เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 20 เมษายน 2024, 10:58:55
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  เติมความสุข เติมกำลังใจ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน เติมความสุข เติมกำลังใจ  (อ่าน 1859 ครั้ง)
toktak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« เมื่อ: วันที่ 05 เมษายน 2013, 07:55:21 »

ทำอย่างไรจะให้ครอบครัวดี ?

ขอฝากเอาไว้ 4 ข้อ คือ สังคหวัตถุ 4 มี ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา และสมานัตตา ซึ่งเราก็คุ้นหูกันอยู่
ทาน คือ มีน้ำใจต่อกัน ซึ่งนี่เป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว เพราะถ้าบ้านไหนคนละกระเป๋า มีการเอาเปรียบกัน มีความตระหนี่เกิดขึ้น ก็มีโอกาสเกิดปัญหาสูง ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ครอบครัว คือ ครัวที่กินข้าวอยู่ในครอบเดียวกัน คืออิ่มก็อิ่มด้วยกัน อดก็อดด้วยกัน อย่างนี้ถึงเรียกว่าเป็นครอบครัวร่วมกัน มีน้ำใจต่อกัน ตรงนี้เป็นพื้นฐานเลย

ถัดมาคือ ปิยวาจา คือ การให้เกียรติกัน ห้ามดูถูกกัน อย่าใช้คำพูดที่ทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของกันและกัน

อัตถจริยา คือ การทำตัวให้เป็นประโยชน์ ต่างคนต่างไม่นิ่งดูดาย ฝึกตัวเองให้เป็นคนมีประโยชน์ ห้ามเอาเปรียบกัน ต้องรับผิดชอบช่วยเหลืองานซึ่งกันและกัน อย่างถ้าบ้านไหนสามีเป็นคนหลักลอย ไม่ทำงาน ต่อไปก็มีปัญหา เพราะความเกรงใจของภรรยาที่มีต่อสามีก็จะลดลง และสามีเองก็มีปมด้อยเพราะตัวเองไม่ได้ทำงานอะไรให้เกิดประโยชน์ บางทีก็สร้างปมเขื่องมาข่มปมด้อย โดยการวางอำนาจบาตรใหญ่เพื่อกดปมด้อยข้างใน ก็ทำให้เกิดปัญหา แต่ถ้าต่างฝ่ายต่างฝึกตนเองให้เป็นคนมีประโยชน์ก็จะมีความเคารพตัวเอง จิตใจจะมั่นคงมากกว่า และการอยู่ร่วมกันจะสันติมากกว่า

สมานัตตา คือ ทำตัวสม่ำเสมอ ไม่ผีเข้าผีออกหรืออารมณ์แปรปรวนไม่แน่นอน ต้องมีความสม่ำเสมอทางด้านอารมณ์ วางบทบาทตัวเองให้เหมาะสมกับฐานะ และทำอย่างสม่ำเสมอ

เราควรจะยึดหลักอะไรให้ชีวิตเราดำเนินไปได้อย่างถูกต้องเหมาะสม?

หลักง่ายๆ คือ ชวนกันเข้าวัด เพราะจะทำให้เกิดสิ่งแวดล้อมใหม่ที่เป็นหลักร่วมเดียวกัน ก็จะมีเรื่องธรรมะให้ได้คุยกันเป็นเรื่องเดียว และเรื่องนี้เมื่อคุยแล้วจิตใจจะผ่องใสสบายใจ จะทำให้มีศรัทธา ศีล เกิดขึ้นเสมอกัน ความคิดเรื่องการให้ การแบ่งปันก็เกิดขึ้น ปัญญาทางธรรมก็เริ่มมีเพราะเป็นหัวข้อเรื่องที่คุยกันได้เพลิดเพลิน สบายใจ
(จากข้อคิดรอบตัวโดยพระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ)


IP : บันทึกการเข้า
toktak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 06 เมษายน 2013, 09:24:57 »

พลังภายในตัวของทุกคน เป็นพลังงานที่สำคัญที่สุด
เพราะเป็นพลังในการขับเคลื่อนชีวิต
เพื่อเอาชนะอุปสรรคและความท้าทายต่างๆ
ตลอดเส้นทางอันยาวไกลแห่งวัฏสงสาร
การเพิ่มพลังภายในตัวนั้นอาศัยหลักการอยู่ 4 อย่างคือ

1. หมั่นปฏิบัติธรรมอย่างสม่ำเสมอ
2. ต้องมีเป้าหมายในชีวิตที่ถูกต้องและมีคุณค่า
3. การเพิ่มปัจจัยด้านบวก เช่น การมีกัลยาณมิตร
เพื่อนผู้แนะประโยชน์
4. ขจัดความคิดด้านลบที่จะบั่นทอนพลังในตัวเรา
เช่น ความน้อยอกน้อยใจ เซ็ง เบื่อ กลุ้ม
ซึ่งจะทำให้เราท้อแท้ได้
เส้นทางการสร้างความดีของเราอีกยาวไกล
ขอให้ทุกคนสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ จนถึงจุดหมาย
ด้วยพลังภายในอันไม่มีประมาณ

โดยพระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ
เติมความสุข กำลังใจ สู่ความสำเร็จในการดำเนินชีวิตที่ดีงาม


IP : บันทึกการเข้า
toktak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 07 เมษายน 2013, 08:37:14 »

ต่อให้เหลือแต่ตัวกับหัวใจถ้าสู้ก็ชนะ ได้สู้ก็สู้ได้
แต่ถ้าไม่สู้ก็แพ้ มีอยู่แค่นี้เท่านั้นเอง
ฉะนั้นอย่าเสียกำลังใจ ขอให้เดินหน้าสู้ต่อไป
เพราะชัยชนะที่สว่างไสวกำลังรอเราอยู่ข้างหน้า
ฐานวุฑฺโฒ ภิกฺขุ


IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 07 เมษายน 2013, 22:35:16 »

ผมได้ คุย กับพรรคพวก เขาชื่อ รังสิทธิ์ หรือ หน่อย
 เรื่อง คนสอง แบบ         ผมเลยจดจำคำ เขามา คือ

         แบบแรก  สู้ ไม่ถอย       แบบสอง  ถอย  ไม่สู้  
 
   ที่ผม มาโพสต์ นี้   ผมขอ เพิ่ม แบบ   คือ  สู้ แต่  ถอย     สู้ อย่าง มี จังหวะ  โดย ใช้สติ ปัญญา
 
 ใคร เคยเห็น ไก่ชน เชิงไก่ลอย หรือ  ไก่แจ้ ตีกัน ก็จะเข้าใจ       มันสู้พลางถอยพลาง   นักเล่นไก่ เขาเรียกว่า  ไก่ลอย

  ผมว่า  แบบสาม  ยังดีกว่า  แบบสอง ๆ ถ้าเป็นไก่      มันคือ  ไก่  บ่สู้  

คนเรา สู้  ไม่สู้ หรือ จะยังไง ก็ควร ใช้ สติปัญญา มาประกอบดีกว่า   มีคำกล่าวว่า

                    เก่งนัก  มักพลาด  ขลาดนัก  มักแพ้  

ตั้งสติ  รอบคอบ  ประกอบกับ การใช้ ปัญญา พิจารณา     หรือ   ใช้ความเพียร ย่อมดี กว่า ดันทุรัง  หรือ ขี้แพ้

                ด้วยยัง มี คำพระว่า  บุคคล  ล่วงทุกข์  ด้วยความเพียร  

อะไร มันก็ บ่  แน่  คือ  อนิจจัง  โปรด จงพิจารณา.....
ไอ้หนุ่ม คนแรก  ห้าวหาญ  พูดว่า  ต้องสู้  ถึงจะ  ชนะ
หาก  เกิด อุบัติเหตุ ดินถล่ม ทับตัวตาย เสียก่อน ถึง อัญมณี Gemstone
 เขาย่อม ตายคาบ่อแก้ว ฯ
ตาแก่ หัวล้าน ก็ มาท้อ แล้วถอย ก่อนจะ  ถึง แก้วมณี อันมีค่า   หรือ เพียรขุดถึงพลอย
 แต่ ดันมาตาย ด้วยถูก พลอยทับ  เป็น  ตาแก่ (พระเอก) ตายตอนจบ

คนบน  สู้ ไม่ถอย   ส่วน    คนล่าง  ถอยไม่สู้

ไอ้คน  ที่ สาม  มันเห็น อยู่ ทั้งสองคน   ในภาพ
              อ้าว ใครหวา ? ไอ้คน  ที่สาม    

ไหว้สาธุ  ขอจงเป็น  ธรรมทาน    
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 10 เมษายน 2013, 02:08:01 โดย nantong » IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
toktak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 09 เมษายน 2013, 07:14:56 »

 ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
toktak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 09 เมษายน 2013, 07:16:35 »

"ผู้ให้" ความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่
ชายหนุ่มคนหนึ่งมีชีวิตที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ หน้าตาหล่อเหลา มีการศึกษาสูง มีงานการที่มั่นคง มีความก้าวหน้าในอนาคต มีคนรักใคร่รอบข้าง เรียกว่าใครเห็นใครรู้เป็นต้องอิจฉา

วันหนึ่งชีวิตที่สมบูรณ์แบบของชายคนนี้ยิ่งสุดยอด สมบูรณ์แบบมากขึ้น เมื่อพี่ของเขายอมควักเงินก้อนโต ซื้อรถสปอร์ตคนงามเป็นของขวัญให้กับน้องชาย ไม่ต้องบอกว่าเจ้าตัวจะยินดีปรีดาแค่ไหน เพราะรถสปอร์ตสุดหรูคันนี้ ชายหนุ่มฝันอยากได้ เป็นเจ้าของมาตลอดชีวิต เมื่อความฝันเป็นจริง สิ่งที่ชายหนุ่มคิดทำอย่างแรกคือ ขับเจ้ารถสปอร์ตตระเวนไปตามที่ต่างๆ ให้สมอยาก ใจหนึ่งต้องการทดสอบแรงม้าที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องเครื่อง ว่าจะมีเรี่ยวแรงเต็มกำลังแค่ไหน อีกใจก็แน่นอนว่า ใครที่มีรถสวยแรงขนาดนี้ คงไม่บ้าเก็บเอาไว้ดูตามลำพัง เขาจึงขับโฉบเฉี่ยวไปมา สักพักก็ถึงเวลาพักทั้งเครื่องและคน ชายหนุ่มจัดแจงจอดรถข้างถนน ระหว่างกำลัง พักผ่อนอิริยาบถ เขาเห็นเด็กคนหนึ่งเดินลูบๆคลำๆรอบรถคันงาม ด้วยกิริยาท่าทีชื่นชอบรถสปอร์ตอย่างเห็นได้ชัด ชายหนุ่มรู้สึกภาคภูมิใจใน การเป็นเจ้าของ สิ่งที่หลายต่อหลายคนใฝ่ฝัน เขาเดินยืดอกมาที่รถ พร้อมพูดจาทักทายเด็กคนนั้นด้วยน้ำเสียงมั่นใจดั่งขุนศึกผู้ชนะสงคราม

“ระวัง หน่อยน้อง เดี๋ยวเป็นรอย” เขาบอก
เด็กคนนั้นมองไปยังชายหนุ่มเจ้าของ เสียง ก่อนจะพูดตอบ
“รถของพี่เหรอ สุดยอดจริงๆ”
“แน่นอน” เขาตอบ
“พี่ ซื้อมาราคาเท่าไหร่” เด็กคนเดิมถาม
“คนอื่นอาจต้องควักสตางค์ซื้อเอง แต่พี่ไม่ต้องเพราะพี่ชายพี่ซื้อให้เป็นของขวัญ”
“โอ้โห! ดีจัง ผมอยาก….” เด็กคนเดิมพูดตะกุกตะกักชะงักในตอนท้าย
ชายหนุ่มคิดในใจว่า เด็กคนนี้คงไม่กล้าพูดต่อเพราะที่เด็กอยากจะพูดแต่ยั้งปากยั้งคำไว้ นั้น คงต้องการบอกว่าอิจฉาตัวเขาเองอยากจะเป็นอย่างเขาบ้าง
…มี พี่ที่แสนดีซื้อรถสุดหรูให้เป็นของขวัญ…
แต่สิ่งที่ชายหนุ่มคิดกลับ ผิดถนัด
“โอ้โห ดีจัง ผมอยาก….เป็นอย่างพี่ชายของพี่จัง” เด็กคนนั้นพูด
“ผมจะได้ซื้อรถให้น้องชายผมนั่งบ้าง” ชายหนุ่มถึงกับอึ้ง ในสังคมทุกวันนี้ ที่ใครๆตั้งหน้าตั้งตาแต่จะรับ หรือบางคนไม่ยอมรอ ใช้กำลังความได้เปรียบแย่งชิงของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง แต่เด็กคนนี้กลับ คิดสวนทางใครๆ
…เขาอยากเป็นผู้ให้ มากกว่าเป็นผู้รับ…
…. ชายหนุ่มมองเด็กด้วยความรู้สึกทึ่งและพูดออกมาทันทีว่า
“อยากนั่งรถเล่น กับฉันไหม”
“ครับ อยากมากเลย”
หลังจากขับรถเล่นอยู่พักหนึ่ง เด็กชายหันมาพูดด้วยดวงตาวาวแวว
“คุณจะกรุณาขับรถไปหน้าบ้านผมได้ไหม ครับ” ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ
เขาคิดว่าเขารู้ดีว่าเด็กหนุ่มต้องการอะไร เขาคงต้องการให้เพื่อนบ้านเห็นว่าเขาได้นั่งรถคันโตกลับบ้าน
แต่ชายหนุ่ม คิดผิดอีกแล้ว
“คุณจอดตรงบันไดนั่นล่ะครับ” เขาวิ่งขึ้นบันได
จาก นั้นสักครู่จึงกลับมาแต่เขาไม่ได้วิ่ง เขาอุ้มน้องตัวเล็กๆที่ขาพิการมาด้วย และวางน้องลงที่บันไดล่าง กอดไว้และชี้ไปที่รถ
“นั่นไง บัดดี้ รถคันที่พี่เล่าให้ฟัง พี่ชายของเขาซื้อให้เป็นของขวัญ เขาไม่ต้องเสียตังค์เลย สักวันหนึ่งพี่จะซื้อให้น้องบ้าง
น้องจะได้ดูของสวยๆงามๆด้วย ตาของน้องเองเหมือนที่พี่เคยเล่าให้ฟัง”
ชายหนุ่มลงจากรถ แล้วอุ้มเด็กน้อยขึ้นรถ
พี่ชายปีนตามขึ้นมานั่งใกล้และแล้วทั้งสามก็ เริ่มออกเดินทาง
ชายหนุ่มรู้แล้วว่า “ความสุขยิ่งกว่าการให้” หมายถึงอะไร ...

ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับท่านเจ้าของภาพนี้


IP : บันทึกการเข้า
toktak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 12 เมษายน 2013, 09:13:54 »

เมื่อเห็นใครเขาได้ดี อย่าไปคิดว่าเขาเกินหน้าเกินตาจะมาข่มเรา หรือว่าคนเคยเป็นเพื่อนกัน ตอนนี้เขาแซงหน้าเราไป คนเป็นลูกน้องเกินหน้าเราไปรับไม่ได้ อยากให้ยอมรับกันในสิ่งที่เขาประสบความสำเร็จ และเห็นใครเขามีความสามารถเราสนับสนุนให้เขาเติบโตก้าวหน้าขึ้นมา และจะต้องไม่วางเป้าที่ว่า สนับสนุนมาแล้วเขาจะต้องรู้บุญคุณเราอีกนะ เพราะเราเป็นคนช่วยขึ้นมา เชียร์ขึ้นมาสนับสนุนขึ้นมา เราจะไม่หวังผลตอบแทน เราอย่าไปคิดอย่างนี้ เพราะถ้าคิดอย่างนี้จะทำให้ใจขุ่น เพราะทุกคนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่โดยภาพรวมข้อดีเขามีที่เป็นประโยชน์ต่องานส่วนรวมได้สนับสนุนขึ้นมา จะไม่เกิดอาการว่า ทำไมคนนั้นเขาก้าวไป คนนี้เขาก้าวไป เราจะไม่เกิดอาการอิจฉา ไม่เกิดอาการระแวงว่าใครจะเกินหน้าเกินตาใด ๆ ทั้งสิ้น
ฐานวุฑฺโฒ ภิกฺขุ


IP : บันทึกการเข้า
toktak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 14 เมษายน 2013, 10:39:57 »


IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 14 เมษายน 2013, 11:31:28 »

  ขอกราบอนุโมทนาสาธุ บุญ ธรรมทาน นี้ครับ 
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
toktak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 15 เมษายน 2013, 16:53:21 »

 
  ขอกราบอนุโมทนาสาธุ บุญ ธรรมทาน นี้ครับ 


 ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
toktak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 15 เมษายน 2013, 17:01:42 »


IP : บันทึกการเข้า
toktak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 16 เมษายน 2013, 07:55:52 »


IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 16 เมษายน 2013, 13:08:14 »

สาธุ ๆ ๆ
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
toktak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 17 เมษายน 2013, 11:40:01 »


IP : บันทึกการเข้า
toktak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 19 เมษายน 2013, 07:20:05 »

บุญเปรียบเสมือนน้ำในคลอง บาปเสมือนตอที่อยู่ใต้น้ำ ชีวิตเปรียบเสมือนเรือที่แล่นไปบนน้ำ ถ้ามีบุญมากก็เสมือนน้ำในคลองมาก บาปอกุศลที่เปรียบดังตอที่อยู่ใต้น้ำก็ทำอะไรไม่ได้ เรือก็แล่นไปได้อย่างสะดวก เหมือนชีวิตที่ราบรื่นก้าวหน้า ถ้าบุญน้อยก็เสมือนน้ำน้อย ต่อก็ผุด เรือก็ติดตอ จะประกอบธุรกิจการงานใดๆ ก็ติดขัดไปหมด
(จากหนังสือคำสอนคุณยาย)


IP : บันทึกการเข้า
toktak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 20 เมษายน 2013, 07:17:57 »


IP : บันทึกการเข้า
toktak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 23 เมษายน 2013, 07:44:20 »

ล้าได้...แต่อย่าท้อ

ชีวิตหลังความตายนั้นยาวนาน
ยาวนานมากกว่าชีวิตที่เป็นมนุษย์อยู่จนเทียบกันไม่ได้
ผู้ฉลาดจึงยอมลำบากช่วงสั้นสั่งสมบุญบารมี
เพื่อไปสบายในชีวิตหลังความตายที่ยาวนาน

บางครั้งหากใครล้าก็พักกันก่อน
แต่อย่าพักนาน เพราะเวลาเราเหลือไม่มาก
ล้าได้แต่อย่าท้อ ...ท้อไม่ได้
เพราะเราเกิดมาสร้างบารมี
จำตรงนี้เอาไว้นะลูกนะ

(โอวาทหลวงพ่อ)

หากวันนี้ใครกำลังประสบกับปัญหาที่มารุมเร้าจนหาทางออกไม่เจอ และไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาเหล่านั้นอย่างไรดี ขอให้จงหลับตานิ่งๆ ทำใจให้สบายๆ ทิ้งปัญหาเหล่านั้นเอาไว้ก่อนชั่วคราว เอาใจกลับมาอยู่กับตัวเอง สุดท้ายแล้วก็จะค้นพบว่า "ทุกปัญหา...ย่อมมีทางแก้เสมอ"
ขอขอบคุณและขอกราบอนุโมทนาบุญกับท่านเจ้าของภาพ ที่ได้นำความสุขและกำลังใจดีๆมาสู่สังคม


IP : บันทึกการเข้า
toktak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 25 เมษายน 2013, 07:26:39 »

ำมาหากินไม่ขึ้น ลำบากมาก เป็นเพราะกรรมเก่าในอดีตหรือ?

คำตอบ: เป็นไปได้ แต่ก่อนอื่น อย่าเพิ่งไปห่วงว่ากรรมในอดีตชาติเป็นอย่างไร เพราะยังไงก็ต้องทำมาหากิน ไม่ใช่คิดว่า เรามันทำอะไรไม่ค่อยมีโชค ชาติที่แล้วเราคงทำไม่ดีไว้ เพราะฉะนั้นพ่อนอนดีกว่า ว่าแล้ววันๆ พ่อก็ไม่ทำอะไรเลย รอให้ชาวบ้านเขาแจกให้กิน อย่างนี้มันก็ไม่ใช่วิสัยของคนนะ

เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ถ้าทำมาหากินไม่ค่อยขึ้น ก็ยิ่งต้องขยันให้มากเป็น 5 เท่า 10 เท่า แล้วก็มีความสังเกต มีความรอบคอบให้มากยิ่งขึ้น ส่วนในอดีตชาติจะทำมายังไง ถ้าเราไม่เข้าถึงธรรมะจริงๆ เราก็ไม่ทราบ

เพราะฉะนั้นให้ขยันทำมาหากินเรื่อยไป แล้วระหว่างที่ทำมาหากินก็ตั้งใจให้ทานไป ทำทานไว้ให้เป็นบุญ เป็นทุนของเรา แม้จะยังไม่ออกดอกออกผลในชาตินี้ ก็ยังชื่นอกชื่นใจ เหมือนได้ร่มเงา อย่ารอให้รวยเสียก่อนค่อยทำบุญ มันจะสายเกินไป ทำไปเถอะลูก

(จากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา โดยพระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว))


IP : บันทึกการเข้า
toktak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 28 เมษายน 2013, 07:02:46 »

คำถาม : หลวงพ่อคะ คนเราจะสอนตัวเองอย่างไรจึงจะมองโลกถูกต้องตามความเป็นจริงคะ?

คำตอบ : คนเราจะมองโลกถูกต้องตามความเป็นจริงได้ ต้องเข้าใจธรรมชาติของชีวิต หรือมีสัมมาทิฏฐิคือมีความเข้าใจถูกในเรื่องโลกและชีวิตเสียก่อน เช่น

1. ชีวิตตายแล้วไม่สูญ ตราบใดที่เรายังไม่หมดกิเลสเข้านิพพาน ตายแล้วก็ยังต้องกลับมาเกิดอีกนับภพนับชาติไม่ถ้วน แต่เมื่อไรหมดกิเลสเข้านิพพานแล้ว จึงไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดให้ทุกข์อีก

2. ความดีความชั่วที่ทำเอาไว้นั้นไม่สูญเปล่า ยังตามให้ผลอีกแม้ชาติหน้า คือถ้าทำดี ความดีก็ตามคุ้มครองให้ผลเป็นความสุข เหมือนเงาติดตามตัวให้ความร่มเย็นตลอดไป ส่วนความชั่วเมื่อทำลงไปก็ให้ผลเป็นความทุกข์ เหมือนวงล้อเกวียนที่ตามบดขยี้รอยเท้าโคที่ลากเกวียนไปตลอดทาง เหมือนคำโบราณว่า “กงเกวียนกำเกวียนไม่หนีไปไหน” พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า

“ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จด้วยใจ ถ้าคนมีใจชั่วเสียแล้ว จะพูดหรือทำก็พลอยชั่วไปด้วย เพราะการพูดชั่ว ทำชั่วนั้น ทุกข์ย่อมตามสนองเขา เหมือนล้อหมุนตามรอยเท้าโคที่ลากเกวียนไป ฉะนั้น.”

3. นรกมีจริง สวรรค์มีจริง ข้อนี้อย่าสงสัย ขอเพียงขยันนั่งสมาธิ(Meditation)มากๆ ไม่ช้าก็จะเห็นว่านรก-สวรรค์มีจริง เรื่องนี้ไม่ใช่มาพูดลอยๆ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพิสูจน์แล้วว่ามีจริง หลวงปู่ หลวงตา นักปฏิบัติธรรมทั้งหลายก็พิสูจน์แล้วว่ามีจริง คนที่ยังไม่เห็น ก็เพราะยังไม่ได้พิสูจน์ ยังไม่ได้ฝึกสมาธิจริงๆ จังๆ อยากให้ทุกคนไปเรียนรู้วิธีพิสูจน์เสียเร็วๆ จะได้หายสงสัย ครูบาอาจารย์ผู้มีความรู้มีอยู่นะ รีบไปขอเรียนจากท่านเสีย

เมื่อเข้าใจความจริงทั้ง 3 ประการนี้แล้ว ก็ต้องหมั่นเตือนตัวเองว่า คนเรานั้นอายุสั้น จะตายวันตายพรุ่ง ตายเมื่อไรไม่มีใครรู้ล่วงหน้า เพราะฉะนั้น รู้ว่าอะไรเป็นความชั่วก็รีบละ รีบเว้นเสีย ส่วนอะไรที่เป็นความดี ก็รีบๆ ทำเข้า อย่าไปยั้งมือ ทำให้เต็มที่ทำให้สุดกำลัง

ถ้าทำได้อย่างนี้ก็จะไม่มีวันพลาดเลย ชาตินี้ถึงจะต้องทำงานเหนื่อยหน่อยแต่ก็เป็นสุข แล้วก็จำไว้ด้วยว่าอย่าคิดไปพึ่งใคร แม้เทวดา พระอินทร์ พระพรหม พระเจ้า ก็ไม่ต้องไปคิดพึ่ง พ่อแม่ พี่น้อง หรือคนที่รักเรา หวังดีกับเราที่สุด ก็อย่าไปคิดพึ่ง เพราะสิ่งเหล่านี้เปลี่ยนแปลงได้ ไม่แน่นอน ให้เราคิดพึ่งตัวเอง ทำความดีให้เต็มที่เอาไว้เป็นที่พึ่งดีกว่า

ถ้าทำได้อย่างนี้ ก็ได้ชื่อว่าเป็นคนมองโลกถูกต้องตรงตามความเป็นจริง
(จากหลวงพ่อตอบปัญหา โดยพระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว))


IP : บันทึกการเข้า
toktak
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 29 เมษายน 2013, 07:28:57 »


IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!