เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 มีนาคม 2024, 14:53:00
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ⒷⒼ*, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  +++ถนน R3a ท่าเรือเชียงแสน 2 และโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4+++
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 ... 16 พิมพ์
ผู้เขียน +++ถนน R3a ท่าเรือเชียงแสน 2 และโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4+++  (อ่าน 151976 ครั้ง)
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,112


« เมื่อ: วันที่ 18 ธันวาคม 2009, 06:37:12 »

มาดูการรูปแบบการก่อสร้างกันครับ.

























































เครดิตจาก http://www.chiangsaenlife.com/forum/redirect.php?tid=988&goto=lastpost#lastpost



+++++++++++++++++++++++++++++++

5บริษัทยักษ์ชิงดำสร้างสะพานแม่น้ำโขง โครงการร่วมไทย-จีนมูลค่าพันล้าน

วันที่ 07 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11594 มติชนรายวัน


นายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวงเปิดเผยถึงความคืบหน้าในการก่อสร้างโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโขงตามแนวเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ หรือที่ห้วยทราย-เชียงของ ว่ามีกลุ่มบริษัทก่อสร้างที่ผ่านการคัดเลือกตามเงื่อนไขในการเข้ายื่นซองประกวดราคา ซึ่งจะเปิดยื่นซองในวันที่ 7 มกราคม 2553 แล้ว 5 ราย เป็นกลุ่มบริษัทร่วมค้าระหว่างบริษัทไทยกับจีน ประกอบด้วยกลุ่มร่วมค้าซีเควายเอส กลุ่มร่วมค้าซีทีเอ็น กลุ่มพันธมิตรเอสซีซี-เอ็มบีซีซี และกลุ่มร่วมค้าซีอาร์เอส-เคที คาดว่า หลังได้ผู้ชนะการประมูลแล้ว จะลงนามสัญญาจ้างและเริ่มงานก่อสร้างได้ในเดือนมีนาคม 2553 โดยจะใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 30 เดือน

สำหรับสะพานดังกล่าว เป็นโครงการร่วมกันระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีน ซึ่งที่ผ่านมาได้ลงนามร่างความตกลงว่าด้วยการจัดการด้านการเงินสำหรับงานก่อสร้าง โดยร่วมกันรับผิดชอบฝ่ายละเท่ากัน วงเงินค่าก่อสร้าง 1,624 ล้านบาท หรือประเทศละ 812 ล้านบาท ซึ่ง ครม.ได้อนุมัติให้ปรับวงเงินค่าก่อสร้างในส่วนที่รัฐบาลไทยต้องรับผิดชอบแล้ว 812 ล้านบาท และเพิ่มวงเงินค่าควบคุมงานอีก 45.5 ล้านบาท

ทั้งนี้ ลักษณะของสะพาน จะมีความยาว 11.6 กิโลเมตร โดยจะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขง ขนาด 2 ช่องจราจรพร้อมทางเท้า ความยาว 480 เมตร และสะพานเชิงลาดฝั่งไทย ยาว 150 เมตร รวมความยาว 630 เมตร ถนนฝั่งไทย เป็นทางหลวงลาดยางขนาด 4 ช่องจราจร มีความยาว 5 กิโลเมตร มีจุดเปลี่ยนทิศทางจราจร เป็นทางแยกระดับพื้นดิน และติดตั้งสัญญาณไฟจราจร โดยรูปแบบการก่อสร้างพร้อมอาคารด่านพรมแดนรูปแบบสถาปัตยกรรมล้านนา ส่วนถนนฝั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นทางหลวงลาดยางขนาด 2 ช่องจราจร มีความยาวประมาณ 6 กิโลเมตร ก่อสร้างพร้อมอาคารด่านพรมแดนรูปแบบสถาปัตยกรรมล้านช้าง

หน้า 18
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 12 กรกฎาคม 2013, 07:29:20 โดย boondham » IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,112


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 18 ธันวาคม 2009, 10:00:27 »

คมนาคมทุ่มหมื่นล้านสร้างถนน เลาะตะเข็บชายแดน-พัฒนาเมืองเชียงราย


เชียงราย - นายรังสรรค์ สุขชัยรังสรรค์ รองผู้อำนวยการแขวงการทางเชียงรายที่ 1 เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้ก่อสร้างถนนสนับสนุนท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 2 ที่หมู่บ้านสบกก ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน ชายแดนไทย-สปป.ลาว และสะพานแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 เชื่อม อ.เชียงของ-เมืองห้วยทราบ แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ได้แก่ ถนนสายเชียงราย-เชียงของ ตอนที่ 1 ระยะทาง 11.1 กิโลเมตร มีสัญญาก่อสร้างระหว่างวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา ถึงวันที่ 31 พ.ค.2554 ด้วยงบประมาณ 320 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังจะมีระยะที่ 2 อีก 18.9 กิโลเมตร ด้วยงบประมาณ 664 ล้านบาท อยู่ระหว่างรอการลงนามสัญญาการก่อสร้าง

นายรังสรรค์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีถนนเชื่อมไปยังท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสน 2 บนถนนสาย อ.แม่จัน-เชียงแสน โดยอยู่ระหว่างก่อสร้างตอนที่ 1 ระยะทาง 19.2 กิโลเมตร มีสัญญาก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ไปจนถึงวันที่ 26 ก.ย.2554 ด้วยงบประมาณ 630 ล้าน และระยะที่สองอีก 16.40 กิโลเมตร ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างรองบประมาณอีก 540 ล้านบาท และโครงการถนนสาย อ.แม่สาย-เชียงแสน เลาะตะเข็บชายแดนไทย-พม่า และไทย-สปป.ลาว ตอนที่ 1 ระยะทาง 30.6 กิโลเมตร ระยะสัญญาก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา ไปจนถึงวันที่ 21 ส.ค.2554 และตอนที่ 2 อีกประมาณ 8 กิโลเมตร ซึ่งกำลังรองบประมาณจำนวน 300 ล้านบาท

"นอกจากนี้ ยังมีโครงการก่อสร้างเส้นทางอื่นๆ ที่บรรจุอยู่ในแผนการก่อสร้างแล้ว ได้แก่ การก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองเชียงราย เพื่อลดความแออัดของถนนพหลโยธินในเขตอ.เมือง และรองรับการเจริญเติบโตของเมือง โดยตามแผนจะทำเส้นทางเลี่ยงจากพื้นที่ต.สันทราย อ้อมไปทางทิศตะวันตก เพื่อกลับเข้าสู่ถนนพหลโยธินอีกครั้งที่ ต.ท่าสุด ระยะทาง 28 กิโลเมตร โดยตั้งงบประมาณเอาไว้ที่ 900 ล้านบาท และโครงการขยายทางหลวงระหว่างอ.เชียงแสน-เชียงของ ประมาณ 59 กิโลเมตร ด้วยงบประมาณ 995 ล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษา เพื่อก่อสร้างถนนสายเชียงราย-เชียงของ จากอ.เมือง ผ่านไปทาง อ.ขุนตาล-เชียงของ ซึ่งจะได้ผลสรุปการศึกษาเพื่อหาแบบก่อสร้างที่ชัดเจนในเดือนม.ค.2553 นี้" นายรังสรรค์ กล่าวและว่า นอกจากนี้ ยังมีโครงการปรับปรุงถนนสาย จ.เชียงราย-เชียงใหม่ ระยะทาง 179 กิโลเมตร โดยขยายเป็นสี่ช่องจราจรราว 62 กิโลเมตร และปรับปรุงสองช่องจราจรอีก 117 กิโลเมตร งบประมาณ 3,500 ล้านบาท ช่วงระยะเชียงใหม่-ดอยสะเก็ดอีกด้วย

Source : http://www.khaosod.co.th/view_news.p...hNaTB4T0E9PQ==
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,112


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 20 ธันวาคม 2009, 09:23:40 »

วันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4168 ประชาชาติธุรกิจ


ประธานหอฯเชียงราย "วิรุณ คำภิโล" ยุค "หยุดตรึกตรอง" ครั้งใหญ่

สัมภาษณ์

โดย กรรณิกา เพชรแก้ว



ถูก จัดเป็นประตูสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจและจีนตอนใต้มาเกือบ 20 ปี ผ่านการผลักดันอย่างแข็งขันจากภาคเอกชนต่อเนื่อง มีหอการค้าจังหวัดเป็นหัวหอกวิ่งเต้น ผลักดัน เรียกร้องมาตลอด เมื่อถึงประธานหอการค้าคนใหม่ "วิรุณ คำภิโล" ที่มีภาพลักษณ์เป็นนักการศึกษาคนนี้ มาดูว่าทิศทางจังหวัดใหญ่ หัวเมืองทางเหนืออย่างเชียงรายจะเป็นเช่นไร

ถ้าพูดเรื่องการค้าการลง ทุนข้ามชาติ สิ่งที่เรากังวลคือการคุ้มครองผู้บริโภคของบ้านเรา และดูแลคนในพื้นที่ให้ได้มรรคผลจริง ๆ ทุกวันนี้การส่งออกไปจีนของเรา ลดลง ขณะที่สินค้าของเขาลงมาบ้านเรามากขึ้น ที่ลดเพราะกฎเกณฑ์ของบ้านเขา กำแพงการค้าของเขาเยอะมาก และเพราะเส้นทางมันมีหลายเส้นทาง ไม่ใช่ผ่านเราทั้งหมด อย่างผลไม้ที่ท่านนายกฯไปเจรจาก็ไปทางสาย R9 (มุกดาหาร- สะหวันนะเขต-เวียดนาม) คือภาพรวมเราไม่รู้ แต่ที่เชียงรายนี่การส่งออกไปจีนลด แต่ถ้ารวมทั้ง 3 ด่าน (แม่สาย-เชียงแสน-เชียงของ) การค้ากับพม่าดีขึ้นเยอะ

- สินค้าอะไรที่ส่งไปพม่าได้มากขึ้น

พวก อุปโภคบริโภค ตัวเลขรวมของ 3 ด่านทั้งขาไปขากลับ โตราว 10% จีนลด ในลาวเองก็ไม่โตเท่าไร มีแต่พม่าที่โตมาก สินค้าในลาวก็มีจากจีนเข้ามา เวียดนาม เข้ามาแข่ง แต่ก็ยังพอมีช่องว่างให้สินค้าของเรา เพราะชื่อเสียงที่ใช้กันมานาน

- ตั้งแต่เริ่มโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจมากว่า 10 ปี และเชียงรายถูกกำหนดเป็นเกตเวย์ ได้แสดงบทบาทนั้นจริงจังแค่ไหน

จริง ๆ แล้วยังไม่ได้ แต่โดยภูมิศาสตร์มันบีบให้ต้องเป็น แต่การเตรียมพร้อมคนในพื้นที่ยังไม่ได้ การประสานกันระหว่างภาคการศึกษากับภาคเอกชนยังไม่เต็มที่ น่าจะต้องเตรียมประชาชนให้ไวกว่านี้ที่จะเป็นเกตเวย์ ถ้าไม่พร้อมมันข้ามหัวเราไปมา - ทุกวันนี้ประตูเปิดแล้ว ความเจริญ ข้ามหัวไปแล้วจริงหรือ

ยัง ๆ ทุกวันนี้มันยังไม่เสร็จเสียทีเดียว ต้องเร่งเรื่องศูนย์กระจายสินค้า มีนักลงทุนที่มีประสิทธิภาพ เราไม่ได้คิดว่าจะต้องเป็นลงทุนในพื้นที่หรือนักลงทุนไทย แต่อยากให้เอาศักยภาพของแรงงาน ของคน ของทรัพยากรในพื้นที่มาใช้ ไม่อยากให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ไปขายการท่องเที่ยวเหมือน กับที่คนอื่นเขามี ไม่อยากให้เป็นแหล่งอุตสาหกรรมที่ทอดทิ้งวิถีชีวิตดั้งเดิม

- ตอนนี้บทบาทของเชียงรายเป็นแค่เมืองการค้าชายแดน แต่ไม่ใช่เกตเวย์ของการค้าระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคอย่างที่หวัง

ถูก ต้อง แล้วจะยกระดับการค้าชายแดนขึ้นมาให้เป็น international linkage ได้ยังไง เราอยากให้ทำแบบมีพื้นฐานไม่อยากให้เปิดตูมขึ้นมาโดยคนพื้นที่ไม่ได้มรรคผล อะไร หรือทิ้งการค้าชายแดน เดิม ๆ ไป เข้าใจว่าเป็นผลเสียมากกว่า เพราะว่าคนในพื้นที่ส่วนหนึ่งต้องถอยร่นไป

- หลังจากสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงของเสร็จ ภาพของเชียงรายจะเปลี่ยนไปมากไหม

มาก เลย การค้าชายแดนที่เป็นอยู่ประมาณปีละหมื่นล้านจะเพิ่มขึ้น 3 เท่า หรืออาจ 5 เท่า 10 เท่าในไม่นาน จะเป็นตัวดูดเอานักลงทุนใหญ่ ๆ ในบริเวณนั้น มืออาชีพ ทุนผูกขาดทั้งหลายจะเข้ามาทำให้การแข่งขันคนในพื้นที่จะยากขึ้น จะทำอย่างไรให้คนในพื้นที่พร้อมกับเรื่องพวกนี้ แทนที่จะเป็นเหยื่อของการเปลี่ยนแปลง ก็เป็นผู้นำของการเปลี่ยนแปลง เป็นโจทก์ที่คนเชียงรายจะต้องคิด ที่จริงไม่ใช่คน เชียงรายอย่างเดียว คนในจังหวัดใกล้เคียงที่จะได้รับผลกระทบก็ต้องคิดด้วย

- เมื่อสะพานเสร็จ นักลงทุนจะไปลงทุนที่สะพานฝั่งเราหรือฝั่งลาว

ขึ้น อยู่ว่าจะจัดการตัวเราเองได้แค่ไหนอย่างไร ศูนย์กระจายสินค้าเราเป็นอย่างไร ถ้าไปดูที่สะหวันนะเขตกับมุกดาหาร รถจะไม่จอดในฝั่งไทยเลย จะไปจอดแต่ฝั่งลาว ต้องไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น ส่วนนักลงทุนจะไปลงทุนฝั่งไหนผมไม่รังเกียจ แต่เราจะเป็นผู้ผลิตสินค้าตัวไหนที่เป็นฐานของคนของเราพอจะมีช่องทางแข่งขัน กับเขาได้

- หอฯเชียงรายภายใต้ทีมบริหารชุดปัจจุบัน ไม่ได้เร่งที่จะเรียกหานักลงทุน แต่อยากอยู่นิ่ง ๆ คิดให้มากก่อนจะรับการลงทุน

ถูก ต้อง ๆ แต่ไม่ใช่ขอคิดมาก ๆ ขอแค่ว่าเราอยากให้ผลประโยชน์มันอยู่กับคนในพื้นที่บ้าง อยากจะกลับมาสู่การ เตรียมพร้อมผู้คนที่จะได้มรรคผลกับการพัฒนาตรงนี้

- แสดงว่าการพัฒนาในสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ไม่ได้ให้มรรคผลต่อคนเชียงรายเท่าไร

จริง ๆ แล้วมันก็เหมือนการพัฒนาในหลาย ๆ ที่ของประเทศ ยิ่งพัฒนาไปก่อนหน้าเท่าไร โภคทรัพย์ทั้งหลายก็อยู่ในมือคนที่ไม่ใช่คนพื้นที่ มีคนจากต่างประเทศเยอะแยะไปหมด ระบบเป็นอย่างนี้เราก็ต้องยอมรับ แต่ก็อยากเตรียมพร้อมคนพื้นที่ว่ามันจะมาแล้วนะ คุณจะต้องพัฒนาตัวเองนะ ลูกหลานคุณจะอยู่ตรงนี้

ที่ผ่านมาเราได้ขายที่ดิน มีสตังค์ก็พอแล้ว แต่เราต้องสู้กันทางความคิด ต้องปรับกัน ต้องเรียนรู้ ตั้งองค์กรแห่งการเรียนรู้ อาจเป็นคำที่สูงไป แต่มันก็ต้องทำ และอย่าซ้ำเติมพวกเดียวกันเอง หาช่องให้ทุนของพวกเราโตขึ้นมาได้บ้าง ไม่ใช่เปิดทางให้แต่ทุนใหญ่ที่เขามีแรงมากอยู่แล้วให้ยิ่งโตบนความทุกข์ยาก ของคนจน ๆ

หน้า 24
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
zombie01
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,519


ความสุขเกิดขึ้นได้ เพียงแต่รู้จักใช้ชีวิต


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 20 ธันวาคม 2009, 09:27:49 »

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ ครับ
IP : บันทึกการเข้า

boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,112


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 20 ธันวาคม 2009, 10:26:00 »

วันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4168 ประชาชาติธุรกิจ


ประธานหอฯเชียงราย "วิรุณ คำภิโล" ยุค "หยุดตรึกตรอง" ครั้งใหญ่

สัมภาษณ์

โดย กรรณิกา เพชรแก้ว



ถูก จัดเป็นประตูสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจและจีนตอนใต้มาเกือบ 20 ปี ผ่านการผลักดันอย่างแข็งขันจากภาคเอกชนต่อเนื่อง มีหอการค้าจังหวัดเป็นหัวหอกวิ่งเต้น ผลักดัน เรียกร้องมาตลอด เมื่อถึงประธานหอการค้าคนใหม่ "วิรุณ คำภิโล" ที่มีภาพลักษณ์เป็นนักการศึกษาคนนี้ มาดูว่าทิศทางจังหวัดใหญ่ หัวเมืองทางเหนืออย่างเชียงรายจะเป็นเช่นไร

ถ้าพูดเรื่องการค้าการลง ทุนข้ามชาติ สิ่งที่เรากังวลคือการคุ้มครองผู้บริโภคของบ้านเรา และดูแลคนในพื้นที่ให้ได้มรรคผลจริง ๆ ทุกวันนี้การส่งออกไปจีนของเรา ลดลง ขณะที่สินค้าของเขาลงมาบ้านเรามากขึ้น ที่ลดเพราะกฎเกณฑ์ของบ้านเขา กำแพงการค้าของเขาเยอะมาก และเพราะเส้นทางมันมีหลายเส้นทาง ไม่ใช่ผ่านเราทั้งหมด อย่างผลไม้ที่ท่านนายกฯไปเจรจาก็ไปทางสาย R9 (มุกดาหาร- สะหวันนะเขต-เวียดนาม) คือภาพรวมเราไม่รู้ แต่ที่เชียงรายนี่การส่งออกไปจีนลด แต่ถ้ารวมทั้ง 3 ด่าน (แม่สาย-เชียงแสน-เชียงของ) การค้ากับพม่าดีขึ้นเยอะ

- สินค้าอะไรที่ส่งไปพม่าได้มากขึ้น

พวก อุปโภคบริโภค ตัวเลขรวมของ 3 ด่านทั้งขาไปขากลับ โตราว 10% จีนลด ในลาวเองก็ไม่โตเท่าไร มีแต่พม่าที่โตมาก สินค้าในลาวก็มีจากจีนเข้ามา เวียดนาม เข้ามาแข่ง แต่ก็ยังพอมีช่องว่างให้สินค้าของเรา เพราะชื่อเสียงที่ใช้กันมานาน

- ตั้งแต่เริ่มโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจมากว่า 10 ปี และเชียงรายถูกกำหนดเป็นเกตเวย์ ได้แสดงบทบาทนั้นจริงจังแค่ไหน

จริง ๆ แล้วยังไม่ได้ แต่โดยภูมิศาสตร์มันบีบให้ต้องเป็น แต่การเตรียมพร้อมคนในพื้นที่ยังไม่ได้ การประสานกันระหว่างภาคการศึกษากับภาคเอกชนยังไม่เต็มที่ น่าจะต้องเตรียมประชาชนให้ไวกว่านี้ที่จะเป็นเกตเวย์ ถ้าไม่พร้อมมันข้ามหัวเราไปมา - ทุกวันนี้ประตูเปิดแล้ว ความเจริญ ข้ามหัวไปแล้วจริงหรือ

ยัง ๆ ทุกวันนี้มันยังไม่เสร็จเสียทีเดียว ต้องเร่งเรื่องศูนย์กระจายสินค้า มีนักลงทุนที่มีประสิทธิภาพ เราไม่ได้คิดว่าจะต้องเป็นลงทุนในพื้นที่หรือนักลงทุนไทย แต่อยากให้เอาศักยภาพของแรงงาน ของคน ของทรัพยากรในพื้นที่มาใช้ ไม่อยากให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ไปขายการท่องเที่ยวเหมือน กับที่คนอื่นเขามี ไม่อยากให้เป็นแหล่งอุตสาหกรรมที่ทอดทิ้งวิถีชีวิตดั้งเดิม

- ตอนนี้บทบาทของเชียงรายเป็นแค่เมืองการค้าชายแดน แต่ไม่ใช่เกตเวย์ของการค้าระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคอย่างที่หวัง

ถูก ต้อง แล้วจะยกระดับการค้าชายแดนขึ้นมาให้เป็น international linkage ได้ยังไง เราอยากให้ทำแบบมีพื้นฐานไม่อยากให้เปิดตูมขึ้นมาโดยคนพื้นที่ไม่ได้มรรคผล อะไร หรือทิ้งการค้าชายแดน เดิม ๆ ไป เข้าใจว่าเป็นผลเสียมากกว่า เพราะว่าคนในพื้นที่ส่วนหนึ่งต้องถอยร่นไป

- หลังจากสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงของเสร็จ ภาพของเชียงรายจะเปลี่ยนไปมากไหม

มาก เลย การค้าชายแดนที่เป็นอยู่ประมาณปีละหมื่นล้านจะเพิ่มขึ้น 3 เท่า หรืออาจ 5 เท่า 10 เท่าในไม่นาน จะเป็นตัวดูดเอานักลงทุนใหญ่ ๆ ในบริเวณนั้น มืออาชีพ ทุนผูกขาดทั้งหลายจะเข้ามาทำให้การแข่งขันคนในพื้นที่จะยากขึ้น จะทำอย่างไรให้คนในพื้นที่พร้อมกับเรื่องพวกนี้ แทนที่จะเป็นเหยื่อของการเปลี่ยนแปลง ก็เป็นผู้นำของการเปลี่ยนแปลง เป็นโจทก์ที่คนเชียงรายจะต้องคิด ที่จริงไม่ใช่คน เชียงรายอย่างเดียว คนในจังหวัดใกล้เคียงที่จะได้รับผลกระทบก็ต้องคิดด้วย

- เมื่อสะพานเสร็จ นักลงทุนจะไปลงทุนที่สะพานฝั่งเราหรือฝั่งลาว

ขึ้น อยู่ว่าจะจัดการตัวเราเองได้แค่ไหนอย่างไร ศูนย์กระจายสินค้าเราเป็นอย่างไร ถ้าไปดูที่สะหวันนะเขตกับมุกดาหาร รถจะไม่จอดในฝั่งไทยเลย จะไปจอดแต่ฝั่งลาว ต้องไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น ส่วนนักลงทุนจะไปลงทุนฝั่งไหนผมไม่รังเกียจ แต่เราจะเป็นผู้ผลิตสินค้าตัวไหนที่เป็นฐานของคนของเราพอจะมีช่องทางแข่งขัน กับเขาได้

- หอฯเชียงรายภายใต้ทีมบริหารชุดปัจจุบัน ไม่ได้เร่งที่จะเรียกหานักลงทุน แต่อยากอยู่นิ่ง ๆ คิดให้มากก่อนจะรับการลงทุน

ถูก ต้อง ๆ แต่ไม่ใช่ขอคิดมาก ๆ ขอแค่ว่าเราอยากให้ผลประโยชน์มันอยู่กับคนในพื้นที่บ้าง อยากจะกลับมาสู่การ เตรียมพร้อมผู้คนที่จะได้มรรคผลกับการพัฒนาตรงนี้

- แสดงว่าการพัฒนาในสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ไม่ได้ให้มรรคผลต่อคนเชียงรายเท่าไร

จริง ๆ แล้วมันก็เหมือนการพัฒนาในหลาย ๆ ที่ของประเทศ ยิ่งพัฒนาไปก่อนหน้าเท่าไร โภคทรัพย์ทั้งหลายก็อยู่ในมือคนที่ไม่ใช่คนพื้นที่ มีคนจากต่างประเทศเยอะแยะไปหมด ระบบเป็นอย่างนี้เราก็ต้องยอมรับ แต่ก็อยากเตรียมพร้อมคนพื้นที่ว่ามันจะมาแล้วนะ คุณจะต้องพัฒนาตัวเองนะ ลูกหลานคุณจะอยู่ตรงนี้

ที่ผ่านมาเราได้ขายที่ดิน มีสตังค์ก็พอแล้ว แต่เราต้องสู้กันทางความคิด ต้องปรับกัน ต้องเรียนรู้ ตั้งองค์กรแห่งการเรียนรู้ อาจเป็นคำที่สูงไป แต่มันก็ต้องทำ และอย่าซ้ำเติมพวกเดียวกันเอง หาช่องให้ทุนของพวกเราโตขึ้นมาได้บ้าง ไม่ใช่เปิดทางให้แต่ทุนใหญ่ที่เขามีแรงมากอยู่แล้วให้ยิ่งโตบนความทุกข์ยาก ของคนจน ๆ

หน้า 24

ผมชอบแนวความคิดด้านบนนี้จริงครับ เพราะการพัฒนาที่หยั่งยืนต้องเป็นแบบนี้ครับ

จะได้มีความสุขทั่วหน้า..กระจายรายได้สู่พี่น้องชาวเชียงราย
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,112


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 20 ธันวาคม 2009, 14:45:51 »

ได้แบบสะพานเชียงของ รอลุ้นนิคมอุตสาหกรรม

โพสต์ทูเดย์ 14/05/2008


ได้ข้อสรุปแบบสะพานข้ามโขง “เชียงของ–ห้วยทราย” ก่อนลงมือก่อสร้าง

การประชุมปัจฉิมนิเทศการสำรวจออกแบบโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงห้วยทราย-เชียงของ ที่ จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. รูปแบบสะพานที่บริษัทที่ปรึกษาเห็นว่ามีความเหมาะสม คือ เป็นสะพานคอนกรีตรูปกล่อง ความยาวช่วงเสา 110 เมตร จำนวน 3 ช่วง ตอม่อในน้ำจำนวน 4 ตอม่อ


รูปแบบของสะพานมีความกว้าง 14.70 เมตร ความยาว 480 เมตร เป็นสะพานขนาด 2 ช่องจราจร (ไป-กลับ) ขนาดความกว้างของช่องจราจรช่องละ 3.50 เมตร ไหล่ทางข้างละ 2.00 เมตร และทางเท้าข้างละ 1.25 เมตร จุดเริ่มต้นที่บริเวณบ้านทุ่งงิ้ว ต.สถาน อ.เชียงของ ห่างจากตัวอำเภอเชียงของประมาณ 7 กิโลเมตรทางทิศใต้


นายชนะ นาคสุริยะ รอง ผวจ.เชียงราย กล่าวว่า จากความพร้อมโดยรวมโครงการคงจะไม่มีข้อติดขัดอีกต่อไป ขณะนี้รัฐบาลจีนได้เร่งรัดการก่อสร้างมาอย่างเต็มที่ หลังจากการก่อสร้างถนนทางฝั่งลาวเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการไปแล้ว


“หากเราล่าช้าไปกว่านี้ จีนจะขอเข้ามาศึกษารูปแบบของโครงการ เพื่อดำเนินการลงทุนก่อสร้างเอง โดยใช้ระยะเวลาการก่อสร้างภายใน 1-2 ปี เท่านั้น ในส่วนของโครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้เพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าหากทั้งสองโครงการมีความคืบหน้า จะเป็นการประสานการลงทุนในพื้นที่ได้อย่างลงตัว” นายชนะ กล่าว


ทั้งนี้ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้เชิญคณะกรรมการกำกับการศึกษาโครงการศึกษาความเป็นไปได้และความเหมาะสมของการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเชียงของ ที่จะประชุมในวันที่ 17 มิ.ย.นี้
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
ap.41
ตอบแทนคุณแผ่นดิน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19,008


ไม่มีเทพไม่มีโปร..มีแต่เราที่จะก้าวไปพร้อมกัน...


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 20 ธันวาคม 2009, 15:38:52 »

ตอนนี้ที่บ้านสบกก การก่อสร้างท่าเรือก็เริ่มมาไดระยะหนึ่งแล้วครับ และการขยายถนนเห็นมีการมาส่องกล้องหลายรอบแล้วครับ
IP : บันทึกการเข้า

boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,112


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 20 ธันวาคม 2009, 16:06:25 »

^^^

ขอบคุณครับ จะหาข้อมูลมาลง ครับ
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,112


« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 20 ธันวาคม 2009, 16:35:09 »

คมนาคมทุ่มหมื่นล้านสร้างถนน เลาะตะเข็บชายแดน-พัฒนาเมืองเชียงราย


เชียงราย - นายรังสรรค์ สุขชัยรังสรรค์ รองผู้อำนวยการแขวงการทางเชียงรายที่ 1 เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้ก่อสร้างถนนสนับสนุนท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 2 ที่หมู่บ้านสบกก ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน ชายแดนไทย-สปป.ลาว และสะพานแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 เชื่อม อ.เชียงของ-เมืองห้วยทราบ แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ได้แก่ ถนนสายเชียงราย-เชียงของ ตอนที่ 1 ระยะทาง 11.1 กิโลเมตร มีสัญญาก่อสร้างระหว่างวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา ถึงวันที่ 31 พ.ค.2554 ด้วยงบประมาณ 320 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังจะมีระยะที่ 2 อีก 18.9 กิโลเมตร ด้วยงบประมาณ 664 ล้านบาท อยู่ระหว่างรอการลงนามสัญญาการก่อสร้าง

นายรังสรรค์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีถนนเชื่อมไปยังท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสน 2 บนถนนสาย อ.แม่จัน-เชียงแสน โดยอยู่ระหว่างก่อสร้างตอนที่ 1 ระยะทาง 19.2 กิโลเมตร มีสัญญาก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ไปจนถึงวันที่ 26 ก.ย.2554 ด้วยงบประมาณ 630 ล้าน และระยะที่สองอีก 16.40 กิโลเมตร ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างรองบประมาณอีก 540 ล้านบาท และโครงการถนนสาย อ.แม่สาย-เชียงแสน เลาะตะเข็บชายแดนไทย-พม่า และไทย-สปป.ลาว ตอนที่ 1 ระยะทาง 30.6 กิโลเมตร ระยะสัญญาก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา ไปจนถึงวันที่ 21 ส.ค.2554 และตอนที่ 2 อีกประมาณ 8 กิโลเมตร ซึ่งกำลังรองบประมาณจำนวน 300 ล้านบาท

"นอกจากนี้ ยังมีโครงการก่อสร้างเส้นทางอื่นๆ ที่บรรจุอยู่ในแผนการก่อสร้างแล้ว ได้แก่ การก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองเชียงราย เพื่อลดความแออัดของถนนพหลโยธินในเขตอ.เมือง และรองรับการเจริญเติบโตของเมือง โดยตามแผนจะทำเส้นทางเลี่ยงจากพื้นที่ต.สันทราย อ้อมไปทางทิศตะวันตก เพื่อกลับเข้าสู่ถนนพหลโยธินอีกครั้งที่ ต.ท่าสุด ระยะทาง 28 กิโลเมตร โดยตั้งงบประมาณเอาไว้ที่ 900 ล้านบาท และโครงการขยายทางหลวงระหว่างอ.เชียงแสน-เชียงของ ประมาณ 59 กิโลเมตร ด้วยงบประมาณ 995 ล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษา เพื่อก่อสร้างถนนสายเชียงราย-เชียงของ จากอ.เมือง ผ่านไปทาง อ.ขุนตาล-เชียงของ ซึ่งจะได้ผลสรุปการศึกษาเพื่อหาแบบก่อสร้างที่ชัดเจนในเดือนม.ค.2553 นี้" นายรังสรรค์ กล่าวและว่า นอกจากนี้ ยังมีโครงการปรับปรุงถนนสาย จ.เชียงราย-เชียงใหม่ ระยะทาง 179 กิโลเมตร โดยขยายเป็นสี่ช่องจราจรราว 62 กิโลเมตร และปรับปรุงสองช่องจราจรอีก 117 กิโลเมตร งบประมาณ 3,500 ล้านบาท ช่วงระยะเชียงใหม่-ดอยสะเก็ดอีกด้วย

Source : http://www.khaosod.co.th/view_news.p...hNaTB4T0E9PQ==
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
coccus
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 20 ธันวาคม 2009, 20:43:44 »


ขอบคุณข้อมูลดีดีค่ะ แต่ถ้าเป็นถึงนิคมอุตสาหกรรม กลัวจะเป็นเหมือนมายตาพุดหรือที่แหลมฉบังค่ะ อายจัง
IP : บันทึกการเข้า
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,112


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 21 ธันวาคม 2009, 02:24:44 »

นิคมเชียงของ ออกแบบให้กระทบน้อยที่สุด รอดูครับ

เชื่อว่าจังหวัดเราเน้นการท่องเที่ยว วัฒนธรรม ครับ

ลองอ่านนโยบายผู้นำเศรษฐกิจเชียงราย ดูนะครับ... ผมว่าโชคดีที่ผู้ใหญ่ในเชียงรายต้องการการพัฒนาที่ยั่งยืน ผลประโยชน์ตกสู่ท้องถิ่น...

นิคมอยู่เชียงของครับ ห่าง เมือง พอสมควร เชื่อในการจัดการผู้ใหญ่เชียงรายนะครับ

ปล.ผมไม่รู้จักท่าน ใดๆเลย นะครับ แต่ชอบนโยบบายการพัฒนาที่พื้นฐานเมือง สาธารณูปโภค สังเกต นะครับครับ เมืองเราไม่ได้โตเดี่ยว อำเภอต่างๆก็เจริญ นี่แหละ คือความเท่าเทียม....อย่างหนึ่งในการพัฒนาไม่รวมอำนาจศูนย์กลางไว้อย่างเดียว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 21 ธันวาคม 2009, 02:33:08 โดย boondham » IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
triton02
่K-1
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 252



« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 22 ธันวาคม 2009, 06:59:26 »

ถนนเลี่ยงเมือง ออกจาก ต.สันทราย แล้ววกกลับเข้ามาอีกทีที่ ต.ท่าสุด พอรู้มั๊ยว่าตรงไหนของท่าสุดครับ
IP : บันทึกการเข้า
Gussoza
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 589



« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 22 ธันวาคม 2009, 11:50:20 »

เคยได้ยินข่าวมานะคะ ฟังจากพ่อเล่า ยังไม่ชัวร์
ถ้าทางทิศตะวันออก จะออกถนนพหลโยธินแถวๆ บ้านป่าห้า
แต่ถ้าทางฝั่งทิศตะวันตก อาจจะถึงก่อน ม. แม่ฟ้าหลวงไม่ก็อาจจะเลยไปนิดหน่อย แต่ครั้งแรกที่ได้ยินเห็นบอกว่าจะออกตรงสามแยกบ้านเด่น (ปากทางเข้าโรงเรียนเม็งราย) ซึ่งถ้าออกตรงนั้นจริงก็จะกลายเป็นสี่แยกทันที

ไว้ถ้าได้ความคืบหน้ายังไงจะมาเล่าให้ฟังอีกทีค่ะ
IP : บันทึกการเข้า

สุรัสวดี นางแลม่านสวย 053-176074, 081-5943105
ผ้าม่านสั่งตัด ผ้าม่านสำเร็จรูป ม่านปรับแสง มู่ลี่ ม่านไม้ไผ่
E-mail: SNanglae@gmail.com
https://www.facebook.com/SuruswadeeCurtain
triton02
่K-1
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 252



« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 22 ธันวาคม 2009, 19:43:53 »

ขอบคุณครับ คืบหน้ายังไงบอกด้วยนะครับ
IP : บันทึกการเข้า
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 22 ธันวาคม 2009, 22:10:11 »

ระวังอย่าให้เหมือนเชียงใหม่นะครับ
ขนาดมีถนนวงแหวนถึง 3 ชั้น
แต่รถก็ยังติดระเนระนาด
เพราะคนสารภี หางดง สันทราย สันกำแพง
รวมทั้งพวกที่ซื้อบ้านจัดสรรไว้นอกเมือง
แห่กันเข้าไปทำงาน+เรียนหนังสือในเวียงตอนเช้า
พอตกเย็นก็แห่กันกลับบ้านเหมือนผึ้งแตกรัง

เทศบาลนครเชียงใหม่ก็ไม่มีการสร้างระบบขนส่งมวลชลที่มีคุณภาพ
(รถเมล์ขาวที่มีอยู่ก็ไร้ประสิทธิภาพ)
ประชาชนจึงจำเป็นต้องใช้รถส่วนตัวหรือมอไซค์ หรือไม่ก็รถแด๊งแดง
ต่อให้สร้างถนนอีกร้อยเส้น ก็ไม่พอให้คนเชียงใหม่ใช้

หน่วยงานภาครัฐและเอกชน
ทั้ง อบจ.เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
อำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอสารภี อำเภอหางดง
อำเภอสันทราย อำเภอสันกำแพง อำเภอดอยสะเก็ด
เทศบาลนครเชียงใหม่ เทศบาลตำบลหองหอย
เทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง เทศบาลตำบลสุเทพ
เทศบาลตำบลแม่เหี๊ยะ อบต.หนองควาย
อบต.ท่าวังตาล เทศบาลตำบลหนองผึ้ง
เทศบาลตำบลยางเนิ้ง เทศบาลตำบลสารภี ฯลฯ

ควรเข้ามาร่วมกันแก้ไขปัญหา
ไม่ใช่ต่างคนต่างแก้กันอย่างในปัจจุบัน
เพราะรถที่ติดในเมืองเชียงใหม่
ส่วนใหญ่มาจากนอกเขตเทศบาลนครเชียงใหม่

ขอภาวนาอย่าให้เชียงรายเป็นอย่างเชียงใหม่เลย สาธุ
เรามีบทเรียนมาเยอะแล้วในเรื่องการพัฒนาเมือง พัฒนาประเทศ
ไอ้ที่ว่าจะดีๆ ก็ห่วยลงๆ

จำได้ไหมว่าเมื่อ 20 ปีก่อนประเทศไทยจะเป็นนิกส์ (NICs)
เสือตัวที่ 5 แห่งเอเชีย แข่งกับเกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์
แล้วตอนนี้เป็นไง ไม่มีใครพูดถึง NICs อีกเลย

เรื่องสร้างถนนหรือนิคมอุตสาหกรรมก็โอเคนะครับ
แต่ว่าเราต้องให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม
ไม่ใช่ปล่อยให้ราชการกับนายทุนทำตามอำเภอใจ
เดี๋ยวก็ได้เป็นอย่างมาบตาพุต
(มาบตาพุต ส่วนหนึ่งของโครงการ Eastern Sea Board
หนึ่งในเมกกะโปรเจ็กต์ เราจะเป็น NICs ความภาคภูมิใจของคนสยาม)

การพัฒนาจังหวัดเชียงราย
ส่วนท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ควรเข้าไปมีส่วนร่วมในการวางแผน
ไม่งั้นอาจเสียใจทีหลังได้

ป.ล.1 ผมว่าชาวบ้านสมัยนี้มีความรู้และช่องทางการมีส่วนร่วมมากกว่าแต่ก่อนนะ

ป.ล.2 คนเรามันไว้ใจกันได้ที่ไหน (โดยเฉพาะนักการเมือง ข้าราชการ นายทุน)




* P7505302-40.jpg (37.26 KB, 360x480 - ดู 18692 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
NostradaMo~
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 23 ธันวาคม 2009, 15:53:29 »

สวัสดีครับคุณ เชียงรายพันธ์แท้ คิดว่าตั้งแต่เปลี่ยนหน้าตาเวบนี่ คนเก่าๆกระจัดกระจายไปหมดเลยนะครับ เอ หรือว่าผมไม่ค่อยได้เข้ามานะ
คิดถึงทุกๆคนครับ
ไปไหนแล้วล่ะ ลิงซน บีเอ็ม ลมหลวง อากิระ แม่ญิงคนเมือง กกสัก ฯลฯ คิดถึงนะครับ....
ของน้อง กอ-ย่า นี่เห็นบ่อยครับ สดใสร่าเริงเหมือนเดิม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 23 ธันวาคม 2009, 15:55:16 โดย NostradaMo~ » IP : บันทึกการเข้า
WEBMASTER
เจ้าสำนักใหญ่
Administrator
แฟนพันธ์แท้
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,523

บุคคลทั่วไป


« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 23 ธันวาคม 2009, 15:58:49 »

สวัสดีครับคุณ เชียงรายพันธ์แท้ คิดว่าตั้งแต่เปลี่ยนหน้าตาเวบนี่ คนเก่าๆกระจัดกระจายไปหมดเลยนะครับ เอ หรือว่าผมไม่ค่อยได้เข้ามานะ
คิดถึงทุกๆคนครับ
ไปไหนแล้วล่ะ ลิงซน บีเอ็ม ลมหลวง อากิระ แม่ญิงคนเมือง กกสัก ฯลฯ คิดถึงนะครับ....
ของน้อง กอ-ย่า นี่เห็นบ่อยครับ สดใสร่าเริงเหมือนเดิม

ท่านลิงซน อากิระ ไม่แน่ใจว่าเปลี่ยนชื่ออื่นหรือเปล่า ท่านลมหลวงมาบ่อยครับ ท่านกกสักไม่เห็นเลย อาจจะเปลี่ยนชื่อก็ได้ครับ ท่าน บีเอ็มก็มาบ่อยเพิ่งเจอตัวจริงๆวันนี้หล่อเหมือนกันนะครับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ :  https://www.facebook.com/crfocus
bm farm
หัวหมู่ทะลวงฟัน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,575


canon eos


« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 23 ธันวาคม 2009, 16:03:04 »

 ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ....แหม..เขามากันทุกๆวันครับพี่....พี่เสี่ยวเอ้อแหละ..ตั้งแต่เปลี่ยนชื่อใหม่..มาๆหายๆนะครับ...อิอิ
สวัสดีครับคุณ เชียงรายพันธ์แท้ คิดว่าตั้งแต่เปลี่ยนหน้าตาเวบนี่ คนเก่าๆกระจัดกระจายไปหมดเลยนะครับ เอ หรือว่าผมไม่ค่อยได้เข้ามานะ
คิดถึงทุกๆคนครับ
ไปไหนแล้วล่ะ ลิงซน บีเอ็ม ลมหลวง อากิระ แม่ญิงคนเมือง กกสัก ฯลฯ คิดถึงนะครับ....
ของน้อง กอ-ย่า นี่เห็นบ่อยครับ สดใสร่าเริงเหมือนเดิม
IP : บันทึกการเข้า

ยิ้มกว้างๆ .....อ่านกฏ,กติกาการใช้งานเวบบอร์ดด้วยครับ.....
bm farm
หัวหมู่ทะลวงฟัน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,575


canon eos


« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 23 ธันวาคม 2009, 16:06:46 »

 ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ....อิอิ..เจอท่านเวปฯตัวจริงๆ..ยังดูเด็กยังวัยรุ่นอยู่เลยอ่ะครับ....
สวัสดีครับคุณ เชียงรายพันธ์แท้ คิดว่าตั้งแต่เปลี่ยนหน้าตาเวบนี่ คนเก่าๆกระจัดกระจายไปหมดเลยนะครับ เอ หรือว่าผมไม่ค่อยได้เข้ามานะ
คิดถึงทุกๆคนครับ
ไปไหนแล้วล่ะ ลิงซน บีเอ็ม ลมหลวง อากิระ แม่ญิงคนเมือง กกสัก ฯลฯ คิดถึงนะครับ....
ของน้อง กอ-ย่า นี่เห็นบ่อยครับ สดใสร่าเริงเหมือนเดิม

ท่านลิงซน อากิระ ไม่แน่ใจว่าเปลี่ยนชื่ออื่นหรือเปล่า ท่านลมหลวงมาบ่อยครับ ท่านกกสักไม่เห็นเลย อาจจะเปลี่ยนชื่อก็ได้ครับ ท่าน บีเอ็มก็มาบ่อยเพิ่งเจอตัวจริงๆวันนี้หล่อเหมือนกันนะครับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 23 ธันวาคม 2009, 19:04:49 โดย bm5996 » IP : บันทึกการเข้า

ยิ้มกว้างๆ .....อ่านกฏ,กติกาการใช้งานเวบบอร์ดด้วยครับ.....
ap.41
ตอบแทนคุณแผ่นดิน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19,008


ไม่มีเทพไม่มีโปร..มีแต่เราที่จะก้าวไปพร้อมกัน...


« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 23 ธันวาคม 2009, 18:26:23 »

เปิดแชตบ็อกดีมั้ยครับ


วันนี้ที่การก่อสร้างท่าเรือเชียงแสน 2 มาครับ ว่างๆจะมาโพสภาพให้ชมครับ
IP : บันทึกการเข้า

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 ... 16 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!