ท่านคิดยังไงที่ "พงษ์เทพ " สั่งยุบโรงเรียนขนาดเล็ก1,7000 แห่งทั่วประเทศ

[beebank]

พงศ์เทพ เทพกาญจนา สั่งยุบโรงเรียนขนาดเล็ก 17,000 แห่งทั่วประเทศ เชื่อช่วยประหยัดงบ พร้อมย้ำ สพฐ. มีแนวทางรองรับการดูแลเด็กที่จำต้องย้ายโรงเรียน หากถูกโอนย้ายที่เรียนใหม่
      วันนี้ (8 พฤษภาคม) นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศเพื่อรับฟัง นโยบายเตรียมความพร้อมรับเปิดภาคเรียน 2556 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ในเบื้องต้น ตนได้มอบนโยบายให้ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศไปสำรวจโรงเรียนในพื้นที่ หากพบว่า โรงเรียนขนาดเล็กแห่งใดมีนักเรียนน้อยมาก และเป็นโรงเรียนด้อยคุณภาพก็ให้ยุบรวมกับโรงเรียนที่อยู่ใกล้เคียงว่า โรงเรียนขนาดเล็กที่ สพฐ. ตั้งเป้ายุบรวมนั้นจะเป็นโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนน้อยกว่า 60 คน ซึ่งต้องไปสำรวจว่าโรงเรียนที่อยู่ในข่ายจะยุบรวมนั้นมีจำนวนเท่าใด โดยมอบหมายให้ ผอ.เขตพื้นที่ฯ สำรวจข้อมูล ณ ปัจจุบัน โดยจะดูเป็นรายโรงเรียนไม่ได้เหมารวมทั้งหมด จากนั้นจะรวบรวมตัวเลขมาประชุมร่วมกันอีกครั้ง
      นอกจากนี้ ยังฝากให้ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาแต่ละพื้นที่เร่งทำความเข้าใจกับชุมชน เพื่อลดการต่อต้านการยุบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก โดยต้องชี้แจ้งให้ชุมชนเข้าใจว่า รัฐบาลไม่มีกำลังงบประมาณจะพัฒนาโรงเรียนทุกแห่ง และไม่สามารถนำงบประมาณจากเงินภาษีมาดูแลทุกโรงเรียนได้เท่าเทียมกัน
      ขณะที่ นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า โรงเรียนขนาดเล็กที่ สพฐ. ตั้งเป้ายุบรวมนั้นจะเป็น โรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนน้อยกว่า 60 คน ซึ่งก็ต้องไปสำรวจว่าโรงเรียนที่อยู่ในข่ายจะยุบได้ทันทีนั้นมีจำนวนเท่าใด สำหรับข้อมูลโรงเรียนขนาดเล็กที่เข้าข่ายว่าอาจถูกยุบ มีรายละเอียด ดังนี้
      โรงเรียนขนาดเล็กที่มีจำนวนนักเรียนน้อยกว่า 120 คน มีทั้งหมด 14,816
      โรงเรียนขนาดเล็กที่มีจำนวนนักเรียนน้อยกว่า 60 คน มีทั้งหมด 8,962 โรง
      โรงเรียนขนาดเล็กที่มีจำนวนนักเรียน 41-60 คน จำนวน 3,163 โรง
      โรงเรียนขนาดเล็กที่มีจำนวนนักเรียน 21-40 คน จำนวน 2,090 โรง
      โรงเรียนขนาดเล็กที่มีจำนวนนักเรียนไม่เกิน 20 คน จำนวน 709 โรง

[bunyad panin]

เมื่อสังคมต้องเปลี่ยนแปลงเราก็ควรจะยอมรับ เพื่อเตรียมรับกับสิ่งใหม่ ๆ

[cowboy101]

เคยได้ยินว่า ครูหนึ่งคนต่อนักเรียนยี่สิบห้าคน

ถ้าในโรงเรียนมีนักเรียนหนึ่งร้อยคน  ก็แสดงว่ามีครูแค่ ห้าคน (ยังไม่ครบ ป.1-6 เลย)

แต่ก็ได้ยินมาอีกว่า ครูขาด  ครูไม่พอ  ก็แสดงว่าปัจจุบัน อัตราส่วนครูต่อนักเรียน
มันต้องไม่ใช่ หนึ่งต่อยี่สิบห้าแล้ว ส่วนเท่าไหร่นัน ผมไม่รู้

เพื่อคุณภาพของนักเรียน  ลูกหลานเรา  
ผมเห็นด้วยนะครับ

[wiichy]

ตอบในแง่ของคนเรียนครูน่ะครับ

ด้านบุคลากร
1. โรงเรียนแต่ล่ะโรงต้องมี ผอ. โรงเรียนเล็กๆร้อยกว่าคนสองโรง ก็ ผอ. สองคน แต่ ผอ. 1 คน มีศักยภาพในการบริหารบุคลากรและนักเรียนได้มากกว่าร้อย การยุบโรงเรียนมารวมกัน จะประหยัดตำแหน่งบุคลากร และประหยัดเงินเดือน+เงินค่าวิทยฐานะไปอีกหลายหมื่นบาทต่อเดือน คือการประหยัดงบประมาณแผ่นดิน
2. โรงเรียนบางโรงไม่มีครูที่สอนตรงวิชาเอก การยุบโรงเรียนจะเพิ่มโอกาสของครูผู้สอนให้ใช้ความสามารถได้อย่างเต็มที่

ด้านกายภาพ
1. โรงเรียนบางโรงมีอาคารสถานที่พอสำหรับนักเรียนจำนวน 500 คน แต่ใช้อยู่ 100 กว่าคน การยุบรวมจะช่วยประหยัดงบในการก่อสร้าง ทำให้ระบบสาธารณูปโภค ได้ใช้อย่างเต็มศักยภาพ
2. ด้านสื่อ อุปกรณ์สอน โปรเจคเตอร์ คอมฯ 1 วันสามารถบริการนักเรียนได้หลายร้อย แต่โรงเรียนเล็กๆใช้สิ่งเหล่านี้ได้ไม่เต็มศักยภาพ การรวมกันจะช่วยประหยัดงบประมาณแผ่นดินในการจัดซื้อจัดจ้าง

เป็นต้น

ส่วนข้อเสียเดี๋ยวมาเล่าครับ

[zombie01]

"พงศ์เทพ " สั่งยุบร.ร.ขนาดเล็ก14,816 แห่งทั่วประเทศ

อ่านต่อ: http://www.kruwandee.com/news-id6410.html#ixzz2SiFieoCH

รร.รามาการ์เด้น กรุงเทพฯ - นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังประชุมผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศเพื่อรับฟังนโยบายเตรียมความพร้อมรับเปิดภาคเรียน 2556 ว่า ได้มอบนโยบายเกี่ยวกับโรงเรียนขนาดเล็กให้ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา นำไปดำเนินการ ถ้าโรงเรียนขนาดเล็กแห่งใดอยู่ในข่ายไม่จำเป็นต้องคงอยู่ ก็ให้ยุบรวมโรงเรียนขนาดเล็กแห่งนั้น โดย ร.ร.ขนาดเล็กที่อยู่ในข่ายควรยุบรวมนั้น จะเป็นร.ร.ที่มีจำนวนนักเรียนน้อยมาก เป็นร.ร.ที่ด้อยคุณภาพและมีโรงเรียนใกล้เคียงที่มีคุณภาพรองรับ

 ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ร.ร.ขนาดเล็กที่ สพฐ.ตั้งเป้ายุบรวมนั้น จะเป็น ร.ร.ที่มีจำนวนนักเรียนน้อยกว่า 60 คน ซึ่งก็ต้องไปสำรวจว่า ร.ร.ที่อยู่ในข่ายจะยุบได้ทันทีนั้น มีจำนวนเท่าใด
 
อนึ่ง จำนวนร.ร.ขนาดเล็กที่มีนักเรียนน้อยกว่า 120 คน มีทั้งหมด 14,816 โรง โดยมีโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนน้อยกว่า 60 คน มีทั้งหมด 5,962 โรง แยกเป็นโรงเรียนที่มีนักเรียนไม่เกิน 20 คน จำนวน 709 โรง ,มีนักเรียนตั้งแต่ 21-40 คน จำนวน 2,090 โรง , นักเรียน 41-60 คน จำนวน 3,163 โรง

อ่านต่อ: http://www.kruwandee.com/news-id6410.html#ixzz2SiG4rjw7

[mazo]

สำหรับคุณครูอย่างผมแล้ว...ขอต่อต้านความคิดการยุบโรงเรียนขนาดเล็กอย่างเต็มที่ เพราะ
-กว่าชาวบ้านรุ่นปู่ รุ่นพ่อ เขาก่อตั้งโรงเรียนมาแล้วรัฐบาลรับรองเพื่อให้ลูกหลานของตนเองได้รับการสั่งสอน ก็แทบลำบากมาก
-ถ้ามองในแง่ความสิ้นเปลืองของบุคลากรต่อเงินงบประมาณ...ขอบอกว่าคิดผิดครับ...การศึกษาไม่ใช่การลงทุน  แต่การศึกษาต้องนำเงินมาสรรค์สร้างให้เด็กไทยมีความรู้ให้ทัดเทียมหรือดีกว่าชาติอื่นๆ
-สิ่งที่ทำให้โรงเรียนขนาดเล็กขาดคุณภาพก็คือ
   -บุคลาการครูมีไม่ครบทุกสาระวิชา ทำให้สอนความรู้เด็กได้ไม่เหมือนครูที่จบวิชาเอกตรง
   -เงินบริหารไม่เพียงพอเพราะต้องนำจำนวนนักเรียนมาคิดค่ารายหัว(งบประมาณต่อ1คน) โรงเรียนน้อยก็ได้น้อย โรงเรียนใหญ่ก็ได้เยอะ
   -ครูไม่มีคุณภาพ หรือนิสัยแย่ๆ มักจะได้ย้ายมาอยู่โรงเรียนขนาดเล็ก เช่น ครูขี้เหล้า ครูติดพนัน เป็นต้น กรณีนี้มีจริงๆ แต่ใช่ว่าครูที่อยู่โรงเรียนเล็กๆ จะเป็นแบบนี้ทุกท่าน(ต้องขออภัยด้วย)
-หากยุบโรงเรียนขนาดเล็กจริงๆ ชาวบ้านต้องเดือดร้อนในการไปส่งลูกไปโรงเรียนต่างหมู่บ้าน อาจเกิดอุบัติเหตุได้ หรือแม้กระทั่งต้องใช้เงินเพิ่มมากขึ้นการดูแลลูกตนเอง
-ชาวบ้านจะขาดความสามัคคีกันเพราะว่า ที่ผ่านมาโรงเรียนเป็นศูนย์กลางกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถเชื่อมความสัมพันธ์กันในชุมชน

ปล.ยังมีอีกครับ....แต่นึกไม่ออก

[isuzuman]

เด็กๆต้องเดินทางไปเรียนไกลบ้านมากขึ้น ค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองย่อมสูงตามไป แบบนี้จะดีเหรอครับ น่าห่วงทั้งเรื่องทุนทรัพย์ การเดินทาง ผมว่าแก้ปัญหาไม่ถูกจุดนะครับ   

[[T][o][d]SaPhon]

ผมว่าดีออก ยุบให้เหลือตำบล ละ 1โรงเรียนไปเลย จะได้มีงบที่กระจัดกระจายมาลงที่ๆเดียวแล้วพัฒนาบึ้มไปเลย  และการเป็นโรงเรียนใหญ่สอนให้เด็กพบปะผู้คนหลากหลาย เรียนรู้เยอะขึ้น ครูก็จะได้รวมๆกัน สามารถที่จะแบ่งเบาภาระกันได้ และแก้ปัญหาเด็กทะเลาะวิวาทกัน (เด็กสมัยก่อน จะไม่ถูกกับเด็กอีกหมู่บ้านเพราะมันไม่รู็จักกันสุดท้ายทะเลาะวิวาท) แต่้ถ้าเอามารวมๆกันตั้งแต่เด็กๆก็จะเข้ากันได้ดี

ส่วนเรื่องการเดินทาง ก็ให้มีรถโรงเรียน หัวตำบล หางตำบล ให้เพียงพอ ไม่มีตำบลไหนหรอกมั้งที่ ไม่มีจุดศูนย์กลาง และจุดศูนย์กลางห่างจากโรงเรียน เกิน 25 กิโลเมตร   สมัยผมเรียนอนุบาลผมต้องตื่นตี 5 เพื่อทันให้ขึ้นรถไปโรงเรียนในเมือง โดยเพื่อนคนอื่นๆเรียนโรงเรียนในตำบลในหมู่บ้านตื่น 7 โมงยังทัน แล้วที่ว่าอันตราย ผมว่าดีกว่าให้เด็กซ้อนมอไซค์พ่อแม่ในชั่วโมงเร่งรีบ หรือปั่นจักรยานไปโรงเรียนเองนะครับ

ลองคิดดู หลานผม เรียนหนังสือในโรงเรียนหมู่บ้าน ทั้งห้องมี 3 คน  เรียนสามคน กินสามคน รู้จักกันสามคน เด็กบางคนสอบได้ที๋โหล่ก็ไม่รู้สึกอะไรเพราะนักเรียนมีน้อย ทำให้เด็กมีความกระตือรือร้นน้อยลง แล้วเด็กจะรู้จักเข้าสังคมตั้งแต่เล็กๆได้อย่างไร  สมัยนี้ความรู้อย่างเดียวไม่พอหรอก ต้องรู้จักการเข้าสังคมด้วยน่ะครับ โตมาจะได้ค้าขาย ทำมาหากินคล่อง

ส่วนเรื่องการเดินทางที่หลายคนห่วง ก็เอาเงินส่วนที่ประหยัดจากการยุบมา บริหารเรื่องรถ ผมว่ามันมีข้อดีมากกว่าข้อเสียน่ะ

เพียงแต่คนเราไม่ชอบยอมเสีย จะเอาแต่ได้ แต่ความเป้นจริงทุกอย่างมีได้ต้องมีเสีย เป็นสัจธรรม   แต่ถ้าเขาจะยุบแต่ไม่บูรณาการให้มันดีๆ ก็ไม่อยากให้ยุบเหมือนกัน

[- kann]

สมมุติว่าทั้งโรงเรียน (โรงเรียนขนาดเล็ก)
มี ผอ. 1 คน เงินเดือน 50,000 ฿
ครู (คศ.3) 3 คน เงินเดือน 30,000++ ฿ (รวม 90,000 ฿)
นักการ 1 คน เงินเดือน 10,000++ ฿
รวมกัน 150,000++ ฿ / เดือน
ถ้า 1 ปี 1,800,000++ ฿
(ผมคิดตัวเลขกลมๆ นะครับ ของจริงมันมากกว่านี้)
ถ้าเอาตัวเลข 1,800,000 / โรงเรียน / ปี x จำนวนโรงเรียนที่จะยุบรวม 17,000 โรงเรียน
จะเป็นเงิน = 30,600,000,000 (สามหมื่นหกร้อยล้านบาท) / ปี
เงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เยอะมากนะครับ
ถ้าเรานำเงินที่ประหยัดได้มาทำให้เกิดประโยชน์อย่างอื่นให้กับเด็กนักเรียน ผมคิดว่าน่าจะดีกว่านี้
ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวครับ แต่คงเป็นไปได้ยากมากๆ เพราะพลังมวลชนของครูนั้นมากสุดๆ

 

[tor5101]

ผมว่าดีออก ยุบให้เหลือตำบล ละ 1โรงเรียนไปเลย จะได้มีงบที่กระจัดกระจายมาลงที่ๆเดียวแล้วพัฒนาบึ้มไปเลย  และการเป็นโรงเรียนใหญ่สอนให้เด็กพบปะผู้คนหลากหลาย เรียนรู้เยอะขึ้น ครูก็จะได้รวมๆกัน สามารถที่จะแบ่งเบาภาระกันได้ และแก้ปัญหาเด็กทะเลาะวิวาทกัน (เด็กสมัยก่อน จะไม่ถูกกับเด็กอีกหมู่บ้านเพราะมันไม่รู็จักกันสุดท้ายทะเลาะวิวาท) แต่้ถ้าเอามารวมๆกันตั้งแต่เด็กๆก็จะเข้ากันได้ดี

ส่วนเรื่องการเดินทาง ก็ให้มีรถโรงเรียน หัวตำบล หางตำบล ให้เพียงพอ ไม่มีตำบลไหนหรอกมั้งที่ ไม่มีจุดศูนย์กลาง และจุดศูนย์กลางห่างจากโรงเรียน เกิน 25 กิโลเมตร   สมัยผมเรียนอนุบาลผมต้องตื่นตี 5 เพื่อทันให้ขึ้นรถไปโรงเรียนในเมือง โดยเพื่อนคนอื่นๆเรียนโรงเรียนในตำบลในหมู่บ้านตื่น 7 โมงยังทัน แล้วที่ว่าอันตราย ผมว่าดีกว่าให้เด็กซ้อนมอไซค์พ่อแม่ในชั่วโมงเร่งรีบ หรือปั่นจักรยานไปโรงเรียนเองนะครับ

ลองคิดดู หลานผม เรียนหนังสือในโรงเรียนหมู่บ้าน ทั้งห้องมี 3 คน  เรียนสามคน กินสามคน รู้จักกันสามคน เด็กบางคนสอบได้ที๋โหล่ก็ไม่รู้สึกอะไรเพราะนักเรียนมีน้อย ทำให้เด็กมีความกระตือรือร้นน้อยลง แล้วเด็กจะรู้จักเข้าสังคมตั้งแต่เล็กๆได้อย่างไร  สมัยนี้ความรู้อย่างเดียวไม่พอหรอก ต้องรู้จักการเข้าสังคมด้วยน่ะครับ โตมาจะได้ค้าขาย ทำมาหากินคล่อง

ส่วนเรื่องการเดินทางที่หลายคนห่วง ก็เอาเงินส่วนที่ประหยัดจากการยุบมา บริหารเรื่องรถ ผมว่ามันมีข้อดีมากกว่าข้อเสียน่ะ

เพียงแต่คนเราไม่ชอบยอมเสีย จะเอาแต่ได้ แต่ความเป้นจริงทุกอย่างมีได้ต้องมีเสีย เป็นสัจธรรม

ใช่ครับ

[jaroen]

หันตวยคับ มันยุคสมัยใหม่คับ ถ้าถามพ่อแม่ละ่อ่อนว่าลูกเฮียนตี้ใหน ถ้าบอกว่าโฮงเฮียนหล่ายห้วย พ่อกะแม่กะอายเปิ้นนะคับ แต่ถ้าบอกว่าเฮียน สามัคคี ดำรง ท6 จะอี้ พ่อแม่ได้หน้าขนาด หมายถึงพ่อแม่มีปัญญาเอาเข้าได้คับ หันในหมู่บ้านลูกสอบติด ท6 ฉลองปานยังกับมีปอยคับ โฮงเฮียนบ้านนอกเฮาก็เลย ฮ้าง บ่อมีนักเฮียนมาเฮียน นักเฮียนก็น้อยลงไปติ๊กๆ จนยุบไปในที่สุด การจัดการดูแลฮักษากะยาก ไปผ่อเต๊อะคับ สนามกีฬาเป็นตี่เลี้ยงงัวเลี้ยงควาย วัยรุ่นค่ำมือเข้าไปมั่วสุม โฮงเฮียนจะอี้จะยุบก็ยุบคับ แล้วหื้อหมู่บ้านนั้นเข้าไปดูแลฮักษาทำประโยชน์ไว้แก่ส่วนรวมเหีย

[natdanai]

ผมว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย ท่านพงษ์เทพ เทพกาญจนา เป็นผู้อนุเคราะห์บริจาคเงินสร้างโรงเรียน บ้านด้ายเทพกาญจนาอุปถัมภ์ เป็นจำนวนมาก ท่านคงคิดว่าน่าจะมีข้อดีมากกว่าข้อดีมากกว่าข้อเสีย จึงยอมเสียเงินที่บริจาคไปเพื่อสิ่งที่ดีกว่า แต่ทว่า โรงเรียนขนาดเล็กที่ถูกยุบ คนฐานะยากจนที่ไม่สามารถส่งลูกไปเรียนที่ไกลๆและค่าเทอมที่เยอะขึ้นได้ เด็กก็ต้องเป็นคนด้อยโอกาสทางการศึกษา ไหนจะสิ่งปลูกสร้างของแต่โรงเรียนที่มีจำนวนมากก็ต้องปล่อยทิ้งร้างไว้ อีก   รัฐบาลเปิ้นจะเยี้ยะหยังประชาชนคงจะเป็นเสียงเล็ก ๆ ถ้าไม่ลุกขึ้นมาเอาจริง ๆ จัง ๆ ซักที

[duangsunny]

ในฐานะที่ผมเป็นครูเห็นด้วยอย่างยิ่งกับนโยบายนี้ เพราะโรงเรียนที่มีนักเรียนน้อย ครูก็จะมีน้อยตามจำนวนนักเรียน ครูไม่ครบตามจำนวนชั้นเรียนครู1คนสอน2-3ชั้น แล้วจะเอาคุณภาพมาจากไหน นักเรียนน้อย รายหัวก็ได้น้อย ...ผมเคยอยู่โรงเรียนขนาดเล็กนักเรียน50กว่าคน มันเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวด งบประมาณหลายๆอย่างจะถูกตัดจะไม่ได้รับเหมือนโรงเรียนใหญ่...เด็กนักเรียนเสียโอกาสหลายหลายๆด้าน โรงเรียนอื่นที่ในกลุ่มเดียวกันมีคอมพิวเตอร์ให้เรียน10เครื่อง20เครื่อง แต่โรงเรียนเราไม่มีแม้แต่เครื่องเดียว (ประมาณปี พ.ศ.2543 ราคาช่วงนั้น28,000-30,000บาทต่อเครื่อง )ผมสงสารนักเรียนมากที่ไม่มีโอกาสได้เรียนเหมือนโรงเรียนอื่น...การยุบเรียนรวมจะเป็นผลดีมากกว่าเสียแน่นอน ถนนหนทางปัจจุบันก็สะดวก มีค่ารถให้ด้วย ยกเว้นโรงเรียนบนดอยที่ควรพิจารณาเป็นรายๆไป

[defco324]

ในฐานะที่ผมเป็นครูเห็นด้วยอย่างยิ่งกับนโยบายนี้ เพราะโรงเรียนที่มีนักเรียนน้อย ครูก็จะมีน้อยตามจำนวนนักเรียน ครูไม่ครบตามจำนวนชั้นเรียนครู1คนสอน2-3ชั้น แล้วจะเอาคุณภาพมาจากไหน นักเรียนน้อย รายหัวก็ได้น้อย ...ผมเคยอยู่โรงเรียนขนาดเล็กนักเรียน50กว่าคน มันเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวด งบประมาณหลายๆอย่างจะถูกตัดจะไม่ได้รับเหมือนโรงเรียนใหญ่...เด็กนักเรียนเสียโอกาสหลายหลายๆด้าน โรงเรียนอื่นที่ในกลุ่มเดียวกันมีคอมพิวเตอร์ให้เรียน10เครื่อง20เครื่อง แต่โรงเรียนเราไม่มีแม้แต่เครื่องเดียว (ประมาณปี พ.ศ.2543 ราคาช่วงนั้น28,000-30,000บาทต่อเครื่อง )ผมสงสารนักเรียนมากที่ไม่มีโอกาสได้เรียนเหมือนโรงเรียนอื่น...การยุบเรียนรวมจะเป็นผลดีมากกว่าเสียแน่นอน ถนนหนทางปัจจุบันก็สะดวก มีค่ารถให้ด้วย ยกเว้นโรงเรียนบนดอยที่ควรพิจารณาเป็นรายๆไป

+1000000000000000000000000

[Nuttakarn K.]

ในฐานะที่ผมเป็นครูเห็นด้วยอย่างยิ่งกับนโยบายนี้ เพราะโรงเรียนที่มีนักเรียนน้อย ครูก็จะมีน้อยตามจำนวนนักเรียน ครูไม่ครบตามจำนวนชั้นเรียนครู1คนสอน2-3ชั้น แล้วจะเอาคุณภาพมาจากไหน นักเรียนน้อย รายหัวก็ได้น้อย ...ผมเคยอยู่โรงเรียนขนาดเล็กนักเรียน50กว่าคน มันเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวด งบประมาณหลายๆอย่างจะถูกตัดจะไม่ได้รับเหมือนโรงเรียนใหญ่...เด็กนักเรียนเสียโอกาสหลายหลายๆด้าน โรงเรียนอื่นที่ในกลุ่มเดียวกันมีคอมพิวเตอร์ให้เรียน10เครื่อง20เครื่อง แต่โรงเรียนเราไม่มีแม้แต่เครื่องเดียว (ประมาณปี พ.ศ.2543 ราคาช่วงนั้น28,000-30,000บาทต่อเครื่อง )ผมสงสารนักเรียนมากที่ไม่มีโอกาสได้เรียนเหมือนโรงเรียนอื่น...การยุบเรียนรวมจะเป็นผลดีมากกว่าเสียแน่นอน ถนนหนทางปัจจุบันก็สะดวก มีค่ารถให้ด้วย ยกเว้นโรงเรียนบนดอยที่ควรพิจารณาเป็นรายๆไป

+1000000000000000000000000

+10000000000000000000000000000000000

[biki073]

เป็นอีกคนที่ทำงานด้านการศึกษา มองเห็นว่าไม่ควรยุบ

[amoxys]

[- kann]

 

[inta]

ตอนเด็กๆเรียนที่ บ้านดู่   มีเด็กๆมาเรียนจากหลายๆหมู่บ้าน  บางคนปั่นจักรยานมาจากห้วยปู   บ้านโป่ง
ทำให้เรามีเพื่อนเยอะ   ไปที่หมู่บ้านไหนก็มีแต่เพื่อน    ครูก็มีหลายท่าน   บางท่านสอนวิทย์   บางท่านสอนอังกฤษ     บางท่านสอน เลข     เขาจัดสรรตามความถนัดของแต่ละท่าน   แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้เป็นไง

[tfgc2007]

เห็นด้วย 100 % หื้อจัดตั้ง 1 ตำบล 1 โรงเรียน จัดสอนเป็นโรงเรียน 2 หรือ 3 ภาษา ไปเลย คัด ผอ.ระดับหัวกระทิ ไปบริหาร คัดครูเก่งๆ ไปสอน มีการวัดผล ประเมินการบริหาร การสอน ผลการสอบเรียนต่อของเด็ก ทุกปี เอาเป็นผลงานของทีมบริหาร รร. เหล่านี้ ใครดีหื้ออยู่ต่อ บ่าดีไล่ออก ละอ่อนจะบ่าได้มาเฮียน ในเมืองมากมายแบบนี้ หามาตรการลด ครูที่เอาดีแต่สอนพิเศษ ลงเหียผ้อง