.. เปิดทัศนให้กว้าง อย่าด่วนตัดสินใคร ก่อนได้ศึกษา ..

[Siranoi]

.. ไปเจอเว็ป ๆ หนึ่ง
.. ชาวพุทธเขาเถียงกันหน้าดำหน้าแดง เอาเป็นเอาตาย
.. เรา ในฐานะชาวพุทธคนหนึ่ง อ่านแล้วมีอารมย์ แต่เป็นอารมย์ที่ไม่ร้อนไม่วู่วามเหมือนเมื่อหนุ่ม นั่นคือ สงบ..เงียบ..รับฟัง..คิดตาม..สังเกตุคุณสมบัติผู้โพสข้อความ..ทั้งหมดเป็น ปัจจัตตัง
.. ขอวิงวอนให้ท่านทำได้ดังนี้
.. ด้านซ้ายมือ จะเป็นหัวข้อที่เขาคุยกัน ลองคลิกอ่านทีละอัน
.. หากท่านสามารถแยกแยะออก..ขออนุโมทนา
.. เชิญพิสูจน์ สัมมาทิฏฐิ - มิจฉาทิฏฐิ ของผู้อื่น ของท่าน ด้วยตัวท่านเอง ที่...
http://nivaranaisself.blogspot.com/2011/11/08.html

[JAMESCOM1]

อ่านแล้วมึน จะอะ ไม่อะ อันนี้ผมเองก็มิทราบ เพราะยังไม่เคยนิพาน อิอิ
แต่ที่แน่ๆ การเจรจาทำไมต้องเฉือดเฉือนกันด้วย มันไม่ได้แสดงถึงผู้มีธรรมเลย มีแต่อวิชาทั้งนั้น อิอิ  ยกเว้นเจ้าของบ็อก ดูดีหน่อย ให้สติ และพูดอย่างมีเหตผล (ถึงแม้ความจริงจะใช่ ไม่ใช่ก็ตาม ซึ่งก็ไม่สำคัณเท่ากับการเจรจาชอบ)

[nansom]

สมมุติกรุงเทพฯ เป็นนิพพาน มีคนหลายทิศทางจะเข้ากรุงเทพฯ เหนือ ใต้ ออก ตก แม้ทางเดียวกันก็จะใช้ยานพาหนะต่างกัน เครื่องบิน รถไฟ รถทัวร์ หรือกระทั่งเดิน  แม้พาหนะเดียวกันก็ต่างอิริยาบท แม้อิริยาบทคล้ายกันกลับแตกต่างทางอารมณ์ แต่หากทุกคนมุ่งถึงกรุงเทพฯแล้ว ณ เวลาหนึ่งพวกเขาจะถึงกันทุกคน แต่ต่างกรรมต่างวาระ
ที่ถกเถียงกันก็แค่เส้นทางใดดีกว่า ซึ่งก็ต้องดูพื้นฐานชีวิต คนเชียงรายจะใช้รถไฟก็ใช่ที่ แม่ฮ่องสอนจะร่อนเครื่องก็หมอกลง ดังนั้น ต่างเดินทางของตนไปตามอัตภาพตามเหมาะสมแห่งตน อย่าแวะระรานเส้นทางอื่นเขา
และอย่าลืมว่า กรุงเทพฯ ในทัศนะของแต่ละคนก็แตกต่างกัน เมืองสวรรค์ เมืองธุรกิจ เมืองโลกีย์ ก็คงต้องเถียงกันอีกกับคนช่างเถียง ซึ่งกรุงเทพฯมีสัจจของเขา คนอื่นต่างหากมองต่างออกไป เอาง่ายๆ มะม่วงเนี่ย เรียกชื่อไม่เหมือนกัน แต่มะม่วงนั้นมีตัวตนของมัน ใครจะอธิบายหรือว่ามันอย่างไร มะม่วงยังเป็นจริงของมันอย่างนั้น นิพพานก็ไม่แตกต่างกัน อย่างนี้ก็จะจุดประเด็นคนช่างเถียงอีกต่อไป

[JAMESCOM1]

ก็นั่นนะซิท่าน +1 อิอิ

[teetee2011]

สมมุติกรุงเทพฯ เป็นนิพพาน มีคนหลายทิศทางจะเข้ากรุงเทพฯ เหนือ ใต้ ออก ตก แม้ทางเดียวกันก็จะใช้ยานพาหนะต่างกัน เครื่องบิน รถไฟ รถทัวร์ หรือกระทั่งเดิน  แม้พาหนะเดียวกันก็ต่างอิริยาบท แม้อิริยาบทคล้ายกันกลับแตกต่างทางอารมณ์ แต่หากทุกคนมุ่งถึงกรุงเทพฯแล้ว ณ เวลาหนึ่งพวกเขาจะถึงกันทุกคน แต่ต่างกรรมต่างวาระ
ที่ถกเถียงกันก็แค่เส้นทางใดดีกว่า ซึ่งก็ต้องดูพื้นฐานชีวิต คนเชียงรายจะใช้รถไฟก็ใช่ที่ แม่ฮ่องสอนจะร่อนเครื่องก็หมอกลง ดังนั้น ต่างเดินทางของตนไปตามอัตภาพตามเหมาะสมแห่งตน อย่าแวะระรานเส้นทางอื่นเขา
และอย่าลืมว่า กรุงเทพฯ ในทัศนะของแต่ละคนก็แตกต่างกัน เมืองสวรรค์ เมืองธุรกิจ เมืองโลกีย์ ก็คงต้องเถียงกันอีกกับคนช่างเถียง ซึ่งกรุงเทพฯมีสัจจของเขา คนอื่นต่างหากมองต่างออกไป เอาง่ายๆ มะม่วงเนี่ย เรียกชื่อไม่เหมือนกัน แต่มะม่วงนั้นมีตัวตนของมัน ใครจะอธิบายหรือว่ามันอย่างไร มะม่วงยังเป็นจริงของมันอย่างนั้น นิพพานก็ไม่แตกต่างกัน อย่างนี้ก็จะจุดประเด็นคนช่างเถียงอีกต่อไป

   ครับเห็นด้วยทุกวันมีผู้รู้ธรรมเยอะแต่หาผู้มีธรรมน้อย (รวมข้าพเจ้าด้วย) สังเกตุได้จากการสนทนากันครับ  และการใช้สติระงับอารมณ์ได้ดีขณะที่มีอารมณ์อื่นเข้ามากระทบ  เรื่องนิพพานมันไกลเกินกว่าปุถชนอย่างเราจะเข้าถึงได้ง่าย (เข้าถึงด้วยปฏิเวธ)

[nantong]

[size=16] ไหว้สา

นิพพาน ไม่ใช่  ทั้ง อัตตา และ อนัตตา   แต่  เป็น การดับเย็น ละอวิชชา ความโง่  หมดเชื้อเกิด
แล้ว
อรหันตบุคคล หากหมดขันธ์ดับจิตแล้ว จักไปบังเกิด บนแดนนิพพาน ได้อย่างไรกัน

[/size]