ศ.หยวน หลงผิง บิดาแห่งข้าวลูกผสมจีน จีน เป็นประเทศแรกของโลกที่คิดค้นวิจัยพัฒนาข้าวลูกผสมเป็นผลสำเร็จตั้งแต่ปี 2517 โดยศ.หยวนหลงผิง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาข้าวลูกผสมแห่งชาติจีน ซึ่งเป็นผู้คิดค้นข้าวลูกผสมเป็นผลสำเร็จจนได้รับการขนานนามจากนานาชาติว่าเป็น “บิดาแห่งข้าวลูกผสม” และได้รับรางวัล World Food Prize สำหรับความสำเร็จด้านวิทยาศาสตร์ที่ได้ช่วยลดปัญหาความขาดแคลนด้านอาหารเมื่อ 29 มีนาคม 2548 รางวัลดังกล่าวได้รับการยอมรับกลายๆ ว่าเป็นรางวัลโนเบลสำหรับวงการอาหารและการเกษตรด้วย
โดยจีนเริ่มจากความสำเร็จในการพัฒนาพันธุ์ข้าวลูกผสมจนปัจจุบันสามารถเพิ่มผลผลิตข้าวในบางพื้นที่ของจีนได้จำนวนผลผลิตต่อไร่สูงถึง 1,500 -2,000 กิโลกรัมต่อไร่ สิ่งนี้คือคำตอบเรื่องความมั่นคงทางด้านอาหารของจีน ที่มีประชากรสูงสุดในโลกคือ 1,300 ล้านคน ปัจจุบันทั้งอินเดียและเวียดนามต่างนำความรู้ด้านข้าวลูกผสมจากจีนมาพัฒนาต่อยอด
“จีนเป็นประเทศกว้างมาก ข้าวที่ปลูกตามมณฑลต่างๆ ก็จะไม่เหมือนกัน เพราะต้องพัฒนาให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในพื้นที่ปลูกแต่ละที่ด้วย ซึ่งจีนก็ได้นำเทคนิคต่างๆ มาปรับใช้ และเราต้องเรียนรู้จากจีน”
โดยข้าวลูกผสมจีนที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกมากนั้น เรียกว่า มีลักษณะเด่นคือทำให้พันธุ์พ่อเป็นหมัน โดยศ.หยวนพบว่าการทำให้พันธุ์พ่อเป็นหมันนั้นสามารถทำได้โดยใช้เทคนิคด้านอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสมมาใช้ ไม่ต้องมานั่งเอามือไปตัดดอกตัวผู้เหมือนสมัยก่อน เมื่อปลูกคู่กับดอกตัวเมียสามารถผสมไปได้เลย ทำให้ได้เมล็ดพันธุ์ข้าวลูกผสมที่มีผลผลิตต่อไร่เพิ่มสูงขึ้น 20-30% ในบางพื้นที่
ข้อดีปลูกข้าวลูกผสม
ที่ผ่านมานักวิชาการพันธุ์ข้าวได้กล่าวถึงข้อดีของข้าวลูกผสมที่มีการทดลองให้เกษตรกรปลูกอยู่ในประเทศไทยในขณะนี้ว่า มีข้อเด่นมากถึง 7 ประการ คือ
1.ผลผลิตข้าวจะสูงกว่าสายพันธุ์ทั่วไปประมาณ 20-50%
2.ไม่มีพันธุ์ปน ระบบรากมีความแข็งแรงและแผ่กระจายมากกว่า
3.จำนวนเมล็ดต่อรวงมากถึง 250 เมล็ดต่อรวง หากปลูกในฤดูกาลและ
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
4.ในเชิงการค้าข้าวลูกผสมให้ผลตอบแทนมากกว่า
5.เป็นการเพิ่มผลผลิตข้าวโดยไม่ต้องขยายพื้นที่ปลูก
6.ลดการใช้สารเคมี เพราะมีความต้านทานโรคและแมลงศัตรูข้าว
7.ประหยัดการใช้น้ำและเพิ่มรอบการปลูก เนื่องจากข้าวลูกผสมมีอายุการเก็บเกี่ยวสั้นกว่าข้าวพันธุ์ทั่วไป
อย่างไรก็ดี แม้ว่าในไทยนั้นยังมีข้อถกเถียงถึงการให้เกษตรกรหันมาปลูกข้าวลูกผสมกันอยู่ว่า เหมาะสมกับประเทศไทยหรือไม่ เนื่องเพราะเป็นห่วงว่าจะถูกภาคเอกชนผูกขาดด้านเมล็ดพันธุ์อีกทั้งอาจมีผลต่อการทำลายความมั่นคงทางชีวภาพของไทยไป แต่อย่าลืมว่าในสถานการณ์วิกฤตขาดแคลนอาหารโลก โดยเฉพาะยักษ์ใหญ่อย่างจีนที่เกรงว่าพลเมืองจำนวนมากของจีนจะเกิดวิกฤตขาดแคลนอาหาร
“ข้าวลูกผสม”จึงเปรียบเป็นพระเอกที่มาช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างดี...