เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 23 เมษายน 2024, 18:26:25
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  สาวสวยกับบทบาทภิกษุณี
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน สาวสวยกับบทบาทภิกษุณี  (อ่าน 2218 ครั้ง)
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2012, 22:28:18 »

จากชีวิตจริง ดาราสาวสวย มีชื่อเสียง เป็นภิกษุณีผู้มีธรรม
จากชีวิตจริง ดารานางแบบสาวสวย มีชื่อเสียงมาก
เป็นภิกษุณีผู้มีธรรมะในใจ เปี่ยมด้วยความสุข

เรามาร่วมอนุโมทนา สาธุ ไปกับเธอคนนี้กันนะครับ
ผู้ไม่หลงความงาม ชื่อเสียง และเงินทอง...
แต่กลับหันหน้ามุ่งหาความสงบ...ทางธรรม...
ขอให้เธอเจริญในธรรมและบรรลุสิ่งที่เธอหวัง...


* CaptureWiz3138.jpg (54.31 KB, 488x348 - ดู 1697 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 28 ตุลาคม 2012, 23:29:19 โดย ๋๋P » IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2012, 22:29:00 »

โคฮีนัว สิงค์ ชื่ออันไพเราะภาษาเปอร์เซียโบราณอันแปลว่า มงกุฎเพชร
เป็นชื่อในวงการของ ทิพปา สิงค์ นักแสดงและนางแบบสาวชั้นแนวหน้า
ของเนปาล เชื้อสายอินเดีย ที่จู่ๆ ตัดสินใจผันตัวเองมาบวชเป็นภิกษุณี
เธอโกนผม ไม่แต่งหน้า และทำสิ่งที่สวนทางกับอาชีพนักแสดงอย่างยิ่ง
จนหลายคนตกใจ มีทั้งเสียงยินดี ไม่พอใจ และสนับสนุนในคราวเดียวกัน
หลังจากการเป็นนางเอกมิวซิค วิดีโอ กว่า ๒๕ เรื่อง และอาชีพนางแบบ
กว่า ๑๐ ปี บน catwalks bikini shoots และนิตยสารเสื้อผ้าแฟชั่น

ตอนนี้เธอได้ชื่อใหม่ทางพระพุทธศาสนาแบบเนปาล
เธอกล่าวว่าที่เธอเลือกจะบวชเป็นภิกษุณีในพระพุทธศาสนา
ก็เพราะพระพุทธศาสนานั้นเรียบง่ายและเป็นความจริงของชีวิต
และสอนให้เธอได้เป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
ชื่อเกิดของเธอคือ ทิพปา

ต่อมาเมื่อเข้าวงการดารานางแบบก็กลายเป็น โคฮีนัว
ในขณะที่แม่ของเธอชอบเรียกเธอว่า ชนะคยา
ส่วนพ่อของเธอให้ nickname ใหม่กับเธอหลังบวชเป็นภิกษุณีว่า “buddha”
ภิกษุณีสาวสวยให้สัมภาษณ์อย่างติดตลกเกี่ยวกับชื่อเหล่านั้น
แต่อย่างไรก็ตามชื่อของเธอตามแบบสงฆ์
ซึ่งเป็นตัวตนจริงของเธอก็คือ Ani Losang Dolma

นอกจากนี้ ภิกษุณีคนสวยยังกล่าวว่า เธอไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นหรือดีใจ
กับการได้เป็นนักแสดงหรือเวลามีคนมาชมในความสวยของรูปร่างน่าตาของเธอ
เพราะสำหรับเธอมันก็เป็นแค่อาชีพหรือภาระหน้าที่หนักหน่วงเท่านั้น
ผู้คนที่เข้ามามองดูเธอแค่เพียงรูปร่างภายนอก ไม่ใช่ตัวตนจริงๆ ของเธอ
บางคนชื่นชมในความสวยก็ดีไป ในขณะที่มีอีกหลายๆ คน
ในสังคมอันโบร่ำโบราณของอินเดียและเนปาล
ที่มองว่า นักแสดงนางแบบเป็นพวกขายเรือนร่าง


* CaptureWiz3140.jpg (142.01 KB, 750x717 - ดู 872 ครั้ง.)

* CaptureWiz3143.jpg (46.01 KB, 332x442 - ดู 738 ครั้ง.)

* 566283-topic-ix-7.jpg (121.93 KB, 500x375 - ดู 752 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 28 ตุลาคม 2012, 22:58:10 โดย ๋๋P » IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2012, 22:30:01 »

ภิกษุณีสาวอดีตนักแสดง ยังกล่าวอีกว่า
เธอรู้สึกชื่นชมการเป็นภิกษุณีมาก
ตั้งแต่เด็กเวลาที่เธอพบพวกภิกษุณี ที่ Swayambu
นางดูมีความสุขและแต่งกายแบบเดิมเสมอ เรียบง่าย
และปราศจากเครื่องยึดเหนี่ยวใจให้ตกต่ำ เช่น สังคมของคนธรรมดา
ที่ต้องนึกถึงภาพลักษณ์และปั้นแต่งอยู่เสมอ

ยิ่งเวลาอายุน้อยมีกิเลสอยากได้มากเท่าไร สังเกตได้ว่าความสุขก็น้อยลงเท่านั้น
หลายคนคิดว่าที่เธอบวชภิกษุณี เพื่อสร้างข่าวให้ตัวเองดังยิ่งขึ้น
แต่ภิกษุณีสาวก็กล่าวว่าไม่เป็นความจริงเช่นนั้น
เพราะเธอไม่ได้บอกสื่อมวลชนเลยตลอดเดือนที่เริ่มบวช แต่คนอื่นก็มาสืบรู้กันเอาเอง
ภิกษุณีสาวกล่าวว่า เธอเป็นนางแบบที่ดังอยู่แล้ว และไม่จำเป็นต้องสร้างข่าวเทียม
เพื่อทำลายชื่อที่มีอยู่แล้วด้วยการโกหก

เธอคิดว่าตลอดระยะเวลาเป็นดารานางแบบนี้ เธอก็ได้สร้างชื่อมามากเกินพอแล้ว
และเธออยากจะละทิ้งมันไปทั้งหมดจริงๆ แล้วสื่อมวลชนเป็นสิ่งที่เธอยอมแพ้
เวลาที่ใครสักคนเกิดมา ไม่มีใครรู้หรอกว่าตัวเองจะโตขึ้นแล้วเป็นอะไร
เราทุกคนซึมซับเรียนรู้สิ่งรอบตัวและก็กลายเป็นเราในอนาคต
และแน่นอน ภิกษุณีไม่ใช่คนของสื่อมวลชน

เธอกล่าวว่าความแตกต่างระหว่างตอนเป็นโคฮีนัวกับตอนนี้ ก็ตลกดี
เจอเหตุการณ์ที่ต่างกัน ตอนเป็นโคฮีนัว ก็มีแฟนคลับผู้ชายโทรมา
ให้ฉันเลิกกับแฟนของตัวเอง (ดาราด้วยกัน)
ในขณะที่แฟนคลับผู้หญิงของแฟนเรา ก็โทรมาบอกให้เขาเลิกกับเรา

พอมาตอนนี้ เป็นภิกษุณีโกนหัวใส่จีวร มีวันหนึ่งเดินไปบิณฑบาต
เจอกลุ่มเด็กผู้ชายกำลังเตะบอล พวกเค้าบังเอิญเตะมาโดนหัวเรา
พวกเค้าคิดว่าเราเป็นเณรผู้ชาย ภิกษุณีสาวกล่าวพลางหัวเราะ

ภิกษุณีสาว กล่าวว่า เธอจะไม่มีทางกลับไปเดินบนเส้นทางเดิม
ของนักแสดงอีกตลอดไป เพราะการเป็นภิกษุณีคือสิ่งที่ฉันอยากเป็นมาตลอด
ทั้งหมดนี้คือหนทางของหญิงสาวที่ก้าวสู่การเป็นภิกษุณีในต่างแดน
แน่นอนว่ามีทั้งเสียงคัดค้านและต้อนรับ

ผู้สื่อข่าวถามคำถามสุดท้ายจากเธอว่า
เธอมีอะไรที่จะบอกเยาวชนรุ่นเด็กบ้าง

ภิกษุณีสวยสวยตอบว่า
คนเรานั้นเกิดมาก็ง่ายต่อการพบเจอสุขและทุกข์
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอันแสนสั้น
สิ่งที่เป็นอมตะคือวิญญาณของเรา
คนที่สามารถอยู่กับทั้งสุขและทุกข์
โดยไม่สะทกสะท้านคือผู้ที่ค้นพบสุขอันแท้จริง


ข้อมูลจาก http://board.postjung.com/566283.html


* CaptureWiz3139.jpg (82.63 KB, 600x437 - ดู 717 ครั้ง.)

* CaptureWiz3144.jpg (44.11 KB, 300x497 - ดู 722 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 28 ตุลาคม 2012, 22:55:30 โดย ๋๋P » IP : บันทึกการเข้า
Samon
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 105


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2012, 22:46:40 »

สวยทั้งภายนอกและภายใน
IP : บันทึกการเข้า
@เชียงแสน
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


..ทุกลมหายใจคือการเปลี่ยนแปลง..


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2012, 22:47:11 »

..ผมเข้าใจว่าภิกษุณีไม่มีแล้วในโลกใบนี้... ฮืม
IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 28 ตุลาคม 2012, 22:54:05 »

..ผมเข้าใจว่าภิกษุณีไม่มีแล้วในโลกใบนี้... ฮืม
ได้ข่าวว่าภิกษุณี บวชได้ที่ประเทศศรีลังกานะครับ


* 566283-topic-ix-9.jpg (145.16 KB, 360x360 - ดู 732 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 28 ตุลาคม 2012, 22:56:10 โดย ๋๋P » IP : บันทึกการเข้า
เฮียพง
แฟนพันธุ์แท้เชียงรายโฟกัส
สมาชิกลงทะเบียน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 264



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 29 ตุลาคม 2012, 09:15:01 »

สาธุ
IP : บันทึกการเข้า

Tel.086-7320469
ลุงหนาน
ผู้ดูแลบอร์ด
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 249



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 31 ตุลาคม 2012, 07:55:37 »

ตอบเป็นความรู้
ภิกษุณีนั้นได้สูญสิ้นไปในสมัยพุทธกาล หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานไป 300 ปี.. สำหรับในเถระวาท หรือเมืองไทยเราที่นับถือพุทธศาสนาแบบเถรวาท ไม่สามารถบวชภิกษุณีได้ เพราะว่าการบวชของภิกษุณีนั้นต้องบวชญัตติทั้งสองฝ่าย ได้แก่ หมู่สงฆ์ภิกษุ และหมู่สงฆ์ภิกษุณี จึงจะเป็นภิกษุณีที่สมบูรณ์ได้ และที่สำคัญคือ ภิกษุณีหมดไปหลังจากพระองค์ปรินิพพานได้  300 ปี การที่ผู้หญิงที่บวชกับภิกษุเพียงฝ่ายเดียว ยังไม่ถือว่าเป็นภิกษุณี  เพราะพระองค์ทรงบัญญัติไว้
 กฏใหญ่ 3 ข้อ ของเถรวาท
๑. สังโฆ อะปัญญัตตัง นะ ปัญญะเปติ. สงฆ์ไม่บัญญัติสิ่งที่ไม่ทรงบัญญัติ
๒. ปัญญัตตัง นะ สมุจฉินทะติ. ไม่ถอนถอนพระบัญญัติที่ทรงบัญญัติแล้ว
๓. ยะถาปัญญัติเตสุ สิกขาปะเทสุ สะมาทายะ วัตตะติ. สมาทานประพฤติในสิกขาบททั้งหลายตามที่ทรงบัญญัติแล้ว  
    ดังนั้นพระภิกษุจะแก้ไขธรรมวินัยไม่ได้ ไม่เหมือนรัฐธรรมนูญที่มีการร่างกันได้ตลอด แต่ของพระพุทธศาสนาถือว่า เป็นกฏเกณฑ์อมตะ ห้ามใครเปลี่ยนแปลง. ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน
  ส่วนในลังกานั้นมีการส่งภิกษุณีสงฆ์และมีการสืบเชื้อสายต่อๆ กันมา แต่ก็ได้หมดไปนานแล้ว ในสมัยก่อนอาณาจักรไทยประสบกับภัยภิบัตินานัปการทำให้ต้องส่งฑูตไปขอพระภิกษุสงฆ์จากลังการมาให้การบรรพชาอุปสมบทแก่กุลบุตรชาวไทย พระพุทธศาสนาที่ประดิษฐานในประเทศไทยจึงมีชื่อว่า "พุทธศาสนาลังกาวงศ์" ตั่งแต่บัดนั้นมา (ไม่มีการส่งภิกษุณีมาด้วย เพราะหมดไปแล้ว)
         ในสมัยหนึ่งประเทศลังการได้ประสบกับภัยภิบัติต่างๆ จนไม่มีพระภิกษุแม้แต่รูปเดียว จึงได้ส่งฑูตมายังประเทศไทยเพื่อให้จัดส่งคณะสงฆ์ไปให้การบรรพชาอุปสมบทแก่กุลบุตรชาวลังกา พระพุทธศาสนาในประเทศลังกาจึงมีชื่อว่า "พุทธศาสนาสยามวงศ์" ตั้งแต่นั้นมา

         จากประวัติศาสตร์นั้นเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ในประเทศไทยไม่เคยมีภิกษุณีสงฆ์ และ ทางลังกาเองภายหลังก็ได้มีการประดิษฐานพระพุทธศาสนาโดยคณะสงฆ์ไทย จึงเป็นอันว่า ภิกษุณีได้หมดไปนานแล้วในลังกา

สรุปแล้ว การที่ภิกษุณีบวชได้ปัจจุบัน เป็นพระพุทธศาสนา มหายาน..คือเป็นนิกายปฏิเสธคำสอนหลักพระธรรมวินัยของเถรวาท. มีประเทศ ลังกา ฯลฯ  แต่เมืองไทยไม่มีภิกษุณีแน่นอน.. แต่ที่มีอยู่อาจจะไปบวชในประเทศที่่กล่าวมาแล้ว..
         แต่โดยสรุปแล้ว ไม่ว่า ภิกษุ สามเณร ภิกษุณี แม่ีชี นักบวช ฤาษี หรือชาวบ้านธรรมดา ถ้าปฏิบัติตามหลัก ศีล สมาธิ ปัญญา..ก็บรรลุธรรมได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าใครมีวิริยะ พากเพียรมากว่ากัน เพราะเพศ สถานะ สภาวะ ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติธรรม..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 07 พฤศจิกายน 2012, 09:46:08 โดย ลุงหนาน » IP : บันทึกการเข้า

อย่ายึดมั่นกับสิ่งใดๆ เพราะอะไรๆ ก็ไม่แน่นอน
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 31 ตุลาคม 2012, 09:23:27 »

สาธุครับ ลุงหนาน ที่ให้ข้อมูลกระจ่าง
ภิกษุณีในประเทศไทยก็มีนะครับ
แต่ท่านไปบวชที่ประเทศศรีลังกามา ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
Kontae_ki
อนาคต..เราสร้างเองได้
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 399


ลูกชาวนา 100%


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 05 พฤศจิกายน 2012, 14:42:27 »

ตอบเป็นความรู้
ภิกษุณีนั้นได้สูญสิ้นไปในสมัยพุทธกาล หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานไป 300 ปี.. สำหรับในเถระวาท หรือเมืองไทยเราที่นับถือพุทธศาสนาแบบเถรวาท ไม่สามารถบวชภิกษุณีได้ เพราะว่าการบวชของภิกษุณีนั้นต้องบวชญัตติทั้งสองฝ่าย ได้แก่ หมู่สงฆ์ภิกษุ และหมู่สงฆ์ภิกษุณี จึงจะเป็นภิกษุณีที่สมบูรณ์ได้ และที่สำคัญคือ ภิกษุณีหมดไปหลังจากพระองค์ปรินิพพานได้  300 ปี การที่ผู้หญิงที่บวชกับภิกษุเพียงฝ่ายเดียว ยังไม่ถือว่าเป็นภิกษุณี  เพราะพระองค์ทรงบัญญัติไว้
 กฏใหญ่ 3 ข้อ ของเถรวาท
๑. สังโฆ อะปัญญัตตัง นะ ปัญญะเปติ. สงฆ์ไม่บัญญัติสิ่งที่ไม่ทรงบัญญัติ
๒. ปัญญัตตัง นะ สมุจฉินทะติ. ไม่ถอนถอนพระบัญญัติที่ทรงบัญญัติแล้ว
๓. ยะถาปัญญัติเตสุ สิกขาปะเทสุ สะมาทายะ วัตตะติ. สมาทานประพฤติในสิกขาบททั้งหลายตามที่ทรงบัญญัติแล้ว 
    ดังนั้นพระภิกษุจะแก้ไขธรรมวินัยไม่ได้ ไม่เหมือนรัฐธรรมนูญที่มีการร่างกันได้ตลอด แต่ของพระพุทธศาสนาถือว่า เป็นกฏเกณฑ์อมตะ ห้ามใครเปลี่ยนแปลง. ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน
  ส่วนในลังกานั้นมีการส่งภิกษุณีสงฆ์และมีการสืบเชื้อสายต่อๆ กันมา แต่ก็ได้หมดไปนานแล้ว ในสมัยก่อนอาณาจักรไทยประสบกับภัยภิบัตินานัปการทำให้ต้องส่งฑูตไปขอพระภิกษุสงฆ์จากลังการมาให้การบรรพชาอุปสมบทแก่กุลบุตรชาวไทย พระพุทธศาสนาที่ประดิษฐานในประเทศไทยจึงมีชื่อว่า "พุทธศาสนาลังกาวงศ์" ตั่งแต่บัดนั้นมา (ไม่มีการส่งภิกษุณีมาด้วย เพราะหมดไปแล้ว)
         ในสมัยหนึ่งประเทศลังการได้ประสบกับภัยภิบัติต่างๆ จนไม่มีพระภิกษุแม้แต่รูปเดียว จึงได้ส่งฑูตมายังประเทศไทยเพื่อให้จัดส่งคณะสงฆ์ไปให้การบรรพชาอุปสมบทแก่กุลบุตรชาวลังกา พระพุทธศาสนาในประเทศลังกาจึงมีชื่อว่า "พุทธศาสนาสยามวงศ์" ตั้งแต่นั้นมา

         จากประวัติศาสตร์นั้นเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ในประเทศไทยไม่เคยมีภิกษุณีสงฆ์ และ ทางลังกาเองภายหลังก็ได้มีการประดิษฐานพระพุทธศาสนาโดยคณะสงฆ์ไทย จึงเป็นอันว่า ภิกษุณีได้หมดไปนานแล้วในลังกา

สรุปแล้ว การที่ภิกษุณีบวชได้ปัจจุบัน เป็นพระพุทธศาสนา มหายาน..คือเป็นนิกายปฏิเสธคำสอนหลังพระธรรมวินัยของเถรวาท. มีประเทศ ลังกา ฯลฯ  แต่เมืองไทยไม่มีภิกษุแน่นอน.. แต่ที่มีอยู่อาจจะไปบวชในประเทศที่่กล่าวมาแล้ว..
         แต่โดยสรุปแล้ว ไม่ว่า ภิกษุ สามเณร ภิกษุณี แม่ีชี นักบวช ฤาษี หรือชาวบ้านธรรมดา ถ้าปฏิบัติตามหลัก ศีล สมาธิ ปัญญา..ก็บรรลุธรรมได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าใครมีวิริยะ พากเพียรมากว่ากัน เพราะเพศ สถานะ สภาวะ ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติธรรม..


สาธุ กับผู้ที่สละทางโลกแล้วเข้าบวช

ลุงหนาน พูดได้กระจ่างแจ้งมาก

หลายปีมาแล้ว ได้ยินคำพูดของพระ...ประยุทธ ปยุตโต
เรื่องที่เขาถกเถียงกันว่า "ผู้หญิงก็มีสิทธิ์บวชได้"
ท่านพูดยาวมากจำได้สั้นๆว่า

"ผู้หญิงนะ มีสิทธิ์บวช(เป็นภิกษุณี) ได้อยู่แล้ว ไม่มีใครห้าม
แต่ว่า แล้วใครละที่จะบวชให้"

ซึ่งท่านก็พูดประมาณนี้แหละว่า เมื่อภิกษุณีสงฆ์ ขาดไปแล้ว
แล้วจะให้ใครมาเป็นสงฆ์บวชให้ (ในศรีลังกาตอนที่ฟื้นฟูภิกษุณี)?
IP : บันทึกการเข้า

Pakakao
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 05 พฤศจิกายน 2012, 20:03:02 »

พระไตรปิฏก  กล่าวไว้ชัดเจนแล้ว ประไตรปิฏกเป็นหนึ่งเดียวทุกกาล
ถ้าปฏิเสธก็ไม่ใช่พุทธสิ    ไม่ควรมีนิกายด้วยเพราะเป็นหนึ่งเดียว
แล้วจะมีภิกษุณีได้เยี่ยงไร  เพราะภิกษุณีหายสาบสูญไปนานแล้ว ฮืม ฮืม
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!