เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 มีนาคม 2024, 01:50:52
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ⒷⒼ*, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  +++ถนน R3a ท่าเรือเชียงแสน 2 และโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4+++
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 [11] 12 13 14 15 16 พิมพ์
ผู้เขียน +++ถนน R3a ท่าเรือเชียงแสน 2 และโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4+++  (อ่าน 151962 ครั้ง)
WEBMASTER
เจ้าสำนักใหญ่
Administrator
แฟนพันธ์แท้
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,523

บุคคลทั่วไป


« ตอบ #200 เมื่อ: วันที่ 17 ตุลาคม 2012, 14:09:19 »

ภาพนี้ถ่ายจากฝั่งลาว เมื่อ 13/10/2555


* 2012-10-13-17.14.27.jpg (102.05 KB, 800x600 - ดู 6502 ครั้ง.)

* 2012-10-13-17.14.44.jpg (87.11 KB, 800x600 - ดู 6265 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ :  https://www.facebook.com/crfocus
My_Boss
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,788


ผู้ที่ปองร้ายต่อมิตร ถือเป็นผู้ที่ทราม


« ตอบ #201 เมื่อ: วันที่ 17 ตุลาคม 2012, 20:08:12 »

สวัสดีครับคุณ เชียงรายพันธ์แท้ คิดว่าตั้งแต่เปลี่ยนหน้าตาเวบนี่ คนเก่าๆกระจัดกระจายไปหมดเลยนะครับ เอ หรือว่าผมไม่ค่อยได้เข้ามานะ
คิดถึงทุกๆคนครับ
ไปไหนแล้วล่ะ ลิงซน บีเอ็ม ลมหลวง อากิระ แม่ญิงคนเมือง กกสัก ฯลฯ คิดถึงนะครับ....
ของน้อง กอ-ย่า นี่เห็นบ่อยครับ สดใสร่าเริงเหมือนเดิม

ท่านลิงซน อากิระ ไม่แน่ใจว่าเปลี่ยนชื่ออื่นหรือเปล่า ท่านลมหลวงมาบ่อยครับ ท่านกกสักไม่เห็นเลย อาจจะเปลี่ยนชื่อก็ได้ครับ ท่าน บีเอ็มก็มาบ่อยเพิ่งเจอตัวจริงๆวันนี้หล่อเหมือนกันนะครับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

เพิ่งเห็นขอขุดมาตอบหน่อย 
ลิงซนเปลี่ยน เป็น myboss แล้วเน้อครับ
อ่านดูแล้วยังคิดถึงสมัยก่อนนู้นผู้คนยังไม่เยอะ ยังเป็นสังคมเล็กๆ
ตอนนี้สังคมเยอะขึ้น ผู้คนมากมาย โลกย่อมหมุนไปตามกาลเวลา
ขอบคุณที่ยังจำกันได้ครับ 

ฝากทิ้งท้าย ท่านเสี่ยวเอ้อ นี่เปลี่ยนเป็นชื่อ อะไรแล้วครับ
IP : บันทึกการเข้า
Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #202 เมื่อ: วันที่ 17 ตุลาคม 2012, 20:17:48 »


เพิ่งเห็นขอขุดมาตอบหน่อย 
ลิงซนเปลี่ยน เป็น myboss แล้วเน้อครับ
อ่านดูแล้วยังคิดถึงสมัยก่อนนู้นผู้คนยังไม่เยอะ ยังเป็นสังคมเล็กๆ
ตอนนี้สังคมเยอะขึ้น ผู้คนมากมาย โลกย่อมหมุนไปตามกาลเวลา
ขอบคุณที่ยังจำกันได้ครับ 

ฝากทิ้งท้าย ท่านเสี่ยวเอ้อ นี่เปลี่ยนเป็นชื่อ อะไรแล้วครับ

"เด็กชายมังคุด ฆ่าตุ๊ดด้วยมือเปล่า"  ถ้าจำไม่ผิด "ท่านเสี่ยวเอ้อ" เปลี่ยนมาเป็นยูสเซอร์นี้ ครับ..

ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วย.
IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
My_Boss
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,788


ผู้ที่ปองร้ายต่อมิตร ถือเป็นผู้ที่ทราม


« ตอบ #203 เมื่อ: วันที่ 17 ตุลาคม 2012, 20:54:54 »


เพิ่งเห็นขอขุดมาตอบหน่อย 
ลิงซนเปลี่ยน เป็น myboss แล้วเน้อครับ
อ่านดูแล้วยังคิดถึงสมัยก่อนนู้นผู้คนยังไม่เยอะ ยังเป็นสังคมเล็กๆ
ตอนนี้สังคมเยอะขึ้น ผู้คนมากมาย โลกย่อมหมุนไปตามกาลเวลา
ขอบคุณที่ยังจำกันได้ครับ 

ฝากทิ้งท้าย ท่านเสี่ยวเอ้อ นี่เปลี่ยนเป็นชื่อ อะไรแล้วครับ

"เด็กชายมังคุด ฆ่าตุ๊ดด้วยมือเปล่า"  ถ้าจำไม่ผิด "ท่านเสี่ยวเอ้อ" เปลี่ยนมาเป็นยูสเซอร์นี้ ครับ..

ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วย.


ชื่อได้ใจจริงๆ
IP : บันทึกการเข้า
laloso
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 179



« ตอบ #204 เมื่อ: วันที่ 18 ตุลาคม 2012, 01:21:31 »

สุดยอดแห่งการก่อสร้าง แต้ๆเลยครับ
เห็นฮูปแล้วตื่นเต้น เนาะครับ  ตกใจ ตกใจ ตกใจ
IP : บันทึกการเข้า
Liberal
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18


« ตอบ #205 เมื่อ: วันที่ 20 ตุลาคม 2012, 16:38:17 »

เห็นข่าวว่าจะเสร็จปลายปีหน้า มันจะช้าไปมั้ยเนี่ย
IP : บันทึกการเข้า
{W,e,s,t,l,i,f,e}
-----S2------
สมาชิกลงทะเบียน
มัธยม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 560



« ตอบ #206 เมื่อ: วันที่ 20 ตุลาคม 2012, 17:08:12 »

ความเจริญมาพร้อมๆกับความป่าเถื่อน อาชญากรรม ตรงนี้รับไม่ค่อยได้เท่าไหร่
IP : บันทึกการเข้า
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,112


« ตอบ #207 เมื่อ: วันที่ 31 ตุลาคม 2012, 18:51:36 »

R3A ความหวังของเชียงราย
วันพุธที่ 31 ตุลาคม 2555 เวลา 00:00 น.

ถนน R3A เชื่อมลาว จีน เหลือรอสะพานข้ามแม่น้ำโขง แต่ทุนต่างถิ่นแห่เข้าเชียงรายคึกคัก เรียกร้องรัฐเร่งเพิ่มถนนรับทางหลวงข้ามประเทศ

นายเกรียงไกร วีระฤทธิพันธ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ทางหลวงสายใหม่ อาร์ 3 เอ (R3A) เชื่อม 3 ประเทศ คือ ไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และสาธารณรัฐประชาชนจีน เริ่มต้นจากเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ผ่านแขวงหลวงน้ำทา ถึงเมืองจิ่งหง หรือเชียงรุ้ง หรือสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนาน ของจีน ก่อสร้างเสร็จ ใช้เดินทางไปตลอด เหลือเพียงสะพานข้ามแม่น้ำโขง จาก อ.เชียงของ ไปสู่ประเทศลาว ซึ่งจะใช้เวลาอีก 1 ปีจึงเสร็จ แต่ในระหว่างนี้ การขนส่งสินค้าข้ามประเทศไม่ได้รอให้การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ ยังใช้โป๊ะแพขนานยนต์ข้ามแม่น้ำโขงไปมาอยู่ อย่างไรก็ตาม เส้นทางนี้ทำให้การเดินทางสู่จีนเร็วขึ้น ใช้เวลาเพียง 6 ชม. จากที่เคยใช้เวลาถึง 2 วัน

ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ในด้านการลงทุนประกอบการ เพื่อรองรับกับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ที่จะมาถึงในปี 2558 เริ่มมีทุนจากต่างถิ่นเข้าไปในจังหวัดมากขึ้น เกิดการเปลี่ยน แปลงอย่างมากในรอบสิบปีที่ผ่านมา ห้างสรรพสินค้าที่รู้จัก กันดี เช่น ห้างบิ๊กซี ห้างโลตัส ขนาดกลาง ห้างเซ็นทรัล เปิดกิจการแล้ว ธุรกิจโรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ล้านนา โรงพยาบาลแมคคอมิก กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ก็มีหลายราย เช่น โนเบิลเฮาส์ แลนด์แอนด์เฮ้าส์ มีผู้ผลิตไก่สดเพื่อการส่งออกตั้งโรงงานแล้ว

“สิ่งที่ผู้ประกอบการพยายามเรียกร้องกับหน่วยงานรัฐ คือการเร่งพัฒนาระบบการคมนาคมและขนส่งให้ดีขึ้น โดยขณะนี้ ทางหลวงระหว่างประเทศเสร็จแล้วเป็นส่วนใหญ่ เหลือเพียงสะพานข้ามแม่น้ำโขง หากเสร็จจะมีรถยนต์ผ่านมากขึ้น แต่เส้นทางเชื่อมระหว่างตัวเมืองเชียงรายไปสู่อำเภอแม่สาย ระยะทาง 60 กม.ยังเป็นถนนหลักสายเดิม ผิวถนนมีจำกัดทำให้การจราจรติดขัด ขณะที่ถนนระหว่างอำเภอเชียงแสน อำเภอเชียงของ ขยายเป็น 4 ช่องจราจรแล้ว แต่ไม่มีระบบถนนวงแหวน ถนนทุกสายต้องผ่านใจกลางเมือง จึงมีปัญหาอย่างมาก นอกจากนี้ควรเร่งรัดให้เกิดทางรถไฟจากสถานีเด่นชัย จ.แพร่ ให้ถึงเชียงรายได้แล้ว” นายเกรียงไกรกล่าว.

http://www.dailynews.co.th/businesss/163767
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,112


« ตอบ #208 เมื่อ: วันที่ 19 พฤศจิกายน 2012, 22:37:31 »

ท่าเรือน้ำโขงมูลค่า 1.5 พันล้านแทบร้าง-เอกชนเมิน ยอมจ่ายค่าปรับแลกเทียบท่าเอกชนแทน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   19 พฤศจิกายน 2555

เชียงราย - ท่าเรือเชียงแสน 2 มูลค่ากว่า 1.5 พันล้านป่วน เอกชนเมินล่องเรือสินค้าเข้าเทียบท่าหลังเจอปัญหาน้ำโขงแห้ง-ต้นทุนเพิ่ม-ถนนเชื่อมต่อไม่รองรับ แถมไร้สิ่งอำนวยความสะดวกลูกเรือ ฯลฯ จนยอมจ่ายค่าปรับลำละ 3 พันแลกเข้าเทียบท่าเอกชนกันเป็นแถว ล่าสุด กมธ.จีเอ็มเอสยกคณะเข้าตรวจสอบ
       
       วันนี้ (19 พ.ย.) นายสมคิด บาลไธสง ประธานคณะอนุกรรมาธิการกิจการชายแดน (อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง : GMS) สภาผู้แทนราษฎร ได้นำคณะเดินทางไปตรวจสอบการดำเนินการของท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 2 บนเนื้อที่ประมาณ 387 ไร่ 1 งาน 44 ตารางวา ติดชายแดนไทย-สปป.ลาว ที่กระทรวงคมนาคมใช้งบประมาณ 1,546.4 ล้านบาท ก่อสร้างและเปิดใช้งานได้ทันตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 55 ที่ผ่านมา โดยมีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกิจการท่าเรือเข้าร่วม
       
       ดร.กิตติรัตน์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ในฐานะเลขานุการคณะฯ ได้แจ้งสาเหตุการตรวจสอบว่าเกิดจากการได้รับแจ้งว่าท่าเรือประสบปัญหาเรือสินค้าไม่ยอมเข้าใช้บริการ และยังจะมีการเปิดจุดผ่านแดนถาวรเชียงแสนแห่งที่ 2 ขึ้นที่สามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน เพิ่มอีกแห่งหนึ่งด้วย รวมทั้งต้องการทราบการดำเนินการของชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงของด้วย
       
       นายวีระ จินนิกร ผู้จัดการท่าเรือเชียงแสน กล่าวว่า ท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 2 สร้างขึ้นเพื่อรองรับสินค้าชายแดนที่เพิ่มมากขึ้นได้ถึง 6 ล้านตันต่อปี รองรับเรือสินค้าขนาด 500 ตันได้ครั้งละ 10 ลำ ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จแล้ว และมีหน่วยงานเข้าไปประจำทั้ง 9 หน่วย และจะเพิ่มเป็น 10 หน่วยคือสรรพสามิต เพื่อรองรับสินค้าน้ำมันเชื้อเพลิงในเร็วๆ นี้
       
       สภาพปัจจุบันยังมีเรือสินค้าไปใช้บริการ โดยเฉพาะไก่แช่แข็งที่ส่งออกวันละกว่า 20-30 ตู้คอนเทนเนอร์ สำหรับกรณีที่ระบุว่าเรือสินค้าไม่ไปใช้บริการที่ท่าเรือทั้งหมดนั้นพบว่าเกิดจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงในปัจจุบันลึกประมาณ 2.50 เมตร เรือสินค้าจีนกินน้ำลึกตั้งแต่ 1.80 เมตร และในฤดูแล้งนี้คาดว่าระดับน้ำก็คงจะลดลงอีกตามปกติทุกปี โดยคาดว่าสภาพน้ำโขงลึกพอแล่นเรือได้ต่อไปอีกราว 2 เดือนก่อนจะแห้งกว่านี้
       
       ดังนั้น จึงทำให้เรือไปใช้บริการเทียบท่าเรือห้าเชียง ซึ่งเป็นของเอกชนที่บ้านสบรวก สามเหลี่ยมทองคำแทน รวมทั้งมีอุปสรรคถนน 4 ช่องจราจร ระยะทาง 14.550 กิโลเมตรที่จะเชื่อมท่าเรือ-อ.เมืองเชียงราย มูลค่า 809.580 ล้านบาท ยังไม่แล้วเสร็จ ที่มีกำหนดก่อสร้างตั้งแต่ 22 ก.ย. 2554-9 มี.ค. 2557 ด้วย แต่ถ้าเสร็จจะย่นระยะทางได้กว่า 30 กิโลเมตร ทำให้ปัจจุบันท่าเรือต้องกำหนดมาตรการจูงใจด้วยการพยายามหาสิ่งอำนวยความสะดวกให้เรือสินค้ามากขึ้น และลดราคา 50% เป็นเวลา 3 เดือนด้วย
       
       ด้านนางเกศสุดา สังขกร รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย ฝ่ายการค้าชายแดน อ.เชียงแสน กล่าวว่า สาเหตุที่ผู้ประกอบการค้าไม่ไปใช้บริการท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 2 มากและหันไปใช้ท่าเรือเอกชนที่สามเหลี่ยมทองคำเพราะต้นทุนสูงกว่า โดยต้องเดินทางไกลจากท่าเรือแห่งที่ 1 ในปัจจุบันถึง 6 กิโลเมตร เสียค่าใช้จ่ายเที่ยวละนับหมื่นบาท
       
       ทั้งนี้ เมื่อตอนเปิดใช้ท่าเรือเชียงแสน 2 ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 55 ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการถูกบีบให้ไปใช้บริการ แต่ปรากฏว่าสะพานข้ามลำน้ำคำที่เชื่อมไปยังท่าเรือพังเสียหาย ต้องหันไปใช้เส้นทางอ้อมก็ผ่านถนนในหมู่บ้านทำให้ถนนพังเสียหาย เมื่อจะกลับไปใช้ท่าเรือแห่งเดิมก็ถูกปิดการใช้งานเสียแล้ว จึงจำเป็นต้องไปใช้บริการจอดนอกท่าเรือ โดยเสียค่าปรับเรือลำละ 3,000 บาท ซึ่งก็เดือดร้อนหนักเพราะถ้าเป็นเรือสินค้าจีนขนาดใหญ่ก็คงคุ้มค่า แต่ถ้าเป็นเรือ สปป.ลาวที่ใช้ขนไก่แช่แข็งกันเป็นจำนวนมากคงไม่คุ้มค่า เพราะระวางบรรทุกมีน้อย นอกจากนี้ ท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 2 ไม่มีสถานที่รองรับลูกเรือ เช่น สินค้า อาหาร ที่พักผ่อน ฯลฯ
       
       นางเกศสุดากล่าวอีกว่า ปัญหาสำคัญอีกประการคือ ร่องน้ำในแม่น้ำโขงบางจุดตื้นเขิน และไม่ชัดเจนเป็นไปตามทรายที่ถูกน้ำพัดพา ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 พ.ย. 55 ที่ผ่านมามีเรือสินค้าเกยตื้นร่องน้ำที่ป่าแลว ชายแดนพม่า-สปป.ลาว ถึง 5 ลำ ขณะที่เส้นทางจากท่าเรือ 1 ถึงท่าเรือ 2 ก็มีความตื้นเขินในบางจุดเช่นกัน จึงเสนอให้มีการร่วมมือกับจีนที่ดูแลเขื่อนด้านบนให้เปิด-ปิดน้ำให้เหมาะสม และขุดลอกให้เดินเรือได้สะดวก รวมทั้งปรับปรุงถนนเชื่อมท่าเรือให้รองรับรถบรรทุกได้ 50 ตันมากกว่าสภาพในปัจจุบันที่รองรับได้เพียง 15 ตัน
       
       ขณะที่นายพัชระ สินสวัสดิ์ รองเลขานุการคณะฯ ซึ่งเป็นอดีตนายด่านศุลกากรเชียงแสน กล่าวว่า ท่าเรือแห่งที่ 2 เกิดจากมติคณะรัฐมนตรีที่เห็นควรขยายจากท่าเรือแห่งที่ 1 ซึ่งแออัดอยู่กลางตัวเมืองเชียงแสน ดังนั้นจึงไปสร้างแห่งที่ 2 แต่ปรากฏว่าช่วงที่ผลักดันให้เรือสินค้าไปใช้บริการและปิดท่าเรือแห่งที่ 1 เพื่อพัฒนาเป็นท่าเรือท่องเที่ยวกลับมีเอกชนเปิดท่าเรือเพิ่มมากขึ้นถึง 6-7 แห่ง ซึ่งตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะเมื่อมีปัญหาแห่งที่ 2 ก็หันมาใช้ท่าเรือแห่งที่ 1 แทนชั่วคราวก่อนได้ เมื่อระดับน้ำดีในฤดูน้ำหลากก็ค่อยให้ไปใช้ท่าเรือแห่งที่ 2 เป็นหลักตามเดิม
       
       ขณะเดียวกัน ตนไม่เห็นด้วยที่จะให้ไปเปิดจุดผ่านแดนถาวรที่สามเหลี่ยมทองคำ แต่ควรจะเปิดท่าเรือแห่งที่ 1 แทน เพราะมีอาคารสำนักงานและท่าเรือโป๊ะถึง 2 โป๊ะ สามารถรองรับทั้งสินค้าและคนได้
       
       ส่วนสาเหตุที่ระบุว่ามีด่านถาวรของ สปป.ลาวไปตั้งอยู่ที่สามเหลี่ยมทองคำนั้น ตนเห็นว่าเราไม่ควรจะไปตามเขามากเกินไป เราควรเอาความเหมาะสมของประเทศไทยหากว่าฝั่ง สปป.ลาวเห็นความจำเป็นก็สามารถย้ายมาสร้างบริเวณตรงกันข้ามท่าเรือแห่งที่ 1 เพื่อรองรับการเข้าออกแดนได้ต่อไป
       
       “ปัญหาปัจจุบันเกิดจากการศึกษาไม่ครบถ้วนและไม่มองประสิทธิภาพการใช้งาน ทำให้เกิดการเปิดให้เรือสินค้าไปจอดนอกท่า ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย ถึงได้มีการปรับครั้งละ 3,000 บาท แต่ถ้าเปิดให้ใช้ท่าเรือแห่งที่ 1 ไปก่อนปัญหาก็จบ และยังดำเนินการตามความจำเป็นของมติคณะรัฐมนตรีในอดีตด้วย ส่วนระยะยาวก็คงเป็นหน้าที่ของกรมเจ้าท่าที่จะต้องประสานกับคณะทำงานลุ่มน้ำโขง หรือ JCCCN (The Joint Committee on Coordination of Commercial Navigation on the Lancang-Mekong River) เพื่อขุดลอกร่องน้ำโขงเพื่อให้ความลึกของน้ำอยู่ที่ 2-3 เมตรตลอดปี” นายพัชระกล่าว
       
       รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากนั้นที่ปรึกษาของคณะฯ ได้สอบถามสาเหตุและความจำเป็นในการก่อสร้างท่าเรือแห่งที่ 2 จากกรมเจ้าท่า ทำให้เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าอธิบายว่า เกิดจากการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาซึ่งเคยศึกษาพื้นที่ก่อสร้างที่เหมาะสม 5 จุด และได้เลือกที่บ้านสบกกดังกล่าวเพราะไม่มีปัญหาการถือครองที่ดินและมีความกว้างขวางเหมาะสมที่สุด
       
       จากนั้น ดร.กิตติรัตน์สรุปการประชุมว่า สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการก่อสร้างและมอบพื้นที่ให้แก่การท่าเรือแห่งประเทศไทยดูแลอย่างจำกัด ส่งผลให้ภาคเอกชนเดือดร้อน หน่วยงานต่างๆ ก็ต่างฝ่ายต่างทำไม่ได้บูรณาการกัน ดังนั้นจะกลับไปตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดต่อไป
       
       ด้านนายสมคิดกล่าวว่า คณะฯ จะนำข้อมูลที่ได้รับทั้งหมดไปสรุปผล และเสนอปัญหา-แนวทางแก้ไขต่อรัฐบาล หรือถ้าจำเป็นจะเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป อย่างไรก็ตาม การจะแก้ไขปัญหาทุกอย่างคงต้องใช้เวลา คงไม่สามารถไปคาดการณ์ได้ว่าจะแก้ไขได้เสร็จสิ้นเมื่อไหร่อย่างไร

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9550000141322
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,112


« ตอบ #209 เมื่อ: วันที่ 20 พฤศจิกายน 2012, 19:01:06 »

พิธีเชื่อมสองแผ่นดิน Connecting Ceremony 12/12/12

ภาพท่านท่านคะซึโอะ ชิบาตะ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่  คุณ พัฒนา สิทธิสมบัติประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจหอการค้า. 10 จังหวัดภาคเหนือ  และคณะเยี่ยมชม  ดูความคืบหน้า สะพานข้ามโขงแห่งที่ 4

ขอบคุณภาพ โดยความอนุเคราะห์ จาก FB 
























IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
maxsion555
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #210 เมื่อ: วันที่ 22 พฤศจิกายน 2012, 12:46:56 »

สุดยอดมาก



www.seosystem168.com/

รับทำ SEO | โปรโมทเว็บไซต์ | ทำ SEO  | SEO


www.monster-thailand.com

บิ๊กไบค์ | บิ๊กไบค์ มือสอง | bigbike

IP : บันทึกการเข้า
S_ลักษณ์
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 972



« ตอบ #211 เมื่อ: วันที่ 22 พฤศจิกายน 2012, 14:09:07 »

ติดตามกระทู้พี่ boondham มาตลอด
ชอบ ได้ความรู้ Update ชีวิตค่ะ

ขอบคุณ
IP : บันทึกการเข้า
!DeePack!
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,109


« ตอบ #212 เมื่อ: วันที่ 24 พฤศจิกายน 2012, 14:42:56 »

สี่เลนทำถึงแค่บ้านหกเองเหรอครับไม่เห็นทำต่อแล้ว นึกว่าทำจนถึงเชียงรายเลย
IP : บันทึกการเข้า
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,112


« ตอบ #213 เมื่อ: วันที่ 26 พฤศจิกายน 2012, 09:55:20 »

ผลวิจัยชี้ ไทยได้เปรียบการค้าชายแดนทางบก ด้านเหนือ และตะวันตก

(26พ.ย.2555) - สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา หรือ ITD เผยผลงานวิจัย “ การค้าระหว่างประเทศทางบกด้านเหนือและด้านตะวันตก ” ชี้ชัดไทยได้เปรียบการค้าด้านนี้ ภาครัฐ และเอกชนควรเตรียมพร้อมเต็มที่ ใช้โอกาสนี้ ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ ต้อนรับ AEC

ดร.วัชรัศมิ์ ลีละวัฒน์ รองผู้อำนวยการวิชาการสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและพัฒนา หรือ ITD เปิดเผยว่า จากผลงานวิจัยเรื่อง “ การค้าระหว่างประเทศทางบกด้านเหนือ และด้านตะวันตกของไทย ” พบว่าด้านเหนือ จังหวัดเชียงรายและจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญต่อการค้าชายแดนมากที่สุด โดยเฉพาะจังหวัดเชียงรายที่ถือเป็นพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เป็นศูนย์กลางการค้า การท่องเที่ยว และการลงทุนบริเวณรอยต่อ 3 ประเทศคือ จีน เมียนมาร์ และสปป.ลาว มีด่านศุลกากรถึง 3 ด่าน คือ ด่านแม่สาย ด่านเชียงแสน และด่านเชียงของ มีมูลค่าการค้าประมาณ 12,000 ล้านบาท เป็นการค้าเกินดุล และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับการค้าผ่านแดนระหว่างไทยกับจีน จะใช้เส้นทาง R3A และแม่น้ำโขงเป็นหลัก มีมูลค่าการค้าประมาณ 14,000 ล้านบาท ส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์ มีเขตแดนติดต่อกับแขวงไชยะบุรี สปป.ลาว มีจุดผ่อนปรน ช่องภูดู่ เป็นด่านถาวร มีมูลค่าการเติบโตแบบก้าวกระโดดเช่นกัน อย่างไรก็ตามจากการวิเคราะห์ผลการวิจัยยังพบปัญหาการค้าระหว่างประเทศทางบกด้านเหนือ คือ ได้รับแรงขับเคลื่อนหลักจากสภาพแวดล้อมระดับมหภาค ได้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นโยบายทางการค้า กฎระเบียบที่เข็มงวด การเก็บอัตราภาษีขาเข้าที่ค่อนข้างสูง ส่วนของไทยมีปัญหาในเรื่องของการเมือง การปกครอง ที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย

สำหรับแนวโน้มและโอกาสการค้าระหว่างประเทศทางบกด้านเหนือ พบว่า เมียนมาร์จะมีความสำคัญที่สุด และเป็นประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียนใหม่ ที่ถือว่าเป็นประเทศที่มีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติทั้งทางบก และทางทะเลที่อุดมสมบรูณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาทางการเมืองเป็นไปในทิศทางบวก หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน จึงต้องเตรียมตัว และให้ความสำคัญ

ส่วนการค้าระหว่างประเทศทางตะวันตกของไทย ขอบเขตพื้นที่ที่ทำการศึกษาคือ จังหวัดตาก และจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งจังหวัดตากเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทางด้านการค้าชายแดน มีการพัฒนาเส้นทางการขนส่งระหว่างไทยกับเมียนมาร์ มีโครงการพัฒนาเส้นทางที่สำคัญ คือ โครงการพัฒนาแนวพื้นที่เศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก โดยมีด่านศุลกากรแม่สอด เป็นจุดผ่านแดนถาวร เป็นด่านที่มีมูลค่าการส่งออกมากที่สุด ทำให้ไทยเกินดุลการค้าเมียนมาร์ได้กว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี ส่วนจังหวัดกาญจนบุรี มีด่านศุลกากรสังขละบุรี เป็นด่านการค้าที่สำคัญโดยเฉพาะการนำเข้าก๊าซธรรมชาติ ซึ่งไทยจึงขาดดุลการค้ากับเมียนมาร์อยู่ในด่านนี้

ด้านแนวโน้ม และโอกาสการค้าระหว่างประเทศทางบกด้านตะวันตก ระยะต่อไปจากปี 2555 มีแนวโน้มที่สดใส และเจริญเติบโต ด้วยแรงขับเคลื่อนหลักจากนโยบายการเปิดประเทศเข้าสู่ประตูการค้า การลงทุนระหว่างต่างประเทศของรัฐบาลเมียนมาร์ การสนับสนุนการค้าของรัฐบาลไทย และความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองประเทศ แม้ว่าการดำเนินการค้าจะพบปัญหาและอุปสรรคอยู่บ้าง ประเด็นสำคัญคือ ความมั่นคงกับการค้าระหว่างประเทศ จึงควรมีการศึกษามิติด้านความมั่นคงในเชิงลึกร่วมกับมิติด้านการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งจะทำให้ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อภาครัฐ ในการทบทวนมาตรการความมั่นคงในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมาร์

ทั้งนี้ ITD จะนำองค์ความรู้จากผลงานวิจัยชิ้นนี้ เป็นแนวทางในการเสริมสร้างกลยุทธ์การพัฒนาการค้าระหว่างประเทศทางบกด้านเหนือ และด้านตะวันตก สำหรับหน่วยงานภาครัฐ และผู้ประกอบการภาคเอกชน รวมถึงการนำองค์ความรู้เหล่านี้ มาพัฒนาเป็นองค์ประกอบของหลักสูตรฝึกอบรมของ ITD ต่อไป

http://www.siamturakij.com/home/news/display_news.php?news_id=413369227
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,112


« ตอบ #214 เมื่อ: วันที่ 27 พฤศจิกายน 2012, 17:26:00 »

วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 16:30:23 น.

 
นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.) หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ เปิดเผยเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน  ว่า  ตนได้ร่วมกับนายคะซึโอะ ชืบาตะ กงสุลใหญ่ประเทศญี่ปุ่นประจำ จ.เชียงใหม่ เดินทางไปดูความคืบหน้าการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 เชื่อม อ.เชียงของ จ.เชียงราย กับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว กับถนนอาร์สามเอไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ โดยมีคณะหอการค้า เช่น นายธนิสร กระฎุมพร รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย ฝ่ายการค้าชายแดน นายสงวน ซ้อนกลิ่นสกุล รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย ฝ่ายพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ฯลฯ เข้าร่วมเยี่ยมชม

นายพัฒนากล่าวว่า ในอนาคตสะพานแห่งนี้จะผลักดันการค้าและการท่องเที่ยวระหว่างไทย สปป.ลาว และจีน ให้เติบโตมากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันการค้าตามด่านชายแดนของ จ.เชียงราย ทั้ง 3 ด่านคือ อ.แม่สาย อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ มีมูลค่าปีละกว่า 16,000 ล้านบาท หากสะพานแล้วเสร็จและมีการเปิดใช้จะทำให้มูลค่าการค้าในเบื้อตจ้นจะต้องขยับไปมากกว่าปีละ 20,000 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมด้านการท่องเที่ยว ซึ่งผู้ประกอบการไทยก็ควรที่จะเตรียมความพร้อมต้องรับและเปิดธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่อง ที่สำคัญสะพานแห่งที่ 4 จะเป็นผลดีต่อระบบลอจิสติกส์ที่จะถูกลงกว่าการส่งสินค้าออกทางท่าเรือทางทะเล สินค้าของไทยก็จะมีโอกาสส่งออกมาขึ้นเกษตรกรก็จะมีตลาดใหญ่รองรับผลผลิตที่จะมีราคาขยับขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
 
ด้านนายวิรัตน์ แสนอุดุม ผอ.แขวงการทางเชียงรายที่ 2 กล่าวว่าในปัจจุบันโครงการก่อสร้างคืบหน้าไปอย่างต่อเนื่องกว่า 90% แล้ว โดยตัวสะพานก่อสร้างโครงสร้างหลักเกือบแล้วเสร็จแล้วเหลือเพียงส่วนประกอบ และเอกชนจีนซึ่งสร้างสะพานได้เริ่มขนย้ายอุปกรณ์บางอย่างออกไปแล้ว ขณะที่การก่อสร้างถนนและอาคารด่านพรมแดนทั้ง 2 ฝั่งประเทศพบว่าทางเอกชนไทยได้เร่งก่อสร้าง โดยมีการลาดยางสร้างถนนไปถึงอาคารสถานที่และมีถนนสับเปลี่ยนช่องจราจรก่อนถึงสะพานด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 เกิดขึ้นจากรัฐบาลไทย จีน และ สปป.ลาว ได้ทำสัญญาว่าจ้างกลุ่มซีอาร์ 5-เคที จอยท์เวนเจอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มทุนร่วมระหว่างบริษัทไชน่า เรลเวย์ โน.5 เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป จำกัด จากประเทศจีน และบริษัทกรุงธนเอ็นยิเนียร์ จำกัด ของประเทศไทย ด้วยงบประมาณรวมทั้งสิ้นจำนวน 1,486.5 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย.2553 และเดิมสิ้นสุดสัญญาวันที่ 10 ธ.ค.2555 รวมระยะเวลาก่อสร้าง 30 เดือน แต่ช่วงกลางปี 2554 มีปัญหาเรื่องการใช้ค่าเงินจ้างเอกชนทำให้ล่าช้าออกไปถึงกลางปี 2556

ล่าสุดมีรายงานด้วยว่าจะมีการทำพิธีเชื่อมสะพานอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 ธันวาคมนี้หรือตรงกับตัวเลขวันที่ 12 เดือน 12 ปี ค.ศ.2012 โดยจะมีระดับรองนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยคาดว่า   คือนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปทำพิธีเชื่อมแผ่นดินระหว่างกลางสะพานกับรองนายกรัฐมนตรีของ สปป.ลาว ในวันดังกล่าว หลังการเชื่อมสะพานคงจะมีการปรับปรุงพัฒนาไปอีกระยะหนึ่งจากนั้นเมื่อเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการก็จะทำให้การค้าชายแดนไทยและกลุ่มจีเอ็มเอสและจีน รวมทั้งการเข้าออกแดนด้านการท่องเที่ยวและอื่นๆ มีความคึกคักขึ้นอย่างมาก.
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
Moo Mengkato
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 659


กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย...น้ำเต้าอันลอยนั้นจะถอยจม


« ตอบ #215 เมื่อ: วันที่ 27 พฤศจิกายน 2012, 19:45:28 »

สี่เลนทำถึงแค่บ้านหกเองเหรอครับไม่เห็นทำต่อแล้ว นึกว่าทำจนถึงเชียงรายเลย
ผมเองก็สงสัยครับว่าตกลงมันจะผ่านขุนตาลบ้านผมไหม
1.อ่านข้อมูลย้อนหลังเห็นว่าจะผ่านบ้านสบเปามาทางศรีสะอาด ป่าม่วงตัดออกที่เอกชน10,000ไร่ไปโผล่บ้านใหม่พัฒนา ต.ยางฮอม.....
2.เห็นข่าวเมื่อต้นปีท่าน ส.ส.ไปยื่นหนังสือขอดังไปทาง อ.เทิง.....
จนปัจจุบันยังเห็น 4เลนถึงแค่บ้านหกเท่าเดิม.....ใครทราบวงในบ้างว่าถนนมันจะไปทางไหน ฮืม ฮืม
IP : บันทึกการเข้า
Payako
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #216 เมื่อ: วันที่ 28 พฤศจิกายน 2012, 09:41:43 »

สวัสดีครับคุณ เชียงรายพันธ์แท้ คิดว่าตั้งแต่เปลี่ยนหน้าตาเวบนี่ คนเก่าๆกระจัดกระจายไปหมดเลยนะครับ เอ หรือว่าผมไม่ค่อยได้เข้ามานะ
คิดถึงทุกๆคนครับ
ไปไหนแล้วล่ะ ลิงซน บีเอ็ม ลมหลวง อากิระ แม่ญิงคนเมือง กกสัก ฯลฯ คิดถึงนะครับ....
ของน้อง กอ-ย่า นี่เห็นบ่อยครับ สดใสร่าเริงเหมือนเดิม

 ร้องไห้ จุมพิต ลังเล

ท่านลิงซน อากิระ ไม่แน่ใจว่าเปลี่ยนชื่ออื่นหรือเปล่า ท่านลมหลวงมาบ่อยครับ ท่านกกสักไม่เห็นเลย อาจจะเปลี่ยนชื่อก็ได้ครับ ท่าน บีเอ็มก็มาบ่อยเพิ่งเจอตัวจริงๆวันนี้หล่อเหมือนกันนะครับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

เพิ่งเห็นขอขุดมาตอบหน่อย 
ลิงซนเปลี่ยน เป็น myboss แล้วเน้อครับ
อ่านดูแล้วยังคิดถึงสมัยก่อนนู้นผู้คนยังไม่เยอะ ยังเป็นสังคมเล็กๆ
ตอนนี้สังคมเยอะขึ้น ผู้คนมากมาย โลกย่อมหมุนไปตามกาลเวลา
ขอบคุณที่ยังจำกันได้ครับ 

ฝากทิ้งท้าย ท่านเสี่ยวเอ้อ นี่เปลี่ยนเป็นชื่อ อะไรแล้วครับ
IP : บันทึกการเข้า
piamsinn
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 29


« ตอบ #217 เมื่อ: วันที่ 28 พฤศจิกายน 2012, 09:43:18 »

วันที่ 15/10/12

















ที่มา :  คุณ Sarisa
IP : บันทึกการเข้า
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,112


« ตอบ #218 เมื่อ: วันที่ 29 พฤศจิกายน 2012, 10:34:30 »

สองฝั่งโขงติดสะพานเชียงของ-ลาวเริ่มคึก ทุนไทยครองพื้นที่เปิดดิวตี้ฟรี-โรงแรม

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   29 พฤศจิกายน 2555


เชียงราย - กลุ่มทุนไทยเฮรับสะพานข้ามโขง 4 ใกล้เปิด เร่งพัฒนาพื้นที่หัวสะพาน 2 ฝั่ง ปั้น “นาคราชนคร” รองรับ เปิดทั้งดิวตี้ฟรี รีสอร์ต โรงแรม ฯลฯ พร้อมดึง SMEs ในกลุ่มเออีซีเข้าเปิดพื้นที่ขายสินค้า รอเส้นทางยุทธศาสตร์สายสำคัญเปิดใช้เต็มรูปแบบ
       
       หลังมีกระแสว่ารัฐบาลจะทำพิธีเชื่อมสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 อ.เชียงของ กับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ในวันที่ 12 ธ.ค. 2555 หรือวันที่ 12 เดือน 12 ปี 2012 หรือ 12/12/12 โดยจะมีระดับรองนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย และ สปป.ลาว ไปร่วมทำพิธีเชื่อมแผ่นดินในวันดังกล่าว ขณะที่การก่อสร้างคืบหน้าไปกว่า 90% แล้วนั้น ในส่วนของภาคเอกชนที่ลงทุนต่างมีการพัฒนาโครงการเพื่อรองรับสะพานอย่างคึกคัก
       
       อย่างไรก็ตาม ในส่วนของที่ดินฝั่งประเทศไทยพบว่าที่ดินส่วนใหญ่เป็นที่ดินปฏิรูปหรือ ส.ป.ก.4-01 จึงมีเพียงพื้นที่สำหรับโครงการก่อสร้างสะพาน ถนน อาคารด่านพรมแดน ฯลฯ เป็นส่วนใหญ่
       
       ขณะที่ในฝั่งบ้านดอนไข่นก เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว มีความคึกคักอย่างเต็มที่ด้วยโครงการนาคราชนคร ที่ดำเนินการโดยบริษัท เอเอซี กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นเอกชนไทย ที่กำลังพัฒนาพื้นที่กว่า 1,200 ไร่ซึ่งได้รับสัมปทานมาจากรัฐบาล สปป.ลาว อย่างคึกคัก จากเดิมมีการพัฒนาพื้นที่ทางการเกษตรและอาคารไม่กี่แห่ง ปรากฏว่าในปัจจุบันมีการพัฒนาพื้นที่ทางการเกษตร สระน้ำ อาคารรีสอร์ต โรงแรม อาคารสถานที่ต่างๆ ฯลฯ รวมทั้งเปิดให้เช่าพื้นที่ขายสินค้าเอสเอ็มอีและศูนย์การค้าปลอดภาษีหรือดิวตี้ฟรีแล้ว โดยคนที่อยู่ในฝั่งไทยสามารถมองเห็นสิ่งปลูกสร้างที่มีความสวยงามแปลกตาได้อย่างชัดเจน
       
       นอกจากนี้ ยังสร้างอาคารสำนักงานและหอประชุมขนาดใหญ่ในฝั่งบ้านดอนมหาวัน ต.เวียง อ.เชียงแสน ในฝั่งไทยบนเนื้อที่ประมาณ 25 ไร่ไว้คู่กันอีกด้วย
       
       ดร.สิชา สิงห์สมบุญ ประธานบริษัท เอเอซี กรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนาพื้นที่ขึ้นเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีของประเทศไทย รวมทั้งเปิดโอกาสให้กลุ่มทุนไทย และทุนในกลุ่มเออีซีได้มีเวทีในการจัดแสดง จำหน่าย พัฒนาสินค้าและบริการ เนื่องจากโครงการอยู่ติดกับโครงการก่อสร้างสะพานฯ พอดี และถนน R3a จากสะพานก็จะตัดผ่านพื้นที่ของโครงการด้วย ซึ่งทางกระทรวงโยธาธิการ และขนส่ง สปป.ลาวได้จัดให้มีประตูจำนวน 8 ช่องเชื่อมเข้าไปสู่โครงการได้ ทำให้ผู้ที่ใช้ถนน R3a เชื่อมไทย-สปป.ลาว-จีน จะต้องผ่านพื้นที่และสามารถแวะเข้าไปใช้บริการตามโครงการพัฒนาได้
       
       ดร.สิชาบอกว่า เดิมโครงการมีการพัฒนาเป็นพื้นที่ทางการเกษตรกว้างขวาง และให้ผลผลิตมากแล้ว เช่น ผลไม้ต่างๆ ฯลฯ รวมทั้งรีสอร์ตห้องพัก แต่ปัจจุบันได้มีการก่อสร้างโรงแรมห้าดาวขนาด 50 ห้อง เมื่อรวมกับรีสอร์ตที่ร่มรื่นและสะดวกสบาย ก็จะมีห้องพักรวมกันประมาณ 70 ห้อง โดยมีชื่อว่า โรงแรมนาคราชปริ้นเซส จะสามารถเปิดให้บริการได้ทันวันที่ 12/12/12 นี้แน่นอน
       
       ส่วนโรงแรมนาคราชแกรนด์ ขนาด 80 ห้อง ซึ่งจะแล้วเสร็จทันกลางปี 2556 ช่วงเวลาที่จะเปิดใช้สะพานฯ เต็มรูปแบบ เพราะเชื่อว่าหลังพิธีเชื่อมแผ่นดินคงยังไม่มีการใช้สะพาน เพราะการก่อสร้างในภาพรวมยังไม่แล้วเสร็จ และเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง และอื่นๆ ยังไม่ได้เข้าไปประจำการ แต่จะเปิดใช้การราวกลางปี 2556 พอดี
       
       นอกจากนี้ โครงการยังมีการก่อสร้างตลาดการค้าเอสเอ็มดี ศูนย์การค้าปลอดภาษีหรือดิวตี้ฟรี โดยเปิดให้เอกชนเข้าไปจับจองพื้นที่จำหน่ายสินค้า โดยมีนโยบายกระจายสินค้าในทุกระดับหรือทุกเกรด ตั้งแต่สินค้าเกรดสูง กลาง และทั่วไป มีสถานเอนเตอร์เทนเมนต์ ฯลฯ เพื่อให้ผู้คนทุกระดับทุกชาติในเออีซีสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมได้ ทั้งการลงทุน การพักผ่อน การจับจ่ายสินค้า การเดินทาง ฯลฯ รวมทั้งมีโซนสำหรับรองรับกิจกรรมขนถ่ายสินค้าชายแดนโดยเฉพาะรถบรรทุกไทย-สปป.ลาว-จีน ที่จะแล่นผ่านไปมาอยู่เป็นประจำ ก็จะจัดเป็นโซนเฉพาะด้วย
       
       “ตอนนี้กำลังพิจารณาผู้ที่ยื่นความจำนงเข้าไปร่วมลงทุนกับโครงการอยู่ ซึ่งผู้ที่มีความสนใจก็ยังสามารถเข้าไปร่วมลงทุนได้”
       
       สำหรับสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 รัฐบาลไทย จีน และ สปป.ลาว ร่วมกันก่อสร้างด้วยงบประมาณ1,486.5 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย. 2553 ถึงกลางปี 2556 เอกชนจีนสร้างตัวสะพานยาว 480 เมตร มีเสาตอม่อ 4 ตอม่อ กว้าง 14.70 เมตร มีสองช่องจราจร ช่องละ 3.50 เมตร และไหล่ทางข้างละ 2 เมตร และทางเท้าข้างละ 1.25 เมตร ส่วนเอกชนไทยก่อสร้างถนนในฝั่งไทย 5 กิโลเมตร และฝั่ง สปป.ลาว 6 กิโลเมตร รวมทั้งอาคารด่านพรมแดนทั้งสองฝั่ง

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9550000145507
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,112


« ตอบ #219 เมื่อ: วันที่ 07 ธันวาคม 2012, 00:03:50 »

ไทย-ลาว-จีนเตรียมร่วมพิธีเทคอนกรีตสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว

วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2555




วันนี้ (6 ธ.ค.) ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายมนัสวี ศรีโสดาพล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า ในสัปดาห์หน้า มีกำหนดการด้านการต่างประเทศ ที่สำคัญ ได้แก่ รมว.ต่างประเทศของไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว พร้อมด้วยผู้แทนของสาธารณรัฐประชาชนจีน จะเป็นประธานร่วมในพิธีเทคอนกรีตในโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 (เชียงของ-ห้วยทราย) ที่จ.เชียงราย ในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ เวลา 12.12 น. อีกทั้งไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณะกรรมาธิการความร่วมมือ(เจซี) ไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 3 ที่จ.ภูเก็ต ในวันที่ 14-15 ธ.ค.นี้โดยนายสุรพงษ์ จะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำแก่นายอะนิฟาห์ อามาน รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย และคณะ ในค่ำวันที่ 14 ธ.ค. ก่อนจะร่วมการประชุมเจซีฯในวันที่ 15 ธ.ค.
 
http://www.dailynews.co.th/politics/171030
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 [11] 12 13 14 15 16 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!