เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 19 เมษายน 2024, 14:52:21
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การเกษตร,ฟาร์มสัตว์,ปศุสัตว์ (ผู้ดูแล: bm farm)
| | |-+  ชาวสานยางภาคใต้ประท้วงราคายางตกต่ำฯภาคเหนือเรารวมกันประท้วงไหม
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ชาวสานยางภาคใต้ประท้วงราคายางตกต่ำฯภาคเหนือเรารวมกันประท้วงไหม  (อ่าน 1564 ครั้ง)
kaeo
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,830


« เมื่อ: วันที่ 12 กรกฎาคม 2012, 12:36:16 »

'ม็อบสวนยางใต้'ปิดถนนจี้รัฐดันกก.120บ.

ชาวสวนยางสุราษฎร์เคลื่อนพลใหญ่ทวงคำตอบราคา กก.ละ 120 บาท ปิดถนนสายเอเชียขาขึ้น-ล่องใต้เป็นอัมพาต นครศรีธรรมราชพร้อมเคลื่อนร่วม ตรังรอดูท่าที แกนนำย้ำจำเป็นต้องเคลื่อนไหวหากรัฐบาลยังไม่ยอมมาช่วยเหลือ



             วันที่ 10 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมพลครั้งใหญ่อีกครั้งที่ริมถนนสายเอเชีย บริเวณสามแยกท่าน้ำแห้ง ม.4 ต.คลองไทร อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อทวงคำตอบจากรัฐขอราคายาง กก.ละ 120 บาท หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการชุมนุมที่สหกรณ์สุราษฎร์ธานีเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมาโดยตัวแทนจากภาครัฐรับปากที่จะให้คำตอบวันที่ 9 ก.ค.แต่เมื่อถึงเวลาทางแกนนำอ้างว่าภาครัฐไม่มีการเจรจาหรือให้คำตอบแต่อย่างใด จึงนัดชาวสวนยางรวมตัวอีกครั้งเพื่อกดดันรัฐบาล ยิ่งไปกว่านั้นราคายางกลับตกต่ำลงเรื่อย ๆ




               นายมนูญ  อุปลา แกนนำผู้ชุมนุม กล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้มีเกษตรกรชาวสวนยางจากทุกอำเภอพร้อมใจกันเดินทางมาร่วมนับหมื่นคนอย่างแน่นอน เพราะทุกคนมีความเดือดร้อนและได้นัดแนะกันก่อนล่วงหน้าแล้วหลังจากที่รัฐนิ่งเฉยไม่มีการให้คำตอบแต่อย่างใด

               โดยการเชิญชวนมีทั้งรถแห่ประชาสัมพันธ์เชิญชวน  ทำป้ายไวนิลชักชวนให้มาร่วมชุมนุม  โดยเรียกร้องขอราคา กก.ละ 120 บาท เหมือนเดิม หากไม่ได้ตามที่เรียกร้องจะยกระดับการเคลื่อนไหวให้หนักขึ้นกว่าเดิมจนกว่ารัฐบาลจะให้ความสำคัญ และบริเวณที่ชุมนุมมีการจัดเตรียมเสบียงอาหาร น้ำดื่มบริการเกษตรกรชาวสวนยางที่มาร่วมชุมนุมอีกด้วย


ม็อบยางปิดถนนสายเอเชียขาขึ้น-ล่องใต้เป็นอัมพาต


               ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น.ม็อบสวนยางได้ยกระดับความรุนแรงขึ้นหลังจากที่ยังไม่มีตัวแทนภาครัฐเข้าเจรจา โดยได้เคลื่อนย้ายนำเต็นท์มาปิดกั้นถนนสายเอเชียทั้ง 2 ช่องทางจราจรทั้งขาขึ้นขาล่อง รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ โดยต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน ซึ่งเป็นเส้นทางสายเก่าถนนสุราษฎร์-ชุมพร แล้วเลี่ยงเข้ากรุงเทพฯ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวกบอกเส้นทางตามทางแยกต่าง ๆ

 โดยการปิดถนนครั้งนี้ทางแกนนำบางส่วนได้แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยและมีความขัดแย้งในหลายประเด็น เนื่องจากความคิดเห็นไม่ตรงกัน เพราะเกรงว่าการปิดถนนทั้งขาขึ้นขาล่องจะทำให้ผู้ใช้ที่สัญจรไปมาเดือดร้อน แต่ทนกระแสความกดดันจากเกษตรกรไม่ไหว

 และในระหว่างที่มีการปิดถนน มีชาวบ้านบางส่วนได้พยายามแจ้งความจำเป็นที่ต้องปิดถนนกับผู้ที่ขับขี่รถ พร้อมทั้งบริการน้ำดื่มแก่ประชาชนที่สัญจรไปมา ในขณะที่กำลังตำรวจกว่า 200 นายได้กระจายกำลังคอยดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกเรื่องเส้นทางแก่ผู้ขับขี่รถ ในขณะที่ทางจังหวัดยังไม่มีการจัดส่งตัวแทนเข้ามาเจรจาแต่อย่างใด


นครศรีธรรมราชพร้อมเคลื่อนร่วม

               นายสมยศ รักษาวงศ์ นายกสมาคมชาวสวนยางนครศรีธรรมราช กล่าวว่า  ในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราช จะมีความเคลื่อนไหวเช่นเดียวกันกล่าวคือในวันที่ 11 ก.ค.55 แกนนำเกษตรกรชาวสวนยางจากหลายท้องที่ของนครศรีธรรมราช จะร่วมหันหารือเพื่อกำหนดท่าทีในการเคลื่อนไหว โดยได้ยืนยันข้อเรียกร้องเดิมคือ 1.ราคายางต้องมีราคา กก.ละ 120 บาท และ 2.รัฐบาลต้องทวนโครงการพยุงราคายางวงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท ที่เป็นการสร้างประโยชน์ให้กับพ่อค้า ขณะที่ชาวสวนยางรายย่อยไม่ได้ประโยชน์ใดๆเลย

               “ส่วนใหญ่เกษตรกรที่นครศรีธรรมราช เป็นชาวสวนยางรายย่อยเราพร้อมสำหรับทุกมาตรการในการเคลื่อนไหวโดยจะหารือแล้วเป็นมติร่วมกันว่าจะเคลื่อนไหวกันอย่างไร และจะดำเนินการโดยทันที ขณะนี้แกนนำได้ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับชาวสวนยางแล้วพร้อมที่จะออกมาเคลื่อนไหวหากรัฐยังไม่มีการแก้ไขปัญหาใดๆ” นายกสมาคมชาวสวนยางนครศรีธรรมราชกล่าว


ชาวสวนยางตรังรอดูท่าทีปิดถนนประท้วงราคาตก

               นายวิรัตน์ อินทรัตน์ ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดตรัง กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราในจังหวัดตรัง กำลังติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหว ของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งออกมาปิดถนนประท้วงราคายางพาราตกต่ำอย่างใกล้ชิด โดยเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลไม่เข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหา และทำให้ราคายางพาราขยับขึ้นมาเกินกว่า กก.ละ 100 บาท เพื่อให้เกษตรกรสามารถอยู่ได้ในช่วงสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ที่ข้าวของต่างๆ ได้ปรับตัวสูงขึ้นไปอย่างมากแล้ว

               โดยรัฐบาลจะต้องทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับชาวสวนยางพาราที่ เมื่อครั้งที่มีการปิดถนนประท้วงที่อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา พร้อมกับหามาตรการที่ดีกว่าโครงการให้เงินสนับสนุนแก่สถาบันเกษตรกร เพื่อรักษาเสถียรภาพราคา จำนวน 15,000 ล้านบาท เนื่องจากทุกวันนี้ก็ยังไม่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน และเทียบไม่ได้กับมูลค่าของยางพาราที่มีมากกว่า 4-5 แสนล้านบาท ขณะที่องค์การสวนยาง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ยังไม่สามารถยกระดับการแทรกแซงราคายางพารา ให้สูงกว่าในท้องตลาดได้ตามที่เคยรับปากเอาไว้

               ทั้งนี้ แม้เครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดตรัง จะเข้าใจดีว่า การที่ราคายางพาราตกต่ำลงมาอย่างมากนั้น มีผลมาจากสภาพเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง จนทำให้บางประเทศคู่ค้ารับซื้อยางพาราจากประเทศไทยในปริมาณที่ลดลง แต่เนื่องจากยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย และปีหนึ่งๆ มีมูลค่าการส่งออกจนสร้างรายได้ให้เป็นจำนวนมหาศาล ดังนั้น รัฐบาลจำเป็นต้องรีบเร่งเข้ามาดูแลช่วยเหลือ มิใช่รับปากไว้แล้วหายเงียบไป จึงทำให้กลุ่มเกษตรกรต้องออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องดังกล่าว
IP : บันทึกการเข้า
แมงคอลั่น
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,451



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม 2012, 19:56:42 »

ตะก่อน ปลูกเฉพาะภาคใต้ ความต้องการมีมาก ของมีน้อย มันก็แพง
ปัจจุบันปลูกกันทั่วบ้านทั่วเมืองรวมทั้งประเทศเพื่อนบ้าน แล้วมันจะแพงได้จะได
 
อุปสงค์ กับ อุปทาน มันบ่สมดุลย์กัน
IP : บันทึกการเข้า
tfgc2007
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,874


สมบัติพญามังราย ต้องรักษาไว้


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 14 กรกฎาคม 2012, 14:30:28 »

กึ๊ดหยั่งบ่าออก ปิดถนน...เป็นการฆ่าตั๋วตาย..คนใต้ปิดถนน ก็คนใต้ตวยกั๋นนั่นเนาะตี้เดือดร้อน..คนภาคอื่นบ่าได้เดือดร้อนตวย..ลองไปปรึกษาท่านพินิจ จาฯ บึงกาฬปู้น.เปิ้นเก่งตางนี้..ถ้าบ่ามีการเมืองแทรก .เอวังค์
IP : บันทึกการเข้า

รักษ์กำเมือง....ร่วมส่งเสริมละอ่อนเหนือ อู้กำเมือง....
เชียงรายสถาปนิก'97 รับ ออกแบบ เขียนแบบบ้าน อาคาร รับบริหารงานก่อสร้างและงานระบบทุกประเภท ตรวจสอบอาคาร โดยสามัญวิศวกร สามัญสถาปนิก และ จป.วิชาชีพ
หล่อเล็ก
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


เกษตรมือใหม่ป้ายแดง


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 15 กรกฎาคม 2012, 11:16:30 »

ดูจากข่าวนี้
"นายอภิชาติ พันธุ์พิพัฒน์ นายกสมาคมน้ำยางข้นไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงผลกระทบจากราคายางพาราที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 6 เดือนแล้ว ถึงขณะนี้ยังไม่ดีขึ้น  ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่เก็บสต๊อกไว้ช่วงยางราคาสูงต้องประสบปัญหาขาดทุนกันถ้วนหน้า  และในฐานะที่ตนเองดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท นาบอนรับเบอร์ จำกัด ยอมรับว่ามีสต๊อกน้ำยางข้นจำนวน 1,000 ตัน ราคาต้นทุนอยู่ที่กก.ละ 72 บาท ปัจจุบันราคา ณ วันที่ 10 กรกฎาคม 2555 อยู่ที่กก.ละ 60 บาท ขาดทุนกก.ละ 10 บาท หรือหลัก 10 ล้านบาท ณ เวลานี้จึงยังไม่ขาย เหตุที่ตุนสต๊อกน้ำยางข้นไว้ เพราะรัฐบาลประกาศจะดันราคายางแผ่นดิบขยับไปถึง กก.ละ 120 บาท จึงได้ซื้อเก็บไว้ เพราะหากราคายางแผ่นดิบขึ้น ผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นจะขึ้นตามไปด้วย
        "หากประเมินสมาชิกสมาคมน้ำยางข้นไทย คาดว่าจะมีสต๊อกน้ำยางข้นรวมกัน จำนวน 10,000 ตัน ราคาเฉลี่ยไว้ที่ กก.ละ 70-80 บาท ส่วนยางแผ่นรมควัน คาดว่าจะมีสต๊อก จำนวน 20,000 ตัน  ราคาเฉลี่ยไว้ที่ กก.ละ 100 บาท  รวมสต๊อกทั้ง 2 ชนิดที่ยังขายออกไม่ได้ ขาดทุนรวมกันกว่า 3,700 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีส่วนของพ่อค้าคนกลาง ที่ไปรับซื้อจากเกษตรกรโดยตรงถึงที่สวน หรือเรียกว่าพวก ยี่ปั๊วซาปั๊ว ที่ซื้อเก็บไว้กลุ่มนี้ คาดว่าขาดทุนไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท กลุ่มสหกรณ์ต่างๆ อีก รวมกันแล้วขาดทุนไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท"

สรุป พ่อค้าเพิ่นขาดทุนกำไร  เกษตรคนทำสวนยังพออยู่ได้
IP : บันทึกการเข้า
หล่อเล็ก
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


เกษตรมือใหม่ป้ายแดง


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 15 กรกฎาคม 2012, 11:23:34 »

ที่สวนทำแผ่นเก็บ กะรอขาย กก.200 อิอิ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
2520
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 227


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 15 กรกฎาคม 2012, 21:17:04 »

ที่สวนทำแผ่นเก็บ กะรอขาย กก.200 อิอิ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

ยางแผ่นงามขนาดเจ้า เปิ้นยะอย่างใดหา ยางงามแต๊งามว่า  ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
romportong@hotmail.com
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 460


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 15 กรกฎาคม 2012, 21:48:26 »

            นี่ขนาดผลผลิตออกมาแค่ 40 เปอร์เซนต์ของที่เขาปลูกกันในขณะนี้ อีก2-3 ปี จะออกมาเยอะกว่านี้ผลผลิตไม่เกินความต้องการหรือครับ ผมว่าต้องมีปัญหาแน่นอน แถมยังต้นทุนการผลิตสูงขึ้นทุกปี แรงงานที่กรีดยางก็เริ่มหายาก และก็เล่นตัวโก่งส่วนแบ่งเป็น 70/30 (แรงงาน/เจ้าของสวน)แล้ว แถมแรงงานชาวพม่าตอนนี้เศรษฐกิจของประเทศเขาเริ่มดี เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น มีคนมาลงทุนมากขึ้นเขาก็ทยอยกลับประเทศเขา เจ้าของสวนยางเดือดร้อนแน่  บางเจ้าก็เริ่มประกาศขายสวนกันแล้ว ตอนเห่อกันใหม่ๆ ใกล้กรีด ไร่ละ 2 แสน ไม่มีใบซักอย่าง เดี๋ยวนี้เริ่มลงแล้ว  ไร่ละแสนก็ยังไม่มีคนซื้อ
             มันเป็นอุปสงค์ อุปทาน ครับ เหมือนแต่ก่อนเราพากันทำสวนมะขามหวานขายกัน กก.ละ 200 บาท พอปลูกกันมากเข้าตอนนี้ กกละ 20 บาทยังขายยาก พากันล้มสวนมะขามมาปลูกยางกันอีก แต่ที่แน่ๆ อนาคตของชาวนาไทยเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นมาก ใน 2-3 ปีนี้ เพราะข้าวคนต้องกินกันทุกวันทั่วโลก นี่เป็นความคิดของผมเองครับใครจะคิดต่างก็มาแชร์ความคิดกันได้เพราะบางอย่างผมก็ไม่รู้จริง
IP : บันทึกการเข้า
automan3
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,004


สุขใจไปวันๆ


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 16 กรกฎาคม 2012, 04:16:36 »

เคยเตือนแล้ว ว่ายางจากลาวและเขมร กำลังโต คนขายพันธ์ยางบอกสู้ยางภาคใต้ไม่ได้ จีนเช่าที่ดินในลาวเขมรเวียดนามปลูกยางรุ่นแรกได้5-6ปีแล้วครับ ต่อไปราคาลงกว่านี้อีก กรีดเสร็จใส่ตู้วิ่งเข้าจีนเลยถนนทำเสร็จแล้ว จะซื้อจากใต้ให้เปลื่องค่าขนส่งทำไม จีนใช้ยางมากที่สุด เหมือนมะขามหวาน ราคาตกโค่นทิ้งปลูกยาง(แถวเพชรบูรณ์-เลย) ปีนี้120/กกครับ คนที่ไม่โค่นรวยไป ไทยปลูกยางได้แล้วเขมรลาวเวียดนามที่ดินมากมายจีนลงทุน คิดเอาเองครับหนาวแทนชาวสวนยาง เอาง่ายๆคนเชียงรายซื้อลำใยเมืองจันทร์กินไหมครับ  แลบลิ้น
IP : บันทึกการเข้า

การเมืองไม่ยุ่ง การมุ้งไม่เกี่ยว เฮฮาลูกเดียวสบายใจ
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!