เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 25 เมษายน 2024, 13:14:18
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การศึกษา (ผู้ดูแล: >:l!ne-po!nt:<)
| | |-+  ความเห็นเล็กน้อยเกี่ยวกับการเรียนพิเศษ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ความเห็นเล็กน้อยเกี่ยวกับการเรียนพิเศษ  (อ่าน 3835 ครั้ง)
TheRed
We are United
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 504



« เมื่อ: วันที่ 23 มิถุนายน 2012, 21:05:11 »

ทำไมเด็กไทยถึงคร่ำเคร่งกับการเรียนประจำและเรียนพิเศษ
1.นโยบายการศึกษาของไทยมันแย่หรืองัย
2.ลูกหลานเรามันแย่เรียนไม่เอาไหนงั้นหรือ
3.ครูสอนไม่เต็มที่กั๊กความรู้เพื่อหารายได้จากการสอนพิเศษตอนเย็นถึงดึกและวันหยุด
4.พ่อแม่ไม่สนใจการเรียนของลูกหลาน
5.โรงเรียนเน้นกิจกรรมล่ารางวัลมากกว่าความรู้ทางวิชาการ(ไม่ใช่ว่าไม่มีประโยชน์นะครับ)

จากข้อ 1. ผมว่านโยบายต้องปรับเปลี่ยนไปตามยุกสมัย
     ข้อ 2. มันคงไม่มากเพราะเด็กที่เรียนส่วนใหญ่ก็มีความมุ่งมั่นพอควร
     ข้อ 3. ข้อนี้ผมว่าน่าคิดและครูบางคนเป็นอย่างงั้นและผู้ปกครองก็ส่งเสริมเด็กให้หาความรู้เพิ่ม
     ข้อ 4. นี่ก็มีส่วนมากทีเดียว พ่อแม่ส่วนใหญ่มุ่งหาเงินมากกว่าใส่ใจลูก ซึ่งบางครั้งผมก็เป็น 5555
     ข้อ 5. นี่ยิ่งไปกันใหญ่ ลองตั้งข้อสังเกตุตามผมหน่อยครับ โรงเรียนมีตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึง ม3. หรือสูงกว่านั้นเท่าที่เห็นในการนำเด็กไปแข่งขันวิชาการ หรือเดินทางไปทัศนศึกษาต่างจังหวัด เช่นชั้น ม.2 ต้องไปทัศนศึกษาทำไมโรงเรียนถึงหยุดเรียนทั้งหมดยกโรงเรียน เด็กที่ไปทัศนศึกษา 40-50 คนต้องใช้ครูหมดโรงเรียนเลยเหรอในการดูแล แล้วเด็กอีก 100-200 คนมีใครคิดไหมว่าเขาเสียโอกาสในการศึกษาช่วงนั้นไป ทั้งหมดทั้งมวลเป็นแค่ความเห็นด้านของผมด้านเดียวเท่านั้น ผมรอรับข้อมูลอีกด้านอยู่ครับ ผมน้อมรับข้อตำหนิหากผมเข้าใจผิด และพร้อมที่จะ Change My Mind
    
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 23 มิถุนายน 2012, 21:42:24 โดย TheRed » IP : บันทึกการเข้า

จงระวังความคิดของตนเอง
จงระวังคำพูดของตนเอง
จงระวังการกระทำของตนเอง
และจงมีความสุขกับวันที่เหลืออยู่
เพราะชีวิตคนเรามันสั้น
TheRed
We are United
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 504



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 23 มิถุนายน 2012, 21:41:20 »

มาดูเงินเดือนของครูกันไม่รวมค่าวิทยฐานะ



* เงินเดือนครู.gif (257.25 KB, 700x1085 - ดู 422 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

จงระวังความคิดของตนเอง
จงระวังคำพูดของตนเอง
จงระวังการกระทำของตนเอง
และจงมีความสุขกับวันที่เหลืออยู่
เพราะชีวิตคนเรามันสั้น
inta
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,444


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 23 มิถุนายน 2012, 22:18:54 »

อาจจะเป็นเพราะว่า   ชีวิตคือการแข่งขัน    ต่อสู้     แก่งแย่ง     ดิ้นรน    และไม่มีใครมารับประกันชีวิตของเขาได้    และทุกคนต้องยืนให้ได้ด้วยตนเอง   การจะไปขอพึ่งคนอื่นนั้น
ยาก
IP : บันทึกการเข้า


สนใจ โทร 086-9176511
Mamae
We can't dip into the future.
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 974


อยากยิ้ม แต่ยิ้มไม่ออก


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 24 มิถุนายน 2012, 09:16:25 »

ทำไมเด็กไทยถึงคร่ำเคร่งกับการเรียนประจำและเรียนพิเศษ
1.นโยบายการศึกษาของไทยมันแย่หรืองัย
2.ลูกหลานเรามันแย่เรียนไม่เอาไหนงั้นหรือ
3.ครูสอนไม่เต็มที่กั๊กความรู้เพื่อหารายได้จากการสอนพิเศษตอนเย็นถึงดึกและวันหยุด
4.พ่อแม่ไม่สนใจการเรียนของลูกหลาน
5.โรงเรียนเน้นกิจกรรมล่ารางวัลมากกว่าความรู้ทางวิชาการ(ไม่ใช่ว่าไม่มีประโยชน์นะครับ)

จากข้อ 1. ผมว่านโยบายต้องปรับเปลี่ยนไปตามยุกสมัย
     ข้อ 2. มันคงไม่มากเพราะเด็กที่เรียนส่วนใหญ่ก็มีความมุ่งมั่นพอควร
     ข้อ 3. ข้อนี้ผมว่าน่าคิดและครูบางคนเป็นอย่างงั้นและผู้ปกครองก็ส่งเสริมเด็กให้หาความรู้เพิ่ม
     ข้อ 4. นี่ก็มีส่วนมากทีเดียว พ่อแม่ส่วนใหญ่มุ่งหาเงินมากกว่าใส่ใจลูก ซึ่งบางครั้งผมก็เป็น 5555
     ข้อ 5. นี่ยิ่งไปกันใหญ่ ลองตั้งข้อสังเกตุตามผมหน่อยครับ โรงเรียนมีตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึง ม3. หรือสูงกว่านั้นเท่าที่เห็นในการนำเด็กไปแข่งขันวิชาการ หรือเดินทางไปทัศนศึกษาต่างจังหวัด เช่นชั้น ม.2 ต้องไปทัศนศึกษาทำไมโรงเรียนถึงหยุดเรียนทั้งหมดยกโรงเรียน เด็กที่ไปทัศนศึกษา 40-50 คนต้องใช้ครูหมดโรงเรียนเลยเหรอในการดูแล แล้วเด็กอีก 100-200 คนมีใครคิดไหมว่าเขาเสียโอกาสในการศึกษาช่วงนั้นไป ทั้งหมดทั้งมวลเป็นแค่ความเห็นด้านของผมด้านเดียวเท่านั้น ผมรอรับข้อมูลอีกด้านอยู่ครับ ผมน้อมรับข้อตำหนิหากผมเข้าใจผิด และพร้อมที่จะ Change My Mind
   


เห็นด้วยค่ะ
สงสารเด็กบ้างเถอะค่ะ หัวสมองอันน้อย กำลังต้องการการพักผ่อนนะคะ
เด็กเขาเรียนอาทิตย์ละ 5 วันก็น่าจะพอแล้ว อย่าให้เขาต้องคร่ำเครียดจนเกินไป
ปล่อยให้เขาได้สนใจโลกภายนอกบ้าง อย่าให้เขาต้องมาเคร่งเครียดกับการตัวหนังสือเลย
แค่เรียนวันธรรมดา ก็น่าจะเพียงพอสำหรับเขาแล้วนะคะ
IP : บันทึกการเข้า

เพื่ออะไร กับการ "รอคอย" ที่ไม่มี "ความหมาย"
minareat57
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 110


« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 26 มิถุนายน 2012, 02:52:33 »

อือ ก้อว่างั้น ต้องปรับระบบการสอนใหม่หมด แต่ทำได้ยาก
1. ใครตรวจสอบ และประเมินผู้สอน
2. ตรวจสอบมาก ตูลาออก
3. ผู้สอนไม่ใส่ใจ คนเรียนไม่เอาใจใส่
4. นาๆประการ 
IP : บันทึกการเข้า
ใบตองแห้ง
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 229



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 01 กรกฎาคม 2012, 20:18:11 »

มองคนละมุม  ความเห็นอีกมุมหนึ่ง  
การเรียนการสอนในห้อง  
       แต่ละโรงเรียนจัดนักเรียนเข้าชั้นเรียนไม่เหมือนกัน  บางโรงเรียนที่ไม่ได้แยกนักเรียนเก่ง อ่อน  การสอนที่ดีจะต้องสอนแบบช้าๆ  ให้คนเรียนออ่อนรู้เรื่องด้วย ถ้าสอนด้วยความรวดเร็ว ยึดคนเรียนเก่งเป็นหลัก  คนเรียนอ่อนตกกับตก ท้อแท้ เสียหาย  หนีเรียน  อีกทั้งครูต้องดูแลวินัย  อบรมสั่งสอน  ว่ากล่าวตักเตือน จับยาเสพติด  การพนันชู้สาว ทะเลาะวิวาท ครูเขียนรายงานจิปาถะ งานพิเศษที่โรงเรียนมอบหมาย  ติดประชุมด่วน  ครูใหญ่เรียก  ฝ่ายปกครองเชิญพบ  มันอยู่ในนั้นหมด กิจกรรมแทรกอื่นๆ อีกมากมาย ฉะนั้นการเรียนการสอนไม่ได้เป็นไปตามหลักสูตรเต็มร้อย  เอาหัวเป็นประกัน

การเรียนการสอนนอกโรงเรียน (เรียนพิเศษ)
       คนที่สนใจเรียนแบบนี้  ส่วนมากเป็นคนเก่งอยู่แล้ว  ผู้สอนมุ่งเน้นให้เนื้อหาสาระ สอนอย่างเดียว รับได้ก็ช่าง ไม่รับก็ช่าง มาเรียนก็ช่าง ไม่มาก็ช่าง พฤติกรรมไม่มีควบคุม เผลอๆตามใจผู้เรียนเสียอีก บางแห่งไม่มีการวัดประเมินผล  จบเรื่องก็คือจบเรื่อง  ทั้งหมดนี้ให้ไปสังเกตการสอนครูฤทธิ์ แถวๆ ฮ่องลี่  ครูจรูญ แถวๆ วัดที่ถนนคนม่วน  ไปดูได้สังเกตได้    
IP : บันทึกการเข้า
Queen_Devil
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 163



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 01 กรกฎาคม 2012, 23:44:23 »

อยากแสดงความคิดเห็นในฐานะเด็กที่ยังเรียนอยู่  และติวเตอร์นะคะ  

ดิฉันเรียนพิเศษมาตลอดชีวิตตั้งแต่จำความได้...
แลดูเหมือนชีวิตเคร่งเครียดนะคะ  แต่เปล่าเลย  การเรียนพิเศษมีหลายแง่หลายมุม  ที่ผู้ปกครองส่วนมากอาจจะยังมองข้าม

เมื่อก่อนตอนยังอยู่ประถม  ดิฉันก็เรียนพิเศษแล้วคะ  เลิกเรียนปกติ 3 โมงครึ่ง  แล้วเรียนพิเศษต่อตอน 4 - 5 โมงเย็น  แล้วจากนั้นก็ไปเรียนต่ออีกค่ะ  จนถึงทุ่มนึง  เสาร์ -  อาทิตย์ ก็เรียนค่ะ  ครึ่งวันบ้าง  เต็มวันบ้าง  เรียนจนไม่รู้ว่าช่อง 9 การ์ตูนเค้าเอาการ์ตูนเรื่องอะไรมาฉายบ้าง เป็นแบบนี้มาจนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย  ถึงได้หยุดเรียนพิเศษ

ดูเหมือนพ่อแม่ใจร้ายมั้ยคะ ?

เปล่าเลยคะ  ทัศนคติของคุณแม่ดิฉัน  คือ  "ที่แม่ส่งลูกไปเรียนพิเศษ  ถ้าลูกได้กลับมา  1 ใน 10 ของที่ครูสอน  แม่ก็ดีใจแล้ว  อย่างครูสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ 10 ตัว  ลูกกลับมาท่องให้แม่ฟังได้ตัวนึงก็ถือว่าดีแล้ว  เพราะดีกว่าให้ลูกนั่งดูทีวีไม่มีประโยชน์  ในขณะที่แม่ก็ไม่มีเวลาดูแลลูกได้เต็มที่  ถ้าลูกไม่อยากเรียน  แม่ก็จะไม่บังคับ  ถ้าพ่อกับแม่ว่าง  เราก็หยุดเรียนแล้วไปเที่ยวกัน"  ทุกปี  ดิฉนหยุดเรียนพิเศษไปเที่ยวกับครอบครัวเสมอค่ะ  ครอบครัวเราชอบไปเที่ยวด้วยกันเวลามีวันหยุดราชการ  ^^

และการเรียนพิเศษของดิฉันที่คุณแม่วางไว้ให้  คือ  "เรียนอะไรก็ได้ที่ลูกอยากเรียน  อยากรู้"

ดิฉันก็เรียนหลายอย่างคะ  ตั้งแต่ ว่ายน้ำ  เทนนิส  เปียโน  รำไทย  จินตคณิต  ลีลาศ ตีขิม และวิชาการทั่วๆ ไป  

นี่เป็นอีกมุมที่อยากให้ผู้ปกครองหลายๆ ท่านมองการเรียนพิเศษของลูกหลานนะคะ  ไม่ใช่เฉพาะวิชาการอย่างเดียว  แต่การเรียนพิเศษเป็นการส่งลูกหลานคุณไปในอีกสังคมหนึ่ง  ที่แตกต่างจากในโรงเรียน  อยู่ที่ว่าคุณจะเลือกสังคมไหนให้  ยกตัวอย่างดิฉันเอง  มีเพื่อนหลากหลายโรงเรียนเพราะการเรียนพิเศษ  คุณแม่ก็พลอยได้รู้จักผู้ปกครองคนอื่นๆ มีเพื่อนใหม่ไปด้วย  

ทั้งนี้ทั้งนั้น  ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้ปกครอง  และการดูแลเอาใจใส่ลูกหลานของท่านเองนะคะ  เพราะเหล่านี้จะทำได้  ยอมรับตรงๆ นะคะว่าต้องใช้เงิน เวลาที่ต้องคอยนั่งรับส่งลูก และความกว้างขวางของพ่อแม่พอสมควร  เพราะไม่ใช่ว่าดิฉันอยากเรียนอะไรก็จะได้เรียนเลย  สิ่งที่คุณแม่ทำคือนั่งคิดอยู่นานสองนาน  ว่ามีใครรับสอนบ้าง  รู้จักใครบ้าง  แล้วโทรศัพท์  หรือไปหาคนสอนถึงบ้านกันเลยทีเดียว  เพื่อลูกอ่ะค่ะ  คุณแม่ทำด้ายยยยย  ^^    เชื่อค่ะว่าคุณแม่หลายๆ ท่านในเวปนี้ก็เป็นเช่นกัน  เพื่อลูก...แม่ทำได้ !!!

การเรียนพิเศษมิได้จำกัดอยู่แค่วิชาการนะคะ  และดิฉันเองก็มีความคิดที่ว่า  อยากให้เด็กไทยมีโลกกว้างมากกว่าในตำราค่ะ  

ส่วนเรื่องการเรียนของครูที่โรงเรียน   ว่ากันตรงๆ นะคะ  แก้ยากค่ะ  แล้วแต่เวรแต่กรรมที่เราจะไปเจอโรงเรียนและครูแบบไหน  เริ่มต้นแก้ที่ตัวเราก่อนดีกว่า  คือ  คอยดูแลเด็กค่ะ  ว่าลูกเรียนแล้วได้อะไรกลับบ้านมาบ้าง  รู้เรื่องมั้ย  มีความสุขมั้ย  ไม่เข้าใจตรงไหน  ถ้าพอจะช่วยแกได้ก็ทำ "ทันที" ค่ะ  เพราะยิ่งถ้าเด็กสะสมความไม่เข้าใจไปเรื่อยๆ  เค้าจะไม่ชอบการเรียน  จนกระทั่งการเรียนแย่ลง  แล้วเด็กไทยจะมีปัญหาตรงที่ไม่กล้าพูดแสดงความคิดเห็น  (ประสบการณ์ตรงจากการเป็นติวเตอร์  นี่ขนาดสอนกันตัวต่อตัว  เด็กยังอ้ำๆ อึ้งๆ  ไม่กล้าถามเลยค่ะ)  ต้องคอยสังเกต  คอยถามเค้าให้เป็นกิจวัตร 

ส่วนถ้าโรงเรียนไม่ไหวจริงๆ ก็ย้ายเลยดีกว่าค่ะ  ดิฉันเองเลือกเข้าโรงเรียนตามที่ตัวเองอยากเรียน  ไม่ใช่เพราะแค่สอบติดที่นั่นที่นี่  เคยมีครั้งนึง  สอบติดแล้วไม่อยากเรียน  เลยบอกคุณแม่ว่า  อยากเรียนที่อื่น  คุณแม่ก็ตามใจค่ะ  ก็แฮปปี้ดีทั้งคนเรียน  คนสอน  คนเสียกะตังค์  ไม่งั้นเด็กก็จะเรียนอย่างไม่มีความสุขเอานะคะ 

อีกประเด็นคือเพื่อนค่ะ  สำคัญมาก  เพราะเด็กๆ จะชอบเอาตัวเองเปรียบเทียบกับเพื่อน  และติดเพื่อน  อันนี้เราไม่มีประสบการณ์ไม่รู้จะยังไง  ให้คุณพ่อคุณแม่ปรึกษากันต่อดีกว่า  แหะๆ 

 
ขอบคุณค่ะ  



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 01 กรกฎาคม 2012, 23:54:51 โดย Queen_Devil » IP : บันทึกการเข้า
AIT
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,914



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 01 กรกฎาคม 2012, 23:51:58 »

ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป
IP : บันทึกการเข้า
JAMESCOM1
ทักทายผมได้นะครับ Line: JAMESCOM007
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,160

สอนคอม & ซ่อม เชียงราย


« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 02 กรกฎาคม 2012, 07:23:43 »

เรียนได้ครับ ดีออก ถ้าเรียนสนุกก็เรียนไปเถอะ นานาจิตตัง นานาสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงนิสัยส่วนตัวของแต่ละคนด้วยครับ แต่ เคยถามเด็กซักคำใหม่ว่า เขาอยากเรียน หรืออยากทำบ้างใหม ให้เด็กเลือกให้เด็กตัดสินใจดีกว่าครับ แค่เรานำมาเสนอก็พอ บางทีเขาเหนื่อย เขาก็หาอย่างอื่นทำ หรืออย่างอื่นเรียนแทนเป็นต้น แนะนำไปเช่นเล่าหรือพาไปดูไปเห็น เรียนว่ายน้ำ เรียนกลอง กีต้า หรือศิลปะ หรือเรียนคอมกับผม(สำหรับเด็ก) มันจะดีแน่ถ้าเขาบอกเราว่า ก็ได้ครับ เรียนก็ได้คะ หรือ ก็ดีเหมือนกันครับ คะ ดีว่าคำของเราที่ว่า ต้องเรียน ต้องไป หรือ จะไม่ทันเพื่อนนะ หรือ แม่จ่ายตังไปแล้ว เป็นต้น มนุตยเราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้หรือครับ เพื่อเรียนหรือครับ หรือเพื่อทำงาน ใช่ครับว่าเพื่ออนาคต แต่ สำหรับผม คำตอบคือ ความสุข ความพอใจ ความสบายใจจะดีกว่าใหมครับ คือคนเราเกิดมาเพื่อสุขไม่ใช่ทุข การเกิดก็เพื่อชีวิตที่ยังเป็นชีวิต แต่ไม่ใช่ชีวิตที่ไม่ใช่ชีวิต นะครับ
IP : บันทึกการเข้า


มาทาง Big-C ถ.ศรีทรายมูล สันสลีซอย1
biki073
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 531


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 02 กรกฎาคม 2012, 18:34:08 »

      ;Dส่วนมาก 90% เด็กอยากเรียนเองหรือเรียนตามเพื่อน อีก 10% ผู้ปกครองบังคับด้วยเหตุต่างๆเช่น ลูกเฉื่อยเกินไป ไม่จนใจอะไรทั้งสิ้น หรือว่าให้เรียนเพราะอยากให้ลูกได้ตามที่ตนหวังไว้
ถามว่าเอาข้อมูลมาจากไหน  จากประสบการณ์โดยตรงเลยเพราะทำงานอยู่ สถาบันกวดวิชา เด็กที่อยู่ในความดูแลของเรา เค้ามาเพราะกลัวไม่มีที่เรียน หรือว่าเรียนไปแล้วจะตกงานในอนาคต ปัญหาการศึกษาไทยมันเป็นปัญหาเส้นผมบังภูเขา
ถ้าจะให้ดีระบบการรับเข้ามหาลัยค่อนข้างมีส่วนมาก ลองคิดตามกันดู
เด็กที่อยากเรียนวิศวะ เค้าก็ควรจะวัดผลจาก เนื้อที่ตรงตามอาชีพ  เช่น คณิตและฟิสิกส์ แต่ตอนนี้ เราต้องสอบเยอะแยะไปหมด อย่างเมืองนอกอยากเข้าเรียนอะไร มีport เพื่อแสดงความสนใจด้านนั้นๆ และผลคะแนนทางวิชาการ เค้าก็รับแหละ ไม่สอบเยอะเท่าเด็กไทย "สทศ เค้าคิดเยอะเกินไป"
      การเรียนพิเศษ ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย เพราะเราอยู่ในยุคแห่งการแข่งขัน
      แม้แต่ตัวผู้ปกครอง เวลาเห็นสมุดพกลูกคุณจะมอง หา 2 หรือว่า 4 ของลูกก่อน อย่าไปถามเด็กเลยว่า ทำมัย ได้2 เด็กก็คิดในใจ ก็ "ไม่ถนัดอะ"เราควรผลักดันศักยภาพของเด็กน่าจะดีกว่าไปมองถึงข้อด้อย
IP : บันทึกการเข้า

อยากชิมกล้วยเบรคแตก กล้วยไข่กรอบ อร่อยๆ กด like เลย
https://www.facebook.com/JNbanana
JAMESCOM1
ทักทายผมได้นะครับ Line: JAMESCOM007
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,160

สอนคอม & ซ่อม เชียงราย


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 03 กรกฎาคม 2012, 08:04:01 »

นี่แหละ กรรมของมนุตย์ เกิดมาก็ต้องเรียน ๆ ๆๆๆ เรียนมันเข้าไป  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า


มาทาง Big-C ถ.ศรีทรายมูล สันสลีซอย1
~SmR~
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 347



« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 04 กรกฎาคม 2012, 20:36:40 »

น้องผม มาขอผมไปเรียน .. ผมก็ยินดีนะ คือเขาต้องการจะขวนขวายหาความรู้เพิ่ม เราก็ยินดี .. ถึงขนาดมาขอไปเรียนพิเศษที่เชียงใหม่ วัน เสาร์ อาทิตย์ อันนี้ไม่ให้ไป ไกลไป เหนื่อย ..

ครูกั๊ก อันนี้ก็เป็นบางคน ผมได้ยินได้เห็นมาเช่นนั้นจริง ..
บางครั้งมันก็เป็นความกดดันของเด็กส่วนหนึ่ง ..
บางครั้งมันก็เป็นค่านิยมของเด็กด้วย ..
IP : บันทึกการเข้า
natrapa
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 463



« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 11 กรกฎาคม 2012, 15:09:13 »

เสนอความเห็นในบทบาทของครูและของแม่นะคะ นักเรียนเรียนพิเศษมากเพราะอะไร
๑. ความต้องการของเด็กที่อยากได้ความรู้(Knowledge)เพิ่มเติม  จากโรงเรียนกวดวิชาซึ่งจะให้แต่เนื้อหาความรู้เพียงเดียว หรืออาจรวมถึงเทคนิคการจำ/คิด
๒. ครูที่โรงเรียนต้องจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาทั้งความรู้ กระบวนการ และคุณลักษณะ ทำให้ไม่ได้มุ่งเน้นสอนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และไม่กั๊กความรู้ แน่นอน
๓. การสอบเรียนต่อในระดับต่างๆยังเน้นความรู้ในลักษณะ ความจำ ความเข้าใจ มาก
๔. เรียนตามเพื่อน อยากมีกลุ่มเพื่อนใหม่
๕. พักผ่อน ในกรณีที่ไม่เน้นวิชาการ เช่น ว่ายน้ำ ดนตรี
๖. ความคาดหวังของพ่อแม่ ผู้ปกครอง  ที่สูงทำให้มักจะกดดัน จัดการให้ลุูกไปเรียนพิเศษ เพื่อสอบเข้าในสถาบันที่มีชื่อเสียง  หรืออาจคิดแทนลูกไปทุกเรื่อง
๗. ครูที่โรงเรียนสอนไม่เข้าใจ  (อาการหนัก)
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!