เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 20 เมษายน 2024, 08:17:25
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การเกษตร,ฟาร์มสัตว์,ปศุสัตว์ (ผู้ดูแล: bm farm)
| | |-+  นาปรังปี 2555 ปลูกข้าวพันธุ์ไหนกันดี...?
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 พิมพ์
ผู้เขียน นาปรังปี 2555 ปลูกข้าวพันธุ์ไหนกันดี...?  (อ่าน 8331 ครั้ง)
chetta2499
เชษฐา 2499
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,138


จุดเทียนไขดีกว่านั่งแช่งความมืด


« เมื่อ: วันที่ 29 ตุลาคม 2012, 18:07:19 »

เนื่องจากนาปีที่กำลังจะผ่านไปมีเกษตรกรได้มีความสนใจปลูกข้าวพันธุ์ กข.47 / พิษณุโลก 2
กันมาก แต่ผลปรากฎว่า ไม่ได้ผลผลิตตามที่คาดหวังไว้ เพราะว่า เจอโรคเชื้อราใบแห้ง
จึงทำให้ได้ผลผลิตต่ำมาก ๆ  บางคนได้ไม่คุ้มทุนการผลิต
จึงอยากระดมความคิดและแชร์ประสบการณ์ของแต่ละพื้นที่ว่า
ผลผลิตจะแตกต่างหรือการต้านทานโรคจะแตกต่างกันอย่างไร
ผมมีโอกาสขับรถลงไปกรุงเทพเมื่อกลางเดือนผ่่านไปหลายจังหวัดเห็นข้าวของพวกเขา
ไม่มีโรคเลย เหลืองอร่ามเต็มทุ่งนา แต่ไม่ได้สอบถามว่าเป็นพันธุ์อะไร
เช่นลพบุรี พิจิตร พิษณุโลก แพร่ งาว พะเยา พาน
จะป็นหนักก็แถวเชียงราย
ขอระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะครับ
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มผลิตไก่ชนคุณภาพ จังหวัดเชียงราย
ซุ้มไก่ชนลูกพ่อขุนฯเชียงราย

htt://www.facebook.com/chetta worapitbenja

โทร 0892576293/0808979330
bm farm
หัวหมู่ทะลวงฟัน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,576


canon eos


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 29 ตุลาคม 2012, 20:45:45 »

 ยิ้มกว้างๆ...มีข้อสังเกตุว่า....ข้าวพิษณุโลก2..ไม่ค่อยชอบปุ๋ยเยอะและเหมาะสำหรับนาหว่านมากกว่าครับ.......สภาพดินบ้านเราน่าจะเหมาะสำหรับข้าวสุพรรณบุรี1มากกว่า....แต่นาปรังปีนี้ผมจะลงพิษณุโลก2ทั้ง40ไร่แหละครับ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 29 ตุลาคม 2012, 20:51:00 โดย bm1234 » IP : บันทึกการเข้า

ยิ้มกว้างๆ .....อ่านกฏ,กติกาการใช้งานเวบบอร์ดด้วยครับ.....
TG475
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 512



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 30 ตุลาคม 2012, 08:33:43 »

ผมปลูก CP. 13 ไร่ จะเกี่ยว วันสองวันนี้ล่ะ..ดูๆแล้วก็่น่าจะ OK..ดีหน่อยที่ไม่เจอฝนและลมช่วงออกรวงประกอบกับคุมน้ำได้ เลยล้มไม่มาก..บางคนที่นี่ปลูก CP.ก็บอกว่าน้ำหนักดีใช้ได้..นาปรังนี้ผมจะหว่าน พิษณุโลก2 ทั้งหมด...เพราะแถวนี้พิสูจแล้วว่าพิษณุโลก2 ไม่ทำให้ผิดหวังครับ.. ใครมีพันธุ์พิษณุโลก2 เอามาแลก CP.ของผมน่ะครับ..อยากได้สัก 300 โล..
IP : บันทึกการเข้า
romeo28
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 513


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 30 ตุลาคม 2012, 09:04:37 »

ผมก็จะลง พิษโลก2 ครับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ปลูก 6 ไร่ มือใหม่ด้วย555+(นาแม่เมียแหมกำหนา)
IP : บันทึกการเข้า
ดรีม ขี้เหล้าน้อย
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,176



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 30 ตุลาคม 2012, 09:09:11 »

เข้ามาลักอ่านเจ้า เห็นแล้วใคร่ปลูกข้าวนาปรัง แต่กลัวน้ำบ่ป่อเจ้า ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
jukgree
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 492


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 30 ตุลาคม 2012, 11:27:47 »

กำลังจะตั้งกระทู้ถามพอดีเลยครับ นาปรังปีหน้าจะเป็นชาวนามือใหม่ครับ ผมอยู่ อ.พาน ตกลงพิษณุโลก 2 ดีใช่มั้ยครับพี่ๆ
IP : บันทึกการเข้า
ittisara
วิถีชีวิตที่ดีย่อมไม่หยุดยั้งการพัฒนา
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 426


มีดคมอยู่ในฝักคนล๊วกอยู่ในใจ


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 30 ตุลาคม 2012, 12:29:12 »

 เจาะบาดาลเลยน้องดรีม
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 30 ตุลาคม 2012, 20:25:12 »

ข้าวที่ผมเคยปลูก  กข.31,กข.41,กข.47,พิษณุโลก2  ผมแนะนำ กข.41,กข.47,พิษณุโลก2 ทั้ง 3 พันธุ์นี้สามารถได้ผลผลิตเกิน 1  ตันได้หมดครับ  ผลผลิตนั้นขึ้นอยู่กับการดูแลและวิธีของแต่ละท่านครับเอาถนัดว่าครับ

พันธุ์ข้าวนาสวนไม่ไวต่อช่วงแสง  
   กข1
   กข2
   กข3
   กข4
   กข7
   กข9
   กข10
   กข11
   กข14
   กข21
   กข23
   กข25
   กข29 (ชัยนาท 80)
   กข31 (ปทุมธานี 80)
   กข33 (หอมอุบล 80)
   กข37  
   กข39
   กข41
   กข43
   กข47
   ข้าวเจ้าหอมคลองหลวง 1
   ข้าวเจ้าหอมสุพรรณบุรี
   ชัยนาท 1
   ชัยนาท 2
   ปทุมธานี 1
   บางแตน
   พัทลุง
   พิษณุโลก 2
   พิษณุโลก 60-2
   แพร่ 1
   สกลนคร
   สันป่าตอง 1
   สุพรรณบุรี 1
   สุพรรณบุรี 2
   สุพรรณบุรี 3  
   สุพรรณบุรี 60
   สุพรรณบุรี 90
   สุรินทร์ 1
รายละเอียดของพันธุ์ข้าวดูได้ที่  http://www.brrd.in.th/rkb/varieties/index.php.htm
IP : บันทึกการเข้า
chetta2499
เชษฐา 2499
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,138


จุดเทียนไขดีกว่านั่งแช่งความมืด


« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 31 ตุลาคม 2012, 10:09:21 »

ฤดูนาปรังปีที่ผ่านมา+นาปี
เขาร่ำลือกันว่า ข้าวหอมปทุม 1 ได้ข้าวนักกั๋นนะครับ
แต่มันมีฉายาว่า "ปทุมรถละ" คือมันแก่จ้าครับ
เลยไม่มีรถมาเกี่ยว
ส่วนนาของผมอยู่ในเขตชลประทาน เคยเข้าโครงการศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์พะเยา
ปลูกพันธุ์ พณ.2 เจอโรคใบแห้ง 2 ฤดูกาลเลย
ปัจจุบันนี้ก็ยังมีกลุ่มอยู่แต่ผมต้องเลิกเข้าโครงการเพราะได้เงินน้อย
ปีนี้คนที่เข้าโครงการก็ยังเจอโรคเหมือนกัน
 นาปีนี้ผมปลูก กข.47 ก็เจอไบแห้ง ทั้ง ๆ ที่ใช้สมุนไพรสกัด ก็ไม่อยู่แต่จะไม่รุนแรง
เก่ากับคนข้าง ๆ
เลยอยากถามว่า ถ้าหากว่าเราใช้สารสกัดเชื้อรา ไตรโคเดอร์ม่า จะเอาอยู่ก่อหา
เพราะว่า ทั้ง กข 47 / พณ 2 มีการแตกกอดี มีรวงยาว ถ้าได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
พันธุ์อื่นสู้ไม่ได้แน่ในเรื่องผลผลิต

ตอนนี้ ผมสั้งพันธุ์ หอมปทุม 1 และจะใข้รถปลูกประมาณต้นเดือน มค.56
เพื่อจะให้เก็บเกี่ยวได้ทันพันธุ์อื่น ๆ

แต่จะพิจารณาข้อเสนอแนะจากท่านทั้งหลายอยู่ครับ  ยังพอมีเวลาเปลี่ยนใจ


สำหรับน้องดรีมก็น่าจะทำน้อย ๆ โดยขุดบ่อไว้ประมาณ 1 ไร่ อละเจาะบาดาล
ไว้ข้าง ๆ  สูบน้ำจากบ่อบาดาลเอามาเก็บไว้ที่บ่อเวลาหว่านเสร็จเราก็สูบหรือ
ปล่อยน้ำลงบ่อแล้วก็สูบมาใช้เมื่อต้องการครับ
แม่หลวง นำพาก็ถามถึงอยู่นะครับ
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มผลิตไก่ชนคุณภาพ จังหวัดเชียงราย
ซุ้มไก่ชนลูกพ่อขุนฯเชียงราย

htt://www.facebook.com/chetta worapitbenja

โทร 0892576293/0808979330
tonza26
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 292


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 31 ตุลาคม 2012, 13:05:02 »

ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่พันธุ์ แต่อยู่ที่ดิน น้ำ อากาศ +เทคนิคหรือสูตรที่ทำต่างหาก ตอนนี้ใครอยากเห็นกับตา มาดูที่ บ้านป่าไร่บ้านดู่ ,ศรีค้ำ แม่จัน ,บ้านไม้ยา พญาเม็งราย ,แม่สาย แต่ตอนนี้เหลืออยู่ กข6, มะลิ105 ,สุพรรณ เท่านั้นเน้อ นอกนั้นเกี่ยวแล้ว
อยากไปคุยกับทุกคนที่อยากได้ผลผลิต อยากให้คนเชียงรายได้ใช้เยอะๆ  วันที่ 1 พย.55 ไป สปป ลาว ไปบอกกล่าวเทคนิคให้เค้ารับรู้  ปัญหานาข้าว มีเชื้อรากะแมลงแค่นั้นแก้ง่ายจะตาย
ปล.เทใจไปที่ สุพรรณ ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 31 ตุลาคม 2012, 13:17:13 โดย tonza26 » IP : บันทึกการเข้า
kunkru
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 187



« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 31 ตุลาคม 2012, 13:12:08 »

ค่ะ...คิดว่าคงเกี่ยวกับ ดิน ปุ๋ย อากาศ และการดูแลค่ะ 
ปีที่แล้ว ใช้พิษณุโลก 2 เหมือนกันค่ะ สวยดี ออกมาก็อย่างหรู
เห็นแล้วชื่นใจ แต่พอใกล้เก็บเกี่ยว ได้เมล็ดแบบลีบหมดเลยค่ะ
หมดไป 40,000 ค่ะ
IP : บันทึกการเข้า
0440
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 490


ชีวิตมันสั้น เกินกว่าจะไล่ตาม "คนที่เขาไม่มองเรา"


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 31 ตุลาคม 2012, 13:56:48 »

ฤดูนาปี  พื้นที่ 10 ไร่ของลูกค้าผม
ปลูก กข.47 แบบใช้รถปักดำวันที่ 7/7/55
เก็บเกี่ยว วันที่ 15/10/55  เร็วมากครับ
ผลผลิตเฉลี่ย 11,700 กก./ไร่

ไม่พบการระบาดของโรคแต่อย่างใด

นาปรัง ก็คงปลูกพันธุ์นี้อยู่ครับ อายุเก็บเกี่ยวสั้นมาก

ปัญหาการระบาดของโรคในพื้นที่เพาะปลูก สามารถป้องกันได้ครับ ถ้ารู้่ว่าเป็นพื้นที่สะสมหรือมีโรคให้พ่นป้องกันไว้ก่อน ตามระยะเวลา

เชื้อราไตรโคเดอร์มา เป็นเชื้อราชั้นสูงที่ดำรงชีวิตอยู่ในดิน อาศัยเศษซากพืช ซากสัตว์และอินทรียวัตถุเป็นแหล่งอาหาร เจริญได้รวดเร็วบนอาหารเลี้ยงเชื้อราหลายชนิด สร้างเส้นใยสีขาวและผลิตส่วนขยายพันธุ์ที่ เรียกว่า “โคนิเดีย” หรือ “สปอร์” จำนวนมากรวมเป็นกลุ่มหนาแน่นจนเห็นเป็นสีเขียว เชื้อราไตรโคเดอร์มาเป็นศัตรู (ปฏิปักษ์) ต่อเชื้อราสาเหตุโรคพืชหลายชนิดโดยวิธีการเบียดเบียน หรือเป็นปรสิต และแข่งขันหรือแย่งใช้อาหารที่เชื้อโรคต้องการ นอกจากนี้เชื้อราไตรโคเดอร์มายังสามารถผลิตปฏิชีวนสาร และสารพิษ ตลอดจนน้ำย่อยหรือเอนไซม์สำหรับช่วยละลายผนังเส้นใยของเชื้อโรคพืช คุณสมบัติพิเศษของเชื้อราไตรโคเดอร์มาคือ สามารถช่วยละลายแร่ธาตุให้อยู่ในรูปที่เป็นประโยชน์ต่อพืช จึงช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชและชักนำให้ต้นพืชมีความต้านทานต่อเชื้อโรคพืชทั้งเชื้อราและแบคทีเรียสาเหตุโรค

การนำไปพ่นบนใบไม่ได้ผลเท่าที่ควร เพราะบนใบไม่มีอาหารให้เชื้อครับ
IP : บันทึกการเข้า

ID Line : n0804988255
bm farm
หัวหมู่ทะลวงฟัน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,576


canon eos


« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 31 ตุลาคม 2012, 15:06:22 »

ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่พันธุ์ แต่อยู่ที่ดิน น้ำ อากาศ +เทคนิคหรือสูตรที่ทำต่างหาก ตอนนี้ใครอยากเห็นกับตา มาดูที่ บ้านป่าไร่บ้านดู่ ,ศรีค้ำ แม่จัน ,บ้านไม้ยา พญาเม็งราย ,แม่สาย แต่ตอนนี้เหลืออยู่ กข6, มะลิ105 ,สุพรรณ เท่านั้นเน้อ นอกนั้นเกี่ยวแล้ว
อยากไปคุยกับทุกคนที่อยากได้ผลผลิต อยากให้คนเชียงรายได้ใช้เยอะๆ  วันที่ 1 พย.55 ไป สปป ลาว ไปบอกกล่าวเทคนิคให้เค้ารับรู้  ปัญหานาข้าว มีเชื้อรากะแมลงแค่นั้นแก้ง่ายจะตาย
ปล.เทใจไปที่ สุพรรณ ครับ

 ยิ้มกว้างๆ....สุพรรณ1นี่ทนทานโรคดีครับ....
IP : บันทึกการเข้า

ยิ้มกว้างๆ .....อ่านกฏ,กติกาการใช้งานเวบบอร์ดด้วยครับ.....
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 31 ตุลาคม 2012, 15:13:59 »

ช่วยเพิ่มเติมให้ครับที่จริงไม่ตรงประเด็นกับชื่อกระทู้ที่ถามปลูกพันธุ์ข้าวไหนดีแต่ช่วยเสริมให้ครับ

พันธุ์ข้าว -  เลือกพันธุ์ให้เหมาะกับพื้นที่ปลูก  ข้าวแต่ละสายพันธุ์ลักษณะต่างกัน การให้ผลผลิตไม่เท่ากัน ความต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืชต่างกัน นอกจากนี้ต้องดูพันธุ์ข้าวว่ามาจากแหล่งใด วิธีการปลูก  การเก็บเก็บเกี่ยว การเจือปน ข้าวพันธุ์อื่น วัชพืช และการเก็บรักษาข้าวพันธุ์ด้วย ความชื้น ต่าง ๆ ก็มีผล ตลอดจนราคา ข้าวแพคส่วนมากจะมีการคลุกน้ำยากันเชื้อรา บ้างก็คลุกสารป้องกันและศัตรูพืช ซึ่งเอามาสีกินไม่ได้ ต่างจากพันธุ์ข้าวที่เราซื้อจากชาวนาโดยตรง

ดิน - มีการปรับปรุงดินให้มีความสมบูรณ์ เมื่อดินดี ข้าวจะสมบูรณ์ โตเร็ว และประหยัดต้นทุนค่าปุ๋ย ดินที่ดีนอกจากมี จุลินทรีย์ แล้วควรมีอาหารสำหรับจุลินทรีย์ด้วยเพื่อแปรสภาพเป็นธาตุ อาหารกับข้าว  สำหรับข้าวความเหนียวของดินมีผลต่อการอุ้มน้ำ

น้ำ - ข้าวต้องน้ำเพื่อการเจริญเติบโต ชาวนาใช้น้ำเพื่อควบคุมการเจริญเติบโตของวัชพืชที่จะแย่งอาหารของต้นข้าว ข้าวขาดน้ำทำให้ข้าวโตช้า ไม่สมบูรณ์  น้ำมากไปก็ไม่ดี  เมื่อพืชขาดน้ำอัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงจะลดลง  เนื่องจากปากใบข้าวจะปิดเพื่อลดการคายน้ำซึ่งทำให้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์แพร่เข้าสู่ปากใบได้ยาก  แต่ถ้าน้ำมากทำให้รากพืชขาดแก๊สออกซิเจนที่ใช้ในการหายใจซึ่งมีผลกระทบต่ออัตราการสังเคราะห์ด้วยแสง

ความชื้น-อุณหภูมิ  -  มีผลต่อการเจริญเติบโตของข้าว ตลอดจนการออกรวง ข้าวบางสายพันธุ์ไม่ชอบอากาศหนาว ตลอดจนความชื้น อุณหภูมิเป็นปัจจัยในการเกิดโรคการแพร่ขยายพันธุ์ของโรคโดยเฉพาะโรคจากเชื้อรา แมลงศัตรูข้าว และที่สำคัญอุณหภูมิมีผลต่อกระบวนการสังเคราะห์แสงของข้าว ข้าวบางชนิดเจริญเติบโตได้ดีในที่ที่มีอากาศร้อน(อุณหภูมิสูง)  บางชนิดเจริญเติบโตได้ดีในที่ที่มีอากาศเย็น(อุณหภูมิต่ำ)

แสงและความเข้มของแสง - ข้าวต้องการแสงแดดเพื่อช่วยในกระบวนการสังเคราะห์แสง ปริมาณของแสงตลอดความเข้มของแสงที่เหมาะสมมีผลอย่างยิ่ง ไม่งั้นจะมีการแบ่งพืชปลูกในร่ม หรือพืชกลางแจ้งไว้ทำไม พืชในที่ร่มมีอัตราการหายใจต่ำกว่าพืชที่อยู่กลางแจ้งจึงมีการตรึงคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิ เป็นศูนย์ได้ที่ระดับความเข้มแสงต่ำ ดังนั้นพืชในที่ร่มจึงมี
ไลท์คอมเพนเซชันพอยท์ต่ำกว่าพืชที่อยู่กลางแจ้ง  ลองสังเกตุข้าวที่ขึ้นใต้ต้นไม้หรือที่ร่มเทียบกับข้าวที่อยู่กลางแจ้งดูสิครับ

อากาศ -  ง่าย ๆ พืชต้องการแก๊สออกซิเจนสำหรับหายใจ และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สำหรับการสร้างอาหาร   การปลูกข้าวถี่กันมาก หรือทำให้อับ อากาศไม่ผ่านนอกจากจะทำให้ข้าวไม่สมบูรณ์ อาจส่งผลให้เกิดโรคได้ง่าย

ปุ๋ยและธาตุอาหาร   แน่นอนว่าข้าวต้องการธาตุอาหารเพื่อการเจริญเติบโต  นอกจาก NPK  แล้วเคยพูดเรื่องปุ๋ย NPK ในกระทู้อื่นแล้วขอผ่านครับ  ข้าวยังต้องการธาตุเสริม   ข้าวมีกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง  หากเราเคยเรียนเกษตรสมัยเด็ก ๆ จะทราบว่า คลอโรฟิลล์ทำหน้าที่เป็นโมเลกุลรับพลังงานจากแสง และนำพลังงานดังกล่าวไปใช้ในการสร้างพลังงานเคมีโดยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง เพื่อสร้างสารอินทรีย์ เช่น น้ำตาล และนำไปใช้เพื่อการดำรงชีวิต ข้าวต้องการธาตุอาหารที่จำเป็นต่อกระบวนการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ เช่น   ธาตุแมกนีเซียมและไนโตรเจนเป็นธาตุสำคัญในองค์ประกอบของคลอโรฟิลล์ การขาดธาตุเหล่านี้ส่งผลให้พืชเกิดอาการใบเหลืองซีดที่เรียกว่า  คลอโรซิส  เนื่องจากใบขาดคลอโรฟิลล์  ธาตุเหล็กจำเป็นต่อการสร้างคลอโรฟิลล์และเป็นองค์ประกอบของไซโทโครมซึ่งเป็นตัวถ่ายอิเล็กตรอน   ส่วนธาตุแมงกานีสและคลอรีนจำเป็นต่อกระบวนการแตกตัวของน้ำในปฏิกิริยาการสังเคราะห์ด้วยแสง  การขาดธาตุอาหารต่างๆ  ที่กล่าวมานี้จะมีผลให้อัตราการสังเคราะห์ด้วยแสงลดลงด้วย  และที่สำคัญ การใส่ปุ๋ยให้ถูก ถูกปริมาณเพราะโรคบางชนิดเกิดจากการใช้ปุ๋ยเคมีอัตราสูงเกินไป หรือใช้ผิดเวลา ได้แก่ การเกิดโรคไหม้ บางครั้งเกิดจากการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนสูงเกินไป  ถูกกับความต้องการ ถูกกับช่วง และการจัดการก็มีผลอย่างยิ่งครับ

แมลงศัตรูพืช สัตว์ศัตรูข้าว -  ต้องมีการป้องกันและกำจัดอย่างถูกวิธีครับ

ชาวนา -  ผู้ปลูกจะต้องนอกจากเป็นคนขยัน ดูแลเอาใจใส่แล้ว ควรมีความรู้ เพื่อนำมาจัดการและแก้ไขปัญหาด้วยครับ

เอาแค่นี้ก่อนนะครับ.... ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ



IP : บันทึกการเข้า
jaroen
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 425


« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 31 ตุลาคม 2012, 16:14:23 »

ตะกี้ไปต่งมา เจอ กข6 ต่าว น้ำต๋าจะไหล กำลังจะโก่งคองวง เห็นนาแปลงข้างๆ พิโลก2 เจอใบไหม้+เมล็ดด่าง+แมงแกงลงตอนเป็นน้ำนม ไม่รู้ว่าจะได้เท่าไหร่เห็นข้าวลีบนักขนาด แต่เจ้าของนั่งคุมรถเกียว จ๊ดเบียร์เฉยเลย555 ออกจากต่งกข6 ไปดูข้าว มะลิ105 ของผมอีกแปลงหนึ่ง เจอ ไหม้คอรวง กะเม็ดด่าง เฮ้ออออ ชาวนา ว่าวันพูกเช้าจะไปพ่นยา *** ต้นทุนก็บานตะไท ราคารับซื้อ ก็ไม่รู้หมู่หรือจ่า
IP : บันทึกการเข้า
bm farm
หัวหมู่ทะลวงฟัน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,576


canon eos


« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 31 ตุลาคม 2012, 19:11:27 »

 ยิ้มกว้างๆ....นาปรังปีที่แล้ว....แปลงนา23ไร่ลงพิษณุโลก2ทั้งหมดโดยวิธีดำ..เป็นแปลงทำเมล็ดพันธุ์ให้กับบริษัทปุ๋ยแถวๆบ้าน......แบ่งเป็น13ไร่แปลงหนึ่งและ10ไร่แปลงหนึ่ง
......แปลง13ไร่ใส่ปุ๋ย3ครั้ง...มีน้ำแช่ตลอด(จนรถเกี่ยวทำนาหล่ม)น้ำไม่ขาดจนเก็บเกี่ยว....เจอโรคใบแห้ง...เก็บเกี่ยวได้10ตันนิดๆ
.......แปลง10ไร่ใส่ปุ๋ย2ครั้ง....พ่นคาร์เบนดาซิม...น้ำขาดบ้างแต่ไม่ถึงกับดินแตกแห้ง...ข้าวงามไม่เป็นโรคอะไรเลย...เก็บเกี่ยวได้11ตันกว่า........ปีนี้เลยขอลองฝีมืออีกทีครับ.....
IP : บันทึกการเข้า

ยิ้มกว้างๆ .....อ่านกฏ,กติกาการใช้งานเวบบอร์ดด้วยครับ.....
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 31 ตุลาคม 2012, 22:11:24 »

ยิ้มกว้างๆ....นาปรังปีที่แล้ว....แปลงนา23ไร่ลงพิษณุโลก2ทั้งหมดโดยวิธีดำ..เป็นแปลงทำเมล็ดพันธุ์ให้กับบริษัทปุ๋ยแถวๆบ้าน......แบ่งเป็น13ไร่แปลงหนึ่งและ10ไร่แปลงหนึ่ง
......แปลง13ไร่ใส่ปุ๋ย3ครั้ง...มีน้ำแช่ตลอด(จนรถเกี่ยวทำนาหล่ม)น้ำไม่ขาดจนเก็บเกี่ยว....เจอโรคใบแห้ง...เก็บเกี่ยวได้10ตันนิดๆ
.......แปลง10ไร่ใส่ปุ๋ย2ครั้ง....พ่นคาร์เบนดาซิม...น้ำขาดบ้างแต่ไม่ถึงกับดินแตกแห้ง...ข้าวงามไม่เป็นโรคอะไรเลย...เก็บเกี่ยวได้11ตันกว่า........ปีนี้เลยขอลองฝีมืออีกทีครับ.....

ป้อเลี้ยง BM พ่นคาร์เบนดาซิม บ่าเดียวนี้มีหลายยี่ห้อขนาดน้อ หันบางยี่ห้อขวด 2-3 ร้อย บางยี่ห้อขวดพันป๋าย บางครั้งการใช้สารอินทรีย์ชีวภาพเอาบ่าตันก็ต้องพ่นยาเคมีละน้อ เพราะบางครั้งมีการแพร่ระบาดรวดเร็ว   รักษาช้าก็เป็นอันตรายกับต้นข้าว  เหมือนกับคนเฮาเวลาเป็นไข้หวัดใหญ่ กินยาต้มสมุนไพร  เทียบกับไปฉีดยา การฉีดยาก็ช่วยฮื้อหายเร็วกว่าแม่นก่อครับ ทางที่ดีต้องกั๋นไว้ดีกว่าแก้น้อ

เอามาฝากน้อครับ.....เผื่อใครบ่าฮู้มาอ่านจะได้ฮู้จักพ่อง

กลุ่มชื่อสามัญสารเคมีกำจัดโรคพืช
1. เบโนมิล - ใช้ในการป้องกันและกำจัดโรคพืช
2. คาร์เบนดาซิม  -ข้าว : โรคไหม้ (Blast) เชื้อสาเหตุ Pyricularia oryzae
3. คอปเปอร์ไฮดรอกไซด์ 
4. คอปเปอร์ออกซีคลอร์ไรด์
5. ฟอสอีทิล อลูมิเนียม
6. ไอโพรไดโอน
7. แมนโคเซป
8. เมทาแลกซิล
9. โพรพิโคลนาโซน
10. โพรพิเนป
11. ซัลเฟอร์
12. วาลิดามัยซิน  - ข้าว : โรคกาบใบแห้ง  เชื้อสาเหตุ Thanatephorus cucumeris (Frank) Donk
13. ซีเนป
14. ฟอสฟอนิค เอซิค

สารกำจัดแมลงพืช
1. อะบาเม็กติน - ใช้ป้องกันและกำจัดหนอน
2. บูโพรเฟซิน  -  ใช้ป้องกันกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในนาข้าว
3. คาร์บาริล    -   ใช้ในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชต่างๆ
4. คาร์โบซัลแฟน   - ใช้ในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชชนิดต่างๆ
5. คาร์แทป ไฮโดรคลอไรด์   - ใช้ในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูข้าว เช่น หนอนกอแถบลาย
                                        หนอนกอ สีครีม หนอนกอสีชมพูหนอนกอแถบลายม่วง
6. คลอร์ไพริฟอส    -  ใช้ในการกำจัดแมลงศัตรูพืชต่างๆ
7. ไซเพอร์เมทริน   - ใช้ในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชชนิดต่างๆ
8. เดลทาเมทริน    - ใช้ในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชชนิดต่างๆ
10. ไดคลอร์วอส    - ใช้ในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชชนิดต่างๆ
11. ไดโครโตรฟอส   -ใช้ในการป้องกันกำจัดด้วงหมัด
12. อีไทออน   -ใช้ในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชต่างๆ
13. ฟีโนบูคาร์บ - ใช้ในการป้องกันกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในข้าว
14. มาลาไทออน  -ใช้ในการกำจัดแมลงศัตรูพืช
15. เมทิดาไทออน  -ป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชและเพลี้ยหอยต่างๆ
16. เมโทมิล    -ใช้ในการป้องกันกำจัด หนอน
17. โอเมโทเอต -ใช้ในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชชนิดต่างๆ
18. เฟนโธเอต  -ใช้ในการกำจัดเพลี้ยหอย
19. โฟซาโลน   -ใช้ในการกำจัดแมลงศัตรูพืชต่างๆ
20. พิริมิฟอส-เมทิล -ใช้ในการกำจัดแมลงศัตรูพืชต่างๆ
21. โพรฟีโนฟอส -ใช้ในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูฝ้าย
22. ควินัลฟอส    -ใช้ในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชต่างๆ
23. ไทอามีโตแซม  -ใช้ป้องกันกำจัดหนอนชอนใบส้ม
24. ไตรอาโซฟอส   -ใช้ในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช
25. ไวต์ออยส์   -ใช้สำหรับแช่เหง้าขมิ้นเพื่อกำจัดเพลี้ยหอยในขมิ้น

ที่จริงมีนักขนาดเน้อ ทั้งสารกำจัดวัชพืช  สารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช  ปุ๋ยและธาตุเสริมต่าง ๆ ที่จริงผมบ่าค่อยได้ใช้สารเคมีเท่าไหร่โดยเฉพาะสารเคมีที่เป็นอันตราย เพราะเราทำนาเอง การใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายมีผลต่อสุขภาพของเฮา แม้ว่าเฮาจะป้องกันแล้ว แต่มันก็มีสารตกค้างบางทีเราอาจบ่าทันได้ป้องกันครับ บางทีสารเคมีแพร่ไปยังแหล่งน้ำธรรมชาติ คนมาหาปูหาปลาก็ได้ฮับสารนี้ไปแหม ละอ่อนกิ๋นปลาที่พ่อแม่หามาก็ได้ฮับสารพิษแหม  อยากฮื้อชาวนาไทยมีอายุและแข็งแรงเหมือนชาวนาญี่ปุ่นน้อครับ
IP : บันทึกการเข้า
nopa11
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 88


« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 03 พฤศจิกายน 2012, 11:30:57 »

พันธู์ข้าวนาปรังเข้าเจ้า กข 39 เป็นพันธฺุ์ข้าวที่เหมาะสมกับทางภาคเหนือตอนบน(บ้านเรา)
ปรับปรุงพันธุ์ที่ ศวข.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ซึึ่งทนอากาศหนาวได้ดีกว่าพันธุ์อื่น ๆ ที่ปรับปรุง
พันธฺุ์มาจากภาคกลาง ต้านทานต่อโรคใหม้ ผลผลิตสด 1000 กก.ขึ้นไป(นาดี คนขยัน) ซึ่งผมให้ลูกไร่
ผมผลิตเมล็ดพันธุ์มาแล้ว 3 ฤดูจึงพอเปรียบเทียบได้
สำหรับพันธุ์ข้าวเหนียวต้องเป็นพันธุ์ กข 14 ให้ผลผลิตต่อไร่สูง 1000 กก.ขึ้นเช่นกัน ชาวนาดีใจ
ปลูกข้าว 1 ไร่ ต้องได้เงิน 10,000 บาทขึ้นไป ไม่พลาด
วันนี้ขอแนะนำ 2 พันธู์นี้ก่อน สอบถามได้ท่ี 081-6024656,081-1118619
IP : บันทึกการเข้า
chetta2499
เชษฐา 2499
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,138


จุดเทียนไขดีกว่านั่งแช่งความมืด


« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 03 พฤศจิกายน 2012, 11:46:20 »

ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่พันธุ์ แต่อยู่ที่ดิน น้ำ อากาศ +เทคนิคหรือสูตรที่ทำต่างหาก ตอนนี้ใครอยากเห็นกับตา มาดูที่ บ้านป่าไร่บ้านดู่ ,ศรีค้ำ แม่จัน ,บ้านไม้ยา พญาเม็งราย ,แม่สาย แต่ตอนนี้เหลืออยู่ กข6, มะลิ105 ,สุพรรณ เท่านั้นเน้อ นอกนั้นเกี่ยวแล้ว
อยากไปคุยกับทุกคนที่อยากได้ผลผลิต อยากให้คนเชียงรายได้ใช้เยอะๆ  วันที่ 1 พย.55 ไป สปป ลาว ไปบอกกล่าวเทคนิคให้เค้ารับรู้  ปัญหานาข้าว มีเชื้อรากะแมลงแค่นั้นแก้ง่ายจะตาย
ปล.เทใจไปที่ สุพรรณ ครับ

 ยิ้มกว้างๆ....สุพรรณ1นี่ทนทานโรคดีครับ....
ปัจจุบันนี้หายากมากครับ มันค่อนข้างต้นสูงล้มง่าย ไม่ทนต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
ผมเคยปลุกแบบใช้คนปักดำ ได้ 952 ก.ก./ไร่ เป็นพันธุ์ข้าวส่งให้แดงพันธุ์ข้าวราคาประกัน 7 บ./ก.ก
สมัยที่ข้าราคา ก.ก.3-4 บาท ภายหลังมาเห๋อของใหม่ไปหลง พณ.2 เจอโรคใบแห้ง 2 ฤดูกาลเลยจอดมาปีนี้ ลง กข.47 ก็เจออีก พยายามหา สพ.1 แต่ไม่มี เลย สั้ง ปท.1 มาแทนครับ
IP : บันทึกการเข้า

ฟาร์มผลิตไก่ชนคุณภาพ จังหวัดเชียงราย
ซุ้มไก่ชนลูกพ่อขุนฯเชียงราย

htt://www.facebook.com/chetta worapitbenja

โทร 0892576293/0808979330
bm farm
หัวหมู่ทะลวงฟัน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,576


canon eos


« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 05 พฤศจิกายน 2012, 13:38:19 »

 ยิ้มกว้างๆ....แผนเตรียมแปลงสำหรับนาปรังปีนี้
....ทำคันนาใหม่ทั้งหมด
....ไถกลบตอซัง
....เจาะบ่อบาดาลเพิ่ม
IP : บันทึกการเข้า

ยิ้มกว้างๆ .....อ่านกฏ,กติกาการใช้งานเวบบอร์ดด้วยครับ.....
หน้า: [1] 2 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!