เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 มีนาคม 2024, 17:27:19
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  นักลงทุน การเงิน การธนาคาร
| | |-+  ใครมีเงินเย็น อยากลงทุนหุ้น มาทางนี้
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 ... 41 พิมพ์
ผู้เขียน ใครมีเงินเย็น อยากลงทุนหุ้น มาทางนี้  (อ่าน 293202 ครั้ง)
วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« เมื่อ: วันที่ 04 กันยายน 2010, 15:50:47 »

     "เงิน กับ เวลา"
เมื่อเอาคำถามที่ว่า  ระหว่างเงินกับเวลา  คุณว่าอะไรสำคัญกว่ากัน  ไปถามกับคนทั่วๆไป  ผมเชื่อว่า  คำตอบที่ได้  น่าจะแตกต่างกัน  ด้วยเหตุผลที่ว่า  เราขาดอะไร  เราก็จะให้ความสำคัญกับสิ่งนั้น  บางคนที่นอนป่วยอยู่ใน รพ. ก็ว่าเวลาสำคัญ  เพราะเขาเหลือเวลาไม่มากนัก  บางคนยากจน  ก็ว่าเงินสำคัญกว่า  แต่แท้จริงแล้ว  "เวลา"  ต่างหากที่สำคัญกว่า  ทำไมผมจึงบอกอย่างนั้น
     สมมุติว่า  เราจะเดินทางจากเชียงรายไปกรุงเทพ  ถ้าเราเดินทางโดยรถทัวร์  เราจะใช้เวลาหลายชั่วโมง  แต่เราจ่ายค่าเดินทางไม่เกิน 1000 บาท  แต่ถ้าเราไปเครื่องบิน  เราจะใช้เวลาไม่กี่นาที  แต่เราต้องใช้เงินหลายพัน  นั่นเป็นเพราะว่า  เราได้"ซื้อ"เวลานั่นเอง  สิ่งสำคัญก็คือ  หากเป็นเงินทองแล้ว  เราสามารถเก็บไว้ใช้ในอนาคตได้  แต่หากเป็นเวลา  เราทุกคน  ถูกบังคับให้ใช้ให้หมดไปในทุกขณะ  ไม่สามารถเก็บเวลาไว้ใช้ในอนาคตได้เลย  เพราะฉะนั้นแล้ว  เวลาจึงมีค่ามากมายยิ่ง  ถ้าชีวิตของเรานี้  มัวแต่ทำงานเพื่อหาเงิน  บางคนอาจทำงานทั้งชีวิตเพื่อหาเงิน จนลืมนึกถึงสิ่งที่สำคัญกว่าเงิน  นั่นก็คือ "เวลา" นั่นเอง  เพราะคนที่ทำงานนั้น  ได้เอาเวลาที่เรามีอยู่  ไปแลกกลับมาเป็นเงินแล้ว  ชีวิตของเรา  จะเหลือเวลาที่มีค่า  เก็บไว้ใช้ในสิ่งที่เราอยากทำได้อีกสักเท่าไหร่  ผมว่า  ถ้าเราได้ใช้เวลาก่อนตาย  ไปกับสิ่งที่เราอยากทำแล้ว  ชีวิตคงมีความสุขมาก  ยิ่งเราเหลือเวลามากเท่าไหร่  เราก็ยิ่งมีความสุขมากเท่านั้น
     เพราะฉะนั้น  การลงทุน  จึงเป็นตัวช่วยอย่างหนึ่งที่จะทำให้เรามีเวลาเหลือมากขึ้น  มันจะดีขนาดไหน  หากเรามีชีวิตที่เหลืออยู่ได้โดยไม่ต้องทำงานอีก  ซึ่งเราสามารถมีอิสระทำอะไรก็ได้ที่อยากจะทำ  ตัวอย่างเช่น  คนที่มีหอพักให้เช่าสัก 10 ห้อง  ค่าเช่าห้องละ 1500  รวมแล้วได้เดือนละ 15000  ตกแล้ว  มีรายได้วันละ 500 บาทโดยไม่ต้องทำงานอีกเลย  ถ้าราคาอาหารแพงขึ้น  เราก็สามารถขึ้นค่าเช่าตามได้  นี่ก็เป็นการมีชีวิตอิสระ  แต่การลงทุนแบบนี้  ต้องใช้ทุนมาก  หากใครมีกำลังลงทุนก็ดีครับ  แต่ถ้ามีเงินน้อย  ค่อยๆเก็บ  แล้วก็ลงทุนไปเรื่อยๆในหุ้นก็ใช้ได้เหมือนกัน  เพราะลงทุนหุ้น  ใช้เงินทีละไม่มาก  ทยอยซื้อได้  และแบ่งสามารถแบ่งขายได้เมื่อเราเดือดร้อนต้องการเงินก้อน  ช่วงที่ถือหุ้นอยู่  เราก็ได้รับเงินปันผลจากกำไรที่บริษัททำได้  และถ้าบริษัทขยายตัวมากขึ้น  ราคาหุ้นก็มักจะเพิ่มขึ้น  ทำให้ผู้ถือหุ้นได้กำไรจากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น  เรามาเป็นนักลงทุนกันเถอะครับ  แล้วมีความสุขในบั้นปลาย  กับ"เวลา"ที่เหลืออยู่ของเรา
IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
Freedom
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 608


ห้องสมุดบิดคิด


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 04 กันยายน 2010, 17:31:06 »

ติดตามแนวคิดของท่านวายุ มาตั้งแต่กระทู้ ที่อยู่ในห้อง Hobby ( ที่พึ่งถูกลบไป )
พอดีสนใจ และ โดยส่วนตัวก็อยู่ด้าน I เป็นนักลงทุน ( รายเล็กๆ ) อยู่ด้วยเหมือนกัน  ยิ้มเท่ห์
จึงขออนุญาติแจมกระทู้ แอบเรียนรู้วิทยายุทธจาก ท่านวายุ ด้วยอีกซักคนนะครับ  ยิ้ม ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 04 กันยายน 2010, 17:44:40 »

          "คนจน  คนรวย"
ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง  หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่น่าอยู่  แต่น่าเสียดายที่  เวลาฝนไม่ตก  ทุกคนในหมู่บ้านจะไม่มีน้ำใช้  ผู้ใหญ่บ้านจึงประกาศหาคนที่จะรับหน้าที่นำน้ำมาให้คนในหมู่บ้านใช้  มีชาย 2 คนประกาศตัวรับงานนี้  ซึ่งผู้ใหญ่บ้านก็เห็นว่าดี  เพราะหวังว่าเมื่อมีคนแข่งขันกันทำงาน  จะทำให้น้ำมีราคาเป็นธรรมและมีคุณภาพที่ดี  เมื่อได้งานเป็นที่เรียบร้อย  ชายคนแรก(1)และชายคนที่สอง(2)ก็เริ่มลงทุนทันที  ทั้งสองคนนี้  มีเงินลงทุนเริ่มแรกที่หนึ่งล้านบาทเท่ากัน  1 นำเงินไปซื้อรถปิคอัพและถังน้ำใบใหญ่เพื่อใช้ตวงน้ำและบรรทุกไปส่งให้คนในหมู่บ้าน
     ทุกๆวัน 1 จะตื่นก่อนใครในหมู่บ้านเพื่อไปนำน้ำจากแหล่งน้ำที่อยู่ไกลออกไปมาใส่ในตุ่มของทุกบ้านจนเต็ม  ถึงแม้จะเหนื่อย  แต่ 1 ก็มีความสุขกับงานดี  เพราะมีเพียงเขาและ 2 เพียงสองคนเท่านั้นที่ได้รับงานนี้  ส่วน 2 นำเงินไปซื้อปั๊มน้ำ  และจ้างคนมาวางท่อ จากแหล่งน้ำมาจนถึงหมู่บ้านและต่อท่อไปตามบ้านต่างๆ  เมื่อเดินท่อพร้อมแล้ว 2 ก็ประกาศว่า ทุกคนจะสามารถใช้น้ำได้ทุกเวลาตลอดทั้งวัน  โดยไม่ต้องรอให้เขาไปตักมาให้  และใช้ได้ทุกวันด้วย  ในขณะที่ 1 ไม่สามารถนำน้ำมาให้ชาวบ้านได้ในวันที่เขาหยุด
     1  ไม่ยอมแพ้  แก้เกมด้วยการไปซื้อถังน้ำเพิ่ม  เพื่อบรรทุกให้มากขึ้นในแต่ละรอบ  และพยายามไม่หยุดงาน  เพราะถ้าเขาหยุดงาน  รายได้ของเขาจะหยุดไปด้วย
     ในขณะที่ 2 เห็นว่า  ถ้าหมู่บ้านนี้ต้องการน้ำ  หมู่บ้านอื่นก็คงต้องการน้ำเหมือนกัน  2 จึงไปติดต่อที่หมู่บ้านอื่น  เพื่อนำน้ำไปให้คนในหมู่บ้านอื่นใช้  และเขาก็ได้งานเพิ่มขึ้น  ทุกๆวันที่ผ่านไป  ทุกครั้งที่ชาวบ้านเปิดน้ำของ 2 ใช้  เงินก็ไหลมาสู่กระเป๋าของเขาตลอดเวลา   2 ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขโดยที่ไม่ต้องไปทำงานอีกเลย  ในขณะที่ 1 มีปัญหาเรื่องเงินไปจนวันตาย



     เรื่องเล่าเรื่องนี้จบลงพร้อมกับคำถามของผมที่ว่า  ตอนเริ่มต้น  คนทั้งคู่มีทุนเท่ากัน  แต่เมื่อเวลาผ่านไป  ทำไมคนทั้งสองจึงมีความเป็นอยู่ที่ต่างกัน  เรื่องทั้งหมดนั้น  ผมสรุปได้ว่า  เป็นเพราะวิธี"คิด"ของคนทั้งสองต่างกัน  จึงทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ต่างกัน   แม้ว่าเขาจะทำธุรกิจเดียวกัน  เพราะฉะนั้น  เราต้องคิดให้ได้ว่า  เราจะต้องไม่ทำงานเพื่อเงิน  แต่เราต้องคิดให้เป็น  และสร้างทรัพย์สินที่ช่วยให้เราไม่ต้องทำงานไปตลอดชีวิต  เหมือนกับเรื่องที่ได้อ่านไป
     แท้จริงแล้ว  คนจนและคนรวยต่างกันแค่วิธีคิดเท่านั้น  ถ้าคุณคิดเหมือนคนรวยคิดคุณก็จะรวย  เพราะความคิด  กำหนดการกระทำของคน  ผมเคยเห็นคนจนที่มีเงินมากมาแล้ว  ความหมายก็คือ  เขามีเงินมากก็จริง  แต่เขาไม่รู้วิธีทำให้เงินงอกเงย  และไม่รู้จักวิธีใช้ให้เงินไปทำงานแทนเขา  เขาจึงต้องทำงาน  และเก็บเงินไปเรื่อยๆ  โดยที่ชีวิตก็รู้จักอยู่แค่นั้น  บางคนร้ายไปกว่านั้น  เขามีโชคโดยการถูกหวยรางวัลใหญ่  แต่พอเวลาผ่านไปไม่นาน  เงินเขาก็หมด  และกลับมาเป็นคนจนอีกครั้ง  เพราะฉะนั้นแล้ว  ในสมัยนี้  ความฉลาดทางการเงินสำคัญมาก  เราต้องรู้ว่า  อะไรคือทรัพย์สิน  และเราจะใช้ทรัพย์สินเลี้ยงตัวเราได้อย่างไร  หรือใช้ให้เงิน  ไปทำงานแทนเราได้อย่างไร  แล้วเราจะไม่เหนื่อยมาก  การมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องทำงาน  ผมว่า  เป็นความวิเศษสุดของชีวิตแล้ว
IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
บ่าวเริงปอย
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 153



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 05 กันยายน 2010, 04:18:54 »

ติดตามท่านวายุมาด้วย ตั้งแต่ห้องHobby โดนปิดอะ ผมก็ลงทุนในหุ้นตั้งแต่อยู่ มหาวิทยาลัยปีสีี่ละ ผ่านมาหกปีวันนี้ผ่านร้อนผ่านหนาวจนตกผลึกเป็น Value invester ตามแบบ warent E. buffet และ อ. นิเวศน์ เหมวชิรวรากรณ์ แล้วครับ ถึงขั้นลาออกจากงานประจำเงินเดือนครึ่งแสน เพื่อมาทำสิ่งนี้โดยเฉพาะ สิ่งที่ผมอยากบอกทุกท่านก็คือ      "เวลามีค่าดั่งทอง แต่ทองซื้อเวลาไม่ได้"
IP : บันทึกการเข้า

อ้ายตึงมัก อ้ายตึงหุม...
AIT
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,914



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 05 กันยายน 2010, 14:06:53 »

ผมก็พยายามอยากจะทำให้ได้ตามความคิดของท่านวายุอ่ะครับ แต่ทุกวันนี้ก็ยังต้องทำงานแบบเอาแรงเข้าทุบย่างเดียวอยู่เลยครับ แย่เลย
IP : บันทึกการเข้า
วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 05 กันยายน 2010, 16:27:06 »

"ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป"
     ถ้าจะให้แยกยุคสมัยของมนุษย์ออกมา  เราสามารถแยกออกมาได้เป็น 4 ยุคใหญ่ๆคือ
1.ยุคมนุษย์หิน  ในยุคนั้น  มีแต่คนจน  ทุกคนต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพตัวเองด้วยการล่าสัตว์  ไม่มีใครมีทรัพย์สิน  ถ้าอยากจะได้อะไรต้อง"ทำเอง"เท่านั้น  ไม่มีใครทำให้ใครได้
2.ยุคเกษตรกรรม  ยุคนี้มีคนอยู่ 2 พวกคือ  คนจนกับคนรวย  คนรวยคือคนที่มีนามีไร่มากมาย  และมีคนจนทำงานเป็นคนงานในไร่ให้  ส่วนคนจนก็คือคนที่ทำงานให้คนรวย  หรือไม่ก็ทำนาทำไร่เอง  จะเห็นได้ว่า  ยุคสมัยนี้  คนส่วนมาก  นิยมลงทุนด้วยการมีลูกเยอะๆเป็นครอบครัวใหญ่  เพื่อหวังว่า  จะมีคนมาช่วยทำนาและเลี้ยงดูยามแก่ชรา  และความคิดในการลงทุนมีลูกมากๆเหล่านั้น  ยังตกทอดมาจนถึงปัจจุบันนี้ด้วย
3.ยุคอุตสาหกรรม  ยุคนี้มีคนจน  คนชั้นกลาง  และคนรวย  ในยุคนี้  คนที่นิยมลงทุนด้วยการมีลูก  เริ่มจะใช้ไม่ได้แล้ว  เนื่องจากว่า  การเลี้ยงดูลูกคนหนึ่ง  เสียค่าใช้จ่ายแพงมาก  ถ้าเรานำค่าใช้จ่ายมาคำนวณดูจะพบว่า  หมดเงินไปเป็นล้าน  กว่าที่เด็กคนหนึ่งจะเติบโตจนเลี้ยงดูตัวเองได้  ซ้ำร้าย...เมื่อลูกเราได้เติบโตขึ้น  ก็กลับไม่สามารถมาเลี้ยงดูเราซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดได้  บางคน...ขนาดโตแล้วก็ยังไม่พ้นเราเลย  เพราะฉะนั้น  คำแนะนำที่ให้มีลูกมากๆ  จึงเป็นคำแนะนำของคนยุคเก่าซึ่งล้าสมัยไปแล้ว  ในยุคนี้  คนจนก็คือพวกทำเกษตรกรรม  หรือเป็นพวกที่ไม่มีทรัพย์สิน ส่วนคนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้นมา  ก็คือคนที่ทำงานให้กับเจ้าของกิจการ  ส่วนคนรวย  ก็คือคนที่มีกิจการและมีลูกจ้างทำงานให้
4.ซึ่งก็คือยุคปัจจุบัน  ยุคนี้จะมีชนชั้นเพิ่มขึ้นมาอีก 1 กลุ่ม  นั่นก็คือ  "มหาเศรษฐี"  ยุคนี้เป็นยุคของข้อมูลข่าวสาร  จะเห็นได้ว่า  ยุคนี้  การสื่อสารทำได้รวดเร็วและมีราคาถูกกว่าเมื่อก่อนมาก  ยุคนี้  ข้อมูลคือสิ่งล้ำค่า  เพราะถ้าเราเพียงรู้อะไรบางอย่าง  ก็สามารถทำให้เรารวยได้แล้ว  เช่น  เรารู้ว่า  จะมีการตัดถนนผ่านทางนี้  เราคาดว่า  ที่ดินแถวนี้จะมีราคาสูงขึ้น  เราจึงเข้าไปซื้อ  แล้วรอเวลาที่จะเกิดโครงการจริงๆ  แค่นี้เราก็มีเงินเพิ่มมากขึ้น  จากราคาที่ดินที่สูงขึ้น  หรืออีกตัวอย่างหนึ่ง  เราสนใจในการทำธุรกิจบางอย่าง  อาจจะเป็นค้าปลีก  ขายวัสดุก่อสร้าง  ทำปั๊มน้ำมัน  แต่เราไม่อยากทำเอง  อาจจะเป็นเพราะขี้เกียจหรือเราสร้างธุรกิจนั้นไม่เป็น  เราก็ใช้เวลาศึกษาบริษัทที่เขาทำอยู่แล้ว  ซึ่งเขาทำได้ดีมีกำไร  มีความเป็นมืออาชีพ  และเป็นยี่ห้อที่ใครๆก็รู้จักดี  เราก็ร่วมลงทุนกับเขาโดยการซื้อหุ้นที่มีอยู่ในตลาดหลักทรัพย์  ซึ่งการที่เราจะรู้ข้อมูลของบริษัทเหล่านั้น  สำหรับสมัยนี้แล้วเป็นเรื่องง่ายมาก  ข้อมูลมีอยู่มากมาย  และที่สำคัญ  ข้อมูลเหล่านั้นเป็นของ"ฟรี"เสียด้วย  เพราะฉะนั้นแล้ว  แค่เรารู้ข้อมูล  เราก็สามารถรวยได้แล้ว  จากข้อมูลที่รับรู้มา  แถมยังไม่ต้องปวดหัวไปกับการบริหารงานเอง  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแรงงาน  ต้นทุนสินค้า  การตลาด  การขนส่งสินค้าและอีกหลายๆอย่างที่การทำธุรกิจพึงมี  เพราะฉะนั้น  ถ้าเราเริ่มต้นลงทุนในทรัพย์สินตั้งแต่วันนี้  อนาคต...ความเป็นอยู่ของเรา  คงต้องดีกว่านี้แน่นอน  ด้วยความรู้ทางการเงิน  เราอย่ายึดติดกับคำแนะนำในยุคเก่า  ที่แนะนำให้มีลูกเยอะๆเดี๋ยวจะไม่ทันใช้  หรือต้องขยันจะได้รวย  หรือคำแนะนำอะไรก็แล้วแต่  ผมอยากแนะนำว่า  "ขยันผิดที่ สิบปีก็ไม่รวย"  เพราะความสำคัญมันอยู่ที่ทิศทางที่เราจะมุ่งไป  ไม่ใช่การเริ่มก่อนแล้วจะได้เปรียบ  เพราะการที่เราเริ่มก่อน  แต่เราไปผิดทิศ  เราก็ต้องเสียเวลาในการกลับลำอยู่ไม่น้อย  คำแนะนำสำหรับยุคนี้ก็คือ   "คุณควรจะหัดว่ายน้ำได้แล้ว  มิฉะนั้นคุณจะจมเหมือนก้อนหิน"    ขอบคุณทุกท่านที่สนใจครับ
IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
Freedom
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 608


ห้องสมุดบิดคิด


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 05 กันยายน 2010, 16:36:01 »

ติดตามท่านวายุมาด้วย ตั้งแต่ห้องHobby โดนปิดอะ ผมก็ลงทุนในหุ้นตั้งแต่อยู่ มหาวิทยาลัยปีสีี่ละ ผ่านมาหกปีวันนี้ผ่านร้อนผ่านหนาวจนตกผลึกเป็น Value invester ตามแบบ warent E. buffet และ อ. นิเวศน์ เหมวชิรวรากรณ์ แล้วครับ ถึงขั้นลาออกจากงานประจำเงินเดือนครึ่งแสน เพื่อมาทำสิ่งนี้โดยเฉพาะ สิ่งที่ผมอยากบอกทุกท่านก็คือ      "เวลามีค่าดั่งทอง แต่ทองซื้อเวลาไม่ได้"

แจ๋วเลย ได้เจอคนคอเดียวกันแล้ว ...  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
ลงทุนในหุ้นตั้งแต่ปีสี่นี่ ปานนี้พอร์ท ไม่เบ่งบานออกดอกออกผล เต็มมือไปหมดแล้วเหรอครับเนี้ยะ  ยิ้มกว้างๆ ( ปันผลของช่วงต้นเดือนที่ผ่านมานี่้ คงจะเปรมเลยซิท่า  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ) ไงมีอะไรน่าสนใจ ก็แนะนำ แบ่งปันกันมั่งนะครับ...ในเชียงราย หาคนคุยด้วยเรื่องหุ้น การลงทุนนี่ยากดีจริงๆ ยิ้ม ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

giftland
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 05 กันยายน 2010, 17:45:06 »

เราก็เล่นอยู่เหมือนกัน แต่ยังใหม่ในวงการ ใครยังเล่นไม่เป็นลองหัดเล่นใน click2win ดูก็ได้ ลองเล่นมาตั้งแต่อยู่ปีสองละ ความจริงในเชียงรายก็มีคนเล่นเยอะนะ แต่เค้าไม่ค่อยเปิดเผยง่ะ ที่เชียงรายเห็นมีอยู่ สองถึงสามbroker ยิ้มเท่ห์
IP : บันทึกการเข้า
บ่าวเริงปอย
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 153



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 05 กันยายน 2010, 22:06:33 »

ติดตามท่านวายุมาด้วย ตั้งแต่ห้องHobby โดนปิดอะ ผมก็ลงทุนในหุ้นตั้งแต่อยู่ มหาวิทยาลัยปีสีี่ละ ผ่านมาหกปีวันนี้ผ่านร้อนผ่านหนาวจนตกผลึกเป็น Value invester ตามแบบ warent E. buffet และ อ. นิเวศน์ เหมวชิรวรากรณ์ แล้วครับ ถึงขั้นลาออกจากงานประจำเงินเดือนครึ่งแสน เพื่อมาทำสิ่งนี้โดยเฉพาะ สิ่งที่ผมอยากบอกทุกท่านก็คือ      "เวลามีค่าดั่งทอง แต่ทองซื้อเวลาไม่ได้"

แจ๋วเลย ได้เจอคนคอเดียวกันแล้ว ...  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
ลงทุนในหุ้นตั้งแต่ปีสี่นี่ ปานนี้พอร์ท ไม่เบ่งบานออกดอกออกผล เต็มมือไปหมดแล้วเหรอครับเนี้ยะ  ยิ้มกว้างๆ ( ปันผลของช่วงต้นเดือนที่ผ่านมานี่้ คงจะเปรมเลยซิท่า  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ) ไงมีอะไรน่าสนใจ ก็แนะนำ แบ่งปันกันมั่งนะครับ...ในเชียงราย หาคนคุยด้วยเรื่องหุ้น การลงทุนนี่ยากดีจริงๆ ยิ้ม ยิ้ม
พอร์ตผมไม่ได้ใหญ่อะไรมากมายครับ ปันผลก็นิดหน่อย ปีสองปีแรกไปหลงระเริงกะหุ้นปั่น เล่นเก็งกำไรซะส่วนใหญ่ ขาดทุนไม่เป็นท่า พึ่งจะมาลงทุนแบบเน้นคุณค่าของกิจการเมื่อสองสามปีหลังนี่เอง ไม่หวือหวาแต่เติบโตอย่างมั่นคงมากบ้างน้อยบ้าง โดยส่วนตัวผมทำตามหลักเศษฐกิจพอเพียงของในหลวงมาปฎิบัติครับ ถ้าท่านเข้าใจหลักเศษฐรกิจพอเพียงของในหลวงอย่างถ่องแท้ การลงทุนในหุ้นจะไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หรือเป็นเรื่องที่มีไว้สำหรับคนรวยเพียงอย่างเดียวเลยครับ คนธรรมดาอย่างเราๆก็ประสบความสำเร็จได้
IP : บันทึกการเข้า

อ้ายตึงมัก อ้ายตึงหุม...
[T][o][d]SaPhon
My name's Todsaphon
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,064

พื้นที่ส่วนบุคคล


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 06 กันยายน 2010, 01:24:34 »

น่าจะให้เครดิตหนังสือด้วยน่ะครับ มากจาก พ่อรวยสอนลูก ตอนเงินสี่ด้าน ผมอ่านทุกวัน
IP : บันทึกการเข้า
MCL.Morchula shop
รถตู้ให้เช่า เชียงราย
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,195

รถตู้ให้เช่า เชียงราย


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 06 กันยายน 2010, 12:10:20 »

สนใจค่ะ
มีใครใจดี แนะนำวิธี ขั้นตอนให้หน่อยได้ไหมค่ะ
แบบว่าอยากเล่นหุ้นแต่ไม่รู้เรื่องเลยอะค่ะ
เอาแบบไม่เสี่ยงนะค่ะ เห็นมีคนบอกว่า ต้องหุ้นทอง มันเป็นยังไงค่ะ
แล้วหุ้นแบบที่ง่าย ๆ ได้กำไรตลอดมีไหมค่ะ

ขอบคุณค่ะ
IP : บันทึกการเข้า

รถตู้ให้เช่า เชียงราย (บริการทั่วไทย รถสวยบริการดี ต้อง AECรถตู้ตะลอนทัวร์)

081-6748776 เอรวัล
giftland
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 06 กันยายน 2010, 12:41:41 »

สนใจค่ะ
มีใครใจดี แนะนำวิธี ขั้นตอนให้หน่อยได้ไหมค่ะ
แบบว่าอยากเล่นหุ้นแต่ไม่รู้เรื่องเลยอะค่ะ
เอาแบบไม่เสี่ยงนะค่ะ เห็นมีคนบอกว่า ต้องหุ้นทอง มันเป็นยังไงค่ะ
แล้วหุ้นแบบที่ง่าย ๆ ได้กำไรตลอดมีไหมค่ะ

ขอบคุณค่ะ
เราว่าอาจจะลองเล่นเป็นกองทุนรวม หุ้นกู้ มะก็bond รัฐบาลอ่ะ ถ้าไม่ชอบเสี่ยงมาก แต่การลงทุนในหุ้นมันมีเยอะมากหลายประเภท เริ่มต้นใช้เงินไม่มากหรอก ค่อยๆศึกษาเอา ลองเข้าไปถามโบรกชั้นสองธ.กรุงไทยหน้าโรงเรียนสันติ เอเชียพลัสที่ธ.กรุงเทพห้าแยกพ่อขุน ไม่ก็csg ที่ตรงข้ามเชียงรายมอล แต่อยู่ที่ไหนเปิดโบรกที่ไหนก็เล่นได้ทั่วไทย  ;)ไม่ยากขยันหาข้อมูลก็พอ
IP : บันทึกการเข้า
MCL.Morchula shop
รถตู้ให้เช่า เชียงราย
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,195

รถตู้ให้เช่า เชียงราย


« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 06 กันยายน 2010, 20:20:48 »

ขอขอบคุณ  คุณ giftland ที่ให้คำแนะนำค่ะ เดี๋ยวจะลองไปติดต่อที่แนะนำมาดูนะค่ะ แต่ก็ต้องมีข้อมูล มาลองดูก่อนเนอะ เพื่อนสอบถามก็บ่มีตวยเนี้ยยย
IP : บันทึกการเข้า

รถตู้ให้เช่า เชียงราย (บริการทั่วไทย รถสวยบริการดี ต้อง AECรถตู้ตะลอนทัวร์)

081-6748776 เอรวัล
AIT
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,914



« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 06 กันยายน 2010, 21:47:18 »

ตอนทำงานใหม่ ๆ เคยสนใจอยู่ช่วง แต่ก็ลืม ๆ มันไป มาถึงเวลานี้อาจต้องกลับมาคิดใหม่ละครับ ขอบคุณท่านวายุที่จุดประกายอีกครั้ง อีกหน่อยมีอะไรคงต้องปรึกษาท่านวายุบ้างนะครับ
IP : บันทึกการเข้า
Freedom
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 608


ห้องสมุดบิดคิด


« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 07 กันยายน 2010, 04:06:31 »

ขอขอบคุณ  คุณ giftland ที่ให้คำแนะนำค่ะ เดี๋ยวจะลองไปติดต่อที่แนะนำมาดูนะค่ะ แต่ก็ต้องมีข้อมูล มาลองดูก่อนเนอะ เพื่อนสอบถามก็บ่มีตวยเนี้ยยย

มีอะไรก็มาสอบถาม พูดคุยกันในบอร์ดนี้ก็ได้

( หากไปคนเดียวแล้วกลัวเขินทำอะไรไม่ถูกไม่มีใครไปด้วย เดี๋ยวผมไปส่งเอง ยิงฟันยิ้ม .... อยากเห็นคนเชียงรายรักการลงทุน เรียนรู้ในเรื่องนี้กันเยอะๆ )

แลกเปลี่ยนแนวคิด ประสบการณ์การลงทุน แชร์ความคิดคิดเห็นกันครับ  ยิ้ม ยิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 07 กันยายน 2010, 04:18:08 โดย Freedom » IP : บันทึกการเข้า

บ่าวเริงปอย
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 153



« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 07 กันยายน 2010, 11:47:58 »

 
http://www.youtube.com/watch?v=BAE-g6rxW7g
http://www.youtube.com/watch?v=-qfmS-IqLK4
              ท่านไหนสนใจลงทุนแบบระยะยาวถือหุ้นเอาปันผลไม่ต้องสนใจภาวะเศษกิจครับ ดูแค่ผลประกอบการบริษัทก็พอ
              แต่หากสนใจเก็งกำไรซื้อถูกขายแพงเปลี่ยนตัวเล่นไปเรื่อยๆ ควรศึกษาจิตวิทยาการลงทุนให้ดีนะครับ รวมทั้งจังหวะการซื้อขายโดยดูได้จากข้อมูลที่โบรคเกอร์ที่ท่านสมัคร ส่วนตัวผมใช้โปรแกรม e-financeในการจับจังหวะซื้อขายครับ  

              ตอนนี้ในตลาดหุ้นหลายตัวเริ่มแพง ราคาปิดต่อกำไรสุทธิ(PE) ค่อนข้างสูง ซื้อขายด้วยความระมัดระวังให้มากนะครับ ช่วงนี้มีแต่ข่าวดีเต็มตลาดล่อแมงเม่าเข้ากองไฟมานักต่อนักแล้ว

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 08 กันยายน 2010, 22:25:18 โดย บ่าวเริงปอย » IP : บันทึกการเข้า

อ้ายตึงมัก อ้ายตึงหุม...
ModernChi
รับงานสำรวจ วางผัง ออกแบบ เขียนแบบ รับเหมาก่อสร้าง
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 237


Kritchanat Construction


« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 07 กันยายน 2010, 12:06:49 »

สนใจครับ อยากข้อมูลเพิ่มจัง เคยเล่นมาบ้างแล้วครับ
และตอนนี้เล่น Click2Win อยู่ครับ เชียงรายมีโบกเกอร์ไรบ้างอ่ะครับ
IP : บันทึกการเข้า

Tel:082-4544478,086-4187478
thamnong@gmail.com
ID-Line:modernchi
https://www.facebook.com/Kritchanatconstruction
วายุ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 650



« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 07 กันยายน 2010, 16:07:12 »

"ตุ๊กแก"
     ช่วงนี้ผมเห็นกระแสตุ๊กแกแรงมาก  เลยอยากเล่าเรื่องตลกร้ายให้รู้อยู่เรื่องหนึ่ง  เรื่องมีอยู่ว่า
     ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในป่า  ชาวบ้านอยู่กันอย่างสงบมานาน  แต่แล้วจู่ๆวันหนึ่ง  มีชาย 2 คนท่าทางภูมิฐานเข้าไปยังหมู่บ้านแห่งนั้นแล้วประกาศว่า  เขาจะรับซื้อลิงทั้งหมด  ใครเอามาขายจะรับซื้อตัวละ 100 บาท   ชาวบ้านสนใจเป็นยิ่งนัก  ต่างคนต่างรีบเข้าป่าไปจับลิงมาขาย  เจ้าสัวก็รับซื้อไว้หมด  จนกระทั่งไม่มีคนเอามาขายแล้ว  เขาก็ประกาศอีกว่า  ถ้าใครเอามาขาย  จะให้ตัวละ 200  บาท  คราวนี้ชาวบ้านเข้าป่าไปลึกกว่าครั้งแรก  บางคนก็จับได้  บางคนก็จับไม่ได้    เมื่อไม่มีใครนำมาขายอีก  เจ้าสัวก็ประกาศว่า  เขาจะไปธุระสักระยะหนึ่งก่อน  แต่ถ้าช่วงที่เขาไม่อยู่  ให้มาติดต่อกับผู้ช่วยเขาได้  เขาจะรับซื้อตัวละ 500  บาท   พอเจ้าจากสัวไป   ชาวบ้านก็เข้าไปปรึกษากับผู้ช่วยเจ้าสัวว่า  เขาก็อยากได้เงิน  แต่ไม่รู้จะไปจับลิงที่ไหนแล้ว   ผู้ช่วยก็บอกกับชาวบ้านว่า  เอาอย่างนี้สิ   ผมจะขายลิงที่ผมมีให้คุณตัวละ 300  บาท  แล้วคุณก็เอาไปขายต่อได้ตัวละ 500  บาท  กำไรอื้อเลย  ชาวบ้านได้ยินดังนั้นก็เห็นดีเห็นงามไปด้วย  ต่างคนต่างก็ลงทุนซื้อลิงกลับคืนมาจำนวนมากหวังได้กำไร  บางคนไม่มีเงินก็ไปกู้เขามาซื้อ   หลังจากที่ผู้ช่วยขายลิงจนหมด  เขาก็หายตัวไป  ส่วนเจ้าสัว  ก็ไม่ได้กลับมาที่หมู่บ้านนั้นอีก  คงเหลือไว้แต่ลิงที่เต็มหมู่บ้าน
     เรื่องนี้เป็นตลกร้ายที่ขำไม่ออกถ้ามันเกิดขึ้นกับเรา   ถ้าสมมุติว่า  ผมมีเงินมากพอ  และเลี้ยงฟาร์มตุ๊กแกยักษ์อยู่   ผมไม่รู้จะทำอย่างไรกับตุ๊กแกเหล่านั้น  ผมเลยตั้งตัวเป็นเจ้ามือ"ปั่น"ราคาตุ๊กแกให้เพิ่มสูงขึ้น  และเมื่อเห็นว่าตลาดเริ่มมีการเคลื่อนไหว  เขาก็จะขายตุ๊กแกเข้ามาในตลาดการซื้อขาย  พอขายหมดแล้ว   เขาก็จะไม่รับซื้ออีกต่อไป  โดยให้เหตุผลต่างๆที่จะไม่รับซื้อ  แล้วคนที่ลงทุนซื้อตุ๊กแกมาในราคาแพง  จะทำอย่างไร......
     เรื่องนี้ก็เปรียบได้กับหุ้น  ซึ่งมีนักพนันที่เรามองไม่เห็นตัวอยู่เป็นจำนวนมาก  นั่งรอคอยอยู่ริมสนาม  รอให้ใครบางคนเขี่ยลูก  แล้วหลังจากนั้น  พวกนักพนันเหล่านี้  ก็พร้อมที่จะกรูกันลงมาในสนาม  ฉีกทึ้งหุ้นกันคนละชิ้นสองชิ้น  เพราะมีความหวังว่า  จะมีคนที่"ฉลาดน้อยกว่า"มารับซื้อต่อ   ปัญหาก็คือ  ถ้าเขาหาคนมารับซื้อต่อจากเขาไม่ได้แล้ว  อะไรจะเกิดขึ้น   หลายคนก็คงต่างคนต่างทิ้งของเอาทุนคืน  เมื่อแย่งกันขาย  ก็ยิ่งตก  ยิ่งตก  ก็ยิ่งแย่งกันขาย  มันเลยทำให้  ทุกครั้งที่หุ้นปั่นหมดแรง  เราจะเห็นศพเกลื่อน  ด้วยเหตุผลนี้  จึงทำให้คนส่วนใหญ่เห็นว่าหุ้นเสี่ยง  นั่นเป็นเพราะว่า  เขาไม่รู้จักหุ้นดีพอ  แต่ถ้าหุ้นนั้น  ขึ้นด้วยผลประกอบการที่ดีขึ้น  ถึงแม้หุ้นจะตกลงมาเพราะความบ้าคลั่งกลัวขาดทุนของคน  เราก็คงไม่ค่อยเดือดร้อน  เพราะยังไงแล้ว  ""ของมีค่าย่อมมีราคา"  เพราะฉะนั้น  เราอย่าซื้อหุ้นเพียงเพราะว่ามันวิ่งดี  เพราะคนที่คางเหลืองก็มีไม่น้อยเป็นตัวอย่าง   อย่างเรื่องตุ๊กแก  ถ้ามันเป็นความต้องการจริงๆของตลาด  มันก็เป็นเรื่องดี  แต่ถ้าเป็นเพราะเจ้ามือปั่นราคาเพื่อปล่อยของ  คุณจะทำอย่างไรกับ"ตุ๊กแก"
IP : บันทึกการเข้า

ถึงจะจน       พี่ก็จน      อย่างมีเกียรติ
ถึงจะเครียด  พี่ก็เครียด   อย่างมีหวัง
ถึงจะบ้า       พี่ก็บ้า       อย่างมีพลัง
ถึงจะพัง       พี่ก็พัง       อย่างมีฟอร์ม
kanyawee
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 63


« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 08 กันยายน 2010, 17:59:46 »

เรามี3000JPเยน จ้าาา อ้าวววก็เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นเลยแลกมาเก็บ แบบนี้ลงทุนไรได้บ้างเนี๊ะ
IP : บันทึกการเข้า
Freedom
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 608


ห้องสมุดบิดคิด


« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 08 กันยายน 2010, 18:17:53 »

สนใจครับ อยากข้อมูลเพิ่มจัง เคยเล่นมาบ้างแล้วครับ
และตอนนี้เล่น Click2Win อยู่ครับ เชียงรายมีโบกเกอร์ไรบ้างอ่ะครับ

ตามที่คุณ giftland บอกไว้เลยครับ

เราว่าอาจจะลองเล่นเป็นกองทุนรวม หุ้นกู้ มะก็bond รัฐบาลอ่ะ ถ้าไม่ชอบเสี่ยงมาก แต่การลงทุนในหุ้นมันมีเยอะมากหลายประเภท เริ่มต้นใช้เงินไม่มากหรอก ค่อยๆศึกษาเอา ลองเข้าไปถามโบรกชั้นสองธ.กรุงไทยหน้าโรงเรียนสันติ เอเชียพลัสที่ธ.กรุงเทพห้าแยกพ่อขุน ไม่ก็csg ที่ตรงข้ามเชียงรายมอล แต่อยู่ที่ไหนเปิดโบรกที่ไหนก็เล่นได้ทั่วไทย  ;)ไม่ยากขยันหาข้อมูลก็พอ

เรามี3000JPเยน จ้าาา อ้าวววก็เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นเลยแลกมาเก็บ แบบนี้ลงทุนไรได้บ้างเนี๊ะ

ถ้าเป็นผม ผมจะเอาไปลงทุน "ความรู้" ก่อนเลยเป็นอันดับแรกครับ  ยิงฟันยิ้ม

พ่อรวยสอนลูก เล่ม 1



พ่อรวยสอนลูก เล่ม 2 เงินสี่ด้าน  



และ 3 ( ล่าสุด ) THE Last Resignment การลาออกครั้งสุดท้าย



และความรู้(เบื้องต้น)จากในหนังสือ 3 เล่มที่ยกมา ... อาจจะกลายเป็น "ทรัพย์สิน" ที่มีค่ามากที่สุด ในอนาคตสำหรับคุณเหมือนกับผมก็ได้ .... ไงลองหามาอ่านดู ทั้ง 3 เล่มนี้ ใช้เงินลงทุนไม่ถึง 2000 เยน หรอกครับ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 18 กันยายน 2010, 03:56:33 โดย Freedom » IP : บันทึกการเข้า

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 ... 41 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!