ต้องใจเย็นๆนะครับ อย่าไปเร่งลูกมากนัก จะกลายเป็นกดดันเด็กเกินไป แถมผู้ปกครองก็เครียดตามอีก
ตอบตามความเห็นส่วนตัว + ประสบการณ์นิดหน่อยค่ะ
คือ ตัวเองก็รับสอนพิเศษอยู่ ก่อนหน้านั้นก็เป็นครูมาก่อน
จากที่คุณแม่เล่า น่าจะเด็กไ่ม่ positive กับห้องเรียนใหม่หรือเปล่าคะ ลองแอบถามน้องดูว่ามีเพื่อนมั้ย วิชาอะไรที่หนูชอบ ครูสอนสนุกมั้ย
น้องอยู่ป.1 เพิ่งจบอนุบาลมา ยังปรับตัวไม่ได้ คุณแม่ลองสอนเองก่อนค่ะ เพิ่งเปิดเทอมด้วยคิดว่าแก้ทันนะคะ ผ่านไปสัก 2 เดือนไม่ดีขึ้นค่อยหาที่เรียนก็ได้ค่ะ จะได้ทราบปัญหาน้องค่ะ
ส่วนตัวเองแล้ว เวลาผู้ปกครองมาฝากเรียนพิเศษ (สอนที่บ้าน) จะถามก่อนเลยว่า น้องอ่อนวิชาอะไร ให้สอนอะไร แล้วน้องอยากมามั้ย ถ้าน้องไม่อยากมา ไม่อยากฝืน อยากสอนคนที่ปัญหาและเรียนอ่้อนและพร้อมเรียนมากกว่า สอนเด็กเก่ง ขอสอนแยกกลุ่มค่ะ มั่นใจเกิน ทำเอาเด็กอ่อนเสียความมั่นใจไปเลย
+1 ครับ
คุณแม่ใจเย็นๆครับ คนเรามี 24 ชั่วโมงเท่าๆกัน
ถ้าเป็นไปได้ลองลบเวลาที่ให้กับงานต่างๆออกไปแล้วเหลือเวลามาช่วยสอนลูกดูก่อนนะครับ ถ้าลูกทำได้ดีขึ้นอาจจะให้รางวัลปลอบใจเล็กๆน้อยตามแต่ตกลงกันครับ อยางน้อยก็รอให้ลูกโตอีกนิดดูแลตัวเองได้ดีขึ้นก่อนแล้วค่อยพาไปเรียนพิเศษครับ
ลองทำดูเป็นเบื้องต้นก่อนนะครับก่อนที่จะส่งลูกไปให้คนอื่นครับ ส่วนที่คุณแม่บอกมาว่าคุณครูพูดว่า จะให้กลับไปเรียนชั้นอนุบาลนั้น ผมมองว่าเป็นความโชคร้ายของเด็กทั้งชั้นเลยครับที่เจอครูแบบนี้ คุณครูคนนี้นอกจากจะไม่คิดแก้ปัญหาแล้ว
ยังลืมคิดไปว่าอายุตัวเองมากว่าเด็ก ป.1 ตั้งกี่ปี ประสบการ์ณชีวิตของการเป็นครูมากี่ปี
มันต้องมีซักวีธีที่จะทำให้ลูกของคุณแม่และเด็กๆในห้อง ดีขึ้น เก่งขึ้นซิครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ เพราะวันนี้ผมก็แก้ไขเรื่องเขียนตัวหนังสือไม่ดี เขียนตัวหนังสือไม่สวย ให้ลูกอยู่ครับ ถ้าเราไม่ช่วยแก้ไข ไม่ช่วยดูแล จะไปหวังฝากครูอย่างเดียวไม่ได้หรอกครับ ครูหนึ่งคน/นักเรียน3-40 คนนะครับ