<< เชียงรายเอ็นดูโร่ (CHIANGRAI ENDURO CLUB) #2 >>

[OASIS]

ออกบ้านแต่เช้า

[OASIS]

2015 KTM 390 Duke เปิดราคาในอเมริการแล้ว แตะ 5000 เหรียญ

KTM ได้แถลงข่าวอย่างเป็นทางการแล้วถึงการที่ 390 Duke จะวางจำหน่ายในอเมริกาในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ โดยจะมีราคาอยู่ที่ $4,999 USD หรือราวๆ 150,000 บาท

ทั้งนี้ 390 Duke นั้นจะเป็นรายการถัดไปจาก 690 Duke และ 1290 Super Duke R ในกลุ่มของมอเตอร์ไซค์แนวเนคเก็ตที่วางขายในตลาดอเมริกา
ทั้งนี้มอเตอร์ไซค์รุ่นเล็กอย่าง 125 และ 200 Duke นั้นจะไม่จำหน่ายในอเมริกาเหมือนประเทศอื่นๆเนื่องจากถือว่ามีซีซีต่ำไปสำหรับตลาดนี้

สำหรับ 390 Duke นั้น จะมีเครื่องยนต์ขนาด 373cc แบบสี่วาล์วสูบเดี่ยวแบบเดียวกับในรุ่น RC 390 โดยจะให้แรงม้าที่ 44 แรงม้า

ทั้งนี้ Duke รุ่นเนคเก็ตนี้จะมีเฟรมเหล็กถักแบบเดียวกับ RC390 แต่จะมีมุมบังคับเลี้ยวที่แคบกว่า ระยะระหว่างล้อของ 390 Duke
นั้นอยู่ที่ 53.8 น้ิวซึ่งจะยาวกว่า RC390 อยู่ราวๆ 1 นิ้ว แต่ระยะใต้ท้องเครื่องจะน้อยกว่า ถังน้ำมันก็จะใหญ่ขึ้น แต่ด้วยความจุเพียง 2.9 แกลลอนนั้น
ยังน้อยกว่าของคู่แข่งอย่าง Honda CB300F หรือ GW250 อยู่ครึ่งแกลลอน

ท่านั่งของ 390 Duke นั้นยังตั้งตรงกว่ารุ่น RC น่าจะเพราะแฮนด์ที่กว้างและสูงกว่า ส่วนเบาะนั่งนั้นจะอยู่ที่ 31.4 นิ้วซึ่งต่ำกว่า RC390 อยู่ 0.8 นิ้ว มอเตอร์ไซค์ทั้งสองรุ่นจะมีตะเกียบหน้าแบบหัวกลับขนาด 43มม จาก WP เหมือนกัน ระบบเบรกก็เหมือนกัน และเนื่องจากแฟร์ริ่งนั้นหายไป ทำให้น้ำหนักของ 390 Duke นั้นเบากว่า โดยน้ำหนักรวมอยู่ที่ 306 ปอนด์ เทียบกับรุ่น RC ที่อยู่ที่ 324 ปอนด์

ที่มา blog.motorcycle.com

[OASIS]

HONDA XL 125 รถวิบากคลาสสิค

เจาะเวลาหาอดีต…! HONDA XL 125 ม้าผยอง เครื่องยนต์รหัส XL เป็นบล็อกเครื่องยนต์ที่ได้รับการยอมรับ
ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันในเรื่องของความแรง ทนทาน ใช้งานลืมซ่อม กับมอเตอร์ไซค์ 2 ล้อที่วัยสะรุ่นในอดีตใช้ซิ่ง วิ่ง
แบบโคตรเท่ฉวัดเฉวียน…วนเวียนอยู่หน้าบ้านสาวพอมาถึงยุคเราๆ ก็กลายเป็นมอเตอร์ไซค์ที่หายาก…ลำบาก
แถมยังราคาค่อนข้างสูง บ้างก็ปั่นหุ้นกันจนกู้ไม่ไหว ไปไม่กลับ จับไม่ลง อันนั้นก็คงให้เจ้าของเก็บไว้เชยชมเองน่าจะดี

รถสไตล์วิบาก มีไฟมาลงให้ได้ชื่นชมสมใจโก๋เก่า โก๋ใหม่ และกี๋ที่พกแป้ง (แต่เดี๋ยวนี้เรียกสก๊อย) เชื่อว่าน่าจะเป็นรถที่หายาก
และอยากจะหายากรุ่นหนึ่งในตลาดรถมอเตอร์ไซค์บ้านเราในชั่วโมงนี้ก็น่าจะไม่ผิดเพี้ยน

http://www.motocross.in.th/honda-xl-125-%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B2%
E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%AA%
E0%B8%B4%E0%B8%84/

[OASIS]

HONDA XL 175

[OASIS]

Honda XL 100

[OASIS]

 

[OASIS]

Honda CB125F ใหม่ กำลังจะเปิดตัวในยุโรป

Honda ได้ประกาศออกมาแล้วว่ามอเตอร์ไซค์ตัวใหม่ CB125F จะเปิดตัวในยุโรปครั้งแรกในวันเสาร์นี้ที่งาน Motorcycle Live
โดยมอเตอร์ไซค์ตัวนี้จะเป็นตัวต่อมาของรุ่น CBF125 ซึ่งได้รับการปรับปรุงขนานใหญ่ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ พร้อม Balancer shaft ที่จะลดการสั่นลง
มีแชซซีใหม่ พร้อมล้อขนาด 18 นิ้วแบบ 6 ก้าน

เครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์ตัวใหม่นี้มีขนาด 124.7 ซีซี ซึ่งจะให้พลังน้อยกว่าเก่า โดยแรงม้าจะอยู่ที่ 10.5 แรงม้า และแรงบิดที่ 7.5 ปอนด์ฟุต
เทียบกับรุ่นปัจจุบันที่อยู่ที่ 11.1 แรงม้าและแรงบิดที่ 8.3 ฟุต

แต่ทาง Honda กล่าวว่าตัวเลขเหล่านั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น การมุ่งมั่นทำงานของทีมวิศวกรนั้นจะเกี่ยวข้องกับการเป็นมิตรของพลังเครื่องยนต์ในสภาพความเป็นจริง
หรือแปลไทยเป็นไทยอีกทีคือ แรงบิดในช่วงรอบต่ำและกลางที่เหลือเฟือ พร้อมการตอบสนองของคันเร่งที่สุดยอดสำหรับการเร่งออกตัวและการขับขี่ในเมือง
การตอบสนองของเครื่องยนต์และต่อคันเร่งจะสังเกตเห็นได้ชัดว่าทรงพลังขึ้น

สำหรับในตลาดอังกฤษแล้ว มอเตอร์ไซค์ CBF125 นั้นถือเป็นรุ่นขนาด 125 ที่ขายดีที่สุดในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แต่ประสบปัญหาการเกิดสนิมก่อนเวลาอันควร
ซึ่งทาง Honda กล่าวว่าการประกอบรถตอนนี้ก็ได้มีการพัฒนาขึ้นกว่าเดิมมาก

ทั้งนี้มอเตอร์ไซค์ CB125F จะวางขายปีหน้าซึ่งจะมีสีเหลือง น้ำเงิน แดง และจะถูกนำมาแสดงใงาน Motorcycle Live
ตั้งแต่วันที่ 22 ถึง 30 พฤศจิกายนนี้

ที่มา visordown.com

[OASIS]

Ducati Scrambler ได้ชื่อว่าเป็นมอไซค์สวยที่สุดในงาน EICMA 2014

นิตยสารของอิตาลีชื่อ Motociclismo ได้สำรวจเสียงโหวด ผลคือ Ducati Scrambler
ได้คะแนนเป็นมอเตอร์ไซค์ที่สวยที่สุดในงานแสดงมอเตอร์ไซค์ครั้งนี้ ซึ่งก็คืองาน 2014 EICMA นั่นเอง

มอเตอร์ไซค์ Scrambler นั้นถือเป็นเรื่องประหลาดใจกันเล็กน้อย เนื่องจากได้มีการเปิดตัวไปไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ในงาน Intermot show ไปแล้ว
แต่ก็ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นด้วยสัดส่วน 43% จากผลโพลของประมาณ 10,000 ผู้เยี่ยมชม
นำหน้าทิ้งห่าง MV Agusta Brutale 800 Dragster RR ซึ่งมาเป็นลำดับสองที่ 15%

โดยผลคะแนนของมอเตอร์ไซค์ที่สวยที่สุดในงานนี้มีดังนี้

1. Ducati Scrambler (43%)
2. MV Agusta Brutale RR Dragster 800 (15%)
3. Yamaha YZF-R1 (14%)
4. Aprilia Tuono V4 Factory in 1100 (8%)
5. BMW S 1000 XR (6%)
6. Moto Guzzi Eldorado (3%)
7. Honda Crossrunner (2%)
8. Husqvarna 701 Supermoto (2%)
9. Triumph Street Triple RX (1%)
10. Suzuki GSX-S1000F (1%)

อย่างไรก็ตามคะแนนเหล่านี้อาจจะมีความลำเอียงไปบ้าง เนื่องจากจะมีแต่คนอิตาเลี่ยนที่ไปให้ความเห็น
ในงานมอเตอร์โชว์ในประเทศตัวเอง ซึ่งกลายเป็นว่าปีนี้เป็นปีที่ 10 ติดต่อกันที่มอเตอร์ไซค์อิตาเลี่ยนชนะผลโหวตแนวนี้
ซึ่งถ้าดูตามสถิติด้านล่างแล้วก็ไม่น่าแปลกใจนัก

ผลโหวดมอไซค์สวยสุดในปีที่ผ่านมา

2005 MV Agusta Brutale 910 R
2006 Ducati 1098
2007 MV Agusta Brutale 1078RR
2008 Ducati Streetfighter
2009 Ducati Multistrada 1200
2010 MV Agusta F3
2011 Ducati 1199 Panigale
2012 MV Agusta Rivale 800
2013 Ducati Monster 1200S
2014 Ducati Scrambler

ว่าแต่คุณจะเห็นด้วยกับผลโพลนี้หรือเปล่าละครับ

ที่มา blog.motorcycle.com

[ton xr]

Honda CB125F ใหม่ กำลังจะเปิดตัวในยุโรป

Honda ได้ประกาศออกมาแล้วว่ามอเตอร์ไซค์ตัวใหม่ CB125F จะเปิดตัวในยุโรปครั้งแรกในวันเสาร์นี้ที่งาน Motorcycle Live
โดยมอเตอร์ไซค์ตัวนี้จะเป็นตัวต่อมาของรุ่น CBF125 ซึ่งได้รับการปรับปรุงขนานใหญ่ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ พร้อม Balancer shaft ที่จะลดการสั่นลง
มีแชซซีใหม่ พร้อมล้อขนาด 18 นิ้วแบบ 6 ก้าน

เครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์ตัวใหม่นี้มีขนาด 124.7 ซีซี ซึ่งจะให้พลังน้อยกว่าเก่า โดยแรงม้าจะอยู่ที่ 10.5 แรงม้า และแรงบิดที่ 7.5 ปอนด์ฟุต
เทียบกับรุ่นปัจจุบันที่อยู่ที่ 11.1 แรงม้าและแรงบิดที่ 8.3 ฟุต

แต่ทาง Honda กล่าวว่าตัวเลขเหล่านั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น การมุ่งมั่นทำงานของทีมวิศวกรนั้นจะเกี่ยวข้องกับการเป็นมิตรของพลังเครื่องยนต์ในสภาพความเป็นจริง
หรือแปลไทยเป็นไทยอีกทีคือ แรงบิดในช่วงรอบต่ำและกลางที่เหลือเฟือ พร้อมการตอบสนองของคันเร่งที่สุดยอดสำหรับการเร่งออกตัวและการขับขี่ในเมือง
การตอบสนองของเครื่องยนต์และต่อคันเร่งจะสังเกตเห็นได้ชัดว่าทรงพลังขึ้น

สำหรับในตลาดอังกฤษแล้ว มอเตอร์ไซค์ CBF125 นั้นถือเป็นรุ่นขนาด 125 ที่ขายดีที่สุดในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แต่ประสบปัญหาการเกิดสนิมก่อนเวลาอันควร
ซึ่งทาง Honda กล่าวว่าการประกอบรถตอนนี้ก็ได้มีการพัฒนาขึ้นกว่าเดิมมาก

ทั้งนี้มอเตอร์ไซค์ CB125F จะวางขายปีหน้าซึ่งจะมีสีเหลือง น้ำเงิน แดง และจะถูกนำมาแสดงใงาน Motorcycle Live
ตั้งแต่วันที่ 22 ถึง 30 พฤศจิกายนนี้

ที่มา visordown.com

งามอยู่แต่คงบ่าปอมือ

[ton xr]

Honda CB125F ใหม่ กำลังจะเปิดตัวในยุโรป

Honda ได้ประกาศออกมาแล้วว่ามอเตอร์ไซค์ตัวใหม่ CB125F จะเปิดตัวในยุโรปครั้งแรกในวันเสาร์นี้ที่งาน Motorcycle Live
โดยมอเตอร์ไซค์ตัวนี้จะเป็นตัวต่อมาของรุ่น CBF125 ซึ่งได้รับการปรับปรุงขนานใหญ่ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ พร้อม Balancer shaft ที่จะลดการสั่นลง
มีแชซซีใหม่ พร้อมล้อขนาด 18 นิ้วแบบ 6 ก้าน

เครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์ตัวใหม่นี้มีขนาด 124.7 ซีซี ซึ่งจะให้พลังน้อยกว่าเก่า โดยแรงม้าจะอยู่ที่ 10.5 แรงม้า และแรงบิดที่ 7.5 ปอนด์ฟุต
เทียบกับรุ่นปัจจุบันที่อยู่ที่ 11.1 แรงม้าและแรงบิดที่ 8.3 ฟุต

แต่ทาง Honda กล่าวว่าตัวเลขเหล่านั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น การมุ่งมั่นทำงานของทีมวิศวกรนั้นจะเกี่ยวข้องกับการเป็นมิตรของพลังเครื่องยนต์ในสภาพความเป็นจริง
หรือแปลไทยเป็นไทยอีกทีคือ แรงบิดในช่วงรอบต่ำและกลางที่เหลือเฟือ พร้อมการตอบสนองของคันเร่งที่สุดยอดสำหรับการเร่งออกตัวและการขับขี่ในเมือง
การตอบสนองของเครื่องยนต์และต่อคันเร่งจะสังเกตเห็นได้ชัดว่าทรงพลังขึ้น

สำหรับในตลาดอังกฤษแล้ว มอเตอร์ไซค์ CBF125 นั้นถือเป็นรุ่นขนาด 125 ที่ขายดีที่สุดในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แต่ประสบปัญหาการเกิดสนิมก่อนเวลาอันควร
ซึ่งทาง Honda กล่าวว่าการประกอบรถตอนนี้ก็ได้มีการพัฒนาขึ้นกว่าเดิมมาก

ทั้งนี้มอเตอร์ไซค์ CB125F จะวางขายปีหน้าซึ่งจะมีสีเหลือง น้ำเงิน แดง และจะถูกนำมาแสดงใงาน Motorcycle Live
ตั้งแต่วันที่ 22 ถึง 30 พฤศจิกายนนี้

ที่มา visordown.com

งามอยู่แต่คงบ่าปอมือ

[OASIS]

วิธีการเลือกซื้อรองเท้าสำหรับรถวิบาก

  จริงๆแล้วในการเลือกซื้อรองเท้าโดยทั่วไปแล้ว อาจจะไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไรมากมายนัก
เราก็แค่เพียงเดินเข้าไปยังร้านขายรองเท้าสำหรับขับขี่รถวิบากทั่วๆไปแล้วทำการเลือกสี ลาย และยี่ห้อที่ต้องการ
หลังจากนั้นลองสวมใส่ดูว่าพอดีกับเท้าของเราหรือไม่ก็แค่นั้นเอง

      แต่ที่ทางทีมงาน motocross in thailand จะมานำเสนอข้อมูลและเทคนิคในการเลือกซื้อรองเท้าสำหรับรถวิบากนั้น
ก็เพราะว่ารองเท้าวิบากนั้นไม่ได้มีจำหน่ายตามร้านรองเท้าหรือร้านอุปกรณ์กีฬาโดยทั่วไป ซึ่งจะมีขายที่เป็นร้านรองเท้าเฉพาะ
หรือร้านขายมอเตอร์ไซค์วิบากเท่านั้น รวมถึงการดำเนินการสั่งซื้อจากเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งในการเลือกสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์
ก็จะทำให้เราไม่ได้ทำการลองสวมใส่ด้วยตัวเองก่อนสั่งซื้อ จึงจำเป็นจะต้องทำการศึกษาข้อมูลของรองเท้ารุ่นต่างๆให้พร้อมก่อน
เพื่อเป็นการป้องกันความผิดหวังจากการสั่งซื้อสินค้าได้ไม่ตรงตามต้องการ อาจถึงขั้นใส่ไม่ได้กันเลยทีเดียว

   หมายเหตุ เนื่องจากรองเท้ายี่ห้อ SIDI เป็นรองเท้าที่มีปลายเท้าที่เล็กกว่าแบรนด์อิ่นๆ จึงควรเพิ่มเบอร์สำหรับรองเท้าคุณ 1 เบอร์
เพื่อความสะดวกสบายเวลาสวมใส่ สำหรับรองเท้าที่มีซับด้านในรองเท้า (Booty) ควรเพิ่มเบอร์ด้วยเช่นกัน เช่น Tech8, Tech10 เป็นต้นครับ

  สุดท้ายหลังจากที่ทำการศึกษาข้อมูลและทำการเลือกซื้อรองเท้าบู๊ทที่ต้องการมาได้แล้ว เราก็ควรจะทำการดูแลรักษารองเท้าของเราให้ดีๆ
เพื่อที่จะให้มันอยู่กับเราไปได้นานๆ อีกทั้งยังเป็นการช่วยประหยัดเงินจากการที่จะต้องซื้อรองเท้าคู่ใหม่บ่อยๆอีกด้วย

http://www.motocross.in.th/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%
B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%
B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%
E0%B9%89/

[OASIS]

สาวฝรั่งใจกล้าท้าผู้ชายถอดกางเกงริมถนนให้คลำเป้า

อุแม่เจ้า สาวฝรั่งเซ็กซี่ ขาวจั๊วะ ถือป้ายท้าผู้ชายถอดกางเกงริมถนนให้เธอคลำเป้า รณรงค์ใส่ใจมะเร็งต่อมลูกหมาก
 
          ผู้ชายหลาย ๆ คนอาจจะไม่ทราบว่า การตรวจอวัยวะเพศของตัวเองเพื่อหาสิ่งผิดปกตินั้น ถือเป็นปัญหาสุขภาพที่ควรให้ความสำคัญ
โดยเฉพาะก้อนเนื้อประหลาดที่อาจเป็นสาเหตุของมะเร็งต่อมลูกหมากได้ และในเดือนพฤศจิกายน ที่เป็นเดือนแห่งการกระตุ้นเตือนให้ผู้ชายหันมาใส่ใจตรวจสุขภาพ
ทีมงาน Simple Pickup จึงจัดกิจกรรมชวนสยิว ให้สาวสวยแต่งกายด้วยชุดนางพยาบาลสุดเซ็กซี่ ไปยืนเป็นอาสาสมัครคลำเป้า
หาก้อนเนื้อที่อาจจะเป็นสาเหตุของมะเร็งต่อมลูกหมากให้ชายหนุ่มแบบฟรี ๆ
แต่ต้องทำกันในที่สาธารณะเลยนะจ๊ะ งานนี้ผู้ชายจะชอบหรือจะยี้ มามะ.. ตามไปดูกัน

          ในคลิปวิดีโอดังกล่าว เผยให้เห็นว่า สาวสวยและทีมงานได้เข้าไปถามชายที่เดินผ่านไปผ่านมา และอาสาตรวจอวัยวะเพศให้ฟรี
ซึ่งหลายคนก็ดูค่อนข้างจะต๊กกะใจและหวาดระแวงกับการตรวจหามะเร็งต่อมลูกหมากกลางถนนแบบนี้
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีชายใจกล้า 6 คน ที่รับคำท้า ให้สาวใช้มือตรวจอวัยวะเพศให้แบบฟรี ๆ โอ้มายก็อดดดดดด

          แม้ว่าคลิปวิดีโอนี้จะดูทะลึ่งตึงตังไปสักหน่อย แต่ทีมงานก็ได้สรุปทิ้งท้ายว่า
คลิปนี้จัดทำขึ้น เพื่อกระตุ้นเตือนให้ผู้ชายตรวจหามะเร็งต่อมลูกหมากนะ และการทำเช่นนี้ก็เรียกความสนใจได้ดีจริง ๆ

          ทั้งนี้ สำหรับภารกิจนี้ไม่ใช่แค่กระตุ้นเตือนให้ผู้ชายหันมาใส่ใจกับมะเร็งต่อมลูกหมากมากขึ้นเท่านั้น
แต่หากชายคนไหนใจกล้าอาสาให้สาวคลำเป้าแล้ว ทีมงานจะบริจาคเงิน 100 ดอลลาร์ (3,280 บาท)
ให้กับกลุ่ม movember ซึ่งเป็นกลุ่มรณรงค์เพื่อให้ผู้ชายตระหนักเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเอง รวมถึงสุขภาพจิต
และอาการต่าง ๆ ที่อาจเป็นสาเหตุของมะเร็งต่อมลูกหมากได้
http://hilight.kapook.com/view/111636

[OASIS]

Honda GoldWing F6C

ก่อนหน้านี้เราก็ได้นำเสนอเรื่องราวของมอเตอร์ไซค์ Gold Wing ที่ออกรุ่นครบรอบ 40 ปีกันมาแล้ว โดยมาพร้อมกับสีใหม่และพิมพ์ตัวอักษร 40th Anniversary ตามตำแหน่งต่างๆ จนผู้อ่านบางท่านส่งคอมเม้นท์มาว่า ถ้า Gold Wing เอาส่วนประกอบเทอะทะต่างๆออกไป แล้วมีอุปกรณ์เท่าที่จำเป็นแล้วขายให้ถูกกว่าเดิมซึกครึ่งนึง รับรองขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแน่นอน

กลับกลายเป็นว่า Honda ทำออกมาอย่างนั้นจริงๆ GoldWind F6C ซึ่งชื่อก็บ่งบอกได้ว่าเป็น GoldWing ที่เอาแฟร์ริ่งและส่วนที่เทอะทะออกไป เหลือไว้ตรงความสวยงามของเฟรมอลูมิเนียมและเครื่องยนต์ 1832cc เกียร์ 5 สปีดตามที่เห็น

ผลที่ได้คือ Flat-Six Custom หรือเราเรียกกันย่อๆว่า F6C นั่นเอง คำว่า Flat ก็แปลว่าราบเรียบไม่มีส่วนเพิ่มเติมให้เทอะทะ

มอเตอร์ไซค์คันนี้เปิดตัวเมื่อเดือน กรกฏาคมที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าข่าวคราวจะออกมาเงียบๆ หรือเพราะข่าวของมอไซค์คันอื่นกลบไปเสียก็ไม่รู้

กลับมาเรื่อง GoldWing F6C กันต่อ ราคาแม้ว่าจะไม่ได้ลดลงถึงครึ่ง แต่ราคาในอังกฤษนั้นอยู่ที่ 17,999 ปอนด์ (ราว 900,000 บาท) ลดลงจากรุ่นเต็ม 8,000 ปอนด์ด้วยกัน (400,000 บาท) ด้วยราคาที่ลดต่ำลงนั้นก็ต้องขาดไปทั้งเครื่องเสียงและเกียร์ถอยหลังไป

จะว่าไปแล้วมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ก็เหมือนจะถ่ายทอดคุณลักษณะจาก 1975 GL1000 Gold Wing ที่เป็นรุ่นเนคเก็ต flat-four นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทาง Honda นำพา GoldWing ย้อนยุคกลับไป เพราะอย่าง 1996 Valkyrie ก็เคยถอดส่วนประกอบต่างๆออกจากตัว 1500cc Wing เหมือนกันกับคันนี้

แม้จะถอดอะไรออกไปหลายๆอย่างก็ตาม F6C คันนี้ก็ยังมีน้ำหนักอยู่ที่ 341 กิโลกรัม แต่ก็ไม่ต้องแปลกใจที่ทาง Honda เหมือนจะรู้ดีว่าจะทำอย่างไรให้มอเตอร์ไซค์หนักๆแบบนี้ขับได้สบายๆ ก่อนหน้านี้ผมได้ลองขับ CTX1300 หนัก 338 กิโลกรัมมาแล้วว่าขับได้ไม่ยาก และเจ้า F6C ตัวนี้ก็เช่นกัน

ขณะที่มอเตอร์ไซค์คันนี้หยุดนิ่ง จุดศูนย์ถ่วงที่อยู่ต่ำจะทำให้รู้สึกว่าเบากว่าที่คาด ขณะที่มันเคลื่อนที่ก็บังคับเลี้ยวได้เร็ว ส่วนที่เสริมก็เป็นบาร์ที่กว้างพร้อมล้อหน้าที่เล็กลง (130/60 Dunlop Sportmax เทียบกับ GoldWing ธรรมดาที่ใช้ 130/70)

การขับขี่รู้สึกได้ถึงความนุ่มนวล เข้าโค้งได้ง่าย พร้อมพื้นที่ใต้ท้องที่เหมาะสมที่อาจจะดูไม่เข้ากับการเป็นมอไซค์แนว cruiser ซักเท่าไหร่ ที่วางเท้านั้นใหญ่ เรียบและเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม

ในส่วนของตัวถังและระบบกันสะเทือนนั้น ตะเกียบหน้าเป็นแบบปรับค่าไม่ได้ส่วนโช้คหลังนั้นปรับค่าพรีโหลดได้ รวมแล้วทำให้รู้สึกมั่นใจได้ถึงการทรงตัวทั้งในระหว่างการเข้าโค้ง การขับบนผิวถนนขรุขระและรวมไปถึงการเบรกแรงๆ เรื่องล้อหน้าสั่นก็คงจะลืมไปได้เลย

เบรก ABS นั้นมาเป็นมาตรฐาน แต่คิดว่าอยากจะได้แรงจับจากจานคู่ขนาด 310 มม ของล้อหน้าเพ่ิมอีกซักหน่อย ผมต้องใช้นิ้วสองนิ้วกำอย่างแรงเวลาต้องการหยุดแบบทันทีทันใด

ในส่วนของแรงบิดที่กระจายไปยังทุกช่วงก็ยังคงอยู่บนมอเตอร์ไซค์ F6C คันนี้ โดยมอเตอร์ไซค์คันนี้ไม่ถึงกับว่าจะเร็วสุดๆหรือช้าเอื่อยๆ แต่เป็นมอเตอร์ไซค์ที่อาร์โนลควรขับในเรื่อง Terminator 2 แทนที่จะเป็นยี่ห้อฮาร์เลย์ซะมากกว่า

ที่เกียร์ต่ำมันพุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร่งเหลือเฟือจาก 2,000 รอบต่อนาที ไปยังเส้นแดงที่ 6,000 รอบต่อนาที ทำความเร็วได้เต็มที่ 64 กม/ชม ในเกียร์ 1 แรงบิดก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้กำลังจะแตะขีดแดงก็ตาม บางทีอาจจะทำให้เราบิดผ่านมันไปได้ง่ายๆหากสายตาไม่ได้ดูเข็มวัดรอบ

โน้ตเสียงที่ออกมาจากท่อไอเสียก็ไม่ได้ดังมากเพราะนี่คือ Honda แต่ก็ให้เสียงกระหึ่มน่าประทับใจจากหกสูบคันนี้แบบไม่อายใคร

การแซงรถยนต์ไปตามท้องถนนก็ทำได้อย่างสบายๆ การเข้าโค้งก็สุดมันส์ ผมยังถามตัวเองเลยว่าถ้าเอามอไซค์คันใหญ่แบบนี้ไปลงสนามแข่งมันจะเป็นอย่างไร

จะให้เดาก็คงเป็นว่าจะเป็นมอไซค์ที่ขับสบายที่สุดบนสนามแข่ง อาจจะไม่ถึงกับวิ่งได้เร็วสุด แต่ท่านั่งขับนั้นผ่อนคลายและเป็นธรรมชาติด้วยเท้าที่วางอยู่ด้านหน้าคุณ แฮนด์บาร์ที่ยาวจะยื่นมาหาคุณ เลยไม่ต้องถึงกับต้องเอื้อมไปไกลมาก มีแต่การเลี้ยวมุมแคบๆเท่านั้นที่อาจจะทำให้คุณถึงกับต้องเอื้อมไปยังแฮนด์ที่อยู่ด้านนอกวงเลี้ยว

เบาะนั่งก็ทำมาได้ดี กว้างและต่ำ ทำให้คนที่มีความสูงในระดับค่าเฉลี่ยนั้นสามารถเอาเท้าแตะพื้นได้โดยง่าย

ลมต้านนั้นก็ไม่ถึงกับเลวร้ายสำหรับการขับขี่บนทางหลวงที่ความเร็วสูง แต่ก็คงไม่มีใครขับมอไซค์เกิน 130 กม/ชม อยู่นานเกินไปหรอกใช่ไหมครับ หัวสูบและแผงระบายความร้อนนั้นอยู่ไกลพอที่จะกันความร้อนให้ห่างจากขาคุณได้

นอกจากเบรก ABS แล้วก็คงไม่มีลูกเล่นอะไรอื่นให้มากนักด้วยราคานี้ ระบบ Traction Control นั้นไม่มีสำหรับรุ่นนี้ แผงหน้าปัทว์แบบดิจิตอลขนาดเล็กนั้นก็ดูดี โดยจะเป็นตัวอักษรสีเทาบนพื้นหลังสีดำ แต่ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรมากตามมาตรฐานของยุคนี้นอกจากระดับน้ำมัน

มีที่ล้อคหมวกกันน้อคด้วยซึ่งก็ไม่ได้พบเห็นลักษณะนี้บนมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ๆมาเกือบ 20 ปีแล้ว

ที่น่าเสียดายสำหรับ F6C ก็คงเป็นเรื่องของโครเมี่ยมที่มีน้อยไปหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ราคานี้ ตรงไฟหน้า กระจกมองหลัง ฝาปิดถัง ต่างก็เป็นพลาสติค แต่อย่างไรก็ตามมอเตอร์ไซค์คันนี้ย่อมทำให้คนรอบข้างทึ่งกับมัน บางคนเข้ามาถามว่ามันคืออะไรกันเนี่ย และอีกคนบอกว่าโหเครื่องยนต์ใหญ่กว่ารถแวนของเขาซะอีก

อยากได้ความรู้สึกแบบนี้บางไหมหละครับ ก็เตรียมควักกระเป๋าแล้วลองไปขอขับดูได้จากโชว์รูมเลยนะครับถ้าหาเจอว่าใครนำเข้ามาขายบ้างในไทย

ที่มา visordown.com

[OASIS]

 

[OASIS]

 

[OASIS]

Vespa 68 Anniversary Limited Edition

Vespa เปิดตัวสกูตเตอร์รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 68 ปี 2 รุ่น พร้อมสีตัวถังกับสติกเกอร์ใหม่ และเครื่องยนต์แบบใหม่ ผลิตเพียง 400 คัน เท่านั้น

          บริษัท เวสปิอาริโอ ผู้แทนจำหน่ายสกูตเตอร์ระดับตำนาน เวสป้า (Vespa) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดตัวสกูตเตอร์รุ่นพิเศษฉลองวาระครบรอบ 68 ปี ของแบรนดเวสป้ากับรุ่นพิเศษที่ใช้ชื่อว่า เวสป้า ซิกซ์ตี้เอท แอนนิเวอร์ซารี่ ลิมิเต็ด อิดิชั่น (Vespa 68 Anniversary Limited Edition) นำที่ได้นำสกูตเตอร์ 2 รุ่น ยอดฮิตมาแต่งเติมเสริมความหล่อด้วยชุดแต่งและสีตัวถังพิเศษ แถมผลิตเพียง 400 คัน บนโลกเท่านั้น เพื่อคนรักเวสป้าชาวไทยโดยเฉพาะ

          สำหรับโมเดลพิเศษนี้ ได้นำเวสป้ารุ่น พรีมาเวร่า (Vespa Primavera) รุ่นไฟหน้าทรงกลม และสปรินท์ (Vespa Sprint) ที่โดดเด่นด้วยไฟหน้าทรงเหลี่ยมแบบสปอร์ต ทั้งคู่ถูกเสริมความเท่ด้วยตัวรถสี เขียว กรีน มัสชิโอ ที่ดูเหมือนสีดำแต่เหมือนโดนแสงสีขาวก็จะเปล่งประกายสีเขียวออกมา พร้อมกับป้ายเหล็กหน้ารถและสติกเกอร์ด้านข้างเป็นตัวเลข 68 พร้อมกับป้ายแสดงรุ่นพิเศษอยู่ด้านใน บ่งบอกถึงการเฉลิมฉลองวาระดังกล่าวอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งแนวทางการออกแบบทั้งหมดได้แรงบันดาลใจมาจากนวัตกรรมเครื่องบินในยุคปี 1960 ซึ่งกิจการดั้งเดิมของบริษัทพิอาจิโอ (Piaggio) ผู้ผลิตเวสป้า
แม้จะออกแบบอย่างคลาสสิกแต่อุปกรณ์ก็จัดเต็มความทันสมัย โดยทั้งคู่มาพร้อมระบบส่องสว่างแบบ LED มาตรวัดแบบเข็มพร้อมหน้าจอ LCD แสดงข้อมูลการขับขี่ เบาะนั่งหนังอย่างดีสไตล์คลาสสิก ส่วนด้านการขับขี่ทั้งคู่มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 150 ซีซี กำลัง 11.6 แรงม้า แรงบิด 12 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์ CVT ที่ประหยัดน้ำมันมากถึง 55 กม./ลิตร

          ส่วนด้านการขับขี่ พรีมาเวร่าจะเน้นที่ความนุ่มนวลแบบคลาสสิกด้วยล้ออัลลอยขนาด 11 นิ้ว และโช้คอัพเดี่ยวที่ปรับให้มีความนุ่มนวลตลอดการเดินทาง ส่วนสปรินท์มีเอกลักษณ์ที่ความสปอร์ตและกระฉับกระเฉงด้วยล้ออัลลอยขนาด 12 นิ้ว โช้คอัพปรับแต่งแบบสปอร์ตพร้อมสปริงสีแดง และระบบกันสะเทือน ESS ซึ่งช่วยให้ขับขี่ได้มั่นใจและสนุกยิ่งขึ้น

          สกูตเตอร์ เวสป้ารุ่นพิเศษได้เริ่มจำหน่ายแล้ว โดยรุ่นพรีมาเวร่า ราคา 118,900 บาท ส่วนรุ่นสปรินท์ ราคา 124,900 บาท ซึ่งเวสป้าจะผลิตเพียงรุ่นละ 200 คัน รวมเป็น 400 คัน และพิเศษเพื่อจำหน่ายในประเทศไทยเท่านั้น และยังมาพร้อมชุดของที่ระลึกสไตล์วินเทจ อันประกอบด้วยหมวกกันน็อก แว่นตา ถุงมือ กระเป๋า เสื้อยืด และอื่น ๆ รวมมูลค่ากว่า 5,000 บาท ให้กับลูกค้าไปฟรี ๆ ด้วย สาวกเวสป้าท่านใดที่สนใจก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ตัวแทนจำหน่ายเวสป้าทั่วประเทศครับ
http://car.kapook.com/view104938.html

[OASIS]

 

[thisa]

คัน นี้หน้าสนจัง

[KwanchaiPomm]

คัน นี้หน้าสนจัง

คันไหนกันแน่ 

[OASIS]

พุกนี้ "พญาไพร"  หน้าศาลากลาง 8.30 น. ห่อข้าวไปตวยนะครับ

ทางดอยยาวไกล นานๆ ไปที