ขอแยกหมู่บ้านทำไงครับ

[chomodo]

ขออนุญาติถามผู้รู้หน่อยนะครับ คือผมอยากทราบว่าการขอแยกหมู่บ้านนี่ต้องทำไงบ้างอ่ะครับพอดีหาใน google ก็ไม่ค่อยมีรายละเีอียดเลยอ่ะครับ พอดีว่าหมู่บ้านผมเป็นหมู่ผลที่พ่วงกับอีกหมู่บ้านหนึ่งที่ห่างกันประมาณ 3 กิโล อ่ะครับ หมู่บ้านผมมี หกสิบกว่าหลังคาเรือน มีประชากร สองร้อยกว่าคน ไม่ทราบว่าต้องทำเรื่องอย่างไงบ้างอ่ะครับอยากทราบ เพราะงบประมาณมาไม่ถึงหมู่บ้านผมเลยการบริหารก็ไม่ทั่วถึงเลยอ่ะครับทั้งๆที่หมู่บ้านผมก็มีพี่ๆที่เค้ามีความสามารถที่จะบริหารหมู่บ้านได้เช่นกันอ่ะครับ ใครรู้ช่วยแนะนำหน่อยครับ

[@เชียงแสน]

...ลองเข้าไปดูหลักเกณฑ์การจัดตั้งหมู่บ้าน ตำบล กิ่งอำเภอและอำเภอ ของมติคณะรัฐมนตรี  วันที่ 14 พฤษภาคม 2539 ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ลองค้นหาจาก google.co.th ครับ...

[۰•ฮักแม่จัน©®]

มีหัวเก๊ารึยังครับ จะทำการใหญ่ ต้องมีผู้นำครับ

[–•“IdD”•–]

ตาม พระราชบัญญัติ
ลักษณะปกครองท้องที่
พ.ศ. ๒๔๕๗

หมวดที่ ๓
ว่าด้วยลักษณะปกครองหมู่บ้าน
ตอน ๑
การตั้งหมู่บ้าน

           มาตรา ๘ บ้าน หลายบ้านอยู่ในท้องที่อันหนึ่ง ซึ่งควรอยู่ในความปกครองเดียวกันได้ ให้จัดเป็นหมู่บ้านหนึ่ง ลักษณะที่กำหนดหมู่บ้านตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ถือความสะดวกแก่การปกครองเป็นประมาณ คือ
           ข้อ ๑ ถ้าเป็นที่มีคนอยู่รวมกันมาก ถึงจำนวนบ้านน้อย ให้ถือเอาจำนวนคนเป็นสำคัญประมาณราว ๒๐๐ คนเป็นหมู่บ้านหนึ่ง
           ข้อ ๒ ถ้าเป็นที่ผู้คนตั้งบ้านเรือนอยู่ห่างไกลกัน ถึงจำนวนคนน้อยถ้าและจำนวนบ้านไม่ต่ำกว่า ๕ บ้านแล้ว จะจัดเป็นหมู่บ้านหนึ่งก็ได้

ต้องผ่านเกณท์ที่ว่ามาก่อนน่ะครับ แล้วต้องผ่าน การประชาคม ผ่าน อบต. อำเภอ แล้วก็จังหวัดว่าดูถึงการคุมทุนอะไรทำไมต่างๆ ถ้าผ่านอะไรต่างๆแล้ว จังหวัดก็จะส่งเรื่องถึงกระทรวงมหาดไทย  กระทรวงมหาดไทย ก็จะส่งเรื่องไปที่สำนักงบประมาณอีก ถ้าสำนักงบประมาณผ่านก็ ได้ตั้งแล้วครับ


จากที่ผมเห็นน่ะครับ 3กิโลยังไม่ถึงว่าไกลมาก เพราะหลักความไกล ต้องบ้านบนภูเขา ที่ห่างจากเขตชุมชนหลักมากๆ
และไม่ทราบว่าทั้งหมดหมู๋บ้านหรือเฉพาะเขตของท่านที่ ประมาณ 200 คน

ผมว่าน่ะครับ ลองไปคุยกับผู้ใหญ่บ้านกับ ส.อบต. ดูครับ การจะทำอะไรก็ตามในหมู่บ้านจะมีการประชาคมเสมอน่ะครับ ลองไปมีสวนร่วนในการอะไรในหมู่บ้านดูครับ

[chomodo]

มีหัวเก๊ารึยังครับ จะทำการใหญ่ ต้องมีผู้นำครับ

มีแล้วครับท่านคือมีผู้ใหญ่ๆทางหมู่บ้านอ่ะเค้าบริหารได้นะครับ แต่ยังขาดขั้นตอนอย่างเป็นระบบเพื่อขอยื่นเพื่อแยกอ่ะครับ

[chomodo]

ตาม พระราชบัญญัติ
ลักษณะปกครองท้องที่
พ.ศ. ๒๔๕๗

หมวดที่ ๓
ว่าด้วยลักษณะปกครองหมู่บ้าน
ตอน ๑
การตั้งหมู่บ้าน

           มาตรา ๘ บ้าน หลายบ้านอยู่ในท้องที่อันหนึ่ง ซึ่งควรอยู่ในความปกครองเดียวกันได้ ให้จัดเป็นหมู่บ้านหนึ่ง ลักษณะที่กำหนดหมู่บ้านตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ถือความสะดวกแก่การปกครองเป็นประมาณ คือ
           ข้อ ๑ ถ้าเป็นที่มีคนอยู่รวมกันมาก ถึงจำนวนบ้านน้อย ให้ถือเอาจำนวนคนเป็นสำคัญประมาณราว ๒๐๐ คนเป็นหมู่บ้านหนึ่ง
           ข้อ ๒ ถ้าเป็นที่ผู้คนตั้งบ้านเรือนอยู่ห่างไกลกัน ถึงจำนวนคนน้อยถ้าและจำนวนบ้านไม่ต่ำกว่า ๕ บ้านแล้ว จะจัดเป็นหมู่บ้านหนึ่งก็ได้

ต้องผ่านเกณท์ที่ว่ามาก่อนน่ะครับ แล้วต้องผ่าน การประชาคม ผ่าน อบต. อำเภอ แล้วก็จังหวัดว่าดูถึงการคุมทุนอะไรทำไมต่างๆ ถ้าผ่านอะไรต่างๆแล้ว จังหวัดก็จะส่งเรื่องถึงกระทรวงมหาดไทย  กระทรวงมหาดไทย ก็จะส่งเรื่องไปที่สำนักงบประมาณอีก ถ้าสำนักงบประมาณผ่านก็ ได้ตั้งแล้วครับ


จากที่ผมเห็นน่ะครับ 3กิโลยังไม่ถึงว่าไกลมาก เพราะหลักความไกล ต้องบ้านบนภูเขา ที่ห่างจากเขตชุมชนหลักมากๆ
และไม่ทราบว่าทั้งหมดหมู๋บ้านหรือเฉพาะเขตของท่านที่ ประมาณ 200 คน

ผมว่าน่ะครับ ลองไปคุยกับผู้ใหญ่บ้านกับ ส.อบต. ดูครับ การจะทำอะไรก็ตามในหมู่บ้านจะมีการประชาคมเสมอน่ะครับ ลองไปมีสวนร่วมในการอะไรในหมู่บ้านดูครับ

อย่างที่ท่านพูดแหละครับ 3 กิโลก็ไม่ถึงกับไกลมากอ่ะครับแต่พอดีหมู่บ้านผมมีลักษณะเป็นที่ราบสูงหน่อยๆอ่ะครับ ผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการหมู่บ้านเห็นชอบด้วยแล้วแต่พอดีผู้ใหญ่บ้านไปถามปลัดอำเภอคร่าวๆ บ้างแล้วแต่เหมือนปลัดจะไม่ค่อนสนับสนุนอ่ะครับ แต่ที่อยากแยกเพราะว่างบประมาณเข้ามาไม่ถึงกลุ่มที่ผมอยู่เลยเข้าแต่ส่วนที่เป็นกลุ่มใหญ่ของหมู่บ้านที่อยู่ห่างออกไปอีก 3 กีโลอ่ะครับ ทั้งๆที่หมู่บ้านผมเองก็มีการจัดตั้งให้มีศูนย์เด็กเล็กมีอะไรเหมือนพร้อมเป็นหมู่บ้านได้เลยอ่ะครับ บางครั้งมีงบประมาณมาก็อยากจะให้เด็กๆเยาวชนในหมู่บ้านได้มีโครงการให้เค้าได้ทำบ้างแต่งบก็ไม่ถึงซักทีอ่ะครับ อีกอย่างกลุ่มที่ผมอยู่ไม่ใช่เพิ่งมามีทีหลังนะครับ อาศัยอยู่กันมา สามสิบกว่าปีแล้วเหมือนกันอ่ะครับ ส่วนเรื่องจำนวนประชากรนั้นเฉพาะกลุ่มที่ผมอยู่นั้นมี สองร้อยกว่าคนครับ อย่างไงช่วยแนะนำด้วยนะครับ คือก็ทำอะไรไปบ้างแล้วแต่อยากให้มันทำเป็นระบบให้ดูดีจะได้ผ่านอ่ะครับ อย่างไงช่วยหน่อยนะครับ

[–•“IdD”•–]

ตาม พระราชบัญญัติ
ลักษณะปกครองท้องที่
พ.ศ. ๒๔๕๗

หมวดที่ ๓
ว่าด้วยลักษณะปกครองหมู่บ้าน
ตอน ๑
การตั้งหมู่บ้าน

           มาตรา ๘ บ้าน หลายบ้านอยู่ในท้องที่อันหนึ่ง ซึ่งควรอยู่ในความปกครองเดียวกันได้ ให้จัดเป็นหมู่บ้านหนึ่ง ลักษณะที่กำหนดหมู่บ้านตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ถือความสะดวกแก่การปกครองเป็นประมาณ คือ
           ข้อ ๑ ถ้าเป็นที่มีคนอยู่รวมกันมาก ถึงจำนวนบ้านน้อย ให้ถือเอาจำนวนคนเป็นสำคัญประมาณราว ๒๐๐ คนเป็นหมู่บ้านหนึ่ง
           ข้อ ๒ ถ้าเป็นที่ผู้คนตั้งบ้านเรือนอยู่ห่างไกลกัน ถึงจำนวนคนน้อยถ้าและจำนวนบ้านไม่ต่ำกว่า ๕ บ้านแล้ว จะจัดเป็นหมู่บ้านหนึ่งก็ได้

ต้องผ่านเกณท์ที่ว่ามาก่อนน่ะครับ แล้วต้องผ่าน การประชาคม ผ่าน อบต. อำเภอ แล้วก็จังหวัดว่าดูถึงการคุมทุนอะไรทำไมต่างๆ ถ้าผ่านอะไรต่างๆแล้ว จังหวัดก็จะส่งเรื่องถึงกระทรวงมหาดไทย  กระทรวงมหาดไทย ก็จะส่งเรื่องไปที่สำนักงบประมาณอีก ถ้าสำนักงบประมาณผ่านก็ ได้ตั้งแล้วครับ


จากที่ผมเห็นน่ะครับ 3กิโลยังไม่ถึงว่าไกลมาก เพราะหลักความไกล ต้องบ้านบนภูเขา ที่ห่างจากเขตชุมชนหลักมากๆ
และไม่ทราบว่าทั้งหมดหมู๋บ้านหรือเฉพาะเขตของท่านที่ ประมาณ 200 คน

ผมว่าน่ะครับ ลองไปคุยกับผู้ใหญ่บ้านกับ ส.อบต. ดูครับ การจะทำอะไรก็ตามในหมู่บ้านจะมีการประชาคมเสมอน่ะครับ ลองไปมีสวนร่วมในการอะไรในหมู่บ้านดูครับ

อย่างที่ท่านพูดแหละครับ 3 กิโลก็ไม่ถึงกับไกลมากอ่ะครับแต่พอดีหมู่บ้านผมมีลักษณะเป็นที่ราบสูงหน่อยๆอ่ะครับ ผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการหมู่บ้านเห็นชอบด้วยแล้วแต่พอดีผู้ใหญ่บ้านไปถามปลัดอำเภอคร่าวๆ บ้างแล้วแต่เหมือนปลัดจะไม่ค่อนสนับสนุนอ่ะครับ แต่ที่อยากแยกเพราะว่างบประมาณเข้ามาไม่ถึงกลุ่มที่ผมอยู่เลยเข้าแต่ส่วนที่เป็นกลุ่มใหญ่ของหมู่บ้านที่อยู่ห่างออกไปอีก 3 กีโลอ่ะครับ ทั้งๆที่หมู่บ้านผมเองก็มีการจัดตั้งให้มีศูนย์เด็กเล็กมีอะไรเหมือนพร้อมเป็นหมู่บ้านได้เลยอ่ะครับ บางครั้งมีงบประมาณมาก็อยากจะให้เด็กๆเยาวชนในหมู่บ้านได้มีโครงการให้เค้าได้ทำบ้างแต่งบก็ไม่ถึงซักทีอ่ะครับ อีกอย่างกลุ่มที่ผมอยู่ไม่ใช่เพิ่งมามีทีหลังนะครับ อาศัยอยู่กันมา สามสิบกว่าปีแล้วเหมือนกันอ่ะครับ ส่วนเรื่องจำนวนประชากรนั้นเฉพาะกลุ่มที่ผมอยู่นั้นมี สองร้อยกว่าคนครับ อย่างไงช่วยแนะนำด้วยนะครับ คือก็ทำอะไรไปบ้างแล้วแต่อยากให้มันทำเป็นระบบให้ดูดีจะได้ผ่านอ่ะครับ อย่างไงช่วยหน่อยนะครับ

ท่านต้องเขาไปมีส่วน ร่วมกับหมู่บ้านให้มากกว่านี้ครับ เช่นการเข้าร่วมประชาชม การเข้าประชุมในหมู่บ้าน เป็นต้นการทำเช่นนี้จะทำให้งบประมาณในการบริหารงานจะเข้าถึงมากกว่าจะแยกเป็นหมู่บ้านเพราะต้องเสียเวลานาน แล้วก็บางครั้งเรื่องจะเดินถึงแค่ไม่ถึงไหน เพราะรัฐต้องจ่ายเงินให้กับผู้ใหญ่บ้าน ส.อบต. อสม. กองทุนหมู๋บ้าน SME ฯลฯ ดังนั้นการแยกหมู่บ้านใช่เรื่อง่ายๆ
 ทางที่ดีถ้าอยากให้เข้าร่วมกับทางหมู่บ้านเยอะ ไม่กิจกรรมใดก็ตาม ฟังจากเสียงประชาสัมพันธ์จากผู้ใหญ่บ้านน่ะครับ
 

[romeo28]

แยกหมู่บ้านคงไม่ยากมั้งคับ..แหะๆผมไม่รู้อ่ะคับ
แต่หมู่บ้านที่ผมอยู่ก็แยกจากหมู่บ้านหนึ่งแล้วนะ..มารู้อีกทีแยกซะละ
เมื่อก่อนอยู่ที่หมู่บ้านหนึ่งก็แยกกันเป็น2หมู่บ้าน
เมื่อก่อนอยู่วังดินสมัยนั้นเข้ากับชุมชนเกาะทองแต่ตอนนี้แยกเป็ยหมู่บ้านวังดินแล้ว
ผมว่าต้องให้คนมีเส้นมีสายดำเนินเรื่องดูนะครับ

[triton02]

ตาม พระราชบัญญัติ
ลักษณะปกครองท้องที่
พ.ศ. ๒๔๕๗

หมวดที่ ๓
ว่าด้วยลักษณะปกครองหมู่บ้าน
ตอน ๑
การตั้งหมู่บ้าน

           มาตรา ๘ บ้าน หลายบ้านอยู่ในท้องที่อันหนึ่ง ซึ่งควรอยู่ในความปกครองเดียวกันได้ ให้จัดเป็นหมู่บ้านหนึ่ง ลักษณะที่กำหนดหมู่บ้านตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ถือความสะดวกแก่การปกครองเป็นประมาณ คือ
           ข้อ ๑ ถ้าเป็นที่มีคนอยู่รวมกันมาก ถึงจำนวนบ้านน้อย ให้ถือเอาจำนวนคนเป็นสำคัญประมาณราว ๒๐๐ คนเป็นหมู่บ้านหนึ่ง
           ข้อ ๒ ถ้าเป็นที่ผู้คนตั้งบ้านเรือนอยู่ห่างไกลกัน ถึงจำนวนคนน้อยถ้าและจำนวนบ้านไม่ต่ำกว่า ๕ บ้านแล้ว จะจัดเป็นหมู่บ้านหนึ่งก็ได้

ต้องผ่านเกณท์ที่ว่ามาก่อนน่ะครับ แล้วต้องผ่าน การประชาคม ผ่าน อบต. อำเภอ แล้วก็จังหวัดว่าดูถึงการคุมทุนอะไรทำไมต่างๆ ถ้าผ่านอะไรต่างๆแล้ว จังหวัดก็จะส่งเรื่องถึงกระทรวงมหาดไทย  กระทรวงมหาดไทย ก็จะส่งเรื่องไปที่สำนักงบประมาณอีก ถ้าสำนักงบประมาณผ่านก็ ได้ตั้งแล้วครับ


จากที่ผมเห็นน่ะครับ 3กิโลยังไม่ถึงว่าไกลมาก เพราะหลักความไกล ต้องบ้านบนภูเขา ที่ห่างจากเขตชุมชนหลักมากๆ
และไม่ทราบว่าทั้งหมดหมู๋บ้านหรือเฉพาะเขตของท่านที่ ประมาณ 200 คน

ผมว่าน่ะครับ ลองไปคุยกับผู้ใหญ่บ้านกับ ส.อบต. ดูครับ การจะทำอะไรก็ตามในหมู่บ้านจะมีการประชาคมเสมอน่ะครับ ลองไปมีสวนร่วนในการอะไรในหมู่บ้านดูครับ

ประชุมหมู่บ้านก่อนหามติที่ประชุมลงความเห็นชอบ ผู้ใหญ่บ้านก็ดำเนินการส่งเรื่องไปที่กำนัน อำเภอ จังหวัด กระทรวง ต่อไปเรื่อยๆทำตามขั้นตอนไปทีละขั้นครับติดตรงไหนก็ค่อยๆแก้กันไป เดี๋ยวก็จบ ทุกอย่างมีขั้นตอนและระเบียบการอยู่ครับ

[jedniphat]

ตอนนี้กระทรวงมหาดไทไม่มี นโยบายให้แยกหมู่บ้านครับ เนื่องจากเป็นภาระงบประมาณ เพราะต้องเพิ่มทั้ง ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย สมาชิกอบต. และเงินกองทุนต่างๆอีกมากมายครับ

[chomodo]

ตอนนี้กระทรวงมหาดไทไม่มี นโยบายให้แยกหมู่บ้านครับ เนื่องจากเป็นภาระงบประมาณ เพราะต้องเพิ่มทั้ง ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย สมาชิกอบต. และเงินกองทุนต่างๆอีกมากมายครับ

ออ หรอครับ ขอบคุณครับ แต่พอดีหมู่บ้านนี้ก็เป็นหมู่บ้านดั่งเดิมอ่ะนะครับแต่พอดีก่อนหน้านี้ประชากรยังไม่มากพอที่จะเป็นหมู่บ้าน แต่ตอนนี้ประชากรเยอะขึ้นและยังอยู่ห่างไกลอีกหมู่บ้านไปหน่อยอ่ะครับ ชาวบ้านเลยลงมิติกันให้ลองขอแยกหมู่บ้านดูอ่ะครับ ไม่ทราบว่าความเป็นไปได้พอมีบ้างมั้ยครับ ท่านใดรู้บ้างอ่ะครับ

[เมาเจอตุง]

แยกหมู่บ้านคงไม่ยากมั้งคับ..แหะๆผมไม่รู้อ่ะคับ
แต่หมู่บ้านที่ผมอยู่ก็แยกจากหมู่บ้านหนึ่งแล้วนะ..มารู้อีกทีแยกซะละ
เมื่อก่อนอยู่ที่หมู่บ้านหนึ่งก็แยกกันเป็น2หมู่บ้าน
เมื่อก่อนอยู่วังดินสมัยนั้นเข้ากับชุมชนเกาะทองแต่ตอนนี้แยกเป็ยหมู่บ้านวังดินแล้ว
ผมว่าต้องให้คนมีเส้นมีสายดำเนินเรื่องดูนะครับ

สมัยนี้เรื่องการเป็นอยู่ของประชาชน จะดำเนินการใด ๆ ต้องพึ่งพาระบบเส้นสายขนาดนี้เลยหรือครับ ผมไม่แปลกใจ ทำไมประเทศไทยได้อันดับที่ 88 เรื่องคอรัปชั่น

[joecho]

ตอนนี้กระทรวงมหาดไทไม่มี นโยบายให้แยกหมู่บ้านครับ เนื่องจากเป็นภาระงบประมาณ เพราะต้องเพิ่มทั้ง ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย สมาชิกอบต. และเงินกองทุนต่างๆอีกมากมายครับ

ตามนี้ครับ อย่าคิดไรมาก

[tfgc2007]

ดูจากข้อมูลแล้ว น่าจะเป็นหมู่บ้านปางกลาง ต.แม่กรณ์ เป็นชาวเขาเข้ามาตั้งหมู่บ้านประมาณ 30 ปี ที่ผ่านมา เริ่มต้นมีบ่ากี่หลัง และตั้งอยู่ ขุนน้ำ หรือ ป่าต้นน้ำ ช่วงหลังมาไปฮ้อง พรรคพวก มาตั้งบ้านเรือนเพิ่ม...จาวบ้านตังลุ่มน้ำเปิ้นบ่าสนับสนุน กลัวไปทำลายป่าต้นน้ำ...เปิ้นเลยต่อต้าน ใคร่หื้ออพยพลงมาครับ

[chomodo]

ดูจากข้อมูลแล้ว น่าจะเป็นหมู่บ้านปางกลาง ต.แม่กรณ์ เป็นชาวเขาเข้ามาตั้งหมู่บ้านประมาณ 30 ปี ที่ผ่านมา เริ่มต้นมีบ่ากี่หลัง และตั้งอยู่ ขุนน้ำ หรือ ป่าต้นน้ำ ช่วงหลังมาไปฮ้อง พรรคพวก มาตั้งบ้านเรือนเพิ่ม...จาวบ้านตังลุ่มน้ำเปิ้นบ่าสนับสนุน กลัวไปทำลายป่าต้นน้ำ...เปิ้นเลยต่อต้าน ใคร่หื้ออพยพลงมาครับ

โทษทีนะครับ ไม่ใช่หมู่บ้านที่คุณพูดถึงหรอกครับ และไม่ใช่ย้ายไหนมาหรอกครับ ก็ลูกหลานเค้านั่นแหละแต่งงานมีลูกมีหลานก็แยกครอบครัวก็เพิ่มสิครับ ...แต่ที่คุณพิมพ์ก็คิดแปลกน้อคนเรา เรื่องมันยังไม่เกิดแค่คิดว่า และ กลัวว่าจะไปทำลาย ก็ไปว่าเค้าซะละ อยู่ด้วยกันเป็นมนุษย์ด้วยกันคิดบวกๆไว้บ้างก็ดีครับ เพราะเค้าไม่มีเค้าเจริญเท่าเราเค้าเลยดิ้นรน หากินก็แค่นั้นแหละครับ อย่าไปว่าใครๆเลยครับ ใครๆก็ไม่ดีไปซะหมดหรอกครับทุกคนอยู่เพื่อจะหาเลี้ยงปากท้องตน ทั้งนั้นแหละครับ...จงมองแต่ดี ครับแล้วชีวิตจะมีสุข ครับ ปล.พุทธาตุภิขุ

[phan 2002]

รวบรวมคนในหมู่บ้าน(ที่จะขอแยก) เอาเฉพาะแกนนำที่สำคัญพร้อมกับกำนันตำบลของท่าน พากันไปปรึกษาปลัดอำเภอฯ หรือนายอำเภอ ฯ ณ ที่ว่าการอำเภอฯ ที่หมู่บ้านของท่านตั้งอยู่ เข้าหลักเกณฑ์ หรือไม่เข้าหลักเกณฑ์ ก็จะได้ทราบตรงนี้แหละ

[chomodo]

รวบรวมคนในหมู่บ้าน(ที่จะขอแยก) เอาเฉพาะแกนนำที่สำคัญพร้อมกับกำนันตำบลของท่าน พากันไปปรึกษาปลัดอำเภอฯ หรือนายอำเภอ ฯ ณ ที่ว่าการอำเภอฯ ที่หมู่บ้านของท่านตั้งอยู่ เข้าหลักเกณฑ์ หรือไม่เข้าหลักเกณฑ์ ก็จะได้ทราบตรงนี้แหละ

ขอบคุณครับ

[เก้า...ยอด]

ตอนนี้หมู่บ้านผมก้อเจอปัญหาในลักษณะนี้เหมือนกันครับ ......ไม่มีปากมีเสียง ไม่มีสิทธิ์เรียกร้อง
ไม่ต้องถามถึงงบประมาณ  แม้แต่ป่าช้าก้อยังใช้ร่วมกับเขาไม่ได้  ต้องไปขอใช้กับอีกหมู่บ้านหนึ่งทั้งที่หมู่บ้านหมู่เลขที่ เดียวกัน.... มีครอบครัวอยู่ประมาณ 5-60 หลังคาเรือน ประชากร 2-300 คน
ถามว่าเดือดร้อนไหม...ก้อไม่เท่าไรคับ แต่อยากให้ลูกหลานที่เกิดมาทีหลังได้ภูมิใจครับ ที่ไม่ต้องเกิดมาในหมู่บ้านของลูกเมียน้อย 

[chayaphon_toy]

มีหลายเหตุผลประกอบนะครับ บางครั้งหลักเกณฑ์ตามระเบียบฯ มีครบ ทั้งระยะทาง ประชากร จำนวนครัวเรือน มติ ฯลฯ แต่ติดเหตุผลเรื่องความมั่นคง เช่น หมู่บ้านติดชายแดน ตำบลที่ผมอยู่ มี 20 หมู่บ้านหลัก และอีก 20+ หมู่บ้านบริวาร หมู่บ้านบริวารนี้บางหมู่บ้านประชากรเยอะกว่าหมู่บ้านหลักซะอีก สรุป เรื่องความมั่นคงก็เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญครับ

[`‘ มิ ๓ [S] ภ า พ ‘`]

ดูจากข้อมูลแล้ว น่าจะเป็นหมู่บ้านปางกลาง ต.แม่กรณ์ เป็นชาวเขาเข้ามาตั้งหมู่บ้านประมาณ 30 ปี ที่ผ่านมา เริ่มต้นมีบ่ากี่หลัง และตั้งอยู่ ขุนน้ำ หรือ ป่าต้นน้ำ ช่วงหลังมาไปฮ้อง พรรคพวก มาตั้งบ้านเรือนเพิ่ม...จาวบ้านตังลุ่มน้ำเปิ้นบ่าสนับสนุน กลัวไปทำลายป่าต้นน้ำ...เปิ้นเลยต่อต้าน ใคร่หื้ออพยพลงมาครับ

จาวบ้านตังลุ่มที่ว่า......ใครครับตัวท่านเองใช่ไหม ?  พูดเหมือนชาวเขาไม่ใช่คนไทยเลยนะครับ ไปต่อต้านเขามำไมละครับ เดียวนี้ลูกหลานชาวเขาเก่งๆเยอะไปการศึกษาสูง ไม่ต้องไปกลัวทำลายป่าต้นน้ำหรอกครับ อีกอย่างต้อต้านให้เขาอพยพลงมา....ถามหน่อยลงมาแล้วให้ไปอยู่ที่ไหนครับ ?
#คนไทยไม่เลือกเชื้อชาติ