แต่ดิฉันมาลองคิดดู เพื่อนอาจจะโกรธดิฉันก็ได้
เรื่องมันมีอยู่ว่า เพื่อนอีกคนบอกว่า เมื่อคืนจัดงานวันเกิดให้หมา
ดิฉันก็เลยบอกเจ้าของวันเกิดไปว่า "อย่าให้น้อยหน้าหมาน่ะ" พูดแค่นี้เอง ไม่รู้สิ...อาจจะแรงไปหรือเปล่า แต่ปกติก็เคยพูดเล่นกันนิ เดาใจไม่ถูกเหมือนกัน
"เดาใจไม่ถูกเหมือนกัน" งั้นก็วันหลังอย่าพูดอะไรดีกว่า แค่ยิ้มและขำก็พอ
แต่ถ้าคุณเรียนรู้จักการใช้วิกฤตให้เป็นประโยดได้ คุณจะมองเห็นแล้วหยิบฉวยมาใช้เพื่อกระชับมิตได้เป็นอย่างดี ถ้า งง ผมแนะนำเป็นแนวละกัน เพราะยังไงเจตณาจริงๆคุณก็ไม่อยากจะอะไรกับใครอยู่แล้ว ซึ่งอยากเป็นเพื่อนที่คุยกันดีมากกว่า งั้นควรทำตามจิตเดิม แท้ๆที่มันน่ารัก และสดใสที่มีในตัวคุณกันดีกว่าครับ แต่อย่าทำตามใจปาก (อนุญาติให้คิดบีบคอพร้อมเขย่าได้แว้บๆ อิอิ)
ตัวอย่างง่ายๆเช่น เห็นหน้ากันอย่าพึ่งมีทิฐิ หรือปล่อยรัศมีอำมหิตใส่กันก่อนหละ อิอิ หรือเงียบๆ มันจะยิ่งทำให้แย่ลง ให้ตัดบทเป็นทักทาย หรือยิ้ม (ถ้าเขาไม่ยิ้มก็ไม่เป็นไร) ถ้าสถานะการใดไม่สู้ดีนักหรือเราทนไม่ใหว(แสดงมาคุณยังไม่เข้มแข็งพอกับจิตมารที่เข้ามาแทรก) ให้ตัดบทแล้วออกมาจากสถาณะการนั้นโดยไว เช่น ไปก่อน มีธุระ จุบๆนะ , หรือแค่หวัดดี แล้วยิ้ม ไปอ่านหนังสือก่อน ,ไปเล่นเกมก่อนนะ ,อุ้ย แฟนโทรจิกตะกี้ ไปละ เป็นต้น
ถ้าเราสู้ใหวในสถานะการนั้นได้ ก็เล่นบทต่อไป (ผมรู้ว่าคุณมีหลายเล่ม (เก เวียน) อิอิ) เช่นไปซื้อขนมมาแล้วช่วนกิน อาจอายที่จะพูดก็ไม่เป็นไร(หน้ายังไม่หนาพอเท่าผมหรือใกล้เคียง ถ้าอยากให้หนาง่ายๆ ให้ใช้กระดาษทรายขัดเบาๆทุกวัน 555+) แค่ทานอล่อยก็พอ เดี๋ยวเขาก็อยากกิน อิอิ ถ้าเขาเล่นด้วยอันนี้โอหน่อย ง่ายหน่อย จัดไป เช่น จะถามทำไม อย่าพึงชวนคุยดิ กำำลังอล่อย อิอิ ไม่รีบ มันหมดนะ จะว่าไม่ชวน
ยิ้ม
ถ้าไม่เล่นด้วย เราก็เล่นบทนี้ เป็นอะไร ทำไมไม่ทานหละ หรือทำไมไม่พูดอะไรเลย งอนเราหรือ เราขอโทษนะตัวเอง แค่นี้เขาก็คงยิ้มได้แล้วมั่งครับ นะนะ อย่างอนเขานะ วันหลังชอบขนมอะไรจะเอาซื้อมาเลี้ยง ตัวอย่างแบบนี้เป็นต้น ทั้งหมดเป็นแนวนะครับ เพราะชีวิตมันขำๆ อย่าเอาตัวเองไปอยู่ในมุมมืดนานๆ จิตเราก็จะมัวหมอง มันไม่ดี
วิธีมันมีอีกอีกแยะนะ ไม่จำเป็นต้องมีกรอบ ถ้าอะไรที่ทำแล้วมันทำให้อะไรๆในชีวิตมันดีขึ้นก็ทำไปเลยครับ ขอบคุณ ที่ให้ผมช่วย เท่าที่ผมพอจะช่วยได้ แค่นี้ผมก็ได้กำไรแล้ว อิอิ (ขาดแต่สร้อย)