เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 19 เมษายน 2024, 06:33:34
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การศึกษา (ผู้ดูแล: >:l!ne-po!nt:<)
| | |-+  เด็กไทย การศึกษาล้าหลังลำดับที่ 9 ใน 10 ประเทศอาเซี่ยน นำแต่พม่าประเทศเดียว
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] พิมพ์
ผู้เขียน เด็กไทย การศึกษาล้าหลังลำดับที่ 9 ใน 10 ประเทศอาเซี่ยน นำแต่พม่าประเทศเดียว  (อ่าน 3096 ครั้ง)
momcivil
เมื่อมีจงรู้จักให้ เมื่อได้จงรู้จักพอ เมื่อขอจงรู้จักคุณค่าคนเราเกิดมาถึงเวลาก็ต้องไป
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 976


ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ


« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 22 ตุลาคม 2012, 01:02:33 »

สมัยก่อนเทคโนโลยียังไม่มี คิดเลขก็ใช้หัว ภาษาไทยก็ชัดเปรี๊ยะทำรายงานทีก็เข้าแต่ห้องสมุด ครูมีเวลาสอนนักเรียนเต็มที่ไม่มีกั๊ก สี่โมงเย็นถึงจะเลิกเรียน รุ่นพี่ช่วยรุ่นน้อง ไม่มาตบตีกันเรื่องแย่งผู้ชาย สอบเข้ามหาวิทยาลัยก็เอ็นทร๊านซ์รอบเดียวได้ก็คือได้ สมัยนี้ขอโทษทุกอย่างกลับจากหน้ามือเป็นหลังทีน น่าสงสารเด็กสมัยนี้กันจริง ผู้ใหญ่ที่เป็นวัยทองใกล้โลงสมองเพี้ยนทำระบบการศึกษาของไทยปั่นป่วนไปหมด แถมไม่พอเทคโนโลยียังทำเด็กไทยเป็นบ้าทำตัวไร้สาระกันไปหมด กลายเป็นเด็กสมองฝ่อกันไปเลย เฮ้อเหนื่อยใจไม่รู้ว่าอนาคตประเทศไทยจะเป็นยังไงบ้างหนอ ร้องไห้
IP : บันทึกการเข้า

@ต่อไปนี้ทางเดินของฉันจะมีเธออยู่เคียงข้างกันตลอดไป
maekok_14
คือคนของพระราชา คือข้าของแผ่นดิน
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,253



« ตอบ #21 เมื่อ: วันที่ 22 ตุลาคม 2012, 01:09:26 »

สมัยก่อนเทคโนโลยียังไม่มี คิดเลขก็ใช้หัว ภาษาไทยก็ชัดเปรี๊ยะทำรายงานทีก็เข้าแต่ห้องสมุด ครูมีเวลาสอนนักเรียนเต็มที่ไม่มีกั๊ก สี่โมงเย็นถึงจะเลิกเรียน รุ่นพี่ช่วยรุ่นน้อง ไม่มาตบตีกันเรื่องแย่งผู้ชาย สอบเข้ามหาวิทยาลัยก็เอ็นทร๊านซ์รอบเดียวได้ก็คือได้ สมัยนี้ขอโทษทุกอย่างกลับจากหน้ามือเป็นหลังทีน น่าสงสารเด็กสมัยนี้กันจริง ผู้ใหญ่ที่เป็นวัยทองใกล้โลงสมองเพี้ยนทำระบบการศึกษาของไทยปั่นป่วนไปหมด แถมไม่พอเทคโนโลยียังทำเด็กไทยเป็นบ้าทำตัวไร้สาระกันไปหมด กลายเป็นเด็กสมองฝ่อกันไปเลย เฮ้อเหนื่อยใจไม่รู้ว่าอนาคตประเทศไทยจะเป็นยังไงบ้างหนอ ร้องไห้

+1000000
สงสัยต้องขยายคลอง เพราะไทยกำลังจะถอยหลังเข้าคลอง
เดี๋ยวคลองไม่พออยู่
IP : บันทึกการเข้า
Tonwai
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,762


FatBee ScooterClub ChaingRai Since 1999


« ตอบ #22 เมื่อ: วันที่ 22 ตุลาคม 2012, 15:33:03 »

อยู่ที่ตัวบุคคลและสถาบันครอบครัวครับเป็นหลัก
+1ครับ
IP : บันทึกการเข้า
9270
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 479


« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 22 ตุลาคม 2012, 17:09:47 »

ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่า  เขาใช้เกณฑ์อะไรมาวัด เช่น
-ความรู้ 
-ความสามารถเฉพาะตัวในการแก้ไขปัญหา
-คุณธรรม  จริยธรรม
-การอยู่ร่วมกับสังคม
ฯลฯ
ถ้าเป็นอย่างนี้  ใครที่เคยเดินทางไปลาว  เวียตนาม  เห็นโรงเรียนเขาแล้วเปรียบเทียบกับโรงเรียนของบ้านเรา   แล้วผลการเรียนเป็นเช่นนี้  เป็นเพราะเหตุใด ?  มีปัจจัยอะไรที่ทำให้เด็กไทยเป็นเช่นนี้ ?  เราต้องวิเคราะห์และหาทางแก้ไขกันต่อไป
แต่.....สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ  ครอบครัว  เพื่อน  สภาพแวดล้อมและการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียน  เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด
IP : บันทึกการเข้า
inta
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,444


« ตอบ #24 เมื่อ: วันที่ 22 ตุลาคม 2012, 19:22:10 »

ถ้าเขามีความฝัน    มีความหวัง     มีจินตนาการ    ไม่ต้องให้ใครมาบังคับ    เขาจะพยายามเดินเข้าหาเป้าหมายของเขาเอง   แม้จะมีอุปสรรคมาขวางกั้น   เขาจะบุกบั่น   ด้วยตัวเอง
ถ้าใจเขาไม่เอา    เอาช้างมาลากก็ยากที่จะเดินตาม   เอาติวเตอร์เก่งๆมาบรรยาย   มันก็จะเข้าหูซ้ายออกหูขวา    ในใจคิดถึงแต่เกมส์   แฟชั่น   
IP : บันทึกการเข้า


สนใจ โทร 086-9176511
Narmton
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 28


« ตอบ #25 เมื่อ: วันที่ 23 ตุลาคม 2012, 06:27:11 »

บอกตามตรงจากที่ประสบการณ์เป็นผู้บริหารมายี่สิบกว่าปี มองการศึกษาไทยที่ล้าหลังเขาเพราะสาเหตุดังนี้
  1.นโยบายการศึกษาไม่แน่นอน ใครมาเป็นรัฐมนตรี เลขา สพฐ.ก็เปลี่ยนไปเรื่อย ต้องตอบสนองนโยบายแต่ละท่าน ทำหลักสูตรเอกสารได้ 3 รถดั๊ม เปลี่ยนรัฐมนตรีใหม่ ทำใหม่อีก 2 รถปิ๊กอัพผู้ที่ได้รับผลประโยชน์คือร้านขายวัสดุการศึกษา แต่ครูกับเ็ด็กยังอยู่ทางสามแพร่งไปทางไหนดีกว่าจะคลำถูกทางปิดเทอมอีกแล้ว
  2.ลดนโยบายการประกันภายนอก หรือ สมศ.เอางบประมาณไปทิ้งเสียเปล่าๆ ผู้บริหารและครูกลัวว่าโรงเรียนตนเองจะไม่ผ่านการประเมินระดมครูมาจัดทำเอกสารหลอก สมศ.ทั้งวันทั้งคืนใช้เวลาประมาณหกเดือน แล้วจะเอาเวลาที่ไหนมานั่งสอนเด็กให้มีคุณภาพสู้กับอาเซี่ยนเขาได้
  3.สพป.และศน.นี่แหละตัวดี เน้นการแข่งขัน เช่นผู้บริหารดีเด่น ครูดีเด่น ครูอวอร์ด ครูแสนครูหมื่นในดวงใจ ครูดีตำบล ครูดี อำเภอ นวัตกรรมดีเด่น ส้วมสุขสันต์ ส่งเสริมสุขภาพดีเด่น ซะป๊ะโครงการแล้วเน้นว่าต้องมีร่องรอยเมื่อไปนิเทศ ทางผู้บริหาร ครูก็เตรียมตัวทำโครงการ แผนงานต่างๆ รอรับมาตรวจ ตรวจกระดาษเปล่ารูปเล่มสวยงาม แต่เนื้อในไม่มีอะไร แล้วก็ไปตรวจโรงเรียนอื่นต่อ ว่าโรงเรียนนี้บริหารดี หมดหน้าที่ภาระตนเองไปวันๆ แล้วเด็กตาตาดำๆได้อะไร ถึงเวลาสอบโอเน็ต แลต ปรีโอเน็ต เอากันอยู่นั่นหละ ไม่ได้เรียนสักที จนหมดเทอมปิดไปเลย แล้วจะไปสู้คุณภาพการศึกษาต่างชาติได้อย่างไร ประเทศเพื่อนบ้านเขาเรียนจริงๆ มีเวลามาก หยุดให้ผู้บริหาร และให้ครูทำโครงการประกวดดีเด่นต่างๆเถอะ เน้นให้ครูมีเวลาอยู่สอนกับเด็กวันละสี่ชั่วโมงอย่างจริงจังก็บุญโขแล้ว เด็กขาดคุณธรรมจริยธรรมก็จุดนี้แหละ
  4.ยกเลิกระบบการตรวจสอบระบบเอกสาร และกระจายอำนาจสู่โรงเรียนอย่างเต็มรูปแบบ ให้ทางโรงเรียนบริหารจัดการเอง เป็นนิติบุคคล บริหารจัดการในรูปแบบภาคี แล้วหนึ่งปีเข้าทำการประเมินตามหลักสูตรการเรียนการสอนระดับต่าง ๆ แล้วนำผลการประเมินของเด็กมาเปรียบเทียบก็จะรู้ว่าโรงเรียนไหนครูสอนเด็กจริงหรือไม่จริง นี่แหละผู้ปกครองถึงได้เอาเด็กไปเรียนโรงเรียนเอกชนกันในเมือง แล้วโรงเรียนรัฐก็ถูกยุบไปเรื่อยๆจนเหลือแต่วัดกับบ้านเท่านั้นไม่มีโรงเรียน
เป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่อยู่กับวงการศึกษามาประมาณสามสิบกว่าปีครับ แต่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้เพราะนโยบายอยู่เหนือเหตุผล และแบบการศึกษาไทย..ทาย..ครับ
IP : บันทึกการเข้า
Force
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 58


« ตอบ #26 เมื่อ: วันที่ 23 ตุลาคม 2012, 06:41:09 »

บอกตามตรงจากที่ประสบการณ์เป็นผู้บริหารมายี่สิบกว่าปี มองการศึกษาไทยที่ล้าหลังเขาเพราะสาเหตุดังนี้
  1.นโยบายการศึกษาไม่แน่นอน ใครมาเป็นรัฐมนตรี เลขา สพฐ.ก็เปลี่ยนไปเรื่อย ต้องตอบสนองนโยบายแต่ละท่าน ทำหลักสูตรเอกสารได้ 3 รถดั๊ม เปลี่ยนรัฐมนตรีใหม่ ทำใหม่อีก 2 รถปิ๊กอัพผู้ที่ได้รับผลประโยชน์คือร้านขายวัสดุการศึกษา แต่ครูกับเ็ด็กยังอยู่ทางสามแพร่งไปทางไหนดีกว่าจะคลำถูกทางปิดเทอมอีกแล้ว
  2.ลดนโยบายการประกันภายนอก หรือ สมศ.เอางบประมาณไปทิ้งเสียเปล่าๆ ผู้บริหารและครูกลัวว่าโรงเรียนตนเองจะไม่ผ่านการประเมินระดมครูมาจัดทำเอกสารหลอก สมศ.ทั้งวันทั้งคืนใช้เวลาประมาณหกเดือน แล้วจะเอาเวลาที่ไหนมานั่งสอนเด็กให้มีคุณภาพสู้กับอาเซี่ยนเขาได้
  3.สพป.และศน.นี่แหละตัวดี เน้นการแข่งขัน เช่นผู้บริหารดีเด่น ครูดีเด่น ครูอวอร์ด ครูแสนครูหมื่นในดวงใจ ครูดีตำบล ครูดี อำเภอ นวัตกรรมดีเด่น ส้วมสุขสันต์ ส่งเสริมสุขภาพดีเด่น ซะป๊ะโครงการแล้วเน้นว่าต้องมีร่องรอยเมื่อไปนิเทศ ทางผู้บริหาร ครูก็เตรียมตัวทำโครงการ แผนงานต่างๆ รอรับมาตรวจ ตรวจกระดาษเปล่ารูปเล่มสวยงาม แต่เนื้อในไม่มีอะไร แล้วก็ไปตรวจโรงเรียนอื่นต่อ ว่าโรงเรียนนี้บริหารดี หมดหน้าที่ภาระตนเองไปวันๆ แล้วเด็กตาตาดำๆได้อะไร ถึงเวลาสอบโอเน็ต แลต ปรีโอเน็ต เอากันอยู่นั่นหละ ไม่ได้เรียนสักที จนหมดเทอมปิดไปเลย แล้วจะไปสู้คุณภาพการศึกษาต่างชาติได้อย่างไร ประเทศเพื่อนบ้านเขาเรียนจริงๆ มีเวลามาก หยุดให้ผู้บริหาร และให้ครูทำโครงการประกวดดีเด่นต่างๆเถอะ เน้นให้ครูมีเวลาอยู่สอนกับเด็กวันละสี่ชั่วโมงอย่างจริงจังก็บุญโขแล้ว เด็กขาดคุณธรรมจริยธรรมก็จุดนี้แหละ
  4.ยกเลิกระบบการตรวจสอบระบบเอกสาร และกระจายอำนาจสู่โรงเรียนอย่างเต็มรูปแบบ ให้ทางโรงเรียนบริหารจัดการเอง เป็นนิติบุคคล บริหารจัดการในรูปแบบภาคี แล้วหนึ่งปีเข้าทำการประเมินตามหลักสูตรการเรียนการสอนระดับต่าง ๆ แล้วนำผลการประเมินของเด็กมาเปรียบเทียบก็จะรู้ว่าโรงเรียนไหนครูสอนเด็กจริงหรือไม่จริง นี่แหละผู้ปกครองถึงได้เอาเด็กไปเรียนโรงเรียนเอกชนกันในเมือง แล้วโรงเรียนรัฐก็ถูกยุบไปเรื่อยๆจนเหลือแต่วัดกับบ้านเท่านั้นไม่มีโรงเรียน
เป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่อยู่กับวงการศึกษามาประมาณสามสิบกว่าปีครับ แต่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้เพราะนโยบายอยู่เหนือเหตุผล และแบบการศึกษาไทย..ทาย..ครับ
เห็นด้วยอย่างยิ่ง และสิ่งที่สำคัญจะทำอย่างไรให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม ใครบ้างหละที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วม แล้วใครหละที่รู้แล้วแต่ไม่มีส่วนร่วม
IP : บันทึกการเข้า
realword
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 299


« ตอบ #27 เมื่อ: วันที่ 23 ตุลาคม 2012, 14:12:03 »

ต้องดูว่าครูประถม  ครูมัธยม  มาจากไหน

ต้องยอมรับความจริงว่า
มาจากราชภัฏ  ซึ่งมากกว่า 95% คือผู้ที่สอบไม่ติดมหาวิทยาลัยที่มาตรฐานการศึกษาดีๆ

เอากันตรงๆ ก็คือ  ครูไม่ฉลาด  แต่ขี้คุย  แล้วก็ทุจริต  สอนกวดวิชาขายข้อสอบกันอีก

นักเรียนก็ไม่ฉลาด  ยอมให้เขาหลอกเอาเงินอีก  อยากได้เกรดดี  แต่ไม่สนใจความรู้จริงๆ

ผู้ปกครองก็ไม่รอบครอบ  ไม่สืบให้ดีว่าครูเป็นยังไง

ไม่ได้เหมารวมนะครับ  เอากันตรงๆ
IP : บันทึกการเข้า
-[S]en-Pond-
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 174

[Life has no Limit]


« ตอบ #28 เมื่อ: วันที่ 23 ตุลาคม 2012, 15:58:08 »

เห็นด้วยงัฟ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 25 ตุลาคม 2012, 23:59:22 โดย -[S]en-Pond- » IP : บันทึกการเข้า
maekok_14
คือคนของพระราชา คือข้าของแผ่นดิน
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,253



« ตอบ #29 เมื่อ: วันที่ 23 ตุลาคม 2012, 20:53:06 »

บอกตามตรงจากที่ประสบการณ์เป็นผู้บริหารมายี่สิบกว่าปี มองการศึกษาไทยที่ล้าหลังเขาเพราะสาเหตุดังนี้
  1.นโยบายการศึกษาไม่แน่นอน ใครมาเป็นรัฐมนตรี เลขา สพฐ.ก็เปลี่ยนไปเรื่อย ต้องตอบสนองนโยบายแต่ละท่าน ทำหลักสูตรเอกสารได้ 3 รถดั๊ม เปลี่ยนรัฐมนตรีใหม่ ทำใหม่อีก 2 รถปิ๊กอัพผู้ที่ได้รับผลประโยชน์คือร้านขายวัสดุการศึกษา แต่ครูกับเ็ด็กยังอยู่ทางสามแพร่งไปทางไหนดีกว่าจะคลำถูกทางปิดเทอมอีกแล้ว
  2.ลดนโยบายการประกันภายนอก หรือ สมศ.เอางบประมาณไปทิ้งเสียเปล่าๆ ผู้บริหารและครูกลัวว่าโรงเรียนตนเองจะไม่ผ่านการประเมินระดมครูมาจัดทำเอกสารหลอก สมศ.ทั้งวันทั้งคืนใช้เวลาประมาณหกเดือน แล้วจะเอาเวลาที่ไหนมานั่งสอนเด็กให้มีคุณภาพสู้กับอาเซี่ยนเขาได้
  3.สพป.และศน.นี่แหละตัวดี เน้นการแข่งขัน เช่นผู้บริหารดีเด่น ครูดีเด่น ครูอวอร์ด ครูแสนครูหมื่นในดวงใจ ครูดีตำบล ครูดี อำเภอ นวัตกรรมดีเด่น ส้วมสุขสันต์ ส่งเสริมสุขภาพดีเด่น ซะป๊ะโครงการแล้วเน้นว่าต้องมีร่องรอยเมื่อไปนิเทศ ทางผู้บริหาร ครูก็เตรียมตัวทำโครงการ แผนงานต่างๆ รอรับมาตรวจ ตรวจกระดาษเปล่ารูปเล่มสวยงาม แต่เนื้อในไม่มีอะไร แล้วก็ไปตรวจโรงเรียนอื่นต่อ ว่าโรงเรียนนี้บริหารดี หมดหน้าที่ภาระตนเองไปวันๆ แล้วเด็กตาตาดำๆได้อะไร ถึงเวลาสอบโอเน็ต แลต ปรีโอเน็ต เอากันอยู่นั่นหละ ไม่ได้เรียนสักที จนหมดเทอมปิดไปเลย แล้วจะไปสู้คุณภาพการศึกษาต่างชาติได้อย่างไร ประเทศเพื่อนบ้านเขาเรียนจริงๆ มีเวลามาก หยุดให้ผู้บริหาร และให้ครูทำโครงการประกวดดีเด่นต่างๆเถอะ เน้นให้ครูมีเวลาอยู่สอนกับเด็กวันละสี่ชั่วโมงอย่างจริงจังก็บุญโขแล้ว เด็กขาดคุณธรรมจริยธรรมก็จุดนี้แหละ
  4.ยกเลิกระบบการตรวจสอบระบบเอกสาร และกระจายอำนาจสู่โรงเรียนอย่างเต็มรูปแบบ ให้ทางโรงเรียนบริหารจัดการเอง เป็นนิติบุคคล บริหารจัดการในรูปแบบภาคี แล้วหนึ่งปีเข้าทำการประเมินตามหลักสูตรการเรียนการสอนระดับต่าง ๆ แล้วนำผลการประเมินของเด็กมาเปรียบเทียบก็จะรู้ว่าโรงเรียนไหนครูสอนเด็กจริงหรือไม่จริง นี่แหละผู้ปกครองถึงได้เอาเด็กไปเรียนโรงเรียนเอกชนกันในเมือง แล้วโรงเรียนรัฐก็ถูกยุบไปเรื่อยๆจนเหลือแต่วัดกับบ้านเท่านั้นไม่มีโรงเรียน
เป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่อยู่กับวงการศึกษามาประมาณสามสิบกว่าปีครับ แต่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้เพราะนโยบายอยู่เหนือเหตุผล และแบบการศึกษาไทย..ทาย..ครับ

แม้ๆๆๆๆๆ  โดนใจผมจริงๆ
ทำไมพวก รมต. ผู้บริหารไม่คิดแบบนี้กันมั้งนะครับ
IP : บันทึกการเข้า
shiff2007
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,150



« ตอบ #30 เมื่อ: วันที่ 10 พฤศจิกายน 2012, 07:45:09 »

กระทู้นี้ เป็นสาระประโยชน์มาก แต่ไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจ
ขออนุญาตคัดลอกความคิดเห็นจากอีกกระทู้หนึ่งมาลงในนี้นะครับ


... ที่นี่ประเทศไทย ...

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ในระดับโรงเรียน ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด
ระดับภาค ระดับประเทศ ระดับภูมิภาค ระดับนานาชาติ 
นักเรียนไทย เกือบทุกระดับชั้น สอบไม่ผ่านเกือบทุกวิชา .....
แม้กระทั่งวิชาภาษาประจำชาติ ..... สอบตก

คุณลักษณะที่พึงประสงค์
นักเรียนไทย ไม่ใส่ใจการเรียนรู้  สนใจเทคโนโลยีเพื่อการสื่อสาร (แชท)
หรือเพื่อความสนุก (เกมส์) มากกว่าเพื่อการรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงหรือปรับประยุกต์ใช้ในชีวิต
ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย หลงใหลในวัตถุนิยม มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศและยาเสพติดสูง ลืมวิถีชีวิตดั้งเดิม
แต่ชอบเลียนแบบวัฒนธรรมต่างชาติ  ไม่รู้จักรากเหง้าความเป็นมาของตัวเอง ตามกระแสโดยปราศจาก
หลักการ เหตุผลและข้อเท็จจริง ขาดระเบียบวินัย ขาดความรับผิดชอบ และ ฯลฯ ....


ถึงเวลา ปฏิวัติการศึกษาไทย แล้วหรือยัง....
IP : บันทึกการเข้า

โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม คนเด่นต้องมีคนด่า
คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี คนทำงานดีจึงมีคนริษยา
9270
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 479


« ตอบ #31 เมื่อ: วันที่ 10 พฤศจิกายน 2012, 12:01:26 »

ถ้าคุณเคยไปเที่ยวลาว  ตาม 2 ข้างทาง  คุณจะเห็นสภาพโรงเรียนและอาคารเรียนของเขาว่าเป็นอย่างไร  ที่เวียตนาม ก็เช่นเดียวกัน  คุณอย่านำมาเปรียบเทียบกับโรงเรียนข้างลำน้ำโขงที่เชียงของ  เวียงแก่น  และเชียงแสนเด็ดขาด  ไม่มีทางเหมือนกัน  แต่เด็กเขากลับมีผลการเรียนที่ดีกว่าไทย   เป็นไปได้อย่างไร  เขาเอาอะไรมาวัด
IP : บันทึกการเข้า
maekok_14
คือคนของพระราชา คือข้าของแผ่นดิน
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,253



« ตอบ #32 เมื่อ: วันที่ 11 พฤศจิกายน 2012, 22:06:45 »

กระทู้นี้ เป็นสาระประโยชน์มาก แต่ไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจ
ขออนุญาตคัดลอกความคิดเห็นจากอีกกระทู้หนึ่งมาลงในนี้นะครับ


... ที่นี่ประเทศไทย ...

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ในระดับโรงเรียน ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด
ระดับภาค ระดับประเทศ ระดับภูมิภาค ระดับนานาชาติ 
นักเรียนไทย เกือบทุกระดับชั้น สอบไม่ผ่านเกือบทุกวิชา .....
แม้กระทั่งวิชาภาษาประจำชาติ ..... สอบตก

คุณลักษณะที่พึงประสงค์
นักเรียนไทย ไม่ใส่ใจการเรียนรู้  สนใจเทคโนโลยีเพื่อการสื่อสาร (แชท)
หรือเพื่อความสนุก (เกมส์) มากกว่าเพื่อการรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงหรือปรับประยุกต์ใช้ในชีวิต
ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย หลงใหลในวัตถุนิยม มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศและยาเสพติดสูง ลืมวิถีชีวิตดั้งเดิม
แต่ชอบเลียนแบบวัฒนธรรมต่างชาติ  ไม่รู้จักรากเหง้าความเป็นมาของตัวเอง ตามกระแสโดยปราศจาก
หลักการ เหตุผลและข้อเท็จจริง ขาดระเบียบวินัย ขาดความรับผิดชอบ และ ฯลฯ ....


ถึงเวลา ปฏิวัติการศึกษาไทย แล้วหรือยัง....


เป็นธรรมดาครับ เรื่อวที่เป็นสาระแก่นสารมันดูเครียด คนให้ความสนใจน้อย
คนส่วนใหญ่จะให้ความสนใจเรื่องฆ่ารัยฟันแทง รถคว่ำรถชน คนถูกขมขืน
แบบนั้นล่ะครับฮอททิชชู
IP : บันทึกการเข้า
somkiatkeng
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 186


« ตอบ #33 เมื่อ: วันที่ 06 ธันวาคม 2012, 11:46:50 »

ครูสอนพิเศษ เขาสอนเฉพาะวิชาที่ถนัด สอนเสร็จกลับบ้าน นักเรียนตั้งใจมีผลการเรียนดีไม่ต้องคอยควบคุม
 ครูโรงเรียน ครูขาดแคลน โรงเรียนต้องจ้างเอง แต่ยังไม่พอ ครูต้องทำงานธุรการให้กับโรงเรียน รับการประเมิน ต่าง ๆเอกสารมากมาย สอนไม่ตรงเอกทีจบมาเพราะครูขาด สอนไม่เต็มที่เพราะทำงานหลายอย่าง ต้องเอางานโรงเรียนมาทำในห้อง

มีใครเคยรู้บ้างนอกจากครูด้วยกันเอง สอบทุกปีบรรจุนิดเดียว ทุกวันนี้ครูยังขาดอยู่ ครูต้องทำหน้าที่เป็นสองเท่า

อยากให้การศึกษาดี ก็ให้ครูสอนอย่างเดียวและเน้นที่การเรียนการสอนเหมือนต่างประเทศเขา ไม่ใช่เอาครูมาทำงานให้เจ้านาย หรืองานโรงเรียนจนสอนไม่เต็มที่
บรรจุให้พอกับครูที่ขาด ไม่ใช่ให้โรงเรียนจ้างเอง งบประมาณที่ให้ก็ควรปรับ บางครั้งเพือเด็กครูก็ต้องควักจ่ายเอง

อันนี้คือการมองในระดับโรงเรียนกับโรงเรียนพิเศษ ระดับสูงกว่านี้คงต้องไปหาข้อมูลกันเอง สงสารครูเขาทำงานหนักมาก บางคนไม่ใช่ข้าราชการเงินเดือนไม่ใช่หมื่นห้า  เพราะบางคนคิดว่าเป็นครูแล้วสบาย ลองคิดดู ทำไมคนเก่ง ๆต้องเป็นหมอ วิศว ทหารตำรวจ คนหัวปานกลางถึงมาเป็นครู ประเทศที่เขาพัฒนาคนเก่งๆเขาเป็นครูครับ และเงินเดือนก่สูงกว่าอาชีพอื่น
IP : บันทึกการเข้า
HARLEY DAVIDSON
BIKER
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,537


HARLEY DAVIDSON & MERCEDES BENZ


« ตอบ #34 เมื่อ: วันที่ 08 ธันวาคม 2012, 00:11:37 »

ตัวอย่างที่ดี มีค่ากว่าคำสอนครับ

ผู้ใหญ่มักสอนให้เด็กทำความดี ซื่อสัตย์ สุจริต ขยัน หมั่นเพียร

แต่ลองมองสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำสิครับ แล้วจะเห็นอนาคตของเด็ก  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

คำตอบนี้กินใจจริง ๆ  ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
เศร้าครับ
IP : บันทึกการเข้า

ขาดแคลนเงินตรา  แต่งชุดนักศึกษามาหาพี่
สุขใดไหนจะเท่า เมื่อล้วงกระเป๋าแล้วเจอตังค์
หน้า: 1 [2] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!