เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 20 เมษายน 2024, 06:50:15
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  สมถะ กับ วิปัสสนา ??? กราบเรียน ญาติธรรม ร่วมเสวนา
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 [3] พิมพ์
ผู้เขียน สมถะ กับ วิปัสสนา ??? กราบเรียน ญาติธรรม ร่วมเสวนา  (อ่าน 4017 ครั้ง)
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #40 เมื่อ: วันที่ 14 ธันวาคม 2012, 22:44:57 »

ในแนวการทำ กัมมัฏฐาน

ฝึกสมถะ

 คือ การออกกำลังจิต ให้กล้าแข็ง เป็น  อุบายทำจิตให้ได้รับ  ความสงบ

 มีสุข  จาก  ความสงบ

จิต มีสติ  มหาสติ

จิต  มี กำลังมาก ๆ ขึ้น  ก็จะ  ได้  ฌาน
ฌาน คือ  จิตมีกำลัง มหากำลัง คือ พลังจิตสูง
เด่น ใน ทาง มีฤทธิ์ เดช  อิทธิวิธี มากบ้าง  น้อยบ้่าง ตาม  คุณภาพ ของ พลังจิต

ฌาน มีได้  ก็เสื่อมได้

หาก  ไม่ ใช้  ปํญญา มาประกอบ เป็น  วิปัสสนาญาณ  อาจ สูญเสีย โอกาสดี ๆ
แบบ  ท่านอาฬาลดาบส  อุทกดาบส


สำหรับ การฝึก วิปัสสนา
คือ การฝึก ในการใช้  ปัญญา พินิจ  พิจารณาธรรม ใดๆ  ที่ใจตัวเรา ใคร่ ศึกษา

หากใคร  ฝึกสมถะ  มามาก ๆ จนมี สติมั่นคง ได้ฌาน ท่านว่า เมื่อ  ฝึกวิปัสสนา จนได้  ญาณ

คือ ฌาน  บวก ญาณ จักมั่นคง พัฒนาคูณภาพจิต ได้อย่างดี มีปัญญา  มุ่งสู่  การพ้นทุกข์ เร็ว



พระสิทธัตถะโพธิสัตว์  ทรงได้ ฌาน แต่ยังเยาว์( ก่อน 9 ขวบ เสียอีก)  นั่งทรงฌาน  ใต้ร่มหว้า
 เงาหว้า ไม่เคลื่อนย้าย แม้น เลยเวลาแล้ว


ท่าน  ทรง คิด แล้วจึงลงมือ ปฏิบัติ (ปริยัติ แล้ว ลงมือทำ วิปัสสนา)

ได้ ฌาน แล้ว ทำ  วิปัสสนา ต่อ จนได้ วิปัสสนาญาณ
 
ทรงบรรลุ พระสัมมาสัมโพธิญาณ
ก็ด้วย พระวิปัสสนาญาณ
ญาณ แห่ง  ความสำเร็จ

ญาณ  ท่านว่า  ใครได้แล้ว ได้ถาวรเลย  บ่ เสื่อม
 แถม ติดฝังแน่น  อยู่ในจิต ข้ามภพชาติ




                       ญาณ         ดียิ่งกว่า        ฌาน


  ท่านว่า งั้น




หนานธง  จำมาเล่า  หากผิดพลาด  กราบวอน  ท้วงติงด้วย



หาก ผมเอ็นหมั่นขึ้น จะเอา  บทความธรรมะ จาก  ครูบา  อาจารย์ มาลอกลงมา  ในกระทู้ จะขลังกว่า  แน่นอนกว่า

เป็น  ธรรมปฏิบัติ ของ  ครูบา อาจารย์  ผู้รู้จริง  ทำได้ จริง อย่างที่เล่า        

 ไม่ใช่ ธรรมะจำ  จำมาเล่า....  โดย  หนานธงขี้อู้  หำยาน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 24 ธันวาคม 2012, 19:20:41 โดย nantong » IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #41 เมื่อ: วันที่ 16 ธันวาคม 2012, 02:54:20 »



      สมถะ             กับ                วิปัสสนา

       ไก่                กับ              ไข่  
                  
                
                    อะไรเกิด  ก่อน?


    หากจะว่า

      สมถะ  เป็น  เหตุ              วิปัสสนา     เป็น  ผล            


  หากว่าอย่างนี้  ใคร ว่า  ผิด  หรือ  ถูก

เชิญ  ร่วม  เสวนา   เป็น  ธรรมทาน  ครับ



เห็นการพิมพ์ การเว้นวรรค การแยกประโยคของท่านก็มึนแล้วค่ะ  ยิ้มกว้างๆ


หาก  ท่านเริ่มหายมึน บ้าง  ขอเชิญ มาร่วมเสวนา กันอีก
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #42 เมื่อ: วันที่ 16 ธันวาคม 2012, 03:07:46 »


หาก  ได้ผลญาณ โลกุตรธรรม โสดาบัน จักปิด อบายภูมิ เกิดตาย อีก ไม่เกิน 7 หน...
ผลญาณ ติดจิต ไป พัฒนาจิต  ไปสู่การหลุดพ้น



นี่  คือ  ญาณ  ติดต่อ  ตัวตน ข้ามภพชาติ ได้  จริง ๆ  
ไม่มีเสื่อม  แถม  ยัง พัฒนา ตนเอง ได้  
ไม่มีเกิน  7 ชาติ....ก็ เป็น  อรหันต์  จบกิจ


พัฒนา ไปจนได้  อรหันตมัคค์  พอ จบแล้ว
จะได้  อรหัตตผล
ไม่มี อวิชชา ในจิต

  จิต หมดอวิชชา  คือ หมดเชื้อ  นำไปเกิด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 16 ธันวาคม 2012, 03:11:33 โดย nantong » IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #43 เมื่อ: วันที่ 17 ธันวาคม 2012, 23:52:56 »

แนวทางการปฎิบัติภาวนาในศาสนาพุทธมี 4 ดังนี้
 
1. แนวสมถยานิก หรือสมาธินำปัญญา หรือแนวพระป่า ในพระไตรปิฎก
   จะเรียกว่า เจริญวิปัสสนามีสมถะเป็นเบื้องหน้า คือการที่ทำสมถะจนถึง
   ฌานสองขึ้นไป แล้วเอาผู้รู้ที่เกิดในฌานมาเจริญวิปัสสนา เมื่อตัวผู้รู้หมดกำลังลง
   ก็ต้องเริ่มต้นทำสมาธิใหม่ ทำแบบนี้สลับกันไปมา ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาว่างมากๆ
   และจริตนิสัยไปทาง ประเภทรักสวยรักงาม รักสงบ
 
2. แนววิปัสสนายานิก หรือปัญญานำสมาธิ ในพระไตรปิฎกจะเรียกว่า
   เจริญสมถะมีวิปัสสนาเป็นเบื้องหน้า คือการเจริญสติ ตามรู้กาย
   ตามรู้ใจ ตามความเป็นจริงเลย เพราะขณะเจริญสติจะเกิดการสลับระหว่าง
   สมถะและวิปัสสนา เหมาะสำหรับคนทำงานอย่างเรา ๆ ที่ไม่มีเวลาว่างในการทำสมาธิ
   เพราะต้องยุ่งกับงานทั้งวัน จริตนิสัยไปทาง คนที่ชอบคิด จ้าวความคิด จ้าวความเห็น
 
3. แนวสมาธิควบปัญญา ในพระไตรปิฎกจะเรียกว่า เจริญสมถะและวิปัสสนา
    ควบคู่กันไป

4. แนวนี้ไม่รู้จะเรียกอะไรแต่ในพระไตรปิฎกเรียกว่า ใจของภิกษุปราศจาก
 อุทธัจจะในธรรม สมัยนั้น จิตนั้นย่อมตั้งมั่น สงบ ณ ภายใน เป็นจิตเกิด
 ดวงเดียว ตั้งมั่นอยู่ (ตามความเข้าใจของผม จะหมายถึง อภิญญา
 ที่มีชื่อว่า อาสวักขยญาณ)  [
 
แนวทางนี้มีบันทึกอยู่ใน ยุคนัทธสูตร พระไตรปิฏก เล่มที่ ๒๑
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๓อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต ซึ่งพระอานนท์ได้
กล่าวถึง ภิกษุที่บรรลุอรหันต์ในสำนักท่านที่มีอยู่
โดยมีรายละเอียดในพระสูตรดังนี้
 

[๑๗๐] สมัยหนึ่ง ท่านพระอานนท์อยู่ ณ โฆสิตาราม ใกล้เมือง-
 *โกสัมพี ณ ที่นั้นแล ท่านพระอานนท์เรียกภิกษุทั้งหลายว่า อาวุโสภิกษุทั้งหลาย
 ภิกษุเหล่านั้นรับคำท่านพระอานนท์แล้ว ท่านพระอานนท์ได้กล่าวว่า ดูกรอาวุโส
 ทั้งหลาย บุคคลผู้ใดผู้หนึ่งเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม ย่อมพยากรณ์การบรรลุ
 อรหัตในสำนักของเราด้วยมรรค ๔ โดยประการทั้งปวง หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง
 ในบรรดามรรค ๔ ประการนี้ มรรค ๔ เป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้
 เจริญวิปัสสนามีสมถะเป็นเบื้องหน้า เมื่อเธอเจริญวิปัสสนามีสมถะเป็นเบื้องหน้า
 มรรคย่อมเกิด เธอย่อมเสพ ย่อมเจริญ ย่อมกระทำให้มากซึ่งมรรคนั้น เมื่อเธอเสพ
 เจริญ กระทำให้มากซึ่งมรรคนั้น ย่อมละสังโยชน์ทั้งหลายได้ อนุสัยย่อม-
 *สิ้นสุด ฯ
 อีกประการหนึ่ง ภิกษุย่อมเจริญสมถะมีวิปัสสนาเป็นเบื้องหน้า เมื่อเธอ
 เจริญสมถะมีวิปัสสนาเป็นเบื้องหน้า มรรคย่อมเกิด เธอย่อมเสพ ย่อมเจริญ
 ย่อมกระทำให้มากซึ่งมรรคนั้น เมื่อเธอเสพ เจริญ กระทำให้มากซึ่งมรรคนั้น
 ย่อมละสังโยชน์ทั้งหลายได้ อนุสัยย่อมสิ้นสุด ฯ
 อีกประการหนึ่ง ภิกษุย่อมเจริญสมถะและวิปัสสนาควบคู่กันไป เมื่อเธอ
 เจริญสมถะและวิปัสสนาควบคู่กันไป มรรคย่อมเกิด เธอย่อมเสพ เจริญ กระทำ
 ให้มากซึ่งมรรคนั้น เมื่อเธอเสพ เจริญ กระทำให้มากซึ่งมรรคนั้น ย่อมละ
 สังโยชน์ทั้งหลายได้ อนุสัยย่อมสิ้นสุด ฯ
 อีกประการหนึ่ง ใจของภิกษุปราศจากอุทธัจจะในธรรม สมัยนั้น จิตนั้น
 ย่อมตั้งมั่น สงบ ณ ภายใน เป็นจิตเกิดดวงเดียว ตั้งมั่นอยู่ มรรคย่อมเกิดขึ้นแก่เธอ
 เธอย่อมเสพ เจริญ กระทำให้มากซึ่งมรรคนั้น เมื่อเธอเสพ เจริญ กระทำ
 ให้มากซึ่งมรรคนั้น ย่อมละสังโยชน์ทั้งหลายได้ อนุสัยย่อมสิ้นสุด ดูกรอาวุโส
 ทั้งหลาย บุคคลผู้ใดผู้หนึ่ง เป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม ย่อมพยากรณ์การบรรลุอรหัต
 ในสำนักของเรา ด้วยมรรค ๔ ประการนี้ โดยประการทั้งปวง หรืออย่างใด
 อย่างหนึ่ง บรรดามรรค ๔ ประการนี้ ฯ


อย่างไรก็ตาม อรรถกถาสรุปว่า ไม่ว่าจะเจริญวิปัสสนาโดยมีสมถะนำหน้า หรือเจริญสมถะโดยมีวิปัสสนานำหน้าก็ตาม เมื่อถึงขณะที่อริยมรรคเกิดขึ้น ทั้งสมถะและวิปัสสนาจะต้องเกิดขึ้นด้วยกันอย่างควบคู่เป็นการแน่นอนเสมอไป ที่เป็นเช่นนี้ เพราะว่าโดยหลักพื้นฐานแล้ว สมถะและวิปัสสนาก็คือองค์ของมรรคนั่นเอง วิปัสสนาได้แก่สัมมาทิฏฐิและสัมมาสังกัปปะ สมถะได้แก่องค์มรรคที่เหลืออีก 6 ข้อ ซึ่งเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่องค์มรรคเหล่านี้จะต้องเกิดขึ้นพร้อมกันในขณะบรรลุอริยภูมิ


หนาน  ได้ไป ศึกษา เพิ่มเติม 

สมาธิยานิก  ก็คือ มีสมาธิ เป็น ยาน   
ยาน คือ ตัวนำ  มีสมาธิ นำ ๆ อะไร      สมาธิ คือ ทำสมถะ สงบ มีฌาน แล้วค่อย ใช้ วิปัสสนา ปัญญา
มาพิจารณาธรรม

วิปัสสนายานิก  คือ ปัญญา เป็นยาน
ใช้ปัญญา  แล้ว จึงมี  สมถะ สงบ ตามมา

ฯลฯ
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #44 เมื่อ: วันที่ 18 ธันวาคม 2012, 22:15:49 »

17 ธันวาคม 2555 ตอนหัวค่ำ หนานธง ได้ไปกราบ ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ท่านคือ  หลวงปู่สมภาร ปกติท่าน อยู่อิสาน ทางบึงกาฬ ทางหนองคาย ท่านมาที่ วัดป่าถ้ำประทุน อ.บางละมุง (ใกล้พัทยา)

ท่านให้ทำ สมาธิ จนจิตสงบ  จิตมีกำลังดี แล้ว ถอยลง  มาพิจารณาธรรม ในอารมณ์ ของ วิจารณ์ฯ

แนวท่าน  น่าจะจัดเป็น  สมาธิ  เป็น  ยาน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 18 ธันวาคม 2012, 22:22:04 โดย nantong » IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
นายเหตุผล
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 564



« ตอบ #45 เมื่อ: วันที่ 18 ธันวาคม 2012, 22:24:35 »


หาก  ได้ผลญาณ โลกุตรธรรม โสดาบัน จักปิด อบายภูมิ เกิดตาย อีก ไม่เกิน 7 หน...
ผลญาณ ติดจิต ไป พัฒนาจิต  ไปสู่การหลุดพ้น



นี่  คือ  ญาณ  ติดต่อ  ตัวตน ข้ามภพชาติ ได้  จริง ๆ  
ไม่มีเสื่อม  แถม  ยัง พัฒนา ตนเอง ได้  
ไม่มีเกิน  7 ชาติ....ก็ เป็น  อรหันต์  จบกิจ


พัฒนา ไปจนได้  อรหันตมัคค์  พอ จบแล้ว
จะได้  อรหัตตผล
ไม่มี อวิชชา ในจิต

  จิต หมดอวิชชา  คือ หมดเชื้อ  นำไปเกิด

ลองไปศึกษาคำว่า "ฌาน" กับคำว่า "ญาณ" ใหม่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 25 ธันวาคม 2012, 23:08:43 โดย นายเหตุผล » IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #46 เมื่อ: วันที่ 22 ธันวาคม 2012, 20:09:13 »

ผมสงสัย ท่านนายเหตุผล พิมพ์ คำว่า ญาณ เป็น ญาญ
อย่างไร ก็ตาม
ผมก็ขอ กราบอนุโมทนา ที่แนะนำ เป็น ธรรมทาน แก่ หนาน ครับ

IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
dr.kuay
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 88


« ตอบ #47 เมื่อ: วันที่ 03 มกราคม 2013, 13:29:37 »

สมาธิเชิงพุทธฯ

http://www.watnyanaves.net/uploads/File/books/pdf/samadhi_in_buddhism_(thai).pdf
IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #48 เมื่อ: วันที่ 04 มกราคม 2013, 21:22:47 »

สาธุ ๆๆ อนุโมทามิ ครับ ท่าน Dr.K. ที่นำสาระธรรม ดี ๆ มาร่วมเสวนา เป็นธรรมทาน หนานธงอ่านได้สบายตา ด้วยการขยายขนาดอักษร แต่ผมก็ต้องใส่แว่นสายตายาว (สายตามันแก่ แม้ใจยังหนุ่ม)  ใช้เวลา ไป 1 ชั่วโมง อ่านจบได้ 1 ตอน จึงเบรคยกแรก มาพิมพ์ ฯ
ผลบุญใด ที่ท่าน ดร.เค จักพึงมี จาก เสวนาธรรม ขอจงมีแก่ผม แล ท่านญาติธรรม ด้วยเถิด พระเจ้าข้า ฯ
ดัง พระบาลี ตรัสรับรอง ชัดเจน ว่า        สพฺพ ทานํ  ธมมฺ ทานํ  ชินาติ
ไหว้สาธุ 
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
หน้า: 1 2 [3] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!