เคยได้ยินมาว่า
อสูร กับเทวดา เดิมที มีถิ่นที่อยู่ร่วมกันบนสวรรค์
ต่อมาเทวดา ลวง ให้ อสูร ดื่มเหล้า เมาสลบ ไปทุกตน
แล้วจับโยนลงมาจากสวรรค์ จมลงไปใต้ดิน ที่เราอยู่นี้
อสูรจึงสร้างเมืองใหม่ขึ้นมา ปุผนังเมืองด้วยทองคำ สวยงามไม่แพ้สวรรค์
อสูร และ เทวดา จึง เป็นคู่แค้นกันนับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
คราใดที่ดอกคำฝอยในเมืองอสูรเบ่งบาน เหล่าอสูรก็จะคิดถึงดอกปาริชาติบนสวรรค์
ก็คิดแค้นเคืองเทวดา ยกทัพไปทำสงครามกันอยู่เป็นประจำ แต่ไม่อาจชิงสวรรค์คืนมาได้
ต่อมา อสูร กับ เทวดา ร่วมมือกัน อีกครั้ง เพื่อกวนเกษียรสมุทร ค้นหาน้ำอมฤต
ผู้ใดได้ดื่มแล้วฆ่าไม่ตาย
เหล่าเทวดาได้ดื่มน้ำอมฤตนั้น เทวดา จึงฆ่าไม่ตาย และได้ชื่อว่า อมร(ผู้ไม่ตาย)
ส่วนอสูร ไม่ได้ดื่ม จึงได้ชื่อว่า อสูร(ผู้ไม่กล้า หรือกลัวตาย นั้นเอง)
เหตุนี้อมร จึง ถือว่ามี ฤทธิ์เหนือ อสูร และ สามารถปราบอสูรได้
เพราะไม่ตายแต่อสูรตาย
ส่วนคำว่า "มาร" ในทางพุทธศาสนา
น่าจะหมายถึง ภาวะจิต ที่ถูกปรุงแต่ง จนหลงผิด ถูกครอบงำ ด้วยกิเลส
การกำจัด มาร จึง ต้องกำจัด ด้วยปัญญา คือความสว่าง และรู้เท่าทัน
จิต เป็น มาร
จิต ก็เป็น ปัญญา
น้ำโคลน สามารถ ล้าง ด้วย น้ำที่สะอาดกว่า
จิตที่แปดเปื้อน ก็สามารถล้าง ด้วยจิต ที่ใส สะอาด และรู้เท่าทัน
ที่สำคัญต้องเป็นจิตดวงเดียวกัน.....
ผิด ถูก ประการใด ขอคำแนะนำต่อด้วยครับผม