;Dก่อนที่จะย้ายบทความนี้ไปยังห้องศาสนา กิจกรรมของวัด เอามาอ่านในห้องนี้สักสองสามวันนะครับ
....การที่เห็นคนโบราณเสกน้ำมนต์ คนสมัยนี้บางกลุ่มก็ว่าเป็นเรื่องเหลวไหลงมงาย เลยต้องยกเอาผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์มาอ้างอิง ซึ่งมีผลงานการวิจัยจากหลาย ๆ ที่ทั้งยุโรปและเอเซีย ตัวอย่างเช่น หลักวิทยาศาสตร์ที่ได้พิสูจน์ จากหนังสือชื่อ Messages from Water ซึ่งเป็นผลงานการวิจัย ดร.มาซารุ เอะโมโตะ (Dr.Masaru Emoto)ที่โด่งดังไปทั่วโลก โดยการใช้กล้อง ส่องดูโมเลกุลของน้ำที่มีที่นำมาจากแหล่งต่างๆ พบว่ารูปผลึกของน้ำมีความสวยงาม และหลากหลายตามสภาวะสิ่งแวดล้อม โดยมีตัวอย่างผลงานผลการวิจัย ดังนี้
ผลึกน้ำจากเขื่อน
ผลึกน้ำจากเขื่อน หลังผ่านการสวดมนต์
ผลึกน้ำจากการเปิดเพลงเนื้อหารุนแรง
ผลึกน้ำจากเพลงเพราะ ๆ
ผลึกน้ำที่ไหลผ่านคำว่า "ฉันจะฆ่าคุณ"
ผลึกน้ำที่ไหลผ่านคำว่า "ขอบคุณ"
ผลึกน้ำที่ไหลผ่านคำว่า "รัก"
....จะสังเกตได้ว่าลักษณะของน้ำจะดูสวยงามเมื่อผ่านสิ่งดีดี แล้วลองย้อนคิดว่า ในโลกนี้มีน้ำเป็นส่วนประกอบถึงสาม ในสี่ส่วน รวมทั้งภายในร่างกายของเราด้วย เพราะฉะนั้น หากเราพูดดี ไพเราะ คิดดี อารมณ์ดี อยู่ในสถานที่ดี ๆ เป็นไปได้มากว่าจะทำให้น้ำในร่างกายเรา และตัวเราเองดี มีความสุขไปด้วย ในขณะเดียวกัน หากเราจ้องแต่จะแค้นเคือง อาฆาต ด่าทอหรือพายังไปหมกมุ่นกับสิ่งไม่ดี น้ำในร่างกาย และตัวเองก็พลอยแย่ไปด้วย ไม่แน่นะนี่อาจเป็นคำเฉลยสำคัญว่าทำไมคนยุคสมัยนี้ถึงเป็นโรคร้ายอย่างมะเร็งกับเพิ่มมากขึ้นก็ได้
ที่มา : เรื่อง โดย พุฒิวงศ์ บุษบวรรษ
www.palungjit.com