ลูกชายเรียนในเมืองค่ะ โรงเรียนเอกชนชื่อดังด้วยอยู่ชั้นอนุบาล วัยกำลังพูดเก่งกำลังเรียนรู้ ชอบพูด ชอบถาม ลูกชายไม่ชอบอยู่นิ่งๆค่ะ เป็นเด็กไฮเปอร์ ชอบเดิน ชอบวิ่ง กระโดดโลดเต้นตามประสาเด็กๆ ช่วงปีแรกที่ลูกไปโรงเรียนนี้จะชอบมาก ตื่นแต่เช้าไปเรียนทุกวัน พอเข้าช่วงปีที่สองซึ่งต้องเปลี่ยนห้องเรียน เปลี่ยนครูประจำชั้นและครูพี่เลี้ยง แรกๆลูกก็ไปค่ะ แต่ช่วงนี้ลูกจะงอแง บ่นไม่อยากไปโรงเรียน พอกลับจากโรงเรียนลูกก็จะบอกว่า ครูตีบ้าง ครูพี่เลี้ยงขังไว้ในห้องบ้าง อยากไปโรงเรียนใหม่ ยิ่งช่วงเช้าลูกจะกอดแม่แล้วบอกว่าอยากอยู่บ้านกับแม่ ทั้งๆที่เราไม่เคยตามใจลูกเลยค่ะ มีครั้งนึงน้องสาวเป็นคนพาหลานไปส่งแล้วก็ให้เงิน ซึ่งเป็นเงินจำนวนไม่มาก แต่พอกลับจาก โรงเรียนลูกชายรีบฟ้องแม่ บอกว่า ครูพี่เลี้ยงเอาเงินของเขาไป และมีอีกหลายเหตุการณ์มาก ที่โรงเรียนแห่งนี้ก็ไม่ทราบว่าเขาดูแลเด็กแบบไหน เนื่องด้วยที่ว่าเขาก็ยังเด็ก อาจจะดื้อ ซน พูดไม่รู้เรื่อง เคยเขียนข้อความไปสอบถามแต่ทางครูผู้ดูแลโทรกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
ป.ล เด็กยังไงก็คือเด็กแล้วเราก็เชื่อว่าเด็กตัวเล็กๆ โกหกไม่เป็น
อันที่จริงการปรึกษาถึงเรื่องปัญหาต่างๆ น่าจะพบกับคุณครูโดยตรงเพื่อจะได้คุยปัญหาได้ละเอียด การนำลูกเข้าสู่ประตูโรงเรียนอนุบาลคือให้ลูกเรียนรู้การอยู่ร่วมกับผู้อื่น
เรียนรู้ระเบียบของสังคมเพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาเมื่อย่างเข้าสู่วัยเรียนรู้ทางด้านวิชาการโดยมีคุณครูเป็นผู้ดูแลสั่งสอนและเราซึ้งเป็นพ่อแม่มีหน้าที่ช่วยดูแล
หากลูกมีปัญหาต้องช่วยกันคะปัญหาทุกเรื่องมีที่มาที่ไปแก้ได้คะ
อยู่ที่ว่าเราตั้งใจจะแก้หรือเปล่าแก้เป็นเรื่องๆเป็นวันๆไปคะ
อย่าเหมาว่าเป็ความผิดของครูโดยที่ยังไม่ได้อธิบายเหตุและผลความเป็นจริง
ให้ลูกเข้าใจเพราะนั้นจะส่งผลต่อลูกเราภายหน้า
หากเขาไม่ชอบครูคนใหนเขาก็จะไม่เข้าเรียนวิชานั้นซึ่งเป็นปัญหาที่แก้ยากภายหน้าคะ
แต่ถ้าหากเราทำหน้าที่เราแล้วแต่ครูยังเฉยก็ต้อง ผอ ละคะเราเสียเงินแล้วนี่คะ
ไม่ว่าวิธีใหนก็ต้องคำนึงถึงเด็กเป็นทีตั้ง
สู้ๆนะคะคุณแม่