เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 25 เมษายน 2024, 08:03:38
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ห้องนั่งเล่น (ผู้ดูแล: แชทซาโนย่า กอยุ่ง~*-., ©®*)
| | |-+  ลืมกั๋นแล้วกา... พระเจ้าของเฮา?
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ลืมกั๋นแล้วกา... พระเจ้าของเฮา?  (อ่าน 528 ครั้ง)
aekka
ความร่าเริงบันเทิงใจเป็นกำไรชีวิต...ถ้าวันใหนหงุดหงิดชีวิตขาดทุน
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 181



« เมื่อ: วันที่ 18 มิถุนายน 2012, 04:24:10 »

พระเจ้าของเฮา

   เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้ไปชำระค่าบริการส่วนกลางประจำเดือนของที่พักอาศัยเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้สังเกตเห็นสร้อยคอของผู้จัดการอาคารที่เป็นเจ้าหน้าที่รับชำระเงิน คิดพิเคราะห์ไปก็คงจะเดาได้ประมาณว่า รูปสองคนหญิงชายที่อยู่ในล๊อคเก๊ตเล็กๆ นั้น คงน่าจะเป็นพ่อกับแม่ของผู้จัดการคนนี้ พอลองยิงคำถามนี้ไป ก็ได้คำตอบกลับมาว่าใช่จริงๆ ด้วย ถ้าเป็นการซื้อหวยคราวนี้ข้าพเจ้าคงจะได้ถูกรางวัลซักที่หนึ่งแน่นอนเลย555
   ทำให้นึกถึงนิสัยหรือประเพณีของคนจีนอย่างหนึ่งขึ้นมาได้ครับคือ ประเพณีการไหว้บรรพบุรุษ  ประเพณีนี้มีมานานตั้งแต่ข้าพเจ้าเกิดมาจำความได้ ข้าพเจ้าก็ได้เห็นประเพณีเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้วครับ เมื่อก่อนข้าพเจ้าไม่เข้าใจว่าจะทำการไหว้บรรพบุรุษเพื่ออะไร ตามประสาละอ่อนคนหนึ่ง แต่พอเวลาผ่านไปสักระยะ ข้าพเจ้าได้คิดก็คิดได้อย่างหนึ่งว่าผลจากการแสดงความเคารพต่อบรรพบุรุษผู้ให้กำเนิดนั้น ส่งผลทำให้ชีวิตของผู้นั้นมีความสุขความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต ดังตัวอย่างที่เห็นนี้ ชาวจีนที่มีแต่เสื่อผืนหมอนใบจากแผ่นดินจีนสู่แผ่นดินไทย ประกอบอาชีพสร้างเนื้อสร้างตัวได้จนมีฐานะร่ำรวยเป็นเจ้าสัวกันเป็นส่วนใหญ่ คงไม่ใช่สาเหตุอันใดที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากความกตัญญูต่อบรรบุรุษที่ว่ามานี้นี่เอง
   จากบทเรียนของการกระทำที่เห็นมา ก็เลยมานึกและมาปรับใช้กับชีวิตของข้าพเจ้าเองก็คงจะดี เพราะอย่างน้อยเราคนไทย ที่มีคำสอนของพุทธศาสนานั้นสอนให้เรามีความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารของเรา ทำให้ได้ทราบอย่างหนึ่งว่า พระเจ้าของเราที่ยังมีชีวิตอยู่และให้เราได้ทำบุญด้วย  ณ ตอนนี้ไม่ใช่ใครอื่นคือพ่อกับแม่ของเรานี่เองครับ
   ที่ต้องพูดอย่างนี้ก็เพราะว่า มีคนจำนวนไม่น้อยที่แสวงหาครูดี แสวงหาอาจารย์ดีๆ หลงทางเสียเวลาก็เพื่อคำตอบที่อยู่ในใจเพียงแค่ว่า ต้องการความสุขประสบความสำเร็จในชีวิตแค่นั้นเอง
   พวกเราลองพิเคราะห์ดูถึงหลักเหตุและผลอีกทีสิครับว่า เพราะการแสดงความเคารพและกตัญญูของคนจีนนั้น ทำให้เขาได้ดิบได้ดีกันอย่างไร
   ข้าพเจ้าคิดว่า เพราะความเคารพนี่แหละครับที่ทำให้คนจีนเขาได้ตระหนักไม่ลืมถึงคำสั่งสอนของบรรพบุรุษอยู่ตลอดเวลา เหมือนดั่งหนังสือเล่มหนึ่งที่ใช้คำว่า “พ่อรวยสอนลูก” ไงละครับ  เพราะว่า ไม่มีความปรารถนาใดที่ออกมาจากปากของพ่อแม่ก็เพียงเพื่อที่จะต้องการสอนสั่งให้ลูกได้ดีได้มีได้พบแต่ความสุขและความเจริญรุ่งเรือง เปรียบเสมือนเข็มทิศชีวิตให้ลูก ที่จะชี้นำหนทางที่สว่างไสวให้แก่ลูกหลานให้ได้ประสบแต่หนทางแห่งความสำเร็จในชีวิต  เมื่อลูกหลานยังเคารพท่านอยู่ คำสอนที่ดีๆ เหล่านั้นก็จะยังอยู่ในใจของเขาเหล่านั้นอยู่เสมอตลอดไป จริงไหมครับ
   ฉะนั้นแล้ว การไหว้บรรพบุรุษก็ถือว่ามีประโยชน์อยู่บ้าง นอกจากจะเป็นการแสดงความเคารพกตัญญูต่อบรรพบุรุษแล้ว อย่างน้อยก็เป็นการรำลึกนึกถึงคำสั่งสอนอันทรงคุณค่าที่มีมอบไว้แด่ลูกหลานด้วย เพื่อเป็นการช่วยย้ำเตือนความทรงจำเกี่ยวกับข้อคิดดีๆ ที่มีในใจกลับมาใช้ได้ในยุคปัจจุบัน
   ดังนั้นแล้ว ใครก็ตามที่โชคดียังมีพระในบ้านอยู่เป็นๆ ให้ดูแล ถ้าอยากประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วละก็  ไม่ต้องไปแสวงหาใครที่ไหนให้เมื่อย  หรือประจบเจ้านายให้เหนื่อย  กลับมาดูแลพระในบ้าน พระเจ้าของเราให้ดีกว่าดีที่สุด แล้วข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าผู้ที่กระทำแบบนี้แล้วชีวิตของผู้นั้นจะประสบความสำเร็จในชีวิตและ จะร่ำรวยเป็นอัศจรรย์อย่างแน่นอนครับ  ส่วนใครที่พระในบ้านได้ละโลกนี้ไปแล้วก็ให้มั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่านอยู่เรื่อยๆ ก็จะดีไม่น้อยตามสูตรของคนจีนก็แล้วกันนะครับ จะได้เป็นเถ้าแก่เจ้าสัวร่ำรวยแบบคนจีนไงละครับ และถ้าวิญญาณของท่านมีอยู่จริงจะได้ช่วยปกปักรักษาดูแลเราด้วยครับ
   มีคนพูดไว้ว่า “ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่ได้ราบเรียบหรือราบรื่นตลอดทาง” แต่คราวนี้มันเป็นการสร้างหนทางที่ราบรื่นให้กับชีวิตเหมือนกับโปรยกลีบกุหลาบบนทางเดินให้กับชีวิตเราเอง ดีมั้ยครับ
   ตัวอย่างพี่สาวของข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าได้เห็นความกตัญญูของพี่สาวคนนี้ที่มีการปฏิบัติต่อพ่อและแม่ ตั้งแต่ยังเรียนอยู่ ได้หุงข้าว ซักผ้า ทำงานบ้านทุกอย่างที่พอจะทำได้เพื่อแบ่งเบาภาระหน้าที่การงานของพ่อแม่ได้ จนกระทั่งเธอเรียนจบได้บรรจุเป็นนางพยาบาลตามที่ตั้งใจ ข้าพเจ้าจำภาพหนึ่งอย่างติดตาและติดอยู่ในใจตลอดเวลานั่นคือ เงินแบงค์พันจำนวนหลายใบที่หยิบยื่นให้กับพ่อแม่ มันเป็นเงินเดือนเดือนแรกที่เธอได้รับแล้วนำมาให้พ่อแม่ทันที ซึ่งคงเพราะบังเอิญข้าพเจ้าไปเห็นภาพต่อหน้าพอดี และผู้เป็นพ่อเป็นคนรับเงินก้อนนั้นไว้กับมือและได้ส่งคืนให้ลูกสาวได้แบ่งไว้ใช้บ้าง ภาพพี่สาวที่ดูเก้อเขินอายบ้างที่ทำท่าทางแล้วยื่นมือรับมา ทั้งๆ ที่เป็นจำนวนเงินของตัวเอง 
ข้าพเจ้ายังจำภาพติดตานั้นไม่ลืมจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปแล้วเกือบยี่สิบปีก็ตาม  ทุกวันนี้พี่สาวของข้าพเจ้าก็มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีพอสมควร และงานก็สบายขึ้น ด้านครอบครัวก็ดีมีความสุขอบอุ่นดีมีสามีเป็นนายแบงค์และลูกสองคนที่น่ารักเชื่อฟังเหมือนแม่ยังไงยังงั้นเลยครับ
          ขอให้เลิกลำบาก เลิกหา เลิกจน ให้รวยๆ กันทุกท่าน ด้วยบารมีของพระเจ้าของเฮาน่ะครับ

เอกภพ


IP : บันทึกการเข้า

ยิ้มเข้าไว้แม้ว่าปัญหาจะมากเพียงใดก็ตาม สู้ต่อไปนะอย่าท้อ... เอกภพ 0880911472
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!