เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 25 เมษายน 2024, 01:41:54
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  เรื่องล้านนา ภาษากำเมือง
| | |-+  ใคร...ฟื้นม่าน(ขับไล่พม่า)ให้ล้านนา ??????????
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน ใคร...ฟื้นม่าน(ขับไล่พม่า)ให้ล้านนา ??????????  (อ่าน 2546 ครั้ง)
taekeuk_poomse
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: วันที่ 17 กรกฎาคม 2010, 11:13:22 »

ใคร...ฟื้นม่าน(ขับไล่พม่า)ให้ล้านนา


เหตุการณ์เมื่อ พ.ศ.2347 : ใครฟื้นม่านให้ล้านนา

เชียงแสนเมืองแสนศึก

ประวัติศาสตร์ในโรงเรียนได้ปลูกฝังความรู้และความรู้สึกนึกคิดให้เรามาตลอดว่า พระมหากษัตริย์ที่เป็นผู้ขับไล่พม่าให้ดั้นด้นระหกระเหินออกจากแผ่นดินไทยคือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชในสมัยอยุธยาและสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในสมัยกรุงธนบุรี ซึ่งก็มีส่วนถูกอยู่บ้าง เพราะสมัยพระนเรศวรขับไล่พม่าออกจากดินแดนล้านนาได้ประมาณ 20 กว่าปี พม่าก็กลับมามีอำนาจเหนือล้านนาอีก และสมัยพระเจ้าตากสินนั้นได้ให้ความร่วมมือกับกองทัพล้านนาขับไล่พม่าออกจากเชียงใหม่ แต่การขับไล่อำนาจพม่าให้ออกจากแผ่นดินไทยอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดนั้น เกิดขึ้นในปี พ.ศ.2347 และเกิดขึ้นในเมืองเชียงแสน ซึ่งหากจะนับกันจริงๆ แล้ว เชียงแสนเมืองแสนศึกนี้ เพิ่งจะมีความสงบสุขมาเพียง 200 กว่าปี เท่านั้น

ก่อนหน้านี้เมืองเชียงแสนแทบจะไม่มีความสงบสุขเป็นเวลานานๆ เลยเพราะเป็นเมืองที่ล้านนาถือเป็นเมืองหลวงเก่าก่อนสถาปนาเมืองเชียงใหม่ เมืองเชียงแสนเป็นเมืองชัยภูมิที่สำคัญ กษัตริย์ล้านนาหลังรัชสมัยพญามังรายหลายพระองค์ได้มาประทับอย่างถาวร เป็นเมืองที่พม่าให้ความสำคัญมาเป็นที่มั่นสุดท้ายของพม่า บางช่วงเวลาพม่าจะส่งเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินพม่ามาปกครอง และบางช่วงเมืองเชียงแสนขึ้นตรงต่อเมืองหงสาวดีไม่ขึ้นกับเมืองเชียงใหม่ซึ่งก็เป็นเมืองขึ้นพม่าอีกเมืองหนึ่งแสดงให้เห็นว่าเชียงแสนเป็นเมืองที่มีความสำคัญเทียบเท่าเมืองเชียงใหม่ บางช่วงลาวและจีน มีความประสงค์จะขยายขอบเขตประเทศต่างก็มุ่งยึดเชียงแสน เมืองเชียงแสนต้องรบกับกองทัพของพม่า ,ลาว ,จีน ,ไทยสยาม รวมทั้งคนไท-ยวนล้านนาด้วยกันเองด้วย เมืองเชียงแสนจึงเป็นเมืองแสนศึกอย่างแท้จริง

2347 : ใครฟื้นม่านในล้านนา

ล้านนานั้นเป็นเมืองขึ้นของพม่ามาตั้งแต่สมัยพระเจ้าบุเรงนอง (พ.ศ.2110) จนถึง พ.ศ.2317 ในสมัยพระเจ้าตากสิน ที่ผู้นำล้านนาในยุคนั้น คือ พญาจ่าบ้านและพระเจ้ากาวิละไปสวามิภักดิ์กับไทยสยาม และร่วมกันขับไล่พม่าออกไปจากเชียงใหม่ แต่พม่ายังคงมีอำนาจในเมืองเชียงแสนอยู่เป็นช่วงๆ ปฏิกิริยาที่คนยวนต้องการเป็นอิสระจากพม่านั้น ในบันทึกของคนยวนเรียกว่า “ ฟื้นม่าน ” ซึ่งนับตั้งแต่ล้านนาเสียเอกราชก็มีหลักฐานว่ามีการฟื้นม่านในหลายเมือง เช่น พ.ศ.2138 เมืองน่านฟื้นม่าน , พ.ศ.2143 เชียงรายฟื้นม่าน , พ.ศ.2157 เมืองลำปางฟื้นม่าน, พ.ศ.2167 เชียงของฟื้นม่าน การฟื้นม่านแต่ละเมืองเป็นการฟื้นม่านในลักษณะที่ต่างเมืองต่างทำไม่มีการร่วมมือกันเพื่อสถาปนารัฐแบบสร้างอาณาจักรแทนอาณาจักรล้านนา เป็นสภาวะที่บ้านแตกสาแหรกขาด บ้านเมืองระส่ำระสาย ซึ่งต่างเมืองต่างเอาตัวรอด ล้านนาจึงอ่อนแอลง ถึงแม้ว่ากองทัพไทยสยามและไท-ยวนจะร่วมกันขับไล่กองทัพพม่าออกจากเชียงใหม่ได้ในปี พ.ศ.2317 แต่อำนาจของพม่าก็ยังมีอำนาจอยู่อีก 30 ปีต่อมาจึงขับล้างอำนาจพม่าได้สำเร็จ

ในสงครามขับไล่พม่าใน พ.ศ.2347 นั้นกองทัพฝ่ายไทยสยามประกอบด้วยทัพหลวงนำโดย กรมหลวงเทพหริรักษ์ และกองทัพไท-ยวนประกอบด้วยกองทัพเมืองเชียงใหม่ , ลำปาง, และน่าน ยกทัพไปล้อมเชียงแสนเดือนเศษ ในบันทึกกล่าวว่าทหารกองทัพไทยสยามผิดน้ำ ผิดอากาศล้มตายเป็นอันมาก จึงยกทัพกลับ คงเหลือแต่ทัพล้านนา 3 เมือง ล้อมเมืองเชียงแสนอยู่ชาวเมืองเชียงแสนอดอยาก

ประกอบกับมีเจ้าเมืองเทิง และ เจ้าเมืองเชียงของ ชื่อ เจ้าอก เป็นผู้ฆ่าทหารพม่าที่รักษาประตูดินขอ แล้วเปิดประตูเมืองรับกองทัพล้านนา กองทัพล้านนา 3 เมือง จึงตีเมืองเชียงแสนแตกและขับไล่อำนาจพม่าออกไป จากนั้นเป็นต้นมาพม่าก็ไม่ได้มีอำนาจเหนือดินแดนไทยอีกเลยจึงแม้จะยกทัพมารุกรานบ้างบางครั้งแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ


ผลจากสงครามเมืองเชียงแสนถูกกวาดต้อนชาวเมืองทั้งหมด 23,000 คนเศษไปอาศัยตามเมืองเชียงใหม่ ลำปาง แพร่และน่าน ในคัมภีร์ใบลานคำเมืองพื้นเมืองเชียงราย เชียงแสน ฉบับวัดเมธังกราวาส บันทึกเหตุการณ์ไว้ว่า “ สักกราชได้ 1166 ตัว ปีกาบไจ้ เดือน 7 เชียงใหม่ ลคอร เมืองน่าน ยกกำลังขึ้นมาแวดเวียงเชียงแสน เถิงเดือน 9 ออก 5 ค่ำ เชียงของ เทริง เจ้าอกเป็นเค้า ชาวเชียงของ เทริง ทังมวลเป็นไฟในไขปะตูเวียง พาเอาลคอร เชียงใหม่ เมืองน่าน เข้าเผาเวียงได้แล้ว เถิงเดือน 9 เพ็ง ก็เอาตัวไพร่ไทยชาวเชียงแสนทังมวล ลงมาขับปัดนับเสี้ยง บ่ค้างสักคน ” และคัมภีร์ใบลานอีกชิ้นหนึ่งคือ คำมะเกล่าเมืองเชียงแสน บันทึกไว้ว่า “ เมื่อนั้นเจ้าอกอันเปนชาติเชื้อเมืองเชียงของนั้นเป็นไฟใน ก็ตามลูกน้องอันรู้อยู่รักสาปะตูตายเสี้ยงแล้ว ก็ไขปะตูดินขอเอาเสิก็เข้าเวียงเดือน 9 ปฐม ออก 8 ค่ำ วัน 5 ไทยรวายสัน ยามสายฟ้ายก เมืองเชียงแสนแตกเสี้ยงปางสุด โป่ซุกม่านก็พ่ายหนีออกเวียงไปแล เพิ่นบ่ทันได้ตัวแล เพิ่นได้ตัวโมยหงวร นาขวาลูกเมียไพร่ไทยทั้งมวล ลงไปเชียงใหม่ ลคอร แพล่ น่านนับเสี้ยง ยังค้างแต่ดินกับน้ำแล ”

จากเอกสารที่ยกมาแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ผู้ที่ฟื้นม่านที่แท้ก็คือชาวล้านนา มีชาวเมืองเชียงใหม่ ชาวลคอรลำปาง และชาวเมืองน่าน เป็นผู้ล้อมเมืองมีผู้เปิดประตูเวียงรับก็คือ เจ้าอก เจ้าเมืองเชียงของและเจ้าเมืองเทิง ดังนั้นผู้ฟื้นม่านแท้จริงก็คนเมือง ไท-ยวนของเรานั่นเอง

อ้างอิง

สรัสวดี อ๋องสกุล ประวัติศาสตร์ล้านนา เชียงใหม่ : สำนักพิมพ์อัมรินทร์ ,พิมพ์ครั้งที่ 2 ,2539.

สรัสวดี อ๋องสกุล ประชุมพงศาวดารฉบับราษฎร์ ภาคที่ 4 พื้นเมืองเชียงแสน : สำนักพิมพ์

[wma=300,50]http://files.myopera.com/rc211-v/files/kavila.mp3[/wma]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 18 กันยายน 2010, 22:11:10 โดย บ่าวสองเมือง(เจียงใหม่-น่าน) » IP : บันทึกการเข้า
เทพบุตรดาวเหนือ เคนชิโร่
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,614


เฮาจะฮักคนที่ฮักเฮา@^__^@


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 17 กรกฎาคม 2010, 11:30:35 »

ขอบคุณครับ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

ขายปลีกและส่ง
       - Micro SD Card,Flash Drive ยี่ห้อKingston Sandisk Apacer
       - Power Bank ,สายชาร์ท สายซิงค์ทุกรุ่น
       - ลำโพงกระป๋อง ,ลำโพงรถ
ล้อล้านนา
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 444


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 17 กรกฎาคม 2010, 15:24:42 »

เป็นเช่นนี้ครับ กองทัพกรุงรัตนโกสินทร์ ไม่ได้มีบทบาทในการสงครามครั้งนี้แม้กระทั่งนายเดียว เพราะทนอยู่ไม่ได้ผิดอากาศ แต่ประวัติศาสตร์เขียนจนได้ดีไปเต็มๆ หากเราย้อนมองจะพบว่ายุคนั้นความรักชาติของล้านนามีเต็มเปี่ยม แต่ด้วยพิษสงครามและการปกครองที่ล้มเหลวในคราวล่มสลายทำให้ล้านนาลุกขึ้นสู้อย่างยากลำบาก เพราะถูกเกณฑ์ผู้มีฝีมือ มีสติปัญญา ไปไหว้พม่าหมด ก็ได้จังหวะของกองทัพกรุงธนบุรีที่ลุกขึ้นสู้พม่าได้แล้วเข้ามามีบทบาทกับล้านนา แต่สภาพอากาศและความกดอากาศไม่เหมือนกันจึงเจ็บป่วยล้มตายไปจำนวนมาก ที่เหลือเลยตัดสินใจถอยทัพกลับ แต่ล้านนาไม่ได้ติดใจและรวมกลุ่มกันสู้ต่อจนสำเร็จ ฉะนั้นสงครามครั้งนี้จึงถือว่าเป็นการฟื้นม่านของคนล้านนาแต่เพียงผู้เดียว แต่คงจะมีไม่น้อยที่จะติดใจว่าคนกองทัพลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นผู้มีบุญคุณ แต่อย่างว่าครับ หลักฐานต่างๆ ก็ถูกทำลายเสียจนแทบไม่เหลือ เราจึงมีข้อมูลได้เท่านี้...
IP : บันทึกการเข้า
เมือง_ คนเจียงฮาย
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 158



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 28 กรกฎาคม 2010, 09:35:30 »

ก็มานั่งกึ๊ดอยู่ว่า ถ้าหากคนเหล่านั้นมีอยู่จริงผมหมายถึงตี้เปิ้น ต่อสู้อยู่กับเมืองเจียงแสน เจียงฮาย มาตลอด ถูกกวาดต้อนไปบ้านอื่น เมืองอื่น เปิ้นก็น่าจะกึ๊ดถึงบ้านเมือง ต๋ายไปแล้วก็น่าจะปิ๊กมาเกิด เป็นลูกเป็นหลานคนบ้านเฮานี้ เอาะละก็อาจจะเป๋นหมู่เฮา ตี้อักบ้าน ฮักเมืองเจียงฮายนี้ อันนี้เป๋นกำกึ๊ดผมคนเดียวบ่าดายเน่อ นับแต่นี้ก็เหลือหมู่เฮาลูกหลาน ว่าจะเยียะจะไดต่อ เพื่อรำลึกนึกถึง บรรพบุรุษ ล้านนาเฮา ร้องไห้
IP : บันทึกการเข้า

จงฝืนกระแสแห่งใจที่ไหลลงต่ำในทุกเวลาเถิด ฮักห้วยน้ำฮาก
วันนี้..ต้องดีกว่าเมื่อวาน
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,210



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 28 กรกฎาคม 2010, 10:49:47 »

ขอบคุณบรรพบุรุษของเฮา..ตี้เสียเลือดเสียเนื้อ ปกป้องหมู่เฮามา...
เฮาก้อบ่ดีลืมตี้จะฮัก..และสามัคคีกันเน้อเจ้า.. ยิ้มเท่ห์
IP : บันทึกการเข้า
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 28 กรกฎาคม 2010, 22:06:06 »

ถึงกองทัพสยามจะไม่ช่วยฟื้นม่านก็ไม่เห็นเป็นไรนิครับ
ผมว่าชาวสยามใจดีนะ โดยเฉพาะกับล้านนา
ขนาดล้านนาไปช่วยพม่ารุมกระทืบอยุธยาทั้ง 2 ครั้ง (โดนเกณฑ์ไปอ่ะ)
สยามประเทศยังไม่ว่าอะไรเลย
นอกจากนี้ ล้านนาคงไม่เจริญหากไม่ได้สยาม เผลอๆตอนนี้อาจไปรวมกับพม่าก็ไม่รู้

ดังนั้น พวกเราควรซาบซึ้งในบุญคุณของแผ่นดินสยามนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 28 กรกฎาคม 2010, 22:41:50 โดย เชียงรายพันธุ์แท้ » IP : บันทึกการเข้า
ละอ่อนโบราณ
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,466



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 05 สิงหาคม 2010, 10:05:06 »

มาร่วมรับรู้  ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า

..............
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!