เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 มีนาคม 2024, 03:59:31
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  เรื่องล้านนา ภาษากำเมือง
| | |-+  >>>..วันนี้ในอดีต..เก็บเรื่องเก่ามาเล่าขาน อำลาจอ .. <<<
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 พิมพ์
ผู้เขียน >>>..วันนี้ในอดีต..เก็บเรื่องเก่ามาเล่าขาน อำลาจอ .. <<<  (อ่าน 42408 ครั้ง)
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #80 เมื่อ: วันที่ 15 กันยายน 2012, 05:36:26 »

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๕
ตรงกับ แรม ๑๔  ค่ำ  เดือน ๙ (เดือนสิบเอ็ดเหนือ) ปีมะโรง
...........................................................................
ที่มา

http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_youtube.php?youtube_id=410
...................................
http://guru.sanook.com/history/topic/2769/%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B9%8C_%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%99_%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%AA/
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ. 2378 (ค.ศ. 1835) – ชาลส์ ดาร์วิน เดินทางด้วย เรือบีเกิล ถึงหมู่เกาะกาลาปาโกส อันเป็นสถานที่ที่เขาเริ่มสร้างทฤษฎีวิวัฒนาการ***
 15 กันยายน 2378 ชาลส์ ดาร์วิน (Charles Darwin) นักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษ เดินทางด้วยเรือบีเกิล (HMS Beagle) ถึงหมู่เกาะกาลาปาโกส สถานที่ที่เขาเริ่มเก็บข้อมูลโดยใช้เวลาเพียง 5 สัปดาห์ แต่ได้ช่วยย้ำ "ทฤษฎีวิวัฒนาการ" โดยเขาได้เขียนอธิบายทฤษฎีนี้ไว้ในหนังสือสุดคลาสสิคชื่อ "the Origin of Sprcies" (พ.ศ. 2402) ว่าด้วยการกำเนิดของสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ โดยการเลือกสรรของธรรมชาติ ไม่ใช่เกิดจากการสร้างสรรค์ของพระเจ้าอย่างที่คนส่วนใหญ่ในยุคนั้นเชื่อมั่น ซึ่งถือเป็นการท้าทายคริสตจักรเป็นอย่างมาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 15 กันยายน 2012, 05:40:02 โดย Siranoi » IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #81 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2012, 06:08:28 »

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๕๕
ตรงกับ ขึ้น ๓  ค่ำ  เดือน ๑๐ (เดือนสิบสองเหนือ) ปีมะโรง
...........................................................................
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ. 2439 (ค.ศ. 1896) - พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนากรมป่าไม้ โดยให้อยู่ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย***
วันคล้ายวันสถาปนากรมป่าไม้
 
วันที่ 18 กันยายน ของทุกปี
 

ความเป็นมา
 
        ในสมัยก่อนป่าไม้ของประเทศมีความอุดมสมบูรณ์ประชากรก็มีไม่มากการทำไม้ส่วนใหญ่จะทำกันในป่าภาคเหนือคือถ้าผู้ใดประสงค์จะทำไม้ก็ขออนุญาตจากเจ้าของป่าซึ่งเป็นเจ้าของผู้ครองนครนั้นๆแล้วเข้าทำการตัดฟันไม้ต้นจะเล็กหรือใหญ่ก็ได้ทั้งสิ้นโดยจ่ายเพียงเงินตามจำนวนต้นที่ตัดฟันลงเรียกว่า "ค่าตอ" ไม่มีการบำรุงป่าและการควบคุมทางด้านวิชาการป่าไม้แต่อย่างใดเมื่อมีผู้ทำกิจการป่าไม้มากขึ้นเป็นโอกาสให้เจ้าของป่าขึ้นอัตราค่าตอใหม่รวมทั้งเรียกเงินพิเศษเป็น "ค่าเปิดป่า" ผู้ใดประมูลค่าเปิดป่าสูงผู้นั้นก็จะมีสิทธิ์เข้าทำไม้ในป่านั้นๆซึ่งทำให้เกิดกรณีพิพาทกันอยู่เสมอดังนั้นในปีพ.ศ.2417 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯให้ตราพระราชบัญญัติเกี่ยวกับป่าไม้ 2 ฉบับคือพระราชบัญญัติรักษาเมืองและพระราชโองการว่าด้วยภาษีไม้ขอนสักและไม้กระยาเลยต่อมารัฐบาลได้ขอความช่วยเหลือไปยังรัฐบาลอินเดียของอังกฤษเพื่อขอยืมตัวผู้เชี่ยวชาญด้านป่าไม้ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีโดยเมื่อปีพ.ศ. 2438 ได้ส่งมร.เอชเสลดผู้เคยปฏิบัติงานอยู่ในกรมป่าไม้ของประเทศพม่าเดินทางไปสำรวจกิจกรรมป่าไม้สักของไทยในภาคเหนือแล้วเดินทางกลับกรุงเทพฯเพื่อเสนอรายงานผลการสำรวจป่าไม้ต่อกระทรวงมหาดไทยพร้อมกับได้ชี้ข้อบกพร่องต่างๆในกิจการป่าไม้ของประเทศไทยเมื่อกระทรวงมหาดไทยได้รับรายงานและได้พิจารณาเห็นชอบได้นำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเพื่อขอพระราชทานพระบรมราชวินิฉัยซึ่งได้ทรงพระราชดำริเห็นชอบและพระราชทานพระราชหัตถเลขาที่ 62/385 ลงวันที่ 18 กันยายนร.ศ.115 (พ.ศ.2439) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดตั้งกรมป่าไม้ขึ้นและทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตั้งมร. เอชเสลดเป็นเจ้ากรมป่าไม้คนแรกนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาทางราชการก็ได้ถือเอาวันที่ 18 กันยายนของทุกปีเป็นวันคล้ายวันสถาปนากรมป่าไม้ตลอดมา
 
กิจกรรมในวันคล้ายวันสถาปนากรมป่าไม้
 
        กรมป่าไม้จัดให้มีพิธีสงฆ์และพิธีถวายเครื่องราชสักการะพานพุ่มดอกไม้และธูปเทียนแพพระบรมรูปรัชการที่ 5 ณพระบรมราชานุสาวรีย์และวางพวงมาลาณอนุสาวรีย์
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #82 เมื่อ: วันที่ 22 กันยายน 2012, 08:30:14 »

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๕
ตรงกับ ขึ้น ๗  ค่ำ  เดือน ๑๐ (เดือนสิบสองเหนือ) ปีมะโรง
............................

พ.ศ. 2441 (ค.ศ. 1898)  พระนางซูสีไทเฮากระทำการรัฐประหารยึดอำนาจการปกครอง
จากสมเด็จพระจักรพรรดิกวังซวี่ภายในพระราชวังต้องห้าม
สมเด็จพระจักรพรรดินีเสี้ยวชิงเสี่ยน (จีน: 孝欽顯; พินอิน: Xiào Qing Xiǎn) หรือ สมเด็จพระจักรพรรดินีฉือสี่ พระพันปีหลวง (จีน: 慈禧太后; พินอิน: Cíxǐ Tàihòu; เวด-ไจลส์: Tz'u-Hsi T'ai-hou, ฉือสี่ไท่โฮ่ว; อังกฤษ: Empress Dowager Cixi) หรือที่รู้จักกันในประเทศไทยว่า "พระพันปีหลวงฉือสี่" หรือ"ฉือสี่ไท่โฮ่ว" หรือตามสำเนียงฮกเกี้ยนว่า "ซูสีไทเฮา" (ประสูติ: 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1835; ทิวงคต: 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1908) ทรงเป็นราชนิกุลชาวแมนจูในประวัติศาสตร์จีนสมัยราชวงศ์ชิง โดยเป็นพระราชวงศ์ผู้ปกครองประเทศจีนโดยพฤตินัยถึงสี่สิบเจ็ดปี กับอีกสี่วัน พระพันปีหลวงฉือสี่ เมื่อยังทรงพระเยาว์ ทรงได้รับเลือกเป็นพระสนมใน สมเด็จพระจักรพรรดิเสียนเฟิง และทรงไต่ชั้นอันดับต่าง ๆ ท่ามกลางเหล่าบาทบริจาริกาจำนวนมหาศาล ก่อนจะมีพระประสูติกาลพระราชโอรส ผู้ซึ่งต่อมาเสวยราชย์เป็น สมเด็จพระจักรพรรดิถงจื่อ เมื่อสมเด็จพระจักรพรรดิเสียนเฟิงเสด็จนฤพาน พระนางทรงก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ที่สมเด็จพระจักรพรรดิเสียนเฟิงทรงตั้งไว้ และพร้อมด้วย พระพันปีหลวงฉืออันทั้งสองพระองค์ก็ทรงเถลิงพระราชอำนาจเป็นผู้สำเร็จราชการแทนสมเด็จพระจักรพรรดิถงจื่อ ก่อนพระพันปีหลวงฉือสี่จะทรงรวบอำนาจการปกครองไว้ที่พระนางเอง และสถาปนาความครอบงำเหนือราชวงศ์ชนิดเกือบเบ็ดเสร็จ ครั้นเมื่อพระราชโอรสสิ้นพระชนม์ลง พระนางก็ทรงตั้งพระราชนัดดาไว้บนพระราชบัลลังก์ เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิกวังซวี่ รัชกาลถัดมา ขณะที่พระนางยังทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์อยู่ต่อไป ด้วยพระราชหฤทัยอนุรักษนิยม พระพันปีหลวงฉือสี่ทรงปฏิเสธแนวคิดการปฏิรูปบ้านเมืองตามสมัยที่สมเด็จพระจักรพรรดิกวังซวี่ทรงนำเสนอ และมีพระราชเสาวนีย์ให้ขังสมเด็จพระจักรพรรดิผู้ทรงพระเยาว์ไว้ยังพระที่นั่งกลางสระน้ำ อย่างไรก็ดี ในระยะหลัง พระพันปีหลวงฉือสี่ทรงเล็งเห็นความจำเป็นในการปรับปรุงประเทศเป็นขนานใหญ่ พระนางมีพระราชบัญชาเปลี่ยนแปลงสถาบันการปกครองนานัปการ และส่งเสริมแนวคิดปฏิรูปมากหลาย ทว่า การเปลี่ยนแปลงพระราชหฤทัยครั้งนี้นับว่าช้าไป เนื่องจากเมื่อพระพันปีหลวงฉือสี่เสด็จทิวงคตแล้วไม่นาน ราชวงศ์แมนจูและระบอบราชาธิปไตยในจีนก็ถึงกาลสิ้นสุดลง นักประวัติศาสตร์จากฝ่ายกั๋วหมินตั่งและฝ่ายคอมมิวนิสต์ในจีนซึ่งได้เถลิงอำนาจในประเทศจีนสมัยต่อมานั้น โจมตีพระพันปีหลวงฉือสี่ว่าทรงเป็นทรราชินีและผู้กดขี่ประชาชนที่ต้องรับผิดชอบต่อการล่มสลายของราชวงศ์ชิง ทว่า ในยุคปัจจุบัน นักประวัติศาสตร์รุ่นใหม่ต่างเห็นว่า พระนางทรงเป็นแพะรับบาปในเรื่องที่เกิดนอกเหนือความควบคุมของพระนาง เนื่องจากการจบบทบาทของราชวงศ์ชิงนั้นเกิดขึ้นหลังการสวรรคตแล้ว กับทั้งพระนางทรงเป็นนักปกครองที่หาได้อำมหิตอย่างที่กล่าวขานกันไม่ และยังทรงเป็นนักปฏิรูปที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าการปฏิรูปของพระนางจะสายเกินไปก็ตาม เมื่อเทียบกันแล้ว พระพันปีหลวงฉือสี่ดำรงพระชนม์ชีพตั้งแต่ช่วงกลางรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาเจษฏาบดินทร์ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จนถึงปลายรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ของไทย

 
 

 
 
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #83 เมื่อ: วันที่ 23 กันยายน 2012, 07:17:13 »

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๕๕
ตรงกับ ขึ้น ๘  ค่ำ  เดือน ๑๐ (เดือนสิบสองเหนือ) ปีมะโรง
............................
พ.ศ. 2388 (ค.ศ. 1845) อเล็กซานเดอร์ คาร์ตไรต์
จัดตั้งทีมเบสบอลทีมแรกในชื่อ New York Knickerbockers
เล็กซานเดอร์ คาร์ตไรต์ (Alexander Joy Cartwright, 17 เมษายน พ.ศ. 2363 – 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2435) วิศวกรชาวอเมริกันผู้คิดค้นกีฬาเบสบอล สมาชิกทีมกีฬา "นิวยอร์กนิกเกอร์บ็อกเกอร์" ซึ่งเป็นกีฬาที่ใช้ไม้ตีลูกบอล เดิมเรียก "ทาวน์เกม" ในปี พ.ศ. 2388 คาร์ตไรต์และกรรมการในสโมสรนิวยอร์กนิกเกอร์บ็อกเกอร์ได้ร่างกฏการเล่นขึ้นใหม่ แปลงการเล่นกีฬาในสนามกลางแจ้งนี้ให้ละเอียดอ่อนและให้น่าสนใจสำหรับผู้ใหญ่มากขึ้น ทีมสโมสรนิวยอร์กนิกเกอร์บ็อกเกอร์ได้ทำการแข่งขันโดยใช้กฎใหม่ที่ร่างขึ้นนี้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2389 ผลคือทีมสโมสรนิวยอร์กนิกเกอร์บ็อกเกอร์แพ้ 23-1 ในปี พ.ศ. 2392 คาร์ตไรต์ได้ย้ายจากนิวยอร์กไปทำเหมืองทองคำในแคลิฟอร์เนีย หลังการล้มป่วย คาร์ตไรต์ได้อพยพไปอยู่ฮาวายกลายเป็นพลเมืองฮาวายในเวลาต่อมาและประสบความสำเร็จทางธุรกิจ ที่โฮโนลูลูนี้เองที่คาร์ตไรต์ได้ตั้งสโมสรเบสบอลขึ้นเป็นครั้งแรกโดยรวมทีมเบสบอลต่างๆ ที่เขาสร้างขึ้นทั่วฮาวายเข้าร่วมแข่งขัน สโมสรฮาวายของคาร์ตไรต์กลายเป็นแบบอย่างของสโมสรเบสบอลสมัยใหม่ต่างๆ ที่แพร่หลายเป็นกีฬาเป็นที่นิยมกันมากที่สุดชนิดของสหรัฐฯ ในปัจจุบัน อเล็กซานเดอร์ คาร์ตไรต์ ได้รับการบรรจุชื่อไว้ใน "หอเกียรติยศเบสบอล" เมื่อปี พ.ศ. 2481
.........................

พ.ศ. 2389 (ค.ศ. 1846) นักดาราศาสตร์ประกอบด้วย อูแบง เลอเวรีเย
 
โยฮันน์ กอทท์ฟรีด กัลเลอ และ จอห์น คูช แอดัมส์

มีส่วนร่วมในการค้นพบดาวเนปจูน ดาวเคราะห์ดวงที่ 8
ดาวเนปจูน (อังกฤษ: Neptune) หรือชื่อไทยว่า ดาวสมุทร หรือ ดาวเกตุ คือดาวเคราะห์ในระบบสุริยะลำดับที่ 8 หรือลำดับสุดท้ายที่อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ (ขึ้นอยู่กับการโคจรของดาวพลูโต ซึ่งบางครั้งจะเข้ามาอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่า) ตัวดาวมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่เป็นอันดับที่ 4 รองจากดาวพฤหัส ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และมีมวลเป็นลำดับที่ 3 รองจากดาวพฤหัสและดาวเสาร์ คำว่า "เนปจูน" นั้นตั้งชื่อตามเทพเจ้าแห่งท้องทะเลของโรมัน (กรีก : โปเซดอน) มีสัญลักษณ์เป็น (♆) ดาวเนปจูนมีสีน้ำเงิน เนื่องจากองค์ประกอบหลักของบรรยากาศผิวนอกเป็น ไฮโดรเจน ฮีเลียม และมีเทน บรรยากาศของดาวเนปจูน มีกระแสลมที่รุนแรง (2500 กม/ชม.) อุณหภูมิพื้นผิวอยู่ที่ประมาณ -220℃ (-364 °F) ซึ่งหนาวเย็นมากๆ เนื่องจาก ดาวเนปจูนอยู่ไกลดวงอาทิตย์มาก แต่แกนกลางภายในของดาวเนปจูน ประกอบด้วยหินและก๊าซร้อน อุณหภูมิประมาณ 7,000℃ (12,632 °F) ซึ่งร้อนกว่าพื้นผิวของดวงอาทิตย์เสียอีก ยานวอยเอเจอร์ 2 เป็นยานอวกาศจากโลกเพียงลำเดียวเท่านั้น ที่เคยเดินทางไปถึงดาวเนปจูนเมื่อ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2532 (ค.ศ. 1989) ภาพของดาวเนปจูนซึ่งได้ถ่ายลักษณะของดาวมาแสดงให้เราเห็นจุดดำใหญ่ (คล้ายจุดแดงใหญ่ ของดาวพฤหัส) อยู่ค่อนมาทางซีกใต้ของดาว มีวงแหวนบางๆสีเข้มอยู่โดยรอบ (วงแหวนของดาวเนปจูน ค้นพบก่อนหน้านั้น โดย เอ็ดเวิร์ด กิแนน (Edward Guinan) ดาวเนปจูนมีดวงจันทร์บริวาร 13 ดวง และดวงใหญ่ที่สุดมีชื่อว่า ไทรทัน ในปี พ.ศ. 2389 Urbain Le Verrier.jpg ( Urbain Le Verrier ) คำนวณว่า ต้องมีดาวเคราะห์ดวงหนึ่งรบกวนการโคจรของดาวยูเรนัส จนเมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2389 โจฮันน์ จี. กาลเล (Johann G. Galle ) นักดาราศาสตร์ชาวเยอรมันแห่งหอดูดาวเบอร์ลิน ได้ค้นพบดาวเนปจูน ในตำแหน่งใกล้เคียงกับผลการคำนวณดังกล่าว
...........................

 พ.ศ. 2535 (ค.ศ. 1992) สะพานพระราม 7 เปิดการจราจร
สะพานพระราม 7 (อังกฤษ: Rama VII Bridge) เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อมระหว่างตำบลบางกรวย อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี กับแขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร สะพานพระราม 7 เป็นสะพานแบบคอนกรีตอัดแรงชนิดต่อเนื่อง มีจำนวนช่องทางรถวิ่ง 6 ช่องทางจราจร ความกว้างของสะพาน 29.10 เมตร และมีความยาว 934 เมตร สร้างเสร็จและเปิดการจราจรเมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2535 โดยเปิดใช้เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแทนสะพานพระราม 6 ปัจจุบันสะพานแห่งนี้อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท


 



 



 
 
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #84 เมื่อ: วันที่ 24 กันยายน 2012, 12:48:53 »

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๕
ตรงกับ ขึ้น ๙  ค่ำ  เดือน ๑๐ (เดือนสิบสองเหนือ) ปีมะโรง
............................
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ. 2516 (ค.ศ. 1973) - วันมหิดล (วันที่ระลึกคล้ายวันสวรรคต สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก)***
เมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2494 ได้มีประกาศอย่างเป็นทางการ ให้วันที่ 24 กันยายน เป็น "วันมหิดล" อันเป็น วันคล้ายวันทิวงคต ของ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก (กรมหลวงสงขลานครินทร์) พระผู้ได้รับการถวายพระสมัญญาภิไธยจากแพทย์และประชาชนทั่วไปว่า"พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย" เพื่อเป็นการถวายสักการะ และแสดงกตัญญูกตเวทีต่อพระองค์

     ตลอดระยะเวลา 12 ปีนั้น ทรงอุทิศพระองค์ในแก่วงการแพทย์ และการสาธารณสุขของประเทศไทยอย่างล้นเหลือ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจต่างๆอันได้แก่ ทรงพระราชทานทุนการศึกษาส่วนพระองค์ "ทุนวิทยาศาสตร์แห่งแพทย์" เพื่อให้บุคคลไปศึกษาวิชาต่างประเทศ  อีกทั้งยังทรงพระราชทานทุนเพื่อค้นคว้า และการสอนในโรงพยาบาลศิราราช อันเป็นทุนแรกของทุนประเภทนี้ในประเทศไทย และเพื่อปรับปรุงการศึกษาแพทย์และพยาบาลให้ได้มาตรฐานสากล จึงทรงเป็นผู้แทนของรัฐบาลทำการติดต่อมูลนิธิร๊อกกี้เฟลเลอร์ให้ทำการช่วยเหลือการแพทย์และพยาบาลของไทย ซึ่งทางมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ก็ได้ให้ความช่วยเหลือโดยการส่งอาจารย์แพทย์ มามาถึง 6 ท่านรวมทั้งทรงพระราชทานทุนทรัพย์รวมทั้งที่ดินและอาคารส่วนพระองค์ เพื่อขยายกิจการของโรงพยาบาลศิริราช เพื่อใช้เป็นสถานที่เรียน หอผู้ป่วย และหอพักนักศึกษาแพทย์และพยาบาล รวมทั้งทรงปรับปรุงวชิรพยาบาลเมื่อทรงเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการวชิรพยาบาล ทรงริเริ่มโครงการเพื่อปรับปรุงโรงพยาบาลแห่งนี้ ให้มีความเจริญมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังทรงพระราชทานเงินให้กับโรงพยาบาลแมคคอมิค สำหรับจ้างแพทย์ชาวต่างประเทศ รพ.แมคคอร์มิค และรพ.สงขลา




* 109526.jpg (66.39 KB, 419x241 - ดู 436 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Kontae_ki
อนาคต..เราสร้างเองได้
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 399


ลูกชาวนา 100%


« ตอบ #85 เมื่อ: วันที่ 24 กันยายน 2012, 16:41:27 »



ข้อมูลแน่นปึ๊ก
IP : บันทึกการเข้า

Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #86 เมื่อ: วันที่ 07 ตุลาคม 2012, 09:28:19 »

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๕
ตรงกับ แรม ๗  ค่ำ  เดือน ๑๐ (เดือนสิบสองเหนือ) ปีมะโรง
...........................
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ. 2433 (ค.ศ. 1890) - พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติพระธรรมนูญหน้าที่ราชการในกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ ถือเอาวันนี้เป็นวันสถาปนากรมสารบาญชี (เปลี่ยนชื่อเป็นกรมบัญชีกลางเมื่อ พ.ศ. 2458)***
ประวัติกรมบัญชีกลาง

          ใน พ.ศ. ๒๔๑๖ (จ.ศ.๑๒๓๕) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงตราพระราชบัญญัติ สำหรับหอรัษฎากรพิพัฒนกำหนดให้มีเจ้าพนักงานบาญชีกลาง เพื่อทำหน้าที่จัดบัญชีอากรทั้งปวงบรรดาที่ขึ้นอยู่ ในหอรัษฎากรพิพัฒนให้เป็นหลักฐาน จะได้ทราบฐานะการเงินของแผ่นดินได้แน่นอน โดยตั้งอยู่ในหอรัษฎาพิพัฒนในพระบรมมหาราชวัง ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๑๘ (จ.ศ.๑๒๓๗) ได้ทรงตราพระราชบัญญัติกรมพระคลังมหาสมบัติว่าด้วยกรมต่าง ๆ ซึ่งจะเบิกเงินส่งเงิน เหตุผลในการตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้นมีว่า การภาษีอากรซึ่งเป็นเงินขึ้นสำหรับแผ่นดินได้จับจ่ายราชการ ทนุบำรุงบ้านเมือง และใช้จ่ายเป็นเบี้ยหวัดเงินเดือนข้าราชการฝ่ายทหารและพลเรือนนั้น พระคลังมหาสมบัติยังไม่มีอย่างธรรมเนียมรับธรรมเนียมจ่ายเงินให้เรียบร้อย เงินจึงได้ติดค้างเจ้าภาษีนายอากรเป็นอันมาก ไม่พอจับจ่ายใช้ราชการทนุบำรุงบ้านเมืองให้ราษฎรอยู่เย็นเป็นสุขยิ่งขึ้นได้ จึงทรงพระราชดำริปรึกษาพร้อมด้วยท่านเสนาบดีและเคาน์ซิลลอร์ออฟสเตดตั้งเป็นพระราชบัญญัตินี้ขึ้น หลักการของพระราชบัญญัตินี้คือ การจัดระเบียบราชการในกรมพระคลังมหาสมบัติให้มีอธิบดีเป็นประธาน และรองอธิบดีช่วยราชการท่านผู้เป็นอธิบดี มีเจ้าพนักงานใหญ่ ๕ นาย คือ ปลัดอธิบดี-นาย ๑ เจ้าพนักงานบาญชีกลางนาย ๑ เจ้าพนักงานบาญชีรับเงินนาย ๑ เจ้าพนักงานบาญชีจ่ายนาย ๑ เจ้าพนักงานเก็บเงินนาย ๑ กับให้มีเจ้าพนักงานเป็นรองเจ้าพนักงานใหญ่อีกนานยละ ๑ คน พร้อมทั้งกำหนดอำนาจหน้าที่ของบรรดาเจ้าพนักงานขึ้นไว้โดยชัดแจ้ง นอกจากนั้นยังกำหนดให้มีออดิตอเยเนอราล เป็นเจ้าพนักงานสำหรับตรวจบาญชีและสิ่งของซึ่งเป็นรายขึ้นในแผ่นดินทุก ๆ ราย และจัดวางระเบียบปฏิบัติต่างๆ เพื่อใช้ในกรมพระคลังมหาสมบัติ (กรมพระคลังมหาสมบัติ คือ กระทรวงการคลังในปัจจุบัน)

          อย่างไรก็ดี การดำเนินงานของกรมพระคลังมหาสมบัติที่ตั้งขึ้นใหม่ ยังมีอุปสรรคและยังไม่เหมาะสม เนื่องจากกิจการบ้านเมืองเจริญก้าวหน้ามากขึ้นและกรมพระคลังมหาสมบัติได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นกระทรวงแล้ว ดังนั้นในปี ๒๔๓๓ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติพระธรรมนูญหน้าที่ราชการในกระทรวงพระคลังมหาสมบัติขึ้นเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ร.ศ.๑๐๙ (พ.ศ.๒๔๓๓) กำหนดให้กระทรวงพระคลังมหาสมบัติมีหน้าที่สำหรับรับ สำหรับจ่ายและรักษาเงินแผ่นดินทั้งสรรพราชสมบัติพัสดุทั้งปวงกับถือบาญชีพระราชทรัพย์สำหรับในกระทรวงสิทธิขาด นับเป็นกรมเจ้ากระทรวงและกรมขึ้น รวมเป็นกรมใหญ่ ๑๓ กรม ดังนี้

         กรมเจ้ากระทรวง ๕ กรม คือ

๑. กรมพระคลังกลาง สำหรับประมาณการรับจ่ายเงินแผ่นดินว่าภาษีอากร และบังคับบัญชาราชการในกระทรวงพระคลังมหาสมบัติทั้งสิ้น
๒. กรมสารบาญชี สำหรับจ่ายเงินแผ่นดิน และถือสารบาญชีพระราชทรัพย์ทั้งสิ้น
๓. กรมตรวจ สำหรับตรวจบาญชี ตรวจราคา ตรวจรายงานการรับจ่ายเงินแผ่นดิน และสรรพราชสมบัติการภาษีอากรทั้งสิ้น
๔. กรมเก็บ สำหรับรักษาพระราชทรัพย์ทั้งสิ้น
๕. กรมพระคลังข้างที่ สำหรับจัดการเงินในพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสิ้น ๘ กรม แบ่งเป็น ๒ แผนก คือ

แผนกหนึ่ง กรมทำการแผ่นดิน มี ๓ กรม คือ
๑. กรมกระสาปนสิทธิการ สำหรับทำเงินตรา
๒. กรมงานพิมพ์บัตร สำหรับทำเงินกระดาษและตั๋วตรา
๓. กรมราชพัสดุ สำหรับจัดการซื้อจ่ายของห้องหลวงและรับจ่ายของส่วย

อีกแผนกหนึ่ง กรมเจ้าจำนวน เก็บเงินภาษีอากร มี ๕ กรม คือ
๑. กรมส่วย สำหรับเร่งเงินค่าราชการตัวเลขและค่าธรรมเนียม
๒. กรมสรรพากร สำหรับเก็บเงินอากรต่าง ๆ
๓. กรมสรรพภาษี สำหรับเก็บเงินภาษีต่าง ๆ
๔. กรมอากรที่ดิน สำหรับเก็บเงินอากรค่าที่ต่าง ๆ
๕. กรมศุลกากร สำหรับเก็บเงินภาษีขาเข้าขาออก

      ซึ่งโดยผลแห่งพระราชบัญญัติพระธรรมนูญฉบับดังกล่าว กรมสารบาญชี หรือกรมบัญชีกลางในปัจจุบัน จึงได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ร.ศ.๑๐๙ (พ.ศ.๒๔๓๓) โดยมีสถานที่ทำการ ณ ตึกหอ-รัษฏากรพิพัฒน ภายในบริเวณพระบรมมหาราชวัง ในพระราชบัญญัติฉบับนี้ได้กำหนดอำนาจหน้ที่กรมต่างๆ ซึ่งขึ้นอยู่ในกระทรวงพระคลังมหาสมบัติทั้ง ๑๓ กรม ไว้โดยละเอียด สำหรับกรมสารบาญชีนั้น พระราช-บัญญัติฉบับนี้ได้กำหนดอำนาจหน้าที่และแบ่งส่วนราชการ ดังนี้

      "กรมสารบาญชี มีหน้าที่รับจ่ายเงินตามรายประมาณ และทำบาญชีรักษาพระราชทรัพย์แลสารบาญชีหน้าหลวงใบนำเบิกทั้งสิ้น มีอธิบดีรับผิดชอบในกรมสารบาญชีทั่วไป ๑ รองอธิบดีสำหรับช่วยการในอธิบดี ๑ มีนายเวร ๔ คือ
๑. เวรรับ สำหรับรับเงิน ฤาราชสมบัติทั้งปวง และทำบาญชีรายรับ
๒. เวรจ่าย สำหรับจ่ายเงิน ฤาราชสมบัติทั้งปวง และทำบาญชีรายจ่าย
๓. เวรแบงค์ สำหรับทำบาญชีเงินรับจ่ายในนานาประเทศ แลเป็นธุระการแลกเปลี่ยน หรือเงินฝากแบงค์
๔. เวรบาญชี สำหรับรักษาบาญชีพระราชทรัพย์ บาญชีรายงบประมาณบาญชีหนี้หลวง แลใบเบิก ใบนำใบเสร็จ ตั้งเร่งหนี้หลวง มีเจ้าพนักงานผู้ช่วย เสมียนเอก เสมียนโท เสมียนสามัญ พรอสมควรแก่ราชการ"

      และได้โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ พระยานรนารถภักดีศรีรัษฏากร (เอม ณ มหาชัย) เป็นอธิบดีกรมสารบาญชีคนแรก และโปรดเกล้าฯ ให้ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าพร้อมพงศ์อธิราช เป็นรองอธิบดี กับทรงแต่งตั้งให้มิสเตอร์ แอล.เอ็ม.เอ็ม.ครอส (Mr.L.M.M.Cross) เป็นผู้ช่วยอธิบดีที่ปรึกษากับการบัญชีทั้งปวง และในปี พ.ศ.๒๔๓๓ นั้นเอง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติกรมสารบาญขึ้นเมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม ร.ศ.๑๐๙ (พ.ศ.๒๔๓๓) กำหนดหน้าที่ และแบ่งส่วนราชการกรมสารบาญชีออกเป็น ๓ กอง คือ กองบาญชีกลาง กองรับและกองจ่ายกับนายเวร ๔ คือ เวรรับ เวรจ่าย เวรเกณฑ์ (เดิมเรียกว่า เวรแบงค์) และเวรบาญชี

      ครั้นมาในปี พ.ศ.๒๔๕๘ ซึ่งอยู่ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกี่ยวกับกรมสารบาญชี ดังนี้คือ ในเวลานั้นเงินรายได้รายจ่ายของแผ่นดินมีจำนวนมากขึ้นเป็นลำดับ จำเป็นจะต้องตรวจตราการรับจ่ายและเงินรักษาเงินให้รัดกุมยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน โดยจัดให้มีเจ้าหน้าที่เฉพาะสำหรับปฏิบัติการไม่ก้าวก่ายกันดังที่เป็นอยู่แล้ว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งกรมตรวจเงินแผ่นดินขึ้นในกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ สำหรับทำหน้าที่ตรวจหน่วยราชการที่รับหรือเบิกจ่าย หรือรักษาเงินแผ่นดิน และเงินอื่น ๆ ที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบ และเพื่อมิให้หน้าที่ของกรมที่ตั้งขึ้นใหม่ปะปนกับหน้าที่ของกรมเดิม จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้รวมกรมตรวจกับกรมสารบาญชี ตามพระราชบัญญัติพระธรรมนูญหน้าที่ราชการในกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ ร.ศ.๑๐๙ (พ.ศ.๒๔๓๓) เปลี่ยนชื่อเป็น "กรมบาญชีกลาง" เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๔๕๘ อันถือเป็นวันที่ได้มีการสถาปนากรมบัญชีกลางขึ้นเป็นครั้งแรก



 

IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #87 เมื่อ: วันที่ 12 ตุลาคม 2012, 08:05:51 »

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๕
ตรงกับ แรม ๑๒  ค่ำ  เดือน ๑๐ (เดือนสิบสองเหนือ) ปีมะโรง
..................................
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ. 2435 (ค.ศ. 1892) - วันเปิดเรียนของ โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งในบริเวณโรงเลี้ยงเด็ก ถนนบำรุงเมือง กรุงเทพฯ ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ***
 12 ตุลาคม พ.ศ. 2435 วันเปิดทำการสอนของโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้า ฯ ให้จัดตั้งในบริเวณโรงเลี้ยงเด็ก ตึกสายสวลีสัณฐาคาร วัตถุประสงค์เพื่อที่จะให้กุลบุตรกุลธิดา ได้รับความรู้มีการศึกษา โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ได้พัฒนาโดยลำดับ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น วิทยาลัยครูพระนคร ในวันที่ 6 มีนาคม 2535 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามให้วิทยาลัยครูพระนครใหม่ว่า สถาบันราชภัฏ ในปี 2535 เป็นวาระครบรอบ 100 ปี ของการจัดตั้งสถาบัน


* 340012oct06.jpg (15.04 KB, 320x194 - ดู 347 ครั้ง.)

* 340012oct07.jpg (12.44 KB, 320x241 - ดู 335 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #88 เมื่อ: วันที่ 13 ตุลาคม 2012, 06:02:42 »

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๕
ตรงกับ แรม ๑๓  ค่ำ  เดือน ๑๐ (เดือนสิบสองเหนือ) ปีมะโรง
..................................
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ. 2494 (ค.ศ. 1951) - ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งแรกในไทย เปิดดำเนินกิจการ ที่ถนนพระราม 4 ***
ซูเปอร์มาร์เก็ต (อังกฤษ: Supermarket) หรือ ร้านสรรพาหาร (มาจาก สรรพ + อาหาร) ในภาษาไทย คือร้านค้าแบบบริการตนเองอันเป็นรูปแบบหนึ่งของร้านขายของชำ ซึ่งเสนอขายสินค้าอาหารและของใช้ในครัวเรือนหลายประเภทโดยจัดจำแนกไว้ตามแผนก ซูเปอร์มาร์เก็ตมีขนาดใหญ่กว่าและมีสินค้าให้เลือกซื้อหลากหลายมากกว่าร้านขายของชำแบบดั้งเดิม และยังจำหน่ายสินค้าที่พบได้ปกติในร้านสะดวกซื้อ แต่ก็ยังเล็กกว่าและมีสินค้าจำกัดประเภทกว่าไฮเปอร์มาร์เก็ตหรือซูเปอร์สโตร์
 
ซูเปอร์มาร์เก็ตโดยทั่วไปประกอบด้วยแผนกเนื้อสัตว์ พืชผักผลไม้ ผลิตภัณฑ์นม และขนมปัง พร้อมกับพื้นที่บนชั้นซึ่งสงวนไว้สำหรับสินค้าบรรจุกระป๋องและสินค้าหีบห่อ เช่นเดียวกับรายการต่าง ๆ ที่ไม่ใช่อาหาร เช่นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เภสัชกรรม และสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ซุปเปอร์มาร์เก็ตส่วนใหญ่ก็จำหน่ายผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนอื่น ๆ ที่มีการบริโภคอย่างสม่ำเสมอ เช่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ที่ได้รับอนุญาต) อุปกรณ์การแพทย์ และเสื้อผ้า และบางร้านก็จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหารโดยกว้างขวางมากกว่าอาหาร
 
ซูเปอร์มาร์เก็ตในแถบชานเมืองแบบเดิมตั้งอยู่บนพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ซึ่งโดยปกติจะมีชั้นเดียว มักตั้งอยู่ใกล้เขตที่อยู่อาศัยเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภค ความดึงดูดใจพื้นฐานของซูเปอร์มาร์เก็ตคือ ความพร้อมของสินค้าอย่างกว้าง ๆ ที่มีให้เลือกซื้อภายใต้หลังคาเดียวในราคาที่ค่อนข้างต่ำ ข้อได้เปรียบอื่น ๆ อาทิความสะดวกในการจอดรถ และความสะดวกในเรื่องเวลาของการจับจ่ายใช้สอย ที่บ่อยครั้งขยายเวลาไปจนค่ำหรือแม้แต่ยี่สิบสี่ชั่วโมงต่อวัน ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่มักมีการจัดสรรงบประมาณจำนวนมากเพื่อการโฆษณา ซึ่งโดยทั่วไปผ่านหนังสือพิมพ์ นอกจากนี้ก็ยังมีการนำเสนออธิบายรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ในร้านค้า ซูเปอร์มาร์เก็ตมักจะเป็นส่วนหนึ่งของร้านค้าสาขาในบรรษัทที่เป็นของตนเอง หรือควบคุมซูเปอร์มาร์เก็ตอื่นที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง (บางครั้งโดยแฟรนไชส์) หรือแม้แต่ควบคุมข้ามประเทศ ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการประหยัดต่อขนาด
 
การจัดหาสินค้าเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตมักจัดการโดยศูนย์กระจายสินค้าของบรรษัทแม่ เช่นบริษัทลอบลอว์ในประเทศแคนาดาซึ่งดำเนินธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตหลายพันแห่งทั่วประเทศ ลอบลอว์ดำเนินงานศูนย์กระจายสินค้าในทุกจังหวัด โดยปกติในเมืองที่ใหญ่ที่สุดของจังหวั


* 220px-InsideLoeb.jpg (22.05 KB, 320x240 - ดู 297 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #89 เมื่อ: วันที่ 14 ตุลาคม 2012, 06:10:42 »

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๕
ตรงกับ แรม ๑๔  ค่ำ  เดือน ๑๐ (เดือนสิบสองเหนือ) ปีมะโรง
..................................
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ. 2490 (ค.ศ. 1947) - ชัก เยเกอร์ นักบินทดสอบชาวอเมริกัน เป็นบุคคลแรกที่บินด้วยความเร็วเหนือเสียงผ่านกำแพงเสียง ***
  เพียง 2 วันก่อนขึ้นบินทดลองฝ่ากำแพงเสียง  ร้อยเอก ชัค เยเกอร์  แห่งกองทัพอากาศสหรัฐฯ ก็ประสบอุบัติเหตุจากการขี่ม้าจนกระดูกซี่โครงหัก 2 ซี่  และถูกกระแทกจนเกือบหมดสติ   ตอนเช้าวันที่ 14 ตุลาคม ค.ศ. 1947  ซึ่งเป็นวันรุ่งขึ้นหลังจากวันที่ประสบอุบัติเหตุ  หมอใช้เทปพันรอบตัวเขาเพื่อดามซี่โครงที่หักนั้นไว้ชั่วคราว  แขนขวาของเขาก็ยังปวดจนใช้การไม่ได้  แต่หากเขาปล่อยให้เจ้าหน้าที่กองทัพอากาศรู้เรื่องนี้เข้า  การบินทดลองซึ่งเป็นความลับสุดยอดครั้งนี้จะต้องเลื่อนออกไปทันที


* images.jpg (7.77 KB, 246x320 - ดู 394 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #90 เมื่อ: วันที่ 15 ตุลาคม 2012, 11:38:25 »

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๕
ตรงกับ แรม ๑๕  ค่ำ  เดือน ๑๐ (เดือนสิบสองเหนือ) ปีมะโรง
...........................

***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ. 2534 (ค.ศ. 1991) - ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่จัดประชุมนี้โดยเฉพาะ***
ดูภาพได้ที่...
 http://www.thai-architecture.com/th_pavilion/_queen_th.html

IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #91 เมื่อ: วันที่ 18 ตุลาคม 2012, 06:09:03 »

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๕
ตรงกับ ขึ้น ๓  ค่ำ  เดือน ๑๑ (เดือนเกี๋ยงเหนือ) ปีมะโรง
...........................
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ. 2497 (ค.ศ. 1954) - บริษัท เทกซัสอินสตรูเมนต์ ในสหรัฐอเมริกา เปิดตัววิทยุทรานซิสเตอร์เครื่องแรก***
ประวัติศาสตร์ของโซนี่ถูกเขียนขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สองจบลง…
 
            มาซารุ อิบูกะ เดินทางกลับสู่กรุงโตเกียว ในห้วงเวลาที่ญี่ปุ่นกำลังโศกสลดกับบาดแผลของสงคราม เขาเปิดร้านเล็กๆขึ้นมาเพื่อรับซ่อมวิทยุให้ผู้คนที่กระหายข่าวสาร ต่อมาได้พบกับอากิโอะ โมริตะ สหายผู้ร่วมก่อตั้งโซนี่
 
            หลังการลองผิดลองถูกอยู่นาน เวลาล่วงถึงปี 2493 โซนี่ก็ประดิษฐ์เครื่องบันทึกเทปแถบแม่เหล็กเครื่องแรกของญี่ปุ่น ในนาม G โมเดล เวลาในการบันทึกเสียงคือ 1 ชั่วโมง น้ำหนัก 45 กิโลกรัม
 
            ต่อมาในปี 2498 โซนี่เปิดตัววิทยุทรานซิสเตอร์เครื่องแรกของญี่ปุ่น ตามด้วยวิทยุทรานซิสเตอร์ขนาดพกพาเครื่องแรกของโลกในปี 2500 และพอผู้บริหารตัดสินใจจัดตั้งบริษัทโซนี่ คอร์ปอเรชั่น ออฟ อเมริกา ในปี 2503 ปีนั้นเองโซนี่ก็ประดิษฐ์โทรทัศน์ ทรานซิสเตอร์เครื่องแรกของโลก
 
            อิฐก้อนแรกๆที่ก่อรากฐานให้โซนี่เติบใหญ่มาถึงปัจจุบัน จึงมาจากสินค้าหมวดภาพและเสียง
 
            ไม่เพียงเป็นผู้บุกเบิกคิดค้นเทคโนโลยี เวลาล่วงผ่านเลยไป แบรนด์โซนี่ยังได้ขยายธุรกิจและแผ่ไพศาลไปทั่วโลก รวมถึงแผ่นดินสยาม…
 
            ในแผ่นดินสยาม ห้วงเวลาปัจจุบัน โซนี่ครองอันดับหนึ่งของหมวดสินค้า AV (Audio Visual-ภาพ/เสียง) ด้วยมาร์เก็ตแชร์ประมาณ 28-29%


IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #92 เมื่อ: วันที่ 19 ตุลาคม 2012, 05:39:17 »

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๕
ตรงกับ ขึ้น ๔  ค่ำ  เดือน ๑๑ (เดือนเกี๋ยงเหนือ) ปีมะโรง
...........................
วันที่ 19 ตุลาคม เป็นวันที่ 292 ของปี (วันที่ 293 ในปีอธิกสุรทิน) ตามปฏิทินสุริยคติแบบเกรกอเรียน  เมื่อถึงวันนี้จะยังเหลือวันอีก 73 วันในปีนั้น
........................................
เหตุการณ์
   พ.ศ. 2324(ค.ศ. 1781) - กองกำลังอังกฤษนำโดยนายพล ชาลส์ คอร์นวอลลิสยอมจำนนต่อกองกำลังฝรั่งเศส-อเมริกา นำโดยนายพล จอร์จ วอชิงตันในการโอบล้อมที่ยอร์กทาวน์เวอร์จิเนีย เหตุการณ์นี้ปูทางไปสู่การสิ้นสุดสงครามปฏิวัติอเมริกา
   พ.ศ. 2515(ค.ศ. 1972) - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทรงควบคุมบัญชาการทดลองปฏิบัติการฝนหลวงสาธิตให้ผู้แทนรัฐบาลสิงคโปร์ชม ณ อ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน รัฐบาลไทยมีมติเทิดพระเกียรติพระองค์ในฐานะ "พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย" เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2543 และกำหนดให้วันที่ 19 ตุลาคม ของทุกปีเป็น "วันเทคโนโลยีของไทย" เมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2544
   พ.ศ. 2530 (ค.ศ. 1987) - ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง 22% ภายในวันเดียว นับว่าลดลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
   พ.ศ. 2538(ค.ศ. 1995) - นายบรรหาร ศิลปอาชานายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกา อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 19-28 ตุลาคม 2538 เพื่อร่วมงานฉลองครบรอบ 50 ปีสหประชาชาติ
   พ.ศ. 2546(ค.ศ. 2003) - อุบัติเหตุ เครื่องเล่นหนวดปลาหมึกยักษ์ของสวนสนุกดรีมเวิลด์
   พ.ศ. 2546(ค.ศ. 2003) - 19-21 ตุลาคม - ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก
ประจำปี ค.ศ. 2003
   พ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003) - เรือนจำกลางบางขวางจังหวัดนนทบุรี  มีพิธียุติการประหารชีวิตด้วยวิธียิงเป้าอย่างเป็นทางการ โดยเปลี่ยนไปใช้การฉีดยาหรือสารพิษเข้าสู่ร่างกายแทน
   พ.ศ. 2547(ค.ศ. 2004) - พล.อ.หม่อง เอ  ผู้บัญชาการทหารบก กองทัพพม่า ยึดอำนาจ พล.อ.ขิ่น ยุ้นต์ นายกรัฐมนตรี
..............................................
วันเกิด
   พ.ศ. 2405(ค.ศ. 1862) - ออกุสต์ ลูมิแยร์ นักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศส (ถึงแก่กรรม 10 เมษายน  พ.ศ. 2497)
   พ.ศ. 2453(ค.ศ. 1910) - สุบรามันยัน จันทรเสขรรนักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ชาวอินเดีย-อเมริกัน (ถึงแก่กรรม 21 สิงหาคม พ.ศ. 2538
)
   พ.ศ. 2497(ค.ศ. 1954) - บวรศักดิ์ อุวรรณโณ  นักกฎหมาย
   พ.ศ. 2509(ค.ศ. 1966) - เมลริด เทเลอร์  นักมวยชาวอเมริกัน
   พ.ศ. 2518(ค.ศ. 1977) - เอกรัตน์ วงษ์ฉลาด  (แด๊กซ์) นักร้องนำ วง BIG ASS
   พ.ศ. 2519(ค.ศ. 1978) - พัชรศรี เบญจมาศ (กาละแมร์) พิธีกร ผู้ประกาศ
   พ.ศ. 2532(ค.ศ. 1989) - มาร์ค ริคเค็นสทอร์ฟ (เจ) นักแสดง /พิธีกร / นายแบบ / นักบาสเก็ตบอลทีมชาติ / ทูตสันติภาพแห่งประเทศเยอรมณี / นักดนตรี / แชมป์สภามวยปล้ำโลกรุ่นซูปเปอร์เวต / มือขวาคุณสนธิ
   พ.ศ. 2535(ค.ศ. 1992) - ชลธร ปรัชญารุ่งโรจน์ (แจม) นักร้อง/นักแสดง/พิธีกร
   พ.ศ. 2534(ค.ศ. 1991) - ศุภาพิชญ์ สุดสาย (ใบหม่อน) นักเรียนโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น(มอดินแดง) นางแบบ(สนามหลวง)
........................................
วันถึงแก่กรรม
   พ.ศ. 2480(ค.ศ. 1937) - เออร์เนสต์ รัทเทอร์ฟอร์ด นักฟิสิกส์นิวเคลียร์ชาวนิวซีแลนด์ (เกิด 30 สิงหาคม พ.ศ. 2414)
.........................................................
วันสำคัญและวันหยุดเทศกาล
   วันเทคโนโลยีของไทย
   วันรัฐธรรมนูญ ในนีอูเอ  (พ.ศ. 2517)


IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #93 เมื่อ: วันที่ 20 ตุลาคม 2012, 06:13:29 »

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๕
ตรงกับ ขึ้น ๕  ค่ำ  เดือน ๑๑ (เดือนเกี๋ยงเหนือ) ปีมะโรง
...........................
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ. 2548 (ค.ศ. 2005) - ที่ประชุมองค์การยูเนสโก ณ กรุงปารีส ฝรั่งเศส มีมติยกย่องท่านพุทธทาสภิกขุเป็นบุคคลสำคัญของโลก ***
ติดตามต่อที่...
http://watprayoon.org/index.php?topgroupid=1&subgroupid=223&groupid=43
พุทธทาส ภิกขุ บุคคลสำคัญของโลก
ศ.พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต)
        การที่องค์การยูเนสโกประกาศยกย่องท่านอาจารย์พุทธทาสว่าเป็นบุคคลสำคัญของโลกย้ำเตือนถึงความจริงของบทกลอนของท่านพุทธทาสที่ว่า “พุทธทาสจักอยู่ไปไม่มีตาย” ผลงานของท่านนอกจากจะไม่ตายไปจากความทรงจำของชาวพุทธแล้ว ยูเนสโกยังประกาศยกย่องท่านพุทธทาสไปทั่วโลก
เราอาจตั้งคำถามว่า ทำไมท่านพุทธทาสจึงได้รับยกย่องจากยูเนสโก เขามองท่านพุทธทาสอย่างไร ใครที่อยากจะได้รับการยกย่องในเวลาร้อยปีชาตกาลของตนแบบท่านพุทธทาสก็อาจจะจับประเด็นได้และทำผลงานให้ตรงจุด บางคนอาจได้คิดว่า เมื่อยูเนสโกยังยกย่องท่านพุทธทาส ทำไมเราจึงไม่ศึกษางานของท่านบ้าง เรากลายเป็นพวกใกล้เกลือกินด่างหรือเปล่า เพราะฉะนั้นในช่วงนี้จึงเป็นโอกาสดีที่จะหันมาศึกษางานของท่านพุทธทาส ให้มากขึ้น อาตมาเคยพูดถึงท่านพุทธทาสเมื่อประมาณ ๒๕ ปีมาแล้วในปี ๒๔๒๕ เมื่อพูดแล้วได้พิมพ์เป็นหนังสือเรื่องเปรียบเทียบแนวคิดพุทธทาสกับฌอง-ปอล ชาร์ต นักเขียนรางวัลโนเบลของฝรั่งเศส เป็นนักปรัชญาเอกซิสเตนเชียลิสม์ พิมพ์เป็นหนังสือครั้งแรกในปี ๒๕๒๖ อะไรที่เคยพูดไว้ในหนังสือนั้นเป็นอีกมุมมองหนึ่งซึ่งจะไม่พูดถึงในวันนี้

 



* images.jpg (3.44 KB, 124x80 - ดู 242 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #94 เมื่อ: วันที่ 21 ตุลาคม 2012, 08:25:41 »

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๕
ตรงกับ ขึ้น ๖  ค่ำ  เดือน ๑๑ (เดือนเกี๋ยงเหนือ) ปีมะโรง
...........................
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ. 2417 (ค.ศ. 1874) - พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระบิดาแห่งกฎหมายไทย (ประสูติ)***
พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ทรงพระนามเดิมว่า "พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์" เป็น พระราชโอรสองค์ที่ 14 ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ประสูติแก่เจ้าจอมมารดาตลับ ณ วันพุธ ขึ้น 11 ค่ำเดือน 11 ปีจอ ฉศก จุลศักราช 1236 ซึ่งตรงกับวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2417
พระองค์ได้เข้าพิธีพระราชโสกันต์ในวันที่ 26 ธันวาคม 2427 พร้อมด้วยพระเจ้าลูกยาเธอในรัชกาลที่ 5 อีก 3 พระองค์ และทรงผนวชเป็นสามเณรที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาปวเรศวิริยาลงกรณ์ เป็นพระอุปัชฌายะ หลังจากเสร็จพระราชพิธีสมโภชแล้วจึงทรงเสด็จ มาประทับที่วัดบวรนิเวศวิหาร รวมเวลาที่พระองค์ได้ทรงผนวชทั้งสิ้น 22 วัน
เนื่องจากช่วงเวลานั้น ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาการแผ่อำนาจแสวงหาอาณานิคมของชาติตะวันตก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงตั้งพระราชหฤทัยไว้ว่าจะโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ พร้อมด้วยพระเจ้าลูกยาเธออีก 3 พระองค์ ไปศึกษาต่อยังทวีปยุโรปและ ประเทศอังกฤษ เพื่อนำวิชาความรู้มาพัฒนาบ้านเมืองให้เทียมทันอารยประเทศ
เมื่อทรงสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมในประเทศอังกฤษแล้ว พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ ทรงเลือกศึกษาวิชากฎหมาย เนื่องจากขณะนั้นนานาประเทศที่ทำสนธิสัญญากับประเทศไทยไม่ยอมรับกฎหมายไทยว่าเสมอด้วยกฎหมายของ อารยประเทศ ทำให้มีปัญหาต่อการปกครองและมีข้อพิพาทเรื่องเขตแดนอยู่เนืองนิจ พระองค์ทรงสอบไล่ได้ ตามหลักสูตรปริญญา B.A.(oxon) ชั้นเกียรตินิยมภายในเวลาเพียง 3 ปี พระชันษาได้ 20 พรรษา
เมื่อพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ เสด็จกลับสยามประเทศแล้วก็ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เข้ารับราชการใน กรมราชเลขานุการ ทรงสามารถทำงานในกรมนั้นได้ทุกตำแหน่ง ประกอบกับทรงร่างพระราชหัตถเลขา ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เป็นที่พอพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่ง จึงได้รับการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นองคมนตรีในปีเดียวกันนั้น
         
แต่ในเวลานั้น เอกราชทางการศาลของประเทศสยามได้รับความกระทบกระเทือนเป็นอย่างมาก กล่าวคือ สยามต้องเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต (Extraterritorial rights) ให้แก่ชาวต่างชาติ ที่มาพำนักในสยามประเทศหลายครั้ง ด้วยเหตุที่กฎหมายยังมีความล้าสมัยอยู่มาก พระองค์จึงทรง ตั้งพระทัยแน่วแน่ที่จะเข้ารับราชการตุลาการ ทรงเข้าศึกษากฎหมายไทยโดยการค้นคว้าจากราชเลขานุการ ฝ่ายกฤษฎีกา โดยมีขุนหลวงพระยาไกรสี (เปล่ง เวภาระ) และเจ้าพระยามหิธรเป็นผู้ถวายความสะดวก
ในปี พ.ศ. 2439 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งข้าหลวง พิเศษขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อจัดการศาลหัวเมืองในมณฑลอยุธยาเป็นแห่งแรก โดยให้เสด็จในกรมฯ เป็น สภานายกพิเศษ ทรงตัดสินคดีทั้งปวงด้วยพระองค์เอง โดยความรวดเร็วและยุติธรรมเป็นที่ปรากฏใน พระปรีชาสามารถแก่หมู่ชนในมณฑลนั้น
เนื่องด้วยพระเจ้าน้องยาเธอกรมหลวงพิชิตปรีชากร เสนาบดีกระทรวงยุติธรรมได้ประชวร จึงกราบ บังคมลาออกจากตำแหน่งในปี พ.ศ. 2440 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงมี พระบรมราชโองการแต่งตั้งเสด็จในกรมฯ ขึ้นเป็นเสนาบดีสืบแทน นับเป็นเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม ลำดับ 3 ขณะทรงมีพระชนมายุเพียง 22 พรรษา เสด็จในกรมฯ ทรงสนพระทัยและหาหนทางในการ ปรับปรุงแก้ไข จัดระเบียบศาลและการยุติธรรมทั่วประเทศไทยให้เรียบร้อย ทรงมีพระราชดำริใน การแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้ว่า มี 2 แนวทางคือ การทำให้บ้านเมืองมีกฎหมายดี และการทำศาลให้มี ผู้พิพากษาที่ดี และมีคุณธรรม
หลังจากที่พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ได้เข้ารับราชการและบำเพ็ญคุณความดีเป็น ประโยชน์แก่บ้านเมืองเป็นอันมากแล้ว จึงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าให้สถาปนาขึ้นเป็น พระองค์เจ้า ต่างกรม มีพระนามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า "พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นราชบุรีดิเรกฤทธิ์ นาคนาม" ในปี พ.ศ. 2442
นับเวลาที่เสด็จในกรมฯ ทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีเป็นระยะเวลา 4 ปี ระหว่างนั้นได้ทรงตรากฎและคำสั่ง เกี่ยวกับวิธีปฏิบัติราชการฝ่ายการศาลยุติธรรมไว้หลายฉบับ ตั้งแต่ปี ร.ศ. 115 ถึง ร.ศ. 120 ทั้งหมด รวม 28 ฉบับ ต่อมาใน ร.ศ. 121 ได้ทรงดำรัสให้ยกเลิกกฎเสนาบดีชุดก่อนเสียทั้งหมด และทรงตรากฎ และคำสั่งออกใช้ใหม่ถึง 67 ฉบับ ซึ่งบรรดากฎและคำสั่งเหล่านี้นับเป็นที่มาของกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่ง กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และพระธรรมนูญศาลยุติธรรมบางมาตราในปัจจุบัน
ในรัชสมัยของสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า พ.ศ. 2454 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เสด็จในกรมฯ ดำรง ตำแหน่งเป็นเสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ ทรงดำรงตำแหน่งเพียงปีเดียวก็ได้รับพระบรมราชโองการ เลื่อนขึ้นเป็นกรมหลวง มีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า "พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวง ราชบุรีดิเรกฤทธิ์คชนาม" จนกระทั่ง พ.ศ. 2462 เสด็จในกรมฯ ทรงประชวรด้วยพระวัณโรคที่พระวักกะ จึงทรงกราบบังคมทูลลาออกและได้เสด็จไปรักษาพระองค์ ณ กรุงปารีส แต่พระอาการไม่ทุเลาลง จนกระทั่งในวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2463 เวลา 21.00 น. พระเจ้าพี่ยาเธอกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ก็เสด็จสิ้นพระชน ณ กรุงปารีส นับพระชนมายุเรียงปีได้ 47 พรรษา บรรดาศิษย์และบุคคลที่คุ้นเคย ได้พร้อมใจอัญเชิญพระอัฐิของพระองค์เข้ามาบำเพ็ญกุศลในกรุงเทพฯ และในปี พ.ศ. 2497 เนติบัณฑิตสภาได้เริ่มต้นเรียกวันที่ 7 สิงหาคม ว่า "วันรพี" พร้อมทั้งจัดงาน บำเพ็ญกุศลทักษิณานุสรณ์เป็นต้นมาประจำทุกปี
 



* lapee.jpg (12.08 KB, 322x482 - ดู 407 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #95 เมื่อ: วันที่ 23 ตุลาคม 2012, 06:01:44 »

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๕
ตรงกับ ขึ้น ๘  ค่ำ  เดือน ๑๑ (เดือนเกี๋ยงเหนือ) ปีมะโรง
...........................
23 ตุลาคม: วันชาติในฮังการี (พ.ศ. 2499); วันปิยมหาราชในไทย
 
พ.ศ. 501 (42 ปีก่อนคริสตกาล) – สงครามกลางเมืองสาธารณรัฐโรมัน: กองทัพของบรูตัสพ่ายแพ้ต่อกองกำลังผสมของมาร์ค แอนโทนีและออคเตเวียน ในยุทธการฟิลิปปี
 พ.ศ. 2185 (ค.ศ. 1642) – ยุทธการเอ็ดจ์ฮิลล์ระหว่างฝ่ายนิยมกษัตริย์และฝ่ายรัฐสภาในสงครามกลางเมืองอังกฤษครั้งที่ 1 สิ้นสุดลงโดยไม่มีฝ่ายใดแพ้ชนะ ใกล้กับเอ็ดจ์ฮิลล์
 พ.ศ. 2453 (ค.ศ. 1910) – พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ในภาพ) เสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 6 แห่งราชวงศ์จักรี
 พ.ศ. 2489 (ค.ศ. 1946) – การประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติมีขึ้นครั้งแรกในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
 พ.ศ. 2545 (ค.ศ. 2002) – กลุ่มผู้ก่อการร้ายชาวเชเชนบุกยึดโรงละครแห่งหนึ่งในมอสโก จับผู้เข้าชมการแสดงและนักแสดงราว 700 คนเป็นตัวประกันระหว่างวิกฤตการณ์ตัวประกันโรงละครมอสโก


* original_Chulalongkorn.jpg (33.04 KB, 461x375 - ดู 383 ครั้ง.)

* 100px-King_Rama_V_crowned.jpg (9.07 KB, 100x146 - ดู 264 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
>:l!ne-po!nt:<
~: ดาบราชบุตร :~
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,257

~>: แขกดอย :<~


« ตอบ #96 เมื่อ: วันที่ 23 ตุลาคม 2012, 17:31:31 »

23 ตุลาฯ ใช่แค่วันปิยะฯ ครับ

http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?PHPSESSID=c9c34dd3301c551eb267fc8383329eb9&topic=320265.0
IP : บันทึกการเข้า

!!!!!  กว่า ๑,๑๐๐ กม.จากยอดดอยสู่ทะเล...ตะวันออก  !!!!!

www.facebook.com/1100kilometer

||||| ธรรมชาติสร้างอากาศบริสุทธิ์    ส่วนมนุษย์นั้นสร้างอาวุธเพื่อทำลาย |||||
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #97 เมื่อ: วันที่ 24 ตุลาคม 2012, 05:38:55 »

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๕๕
ตรงกับ ขึ้น ๙  ค่ำ  เดือน ๑๑ (เดือนเกี๋ยงเหนือ) ปีมะโรง
...........................
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003) - เครื่องบินคองคอร์ด ให้บริการเชิงพาณิชย์เป็นครั้งสุดท้าย ***
เมื่อราว 40 ปีก่อน เครื่องบินคองคอร์ด เป็นเครื่องบินสุดไฮโซที่เศรษฐีมีเงินต่างก็อยากใช้บริการ เพราะสามารถเดินทางข้ามทวีปจากยุโรปไปอเมริกาได้เร็วกว่าเครื่องบินธรรมดาหลายเท่า เพราะสามารถบินได้สูงสุดที่ความเร็ว 2,349 กม./ชม. หรือเป็น 2.2 เท่าของความเร็วเสียง ที่เพดานบิน 15,000 เมตร
 
คองคอร์ดเป็นเครื่องบินโดยสารเหนือเสียง ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของอังกฤษและฝรั่งเศส คองคอร์ดเที่ยวแรกออกเดินทางในปี 1969 แต่เมื่อเปิดบริการไปได้สักระยะก็เริ่มมีปัญหา และประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกบ่อยครั้ง ในที่สุดคองคอร์ดก็เลยต้องปิดกิจการ โดยเที่ยวบินสุดท้ายออกเดินทางจากนิวยอร์กไปลอนดอนเมื่อ 24 ตุลาคม 2003 รวมเวลาที่เปิดบริการ ทั้งสิ้น 34 ปี


* images.jpg (4.6 KB, 362x139 - ดู 266 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #98 เมื่อ: วันที่ 26 ตุลาคม 2012, 05:43:22 »

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๕
ตรงกับ ขึ้น ๑๑  ค่ำ  เดือน ๑๑ (เดือนเกี๋ยงเหนือ) ปีมะโรง
...........................
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ. 2406 (ค.ศ. 1863) – วันก่อตั้งสมาคมฟุตบอลแห่งอังกฤษ ณ กรุงลอนดอน ซึ่งเป็นหน่วยงานปกครองกีฬาฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในโลก***
26 ตุลาคม พ.ศ. 2406 วันก่อตั้งสมาคมฟุตบอลแห่งอังกฤษ (The Football Association--The FA) ณ กรุงลอนดอน ก่อตั้งขึ้นเพื่อวางกฏเกณฑ์ กติกาของการเล่นฟุตบอล โดยจะดูแลสโมสรฟุตบอลอาชีพทั้งหมดในอังกฤษ สมาคมฯ จะรับผิดชอบในการจัดเตรียมนักกีฬาฟุตบอลทั้งทีมชาย-หญิงสำหรับแข่งขันฟุตบอล โลก และเป็นผู้จัดการแข่งขันชิงถ้วยของสมาคมฯ (FA Cup) รวมไปถึงจัดการแข่งขันฟุตบอลลีก (FA Premier League) สมาคมฟุตบอลอังกฤษจึงเป็นหน่วยงานปกครองกีฬาฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในโลก การแข่งขัน FA Cup ก็เป็นการแข่งขันฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในโลก (เริ่มในปี 2415) และการแข่งขันพรีเมียร์ลีกก็เป็นลีกฟุตบอลที่ยาวนานที่สุดในโลกด้วย (เริ่มตั้งแต่ปี 2431)



* images.jpg (2.9 KB, 127x56 - ดู 225 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #99 เมื่อ: วันที่ 27 ตุลาคม 2012, 04:14:44 »

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๕
ตรงกับ ขึ้น ๑๒  ค่ำ  เดือน ๑๑ (เดือนเกี๋ยงเหนือ) ปีมะโรง
...........................
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ. 2447 (ค.ศ. 1904) – ประเทศไทยยกเลิกการใช้เงินพดด้วง และใช้ธนบัตรและเหรียญกษาปณ์แทนเงิน ***
          เงินพดด้วงของไทย เป็นเงินตราที่เป็น เอกลักษณ์ของไทย โดยเฉพาะไม่ซ้ำแบบของชาติใด มีค่าในตัวเอง เพราะทำด้วย โลหะมีราคา โดยมีน้ำหนักเป็นมาตรฐานวัดมูลค่า รูปทรงกระทัดรัด ทนทาน ผลิตด้วยมือ ทำจากแท่งเงินบริสุทธิ์ ทุบปลายทั้งสองข้าง ให้โค้งงอเข้าหากัน ทำให้มีรูปร่างกลมคล้าย ลูกปืนโบราณ ชาวต่างประเทศจึงเรียกว่า Bullet Coin ในสมัยอยุธยา ได้มีการ ประทับตราแผ่นดิน และตราประจำรัชกาลของพระมหากษัตริย์ แต่ละพระองค์ รวมเป็น 2 ตราใบ เงินพดด้วงแต่ละอัน
ติดตามได้จาก...
http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%87


* Poddueng_11.jpg (10.05 KB, 320x139 - ดู 262 ครั้ง.)

* Poddueng_3.jpg (17.14 KB, 320x240 - ดู 254 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!