,095 คน และข้อมูลจากด่านตรวจคนเข้าเมืองมีจำนวน 85,000 คน ส่วนคนจีนที่เดินทางลงมายัง จ.เชียงรายประมาณ 5,000 คน โดยผ่านการให้บริการของศูนย์ประมาณ 1,500 คน และแนวโน้มที่คนจีนจะทะลุถึงแสนคน
โครงการดังกล่าวช่วยลดอุปสรรคเรื่องการทำวีซ่าของคนจีนตอนใต้ ซึ่งที่ผ่านมาทำยากและต้องไปทำ ณ จุดเดียวที่เมือง คุนหมิง เมืองเอกของมณฑลหยุนหนานเท่านั้น ส่วนประเทศไทยเปิดกว้างให้คนจีนเข้ามาโดยใช้ระบบวีซ่าเมื่อมาถึงที่ด่านพรมแดน และ 1 ปีที่ผ่านมาจนถึงเดือน มี.ค. 2554 กระทรวงการต่างประเทศของไทยเปิดบริการให้คนจีนทำวีซ่าฟรี ซึ่งเดิมต้องเสียค่าใช้จ่ายรายละ 1,200 บาท
ส่วนกรณีของคนไทยที่เดินทางไปจีนนั้นก็ไม่มีอุปสรรคด้านการขอวีซ่า แม้ว่าในปัจจุบันค่าใช้จ่ายในการขอวีซ่าจากสถานทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ของจีนที่ จ.เชียงใหม่จะสูง โดยคิดในอัตราขอวันเดียวได้เลย 2,200 บาท ขอ 2 วันได้ คิดค่าธรรมเนียม 1,800 บาท และ 4 วัน 1,000 บาท
นายพงษ์ธรกล่าวต่อว่า ความคึกคัก ดังกล่าว บริษัทได้ลดราคาค่าเดินทาง ท่องเที่ยวบนถนนอาร์สามเอ เส้นทาง อ.เชียงของ จ.เชียงราย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ ระยะเวลา 2 วัน 3 คืน หากมีผู้เดินทางตั้งแต่ 30 คนขึ้นไปคิดราคาคนละ 6,800 บาท และ 20 คน คิดราคา 7,000 บาท หากไม่เกิน 10 คน ราคา 7,500 บาท ส่วนระยะเวลา 3 วัน 4 คืน คิดราคา 7,800 บาท 8,000 บาท และ 8,500 บาท ตามลำดับ
หากเดินทางไปถึงสิบสองปันนา-คุนหมิง ระยะเวลา 5 คืน 6 วัน คิดราคา 13,000 บาท 13,500 บาท 14,000 บาท ตามลำดับ และหากเดินทางไปถึงคุนหมิง-ต้าลี่-ลี่เจียง ระยะเวลา 6 คืน 7 วัน คิดราคา 15,000 บาท 15,500 บาท 17,500 บาท ตามลำดับ ที่ผ่านมาทัวร์แบบ 3 วัน 4 คืนได้รับความนิยมที่สุด
นอกจากนี้ยังมีบริการทัวร์ราคาถูกเส้นทางในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงตอนบนอีกหลายเส้นทาง เช่น แม่สาย-เชียงตุง-เมืองลา (พม่า) เส้นทางผ่านถนนอาร์สามเอไปเมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว
ทั้งนี้ราคาดังกล่าวเป็นราคาหน้าร้านเท่านั้น หากเป็นเอเย่นต์ก็สามารถเจรจากันได้อีก ปัจจุบันมีเอกชนหลายรายที่จัด โปรโมชั่นในลักษณะเดียวกัน ซึ่งราคาของบริษัทถือเป็นระดับกลาง และเพื่อรองรับ นักท่องเที่ยวจีนที่จะทะลักลงมา ได้เตรียมรถตู้นำเที่ยวระหว่างเส้นทางเชียงราย-เชียงใหม่ไว้แล้ว ค่าโดยสารไป-กลับคนละ 400 บาท ซึ่งนักท่องเที่ยวแวะเที่ยวที่โป่งน้ำร้อนและวัดเจดีย์หลวง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ได้ด้วย
นายพงษ์ธรกล่าวอีกว่า ขณะนี้บริษัทกำลังลงทุนเปิดจุดพักรถบัสตามรายทางอาร์สามเอ เพื่อรองรับสะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมระหว่างห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว กับ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2555 โดยจุดพักรถจะมีหลายจุด เช่น ที่ห้วยทราย หลวงน้ำทา นอกจากนี้ยังได้ประสานกับสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.เชียงราย แห่งที่ 2 เพื่อรองรับรถบัส ซึ่งเชื่อมการโดยสารบนถนนสายคุนหมิง-กรุงเทพฯ หรือคุน-มั่นกงลู่
หน้า 24
http://www.prachachat.net/view_news.php?newsid=02phu04041053§ionid=0211&day=2010-10-04