เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 20 เมษายน 2024, 02:45:13
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  บอร์ดกลุ่มชมรม
| |-+  ชมรมนักกลอน
| | |-+  ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 พิมพ์
ผู้เขียน ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ  (อ่าน 35118 ครั้ง)
รพีกาญจน์
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,509



« ตอบ #60 เมื่อ: วันที่ 01 พฤศจิกายน 2013, 16:30:45 »


ก็ไม่รู้ เขาเล่น อะไรเขา
ยินเสียงเป่า นกหวีด กรีดสนั่น
รับเสียงทอด สืบยาว เป่าต่อกัน
ด่าไล่มัน กลางถนน นั่งบนลาน

เสื้อสีดำ สีขาว สีสลับ
ขู่สำทับ ให้ผ่าน ไม่ให้ผ่าน
พูดตอบโต้ ไปมา ว่าประจาน
ซีกต่อต้าน ซีกชอบ ดีไม่ดี

เป็นผู้ร้าย ฆ่าคน ปล้นไม่ผิด
ตนเจ็บนิด คิดเผา เอาเป็นผี
โกงบ้านเมือง เรื่องจ้อย น้อยเต็มที
ลักเป๊บซี่ หนึ่งลัง ขังนานเดือน

ทั้งร้อยวัน พันปี ไม่มีแจก
วันนี้แบก ข้าวสาร กองดานเกลื่อน
แถมยังหุง ปรุงยื่น ผู้มาเยือน
เพียงเป็นเพื่อน ไชโย โห่ฮิ้วดัง

วางตำรวจ ตรวจกัก อารักขา
ยืนตั้งท่า พรักพร้อม ล้อมหน้าหลัง
บ้างยกย่อง บ้างด่าดุ ยุชิงชัง
เขานิ่งฟัง เหมือนหู รูตีบตัน

นี่นะหรือ คือแคว้น แดนธัมมะ
อารยะ ชีวิต จิตสุขสันต์
แบ่งพวกพรรค ฝักฝ่าย ทำร้ายกัน
ใกล้ถึงวัน สิ้นงาม ความเป็นไทย

รพีกาญจน์

IP : บันทึกการเข้า

ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
รพีกาญจน์
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,509



« ตอบ #61 เมื่อ: วันที่ 20 พฤศจิกายน 2013, 21:24:02 »


หากว่าเทียบหวู่ติ๊บก็จิ๊บจ๊อย
เสียหายน้อยเพียงจุดพอหยุดต้าน
หากว่าเทียบไห่เยี่ยนเยียนแหลกราน
พอพัดผ่านชีพดิ้นทรัพย์สินพัง

บูรณะชะล้างซ่อมสร้างใหม่
มีกินใช้บรรเทาลืมเก่าหลัง
แต่งบำบัดจัดเติมเสริมชีวัง
สู่ความหวังวิวัฒน์พัฒนา

แต่กลุ่มคนคลุ้มคลั่งพลั้งเบือนบิด
ถูกเกาะกุมคุมจิตด้วยอิจฉา
วางโทษทัณฑ์กลั่นแกล้งแสร้งนานา
ริษยาอาฆาตสบฟาดฟัน

ตาต้องจับนับถือเงินคือเจ้า
ชี้เสกเป่าลดเลี้ยวเดี๋ยวกลับหัน
เอามนุษย์ฉุดหัวตัวประกัน
มีเดิมพันตำแหน่งแย่งยึดครอง

อ้างบงการงานจากข้ามฟากสรวง
จึงก้าวล่วงเข้าเขตเหตุทั้งผอง
เอาชนะคะคานพาลคะนอง
ล้างสมองเชือดเฉือนมิเหมือนคน

บอกหวู่ติ๊บไห่เยี่ยนเวียนชิดซ้าย
นี่เลวร้ายกว่าใดใกล้แตกป่น
เชื้อเดียวกันกำลังตั้งหน้าชน
คงไม่พ้นถึงล่มจมอีกนาน!

รพีกาญจน์

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 20 พฤศจิกายน 2013, 21:31:39 โดย รพีกาญจน์ » IP : บันทึกการเข้า

ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
รพีกาญจน์
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,509



« ตอบ #62 เมื่อ: วันที่ 25 พฤศจิกายน 2013, 22:07:21 »


แบ่งพวกพ้อง สองฝ่าย ซ้ายขวาฝัก
จับเชือกชัก คะเย่อ เออเสียงหลง
เป็นตำรวจ กวดไล่ โจรไพรพง
สนั่นดง ดวลหมัด ซัดด้วยปืน

เบื่อบทบู๊ อยู่ดอน เล่นซ่อนหา
มือปิดตา ลงพับ นับพันหมื่น
โยนหมากเก็บ กินเมือง ควบเยื้องยืน
กระโดดลื่น ล้มหงาย อายหน้าแดง

ข้ามเขตขัณฑ์ กลั้นใจ ไล่ตี่จับ
เสียงหยุดปั๊บ ถูกกลุ้ม รุมยื้อแย่ง
ขายเสื้อผ้า อาหาร ร้านข้าวแกง
หาบฟักแฟง สอดไส้ เร่ไอติม

เกิดผิดพลั้ง ครั้งใด ไม่ถือโทษ
คิดเคืองโกรธ ตีต่อย คอยแทงทิ่ม
มีกล้วยมัน ปันแป่ง แบ่งเพื่อนชิม
ยื่นส่งยิ้ม พิมพ์ใจ ไปแสนนาน

คือสุทธิ วิถี ของชีวิต
จรุงจิต สุขชื่น มวลพื้นฐาน
ประเพณี ดีสืบ ต่อคืบคลาน
เป็นสวรรค์ วิมาน แห่งบ้านนา

อสูรร้าย ป้ายหม่น คนใดเล่า
มันเสกเป่า เราคลั่ง ชังเข่นฆ่า
แยกค่ายสี พี่น้อง ต้องร้างลา
อนิจจา โศกศัลย์ เศร้าวันนี้

รพีกาญจน์

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 08 ธันวาคม 2013, 20:01:46 โดย รพีกาญจน์ » IP : บันทึกการเข้า

ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
รพีกาญจน์
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,509



« ตอบ #63 เมื่อ: วันที่ 08 ธันวาคม 2013, 20:00:27 »


วอนสวรรค์บันดาลตามสารกล่าว
ปวงเทพจ้าวฤทธิแรงทุกแห่งหน
ไหว้ปลกยกยอขอช่วยดล
สักสองคนมีลูกผูกพันใจ

เป็นคนยึดพฤติดีมีความรู้
เพื่อเชิดชูเชื้อชาติศาสน์ผ่องใส
พร้อมจงรักภักดีภูมีไทย
ครอบครัวให้ผาสุกทุกเช้าเย็น

น้อมนบนำทำคิดจิตพิสุทธิ์
สิ่งสมมุติผุดพลันทันตาเห็น
ผ่านปีผันจันทร์เอยเสวยเพ็ญ
แสนตื่นเต้นดีใจได้ลูกชาย

สู้ถนอมกลอมเกลาเฝ้าฟูมฟัก
ส่งลูกรักพากเพียรเรียนกฏหมาย
เป็นครูบาอาจารย์.อีกหนึ่งนาย
อกผึ่งผายตำรวจตรวจภูธร

หลังลำบากตรากตรำทำนาสวน
นี่ก็จวนคืบใกล้ได้พักผ่อน
สวดมนต์พร่ำธัมมะละอาวรณ์
คงช่วงตอนสงบพบมรรคา


วันนี้
ในฤดีกังวลหมองหม่นหน้า
ลูกถูกเรียกปกปักนัครา
อีกคนมาร่วมงานม็อบต้านเมือง

รพีกาญจน์

IP : บันทึกการเข้า

ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
รพีกาญจน์
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,509



« ตอบ #64 เมื่อ: วันที่ 22 ธันวาคม 2013, 21:07:18 »


อ้างชอบธรรมตามสิทธิ์คิดต่อต้าน
ขจัดมารไล่ลุยแถมคุยเขื่อง
ปฎิรูปสูตรใหม่ให้รุ่งเรือง
ชาติประเทืองไร้จนทุกคนรวย

รวมหมู่มิตรพร้อมหน้ากรีฑาทัพ
แบบฉบับกินลมชมวิวสวย
นับคำนวณวาศอกบอกเอออวย
เป็นภาพพวยอำนาจบาทคุกคาม

อ้างชอบธรรมตามสิทธิ์ยึดติดอยู่
ป้องประตูคูคลองยองสยาม
อิงระเบียบกฏกรอบระบอบงาม
สากลปรามขั้นคุณละมุนละไม

แฉลบซ้ายป่ายขวาท่ารำป้อ
นวลลออแสดงแสร้งเฉไฉ
ยืนตัวลีบบีบน้ำตาว่าร่ำไร
ออกไม่ได้ทางตันมันสุดซอย

ขิงก็ราข่าก็แรงแกร่งชะมัด
ต่างฮึดฮัดบ้าบ้อมมิยอมถอย
เร่งขบวนมวลชนขนทยอย
บนแร้งคอยโฉบปีกอยากฉีกกิน

ที่แน่แน่แพ้ชนะผลกระทบ
ถึงจุดจบคือคนยากจนสิ้น
เอวกิ่วคอดกอดเข่าเฝ้าดานดิน
ทั่วทุกถิ่นเลิกจ้างหยุดสร้างงาน

รพีกาญจน์

IP : บันทึกการเข้า

ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
รพีกาญจน์
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,509



« ตอบ #65 เมื่อ: วันที่ 31 มกราคม 2014, 08:48:41 »



" รพีกาญจน์ "หลานคนที่ 3 เลี้ยงเธอตั้งแต่แรกเกิด เอานามสกุลของผมตั้งเป็นชื่อ
เธอเรียนจบชั้นอนุบาลจากโรงเรียนใกล้บ้าน อายุครบ 7 ปี เมื่อ 19 มิถุนายน 2553
จะไปอยู่กับพ่อแม่และพี่ชายในเมืองเชียงใหม่ เพื่อเข้าเรียนในชั้นประถมปีที่ 1
วันที่จะลาไป เธออุ้มลูกหมามาตัวหนึ่ง ก้มกราบแทบเท้าผมหลายครั้งพร่ำพูดว่า
วานให้ตาและยายช่วยเลี้ยงให้ด้วย ขอจากเพื่อน มันเพิ่งกำพร้าแม่ อายุได้ 18 วัน
ถ้าตาคิดถึงน้องอิม(ชื่อเล่นของหลาน)ให้ดูเจ้าตัวนี้ มันคือตัวแทนของน้องอิม

ผมรักสัตว์ทุกชนิด แต่ไม่เลี้ยง เพราะไม่มีเวลาเอาใจใส่ ในชีวิตขลุกอยู่กับงาน
ก็จำใจรับเอาหมาตัวนี้เลี้ยงไว้ เพื่อไม่ให้หลานเสียใจ คิดอีกทีก็ดีเหมือนกัน
จะได้ทดแทนหลานที่ลาไป เธอดีใจมากกล่าวขอบคุณเสียงดัง กอดผมแน่น

ผมตั้งชื่อหมาเพศผู้ตัวนี้ว่า " โชคดี " มันโชคดีจริงๆ หมาตัวแรกที่ผมเลี้ยง
และเป็นที่มาผมหยุดแต่งกลอนหลายวัน โอ เจ็ดวันแล้วสิครับ

(ผมขอหยุดตรงนี้ก่อนครับ มีช่วงที่ว่างจะพิมพ์ต่อ จิ้มพิมพ์ทีละตัวช้ามาก
และขออนุญาตใช้ชื่อกระทู้เลียนคุณสียะตรา โดยเปลี่ยนจากเจ้าวันเพ็น)


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 31 มกราคม 2014, 21:39:57 โดย รพีกาญจน์ » IP : บันทึกการเข้า

ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
รพีกาญจน์
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,509



« ตอบ #66 เมื่อ: วันที่ 31 มกราคม 2014, 21:39:01 »



รถสองแถวสี่ล้อแดงพาหลานพร้อมข้าวของแล่นไปไกลจนลับตา
ตาและยาย(ผมและแฟน) ยืนเช็ดน้ำตา ตาเหม่อลอย นานแสนนาน
รู้สึกตัวอีกทีเมื่อได้ยินเสียงร้องของเจ้าโชคดี แกคงหิวนมแน่ๆ
ผมจึงรีบไปตลาดหาซื้อขวดนม แปรงล้างขวด น้ำยาล้างขวด นมผง
ผมรีบชงนม อุ้มให้ดูดนม นมผสมยาช่วนย่อย ให้นมทุก 3-4 ชั่วโมง
วางนอนในกล่องสี่เหลี่ยมทรงสูงศอก รองด้วยผ้านวมหนานุ่ม
ห่มผ้าให้เวลาหนาวเย็น กางมุ้งครอบกันยุง เปิดไฟให้ความอบอุ่น
มีหลายครั้งอุ้มเล่นหรือให้นม แกถ่ายปัสสาวะรดราดผมเลอะเทอะ
ผมและแฟนออกไปธุระนอกบ้าน ต้องหอบเจ้าโชคดี หิ้วตะกร้าไปด้วย
ถึงแกจะเป็นหมา เราเลี้ยงอย่างลูก แกเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแล้ว
เมื่อถึงกำหนดสัตวแพทย์นัด พาไปทำวัคซีน ยากันลำไส้อักเสบ
กันพิษสุนัขบ้า อาบน้ำด้วยสบู่เหลว เช็ดแห้ง แปรงขน สวมเสื้อ
แกได้กินอาหารเช่นครอบครัวผม อาหารหวานคาวจนม น้ำแข็ง
ไอศครีม นมสด ยกเว้นของเผ็ด แกไม่ยอมกิน อาหารที่โปรดปราน
ได้แก่ เลือดหมูต้ม ข้าวผัดไข่หมูบด ช็อคโกแลต ทุเรียน ลำไย
แกชอบเล่นลูกบอลเป็นที่สุด วิ่งรอบบ้านเป็นประจำทุกเช้าเย็น
แกแข็งแรง เห่าเสียงดัง ใจดีขี้เล่นไม่ดุ จึงเป็นขวัญใจเพื่อนบ้าน
แกโตเป็นหนุ่ม มักเดินตามจีบสาวที่ต้องใจทั่วไป แต่ไปไม่นาน
จะรีบกลับบ้านเสมอ จึงไม่ใช่เป็นเรื่องที่น่าห่วงแต่ประการใด

และแล้ว เช้าวันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2557 แกหายไป.....


IP : บันทึกการเข้า

ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
รพีกาญจน์
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,509



« ตอบ #67 เมื่อ: วันที่ 31 มกราคม 2014, 22:31:28 »



เวลา 06.30 น. วันจันทร์ หลังจากผมอ่านงานจากบอร์ดบ้านกลอนไทย
ผมเปิดประตูบ้านเพื่อขายของเบ็ดเตล็ด ยังไม่เอะใจเมื่อไม่เห็นเจ้านำโชค
คิดว่าแกคงออกไปวิ่งเล่นกับเพื่อน หรือไปทำธุระส่วนตัว(ถ่ายหนักเบา)
พอข้าวสุก ผมคดข้าวแบ่งไว้สำหรับตักบาตร แบ่งทำข้าวผัดมื้อเช้าให้แก
แกมักได้กินก่อนผมเสมอ เพราะผมมัวแต่ขายของและทำงานจุกๆจิกๆ
ขณะนั้น 08.00 น. ผมเรียกเจ้านำโชคไม่เห็นมา เดินตามหาไร้วี่แวว
ผมตกใจมาก สอบถามเพื่อนบ้านๆก็ไม่รู้ไม่เห็น ผมขับมอเตอร์ไซด์ช้าๆ
ตามถนนวนรอบหมู่บ้าน แกจำเสียงรถคันนี้ได้ ถ้าได้ยินจะวิ่งออกมาทันที
ไม่มีจริงๆ ผมรีบไปที่หอกระจายข่าวเสียงตามสาย ประกาศหาเจ้านำโชค
ขอพี่น้องชาวบ้านพบเห็นช่วยบอกด้วย ทุกครั้งที่ผมประกาศข่าวแกได้ยิน
จะวิ่งมาหา แต่ครั้งนี้ไม่ มีคนโทรบอกว่า เห็นแกตามหมาสาวทางทิศตะวันตก
ผมรีบไปดู มีแต่หมาตัวอื่นเป็นฝูง เห่าหอน กัดกันแย่งตัวเมีย ไม่มีนำโชค
ญาติ เพื่อนบ้าน กรรมการหมู่บ้านช่วยออกตามหาจนทั่วหมู่บ้าน นาสวนไร่
รัศมีประมาณเกือบกิโลเมตรโดยรอบ ไม่เห็นแม้แต่เงา ผมซุ่มฟังเสียงหมา
เกือบตลอดทั้งคืนวันจันทร์ เสียงดังที่ไหนไปที่นั่น พบแต่ความผิดหวัง
กลับบ้านด้วยความอ่อนใจใกล้สว่าง นอนไม่หลับ ดื่มกาแฟ อ่านกลอน

อย่างไรก็ตาม วันอังคารต้องตามหาเจ้าโชคดีให้พบให้จงได้.......


IP : บันทึกการเข้า

ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
รพีกาญจน์
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,509



« ตอบ #68 เมื่อ: วันที่ 01 กุมภาพันธ์ 2014, 06:31:23 »



ตีห้าครึ่ง ล้างหน้า แปรงฟัน ทั้งๆที่ไม่ได้หลับเลยสักงีบเดียว
อ่านบทประพันธ์ในบ้านกลอนไทย ไม่มีกะใจจะเขียนเลย
พอสว่างเห็นลางๆ รีบสะพายย่ามมีโซ่ไว้สำหรับคล้องถ้าเจอ
มีดเดินทาง กล้วย ขวดน้ำสำหรับมื้อเช้าของผม นมกล่อง
สำหรับนำโชค แกคงหิว กะว่าจะเดินสำรวจทุกตารางวาใน
และรอบหมู่บ้านๆผมมีสี่ร้อยสิบแปดหลังคา เป็นบ้านที่อยู่
อาศัยและค้าขายประมาณครึ่ง นอกนั้นเป็นบ้านสวน และมี
ทุ่งนา สวนลำไยมะม่วงโดยรอบคั่นกับหมู่บ้านอื่นทั้งสี่ทิศ
ผมเป็นคนพื้นเพนี้ตี้งแต่เกิด รู้ดีว่าตรงไหนมีสระน้ำ บ่อน้ำ
บ่อร้าง ดูทุกบ่อ แกอาจพลัดตกลงไป เดินเลาะรั้วลวดหนาม
ทุกด้าน เผื่อว่าเสื้อที่แกใส่อาจคล้องติดแน่น ดึงจนหมดแรง
ออกไม่ได้ เจอหน้าผู้คนสอบถามให้วุ่นไปหมด ได้ยินเสียง
หมาที่ไหน รีบไปทันที มีคนโทรแจ้งสิบกว่าราย รีบไปทันที
ก็ไม่มีก็ไม่ใช่อีก ขณะเดียวกันมีลูก ญาติ และเพื่อนอีกคน
แบ่งพื้นที่ช่วยเสาะหา เมื่อหาจนรอบแล้ว เดินทางทางเดิม
อีกรอบหนึ่ง เพื่อความแน่ใจหรือบางทีอาจจะสวนทางกันบ้าง
มื้อเช้ากลางวันวันนั้นคือกล้วยครับ จนเกือบมืดค่ำ ผมเดิน
ระโหยโรยแรงด้วยความอิดอ่อนใจ เดินทั้งวันคิดว่าระยะทาง
กว่าสิบกิโลเมตร ที่เป็นหลุมเป็นบ่อ ขึ้นเนินสูง ลงที่ต่ำ
ข้ามลำคลอง ลำเหมือง ลอดรั้วลวดหนาม ป่าพงหญ้าหนาม
ใบหน้าสองมือเท้ามีรอยเกี่ยวขีด เลือดไหลซิบๆปวดแสบ
แกเสมือนลูก ลูกที่หายไป เป็นหน้าที่ที่พ่อต้องตามเสาะหา

พรุ่งนี้ครับ พรุ่งนี้วันพุธ ผมวางแผนการค้นหาว่ากันใหม่อีกที
ผมนอนหลับสลบไสล ไม่ได้อาบน้ำ เย็นนั้นลืมกินข้าว.....

IP : บันทึกการเข้า

ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
รพีกาญจน์
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,509



« ตอบ #69 เมื่อ: วันที่ 01 กุมภาพันธ์ 2014, 14:49:59 »



เช้าวันพุธ อันดับแรกหยิบพาราเซตามอลสองเม็ดหย่อนลงปากตามด้วยน้ำ

จับรถบึ่งไปสถานีวิทยุชุมชนประจำอำเภอพบนักจัดรายการข่าวเที่ยงวัน
ที่มีผู้ติดตามรายการมากที่สุดในเขตหกอำเภอข้างเคียง ขอช่วยประกาศ
หมาของ อาจารย์ทวี รพีกาญจน์ หาย ตามรูปพันธุ์สัณฐาน ผู้ใดพบหรือ
จับขังไว้ แจ้งให้ทราบ มอบรางวัลและกราบขอบพระคุณ เขาช่างใจดีมาก
ประกาศทุกต้นชั่วโมงสามครั้ง มีโทรเข้ามาแสดงความเห็นใจย่างมากมาย
เครือข่ายชมรมผู้สูงอายุ ชมรมวัฒนธรรม ชมรมฌาปนกิจ กรรมการหมู่บ้าน
สื่อสารกันเป็นหูเป็นตาเสาะหา มีผู้พบเสื้อของแกติดรั้วลวดหนามห่างจาก
หมู่บ้านทางทิศตะวันออกราวครึ่งกิโลเมตร ผมมีกำลังใจเพิ่มขึ้น อย่างน้อย
แกคงยังไม่ตาย คงไม่มีใครจับเอาไปย่างแกง คิดแล้วก็ใจหาย หมาตัวอ้วน
สีดำ ตลาดซื้อขายชั่งเป็นๆราคากิโลกรัมละร้อยบาท มีโทรเข้ามาตลอดเวลา
จนกระทั่งเย็น ทุกคนที่ออกไป ทุกอย่างที่คิดไว้ คว้าน้ำเหลว ว่างเช่นเดิม
สามวันแล้วเจ้าอยู่ไหนหนอ ได้กินข้าวกินน้ำหรือเปล่า กลางคืนนอนที่ไหน
หนาวสั่นอย่างไร สมองผมหนักอึ้งจากเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าและผิดหวัง

ผมจำต้องละเรื่องโชคดีไว้ก่อน เพื่อจัดเตรียมข้าวของไหว้เจ้าตรุษจีนพรุ่งนี้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 01 กุมภาพันธ์ 2014, 16:36:27 โดย รพีกาญจน์ » IP : บันทึกการเข้า

ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
รพีกาญจน์
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,509



« ตอบ #70 เมื่อ: วันที่ 01 กุมภาพันธ์ 2014, 21:48:42 »



ผมพยายามควบคุมสะกดกลั้นเก็บความรู้สึกไว้ภายในอย่างที่สุด
แต่ไม่สามารถกักกันปกปิดได้มิดชิด ยังมีอาการเศร้าบนใบหน้า
ท่าทางเชื่องช้าเซื่องซึมปรากฎให้เห็น ตรุษจีนปีนี้ไม่รื่นรมย์เลย
วันพฤหัสบดีนี้เป็นวันตรุษจีน และตรงกับวันพระ เมื่อไหว้เจ้าเสร็จ
ผมจัดอาหารพิเศษไปทำบุญถวายทานอุทิศให้เจ้านำโชคที่วัด
ถ้าแกถึงแก่ชีวิตก็ขอให้รับส่วนกุศลนี้ ถ้าแกยังมีชีวิตอยู่ ขอให้เรา
ได้พบกันโดยเร็วพลัน ลูกเอ๋ย บ่ายนี้พ่อจะออกตามหาเจ้าอีกครั้ง
ถ้าพ่อเดินเรียกชื่อเจ้า เจ้าได้ยินเสียงของพ่อ ให้เห่าขานรับดังๆ
พ่อจะรีบไปรับเจ้า เจ้าให้รีบมาหาพ่อนะ เราจะได้พบกันเสียที
ทุกวันพระ ผมกินมื้อเดียว ไม่กินเนื้อ กินแต่ข้าวผักผลไม้เท่านั้น
ผมแกะขนมเข่งกินหกใบ ไหว้เจ้าสวมชุดแดง ไปวัดสวมชุดขาว
ผลัดเป็นชุดยีนส์ออกเดินทางตามหาเจ้าโชคดี ตั้งใจสอบถาม
ขอความคิดเห็นจากผู้ที่รักและเลี้ยงหมาจำนวนมากๆ อาศัยข้อมูล
ของปศุสัตว์ ไปกราบนมัสการพระคุณเจ้า เจ้าอาวาสใกล้เคียง
6 วัด ตลาดสดใหญ่น้อย 10 แห่ง โชคดีอาจป้วนเปี้ยนแถวนั้น
ผมถือป้ายเขียนข้อความว่า " หมาหายครับ ใครเห็นบ้าง? "
คนให้ความสนใจมากมาย ให้กำลังใจ จะสอดส่องให้เบาะแส
จบอีกหนึ่งวัน ไม่มีเจ้านำโชคอย่างวันก่อนครับ


IP : บันทึกการเข้า

ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
รพีกาญจน์
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,509



« ตอบ #71 เมื่อ: วันที่ 02 กุมภาพันธ์ 2014, 12:59:51 »



บรรยากาศเช้าวันศุกร์แจ่มใส ไม่ร้อนไม่หนาว เย็นสบายพอดิบพอดี
กาแฟขมพร่องถ้วย ช่างเย็นชืด เย็นรวดเร็ว หรือเราลืมยกดื่มกันแน่
มองออกไปข้างหน้า สายตาพร่าลาย รัดแขนวัดความดัน 110  80
ตวงน้ำหมักมะขามป้อม 100 ซีซี ผสมยาบำรุงหัวใจ ค่อยยกจิบดื่ม
เปิดกระปุกตวงสมุนไพรแห้งบดละเอียด 1 ช้อนชา ชงน้ำร้อนดื่ม

ย่างวันที่ 5 แล้วสินะ วันนี้ตรง วันศุกร์ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 (เหนือ)
ตรงกับสิ่งดีๆหลายอย่าง วันศุกร์ เชื่อว่าจะพบกับความสุข สมหวัง
ขึ้น 1 ค่ำ ช้างแก้วสู่โรงธรรม เชื่อว่าจะได้รับของดี(โชคดี)กลับคืน
ฟ้าตี่แส่งเศษ 2 เชื่อว่าคิดหรือทำการใดจะสำเร็จเสร็จสม ตรงกับ
นันทาดิถี ไชยโชค ราชาโชค อมริสโชค เชื่อว่าจะพบเจ้าโชคดีแน่
ถึงเป็นความหวังซึ่งอาจสวนทางกับความเป็นจริง แต่เพื่อสร้างแรง
จูงใจ เติมพลังให้ตนเอง ยามหัวใจอ่อนล้า เพื่อทรงกายหยัดยืนได้

เจ้าเป็นลูกของพ่อ พ่อต้องรับผิดชอบ พ่อมีหน้าที่เลี้ยงดูแล พ่อต้อง
ปกป้องคุ้มครอง เจ้าหายไปด้วยสาเหตุใดก็ตาม พ่อต้องตามหาเจ้า
ให้พบให้จงได้ แม้จะเหลือเพียงร่างไร้วิญญาณ การหายไปเพราะถูก
ลักพา ถูกฆ่ายำย่างแกง  พ่อจะไม่ลดละ สักวันหนึ่ง เราคงได้พบกัน

วันนี้ ผมจ้างวานคนที่รู้จักคุ้นเคยกับเจ้าโชคดี เขาเต็มใจช่วยตามหา
ผมไปให้น้ำลำไยมะม่วง ปล่อยละทิ้งหลายวัน ปกติผมทำเองทั้งสิ้น
ครั้งนี้จ้างแรงงานช่วยแทน บอกตามตรง แรงกายแรงใจหมดสิ้นแล้ว

***ที่ผมเล่ามีจุดมุ่งหมายสื่อแทนผู้รักและเลี้ยงสัตว์ เพื่อให้ทุกท่าน
ได้ทราบและเข้าใจความรู้สึก อาจเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับบางท่าน
แต่พวกเราที่สูญเสีย มันเจ็บปวดรวดร้าวยิ่งกว่าบรรยาย ฝังลึกในใจ
ตราบนานแสนนาน และเรียนว่า ผมมิได้อวดดีอวดเด่นแต่ประการใด
กราบขอบพระคุณที่สนใจ ให้กำลังใจ และขอจบลงเพียงเท่านี้ครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 02 กุมภาพันธ์ 2014, 15:33:56 โดย รพีกาญจน์ » IP : บันทึกการเข้า

ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
รพีกาญจน์
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,509



« ตอบ #72 เมื่อ: วันที่ 02 กุมภาพันธ์ 2014, 13:27:23 »


หลานไปขอ เพื่อนมา ให้ตาเลี้ยง
ก่อนหลานลา ไปเวียง เรียน..เชียงใหม่
เรียก..ลัคกี้ ใช่เบื่อ ซนเหลือใจ
มีชื่อไทย..นำโชค พกความรวย

ใช้เท้าเคาะ เกาะกวน ชวนให้เล่น
พอมันเห็น บอลคาบ วิ่งฉาบฉวย
ชอบนอนหงาย ยกขา พางงงวย
ธุระใด ไปช่วย อยู่ด้วยดี

ยินเสียงเจ้า เห่าหอน กลางตอนดึก
แปลกพิลึก ทึกทักเจ้า เห่าหอนผี
หอนโหยหวน ชวนสยอง ล่องราตรี
เห่ากับที่ นั่งลุก จุกนั่งลง

ป้องปากปราม ห้ามไป เจ้าไม่เชื่อ
จนแสนเบื่อ เหลือทน บ่นเฉงโฉง
จะได้หลับ จับขัง ในลังกรง
ตื่นเช้างง งึกงัก เมินทักทาย

เจ้าแสนงอน ค้อนเป็น เล่นตัวนี่
หันมาที ซีจ๊ะ อร่อยหลาย
ข้าวคลุกไข่ ใส่เนื้อ เจือมากมาย
นมละลาย น้ำผึ้ง อีกครึ่งปอนด์

พอลืมตา หน้าตะแคง แสร้งหลับต่อ
เข้าหาง้อ จ่อปาก มือสากป้อน
ขอโทษจ้า อย่าแล ทำแง่งอน
หม่ำข้าวก่อน อิ่มหนำ นมน้ำทาน

มือลูบหัว ตัวขา พูดจาเพราะ
เท้าหน้าเคาะ ยอมรับ งับอาหาร
เอาให้หมด ชดเชย เหนื่อยคืนวาน
จะร้องเพลง หวานหวาน ให้ฟังนะ

เจ้าคือเพื่อน สูงค่า ที่ข้ารัก
ถ้าใครลัก เจ้าไป ไล่ฉะดะ
เป็นเรื่องความ ตามกฎ มิลดละ
โมโหจะ ควักยิง ทิ้งเสียเลย

กลอนเก่าเมื่อ มิถุนายน 2011

IP : บันทึกการเข้า

ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
รพีกาญจน์
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,509



« ตอบ #73 เมื่อ: วันที่ 03 กุมภาพันธ์ 2014, 22:51:39 »


กราบขอบพระคุณลุงไพร เพื่อนนักกลอน และเพื่อนผู้อ่านทุกท่านครับ
ผมคิดไปเองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เล่าจนละเอียดเกินไป  อาจไม่ใช่ความจริง
ผมขอยืนยันว่าจริงทุกประการครับ  มีอีกมากไม่สามารถถ่ายทอดได้ทั้งหมด
ครบถ้วน เพราะผมมีความสามารถการใช้คอมพ์อย่างจำกัด(จิ้มพิมพ์ทีละตัว)

วันเสาร์ อาทิตย์ จันทร์ ผมตามหาหาเจ้าโชคดีอย่างไม่ลดละ มีผู้แจ้งข่าว
เกี่ยวกับหมาเให้ทราบโดยตลอด เมื่อออกไปดู ไม่ใช่โชคดีครับ ผมเพิ่งรู้ว่า
ยังคงมีหมาพลัดหลงที่ผู้ใจดีชุบเลี้ยงหลายแห่ง วัดวาอาราม หมู่บ้านห่างไกล
อยู่กับครอบครัวยากจนหาเช้ากินค่ำกระท่อมไม้ไผ่ เขาบอกว่าหมาที่ให้ข้าว
เป็นหมาพลัดหลงทั้งนั้น ผมมอบเงินช่วยค่าอาหาร เขาบอกว่าอยากได้ตัวใด
เลือกเอาไปเลี้ยงเถิด ผมปฏิเสธครับ ไม่อยากเสียใจกับการพลัดพรากอีก

ถ้าแกประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ผมพอทำใจได้ คงเหลือแต่ความอาลัยเท่านั้น
แต่นี่หายไปไม่เห็นตัวตน ผมทำใจได้ยากมากครับ ทั้งห่วงหาอาลัยเป็นที่สุด
หลานของผมชื่อน้องอิม ที่นำแกมากราบขอให้ผมเลี้ยงทราบข่าวการหายไป
ร้องไห้ทั้งคืนจนไม่สบาย ผมต้องรีบไปปลอบใจถึงเชียงใหม่

ผมเป็นข้าราชการเกษียณก่อนกำหนดรุ่นแรกปี 2542 รับบำนาญหักค่าต่างๆ
ณ ที่จ่าย เหลือใช้กับครอบครัววันละ 300 บาท ค่าหมูบดหรือเลือดหมู นม
ขนม หรืออื่นๆสำหรับเจ้าโชคดี ตกวันละ 40 บาท แกอายุ 3 ปี 8 เดือน
คิดเป็นเงินกว่า 5 หมื่นบาท แต่คุณค่าของความรักไม่อาจประมาณได้เลย
ถ้าใครนำไปเลี้ยงดู นับว่าเจ้าโชคดีเช่นชื่อ แต่ถ้าหากจับไปฆ่าย่างแกงล่ะ
แบบนี้จะเข้าข่ายลักทรัพย์ ทำร้ายชีวิตโดยเจตนาไหมครับ
                          สมองของผมว้าวุ่นสิ้นดี!

ผมมีรูปเจ้าโชคดีเก็บในคอมพ์หลายท่า  ถ้าลูกของผมมาหาจะขอลงรูปครับ


IP : บันทึกการเข้า

ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
รพีกาญจน์
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,509



« ตอบ #74 เมื่อ: วันที่ 04 กุมภาพันธ์ 2014, 13:20:08 »


...จุดเทียนท่องหา...

เคยอุ้มร่อนป้อนนมน้ำอาหาร
ป่วยไข้ทานฉีดยารักษาหาย
อาบล้างขัดปัดแปรงแต่งขนกาย
หลับสบายกางมุ้งกันยุงกวน

เช้าคาบเล่นลูกบอลนอนเกลือกกลิ้ง
โลดแล่นวิ่งนำหน้าคราไปสวน
คาบสายยางวางไว้ให้น้ำพรวน
ล้มลงม้วนกับหญ้าท่าตะแคง

เรียกเข้าใกล้ไล่ทีบี้หน้ามุ่ย
แกว่งหางปุยหัวเอียงเลี่ยงเสแสร้ง
ทำเวียนวนคนเคล้าเร่าประแจง
ดุด่าแรงเหลี่ยมจัดสะบัดงอน

หมอบเหยียดขาตาพับลับข้างเสา
ยินเสียงแปลกแกรกเบาครางเห่าหอน
ค่ำกลางคืนยืนเฝ้ายามเข้านอน
ยกเท้าอ้อนขอนมขนมกิน

มโนภาพพร่างามท่ามเปลวแสง
เทียนวาบแดงมอดไหม้ไขหมดสิ้น
เหลือควันลอยพลอยพร่ำน้ำตาริน
ไร้ยลยินหูตาอื้อฝ้าฟาง

สองมือจบนบลงองค์ศักดิ์สิทธิ์
ขอบูชิตบาทเบื้องเทพบนล่าง
ดลได้พบได้อยู่จนวายวาง
เทียนเป็นทางให้เลือกเฮือกสุดท้าย


สุนัขของผมที่หาย ชื่อตามทะเบียนประวัติปศุสัตว์ " โชคดี รพีกาญจน์ " ครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 04 กุมภาพันธ์ 2014, 16:45:46 โดย รพีกาญจน์ » IP : บันทึกการเข้า

ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
รพีกาญจน์
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,509



« ตอบ #75 เมื่อ: วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2014, 22:22:55 »


สิบห้าวันแล้วหนอพ่อตามหา
จนน้ำตาสีเลือดแห้งเหือดหาย
มิทราบข่าวคราวเข็ญเป็นหรือตาย
เจ้าสบายทนทุกข์สุขหรือไร

คงร่อนเร่พเนจรนอนตามป่า
ยินเสียงผาดหวาดผวาหมาน้อยใหญ่
สะดุ้งนกหกเหินกลางเนินไพร
สะดุ้งไก่กระชั้นขันสำนวน

เช้าตรู่ตื่นขึ้นถนนผู้คนเยอะ
อาจจะเจอะเหตุโหดรถแล่นสวน
คนใจร้ายหมายจ้องคล้องโซ่ตรวน
ถูกดาบทวนแล่เนื้อพริกเกลือทา

หากเทพดลพ้นเคราะห์เพราะบุญเก่า
หนุนนำเจ้าพ้นบาปที่หยาบหนา
มีมนุษย์สุดเยี่ยมเปี่ยมเมตตา
ช่วยนำพาให้อยู่เลี้ยงดูแล

โปรดอย่ารัดมัดคอติดตอไม้
อย่าจับใส่กรงกรวยฟาดด้วยแส้
อย่ากุมขังลังมิดปิดกุญแจ
โปรดเห็นแก่สี่ขาตาดำดำ

เตรียมข้าวปลาอาหารจานส้มผล
ยอเบื้องบนเหนือเกล้าคุกเข่าพร่ำ
สงบนิ่งวิงวอนพรจงนำ
พรุ่งเช้าค่ำขอพระปะ"โชคดี"

รพีกาญจน์

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2014, 17:16:29 โดย รพีกาญจน์ » IP : บันทึกการเข้า

ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
รพีกาญจน์
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,509



« ตอบ #76 เมื่อ: วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2014, 17:15:41 »


หัวถึงหมอนนอนนบสลบไสล
น้อมนมัสรัตน์ตรัยใส่เกศี
ผ่องผุดผลิภิรมย์สมฤดี
ทอดกายีสักครู่สู่ภวังค์

ไร้รู้สึกนึกคิดจิตว่างเปล่า
หายใจเข้าครอกกรนวนออกหลัง
หว่างสะดุดหยุดแผ่วแว่วเบาดัง
มีบางครั้งเฮือกนานสะท้านกาย

คงความเฉื่อยเหนื่อยอ่อนแรมรอนร้าง
เดินท่องทางจดค่ำย่ำทุกสาย
ถึงสลดหดหู่มิรู้คลาย
ยากละลายความหวังลงพังภิน

จะกี่กาลผ่านไปค่อนใกล้แจ้ง
บังเกิดแสงเรืองรองส่องกสิณ
ครอบคลุมแดนแผ่นฟ้าทั่วธานิน
เห็นองค์อินทร์สักกะบูรพา

ยินดนตรีปี่ประโคมโสมนัส
ดังวิวัชบานบวงสรวงเวหา
เสียงระเรื่อยเจื้อยแจ้วไก่แก้วลา
พอม่านเถิกเบิกจ้าฟ้าอำไพ

ก้มสาธุศุภนิรมิต
กำหนดทิศชี้ทางสว่างไสว
คงพ้นเศร้าเจ้าโชคดีมีสุขไชย
เป็นแรงเพิ่มเติมไขให้เกินร้อย

พกความหวังเต็มเปี่ยม ควบมอเตอร์ไซด์ยามาฮ่า เบลล์อาร์ สีแดง รุ่นสามสิบปีที่แล้ว ซึ่งเจ้าโชคดีจำเสียงได้ดี
กำหนดทิศตะวันออก เอาดวงตะวันเป็นที่ตั้ง ค่อยแล่นอย่างเชื่องช้า กวาดสายตาไปทั่วทั้งซ้ายขวา ผ่านชุมชน
วัด โรงเรียน ตลาด ทุ่งนา ป่ารก สวนลำไย สวนมะม่วง หยุดแวะถามตามรายทางบ้าง จนดวงตะวันตรงกลางหัว
แวะทานก๋วยเตี๋ยว ออกเดินทางต่อ โดยกำหนดทิศตะวันออกเช่นเดิม จนถึงวัดกู่ห้วยงูลืน(กลืน) หยุดตรงหน้าวัด
เป็นระยะทางห่างจากบ้านสิบห้ากิโลเมตรเศษ ด้วยความท้อแท้และผิดหวัง ผมกดแตรลั่นยาว เร่งรถเสียงดังมาก
หลายที ปิดเครื่อง ทันใดนั้น ยินเสียงแหบเห่า เดินโซซัดโซเซออกมาจากข้างลำเหมือง หัวใจผมแทบหยุดเต้น
เจ้าโชคดีนั่นเอง ผมกอดมันจนนานแสนนาน โทรศัพท์แสดงเวลาสิบห้านาฬิกา ยังคงตื่นเต้นดีใจไม่หายเลยครับ

IP : บันทึกการเข้า

ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
รพีกาญจน์
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,509



« ตอบ #77 เมื่อ: วันที่ 23 มีนาคม 2014, 21:15:43 »


ยกมือป้อง มองฟ้า เพลาเช้า
หายใจเข้า ลงลึก ไร้ฮึกเหิม
คายลมแผ่ว แล้วสุด หยุดต่อเติม
ร่างสั่นเทิ้ม ห่อหด หมดอาลัย

ท่ามอบอวล ควันพิษ คลุมมิดทั่ว
ม่านสลัว กั้นกาง ขวางฟ้าใส
อากาศเย็น เห็นแสง แดงรำไร
เที่ยงร้อนไหม้ อบอ้าว ราวอิงเตา

เมฆสีลาย บ่ายค่ำ เริ่มดำมืด
ค่อยเคลื่อนอืด เข้าคาม ข้ามภูเขา
คลื่นลมหวน ครวญคราง ไกลบางเบา
กระแทกเสา บ้านบัง ดังโครมคราม

ช่อมะม่วง พวงลำไย แกว่งไกวหล่น
เหลือค้างต้น ไม่ถึง หนึ่งในสาม
ต้องโรคร้าย แรงรุก แพร่ลุกลาม
ไร้ผลงาม ต่องแต่ง แกว่งไปมา

แถมภัยแล้ง แห้งขอด ตลอดสาย
น้ำเหือดหาย ขุดเจาะ เสาะสูบหา
ยอบานบน ฝนทิพย์ เทวดา
แต่ก็ช้า นานวัน ไม่ทันการ

เก็บเสื้อผ้า สารพัด ยัดถุงปุ๋ย
พาดบ่าลุย น้ำตาพราก ออกจากบ้าน
ผู้ใจดี มีไหม ให้ทำงาน
แลกอาหาร สักมื้อ ยื้อความตาย

รพีกาญจน์

IP : บันทึกการเข้า

ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
รพีกาญจน์
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,509



« ตอบ #78 เมื่อ: วันที่ 31 มีนาคม 2014, 12:40:46 »


เสียงหวีดหวิว ทิวสน โอนเอนไหว
แข่งไม้ไผ่ โง้มง้ำ ลำลงป้อ
สะบัดกิ่ง ทิ้งใบ ไกลจากกอ
ดูสิช่อ มะม่วง ร่วงโบยบิน

เหลือคงค้าง บ้างนิด ผลิผลิตลูก
ซ้ำร้ายถูก เพลี้ยเกาะ เจาะดูดสิ้น
ผลแค่เขื่อง เหลืองเหี่ยว แห้งลงดิน
ฝันพังภิน ลับหาย ตามสายลม

ละหดหู่ ดูแล ลำไยดอก
สะพรั่งออก เต็มต้น มนสุขสม
พวงดกงาม ตามคาด อาจระทม
พ่อค้าคม เกียมบั่น ฟันราคา

เอาเถิดหนอ ขอให้ ได้ซื้อขาย
จะยอมตาย เลือดอาบ หอกดาบหน้า
จะสิบเบี้ย ร้อยบาท พันเงินตรา
ยังดีกว่า ผ่ายผอม ตรอมอดตาย

ย่างเดือนห้า ห้วยหนอง คลองน้ำลด
มินานหมด ขาดขอด ตลอดสาย
สูบยื้อแย่ง แบ่งวัน ปันวุ่นวาย
ที่เสียหาย ชอกช้ำ คือลำไย

ยกมือป้อง มองนา แทบบ้าคลั่ง
ฝายพนัง พังครืน คราท่วมใหญ่
ยังมิสร้าง ซ่อมแซม แถมใส่ใจ
ปล่อย สัตว์ คน ต้นไม้ ไร้น้ำกิน

เชื่อไหม ฝายกั้นลำน้ำปิงตรงจุดระหว่าง อ.จอมทอง - อ.บ้านโฮ่ง
พังราบเมื่อปี 2553 จนบัดนี้ปี 2557 ยังไม่ได้สร้างทดแทนครับ

รพีกาญจน์

IP : บันทึกการเข้า

ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
รพีกาญจน์
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,509



« ตอบ #79 เมื่อ: วันที่ 22 เมษายน 2014, 09:30:37 »


เดินกระเซอะกระเซิงเถิงสามแยก
ก้นกระแทกลงจมตมเปื้อนร่าง
ท่ามสายฝนสาดซ่าฟ้าครืนคราง
ลุกยืนย่างต่อไปไม่พะวง

ก้าวขวาซ้ายเซซังโยกยั้งหยุด
แซะสะดุดคะมำง้ำงอก่ง
รีบโงหัวตัวฝืนขึ้นตั้งตรง
เสียการทรงแบหงายราบทรายดิน

ขวดกลมกลิ้งลงข้างทางป่าเงียบ
ปลาหมึกเสียบชืดเย็นกระเด็นสิ้น
สติก่อนสุดท้ายหายโบยบิน
แว่วได้ยินเสียงร้องก้องกากา

ความจำเก่าเท่านั้นในวันนี้
นานนับปีรันทดหมดคุณค่า
ความเป็นคนอนาถทาสสุรา
ชี้เทวาด่ายมถุยถ่มตน

รุ่งสางเช้าเมาสร่างสร้างเจ็บปวด
มือคว้าขวดยากหลีกดื่มอีกหน
ย้อมเยียวแย่แผลดำช้ำกมล
คลายทุรนรำพึงคิดถึงนวล

นับสงกรานต์ผ่านไปสองปีแล้ว
ไยน้องแก้วหลงกรุงมิกลับหวน
คืนดาวเกลื่อนเดือนคล้อยลอยลับควน
เหลือซากซวนหมองไหม้ไร้วิญญาณ

รพีกาญจน์

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 22 เมษายน 2014, 09:33:48 โดย รพีกาญจน์ » IP : บันทึกการเข้า

ทุกคนมีเครดิต แต่ทำลายได้ง่าย สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!