เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 17 เมษายน 2024, 00:52:24
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ⒷⒼ*, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  +++ถนน R3a ท่าเรือเชียงแสน 2 และโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4+++
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 ... 16 พิมพ์
ผู้เขียน +++ถนน R3a ท่าเรือเชียงแสน 2 และโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4+++  (อ่าน 152037 ครั้ง)
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #60 เมื่อ: วันที่ 08 พฤษภาคม 2010, 14:39:19 »

ใครอยู่พื้นที่ขอรายละเอียด การวางศิลาฤกษ์ ด้วยครับ..

โดยสมเด็จพระเทพฯ ท่านยังคงเสด็จไหม ครับ.
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
คนไกลบ้านเกิด
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,874



« ตอบ #61 เมื่อ: วันที่ 08 พฤษภาคม 2010, 17:29:34 »

เข้ามาติดตามเจ้าขอบคุณขอมูลดีๆเจ้า ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #62 เมื่อ: วันที่ 10 พฤษภาคม 2010, 23:37:16 »

เดินหน้าสร้างสะพานข้ามโขงแห่งที่ 4
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,529   9-12  พฤษภาคม พ.ศ. 2553


"โสภณ ซารัมย์"  เตรียมลงนามบันทึกตกลงความร่วมมือสร้าง สะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 เชียงของ - ห้วยทราย กับรัฐบาลลาว เพื่อสร้างสะพานข้ามโขงเชื่อมโยง  3 ประเทศ ไทย-ลาว และจีน  มูลค่า 1.6 พันล้าน  14  พ.ค.นี้ตั้งเป้าก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2555

            นายวีระ  เรืองสุขศรีวงศ์  อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าจะจัดให้มีพิธีลงนามบันทึกความตกลงระหว่างประเทศไทยกับกรมขัวทาง กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว)เพื่อก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงระหว่างชาติตามแนวเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ เชื่อมโยงไทย - ลาว และจีน ในโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 (เชียงของ - ห้วยทราย) ที่เป็นความร่วมมือของรัฐบาลไทย รัฐบาลสปป.ลาว และรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน

โครงการความร่วมมือในครั้งนี้ฝ่ายไทยจะให้ความช่วยเหลือในการศึกษาและสำรวจออกแบบรายละเอียดสำหรับค่าก่อสร้างฝ่ายไทยและฝ่ายจีนออกค่าใช้จ่ายฝ่ายละครึ่ง  โดยในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้นายโสภณ ซารัมย์ รมว.กระทรวงคมนาคมไทยจะเดินทางไปประชุมหารือและร่วมลงนามบันทึกตกลงว่าด้วยการก่อสร้าง ร่วมกับฝ่ายลาวโดยมีท่านสมมาด  พลเสนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและขนส่งของสปป.ลาว ที่ โรงแรมดุสิตไอซ์แลนด์  รีสอร์ท  จังหวัดเชียงราย  

สะพานข้ามมิตรภาพแห่งที่ 4  มีมูลค่า 1,624 ล้านบาท รัฐบาลไทยต้องรับผิดชอบเป็นเงิน 812 ล้านบาท และค่าควบคุมงานอีก 45.5 ล้านบาทที่เหลือเป็นของรัฐบาลจีน และเป็นโครงการที่ได้มีการประกวดราคาไปแล้วซึ่งกลุ่ม CR5-KT Joint Venture ได้เสนอราคาต่ำสุด 1,431 ล้านบาท  และได้ลงนามสัญญาก่อสร้างไปแล้วคาดว่าแล้วเสร็จภายในปี 2555

          เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยอำนวยความสะดวกในการคมนาคมขนส่ง เชื่อมโยงการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไทย ลาว และจีนรวมทั้งกระชับความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นการฉลองครบรอบ 60 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและลาว ทั้งยังเป็นตัวอย่างของความร่วมมือกับไทย - จีน อีกด้วย

              สำหรับโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโขงตามแนวเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ (ห้วยทราย-เชียงของ) ของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ตั้งอยู่บริเวณบ้านปักอิง ต.ศรีดอนไชย อ.เชียงของ จ.เชียงราย ส่วนฝั่งลาวนั้นจะเป็นบริเวณทางตอนใต้ของเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว มีความยาวรวมทั้งสิ้น 11.6 กิโลเมตร ประกอบด้วย ส่วนสะพานข้ามแม่น้ำโขง เป็นสะพานขนาด 2 ช่องจราจรพร้อมทางเท้า ความยาวสะพานช่วงข้ามแม่น้ำโขง 480 เมตร และสะพานเชิงลาดฝั่งไทย 150 เมตร รวม 630 เมตร

          ส่วนถนนฝั่งไทยมีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นทางหลวงลาดยางขนาด 4 ช่องจราจร พร้อมอาคารด่านพรมแดนรูปแบบสถาปัตยกรรมล้านนา มีจุดเปลี่ยนทิศทางจราจร เป็นทางแยกควบคุมด้วยสัญญาณไฟจราจร สำหรับสลับทิศทางการขับขี่จากซ้ายเป็นขวา แล้วลดความกว้างเป็นขนาด 2 ช่องจราจรต่อเนื่องกับตัวสะพาน ส่วนถนนฝั่ง สปป.ลาวมีความยาวประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นทางหลวงลาดยางขนาด 2 ช่องจราจรพร้อมด่านพรมแดนรูปแบบสถาปัตยกรรมล้านช้าง      
อนึ่งโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพ 4 เป็นสะพานเชื่อมโยงจังหวัดเชียงราย-บ่อแก้ว-คุนหมิง ตามแนวเส้นทางสาย R3A เป็นโครงการหนึ่งในแผนพัฒนาตามระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ ภายใต้กรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งรัฐบาลไทย ลาว และจีน ร่วมกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้ร่วมกันดำเนินการ



IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
เมล็ดพันธุ์แห่งขุนเขา
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 718


เมล็ดพันธุ์แห่งขุนเขา


« ตอบ #63 เมื่อ: วันที่ 11 พฤษภาคม 2010, 00:14:30 »

โห  อลังการดีขอบคุณข้อมูลดี
IP : บันทึกการเข้า

สนับสนุนความเป็นชุมชนพอเพียง เพราะความพอเพียง คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผลรวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควรต่อการมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #64 เมื่อ: วันที่ 12 พฤษภาคม 2010, 15:57:44 »

ไทย-ลาว” นัดลงนามสร้างสะพานโขง 4 พรุ่งนี้ - ต่อจิ๊กซอว์ “คุน-มั่น กงลู่” สมบูรณ์ปี 55
 
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 พฤษภาคม 2553 10:05 น.
 











  เชียงราย - ทางหลวงไทย-ลาว นัดจรดปากกาลงนามก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 เชื่อม “เชียงราย-บ่อแก้ว” เข้ากับเส้นทางคุนหมิง-กรุงเทพฯ (คุน-มั่น กงลู่) ก่อนเดินหน้าก่อสร้างให้เสร็จตามเป้าหมายปี 2555
       
       รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า ในวันที่ 13-14 พ.ค.นี้ นายโสภณ ซารัมย์ รมว.กระทรวงคมนาคม มีกำหนดเดินทางไปร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 เชื่อม อ.เชียงของ กับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว กับอธิบดีกรมขัวทาง กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สปป.ลาว ณ ห้องดอยตุง โรงแรมดุสิตไอส์แลนด์รีสอร์ท อ.เมืองเชียงราย โดยในครั้งนี้จะมีนายสมมาด พลเนา รมว.กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สปป.ลาว เดินทางไปร่วมพิธีดัวย เป็นการเริ่มต้นสู่การก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง
       
       นายวิรัตน์ แสนอุดม ผู้อำนวยการแขวงการทางเชียงรายที่ 2 เปิดเผยว่า หลังการลงนามดังกล่าวจะทำให้การก่อสร้างสะพานเป็นรูปธรรมขึ้น เพื่อให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 30 เดือนหรือภายในปี 2555 โดยบริษัทที่จะทำการก่อสร้าง ได้แก่ กลุ่มซีอาร์ 5, เคที จอยท์เวนเจอร์ ซึ่งเป็นการร่วมทุนกันระหว่างบริษัท ไชน่า เรลเวย์ โน.5 เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป จำกัด จากจีน, บริษัท กรุงธนเอ็นยิเนียร์ จำกัด ของไทย ซึ่งการก่อสร้างอาจจะดำเนินไปบางส่วนได้เลยก่อนที่จะมีพิธีวางศิลาฤกษ์ เนื่องจากพิธีวางศิลาฤกษ์ยังอยู่ระหว่างการรอหมายกำหนดการจากสำนักราชวัง โดยการก่อสร้างอาจจะทำในส่วนงานเบื้องต้น เช่น ตอกเสาเข็ม ปรับพื้นที่ ฯลฯ
       
       นายวิรัตน์กล่าวว่า การก่อสร้างสะพานยังคงใช้แบบแปลนเดิมที่เคยออกแบบเอาไว้ก่อนนี้ทุกอย่าง รวมไปถึงการก่อสร้างถนนผ่านโครงการนาคราชของเอกชนไทยในฝั่งแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว แม้ว่ากลุ่มบริษัท นาคราชฯ จะเรียกร้องให้มีการทำถนนอ้อมทางด้านหลังประมาณ 6 กิโลเมตรก็ตาม เนื่องจากกรมทางหลวงของไทยได้ประสานความร่วมมือกับ สปป.ลาว มาแล้วอย่างถูกต้อง
       
       ทั้งนี้ สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งนี้จะเป็นถนนเชื่อมไปกับถนน R3A ใน สปป.ลาว เพื่อเชื่อมไปยังเมืองคุนหมิง มณฑลหยุนหนัน จีนตอนใต้ และปัจจุบันกรมทางหลวงก็ได้มีการก่อสร้างถนนโครงข่ายภายใน จ.เชียงราย เพื่อรองรับสะพานดังกล่าวเอาไว้แล้ว คือ การก่อสร้างถนน 4 ช่องจราจร 5 โครงการ เช่น ถนนสาย อ.แม่สาย-เชียงแสน ถนนสาย อ.แม่จัน-เชียงแสน ถนนสาย อ.เชียงแสน-อ.เชียงของ ถนนสาย อ.ขุนตาล-อ.เชียงของ ฯลฯ โดยบางโครงการก่อสร้างไปแล้วบางส่วนและบางส่วนของโครงการอยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมตามขั้นตอน โดยบางแห่งพบว่ามีปัญหาบ้าง เช่น ชาวบ้านต้องการให้ก่อสร้างไปตามถนนแนวเดิม ที่คดเคี้ยวแต่ไม่เหมาะสมกับถนน 4 ช่องจราจร ซึ่งก็จะได้ศึกษาเพื่อให้ข้อยุติกันต่อไป ฯลฯ แต่ก็คาดว่าโครงการทั้งหมดจะแล้วเสร็จก่อนปี 2555 เพื่อรองรับสะพานได้อย่างสมบูรณ์แน่นอน
       
       รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว ที่ อ.เชียงของ ดังกล่าวจะเชื่อมถนน R3A ไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ ไปจนถึงเมืองคุนหมิง มณฑลหยุนหนัน จีนตอนใต้ หรือเชื่อมกรุงเทพฯ-คุนหมิง "คุน-มั่น กงลู่" ตามแผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridor) ภายใต้กรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Sub region : GMS) โดยที่รัฐบาลไทยให้ความช่วยเหลือในการศึกษาและสำรวจออกแบบรายละเอียด ส่วนมูลค่าการก่อสร้างต้องใช้งบประมาณ 1,468 ล้านบาท ซึ่งประเทศไทยและจีนสนับสนุนงบประมาณฝ่ายละ 50% รูปแบบสะพานมีความยาวของตัวสะพาน 480 กิโลเมตร แต่จะมีถนนฝั่งไทยอีก 150 เมตร กิโลเมตร ฝั่ง สปป.ลาว 6 กิโลเมตร ตัวสะพานออกแบบให้มีสองช่องจราจรไปและกลับกว้าง 14.7 เมตร และมีไหล่ทางกว้าง 1.25 เมตร ฯลฯ

       
       ด้าน นายเอนก ณัฐโฆษิต ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงชนบท จ.เชียงราย กล่าวว่า ในโอกาสเดียวกันจะมีการจัดพิธีเปิดสะพานข้ามแม่น้ำกก แห่งที่ 5 เชื่อมต่อถนนกลางเวียงและสะพานสาย ค.3 ผังเมืองรวมเมืองเชียงราย ซึ่งเป็นถนนพื้นผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็ก 4 ช่องจราจร พร้อมสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กที่ใช้ชื่อสะพานว่า “ขัวพญามังราย” ข้ามลำน้ำแม่กก แห่งที่ 5 ด้วย
 
 
 
 
 http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000065174
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #65 เมื่อ: วันที่ 14 พฤษภาคม 2010, 22:04:43 »

เชียงราย – รมว.คมนาคมฯไทย-ลาว จรดปากกาลงนามในความตกลง ก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ต่อจิ๊กซอว์เส้นทางขนส่งจีน-ลาว-ไทย ราบรื่น หลังตำรวจส่งกำลังปิดถนนหน้าโรงแรมดุสิตไอส์แลนด์เชียงรายเต็มที่ เพื่อสกัดกั้นเสื้อแดง ที่ก่อวีรเวรมาแล้วเมื่อค่ำวันก่อน(13 พ.ค.)
       
       
       
       รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่าวันนี้ (14 พ.ค.) ได้มีการจัดพิธีลงนามความตกลงระหว่างประเทศไทยกับ สปป.ลาว ว่าด้วยการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขง แห่งที่ 4 เชื่อม อ.เชียงของ กับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ระหว่างนายโสภณ ซารัมย์ รมว.กระทรวงคมนาคม และท่านสมมาด พลเสนา รมว.กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สปป.ลาว ณ ห้องดอยตุง โรงแรมดุสิตไอส์แลนด์รีสอร์ทเชียงราย อ.เมืองเชียงราย ท่ามกลางสักขีพยานเป็นผู้บริหารของกระทรวงคมนาคม และ จ.เชียงราย ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง
       
       การลงนามเป็นไปด้วยความราบรื่นและมีคำสั่งจากนายโสภณ ให้กระชับพิธีการต่างๆ จากเดิมที่จัดเอาไว้ตั้งแต่เวลา 09.00-11.00 น.ให้เสร็จตั้งแต่ 08.30-10.00 น.เนื่องจากเกรงจะเกิดปัญหาการชุมนุมของคนเสื้อแดง ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา(13 พ.ค.)โดยมีการไปชุมนุมตรงทางเข้าออกโรงแรมจนอาจกระทบกับความร่วมมือระหว่างประเทศ
       
       รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ภายหลังการลงนามดังกล่าวแล้วได้มีการจัดให้มีการลงนามสัญญาว่าจ้างเอกชนที่ได้รับการคัดเลือกให้ทำการก่อสร้างอย่างเป็นทางการ ระหว่างนายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวงของไทย และท่านเหลาคำ สมเพ็ด อธิบดีกรมขัวทาง สปป.ลาว กับเอกชนในกลุ่มซีอาร์5-เคที จอยท์เวนเจอร์ ซึ่งเป็นการร่วมทุนกันระหว่างบริษัทไชน่า เรลเวย์ โน.5 เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป จำกัด จากประเทศจีน บริษัทกรุงธนเอ็นยิเนียร์ จำกัด ของไทย
       
       ทั้งนี้ตลอดช่วงที่มีการลงนามและรับรองคณะของ รมว.จาก สปป.ลาว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ได้ปิดถนนด้านหน้าโรงแรมดุสิตไอส์แลนด์เชียงรายเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้าไปชุมนุมอีก อย่างไรก็ตามพบว่า กลุ่มคนเสื้อแดงต่างเลิกเวทีที่ชุมนุมกัน 2 จุดใน อ.เมืองเชียงราย ไปตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนและยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาชุมนุมใหม่แต่อย่างใด
       
       นายโสภณ กล่าวว่า การลงนามกันครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่การก่อสร้างสะพานอย่างเป็นทางการต่อไป หลังจากที่ผ่านมามีการตกลงความร่วมมือและอยู่ในขั้นตอนดำเนินการเพื่อเริ่มต้นกันมานาน จากนี้ก็จะรอการวางศิลาฤกษ์เพื่อให้เป็นสิริมงคลร่วมกัน แล้วลงมือก่อสร้างตามขั้นตอนต่อไป นอกจากนี้ยังจะร่วมกันพัฒนา ให้การเข้าออกทั้งการท่องเที่ยว การขนส่งสินค้าและอื่นๆ มีความสะดวกสบาย ต่อไปด้วย
       
       ด้านท่านสมมาด พลเสนา รมว.กระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สปป.ลาว กล่าวว่า สะพานที่จะร่วมกันก่อสร้างครั้งนี้ไม่ได้เชื่อมเฉพาะไทย-สปป.ลาว เท่านั้น แต่ยังเชื่อมไปถึงจีนด้วย จนก่อให้เกิดเส้นทาง R3A ไทย-สปป.ลาว-จีน ที่สมบูรณ์แบบ รวมทั้งช่วยสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจต่างๆ โดยเฉพาะเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน ซึ่งพึ่งจะมีการเริ่มต้น ให้ใช้ประโยชน์กันได้เป็นอย่างดี
       
       สำหรับพิธีวางศิลาฤกษ์ในอนาคตนั้นยืนยันว่าทั้งไทยและ สปป.ลาว ได้ร่วมกันเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว
       
       ท่านสมมาด กล่าวถึงกรณีที่บริษัทกรีนซิตี้ลาว จำกัด ซึ่งเป็นเอกชนไทย-เกาหลี ได้เข้าไปลงทุนก่อสร้างโครงการ "นาคราชนคร" บนเนื้อที่กว่า 1,200 ไร่บริเวณคอสะพานในฝั่งเมืองห้วยทราย สปป.ลาว และมีการร้องเรียนว่ากำลังจะได้รับผลกระทบเพราะจะมีถนนในโครงการสะพานยาวกว่า 6 กิโลเมตรผ่าเข้ากลางโครงการนั้น ทาง สปป.ลาว ได้มีการเข้าไปแก้ไขร่วมกับเจ้าของโครงการแล้ว โดยไม่ได้มีการแก้ไขแบบแปลนของถนนไปจากเดิมแต่อย่างใดซึ่งทางภาคเอกชนก็มีความพึงพอใจ
       
       "ลาวเราเคยเป็นแลนด์ล็อหคือไม่มีทางออกทะเล แต่ปัจจุบันเราพยายามพัฒนาเส้นทางคมนาคมต่างๆ เพื่อให้เราเป็นแลนด์ลิ้งค์ ซึ่งสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 นี้ก็จะช่วยเชื่อมถนนสาย R3A และถนนสายต่างๆ เพื่อให้ลาวเป็นแลนด์ลิ้งก์และออกสู่ทะเลได้ด้วย"
       
       เขาคาดว่า เมื่อสะพานแล้วเสร็จจะทำให้มูลค่าการค้าไทย-สปป.ลาว ด้านเมืองห้วยทรายและ อ.เชียงของ เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน เพราะเป็นไปตามหลัก เศรษฐศาสตร์ด้านเส้นทางคมนาคมที่สะดวกและมีข้อตกลงต่างๆ ที่เอื้อต่อการค้า
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000066547
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
ลูกน้ำของ
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 199



« ตอบ #66 เมื่อ: วันที่ 15 พฤษภาคม 2010, 02:17:05 »

ถ้าสร้างเสร็จก็ไม่ต้องนั่งเรือไปเที่ยวแล้ว  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

เอาแต่นั่งฝัน ก็ไม่มีวันก้าวเดิน  หึหึ
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #67 เมื่อ: วันที่ 17 พฤษภาคม 2010, 19:53:36 »

พระเทพ ยังทรงเสด็จ ที่เชียงราย 21 -22 ไหม ครับ.
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #68 เมื่อ: วันที่ 01 มิถุนายน 2010, 22:09:31 »

ทำเลทองที่ดินติดสะพานน้ำโขง4 ทุ่งนาเชียงราย-เชียงของ-ทะลุไร่นับล้าน

วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7123 ข่าวสดรายวัน


เชียงราย - นายวิรุณ คำภิโล ประธานหอการค้า จ.เชียงราย เปิดเผยว่า จากกรณีที่กระทรวงคมนาคม ของไทยและสปป.ลาว ลงนามความร่วมมือในการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 เชื่อม อ.เชียงของ กับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ที่จ.เชียงราย ไปเมื่อเร็วๆ นี้ และจะทำให้การก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2555 นั้นทำให้มีกลุ่มทุนโดยเฉพาะจากประเทศจีนนำคณะเข้ามาศึกษาดูงานพื้นที่อ.เชียงของ และส่วนอื่นๆ ของจ.เชียงราย โดยเฉพาะบนถนนสายเชียงของ-เชียงราย เพื่อเตรียมจะเข้ามาลงทุนกันอย่างคึกคัก รวมทั้งได้มีกลุ่มทุนที่ได้ลงทุนไปก่อนหน้านี้แล้วหลายราย แต่ส่วนใหญ่ยังไม่เป็นประเภทอุตสาหกรรมแต่จะเป็นการนำเข้าและส่งออกสินค้า โรงแรม สถานเอ็น เตอร์เทนเมนต์ ฯลฯ ทั้งฝั่งไทยและ สปป.ลาว เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ในอนาคตเชื่อว่าจะมีธุรกิจอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์เพื่อรองรับการนำเข้าและส่งออกสินค้าบนถนนอาร์สามเอเชื่อมไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ การนำเข้าวัตถุดิบใหม่ๆ จากประเทศจีนมาแปรรูป ฯลฯ

ด้านนายสงวน ซ้อนกลิ่นสกุล รองเลขาธิการหอการค้า จ.เชียงราย และนักธุรกิจนำเข้าและส่งออกที่ อ.เชียงของ กล่าวว่า ช่วงต้นของการก่อสร้างสะพานไม่ได้มีความคึกคักในการลงทุนมากนัก เพราะนักธุรกิจกำลังดูลู่ทางในการลงทุนและติดตามสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย กระนั้นก็พบว่าที่ดินส่วนใหญ่โดยเฉพาะทำเลทองได้ตกอยู่ในมือกลุ่มทุนไปหมดแล้ว โดยเฉพาะบนทุ่งนากว้างติดถนนเชียงราย-เชียงของ เนื้อที่มากกว่า 20,000 ไร่ พบว่ามีการซื้อขายกันคึกคัก โดยอดีตมีราคาซื้อขายกันไร่ละหลักหมื่นบาท แต่ปัจจุบันอย่างต่ำไร่ละ 700,000-800,000 บาท หากติดถนนราคาไร่ละกว่า 1 ล้านบาท เชื่อว่าเมื่อสะพานใกล้เสร็จและสถานการณ์เหมาะสมจะมีการลงทุนในพื้นที่อย่างคึกคัก

"อย่างไรก็ตาม เรายังไม่มีความชัดเจนเรื่องสถานที่ที่จะเอื้อให้เกิดการลงทุนด้านนิคมอุตสาหกรรม หลังจากที่เคยประชาสัมพันธ์ให้มีการเข้าไปลงทุนบริเวณติดถนนเชียงราย-เชียงของ พื้นที่ต.ศรีดอนชัย และต.สถาน อ.เชียงของ เนื้อที่ประมาณ 16,000 ไร่ ทำให้กลุ่มทุนจีนซึ่งเข้ามาประสานในพื้นที่สอบ ถามอยู่เนืองๆโดยพร้อมจะเข้ามาลงทุน ติดอยู่เพียงกำหนดพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกจากไทยเท่านั้น"

หน้า 28
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
sinlod
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #69 เมื่อ: วันที่ 02 มิถุนายน 2010, 11:08:01 »

ฝากด้วยน่ะครับ


* ประชาสัมพันธ์สัมมนาACFTA2 copy.jpg (234.2 KB, 600x450 - ดู 3155 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #70 เมื่อ: วันที่ 02 มิถุนายน 2010, 12:48:32 »

 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

ขอบคุณครับ..ช่วยติดตาม และลงข้อมูลจาก วงในด้วยนะครับ... ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

ชาวเชียงรายจะได้รับรู้ทิศทางการพัฒนาพร้อมกัน ครับ.
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
nalismenox
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 846


สุดท้ายก็กลับมายืนจุดเดิม


« ตอบ #71 เมื่อ: วันที่ 06 มิถุนายน 2010, 22:37:58 »

ดันนนนนน ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
ตะเกียบเดียวเฉี่ยว7ชิ้น
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,181



« ตอบ #72 เมื่อ: วันที่ 11 มิถุนายน 2010, 13:14:45 »

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ
หวังว่าคงได้ขับรถเที่ยวถึงจีน สักที
IP : บันทึกการเข้า
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #73 เมื่อ: วันที่ 23 สิงหาคม 2010, 20:34:25 »

ท่าเรื่อเชียงแสน 2 จุดขนถ่ายสินค้าไทยไปเมืองจีน

ถ่ายขนเขาไกลมาก ครับ..เครดิตตามภาพขอบคุณที่นำมาภาพสวยมาให้ชมครับ..













IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #74 เมื่อ: วันที่ 29 สิงหาคม 2010, 11:52:26 »

เชียงราย - กรรมาธิการคมนาคม ยกทีมจับผิดโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคชายแดนเมืองพ่อขุนฯ ทั้งสะพานข้ามโขง 4- ท่าเรือเชียงแสน 2 ขณะที่ ส.ส.เพื่อไทย รุมซักละเอียดยิบ ถามโปรเจกต์ท่าเรือใหม่ ผ่านสภาฯหรือไม่ หลังต้องทำข้อตกลงระหว่างประเทศกับลาว ยัน 8 ส.ส.เชียงราย พร้อมจุดประเด็นเสี่ยงกระทบเขตแดน







       
       รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า คณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายสุรพล เกียรติไชยากร ประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้เดินทางศึกษาดูแลงาน "การพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมของภาคเหนือตอนบน" และรับฟังบรรยายสรุป ที่ห้องประชุมสำนักงานแขวงการทาง จ.เชียงราย สุดสัปดาห์นี้ พร้อมกับเดินทางลงพื้นที่ไปดูโครงการต่างๆ ตามชายแดนไทย-สปป.ลาว เช่น ท่าเรือในแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 2 ที่ อ.เชียงแสน สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 เชื่อม อ.เชียงของ-ห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ฯลฯ
       
       โดยเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แจ้งถึงความคืบหน้าในโครงการต่างๆ ว่า การก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 เป็นรูปแบบสะพานแรงอัดคอนกรีตแบบกล่อง เริ่มต้นก่อสร้างมาแล้วตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่ามา และใช้เวลาก่อสร้าง 33 เดือน คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2555
       
       ตามกำหนดการจะมีการเปิดให้บริการสะพานร่วมกันระหว่างไทย-สปป.ลาว-จีน ภายในวันที่ 1 ม.ค.2556 เป็นสะพานขนาด 2 ช่องจราจร พร้อมทางเดินเท้าทั้ง 2 ข้างกว้างรวม 14.70 เมตร ส่วนความยาวของสะพานประมาณ 480 เมตร และยังมีสะพานต่อเชื่อมในฝั่งไทยอีก 150 เมตร รวมความยาวทั้งสิ้น 630 เมตร มีเสาตอม่ออยู่กลางแม่น้ำโขง 4 ตอม่อ รวมทั้งมีอาคารด่านพรมแดนทั้ง 2 ฝั่งประเทศและถนนรวมทั้งจุดเปลี่ยนการจราจรในฝั่งไทยด้วย
       
       ด้านนายพงษ์วรรณ จารุเดชารองอธิบดี (ด้านโครงสร้างพื้อนฐานทางน้ำ) กล่าวว่า สำหรับโครงการก่อสร้างท่าเรือในแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 2 งบประมาณ 1,546,400,000 บาท ตั้งอยู่หมู่บ้านสบกก ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน สร้างบนเนื้อที่ประมาณ 387 ไร่ ห่างจากท่าเรือแห่งแรกประมาณ 6 กิโลเมตร เพื่อให้รองรับเรือขนสินค้าขนาด 370 ตันกรอสส์ ได้พร้อมกัน 10 ลำ และรองรับสินค้าได้ปีละ 6,000,000 ตัน ลักษณะโครงการเป็นการสร้างเว้าเข้ามาในฝั่งไทยขนานไปกับแม่น้ำกก ซึ่งจะทำให้เกิดแอ่งจอดเรือที่ขุดขึ้นใหม่มีความกว้างประมาณ 71 ไร่ สามารถจอดเรือได้ทั้ง 2 ฝั่งด้านใน ส่วนระดับน้ำมีความลึก 1.5 เมตรจากระดับน้ำลึกต่ำสุด และมีลานจอดวางสินค้าประมาณ 48 ไร่ ฯลฯ
       
       “ตอนนี้สร้างคืบหน้าแล้ว 42%แต่ก็ช้ากว่าประมาณการณ์ 5%เพราะขาดอุปกรณ์เครื่องเจาะหินซึ่งหายากแต่ไม่น่าจะมีปัญหา และอุปสรรคด้านกายภาพทำให้ช่วงแรกๆ ต้องปรับแบบเพื่อให้เหมาะสม อย่างไรก็ตามการก่อสร้างยังอีกยาวนานเพราะมีกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 28 ธ.ค.2554 และหากเอกชนไม่สามารถก่อสร้างได้ทันกำหนดก็มีสัญญาวงเงินประกันเอาไว้ 1.5 ล้านบาท” นายพงษ์วรรณ กล่าว
       
       รายงานข่าวแจ้งอีกว่าภายหลังจากนายพงษ์วรรณ ได้รายงานความคืบหน้าได้มีสมาชิกคณะกรรมาธิการหลายคน ได้แสดงความคิดเห็นและสอบถามข้อสงสัยหลายเรื่อง เช่น นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ และนายรังสรรค์ วันไชยธนวงส์ ซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เชียงราย พรรคเพื่อไทย ถึงกับกล่าวว่า โครงการนี้ทาง ส.ส.เชียงราย ทั้ง 8 คนไม่ได้เห็นชอบด้วย เพราะสงสัยเรื่องวิกฤตแม่น้ำโขงที่เหือดแห้ง ความคุ้มทุน การบริหารจัดการระหว่างท่าเรือใหม่และเก่า ฯลฯ
       
       นายพงษ์วรรณ ชี้แจงว่า โครงการนี้ได้ผ่านการศึกษามาหลายขั้นตอนและเปิดเวทีมาแล้วหลายครั้งว่าคุ้มค่า ส่วนแม่น้ำโขงก็ไม่ได้แห้งลง เพราะจากการคำนวณจากระดับน้ำตั้งแต่อดีตพบว่าสาเหตุที่เรือสินค้ามีปัญหาเพราะมีการเพิ่มขนาด ระวางบรรทุกเรือสินค้าให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น ขณะที่ท่าเรือแห่งแรกจะใช้เพื่อการท่องเที่ยวเท่านั้น
       
       ด้านนายสุรชัย กนกปิณฑะ เลขานุการคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่าตนยังสงสัยในโครงการนี้ในเรื่องของเขตแดนประเทศไทย-สปป.ลาว เพราะสนธิสัญญาแบ่งแดนระหว่างสยาม-ฝรั่งเศส ในอดีตระบุว่าให้ร่องน้ำลึกเป็นเส้นแบ่งเขตแดนในแม่น้ำโขง แต่กรณีนี้มีเกาะช้างตายอยู่กลางแม่น้ำโขงและเราก็ทำท่าเรือเว้าเข้าในฝั่งไทย จึงสงสัยว่าเมื่อทำเช่นนี้ร่องน้ำลึกจะอยู่ที่ไหนอย่างไร และจะส่งผลกระทบต่อการมีร่องน้ำลึกใหม่หรือไม่
       
       พร้อมกับระบุอีกว่า โครงการนี้มีการตกลงหารือและลงนามร่วมกับ สปป.ลาว แล้วได้มีการนำเข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรตามมาตรา 190 ในรัฐธรรมนูญนี้หรือไม่ และไปทำกันโดยใช้รัฐธรรมนูญใด ด้วยองค์กรใดกับองค์กรใด
       
       ทำให้รองอธิบดีกรมเจ้าท่าชี้แจงว่า การก่อสร้างตามโครงการนี้ได้ร่วมกับทาง สปป.ลาว ในการศึกษาร่วมกันมาตั้งแต่ต้น รวมทั้งได้นำเอาข้อมูลที่ได้ไปชี้แจงต่อรัฐบาล สปป.ลาว ที่นครเวียงจันทร์มาแล้ว ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ลงนามร่วมกันว่าโครงการนี้จะไม่ส่งผลกระทบ แต่หากส่งผลกระทบก็จะร่วมกันแก้ไขต่อไป ด้านร่องน้ำลึกนั้นก็ได้ส่งเรื่องให้ทางกระทรวงการต่างประเทศได้พิจารณาแล้ว ได้รับคำตอบชัดเจนว่าเกาะช้างตายเป็นของประเทศไทย
       
       หลังจากนั้น คณะกรรมาธิการฯ ยังได้สอบถามข้อมูลความคืบหน้าในโครงการโครงข่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น รถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษารอบใหม่เพราะที่ผ่านๆ มาได้ผลการศึกษาว่าไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน โครงการก่อสร้างถนนสายต่างๆ ที่คืบหน้าอย่างต่อเนื่อง เช่น ถนนแม่สาย-เชียงแสน-เชียงของ ถนนสาย อ.เมืองเชียงราย-ท่าเรือเชียงแสน 2 ถนนสาย อ.จุน จ.พะเยา-อ.เทิง จ.เชียงราย ถนน อ.เทิง-เชียงของ เป็นต้น

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000120117
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #75 เมื่อ: วันที่ 08 กันยายน 2010, 10:39:55 »

โครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์พร้อม

ยุทธศาสตร์การขนส่งของประเทศไทย
ใสภาวะการณ์ของโลกปัจจุบันยุทธศาสตร์การขนส่งของประเทศไทย จึงต้องมีเป้าหมายกำหนดให้การขนส่งทางน้ำและทางราง เป็นเส้นทางขนส่งหลักในการขนส่งระยะยาว การขนส่งทางถนนเป็นส่วนขนส่งต่อเชื่อมจากต้นทางสู่เส้นทางหลักกับนำส่งจากเส้นทางหลักสู่ปลายทาง ด้านการขนส่งทางอากาศ เป็นส่วนสนับสนุนสำหรับสินค้าที่ต้องการความรวดเร็วเป็นสำคัญ

สิ่งที่ต้องดำเนินการในขณะนี้คือเร่งพัฒนาการขนส่งทางน้ำ เพื่อเป็นทางเลือกของการขนส่งต้นทุนต่ำ โดยพัฒนาท่าเรือและสร้างระบบเชื่อมโยงการขนส่งสู่ท่าเรือทั้งการขนส่งทางทะเลชายฝั่ง และการขนส่งทางทะเลระหว่างประเทศ ซึ่งเรื่องการเป็นฮับทางด้านเรือไทยนั้นไทยอาจจะเป็นรองสิงคโปร์ แต่ถ้าการพัฒนาการต่อเชื่อมไทยไม่เป็นรอง

เป็นศูนย์กลางการขนส่งของอินโดจีน
ประเทศไทยเป็นศูนย์ทางด้านอากาศ มีสนามบินในศูนย์กลางโดยภูมิศาสตร์ การบริหารจัดการอีกจุดหนึ่งน่าจะเป็น การเป็นฮับในภาคอินโดจีน ทั้งการเชื่อมโยงกับจีนตอนใต้ โดยจีนหาทางออกทะเล ทางพม่า ทางไทย และเวียดนาม การขนส่งในแม่น้ำโขง การขนส่งทางด้านน้ำมัน การขนส่งโดยคอนเทนเนอร์ โดยพัฒนาท่าเรือเชียงแสน ระยะที่ 2 และการพัฒนาระบบขนส่งสู่ท่าเรือเชียงแสน ทั้งการพัฒนาเส้นทางรถไฟเชื่อมโครงข่ายทางรถไฟจากภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกสู่ท่าเรือแหลมฉบังให้สมบูรณ์ พร้อมทั้งพัฒนาและขยายขีดความสามารถของ ไอซีดี ลาดกระบัง โครงการปรับปรุงสถานีขนส่งสินค้าชานเมือง (Truck Terminal)

ส่วนการขนส่งทางรางได้มีแผนพัฒนารถไฟรางคู่จากฉะเชิงเทราสู่แหลมฉบัง และมีการสร้าง ไอซีดี 2 โดย รฟท. มีแผนที่จะก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายแก่งคอย ผ่านคลอง 19 และเข้าสู่แหลมฉบังโดยทำเป็นรางคู่ ส่งสินค้าจากภาคตะวันออก สู่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ยังมีแผนเสริมเรื่องการสร้างคอนเทนเนอร์ยาร์ท (CY) ที่จะเสริมในเรื่องการกระจายและจุดขนถ่ายสินค้า นอกจากนี้ยงมีรถไฟขบวนพิเศษในการบรรทุกสินค้าพิเศษ จะขนส่งสินค้ามีการรับรองเวลา ..

http://www.logisticnews.net/index.php?m=logistic
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #76 เมื่อ: วันที่ 10 กันยายน 2010, 09:04:41 »










เชียงราย - สนข.เผยแผนพัฒนาศักยภาพชายแดนเชียงราย เตรียมวางระบบ “ศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าชายแดน” รองรับท่าเรือเชียงแสน 2-สะพานข้ามโขง 4 ขณะที่รัฐบาลไฟเขียวเปิดเส้นทางเดินรถโดยสารเชียงใหม่-เชียงราย ทะลุหลวงพระบาง และจีนตอนใต้ มุ่งอำนวยความสะดวกการค้าลุ่มน้ำโขง
       
       ในการสัมมนานานาชาติเรื่อง “โครงการกิจกรรมเพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ(Thailand Competitiveness Conference 2010) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมการจัดการแห่งประเทศไทย และสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย ได้ร่วมกันจัดขึ้น ณ โรงแรมพลาซ่าแอทธินี กรุงเทพฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งภายในการสัมมนาได้มีการหยิบเรื่องโครงการพัฒนาต่างๆ ตามชายแดนแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว ด้าน จ.เชียงราย เข้าไปอภิปรายโดยเฉพาะการเชื่อมโยงระหว่างไทย-จีน ทั้งทางถนน ทางเรือแม่น้ำโขงซึ่งมีการก่อสร้างด้วยงบประมาณมหาศาลอยู่ในปัจจุบัน และทางระบบรางรถไฟซึ่งกำลังมีแผนดำเนินการในอนาคต
       
       นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธาน คสศ.หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ เปิดเผยว่า ในเวทีสัมมนาทาง สนข.ได้นำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโลจิสติกส์ของประเทศไทยระหว่างปี 2550-2554 ขึ้นมาทำการอภิปราย มุ่งเน้นแปลงยุทธศาสตร์ดังกล่าวไปสู่ภาคปฏิบัติ
       
       ในส่วนของ จ.เชียงราย ได้มีการแจ้งว่ามีโครงการใหญ่ๆ เกี่ยวกับการพัฒนาการแข่งขันของประเทศหลายโครงการ เช่น โครงการท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 2 ตรงหมู่บ้านสบกก ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน พื้นที่ 380 ไร่ 2 งาน 62 ตารางวา ซึ่งกรมเจ้าท่าได้ดำเนินการก่อสร้างด้วยวงเงิน 1,546,400,000 บาท กำหนดแล้วเสร็จ 28 ธ.ค. 2554 ปัจจุบันโครงการนี้มีถนนสนับสนุนที่ก่อสร้างใหม่หลายสาย เช่น ถนนสี่ช่องจราจรสาย อ.แม่สาย-อ.เชียงแสน ระยะทาง 38.46 กิโลเมตร ถนนสี่ช่องจราจรสาย อ.แม่จัน-อ.เชียงแสน ระยะทาง 19.2 กิโลเมตร
       
       ขณะที่ สนข.ได้รับมอบหมายให้สำรวจออกแบบรายละเอียดและการบริหารจัดการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าชายแดน โดยมีกำหนดแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งภายในศูนย์ฯ จะมีการอำนวยความสะดวกด้านกิจการชายแดนจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การอำนวยความสะดวกด้านสถานที่สำหรับรถโดยสาร รถบรรทุก รถไฟ รถทั่วไป ฯลฯ
       
       สำหรับสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 เชื่อมไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงของ กับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ซึ่งรัฐบาลไทย-จีน ได้ตกลงร่วมกันโดยไทยและจีนได้จัดการด้านการเงินสำหรับงานก่อสร้างฝ่ายละ 50% ในวงเงินค่าก่อสร้างรวม 1,624 ล้านบาท ต่อมากรมทางหลวงได้เปิดซองประกวดราคาเพื่อจัดหาเอกชนเข้าดำเนินการก่อสร้างเรียบร้อยแล้วโดยได้ “กลุ่มซีอาร์ 5-เคที จอยท์เวนเจอร์” ซึ่งเป็นการร่วมทุนกันระหว่าง “บริษัท ไซน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 5 เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป” จำกัด จากประเทศจีน “บริษัท กรุงธนเอ็นยิเนียร์ จำกัด” จากประเทศไทย วงเงิน 1,431,138,545.00 บาทหรือประมาณ 43,158,581.11 เหรียญสหรัฐ
       
       เซ็นสัญญาก่อสร้างในวันที่ 14 พ.ค.2553 ด้วยระยะเวลาดำเนินการก่อสร้าง 30 เดือน คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี พ.ศ.2555 นั้น สนข.ก็มีกำหนดจัดตั้งศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าชายแดนให้แล้วเสร็จในเวลาเดียวกันด้วย
       
       ศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าหรือ Border Control Facility ทาง สนข.ได้มีการประเมินมูลค่าการก่อสร้างโครงการว่า จะมีมูลค่าในระยะที่ 1 จำนวน 1,451 ล้านบาท ระยะที่ 2 จำนวน 850 ล้านบาท รวมทั้งหมด 2,301 ล้านบาท โดยจะมีโครงการสนับสนุนหลายโครงการ เช่น 1.โครงการก่อสร้างทาง 4 ช่องจราจร ทล.1020,1152 สายเชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 75 กิโลเมตร 2.โครงการก่อสร้างถนนสายแยก ทล.1020-บ.กิ่วแก้ว อ.เทิง-อ.จุน ระยะทาง 43.709 กิโลเมตร 3.โครงการก่อสร้างถนนสาย ชร.4057 แยก ทล.1020-บ.ดอนมหาวัน อ.เชียงของ ระยะทาง 8.683 กิโลเมตร และ 4.โครงการก่อสร้างถนน ชร.4014 แยก ทล.1020 บ.แก่นใต้ อ.เชียงของ ระยะทาง 8.90 กิโลเมตร
       
       นอกจากนี้ สนข.ยังได้แจ้งความคืบหน้าอื่นๆ อีกว่า ปัจจุบันรัฐบาลได้มีมติคณะรัฐมนตรีให้ส่งเสริมโครงการเสริมอื่นๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพชายแดนด้านนี้หลายโครงการ โดยเฉพาะการผลักดันร่าง พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามพรมแดน เพื่อการเปิดเดินรถโดยสารระหว่างประเทศ จำนวน 2 สาย ได้แก่ 1.เส้นทาง จ.เชียงใหม่-จ.เชียงราย-แขวงบ่อแก้ว-แขวงหลวงน้ำทา-แขวงอุดมไชย-แขวงหลวงพระบาง 2.เส้นทาง จ.เชียงราย (ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำโขง แห่งที่ 4)-เมืองห้วยทราย (แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว)-เมืองบ่อเต็น (แขวงหลวงน้ำทา) ชายแดน สปป.ลาว-จีนตอนใต้
       
       การโดยสารด้วยรถประจำทางดังกล่าวคงจะมีการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการไทยที่มีความพร้อม ซึ่งเริ่มแรกก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย เช่น หากเข้าไปยังแขวงที่อยู่ติดกับประเทศไทยก็ใช้เพียงแค่หนังสือผ่านแดนชั่วคราวหรือบอเดอร์พาส แต่หากข้ามแขวง ก็ต้องใช้หนังสือเดินทางระหว่างประเทศหรือพาสปอร์ต เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่าหากมีการเปิดใช้รถโดยสารจะทำให้ภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงมีความคึกคักด้านการเดินทางมากขึ้นโดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว
       
       นายพัฒนา กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันในแผนของ สนข.ยังกำหนดให้มีการศึกษาและออกแบบเพื่อเตรียมการก่อสร้างทางรถไฟสาย อ.เด่นชัย จ.แพร่-อ.เชียงของ ระยะทาง 346 กิโลเมตร ด้วย
       
       อย่างไรก็ตาม การจะก้าวไปสู่การพัฒนาดังกล่าวให้เต็มรูปแบบนั้น ยังต้องมีกฎระเบียนอื่น ๆ ขึ้นมารองรับ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวก ซึ่งมีเนื้อหาคือ 1.เพื่อการขนส่งข้ามพรมแดน รองรับพันธกรณีในการปรับปรุงพิธีการ ณ ด่านพรมแดนให้สอดคล้องกับหลักการตามความตกลงระหว่างประเทศ
       
       2.อำนวยความสะดวกในการขนส่งผ่านด่านพรมแดน (Cross Border transport) การดำเนินพิธีการ ณ ด่านพรมแดนเกี่ยวข้องกับอำนาจของหลายหน่วยงาน ภายใต้กฎหมายหลายฉบับ
       
       3.การมีกฎหมายกลางขึ้นใหม่ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะสามารถอ้างอิงในการออกกฎหมายลำดับรองเพื่อให้มาตรการอำนวยความสะดวกเกิดผลในปฏิบัติจะเกิดผลสัมฤทธิ์ในการดำเนินการมากกว่าการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเป็นรายฉบับสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการอนุวัติความตกลงระหว่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลไทยจะทำขึ้นในอนาคตได้ด้วย
       
       สำหรับสถานะของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวนั้นปัจจุบันยังรอเสนอสภาผู้แทนราษฎรอยู่ เมื่อแล้วเสร็จจะให้อำนาจกระทรวงคมนาคมประกาศพื้นที่ควบคุมร่วมกัน (Common Control Area :CCA) เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดให้มีการดำเนินพิธีการอย่างเบ็ดเสร็จในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อให้สามารถให้บริการ ณ จุดเดียว (One Stop Service) รองรับ Single Stop Inspection ต่อไป


http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000126414
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
AOWTHAI
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 350



« ตอบ #77 เมื่อ: วันที่ 13 กันยายน 2010, 17:10:52 »

ตกลง สร้าง จากเชียงของไปถึงไหนล่ะ ได้ข่าวว่าตอนนิถึงบ้านครึ่งแล้ว ใช่ปะ

แล้วตกลงจะมาถึงบ้านต้าป่าวครับ

ขอรูปอัพเดททางหน่อย   ฮืม
IP : บันทึกการเข้า
Highwayboy
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 60


« ตอบ #78 เมื่อ: วันที่ 20 กันยายน 2010, 16:17:25 »

ความก้าวหน้าล่าสุด


* ภาพนิ่ง6.JPG (85.97 KB, 960x720 - ดู 3060 ครั้ง.)

* ภาพนิ่ง8.JPG (80.31 KB, 960x720 - ดู 3022 ครั้ง.)

* ภาพนิ่ง13.JPG (74.67 KB, 960x720 - ดู 2974 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #79 เมื่อ: วันที่ 20 กันยายน 2010, 16:21:40 »

ขอบคุณมากครับ. ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 ... 16 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!