หัวข้อกระทู้ 1.เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ สาขาเชียงราย มี Digital 3D ด้วยนะครับ..หัวข้อกระทู้ 2. ++++กระทู้รวมเซ็นทรัลพลาซ่าเชียงราย ++++หัวข้อกระทู้ 3. ++++ติดตาม twitter เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์++++หัวข้อกระทู้ 4. ++++เมเจอร์เชียงรายห่วยขั้นเทพจริงๆเมเจอร์"ปรับเป้ารายได้ หลังไตรมาส3โตเกินคาด
นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็ก เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะปรับเป้าหมายผลประกอบการในสิ้นปี 2553 ใหม่ และคาดว่าจะเติบโตสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากเดิมตั้งเป้าหมายเติบโต 10-15% และคาดว่าจะมีกำไรเติบโตมากว่า 550 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลดีจากยอดรายได้ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาซึ่งเติบโตเกินคาด
โดยเฉพาะจากภาพยนตร์ไทยที่เข้าฉาย ซึ่งสามารถทำรายได้ดีทุกเรื่องเช่นเรื่อง "สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก" และเรื่อง "กวน มึน โฮ" ที่มียอดขายตั๋วมากกว่า 100 ล้านบาท ประกอบกับรายได้จากการขายสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์เติบโตสูงถึง 30% รวมถึงธุรกิจโบว์ลิ่งก็สร้างรายได้ได้ดีเช่นกัน
นอกจากนี้บริษัทได้จัดโครงการ "อิงลิช ออน สกรีน" แคมป์สอนภาษาอังกฤษในโรงภาพยนตร์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตพร้อมดื่มดัชมิลล์ 4 อิน 1 และสถาบันสอนภาษาอีเอฟ เอดูเคชั่น เฟิร์ส ประจำประเทศไทย จัดกิจกรรมสอนภาษาอังกฤษ โดยใช้โรงภาพยนตร์เป็นสื่อกลาง ซึ่งได้จัดอบรมเมื่อวันที่ 19-20 ตุลาคม 2553 นี้ เพื่อให้เยาวชนไทยได้พัฒนาภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น มีนักเรียนที่สนใจเข้าร่วมอบรมมากกว่า 15,000 คน ผู้ที่ผ่านการอบรมจะได้รับสิทธิ์สอบชิงทุนศึกษาเลือกเรียนคอร์สภาษานาน 2 สัปดาห์ใน 4 ประเทศ คือ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และออสเตรเลีย รวม 10 ทุน มูลค่ารวม 2 ล้านบาท
สำหรับแผนการลงทุนปี 2554 นั้น บริษัทเตรียมใช้งบประมาณ 800 ล้านบาท แบ่งเป็น 300 ล้านบาท ปรับปรุงสาขาเดิมให้ทันสมัยมากขึ้น ส่วนงบที่เหลือใช้เปิดสาขาใหม่ในไทย โดยจังหวัดที่อยู่ระหว่างเลือกลงทุนเปิดสาขาเพิ่ม คือ เชียงใหม่ เชียงราย และพิษณุโลก ซึ่งบริษัทเดินหน้าขยายการลงทุนต่อเนื่อง เพราะมั่นใจว่าในปี 2554 ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศจะขยายตัวได้ดี
ในขณะที่บริษัทในเครือ คือ เอ็ม 39 มีแผนผลิตภาพยนตร์ไทยออกฉาย 6 เรื่อง ในปี 2554 เพิ่มขึ้นจากปี 2553 ที่ผลิต 4 เรื่อง เพราะกระแสภาพยนตร์ไทยมาแรงมาก และมองว่าภาพรวมมูลค่าภาพยนตร์ในไทยจะมีสัดส่วนจากภาพยนตร์ไทย 45-50% ที่เหลือเป็นภาพยนตร์ต่างชาติ จากเดิมสัดส่วนภาพยนตร์ไทยมีเพียง 40% เท่านั้น
ส่วนแผนลงทุนในอินเดีย ขณะนี้คณะกรรมบริษัทได้อนุมัติงบลงทุนเพิ่มแล้ว โดยจะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท อินเดีย ให้ได้ 20% จากปัจจุบันถือหุ้นอยู่ 10% คาดว่าจะใช้งบในการเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นประมาณ 400 ล้านบาท
วันที่ 20/10/2010
http://www.naewna.com/news.asp?ID=233005