เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 24 เมษายน 2024, 18:02:41
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ห้องนั่งเล่น (ผู้ดูแล: แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-., ©®*)
| | |-+  ถ้าไม่มีปลาทู
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 พิมพ์
ผู้เขียน ถ้าไม่มีปลาทู  (อ่าน 1754 ครั้ง)
tonkla
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,334


ธรรม=ธรรมชาติ ธรรมดา ธรรมนูญ


« เมื่อ: วันที่ 31 สิงหาคม 2012, 21:45:52 »

ในปัจจุบันนี้ ผู้คนต้องทำงานหนัก ทำให้เกิดภาวะเครียด ขณะที่บางคนรับประทานอาหารแต่ละมื้อไม่ครบ 5 หมู่ ประกอบกับมลพิษที่อยู่ในอากาศ เกิดอนุมูลอิสระขึ้นในร่างกาย ส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ มากขึ้นกว่าในอดีต

ดังนั้น วิตามินและอาหารเสริมจึงเริ่มเข้ามามีบทบาทกับชีวิต โดยเฉพาะโอเมก้า 3 ที่มีอยู่ในน้ำมันปลาที่หลายๆ คนรู้จัก

เนื่องจากโอเมก้า 3 เป็นไขมันประเภทไม่อิ่มตัว มีประโยชน์ในเรื่องลดอัตราการตายจากโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดตีบ และยังลดคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ ตลอดถึงยังลดความหนืดของเลือด ลดการอักเสบ รวมทั้งสร้างความสมดุลและปรับระดับเลือดในร่างกายให้อยู่ในภาวะปกติได้

แต่ปัญหาก็คือสารอาหารเหล่านี้มีอยู่ในปลาทะเลน้ำลึก ซึ่งเป็นปลาที่อยู่ในเขตหนาว อย่างปลาแซลมอน ปลาเม็คเคเรล ทำให้ราคาของปลาเหล่านี้เมื่อนำมาจำหน่ายในเมืองไทยมีราคาค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้ย่อมมีทางแก้




ศ.นพ.ปิติ พลังวชิรา ให้คำแนะนำว่า

ศ.นพ.ปิติ พลังวชิรา ผอ.ศูนย์โรคผิวหนัง คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ผู้เชี่ยวชาญด้าน Antiaging Medicine ให้คำแนะนำว่า เมื่อปลาเหล่านี้มีราคาแพง

จึงอยากแนะนำให้คนไทยรับประทานปลาทู และปลากระพง ทดแทน เพราะในปลาทูจะมีสารโอเมก้า 3 ค่อนข้างมาก ราคาไม่แพง

โดยในเนื้อปลาทู 100 กรัมมีสารโอเมก้า 3 ประมาณ 2-3 กรัม ซึ่งปกติในหนึ่งวันร่างกายต้องการโอเมก้า 3 ประมาณวันละ 3 กรัมต่อวัน

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่จะรับประทานอาหารเสริมอย่างน้ำมันปลาซึ่งมีโอเมก้า 3 นั้น ต้องได้รับการตรวจเช็กจากแพทย์ก่อนว่าร่างกายขาดโอเมก้า 3 หรือไม่ เพราะบางคนไม่จำเป็นต้องซื้อน้ำมันปลามารับประทานเพราะร่างกายได้รับสารโอเมก้า 3 เพียงพอแล้ว จะเป็นการสิ้นเปลืองเงินโดยไม่จำเป็น แต่สำหรับคนที่ไม่เดือดร้อนทางการเงินก็สามารถหาซื้อน้ำมันปลารับประทานได้




"การบริโภคอาหารของคนในปัจจุบันนี้

ส่วนใหญ่รับประทานโอเมก้า 6 มากกว่าโอเมก้า 3 ซึ่งโอเมก้า 6 นั้นมีอยู่ในน้ำมันพืชชนิดต่างๆ และยังมีอยู่ในไข่ การรับประทานโอเมก้า 6 มากกว่าโอเมก้า 3 ทำให้ร่างกายขาดความสมดุล ส่งผลให้ร่างกายเกิดการอักเสบขึ้นในระบบต่างๆ ภายในร่างกาย

ทำให้เกิดเป็นโรคไขข้ออักเสบ เบาหวาน เกิดการอักเสบขึ้นในสมองและในที่สุดจะเป็นอัลไซเมอร์ได้"

"อย่างไรก็ตามในบางคนที่อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีควรจะหาอาหารที่ประกอบด้วยโอเมก้า 3 และหาน้ำมันปลารับประทานได้ตั้งแต่ในวัยเด็ก ซึ่งเป็นวัยแห่งการเจริญเติบโตและที่สำคัญในวัยนี้โอเมก้า 3จะช่วยบำรุงสมอง จนถึงวัยสูงอายุที่ร่ายกายเริ่มเสื่อมสภาพโอเมก้า 3 ก็ช่วยปรับสมดุลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้" ศ.นพ.ปิติแนะนำ
IP : บันทึกการเข้า

"เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง"(ไว้เตือนตนเอง)
tonkla
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,334


ธรรม=ธรรมชาติ ธรรมดา ธรรมนูญ


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 31 สิงหาคม 2012, 21:46:35 »

ทึ่ง! นักวิจัยกรมประมงเพาะพันธุ์ปลาทูสำเร็จครั้งแรกของโลก ใช้เวลาทดลอง 2 ปี จับพ่อแม่พันธุ์มาเพาะเลี้ยงในระบบปิด มีน้ำหมุนเวียน ปรับสภาพการเลี้ยงให้เหมาะสมกับระบบนิเวศในทะเล พบปลาทูวางไข่มากถึง 3 หมื่นฟอง หวังช่วยทดแทนการจับปลาทูมากเกินไป

           เมื่อวันที่ 11 มกราคม ดร.วิมล จันทรโรทัย อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากความต้องการปลาทูจำนวนมหาศาลนี้ ทำให้ชาวประมงมีการพัฒนาเครื่องมือการทำประมงปลาทูให้มีประสิทธิภาพในการจับที่สูงขึ้นจนเกินกำลังการผลิตของธรรมชาติ ส่งผลให้แนวโน้มของประชากรปลาทูในปัจจุบันเริ่มลดน้อยลง ที่ผ่านมากรมประมงได้ใช้มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยการห้ามจับปลาทูในฤดูวางไข่ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ถึง 15 พฤษภาคมของทุกปี ในเขตทะเลอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ถึงสุราษฎร์ธานี เพื่อเป็นการอนุรักษ์พันธุ์ปลาทูในช่วงฤดูวางไข่

           "ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กรมประมงมีความพยายามในการศึกษาวิจัยการเพาะขยายพันธุ์ปลาทูเพื่อทดแทนการจับจากธรรมชาติ โดยได้วางแนวทางและกำหนดนโยบายให้นักวิชาการประมงผลิตงานวิจัยที่มีคุณภาพ เน้นการพัฒนาเทคนิคการเพาะเลี้ยงสัตว์ทะเลที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงและเป็นที่ต้องการของตลาด ล่าสุดศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งสมุทรสาครประสบความสำเร็จเพาะพันธุ์ปลาทูในระบบปิดได้เป็นครั้งแรกของโลก" อธิบดีกรมประมงเผย

           ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งสมุทรสาครริเริ่มการศึกษาวิจัยเพาะเลี้ยงปลาทู โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตปลาทูทดแทนการใช้ทรัพยากรจากแหล่งธรรมชาติอย่างเกินความพอดี แต่เนื่องจากปลาทูเป็นปลาที่มีความอ่อนแอ ใจเสาะ จึงเป็นเรื่องยากที่จะนำขึ้นจากทะเลมาเพาะเลี้ยง จึงต้องเริ่มดำเนินการจากการรวบรวมข้อมูลทางด้านชีววิทยา ฤดูกาลวางไข่ ลักษณะของนิเวศที่อยู่อาศัย ชนิดของอาหารที่พบในกระเพาะอาหารของปลาทู เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านวิชาการ และประยุกต์ในการผลิตปลาทูเชิงพาณิชย์ ด้วยการพัฒนาเทคนิคการเพาะเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ด้วยการให้อาหารที่มีคุณภาพและใช้ระบบน้ำหมุนเวียน

           น.ส.พรรณติยา ใจอ่อน นักวิชาการประมงปฏิบัติการ และทีมเพาะเลี้ยงปลาทู ศูนย์วิจัยและพัฒนาชายฝั่งสมุทรสาคร กรมประมง บอกว่า เลี้ยงปลาทูพ่อแม่พันธุ์ที่มีความสมบูรณ์แข็งแรงที่ได้มาจากทะเลในกระชังที่ขึงไว้ในบ่อดินนาน 6 เดือน จนปลาเติบโตถึงวัยเจริญพันธุ์ จึงย้ายปลาขึ้นมาเลี้ยงในถังเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ในโรงเพาะฟัก โดยให้อาหารสูตรเฉพาะของศูนย์ฯ และเลี้ยงในระบบกรองน้ำแบบชีวภาพด้วยเครื่องโปรตีนสกิมเมอร์ เพื่อให้ได้คุณภาพน้ำที่เหมาะสมปราศจากเมือกโปรตีนที่ตกค้าง มีการควบคุมความเค็มที่ระดับ 27-30 ส่วนใน 1,000 และควบคุมอุณหภูมิให้มีค่าคงที่อยู่ระหว่าง 29-32 องศา

           "จากความพยายามมานานกว่า 2 ปี ก็ได้เกิดผลสำเร็จขึ้นเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2554 โดยปลาทูได้วางไข่และสามารถอนุบาลในระบบปิดได้สำเร็จ ทั้งนี้ แม่ปลาทูวางไข่ครั้งละประมาณ 15,000-30,000 ฟอง และมีพฤติกรรมวางไข่แบบรวมฝูง แม่ปลาทั้งฝูงจะวางไข่เป็นระยะ ๆ ต่อเนื่องกันหลายวันไปจนหมดฤดูผสมพันธุ์" น.ส.พรรณติยา

           สำหรับไข่ของปลาทูเป็นแบบไข่ครึ่งจมครึ่งลอยน้ำ มีหยดน้ำมันและถุงไข่แดงเพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานให้กับระบบร่างกาย ไข่มีขนาดประมาณ 0.80 - 0.96 มิลลิเมตร ใช้ระยะเวลาในการฟักประมาณ 16-17 ชั่วโมง ถุงไข่แดงของลูกปลาเริ่มยุบและหมดไปภายใน 3 วัน ลูกปลาตั้งแต่วันแรกที่ฟักออกจากไข่ถึงอายุ 7 วัน อนุบาลด้วยแพลงก์ตอนที่ประกอบไปด้วยทั้งสาหร่ายสีเขียวและสีน้ำตาล ร่วมกับโรติเฟอร์ โคพิพอต และหลังจากนั้นลูกปลาจะสามารถกินอาร์ทีเมียแรกฟักและอาหารเม็ดได้

           สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-3485-7136 หรือ 0-3442-6220 ในวันเวลาราชการ

          ทั้งนี้ ปลาทูเป็นสัตว์น้ำซึ่งเป็นอาหารที่อยู่คู่กับวิถีชีวิตของคนไทยมาช้านาน หลายคนคงคุ้นเคยกับการรับประทานปลาทูเป็นอย่างดี ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และคุณค่าทางโภชนาการที่มีอยู่มากมาย ทำให้ในแต่ละปีชาวประมงต้องจับปลาทูจากท้องทะเลไทยมากถึง 6 หมื่นตัน แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภค จึงต้องมีการออกไปจับเพิ่มจากน่านน้ำของประเทศเพื่อนบ้าน

           สำหรับในน่านน้ำไทยพบปลาทูได้ทั้งฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน ซึ่งมีอยู่ 3 ชนิด คือ 1.ปลาทู 2.ปลาลัง หรือปลาทูโม่ง และ 3.ปลาทูปากจิ้งจก โดยปลาที่ชาวประมงจับได้ส่วนใหญ่จะเป็นปลาทูและปลาลัง ซึ่งทั้งสองชนิดนี้มีรูปร่างลักษณะคล้ายคลึงกันมาก แต่ปลาทูตัวแบนกว้างกว่าปลาลัง และส่วนหัวความกว้างกับความยาวของหัวปลาทูจะเท่ากัน แต่หัวของปลาลังความยาวมากกว่าความกว้าง เมื่อโตเต็มที่ปลาลังจะมีขนาดใหญ่กว่าปลาทูมาก ชาวประมงจึงเรียกกันว่าปลาทูโม่ง ส่วนปลาทูปากจิ้งจกมีลำตัวเรียวยาว ซึ่งพบน้อยมาก
IP : บันทึกการเข้า

"เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง"(ไว้เตือนตนเอง)
>_อนัตตา_<
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,367



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 31 สิงหาคม 2012, 21:51:13 »

โห๋วววว.... ตกใจ สาระล้วน ๆ น่ะค่ะ   ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
platu
KnOwLedge ... iS ... PoweR !!!
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,275


.... Up to mE ....


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 31 สิงหาคม 2012, 21:52:02 »

 ตกใจ ตกใจ ขอบคุณข้อมูล (^/\^)ค่ะ  ได้ ความรู้มากเลยค่ะลุง ยืมชื่อเค้ามาใช้ รู้ว่าเค้าอยู่ทะเล เพิ่งรู้เรื่องเค้าก็วันนี้เองค่ะ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า

N o t h i n g     d o e s n ' t     C h a n g e .
tonkla
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,334


ธรรม=ธรรมชาติ ธรรมดา ธรรมนูญ


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 31 สิงหาคม 2012, 22:01:56 »

พริ๊ตตี้ปลาทู


* img_4875.jpg (375.81 KB, 640x427 - ดู 644 ครั้ง.)

* p2-500-1.jpg (86.94 KB, 500x328 - ดู 606 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

"เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง"(ไว้เตือนตนเอง)
m11
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 27


เกิดมาทั้งทีก็มีแต่น้ำตาตกเข่า


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 31 สิงหาคม 2012, 22:10:11 »

พริ๊ตตี้ปลาทู

เสื้อพริ๊ตตี้เป็นช้างนะ ม่ายเห็นพริ๊ตตี้ปลาทูเลย อิอิ
IP : บันทึกการเข้า
tonkla
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,334


ธรรม=ธรรมชาติ ธรรมดา ธรรมนูญ


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 31 สิงหาคม 2012, 22:11:20 »

ถ้าไม่มีปลาทู
ปลาอะไรจะมาอยู่ในเข่ง ?

แล้ว เขาจะเอา ปลาอะไรแทนปลาทู ในการทำโมเดล KM
IP : บันทึกการเข้า

"เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง"(ไว้เตือนตนเอง)
tonkla
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,334


ธรรม=ธรรมชาติ ธรรมดา ธรรมนูญ


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 31 สิงหาคม 2012, 22:16:09 »

 มรดกวัฒนธรรมของชาติที่ควรอนุรักษ์และดำรงไว้
   “ปลาทู”เป็นปลาประเภทที่อยู่รวมกันเป็นฝูงชอบอาศัยอยู่บริเวณผิวน้ำในทะเลเขตร้อนโดยเฉพาะในทะเลเขตร้อนดดยเฉพาะเขตน่านน้ำ อินโดจีน-แปซิฟิก อันได้แก่ น่านน้ำประเทศพม่า มาเลเซีย อินโดนีเซีย กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และไทย วึ่งในน่านน้ำไทยจะพบได้ทั้งบริเวณฝั่งอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน
   “ปลาทู”ดำรงชีวิตอยู่ในน่านน้ำไทยของเรานี่เองโดยแหล่งวางไข่ที่สำคัญคือ บริเวณแหลมแม่รำพึง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร และบริเวณหมู่เกาะอ่างทอง เกาะพงัน เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเขาพบว่าปลาทูนั้นจะวางไข่ตลอดเกือบทั้งปี ไม่ใช่วางไข่แค่ครั้งเดียวอย่างที่เข้าใจ ช่วงแรกที่ปลาทูวางไข่คือ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เดือนมีนาคมและอีกช่วงหนึ่งคือ เดือนมิถุนายน-เดือนสิงหาคม
   “ปลาทู”มีเส้นทางการดำเนินชีวิตที่น่าทึ่งมากเพราะปลาทูมีการอพยพย้ายถิ่นโดยเมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคมปลาทูที่อาศัยอยู่ในบริเวณอ่าวไทยตอนในซึ่งมีขนาดโตและพร้อมที่จะสืบพันธุ์ได้จะเริ่มอพยพไปยังแหล่งวางไข่ซึ่งทอดตัวตามยาวแนวฝั่งตะวันตกของอ่าวไทยตั้งแต่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์จนถึงทิศตะวันออกของเกาะพงัน เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และก็เริ่มทยอยวางไข่ตั้งแต่เดือนมกราคม ซึ่งลูกปลาที่เกิดขึ้นมาใหม่เริ่มเดินทางเข้ามาฝั่งในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม จนถึงเดือนมิถุนายน-กรกฏาคม ปลาทูมีขนาดโตซึ่งเรียกว่า “ปลาทูสาว”ก็จะเริ่มเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นทีฝั่งอ่าวไทยตอนใน ค่อยๆเพิ่มจำนวนมากขึ้นเป็นลำดับโดยพบมากที่สุดช่วงเดือนตุลาคม หลังจากนั้นเริ่มเคลื่อนตัวลงสู่แหล่งวางไข่แล้วส่วนใหญ่จะดำรงชีวิตอยู่ในน่านน้ำ ฝั่งตะวันตกเพื่อวางไข่ในครั้งที่สองระหว่างเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ไม่ได้เดินทางอพยพเข้าสู่อ่าวไทยตอนในเช่นปลาทูสาว
   “ปลาทู”เป็นปลาที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ เป็นจิตวิญญาณของสังคมที่ควรจะดำรงอยู่คู่กับสังคมไทย และเราทุกๆคนก็ควรจะร่วมมือร่วมใจช่วยกันรักษา “ปลาทู”ซึ่งเป็นแหล่งอาหารประจำชาติแหล่งหนึ่ง ที่จะต้องอนุรักษ์ไว้ให้ดำรงอยู่คู่ชาติต่อไป
แหล่งอ้างอิง กรมประมง
IP : บันทึกการเข้า

"เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง"(ไว้เตือนตนเอง)
m11
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 27


เกิดมาทั้งทีก็มีแต่น้ำตาตกเข่า


« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 31 สิงหาคม 2012, 22:19:40 »

จริงนะครับ ปลาทูผมทานมาตั้งเเต่เด็กเด็ก จนเเก่เเล้วก็ยังชอบทานปลาทูอยู่เลยครับ ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
ยินดีครับ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,814


ติดต่อได้ตลอดเวลาครับ


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2012, 08:16:42 »

ปลาทูก็แพง เหอๆๆ
IP : บันทึกการเข้า

คลิกลิ้งติดต่องาน https://www.facebook.com/profile.php?id=100054820356981
9D
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,470


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2012, 11:06:26 »

น้องหมา น้องแมวเตรียมตัวอดข้าวแน่ หรือไม่ก็เตรียมตัวทานเมนูใหม่ๆละกัน


ปลาทูเข่งนี้มีห้า ตัว ผมเลือกแข่งข้างบนตัวที่สองจากตัวขวา ท่านอื่นจะทานตัวใด ก็เลือกเอาเด้อ ท่านต้นกล้าใจดีครับ แบ่งให้อยู่แล้ว ชิมิ
IP : บันทึกการเข้า
ปวดตับ
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,555


ถ่ายรูปคือความสุข ..


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2012, 11:11:59 »

ยาวไปๆ
IP : บันทึกการเข้า

อนิจจาผู้ไม่เคยมีความฝัน ... ไม่มีวันได้เจอสุข
Addmobile
สวัสดีครับ
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,735


จริงจังจริงแต่จริงใจ


« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2012, 11:16:37 »

ถ้าไม่มีปลาทู
ปลาอะไรจะมาอยู่ในเข่ง ?

แล้ว เขาจะเอา ปลาอะไรแทนปลาทู ในการทำโมเดล KM
คงไม่มีปลาที่มาแทนและทานอร่อยเหมือนปลาทูแล้วมั้ง ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
~อั่ย มู๋อ้วน*
Happy Fat
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,582


หล่อเหลา นักเกาหู


« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2012, 11:53:21 »

เมื่อก่อนปลาทูนี่ถือเป็นปลาของคนจนครับ "ปลาทูอยู่ทะเล ปลาขี้เหร่ใช่ผู้ดี" สมัยผมยังเด็กๆนี่ จำได้ติดตาเลย ทั้งบ้านมีปลาทูแค่ตัวเดียว ลูกกินทางหาง พ่อกับแม่กินหัวกับก้างที่เหลือ คิดถึงภาพนี้น้ำตาไหลทุกที ถ้าปลาทูแพงเหมือนทุกวันนี้คงอดตายทั้งบ้านละครับ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

แจ้งข้อมูล ปัญหา ร้องเรียน ร้องทุกข์ เตือนภัย PM ได้ทันที


แมวไหน ไฟแรงเฟร่อ!!
lapasrada
"ดื่มกาแฟกับ"คนรู้ใจ" ในราคาแบบ"คนกันเอง" ที่ Hug-kafe
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,687


เรื่องมันเศร้า เหล้าเลยหวาน....


« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2012, 12:26:06 »

ถ้าไม่มีปลาทู
ปลาอะไรจะมาอยู่ในเข่ง ?

แล้ว เขาจะเอา ปลาอะไรแทนปลาทู ในการทำโมเดล KM
คงไม่มีปลาที่มาแทนและทานอร่อยเหมือนปลาทูแล้วมั้ง ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
มีจ้าา สั่งได้นะ คิๆๆ
IP : บันทึกการเข้า

ร้านอาหารแช่แข็งเมืองเทิง จำหน่ายอาหารทะเลแช่แข็ง หมูกะทะแช่แข็ง ของทอด ทานเล่น ในราคากันเอง สอบถามได้ที่ 083-0613840 พี่จูนค่ะ
https://www.facebook.com/profile.php?id=100013560877951
Addmobile
สวัสดีครับ
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,735


จริงจังจริงแต่จริงใจ


« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2012, 12:45:45 »

ถ้าไม่มีปลาทู
ปลาอะไรจะมาอยู่ในเข่ง ?

แล้ว เขาจะเอา ปลาอะไรแทนปลาทู ในการทำโมเดล KM
คงไม่มีปลาที่มาแทนและทานอร่อยเหมือนปลาทูแล้วมั้ง ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
มีจ้าา สั่งได้นะ คิๆๆ
ยิงฟันยิ้ม ;Dสั่งปลาแซลมอนกับเบียร์ลาวของคุณจูนมาจัดแทนดีก้า ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
lapasrada
"ดื่มกาแฟกับ"คนรู้ใจ" ในราคาแบบ"คนกันเอง" ที่ Hug-kafe
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,687


เรื่องมันเศร้า เหล้าเลยหวาน....


« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2012, 12:49:57 »

ถ้าไม่มีปลาทู
ปลาอะไรจะมาอยู่ในเข่ง ?

แล้ว เขาจะเอา ปลาอะไรแทนปลาทู ในการทำโมเดล KM
คงไม่มีปลาที่มาแทนและทานอร่อยเหมือนปลาทูแล้วมั้ง ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
มีจ้าา สั่งได้นะ คิๆๆ
ยิงฟันยิ้ม ;Dสั่งปลาแซลมอนกับเบียร์ลาวของคุณจูนมาจัดแทนดีก้า ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
เป๋นความคิดที่เยี่ยมยอดมาก..อ้ายแอ๊ด ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

ร้านอาหารแช่แข็งเมืองเทิง จำหน่ายอาหารทะเลแช่แข็ง หมูกะทะแช่แข็ง ของทอด ทานเล่น ในราคากันเอง สอบถามได้ที่ 083-0613840 พี่จูนค่ะ
https://www.facebook.com/profile.php?id=100013560877951
7
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 936


....


« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2012, 19:32:16 »

ผมว่าปลาทูตัวเล็กป้อมๆ (ที่ไม่เล็กที่สุด) อร่อยที่สุดแล้ว
เมื่อก่อนแม่ชอบหวังดีซื้อตัวใหญ่ๆ แพงๆมาให้กิน แต่ลูกเอาไปให้แมวเพราะว่ามันแข็ง แล้วกินปลาทูที่แม่ซื้อมาให้แมวแทน ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

tonkla
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,334


ธรรม=ธรรมชาติ ธรรมดา ธรรมนูญ


« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2012, 19:43:38 »

น้องหมา น้องแมวเตรียมตัวอดข้าวแน่ หรือไม่ก็เตรียมตัวทานเมนูใหม่ๆละกัน


ปลาทูเข่งนี้มีห้า ตัว ผมเลือกแข่งข้างบนตัวที่สองจากตัวขวา ท่านอื่นจะทานตัวใด ก็เลือกเอาเด้อ ท่านต้นกล้าใจดีครับ แบ่งให้อยู่แล้ว ชิมิ

ท่านกับผมคอเดียวกันเลยครับ  งั้นตุลานี้ตอนที่ผมหนีไปแอ่วลาวรบกวนเราสองคน จับไม้สั้นไม้ยาวนะครับ
IP : บันทึกการเข้า

"เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง"(ไว้เตือนตนเอง)
AserityShop
มีของก็ขาย ไม่มีก็ไม่ขาย ก็แค่นั้นครับ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,700


¬AserityShop¬


« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 01 กันยายน 2012, 19:59:53 »

ถ้าไม่มีปลาทู ก็ กินอย่างอื่นครับ  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

ซื้อขายมั่นใจ 100% เช็คประวัติได้ เป็นคนง่ายๆไม่ซับซ้อน (^_^)
ติดต่อ Tel: 099-2494781,0643273958
ไลน์:aserityshop

งดคุยเล่นในเวลาราชการ หลัง 22.00 น.งดติดต่อทุกกรณี
หน้า: [1] 2 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!