ข้อมูลเพิ่มเติมครับ
อ้างอิง
ส่วนพญามังรายนั้นเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์มังราย พระองค์พระราชสมภพที่ เมืองเชียงแสน (จังหวัดเชียงราย-ปัจจุบัน) ในช่วงวัยเยาว์พระองค์ชอบเล่นลูกข่างและเป่าปี่ เป่าแคน ปี่พญามังรายนั้น น่าเป็นปี่พื้นเมืองที่ทำจากต้นไผ่ ต้นอ้อ และเป็นปี่ลื้อเพราะเชื้อเครือทางสายพระราชมารดาของพระองค์เป็นพระราชธิดาหรือไม่ก็เป็นพระเจ้าน้องยาเธอของท้าวรุ่งแก่นชาย กษัตริย์เมืองเชียงรุ่ง ดินแดนสิบสองพันนา ( ประเทศจีนในปัจจุบัน ) ดังมีเอกสารพับเคล้าเชื้อเจ้าแสวนหวีฟ้า หรือพับเชื้อเครือเจ้าแผ่นดินลื้อ ซึ่งก็คือสมุดข่อยที่เป็นพงศาวดารบันทึกลำดับราชวงศ์กษัตริย์ไทลื้อที่ปกครองเมืองเชียงรุ่ง
สิบสองพันนาในอดีตเป็นรัฐอิสระที่ปกครองตนเองสืบเชื้อเครือกษัตริย์มาถึง ๔๐ รัชกาล เนื่องจากมีฐานะเป็นรัฐชายขอบที่ติดกับล้านนา พม่า จีน และล้านช้าง จึงมีประวัติความเป็นมาเกี่ยวเนื่องกับรัฐเหล่านี้ตลอดมา เอกสารใบลานล้านนาในบางส่วนที่มีเนื้อความคลุมเครือไม่ชัดเจน เอกสารพับลื้อช่วยให้ภาพในอดีตชัดเจนขึ้น
เอกสารพับพื้นเคล้าเครือเจ้าแสวนฟ้าสิบสองพันนา ฉบับขนานจอมชำระ คำว่า ขนาน ของไทลื้อ คือ ผู้ที่ผ่านการบวชเป็นพระภิกษุแล้ว เหมือนคำว่า ทิด ในคำสยาม คำว่า หนาน ในล้านนา ขนามจอมนี้เป็นอาลักษณ์เมืองฮายได้ชำระโดยรวบรวมจากฉบับเดิม ๓ ฉบับเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๔ ได้ระบุถึงพระราชประวัติและความเป็นมาของพญามังรายในวัยเยาว์ว่าพระองค์ชอบเล่นลูกข่างและเป่าปี่ จนพระอัยกาเจ้าท้าวรุ่งแก่นชายกษัตริย์เมืองเชียงรุ่งทรงโปรดให้ช่างประจำราชสำนักหล่อลูกข่างและตีปี่ทองคำเพื่อพระราชทานให้พระราชนัดดาของพระองค์(คัดลอกมาเฉพาะส่วนที่เห็นว่าเกี่ยวเนื่อง)
"ท้าวรุ่งแก่นชายเป็นเจ้าสักแทนพ่อ ท้าวรุ่งแก่นชายมีลูกชาย ๑ ชื่อท้าวแรงหลวง ลูกยิงหนึ่งชื่อนางโอมิ่งไข่ฟ้า ใหญ่มาพอช่างย่างแอ่วเหล้นใส่ชื่อนางอกแอ่น ยามนั้นเจ้าเชียงรายชื่อแสนดาวหยาดเชียงรายมาสอดเอาเป็นนาง ยามเมื่อจักอ้มหื้อเจ้าเชียงรายนั้น มาใส่ชื่อนางคำกาย ดังนางผู้นั้นก็เป็นที่รักมักจำเรินใจแห่งพระยาแท้แล บ่นานเท่าใดนางฝันหันดาวผกายลูก ๑ ตกแต่อากาศหุนทักขิณ มาใส่อกใจนาง วันลูนนางก็กล่าวแก่พระยาชู่อัน พระยาก็เรียกหาพรหมณอาจานมาทวายดูนิเมตนาง พรหมณอาจานกล่าวว่า นางจักได้ลูกชาย ๑ ผู้ประเสิดจักผาบแพ้ท้าวหุนทักขิณหมิ้นชะแล ดังนางทรูงครรภได้ ๑๐ เดินก็ประสูติแล ดังลูกชายก็จำเรินใหญ่มาได้เดิน ๑ พระยาเมิงลื้อ ท้าวรุ่งแก่นชายแลพี่ชายนางชื่อท้าวแรงหลวง ก็ชวนเอานางตนแม่แลพ่อลุงไพหลอนเดินมงคลผู้เป็นหลานถึงเวียงเชียงราย จิงเรียกเจ้ากุมมารนั้นชื่อว่ามงคลนารายเพื่ออั้นแล ท้าวรุ่งแก่นชายก็คืนมาสู่ที่อยู่แห่งตนหั้นแล เมื่อพายลูนคุนทั้งหลายเรียกว่าท้าวมังราย ลูกนางคำกาย หลานท้าวรุ่งแก่นชายว่าอั้นแล แต่นั้นท้าวรุ่งแก่นชายก็ยอมหื้อคนไปใช้หานนั้นชู่เดิน คนใช้มากล่าวว่า
หลานชายท่านใหญ่มาหมเหล้นหมากข่างว่าอั้น ท้าวรุ่งแก่นชายก็หื้อคนช่างหมอหล่อคำหื้อเป็นหมากข่างนั้นเอาลุงไพหาหลานเหล้น ลูนนั้นคนใช้ก็พอกมากล่าวว่า หลายชายเจ้าใหญ่มาหมเป่าปี่ ก็หื้อคนหมอช่างมาตีปี่คำเอาไพหื้อหลานเหล้นแล"
อ้างอิงจาก
พับสาเคล้าเครือเจ้าแสวนหวีฟ้าสิบสองพันนา ฉบับขนามจอมชำระ (๒๕๒๔)
ประเสริฐ ณ นคร , วินัย พงศ์ศรีเพียร “ ความรู้พื้นฐานประวัติศาสตร์สุโขทัย”
กรมวิชาการ. คู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ไทย จะเรียนจะสอนกันอย่างไร?.
กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์การศาสนา,๒๕๔๓.
อ้างอิง
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=263297