เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 17 เมษายน 2024, 03:09:19
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  บอร์ดกลุ่มชมรม
| |-+  ชมรมคนรักรถ
| | |-+  เปิดไฟตัดหมอกเรื่อยเปื่อย (ไม่รู้ฟ้า) โดนแล้ว
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 พิมพ์
ผู้เขียน เปิดไฟตัดหมอกเรื่อยเปื่อย (ไม่รู้ฟ้า) โดนแล้ว  (อ่าน 2450 ครั้ง)
a-morn
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 370



« เมื่อ: วันที่ 01 พฤษภาคม 2013, 14:30:05 »

จับแล้วครับ สมควรโดน สมเหตุสมผลดี กฎหมายออกตั้งนานแล้ว ประชาสัมพันธ์ รณรงค์กันนานสำหรับพวกไม่รู้ฟ้า มีกี่ดวงเปิดหมด ... มันเป็นอันตรายต่อรถที่สวนมา ไฟแสบตา ให้เปิดได้เฉพาะช่วงฝนตกหนัก หมอกจัด ทัศนวิสัยในการมองเห็นแย่ ไม่อย่างนัืนเจอค่าปรับ 500 บาท
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=429964


* 923338_537843899595178_730935842_n.jpg (64.96 KB, 511x560 - ดู 1293 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
adadsoo
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 248



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 01 พฤษภาคม 2013, 14:44:31 »

พวกที่อยู่ในสังคม Online 99.99% จะรู้เรื่องนี้ดี แสดงว่าผู้ที่ยังเปิดไฟตัดหมอกโดยบ่อฮู้ฟ้า เป็นพวกใช้ Internet ไม่เป็น หรืออีกอย่างอาจจะปิดไฟตัดหมอกไม่เป็นก็ได้ หาที่ปิดไม่เจอ อิอิ แบบว่าซื้อรถมาแล้วไม่ยอมอ่านคู่มือการใช้รถ ซึ่งในคู่มือจะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับการใช้รถทุกอย่างรวมถึงไฟตัดหมอกด้วย เปิดตรงไหน ปิดตรงไหน ควารเปิดเมื่อใด อยากให้จับมากรำคาญจริงๆ
IP : บันทึกการเข้า
ขี้เหล้าอาวุโส
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,062



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 01 พฤษภาคม 2013, 14:46:45 »

สมควรจับมากครับ
IP : บันทึกการเข้า

ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
My_Boss
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,788


ผู้ที่ปองร้ายต่อมิตร ถือเป็นผู้ที่ทราม


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 01 พฤษภาคม 2013, 14:47:46 »

พวกที่อยู่ในสังคม Online 99.99% จะรู้เรื่องนี้ดี แสดงว่าผู้ที่ยังเปิดไฟตัดหมอกโดยบ่อฮู้ฟ้า เป็นพวกใช้ Internet ไม่เป็น หรืออีกอย่างอาจจะปิดไฟตัดหมอกไม่เป็นก็ได้ หาที่ปิดไม่เจอ อิอิ แบบว่าซื้อรถมาแล้วไม่ยอมอ่านคู่มือการใช้รถ ซึ่งในคู่มือจะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับการใช้รถทุกอย่างรวมถึงไฟตัดหมอกด้วย เปิดตรงไหน ปิดตรงไหน ควารเปิดเมื่อใด อยากให้จับมากรำคาญจริงๆ

ตวย20 เจ๋ง
IP : บันทึกการเข้า
LEICA M6 +35mm f2
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 103



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 01 พฤษภาคม 2013, 16:10:21 »

ใบสั่งตั่งแต่ 30ตค. 53 แล้ว
IP : บันทึกการเข้า
NeVilas เ น วิ ล า ส
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 357



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 01 พฤษภาคม 2013, 16:18:15 »

ใบสั่งตั่งแต่ 30ตค. 53 แล้ว

+10000000
IP : บันทึกการเข้า
KATAI-ZAA
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330


How about you...


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 01 พฤษภาคม 2013, 16:38:42 »

สมควรโดน จะเปิดอะไรนักหนาฝนก็ไม่ตก หมอกก็ไม่มี มีแต่แดดแซ่แล่ เหนรถสวนมาก็ยังไม่ปิดอีก ขอให้มันชนเสาไฟฟ้าตาย โทษฐานที่ทำให้คนอื่นแสบตา!!
IP : บันทึกการเข้า

แกง เขียว หวาน...
[T][o][d]SaPhon
My name's Todsaphon
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,064

พื้นที่ส่วนบุคคล


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 01 พฤษภาคม 2013, 20:00:57 »

เมื่อวานซืนผมเจอรถ กทม. ฟอจูนเนอร์ เปิดทั้งหน้าทั้งหลัง ผมตามตูดมัน ผมต้องหรี่ตาขับ ผมม๊าบไฟสูงใส่ไปซาวรอบ มันก็ไม่สนใจ ผมเลยแซง แล้วผมก็เปิดไฟตัดหมอกหลังผม กระพริบๆ อีกแล้วให้มันแซง มันก็ไม่ปิด  วันนั้นถ้ามีก๋ง จะยอกหลอดไฟมันซักกำลุ๊ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
My_Boss
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,788


ผู้ที่ปองร้ายต่อมิตร ถือเป็นผู้ที่ทราม


« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 01 พฤษภาคม 2013, 20:10:55 »

ใบสั่งตั่งแต่ 30ตค. 53 แล้ว

+10000000

คือเรื่องนี้มันถูกแชร์มานานแล้วครับ ปัจจุบันก็ยังเปิดกันแบบไม่เกรงใจคันอื่นเค้าบ้างเลย
เลยดันกระทู้ให้รู้กันหน่อยว่า ชาวโลกออนไลน์ควรมีส่วนร่วมในการที่ทำให้สังคมน่าอยู่มากขึ้น
ไม่ใช่ว่ารูมีตังติดแม่งรูก็เปิดทั้งวันทั้งคืน  รวมทั้งไฟหลากสีที่ติดกันด้วยนะครับ ว่ามันผิดกฏหมาย
และเป็นการรบกวนผู้ใช้ถนนด้วยกัน  โดยผู้ที่รู้แล้วก็ควรร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อสังคมบนท้องถนนที่น่าขับมากขึ้นครับ
IP : บันทึกการเข้า
si10000
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 129



« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 01 พฤษภาคม 2013, 20:42:26 »

 ยิงฟันยิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 07 กรกฎาคม 2017, 21:01:54 โดย si10000 » IP : บันทึกการเข้า
mu-oun
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 400


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 01 พฤษภาคม 2013, 21:22:54 »

เหตุเกิดปี53 เวลาเกือบตีหนึ่ง ช่วงเดือนตุลาคมซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาว ทัศนวิสัยอาจจะมองไม่เห็นชัดก็เป็นได้ ประเทศไทยครับอะไรๆก็เป็นได้ เลยเปิดไฟตัดหมอกเรื่อยเปื่อย(ไม่รู้ฟ้า)โดนแล้ว แต่ถ้าพี่วิ่งสายเชียงใหม่-แม่สรวย-แม่ขะจาน-ดอยสะเก็ด-เชียงราย ตอนหน้าหนาวช่วงเวลาตีหนึ่ง พี่เปิดไฟสูงกี่ครั้งครับ ถ้ารถพี่ไม่มีไฟตัดหมอก
ถ้าเป็นอย่างที่ว่านี้(เชียงใหม่-เชียงราย หน้าหนาว เวลาตีหนึ่ง) ก้อสมควรเปิด
แต่นี่มันกรุงเทพ ฯ ย่านเจริญกรุง ไฟถนนสว่างโร่ทั้งคืน ฮืมฮืมฮืม?
อยากให้ ตร.เชียงราย จับปรับมั่งจังเลย รับรองได้ค่าปรับมากกว่าจับมอไซด์หลายเท่าตัว  โดยเฉพาะวีโก้  และฮอนด่า ซิตี้ ไฟตัดหมอกแรงจ้ากว่าเพื่อน เจอทีไรผมสรรเสริญบุพการีคนขับตลอดเลย ไม่รู้เป็นไร  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
โซดาน้ำ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 817


ขอโทษ..และขอบคุณ..ทุกอย่างที่ได้ผ่านเข้ามา


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 02 พฤษภาคม 2013, 10:16:58 »

ที่เห็นบ่อยๆ จะเป็นรถราคาแพงๆ
IP : บันทึกการเข้า

ความอดทนของแต่ละคนมีขีดจำกัด..
หากรับไม่ไหว....ก็ปล่อยมันไป
...แล้วใช้ชีวิตที่เหลืออย่างคุ้มค่า...
Maxza555
ไม่รู้จะขอบคุณยังไงดี ^^
สมาชิกลงทะเบียน
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11,847


Do you belive in love ?


« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 02 พฤษภาคม 2013, 11:30:36 »

เหตุผลที่ว่าทำไมรถรุ่นใหม่ๆถึงมี Daytime Running Light   หรือ ไฟ daylight อันเนื่องมาจากกฎหมายที่ต่างประเทศ อันได้แก่ สหรัฐอเมริกา ได้ออกกฎหมายให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องติดไฟที่ว่านี้ เพื่อการมองเห็นของผู้สัญจรบนถนนเส้นเดียวกันอย่างชัดเจนครับ อีกทั้งยังสามารถช่วยลดอุบัตเหตุได้อีกด้วย

สำหรับประเทศแถบยุโรปไกล้เคียงไม่แน่ใจว่ามีกฎหมายดังกล่าวบังคับหรือไม่ครับ แต่คิดว่าน่าจะมีเช่นกัน เช่น เยอรมนี เขามีกฎหมายว่ารถทุกคันต้องเปิดไฟวิ่งตอนกลางวันครับ ไหนๆก็ต้องเปิดไฟอยู่แล้ว บริษัทรถก็เลยทำเป็น daylight ออกมาซะเลย

ส่วนอเมริกา รถทุกคันมี daylight อยู่แล้วครับ ส่วนใหญ่สตาร์ทรถปุ๊บก็ติดเลยครับ บางคันก็เป็น LED หรือเป็นหลอดไฟธรรมดาครับ เพื่อให้สังเกตุง่ายในเวลาขับหลางวัน หรือเรียกง่ายๆ ว่าไฟใช้ไว้ขับตอนกลางวันครับ

ดังนั้น แยกแยะให้ออกนะครับอันไหน ไฟตัดหมอกที่เป็นหลอดฮาโลเจน และอันไหนเป็น ไฟเดย์ไลท์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 02 พฤษภาคม 2013, 11:34:47 โดย Maxza555 » IP : บันทึกการเข้า

Maxza555
ไม่รู้จะขอบคุณยังไงดี ^^
สมาชิกลงทะเบียน
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11,847


Do you belive in love ?


« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 02 พฤษภาคม 2013, 11:32:38 »

และมีบทความหนึ่งที่อยากให้ทำความเข้าใจ

เป็นไฟที่มักจะเรียกกันสั้น ๆ ซึ่งชื่อเต็มจริง ๆ คือ Daytime Running Light  หรือจะเขียนย่อ ๆ คือ DRL ไฟ DRL นั้นเป็นไฟที่เริ่มมีความนิยมใช้กันมากขึ้น อาจจะเพราะความสวยงาม แต่จริง ๆ แล้ววัตถุประสงค์ของไฟ DRL นั้น
ถ้าแปลกันตามตัวคือ ไฟที่เปิดใช้งานในเวลากลางวัน ซึ่งไฟลักษณะดังกล่าวนั้น จะช่วยแจ้ง หรือเตือนให้รถคันอื่น ๆ จะเห็นรถของเราได้ง่ายขึ้นจากไฟ DRL โดยไฟ DRL นั้นจะต้องมีความความสว่างมากเพียงพอที่จะทำให้รถคันอื่น ๆ เห็น
และต้องเปิดตลอดเวลาในช่วงเวลากลางวัน แต่เดิมนั้นไฟ DRL จะเป็นไฟอะไรก็ได้ ที่จะช่วยให้รถคันอื่นเห็นรถของเราได้ง่ายขึ้น แต่ต้องไม่สร้างความรำคาญ หรือรบกวนสายตาของรถคันอื่น ๆ จึงนิยมใช้เป็นไฟสีเหลือง(อัมพัน)
 แต่ด้วยความสวยงามและความคุ้มค่าทั้งเรื่องความสว่างและกินพลังงานจึงนิยมใช้เป็นไฟ LED ที่กินไฟน้อยแต่ให้ความสว่างได้สูง ในต่างประเทศทางฝั่งยุโรปนั้น
ได้ออกเป็นกฎหมายให้รถทุกคันติดตั้งไฟ DRL เพื่อช่วยในเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น เช่นเดี่ยวกับรถมอเตอร์ไซค์ที่ให้เปิดไฟตลอดทั่งกลางวัน และกลางคืนเช่นกัน

สำหรับรถยนต์ที่ออกแบบมาให้มีระบบไฟ DRL แล้วนั้น รถยนต์จะมีไฟที่มีสวิทช์เปิดอัตโนมัติ เมื่อเครื่องยนต์ถูกสตาร์ท โดยในช่วงกลางคืน ผู้ขับจะต้องเปิดสวิทช์ไฟขับด้วยมือ และระบบ DRL จะปิดเองโดยอัตโนมัติ
เนื่องจากเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นการรบกวน ผู้ขับรถคันอื่น ๆ เพราะไฟ DRL จะเป็นไฟที่มีความสว่างสูงจึงทำให้แยงตาคันอื่นได้ หากใช้ในเวลากลางคืนหรือ ในที่ร่ม
ประโยชน์หลัก ๆ ของการใช้ไฟ DRL คือ สามารถเพิ่มทัศนวิสัยการมองเห็นแก่รถคันอื่น   และช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดภาพลวงตา และภาพสะท้อน (Highway Mirage) แม้แต่การวิ่งใต้เงาร่มไม้
 หรือลอดใต้อุโมงค์ DRL ก็จะช่วยให้รถยนต์ที่วิ่งสวนมาสามารถมองเห็นกันได้ในระยะไกล


ที่มา  http://tepthecruze.blogspot.com/2012/12/daytime-running-light.html#!/2012/12/daytime-running-light.html
IP : บันทึกการเข้า

My_Boss
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,788


ผู้ที่ปองร้ายต่อมิตร ถือเป็นผู้ที่ทราม


« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 02 พฤษภาคม 2013, 14:48:58 »

และมีบทความหนึ่งที่อยากให้ทำความเข้าใจ

เป็นไฟที่มักจะเรียกกันสั้น ๆ ซึ่งชื่อเต็มจริง ๆ คือ Daytime Running Light  หรือจะเขียนย่อ ๆ คือ DRL ไฟ DRL นั้นเป็นไฟที่เริ่มมีความนิยมใช้กันมากขึ้น อาจจะเพราะความสวยงาม แต่จริง ๆ แล้ววัตถุประสงค์ของไฟ DRL นั้น
ถ้าแปลกันตามตัวคือ ไฟที่เปิดใช้งานในเวลากลางวัน ซึ่งไฟลักษณะดังกล่าวนั้น จะช่วยแจ้ง หรือเตือนให้รถคันอื่น ๆ จะเห็นรถของเราได้ง่ายขึ้นจากไฟ DRL โดยไฟ DRL นั้นจะต้องมีความความสว่างมากเพียงพอที่จะทำให้รถคันอื่น ๆ เห็น
และต้องเปิดตลอดเวลาในช่วงเวลากลางวัน แต่เดิมนั้นไฟ DRL จะเป็นไฟอะไรก็ได้ ที่จะช่วยให้รถคันอื่นเห็นรถของเราได้ง่ายขึ้น แต่ต้องไม่สร้างความรำคาญ หรือรบกวนสายตาของรถคันอื่น ๆ จึงนิยมใช้เป็นไฟสีเหลือง(อัมพัน)
 แต่ด้วยความสวยงามและความคุ้มค่าทั้งเรื่องความสว่างและกินพลังงานจึงนิยมใช้เป็นไฟ LED ที่กินไฟน้อยแต่ให้ความสว่างได้สูง ในต่างประเทศทางฝั่งยุโรปนั้น
ได้ออกเป็นกฎหมายให้รถทุกคันติดตั้งไฟ DRL เพื่อช่วยในเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น เช่นเดี่ยวกับรถมอเตอร์ไซค์ที่ให้เปิดไฟตลอดทั่งกลางวัน และกลางคืนเช่นกัน

สำหรับรถยนต์ที่ออกแบบมาให้มีระบบไฟ DRL แล้วนั้น รถยนต์จะมีไฟที่มีสวิทช์เปิดอัตโนมัติ เมื่อเครื่องยนต์ถูกสตาร์ท โดยในช่วงกลางคืน ผู้ขับจะต้องเปิดสวิทช์ไฟขับด้วยมือ และระบบ DRL จะปิดเองโดยอัตโนมัติ
เนื่องจากเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นการรบกวน ผู้ขับรถคันอื่น ๆ เพราะไฟ DRL จะเป็นไฟที่มีความสว่างสูงจึงทำให้แยงตาคันอื่นได้ หากใช้ในเวลากลางคืนหรือ ในที่ร่ม
ประโยชน์หลัก ๆ ของการใช้ไฟ DRL คือ สามารถเพิ่มทัศนวิสัยการมองเห็นแก่รถคันอื่น   และช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดภาพลวงตา และภาพสะท้อน (Highway Mirage) แม้แต่การวิ่งใต้เงาร่มไม้
 หรือลอดใต้อุโมงค์ DRL ก็จะช่วยให้รถยนต์ที่วิ่งสวนมาสามารถมองเห็นกันได้ในระยะไกล


ที่มา  http://tepthecruze.blogspot.com/2012/12/daytime-running-light.html#!/2012/12/daytime-running-light.html

เยี่ยมครับ ดันๆ
IP : บันทึกการเข้า
Maxza555
ไม่รู้จะขอบคุณยังไงดี ^^
สมาชิกลงทะเบียน
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 11,847


Do you belive in love ?


« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 02 พฤษภาคม 2013, 15:21:48 »

และมีบทความหนึ่งที่อยากให้ทำความเข้าใจ

เป็นไฟที่มักจะเรียกกันสั้น ๆ ซึ่งชื่อเต็มจริง ๆ คือ Daytime Running Light  หรือจะเขียนย่อ ๆ คือ DRL ไฟ DRL นั้นเป็นไฟที่เริ่มมีความนิยมใช้กันมากขึ้น อาจจะเพราะความสวยงาม แต่จริง ๆ แล้ววัตถุประสงค์ของไฟ DRL นั้น
ถ้าแปลกันตามตัวคือ ไฟที่เปิดใช้งานในเวลากลางวัน ซึ่งไฟลักษณะดังกล่าวนั้น จะช่วยแจ้ง หรือเตือนให้รถคันอื่น ๆ จะเห็นรถของเราได้ง่ายขึ้นจากไฟ DRL โดยไฟ DRL นั้นจะต้องมีความความสว่างมากเพียงพอที่จะทำให้รถคันอื่น ๆ เห็น
และต้องเปิดตลอดเวลาในช่วงเวลากลางวัน แต่เดิมนั้นไฟ DRL จะเป็นไฟอะไรก็ได้ ที่จะช่วยให้รถคันอื่นเห็นรถของเราได้ง่ายขึ้น แต่ต้องไม่สร้างความรำคาญ หรือรบกวนสายตาของรถคันอื่น ๆ จึงนิยมใช้เป็นไฟสีเหลือง(อัมพัน)
 แต่ด้วยความสวยงามและความคุ้มค่าทั้งเรื่องความสว่างและกินพลังงานจึงนิยมใช้เป็นไฟ LED ที่กินไฟน้อยแต่ให้ความสว่างได้สูง ในต่างประเทศทางฝั่งยุโรปนั้น
ได้ออกเป็นกฎหมายให้รถทุกคันติดตั้งไฟ DRL เพื่อช่วยในเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น เช่นเดี่ยวกับรถมอเตอร์ไซค์ที่ให้เปิดไฟตลอดทั่งกลางวัน และกลางคืนเช่นกัน

สำหรับรถยนต์ที่ออกแบบมาให้มีระบบไฟ DRL แล้วนั้น รถยนต์จะมีไฟที่มีสวิทช์เปิดอัตโนมัติ เมื่อเครื่องยนต์ถูกสตาร์ท โดยในช่วงกลางคืน ผู้ขับจะต้องเปิดสวิทช์ไฟขับด้วยมือ และระบบ DRL จะปิดเองโดยอัตโนมัติ
เนื่องจากเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นการรบกวน ผู้ขับรถคันอื่น ๆ เพราะไฟ DRL จะเป็นไฟที่มีความสว่างสูงจึงทำให้แยงตาคันอื่นได้ หากใช้ในเวลากลางคืนหรือ ในที่ร่ม
ประโยชน์หลัก ๆ ของการใช้ไฟ DRL คือ สามารถเพิ่มทัศนวิสัยการมองเห็นแก่รถคันอื่น   และช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดภาพลวงตา และภาพสะท้อน (Highway Mirage) แม้แต่การวิ่งใต้เงาร่มไม้
 หรือลอดใต้อุโมงค์ DRL ก็จะช่วยให้รถยนต์ที่วิ่งสวนมาสามารถมองเห็นกันได้ในระยะไกล


ที่มา  http://tepthecruze.blogspot.com/2012/12/daytime-running-light.html#!/2012/12/daytime-running-light.html

เยี่ยมครับ ดันๆ
สังเกตุ รถยุโรบ Benz  BM  หรือ Audi  จะมีมาให้ เวลาขับกลางวันสังเกตุได้ง่ายสว่างมาก เห็นนชัดเจน แต่เวลากลางคืน มันจะดับ หรือบางรุ่น  ลดระดับแสงลงเองครับ
IP : บันทึกการเข้า

nokyung
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 272



« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 02 พฤษภาคม 2013, 16:28:24 »

กำลังเก็บตังซื้อไฟตัดหมอกใส่รถอยู่เหมือนกันจ้าวว เอาไว้เปิดส่องคันอื่น คาวต๋าขนาดหนักฮู้ว่ารถใส่ไฟตัดหมอกมา แต่บ่ใช่เรื่องที่จะต้องเปิดแยงแก่นตาคันอื่น ผ่อเน้อ วันไหนเก็บตังได้นักจะใส่ไฟตัดหมอกสักซาวแก่น เอายั่งเปิ่นเปิดสปอร์ตไลท์เลย ฮึ๊ยยย ลมขึ้น เฮาขับรถคันน้อย สวนกับรถคันใหญ่ไฟฟน้าก็ฟาดมาอย่างหนักแล้ว เจอไฟตัดหมอกเข้าไปนี่ตามัวเลยบ๋อ แหม่...
IP : บันทึกการเข้า
hjphqp
hjphqp
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,618



« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 02 พฤษภาคม 2013, 19:41:34 »

 ยิ้ม ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
@เชียงแสน
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


..ทุกลมหายใจคือการเปลี่ยนแปลง..


« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 02 พฤษภาคม 2013, 20:27:30 »

แค่ไฟธรรมดา ในตอนกลางคืนก็สามารถบอกได้นะครับว่ามีรถข้างหน้า

แต่มีบางคันไม่สนใจ เปิดทั้งไฟสูงและไฟตัดหมอก ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ว่าจะทัศนวิสัยไม่ดี

แต่ไม่ทราบเหตุผลที่แน่ชัดจริงๆ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
@เชียงแสน
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


..ทุกลมหายใจคือการเปลี่ยนแปลง..


« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 02 พฤษภาคม 2013, 20:28:16 »

กำลังเก็บตังซื้อไฟตัดหมอกใส่รถอยู่เหมือนกันจ้าวว เอาไว้เปิดส่องคันอื่น คาวต๋าขนาดหนักฮู้ว่ารถใส่ไฟตัดหมอกมา แต่บ่ใช่เรื่องที่จะต้องเปิดแยงแก่นตาคันอื่น ผ่อเน้อ วันไหนเก็บตังได้นักจะใส่ไฟตัดหมอกสักซาวแก่น เอายั่งเปิ่นเปิดสปอร์ตไลท์เลย ฮึ๊ยยย ลมขึ้น เฮาขับรถคันน้อย สวนกับรถคันใหญ่ไฟฟน้าก็ฟาดมาอย่างหนักแล้ว เจอไฟตัดหมอกเข้าไปนี่ตามัวเลยบ๋อ แหม่...
ผมก็จะเปิดเมี๊ยะๆ เอามันสว่างกว่าฝ้าผ่าแหม คอยผ่อเน้อ อิอิ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!