เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 25 เมษายน 2024, 14:48:35
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  ว่าด้วยเรื่องเครื่องรางของขลัง
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] 3 พิมพ์
ผู้เขียน ว่าด้วยเรื่องเครื่องรางของขลัง  (อ่าน 30992 ครั้ง)
jirapraserd
magdafVE
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 693


« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 28 กรกฎาคม 2012, 16:22:35 »

๑๕๗. เรื่องเครื่องรางของขลัง

เรื่องเครื่องรางของขลัง หรือวัตถุมงคล ที่พวกเราเสาะแสวงหา มาไว้ครอบครองนั้น หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ท่านให้ความเห็นดังนี้ :-

หลวงปู่พูดอยู่เสมอว่า คนเรานี้แปลก เอาของจริงคือธรรมะให้ไม่ชอบ ไปชอบเอาวัตถุภาย นอกกันเสียหมด ที่พึ่งที่ประเสริฐ คือพระรัตนตรัย นั้นประเสริฐอยู่แล้ว แต่กลับไม่สนใจ พากันไป สนใจแต่วัตถุภายนอก

จึงอาจกล่าวได้ว่า เมื่อคนเราไม่สามารถจะเอาคุณพระรัตนตรัยมาเป็นที่พึ่งของตนได้ เพราะอินทรีย์ยังอ่อนอบรมมา ยังไม่เข้าถึงเหตุผล จะถือเอาวัตถุภายนอก เช่นพระเหรียญ ซึ่งเป็น รูปเหรียญรูปแทนของพระพุทธเจ้า นั้นก็ดีเหมือนกัน ถ้าผู้นั้นรู้ความหมายของวัตถุนั้นๆ

หลวงปู่ท่านให้ข้อคิดในทางธรรมะว่า วัตถุมงคลเหล่านั้นหากจะนำไปป้องกันตัว ถ้ากรรมมา ตัดตอนแล้ว ป้องกันไม่ได้ ไม่ว่าสิ่งไหนจะไปต้านทานอำนาจกรรมนั้นไม่มี

แต่ถ้าผู้นั้นรู้ความหมายในวัตถุนั้นๆ ว่า เขาสร้างขึ้นมาส่วนมาก เขาใช้สัญลักษณ์ของผู้ที่ ทำแต่ความดี

การมีวัตถุมงคลไว้ติดตัว ก็มีไว้เป็นเครื่องเตือนสติปัญญาของตนเองไม่ให้ประมาทในการ กระทำของตน ต้องทำแต่ความดีเสมอ เพราะโลกเขาบูชานับถือแต่คนดี

เรามีของดีอยู่กับตัว ก็ต้องทำแต่ความดีอย่างนี้แล้ว ก็นับว่าผู้นั้นได้ประโยชน์จากวัตถุมงคล นั้นๆ

๑๕๘. คาถาปลุกเสก

เมื่อลูกศิษย์มีความสงสัย และถามหลวงปู่ว่า พระก็ดี เหรียญก็ดี ที่หลวงปู่ทำพิธี แผ่เมตตาไว้ มีคนนิยมกันว่าดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้ หลวงปู่ปลุกเสกด้วยคาถาอะไร ?

หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ จะตอบข้อสงสัยเช่นนี้ว่า ที่กล่าวว่า แผ่เมตตาวัตถุมงคลนั้น ท่านไม่ เคยปลุกเสกพระอะไรเลย เคยแต่สวดสรรเสริญคุณพระรัตนตรัยเท่านั้น แล้วตั้งสัจจะอธิษฐาน ให้เกิดสิริมงคลแก่ผู้ที่นับถือกราบไหว้บูชา

จะอธิษฐานเพียงเท่านั้น ไม่มีคาถาสำหรับเสกให้ขลังอย่างนั้นอย่างนี้แต่อย่างใด

สำหรับบทสวดที่หลวงปู่แหวน ท่านใช้ในพิธีแผ่เมตตา ท่านจะใช้บท ติรตนนมการคาถา อ่านว่า ติระตะนะนะมะการะคาถา หรือ บททำวัตรพระ เพื่อสะดวกต่อท่านผู้อ่าน ผมขออัญเชิญมาไว้ เต็มๆ เลย ดังนี้

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)

โย สันนิสินโน วะระโพธิมูเล มารัง สะเสนัง สุขิตัง วิชเชยยะ สัมโพธิมาคัจฉิ อะนันตะญาโณ

โลกุตตะโม ตัง ปะณะมามิ พุทธัง เย จะ พุทธา อะตีตา เย จะ พุทธา อะนาคะตา ปัจจุปันนา จะ เย

พุทธา อะหัง วันทามิ สัพพะทาๆ

อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณสัมปันโน สุคะโค โลกะวิทู อะนุตตะโร

ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ

พุทธัง ชิวิตัง ยะวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง พุทโธ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม ชะยะมังคะลัง อุตตะมัง เคนะ วันเทหัง ปาทะปังสุง วะรุตตะมัง พุทเธ โย ชะลีโต โทโส พุทโธ ขะมะตุ ตัง มะมัง

“ อัฎฐังคิโก อะริยะปะโถ ชะนานัง โมกขัปปะเวสายะ อุชุ จะ มัคโค ธัมโม อะยัง สันติกะโร ปะณีโต นิยยานิโก ตัง ปะณะมามิ ธัมมัง เย จะ ธัมมา อะตีตา จะ เย จะ ธัมมา อะนาคะตา ปัจจุปันนา จะ เย ธัมเม อะหัง วันทามิ สัพพะทา

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฎฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิสตัพโพ วิญญูหีติ

ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม ชะยะมังคะลัง อุตตะมังเคนะ วันเทหัง ธัมมัญจะ ทุวิธัง วะรัง ธัมเม โย ชะลิโต โทโส ธัมโม ขะมะตุ ตัง มะมัง

สังโฆ วิสุทโธ วะระทักขิเณยโย สันตินทริโย สัพพะมะลัปปะหิโน คุเณหิ เนเกหิ สะมิทธิปัตโต อะนาสะโว ตัง ปะณะมามิ สังฆัง เย จะ สังฆา อะตีตา จะ เย จะ สังฆา อะนาคะคา ปัจจุปันนา จะ เย สังฆา อะหัง วันทามิ สัพพะทา

สุปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฎฐะ ปุริสะ ปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญังเขตตัง โลกัสสาติ

สังฆัง ชีวิตัง ยะวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง สังโฆ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม ชะยะ มังคะลัง อุตตะมังเคนะ วันเทหัง สังฆัญจะ ทุวิธุตตะมัง สังเฆ โย ชะลิโต โทโส สังโฆ ขะมะตุ ตัง มะมัง

อิจเจวะมัจจันะนะมัสสะเนยยัง นะมัสสะมาโน ระตะนัตตะยัง ยัง ปุญญาภิสันทัง วิปุลัง อะลัตถัง ตัสสานุเภนะ หะตันตะราโย

๑๕๙. คาถาปลุกเสกอีกบทหนึ่ง

ในพิธีแผ่เมตตา หรือปลุกเสกวัตถุมงคล นอกจากจะใช้บท ทำวัตรพระ ดังกล่าวข้างต้น บางครั้ง หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ท่านก็ใช้บทสวดนมัสการคุณพระรัตนตรัย อีกบทหนึ่ง ดังนี้ :-

พุทโธ โย สัพพะปาณีนัง สะระณัง เขมะมุตตะมัง, ธัมโม โย สัพพะปาณีนัง สะระณัง เขมะมุตตะมัง, สังโฆ โย สัพพะปาณีนัง สะระณัง เขมะมุตตะมัง,

อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ, วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู, อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ,

สวากขาโต ภะคะวา ธัมโม, สันทิฎฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก, โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ.

สุปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, อุชุปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, ญายะปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สามีจิปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฎฐะ ปุริสะ ปุคคะลา, เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย, อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ.

๑๖๐. ความเห็นเกี่ยวกับพิธีพุทธาภิเษก

เกี่ยวกับการจัดพิธีปลุกเสกพระ ที่เรียกว่า พุทธาภิเษก ที่จัดกันอยู่ทั่วไป ทั้งเป็นการราษฎร์ ทั้งเป็นการหลวงนั้น

หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ให้ความเห็นในพิธีการนี้ว่า ถ้าเราเข้าใจว่าพิธีพุทธาภิเษก เป็นการปลุกเสกวัตถุที่เราสร้างขึ้น ให้เป็นเครื่องหมายแทนองค์พระพุทธเจ้านั้น ถือว่าเป็นการเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง ไม่ตรงตามความเป็นจริง

หลวงปู่ให้เหตุผลว่า พระพุทธเจ้าท่านเป็นพระตั้งแต่เรายังไม่เกิด พระองค์เป็นพระพุทธะมาก่อนเราเป็นพันๆ ปี ถ้าใครไปปลุกเสกวัตถุให้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วนับว่าผิด

เราเองเป็นเพียงสาวก จะไปทำวัตถุที่เขาสร้างเป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระพุทธเจ้า ให้เป็นพระพุทธเจ้าได้อย่างไร วัตถุที่เขาสร้างขึ้นนั้น สำเร็จเป็นพระแล้วโดยสมบูรณ์ สำเร็จตั้งแต่เขาสร้างแล้ว เพราะเป็นที่รับรู้กันดีแล้วว่า เป็นรูปเปรียบรูปแทนของพระพุทธเจ้า

ดังนั้น วัตถุนั้นๆ จึงเป็นพระโดยสมบูรณ์แล้ว ตั้งแต่เขาสร้างเสร็จ จะไปปลุกเสกให้เป็นพระอีกไม่ได้

หลวงปู่ ท่านเรียกพระพุทธรูปว่า "พระบรมรูป"

ท่านกล่าวว่า พระบรมรูปของพระพุทธเจ้านั้น แม้จะทำสำเร็จขึ้นจากวัตถุใดๆ ท่านก็สำเร็จ เป็นพระพุทธะในความหมายแล้วอย่างสมบูรณ์ เพราะวัตถุนั้นเขาสมมุติ เป็นสัญลักษณ์แทนองค์ของพระพุทธเจ้า

แม้จะเป็นเพียงวัตถุ เราก็กราบไหว้บูชาได้ด้วยความสนิทใจ ไม่มีวิขาคาถาอาคมใดๆ ที่จะมาปลุกเสกพระพุทธเจ้าได้ เพราะวัตถุนั้นสำเร็จเป็นพุทธะตามความหมายที่เราได้สร้างขึ้นแล้ว

หลวงปู่ให้ความเห็นว่า ที่เรียกกันว่า "พุทธาภิเษก" นั้น ควรจะเรียกว่า พิธีสมโภชพระ หรือพิธีนมัสการพระ จึงจะถูกต้องตามความเป็นจริง

ขอสรูปเพื่อความเข้าใจอีกทีว่า หลวงปู่แหวนท่านไม่ได้ค้านในพิธีการ แต่ท่านเสนอแนะคำ พูดที่เราใช้เรียก เพื่อจะได้ถูกต้อง ตามความเป็นจริงเท่านั้นเอง


**-------------- คาถาที่ว่าท่านปลุกเสกนั้น มีความหมายว่า ----------------**

ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งอันสูงสุดของข้าพเจ้า

อยู่ในบทสวดทำวัตรเย็น ไปหาอ่านคำแปลดูครับ
**------------------------------------------------------------------------------**



มีชายหนุ่มจากต่างจังหวัดไกลสามสี่คนเข้าไปหาหลวงปู่  ขณะที่ท่านพักผ่อนอยู่ที่มุขศาลาการเปรียญ  ดูอากัปกิริยาของเขาแล้วคงคุ้นเคยกับพระนักเลงองค์ใดองค์หนึ่งมาก่อนแล้ว  สังเกตุจากการนั่งการพูด  เขานั่งตามสบาย  พูดตามถนัด  ยิ่งกว่านั้นเขาคงเข้าใจว่าหลวงปู่นี้คงสนใจกับเครื่องรางของขลังอย่างดี  เขาพูดถึงชื่อเกจิอาจารย์อื่นๆ  ว่าให้ของดีของวิเศษแก่ตนหลายอย่าง  ในที่สุดก็งัดเอาของมาอวดกันเองต่อหน้าหลวงปู่  คนหนึ่งมีหมูเขี้ยวตัน  คนหนึ่งมีเขี้ยวเสือ  อีกคนมีนอแรด  ต่างคนต่างอวดอ้างว่าของตนดีวิเศษอย่างนั้นอย่างนี้  มีคนหนึ่งเอ่ยปากว่า  หลวงปู่ฮะ  อย่างไหนแน่ดีวิเศษกว่ากันฮะ ฯ

        หลวงปู่ก็อารมณ์รื่นเริงเป็นพิเศษยิ้มๆ แล้วว่า

        "ไม่มีดี  ไม่มีวิเศษอะไรหรอก  เป็นของสัตว์เดียรัจฉานเหมือนกัน."
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 28 กรกฎาคม 2012, 16:50:16 โดย jirapraserd » IP : บันทึกการเข้า

สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #21 เมื่อ: วันที่ 02 สิงหาคม 2012, 11:38:06 »

ขอบพระคุณท่าน jirapraserd ที่เข้ามาแบ่งปันข้อคิดดีๆ ครับ ยิงฟันยิ้ม
 
 
IP : บันทึกการเข้า
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #22 เมื่อ: วันที่ 02 สิงหาคม 2012, 11:49:21 »

แม้แต่สัตว์เดรัยฉานยังมีเมตตา แล้วคนเราจะไม่มีเมตตาได้อย่างไร....... ยิงฟันยิ้ม



* 29_20110502121139_.jpg (16.32 KB, 450x300 - ดู 348 ครั้ง.)

* 1111101259f8f3e81b284e6be5.jpg (164.64 KB, 636x375 - ดู 377 ครั้ง.)

* 9-2-2554_14-00-08_1297235231_jpg;r_width=633,height=433;static_p_s1sf_ns_0;file_0611c2.jpg (63.29 KB, 633x433 - ดู 322 ครั้ง.)

* ffddf.JPG (16.86 KB, 327x180 - ดู 310 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 02 สิงหาคม 2012, 11:56:59 โดย สบายแมน » IP : บันทึกการเข้า
@เชียงแสน
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


..ทุกลมหายใจคือการเปลี่ยนแปลง..


« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 04 สิงหาคม 2012, 21:45:00 »

..เมตตาธรรม ค้ำจุนทุกสิ่งจริง ๆ ครับ...
IP : บันทึกการเข้า
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #24 เมื่อ: วันที่ 04 สิงหาคม 2012, 21:50:34 »

..เมตตาธรรม ค้ำจุนทุกสิ่งจริง ๆ ครับ...
ผมชอบรูปสิงโตแต่รูปอื่นก็ชอบนะ ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
@เชียงแสน
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


..ทุกลมหายใจคือการเปลี่ยนแปลง..


« ตอบ #25 เมื่อ: วันที่ 04 สิงหาคม 2012, 23:04:58 »

..เมตตาธรรม ค้ำจุนทุกสิ่งจริง ๆ ครับ...
ผมชอบรูปสิงโตแต่รูปอื่นก็ชอบนะ ยิ้ม

...คร้าบบบบ....
IP : บันทึกการเข้า
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #26 เมื่อ: วันที่ 31 สิงหาคม 2012, 07:58:26 »

ยิงฟันยิ้ม เมตตา  กรุณา  มุทิตา  อุเบกขา ยิงฟันยิ้ม

คราวหน้าจะมาพูดถึงของขลังที่มาจากพืชบ้าง ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #27 เมื่อ: วันที่ 02 กันยายน 2012, 11:06:28 »

วันนี้จะมาพูดถึงเครื่องรางของขลังที่มาจากพืชครับ แต่ไม่ใช้เครื่องรางของขลังที่เอาไม้มงคล
มาทำเป็นของขลังนะ อ่ะๆ แต่เป็นของขลังที่เหนือกว่านั้นครับ เรียกว่าแสง มีหลายแบบทั้งจาก
สัตว์ จากพืช จากสิ่งของ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ แต่เหนือกว่าปกติธรรมดา ว่ากันว่าเป็น
จิตวิญญาณชั้นสูงที่ลงมาจุติเพื่อชดใช้เศษกรรม เมื่อชดใช่แล้วก็ทิ้งสิ่งอันเป็นทิพย์ไว้ในเมืองมนุษย์ครับ
วันนี้เราจะมาพูดถึงแสงบ่าหนุนกัน แสงบ่าหนุนหรือเม็ดในขนุนนั้นแหล่ะครับ แต่ไม่ธรรมดาแน่นอน
เนื่องจากเม็ดในนั้นจะกลายเป็นหินปนโลหะ หรือเม็ดขนุนทองแดงนั้นเอง โบราณว่าเป็นของดีวิเศษหายาก
ผู้ใดมีไว้จะเจริญรุ่งเรื่อง อยากน่าอัศจรรย์ ทำการสิ่งได้ก็ประสบผลสำเร็จ จะมีทรัพย์บริบูรณ์โดยไม่ต้องเหน็ดเหนื่อย
ได้มาง่ายๆ แบบว่าอยู่ดีกินดีโดยไม่มีเหตุผลกันเลยทีเดียว แต่ว่าก็ไม่ได้หากันได้ง่ายๆนะ ท่านว่า ร้อยปีดีดัก
จึงจะมีมาอันหนึ่ง และการเกิดขึ้นก็ไม่ธรรมดาซะด้วย คือเป็นขนุนที่ออกลูกตรงใต้ดินอีกต่างหาก ท่านว่า
จะมีแสงขนุนในลูกนั้น การเอาก็ต้องมีพิธี มีเรื่องว่ามีลุงคนหนึ่งอยู่สันป่าตอง แกไปเจอแสงบ่าหนุนเข้าโดยบังเอิญ
เล่ากันว่าลุงคนนั้นเป็นคนที่ข่ามใครทำอะไรไม่ได้ จากชาวบ้านธรรมดา กลายเป็นพ่อค้าใหญ่แกไปค้าขายทาง
เมืองพม่าไทยใหญ่ ลวดเอาเมียเป๋นป้อเลียงสืบลูกสืบหลายอยู่เมืองพม่าปู้นล่ะ ครับนี้ก็เป็นเรื่องของ แสงบ่าหนุ่นครับ ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #28 เมื่อ: วันที่ 27 เมษายน 2013, 15:36:57 »

ตกไปตั้งนาน ช่วงนี้เริ่มสนใจเรื่องเครื่องรางของขลังอีกล่ะ ดันมาให้อ่านกันซะหน่อย  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
เวียงเก่า
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 280



« ตอบ #29 เมื่อ: วันที่ 28 เมษายน 2013, 07:39:59 »

มารอติดตามครับ  ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

ผลมันไม่ออกมาตามที่คาดหวัง จะมานั่งเสียใจไปทำไม เมื่อได้พยายามทำเหตุให้ดีที่สุดแล้ว
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #30 เมื่อ: วันที่ 28 เมษายน 2013, 10:30:23 »

มารอติดตามครับ  ยิ้ม

ขอบคุณครับ ถ้ามีความรู้ก่อเอามาแชร์กั๋นได้เน้อครับ ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #31 เมื่อ: วันที่ 29 เมษายน 2013, 03:39:05 »

เครื่องลาง ของขลัง คือ ของดี ของมงคล
ดีกว่า ของเลว ของชั่ว ของขึด ของจา
แต่หาก มาเปรียบ กับ พระธรรม พระวินัย อันเป็น  ของแท้
วัตถุใด ๆ ในโลกโลกียะ ในวัฎฎสงสาร ก็เป็น แค่  ของสมมุติ ของเทียม

มีของแท้ ก็มี ของเทียม ก็มี     ลางเนื้อ  ชอบ  ลางยา   
เมตตา กัน และ กัน ดีกว่า
เด็ก กินยา ขม ๆ มันยาก   ก็ต้อง  เอายาไปเคลือบด้วย น้ำตาล หรือ ยาผสมน้ำเชื่อม

ผมเป็น เด็ก ยังเคย เล่นขี้ กินขี้          โตมา ไม่กินขี้    แต่  ก็ยัง ไปกิน น้ำมูตร
กินขี้  กินด้วย  ความไม่รู้         กินเยี่ยว  กินด้วย ความรู้  ความเชื่อ(ศรัทธา)ในพระศาสนา

ศรัทธา ไม่มี ปัญญา      กับ        ศรัทธา ที่มี  ปัญญา       
ศรัทธา เหมือนกัน        แต่         แตกต่างกัน  ครับ
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
ละอ่อนเจียงของ
บทเรียนนอกห้องเรียน
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,120


เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป


« ตอบ #32 เมื่อ: วันที่ 29 เมษายน 2013, 21:31:59 »


โดยส่วนตัวแล้ว ไม่ได้แอนตี้เรื่องเครื่องรางของขลังครับ มีอยู่จริง แต่ว่าไม่ยึดติดหรือแสวงหา เพราะจะกลายเป็นยึดกับวัตถุ
ผมเองเชื่อว่าของดี(วัตถุ)ถ้าจะมาคุ้มเรายังไงก็ต้องมาคุ้มเราเองครับ
ไม่ได้อวดอ้างแต่ถ้าจะมาก็ต้องมาครับ
อย่าง หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า ร.ศ. 129 รุ่น 1 เดี๋ยวนี้ของปลอมก็เนียนเอาซะมากๆ ดูไม่ออกเลย ปู่ได้มาให้เป็นของพ่อไว้อยู่ในตอนนี้
ตอนที่ปู่ได้มามีคนทำท่านหล่นไว้ในน้ำโคลนที่ควายลงไปแช่ครับ หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ปู่ผมก็เอาควายไปเลี้ยงเห็นอยู่เลยเข้าไปถามว่า
หาอะไรอยู่ เขาบอกว่าหาพระ หาได้ก็เอาไปเลยหามาครึ่งวันแล้ว เขาก็กลับไป ปู่ผมเลยงมหาต่อ จวนเย็นก็ท้อ นึกในใจว่า
ท่านจะอยู่ในโคลนควายที่ลงมาแช่น้ำ ไม่ให้ใครบูชาอย่างนี้หรอ พอกำลังจะขึ้นจากบ่อโคลน ไถลลื่น(ปะแล้ด) ตกบ่อ เอามือค้ำไว้
จับใส่พระพอดี เลยได้มาครับ
ขนเสือไฟ กุมารทองฯ ไม่ต้องหาก็มีคนเอามาให้เอง ตอนนี้ก็ให้คนอื่นหมดแล้วครับ
สมัยพ่อบวช ปู่บวช เก็บสะสมพระกันมา ได้อยู่หลายลัง อยากบอกว่าตอนนี้ในห้องพระ มีแต่พระพุทธรูป อันเป็นพระพุทธองค์เท่านั้นเองครับ

มีอยู่จริงครับเรื่องคุณวิเศษ แม้แต่อัฐิพระอริยบุคคล อัฐิธาตุ จากหนึ่งเป็นสอง สองเป็นสี่ สวยสดงดงาม ยังลอยมาอยู่ด้วยกันในโหลแก้วเลย

ครั้งหนึ่งย่าผมห้อยพระรอด แต่อาบน้ำถอดวางต่ำใกล้ผ้าถุง ท่านลอยทะลุกรอบที่ครอบไว้หายไปเลย เหลือแต่เศษแตกๆ ผมไม่เห็นนะ แต่ย่าผมเล่า ผมเห็นแต่สร้อยกับกรอบแตกๆ ที่ท่านทะลุออกไป

ทั้งหมดที่พูดมานี้ก็เพียงแต่อยากเล่าอยากบอก เพราะไม่อยากให้ยึดติด ลองละไว้ข้างตัวดู

ธรรมะอยู่ที่เราปฏิบัติ เมื่อเราปฏิบัติสุจริตทั้งกาย วาจา และจิตแล้ว ตัวเราเองจะคุ้มครองตัวเราเอง
อย่างมากหากได้เป็นพระโสดาได้อารมณ์แห่งโสดาบันบุคคลแล้ว ย่อมเป็นสุขในระดับหนึ่ง
อย่างมากที่สุดได้เป็นถึงพระอรหันต์ครานั้นก็สุขยิ่งกว่าสุข เป็นสุขสงบ สงบสุข สาธุ

ท่านจะนับถือบูชาสิ่งใดไม่เป็นไร ให้มีสติและปัญญาควบคู่ไป ขอเพียงท่านมีพระพุทธองค์เป็นสรณะอันสูงสุดในใจเถิด

หากขัดใจท่านใดก็ขออภัยด้วยนะครับ เป็นเพียงความคิด ความเห็นหนึ่งเท่านั้น คุยแบบพี่น้องลูกหลานชาวเชียงรายด้วยกันครับ ยิ้มกว้างๆ


 
IP : บันทึกการเข้า

หนึ่งการกระทำสำคัญกว่าพันคำพูด
chate
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,023


« ตอบ #33 เมื่อ: วันที่ 30 เมษายน 2013, 18:56:06 »

ผมลายเติ๋มตั๋ว...ขี้กลากหนา ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #34 เมื่อ: วันที่ 30 เมษายน 2013, 21:27:23 »

ผมลายเติ๋มตั๋ว...ขี้กลากหนา ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

เอ่อนั้นเต๊อะ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ขอบคุณทุกท่านที่มาอุดหนุนกระทู้ครับ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #35 เมื่อ: วันที่ 02 พฤษภาคม 2013, 18:55:57 »

กราบเรียน  เจ้ากระทู้ หรือ ญาติธรรม
ผม ขอท่าน ช่วยนำเรื่อง ของดี คนเหนือ คือ
เป๊ก วัตถุมงคลธรรมชาติ  มาถ่ายทอด เป็น วิทยาทานด้วยครับ
ไหว้สาธุ  ครับ
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #36 เมื่อ: วันที่ 03 พฤษภาคม 2013, 13:08:27 »

กราบเรียน  เจ้ากระทู้ หรือ ญาติธรรม
ผม ขอท่าน ช่วยนำเรื่อง ของดี คนเหนือ คือ
เป๊ก วัตถุมงคลธรรมชาติ  มาถ่ายทอด เป็น วิทยาทานด้วยครับ
ไหว้สาธุ  ครับ


ผมก่อบ่าค่อยมีความรู้เรื่องเป๊คเท่าไหร่นะครับ รู้เพียงแต่ว่าเป๊ดทางภาคกลางฮ้องว่าเพชรหน้าทั่ง มีหลายแบบครับ ว่ากันว่าบนดอยที่หนึ่ง(ขอสงวนชื่อ)มีเป๊คอยู่ครับ และมีหมู่บ้่านป่าแห่งหนึ่งก็เป็นแหล่งของเป๊ด แต่เขาหวงแหนจึงสงวนนามครับ เดี๋ยววันหลังมีเวลาจะลองหาขอมูลมาครับ แต่คนเมืองเฮาสมัยตะก่อนก่อนับถือเรื่องเป็คอยู่นักเหมือนกั๋นเน๊าะครับ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
ขี้เหล้าอาวุโส
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,062



« ตอบ #37 เมื่อ: วันที่ 03 พฤษภาคม 2013, 13:24:32 »

กราบเรียน  เจ้ากระทู้ หรือ ญาติธรรม
ผม ขอท่าน ช่วยนำเรื่อง ของดี คนเหนือ คือ
เป๊ก วัตถุมงคลธรรมชาติ  มาถ่ายทอด เป็น วิทยาทานด้วยครับ
ไหว้สาธุ  ครับ


ผมก่อบ่าค่อยมีความรู้เรื่องเป๊คเท่าไหร่นะครับ รู้เพียงแต่ว่าเป๊ดทางภาคกลางฮ้องว่าเพชรหน้าทั่ง มีหลายแบบครับ ว่ากันว่าบนดอยที่หนึ่ง(ขอสงวนชื่อ)มีเป๊คอยู่ครับ และมีหมู่บ้่านป่าแห่งหนึ่งก็เป็นแหล่งของเป๊ด แต่เขาหวงแหนจึงสงวนนามครับ เดี๋ยววันหลังมีเวลาจะลองหาขอมูลมาครับ แต่คนเมืองเฮาสมัยตะก่อนก่อนับถือเรื่องเป็คอยู่นักเหมือนกั๋นเน๊าะครับ ยิงฟันยิ้ม
เป๊ก นี่คืออ่ะหยังครับ เหมือนกับขอแหมเป๊กก่อครับ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า

ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #38 เมื่อ: วันที่ 03 พฤษภาคม 2013, 14:01:11 »

  ขอบคุณ ครับ  ท่านสบายแมน
ว่าถึง เป๊ก  มีคน  นครศรีธรรมราช ได้มาสวามิภักดิ์  กับ  พระยาติโลกราช  ราชอาณาจักรล้านนา เรืองอำนาจ  โดย  มี พระบรมไตรโลกนาถ ราชอาณาจักรอยุธยา  เป็น อริ

เจ้า ผู้เป็นใหญ่ ทั้ง สองเมือง  มีความเหมือนกัน ด้วยมี  พระนาม ทั้ง ติโลก กับ  ไตรโลก แปลว่า  สามโลก ด้วยกัน
พระเจ้าติโลกราช  ราชา ผู้เป็นใหญ่ ใน สามโลก      พระเจ้าบรมไตรโลกนาถ ผู้เป็นที่พึ่ง ใน สามโลก  
 ที่มา  ของ  พระนาม  มาจาก  พระนาม พระพุทธเจ้า

ชาวนครศรี  ผู้ได้ มาเป็น ใหญ่ ในราชอาณาจักรล้านนา  ได้เป็น  เจ้าหมื่นคำเป๊ก
ผู้ เป็น  เก๊าเหง้า เจ้าศรัทธาใหญ่  สร้าง  วิหารหลวง หน้าพระธาตุลำปางหลวง  
พระธาตุประจำปีเกิด ของ  คนเกิดปี ฉลู นำวัว

ขอญาติธรรม  จงได้ อนุโมทนา บุญกุศลอานิสงส์ ในวิหารทาน กับ เจ้าหมื่นคำเป๊ก ไปด้วยกัน กับ หนานธง

หาก  เป๊ก  แปลว่า  เพชรหน้าทั่ง   ตามข้อมูล  จาก อาจารย์สบายแมน
เจ้า  ผู้นี้   น่าจะมี ชื่อ ไทยกลางว่า    เจ้าหมื่นทองคำเพชรหน้าทั่ง  

ขอกราบไหว้สาธุ  ขอจงเป็น  วิทยาทาน  ธรรมทาน  สไตล์ สบาย ๆ  
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #39 เมื่อ: วันที่ 03 พฤษภาคม 2013, 17:03:13 »



ผมก่อบ่าค่อยมีความรู้เรื่องเป๊คเท่าไหร่นะครับ รู้เพียงแต่ว่าเป๊ดทางภาคกลางฮ้องว่าเพชรหน้าทั่ง มีหลายแบบครับ ว่ากันว่าบนดอยที่หนึ่ง(ขอสงวนชื่อ)มีเป๊คอยู่ครับ และมีหมู่บ้่านป่าแห่งหนึ่งก็เป็นแหล่งของเป๊ด แต่เขาหวงแหนจึงสงวนนามครับ เดี๋ยววันหลังมีเวลาจะลองหาขอมูลมาครับ แต่คนเมืองเฮาสมัยตะก่อนก่อนับถือเรื่องเป็คอยู่นักเหมือนกั๋นเน๊าะครับ ยิงฟันยิ้ม
เป๊ก นี่คืออ่ะหยังครับ เหมือนกับขอแหมเป๊กก่อครับ ยิ้มกว้างๆ
บ่าใช่เป๊กแบบน๊านนนนน ยิงฟันยิ้ม

“เพชรหน้าทั่ง” มีลักษณะเป็นโลหะผลึกเล็กๆ ฝังอยู่ภายในเนื้อหินตามธรรมชาติคล้ายๆกับเหล็กไหลที่ฝังตัวอยู่ตามผนังถ้ำหรือคล้ายกับปรอทสำเร็จที่ฝังตัวลงในผนังหินตามธรรมชาติก้อนโลหะต่างๆ เหล่านั้นต่างมีลักษณะสัณฐานสี่เหลี่ยมโดยประมารที่เป็นหกหรือแปดเหลี่ยมก็มีมีสีขาวเงินยวงที่ออกเป็นเหลืองครามหรือเขียวปีกแมลงทับก็มีบ้างบางชิ้นก็เป็นสีออกประกายทองหรือทอสีออกเป็นทองแดงเลยก็มี   บางคนเรียก “เหล็กสายฟ้า” อยู่ในตระกูล “อัญมณี” ประกอบด้วยธาตุที่เป็นทองคำและแร่เงินผสมอยู่ด้วยกัน สีจึงออกเหลืองนวลอมทอง อมเงิน และหากโดนปฏิกิริยาทางเคมีก็จะกลายเป็นสีทอง

สำหรับการบูชาเพชรหน้าทั่งเพชรมหามงคลท่านบอกไว้ว่า
ผู้ที่มีเพชรหน้าทั่งไว้บูชาควรใช้ดอกมะลิ บูชา
เมื่อออกจากบ้านไปหาลาภ ไห้ว่าคาถาข้างล่างนี้ 3 จบจะมีลาภปลอดโรคปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง
"จุติ จิตตัง อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ"
      เป็นคำแนะนำการบูชาของดีที่จัดอยู่พวกเครื่องรางของขลังป้องกันตัวประเภทธาตุกายสิทธิ์ โดยธรรมชาติ เพชรหน้าทั่งนอกจากที่เป็นโลหะ  ที่เป็นว่านก็มีเช่นกัน หากผู้มีศีลมีวิชาไปพลีนำมาอย่างถูกต้องแล้วนับเป็นของวิเศษในด้านอยู่ยงคงกระพันอีกประการหนึ่ง
      "เพชรหน้าทั่งนี้เป็นของดีของวิเศษ สามารถป้องกันสัตว์มีพิษ กัดต่อย ประเภทงูเงี้ยวเขี้ยวขอนี้ไว้ใจได้เลยไม่ว่าจะเข้าป่าดงพงไพรที่ใดๆเป็นรับรองว่าไม่มีมาก้าวก่าย"
      "ยิ่งเป็นพวกภูตผีปีศาจหรือคุณไสยมนต์ดำด้วยแล้ว หากมีเพชรหน้าทั่งอยู่กับตัวอย่าได้ไปเกรงกลัวสิ่งนี้จะช่วยคุ้มครอง  ป้องกันได้อย่างแน่นอน"

ที่มาครับ
 
http://www.akefuture.com/know_detail.asp?id=73
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!