เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 มีนาคม 2024, 01:08:21
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ⒷⒼ*, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  คนเจียงฮายเฮาพร้อมก่อคับ ประชาคมเศรษฐกิจอาเชี่ยน(AEC) 2558 มาแจมกันครับ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 3 4 [5] พิมพ์
ผู้เขียน คนเจียงฮายเฮาพร้อมก่อคับ ประชาคมเศรษฐกิจอาเชี่ยน(AEC) 2558 มาแจมกันครับ  (อ่าน 18525 ครั้ง)
x-men
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 569



« ตอบ #80 เมื่อ: วันที่ 30 สิงหาคม 2012, 22:09:46 »

พร้อมตั้งนานแล้วล่ะ
IP : บันทึกการเข้า
!DeePack!
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,109


« ตอบ #81 เมื่อ: วันที่ 31 สิงหาคม 2012, 07:39:53 »

ดินหน้าสานฝันคลอดม้าเหล็กเชียงราย

การรถไฟแห่งประเทศไทย เตรียมจัดประชุมใหญ่การมีส่วนร่วมของประชาชนครั้งที่ 2 (สรุปผลการศึกษาโครงการ) ตามโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ ที่จังหวัดพะเยา นายจเร รุ่งฐานีย วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ในฐานะประธานกรรมการบริหารโครงการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ให้เป็นผู้ดำเนินการศึกษาทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ โดยได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 ที่ผ่านมา จากนั้นกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาจะจัดให้มีการประชุมใหญ่การมีส่วนร่วมของประชาชนครั้งที่ 2 (สรุปผลการศึกษาโครงการ) เพื่อนำเสนอสรุปผลการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ รวมทั้งมาตรการในการป้องกัน แก้ไข และบรรเทาผลกระทบ ตลอดจนเพื่อหารือและรับฟังความคิดเห็นต่อประเด็นผลการศึกษาของโครงการ เพื่อนำไปพิจารณาประกอบในการปรับปรุงการศึกษาของโครงการ ให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ดังนั้น ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงได้กำหนดประชุมใหญ่การมีส่วนร่วมของประชาชนครั้งที่ 2 (สรุปผลการศึกษาโครงการ) โครงการเพื่อศึกษาทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสมฯ ของโครงการ ก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ ในวันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน 2555 เวลา 09.00 – 12.00 น. ณ ห้องประชุมพุดตาน โรงแรมพะเยาเกทเวย์ อำเมือง จังหวัดพะเยา จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมทำประชาพิจารณ์ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการกระจายโอกาสให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและมีส่วนได้เสีย ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการศึกษาในทุกขั้นตอน

เชียงใหม่นิวส์
ขอบคุณครับ โก ที่มาแจมกัน ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
ต่อครับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
-การค้าขายบริเวณชายแดนจะคึกคักอย่างมากมายเนื่องจาก ด่านศุลกากรชายแดนอาจมีบทบาทลดน้อยลงมาก แต่จะมีปัญหาเรื่องยาเสพติด และปัญหาสังคมตามมามากมาย
-เมืองไทยจะไม่ขาดแรงงานที่ไร้สกิลอีกต่อไป เพราะแรงงานจะเคลื่อนย้ายเสรี จะมีชาวพม่า ลาว กัมพูชา เข้ามาทำงานในไทยมากขึ้น แต่คนเหล่านี้ก็จะมาแย่งงานคนไทยบางส่วนด้วยเช่นกัน และจะยังมีปัญหาสังคม อาชญากรรมจะเพิ่มขึ้นอีกด้วย อันนี้รัฐบาลควรร
ะวัง

(เครดิตกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ)
ถ้าอย่างนี้ก็แสดงว่าจะไม่มีคำว่าแรงงานต่างด้าวแล้วเหรอครับ เข้ามาทำงานแบบเสรีด้วยเปล่าครับ ช่วยตอบที
IP : บันทึกการเข้า
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,112


« ตอบ #82 เมื่อ: วันที่ 31 สิงหาคม 2012, 08:10:00 »

ดินหน้าสานฝันคลอดม้าเหล็กเชียงราย

การรถไฟแห่งประเทศไทย เตรียมจัดประชุมใหญ่การมีส่วนร่วมของประชาชนครั้งที่ 2 (สรุปผลการศึกษาโครงการ) ตามโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ ที่จังหวัดพะเยา นายจเร รุ่งฐานีย วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ในฐานะประธานกรรมการบริหารโครงการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ให้เป็นผู้ดำเนินการศึกษาทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ โดยได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 ที่ผ่านมา จากนั้นกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาจะจัดให้มีการประชุมใหญ่การมีส่วนร่วมของประชาชนครั้งที่ 2 (สรุปผลการศึกษาโครงการ) เพื่อนำเสนอสรุปผลการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ รวมทั้งมาตรการในการป้องกัน แก้ไข และบรรเทาผลกระทบ ตลอดจนเพื่อหารือและรับฟังความคิดเห็นต่อประเด็นผลการศึกษาของโครงการ เพื่อนำไปพิจารณาประกอบในการปรับปรุงการศึกษาของโครงการ ให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ดังนั้น ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงได้กำหนดประชุมใหญ่การมีส่วนร่วมของประชาชนครั้งที่ 2 (สรุปผลการศึกษาโครงการ) โครงการเพื่อศึกษาทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสมฯ ของโครงการ ก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ ในวันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน 2555 เวลา 09.00 – 12.00 น. ณ ห้องประชุมพุดตาน โรงแรมพะเยาเกทเวย์ อำเมือง จังหวัดพะเยา จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมทำประชาพิจารณ์ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการกระจายโอกาสให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและมีส่วนได้เสีย ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการศึกษาในทุกขั้นตอน

เชียงใหม่นิวส์
ขอบคุณครับ โก ที่มาแจมกัน ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
ต่อครับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
-การค้าขายบริเวณชายแดนจะคึกคักอย่างมากมายเนื่องจาก ด่านศุลกากรชายแดนอาจมีบทบาทลดน้อยลงมาก แต่จะมีปัญหาเรื่องยาเสพติด และปัญหาสังคมตามมามากมาย
-เมืองไทยจะไม่ขาดแรงงานที่ไร้สกิลอีกต่อไป เพราะแรงงานจะเคลื่อนย้ายเสรี จะมีชาวพม่า ลาว กัมพูชา เข้ามาทำงานในไทยมากขึ้น แต่คนเหล่านี้ก็จะมาแย่งงานคนไทยบางส่วนด้วยเช่นกัน และจะยังมีปัญหาสังคม อาชญากรรมจะเพิ่มขึ้นอีกด้วย อันนี้รัฐบาลควรร
ะวัง

(เครดิตกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ)
ถ้าอย่างนี้ก็แสดงว่าจะไม่มีคำว่าแรงงานต่างด้าวแล้วเหรอครับ เข้ามาทำงานแบบเสรีด้วยเปล่าครับ ช่วยตอบที

ไม่เสรี ครับ มีอาชีพเสรี 7 อาชีพ ที่เปิดการค้าเสรี อาเซียน  เช่น หมอ พยาบาล วิศวะ สถาปนิก ฯลฯ  เป็นวิชาชีพ...

แรงงานต่างด้าว...ก็ยังคงมี การรวมกลุ่มอาเซียน เป็นการร่วมมือเศรษฐกิจ และสังคมวัฒนธรรม

ส่วนเรื่อง การเมือง เรายังไม่รวมกลุ่มเป็นประเทศ มีกฎหมายธรรมนูญใช้ร่วมกัน..

ประวัติศาสตร์โลก แม้แต่ EU ก็ยังไม่บรรลุ นี้ เพราะทุกประเทศล้วนห่วงอธิปไตยของตนเอง..

คำว่าแรงงานต่างด้าว ในส่วนมุมมองส่วนตนยังคิดว่ามีอยู่...เพราะยังไม่ก้าวล่วงถึงตรงจุดนี้...ประเทศทุกประเทศยังมีอธิปไตยของตนเอง

ตอนนี้ ในสหภาพยุโรปเขา มีการใช้สกุลเงินเดียวกัน..วิซ่ายูโร และการเคลื่อนย้ายทุนเสรี

ส่วนอาเซียน จะเคลื่อน ย้าย ทุน การผลิต และแรงงานเสรี ใน 7 หรือ 8 วิชาชีพในเบื้องต้น...

ตอนนี้ ผมกำลังตามเก็บเวที สัมมนา ต่างๆ ใน กทม. มีจัดบ่อยๆ ไว้จะทยอยมาลงนะครับ..



IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
!DeePack!
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,109


« ตอบ #83 เมื่อ: วันที่ 31 สิงหาคม 2012, 08:26:06 »

ดินหน้าสานฝันคลอดม้าเหล็กเชียงราย

การรถไฟแห่งประเทศไทย เตรียมจัดประชุมใหญ่การมีส่วนร่วมของประชาชนครั้งที่ 2 (สรุปผลการศึกษาโครงการ) ตามโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ ที่จังหวัดพะเยา นายจเร รุ่งฐานีย วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ในฐานะประธานกรรมการบริหารโครงการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ให้เป็นผู้ดำเนินการศึกษาทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ โดยได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 ที่ผ่านมา จากนั้นกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาจะจัดให้มีการประชุมใหญ่การมีส่วนร่วมของประชาชนครั้งที่ 2 (สรุปผลการศึกษาโครงการ) เพื่อนำเสนอสรุปผลการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ รวมทั้งมาตรการในการป้องกัน แก้ไข และบรรเทาผลกระทบ ตลอดจนเพื่อหารือและรับฟังความคิดเห็นต่อประเด็นผลการศึกษาของโครงการ เพื่อนำไปพิจารณาประกอบในการปรับปรุงการศึกษาของโครงการ ให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ดังนั้น ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงได้กำหนดประชุมใหญ่การมีส่วนร่วมของประชาชนครั้งที่ 2 (สรุปผลการศึกษาโครงการ) โครงการเพื่อศึกษาทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสมฯ ของโครงการ ก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ ในวันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน 2555 เวลา 09.00 – 12.00 น. ณ ห้องประชุมพุดตาน โรงแรมพะเยาเกทเวย์ อำเมือง จังหวัดพะเยา จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมทำประชาพิจารณ์ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการกระจายโอกาสให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและมีส่วนได้เสีย ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการศึกษาในทุกขั้นตอน

เชียงใหม่นิวส์
ขอบคุณครับ โก ที่มาแจมกัน ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
ต่อครับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
-การค้าขายบริเวณชายแดนจะคึกคักอย่างมากมายเนื่องจาก ด่านศุลกากรชายแดนอาจมีบทบาทลดน้อยลงมาก แต่จะมีปัญหาเรื่องยาเสพติด และปัญหาสังคมตามมามากมาย
-เมืองไทยจะไม่ขาดแรงงานที่ไร้สกิลอีกต่อไป เพราะแรงงานจะเคลื่อนย้ายเสรี จะมีชาวพม่า ลาว กัมพูชา เข้ามาทำงานในไทยมากขึ้น แต่คนเหล่านี้ก็จะมาแย่งงานคนไทยบางส่วนด้วยเช่นกัน และจะยังมีปัญหาสังคม อาชญากรรมจะเพิ่มขึ้นอีกด้วย อันนี้รัฐบาลควรร
ะวัง

(เครดิตกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ)
ถ้าอย่างนี้ก็แสดงว่าจะไม่มีคำว่าแรงงานต่างด้าวแล้วเหรอครับ เข้ามาทำงานแบบเสรีด้วยเปล่าครับ ช่วยตอบที

ไม่เสรี ครับ มีอาชีพเสรี 7 อาชีพ ที่เปิดการค้าเสรี อาเซียน  เช่น หมอ พยาบาล วิศวะ สถาปนิก ฯลฯ  เป็นวิชาชีพ...

แรงงานต่างด้าว...ก็ยังคงมี การรวมกลุ่มอาเซียน เป็นการร่วมมือเศรษฐกิจ และสังคมวัฒนธรรม

ส่วนเรื่อง การเมือง เรายังไม่รวมกลุ่มเป็นประเทศ มีกฎหมายธรรมนูญใช้ร่วมกัน..

ประวัติศาสตร์โลก แม้แต่ EU ก็ยังไม่บรรลุ นี้ เพราะทุกประเทศล้วนห่วงอธิปไตยของตนเอง..

คำว่าแรงงานต่างด้าว ในส่วนมุมมองส่วนตนยังคิดว่ามีอยู่...เพราะยังไม่ก้าวล่วงถึงตรงจุดนี้...ประเทศทุกประเทศยังมีอธิปไตยของตนเอง

ตอนนี้ ในสหภาพยุโรปเขา มีการใช้สกุลเงินเดียวกัน..วิซ่ายูโร และการเคลื่อนย้ายทุนเสรี

ส่วนอาเซียน จะเคลื่อน ย้าย ทุน การผลิต และแรงงานเสรี ใน 7 หรือ 8 วิชาชีพในเบื้องต้น...

ตอนนี้ ผมกำลังตามเก็บเวที สัมมนา ต่างๆ ใน กทม. มีจัดบ่อยๆ ไว้จะทยอยมาลงนะครับ..




ขอบคุณครับ
IP : บันทึกการเข้า
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,112


« ตอบ #84 เมื่อ: วันที่ 31 สิงหาคม 2012, 19:23:52 »

กต.เปิดแล้ว สำนักงานเชียงรายรับเมืองหน้าด่านเออีซี

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   31 สิงหาคม 2555


เชียงราย - กระทรวงการต่างประเทศ เตรียมเปิดสำนักงานการต่างประเทศที่เชียงรายแล้ว กำหนดเริ่มตัดริบบิ้นให้บริการจันทร์หน้า (3 ก.ย.) รับเมืองหน้าด่านประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
       
       รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า กระทรวงการต่างประเทศมีกำหนดเปิดสำนักงานการต่างประเทศเชียงราย เพื่อให้บริการออกหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ต เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในเชียงราย และจังหวัดใกล้เคียง ในวันจันทร์ที่ 3 ก.ย. 55 นี้ โดยพิธีเปิดจะมีขึ้นในเวลา 10.45 น. ณ หอประชุมอาคารคชสาร ศูนย์บูรณาการการเรียนรู้และนันทนาการ สนามกีฬากลาง อ.เมือง จ.เชียงราย
       
       นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย เปิดเผยว่าเชียงรายเป็นจังหวัดที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน นอกจากนี้ยังเป็นจังหวัดที่มีแรงงานไทยเดินทางไปทำงานต่างประเทศจำนวนมาก และมีแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมเข้าสู่สมาคมอาเซียนในปี 2558 ดังนั้น อบจ.ชียงราย ร่วมกับกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ จึงได้เปิดสำนักงานการต่างประเทศเชียงราย ณ อาคารนันทนาการดังกล่าว
       
       โดยในวันที่ 3 ก.ย. 55 ทางนายนาวิน บุญเสรฐ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ,นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย, นายประสิทธิพร เวชประสิทธิ์ รองอธิการบดีกรมการกงสุล และตน จะร่วมกันเปิดสำนักงานฯ อย่างเป็นทางการ จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปใช้บริการได้ทันที
       
       อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ยังถือเป็นการใช้อาคารชั่วคราว จากนั้นทางสำนักงานฯ จะย้ายไปประจำเป็นการถาวรเมื่อมีการเปิดใช้สำนักงาน อบจ.เชียงราย บริเวณแยกป่าแดง ต.ริมกก อ.เมือง ต่อไป
       
       รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ ใน จ.เชียงราย ทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น หอการค้า สมาคมท่องเที่ยว สภาอุตสาหกรรม ฯลฯ ต่างเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐบาล จัดตั้งสถานกงสุลหรือสำนักงานของสถานกงสุล ที่เชียงราย เพื่อเชื่อมกับ สปป.ลาว พม่า และโดยเฉพาะจีนตอนใต้ เนื่องจากมีภูมิศาสตร์เชื่อมกับประเทศลุ่มน้ำโขง และสะพานเชื่อมถนนอาร์สามเอไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ กำลังแล้วเสร็จในปี 2556 นี้ด้วย


http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9550000107179
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
chate
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,023


« ตอบ #85 เมื่อ: วันที่ 31 สิงหาคม 2012, 19:45:08 »

พร้อมตั้งนานแล้วล่ะ
คนไทยใจเย็นๆ ปล่อยประเทศอื่นเขาพร้อมไปก่อน ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,112


« ตอบ #86 เมื่อ: วันที่ 07 กันยายน 2012, 21:44:10 »

เชียงรายจัดแสดงสินค้าภาคเหนือ-จีเอ็มเอส เตรียมรับ AEC

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   7 กันยายน 2555

เชียงราย - กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบนจัดแสดงสินค้าจังหวัดภาคเหนือตอนบนเขต 2 ระบุมีผู้ร่วมแสดงสินค้ากว่า 500 บูท คาดหวังงานนี้จะมีผู้ประกอบการลุ่มน้ำโขงเข้าร่วมเพียบ
       
       นายเฉลิมพล พงษ์ฉบับนภา พาณิชย์จังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า เนื่องจากในปี 2558 จะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การกำหนดแผนโครงการของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน จึงได้มีโครงการจัดแสดงสินค้าจังหวัดภาคเหนือตอนบน เขต 2 ได้แก่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน และประเทศในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) ได้แก่ ไทย จีน ลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม ขึ้น ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จาก 17 จังหวัดภาคเหนือได้ให้ความร่วมมือกัน รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เพื่อให้งานมีความยิ่งใหญ่ โดยกำหนดจัด “งานแสดงสินค้าภาคเหนือและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 2555” ระหว่างวันที่ 18-23 ก.ย. 55 ตั้งแต่เวลา 11.00-23.00 น. ณ ลานสนามบินทหารอากาศ ฝูงบิน 416 (สนามบินเก่า) อ.เมือง จ.เชียงราย
       
       ภายในงานจะมีการจัดแสดงสินค้ากว่า 500 บูท จาก 17 จังหวัดภาคเหนือ และ 6 ประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงเข้าร่วมงาน ซึ่งแบ่งออกเป็นกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 300 บูท กลุ่มของสำนักงานพาณิชย์ 17 จังหวัดภาคเหนือ 200 บูท และเพิ่มเติมกลุ่มของประเทศจากอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงอีก 60 บูท และยังมีกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การแสดงและจำหน่ายสินค้า SME สินค้าเศรษฐกิจสร้างสรรค์จากภูมิปัญญาชาวบ้าน สินค้าเกษตรปลอดสรพิษ สินค้าสิ่งบงชี้ทางภูมิศาสตร์ เช่น สับปะรด ชา กาแฟ และสินค้าจากประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง แยกเป็นโซนแต่ละประเทศ นอกจากนั้นยังมีบูทของจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศจังหวัดละ 1 บูทเข้ามาร่วมด้วย
       
       นายเฉลิมพลกล่าวอีกว่า นอกจากการแสดงและการจำหน่ายสินค้าดังกล่าวแล้วยังมีกิจกรรมการประชุมสัมมนาทางวิชาการในวันที่ 18 ก.ย.เรื่องกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงด้านลอจิสติกส์ ทิศทางการเชื่อมโยงประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยจะมีการพบปะกันของผู้ประกอบการจากไทยและอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และ 17 จังหวัดภาคเหนือ และวันที่ 19 ก.ย.จะเป็นพิธีเปิดงานในช่วงเย็นโดยมีกิจกรรมภาคบันเทิงที่มีเหล่าศิลปินจากค่ายดังมาร่วมแสดง เช่น เวสป้า, วิด ไฮเปอร์, บลูเบอร์รี่, เหินฟ้า หน้าเลื่อม, ณัฐ กิติสาร และเอเซียร์ พร้อมกันนี้ยังมีการกำหนดพิธีการลงนามเพื่อจัดทำสินค้าต้นแบบภายในสิ้นเดือน ก.ย.เพื่อเป็นสินค้านำร่องไปสู่ตลาดอาเซียน และมีการจดทะเบียนสินค้าทรัพย์สินทางปัญญาให้ด้วย
       
       สำหรับลักษณะของพื้นที่การจัดงานแสดงสินค้านั้น จัดทำเป็นพาวิลเลียนติดเครื่องปรับอากาศครอบคลุมทุกพื้นที่ในการจัดงาน แต่ละคูหามีขนาด 3 X 2 เมตร ทางเดินกว้างประมาณ 2 เมตรเศษ เปิดให้เข้างานตั้งแต่เวลา 11.00-23.00 น.ของทั้ง 6 วันจัดงาน และถือว่าเป็นการจัดงานแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ ซึ่งในอนาคตจะมีการจัดงานอย่างต่อเนื่องทุกปี เชื่อว่าผลจากการจัดงานครั้งนี้จะทำให้เกิดการกระตุ้นทางเศรษฐกิจและยกระดับ การพัฒนาของสินค้าโอทอปและเอสเอ็มอี และเป็นการเตรียมความพร้อมของสินค้าในภูมิภาคนี้เพื่อก้าวสู่เออีซีต่อไป
       
       ด้าน นายชวลิต สุธรรมวงศ์ ประธานหอการค้า จ.เชียงราย กล่าวว่า งานแสดงสินค้าภาคเหนือและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 2555 เป็นการเริ่มต้นการค้าในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงก้าวสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งในงานนี้จะมีความหลากหลายในเชิงสินค้าทางวัฒนธรรม นำไปสู่การติดต่อทางการค้าเสรี หลังจากการจัดงานแสดงสินค้าในครั้งนี้ ไทยจะได้มีโอกาสศึกษาสินค้าและการค้าของประเทศต่างๆ ในอนุภูมิภาคนี้ว่ามีทิศทางอย่างไรเพื่อการปรับตัวในอนาคต รวมไปถึงเรื่องหัตถกรรม ศิลปวัฒนธรรม ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนสินค้าและพัฒนาสินค้าของไทยให้สามารถก้าวสู่ประชาคมอาเซียนได้ในอนาคตต่อไป


http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9550000110340
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
Ck 401
"....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,267


...งานหนักไม่เคยฆ่าคน...


« ตอบ #87 เมื่อ: วันที่ 07 กันยายน 2012, 21:49:44 »

ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมครับโก ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

"....คณะเรา ไม่ยอมให้ด้อยถอยลง ต่ำเราต้องค้ำชูให้สูงจรุงศรี....."
....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา  ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
TTM
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,253


« ตอบ #88 เมื่อ: วันที่ 10 กันยายน 2012, 18:46:04 »

ข้อมูลดีๆ
IP : บันทึกการเข้า
TTM
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,253


« ตอบ #89 เมื่อ: วันที่ 10 กันยายน 2012, 19:17:47 »

ข้อมูลดีๆ
IP : บันทึกการเข้า
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,112


« ตอบ #90 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2012, 19:23:43 »

มฟล.เปิดห้องระดมคนถกแผนรับเออีซี-เล็งทำเมกะโปรเจกต์ยื่น “ปู” ปลายปี

เชียงราย - มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เปิดห้องระดมตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถกแผนพัฒนาเมืองพ่อขุน ฯรับ เออีซี ในปี 58 ย้อนประสบการณ์ในอดีต ก่อนผุดเมกะโปรเจกต์ รอเสนอ “ปู” เดือนพฤศจิกาฯ 55
       
       รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้จัดให้มีการประชุมเพื่อกำหนดทิศทางในการนำ จ.เชียงราย เข้าสู่ประชาคมอาเซียน ที่ห้องประชุมเชียงแสน มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย โดยมีนายพินิจ หาญพาณิชย์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย หัวหน้าส่วนราชการบางหน่วย ภาคเอกชน นักวิชาการ สื่อมวลชนเข้าร่วม โดยมีการให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับอาเซียนก่อนการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี ในปี 2558
       
       ดร.ดร.วันชัยแจ้งต่อที่ประชุมว่า เนื่องจากเชียงรายเป็นประตูสู่อาเซียน และเชื่อมกับมณฑลหยุนหนัน ประเทศจีน ได้จึงควรมีโครงการใหญ่เพื่อรองรับความเจริญโดยเฉพาะ ซึ่งจะนำเสนอต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มีกำหนดจะเดินทางไปเยือน จ.เชียงราย ราวเดือน พ.ย. 55 ด้วย
       
       รศ.ดร.วันชัยกล่าวว่า เพียงแต่น่าเสียดายที่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยเสียโอกาสในการเตรียมตัวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนช้าไป เพราะมีปัญหาความวุ่นวายในบ้านเมือง แต่ปัจจุบันจะต้องเดินหน้าทำต่อไปให้ได้
       
       สำหรับกรณี จ.เชียงราย ถือเป็นเมืองยุทธศาสตร์ชายแดนที่สำคัญทั้งถนนอาร์สามเอไทย-สปป.ลาว-จีน ส่วนอาร์สามบี ในพม่าผ่าน อ.แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก-พม่า-จีน ก็พบว่ามีอนาคต เพราะรัฐบาลพม่า ตกลงกับกองกำลังไทใหญ่ได้กว่า 80% แล้ว ส่วนด้านแม่สอด จ.ตาก กับเมืองเมียวดีของพม่าก็ตกลงกันได้เต็มร้อยแล้ว โดยเปิดให้ทหารกะเหรี่ยงเป็นกองกำลังดูแลชายแดนแทนทหารพม่า เป็นต้น
       
       สำหรับโครงการที่จะนำเสนอต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระหว่างเดินทางมาที่เชียงรายนั้น ควรเป็นมุมมองใหม่ โดยอาศัยประสบการณ์ในอดีต ซึ่งหลายโครงการไม่น่าจะเป็นไปได้ เช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษ ฯลฯ ซึ่งพูดคุยกันมานานนับสิบๆ ปี รวมทั้งต้องศึกษาจากพื้นที่อื่นๆ เช่น ในอดีตมีการคาดการณ์กันว่าที่เชิงสะพาน จ.หนองคาย เชื่อมกับนครเวียงจันทน์ สปป.ลาว จะเจริญรุ่งเรือง เพราะช่วงนั้นจะมีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว จึงมีการเข้าไปกว๊านซื้อที่ดินกันมาก แต่ท้ายที่สุดความเจริญกลับไปอยู่ที่ จ.อุดรธานี เพราะเส้นทางคมนาคมเข้ามาสะดวก และเหมาะสม ทำให้ต้องนำเรื่อง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งมีการก่อสร้างสะพานเชื่อมไทย-สปป.ลาว เช่นเดียวกันด้วยมาพิจารณาใหม่
       
       นอกจากนี้ ที่ผ่านมาการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวใน จ.เชียงรายแทบไม่มีเลย โดยสังเกตได้จากช่วงหลายปีที่ผ่านมีสถานที่ท่องเที่ยวเกิดขึ้นใหม่ๆ น้อยมาก จะมีก็เพียงวัดร่องขุ่น บ้านดำ ที่เกิดจากศิลปินชาวเชียงราย แตกต่างจากในเขตสิบสองปันนา จีนตอนใต้ ที่มีการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวใหม่มากมายกว่า 70% ฯลฯ
       
       รศ.ดร.วันชัยยังนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจหลายเรื่องเพื่อสรุปประเด็นว่า จ.เชียงรายอยากจะเป็นอะไรในอาเซียน โดยยกตัวอย่าง เช่น ศูนย์กลางการขนส่งสินค้า ศูนย์กลางยาและสุขภาพ เมืองแห่งการศึกษา เป้าหมายการท่องเที่ยวของคนทั่วโลก เป็นต้น
       
       จากนั้นได้เปิดโอกาสให้แต่ละฝ่ายแสดงความเห็น ซึ่งนายวันชัย จงสุทธนามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย อ.เมือง ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเส้นทางคมนาคม ที่สะดวก เช่น รถไฟสู่เชียงราย โดยมีสถานีแห่งหนึ่งอยู่ที่ อ.เวียงชัย ใกล้กับท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมือง สามารถเชื่อมไปชายแดน
       
       ขณะเดียวกัน เสนอว่าอาจจะต้องให้รัฐจัดหาที่ดินราว 5,000-10,000 ไร่ แล้วโอนเป็นของรัฐ เพื่อเข้าไปพัฒนาเป็นเมืองใหม่ที่มีผังเมืองและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ พัฒนาการศึกษาของลูกหลานเพื่อรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ของพื้นที่ในอนาคต เป็นต้น
       
       นายพินิจ หาญพาณิชย์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย กล่าวว่า เชียงรายควรเปิดด่านชายแดนที่เดิมเปิดตั้งแต่เวลาประมาณ 06.30-18.00 น.ให้ขยายออกไปอีกจนถึงกลางคืน เพื่อขยายโอกาสทางเศรษฐกิจ การขนส่งสินค้า ลดต้นทุน ดึงดูดการลงทุน ฯลฯ ส่วนการเคลื่อนย้ายแรงงานไม่น่าเป็นห่วง เพราะมีการเปิดเสรีอาชีพในเออีซีแค่ 7 สาขาอาชีพอยู่ เช่น วิศวกร แพทย์ นักบัญชี ฯลฯ ซึ่งแต่ละอย่างล้วนมีขั้นตอนที่ทำให้การโยกย้ายไปทำงานในต่างประเทศทำได้ไม่ง่ายเกินไป

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9550000114741
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,112


« ตอบ #91 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2012, 19:28:34 »

นักวิชาการจีนสอนบทเรียนบูมเชียงราย รับ “ประตูจีน-อาเซียน” ก่อนเป็นแค่ทางผ่าน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   18 กันยายน 2555 18:39 น.

เชียงราย - กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ระดมกูรูขึ้นเวทีกระตุ้นการเตรียมพร้อมรับประตูเชื่อมอาเซียน-จีน พบมูลค่าการค้าเพิ่มทุกด่านฯ เฉพาะเชียงราย ยอดการค้าขยายตัว 6 เท่าในรอบ 10 ปี เชื่อหลังสะพานข้ามโขง 4-ทางรถไฟเชื่อมถึงมิติการพัฒนาใหม่เกิดแน่ ขณะที่นักวิชาการจีนเตือนบทเรียนความร่วมมือตั้งนิคมฯ เชียงราย ล้มเหลว 9 ปีก่อน อาจหลอนซ้ำทำ “เชียงราย” เป็นได้แค่ระเบียงเศรษฐกิจคุนหมิง-กรุงเทพฯ
       
       วันนี้ (18 ก.ย.) กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน ร่วมกับภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เช่น หอการค้าจังหวัดเชียงราย สภาอุตสาหกรรมจังหวัด สมาคมส่งเสริมเศรษฐกิจและความร่วมมือการค้าอาเซียน-จีน ฯลฯ ได้จัดการสัมมนาเชิงธุรกิจและการเจรจาจับคู่ธุรกิจ 2555 (Chiangrai Northern Business Forum and Business Matching 2012) ณ โรงแรมดุสิตไอส์แลนด์ รีสอร์ท เชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย
       
       โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิทั้งไทย จีน และ สปป.ลาว เข้าร่วมอย่างคึกคัก เช่น นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.กระทรวงการคลัง, นายกร ทัพพะรังสี อดีตนายกรัฐมนตรีและเป็นนายกสมาคมมิตรไทย-จีน, ดร.หลู่ จินซิน ผู้อำนวยการลอจิสติกส์กลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ของประเทศจีน ฯลฯ
       
       นายเฉลิมพล พงศ์ฉบับนภา พาณิชย์ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นแม่งาน กล่าวว่า มูลค่าการค้าชายแดน และการค้าผ่านแดนช่องทางภาคเหนือตอนบน 2 มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นทุกปี ทั้งการค้าชายแดนไทย-พม่า ไทย-สปป.ลาว ไทย-จีน (ตอนใต้) ในเขตภาคเหนือตอนบน (เชียงราย พะเยา อุตรดิตถ์ และน่าน) ในปี 2554 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 31,655.20 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนหน้า 46.30% เป็นการค้าชายแดนระหว่างไทย-พม่า 12,467.54 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนหน้า 22.36% การค้าชายแดนระหว่างไทย-สปป.ลาว 12,536.27 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนหน้า 115.44% และการค้าผ่านแดนระหว่างไทย-จีนตอนใต้ 6,651.29 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนหน้า 18.17%
       
       ดังนั้น ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า การเพิ่มมูลค่าสินค้า การต่อยอดการค้า โดยอาศัยประโยชน์จากภูมิศาสตร์ที่มีเชียงรายเป็น Gate Way เป็นประตูหน้าด่านที่สำคัญ
       
       นายกรกล่าวว่า เชียงรายถือเป็นฐานของประเทศที่จะทำให้เราก้าวขึ้นเป็นเป็นจุดศูนย์กลางของจีเอ็มเอส จึงอยากให้ชาวเชียงรายร่วมมือกันเตรียมความพร้อม ในการรับมือปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนาขึ้นหลังจากที่สะพานข้ามแม่น้ำโขงที่เชียงของ และทางรถไฟที่จะมาถึงเชียงราย ในอนาคตสร้างเสร็จ เพราะเมื่อนั้นจะเกิดมิติใหม่ของการพัฒนาการเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาค
       
      เมื่อมีการคมนาคมที่สมบูรณ์ทั้งทางบก ทางเรือ และรถไฟ ที่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบก็จะทำให้ชาวเชียงรายได้รับประโยชน์โดยเฉพาะเกิดเงินหมุนเวียนในพื้นที่อย่างมหาศาล แต่ก็ขอให้ยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของชาวเหนือไว้ด้วย
       
       ด้าน นายหลู่กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 55 ที่ผ่านมา ตนได้มีโอกาสเข้าร่วมพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงหรือเอ็มโอยู จำนวน 2 ฉบับ ฉบับแรกเป็นบันทึกความเข้าใจกันลืมว่าด้วยความร่วมมือในโครงการ Kunming Tengjun International Land port และฉบับที่ 2 เป็นบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการศูนย์ลอจิสติกส์เชียงของ แห่งประเทศไทย ซึ่งฝ่ายที่ลงนามได้แก่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกับเครือบริษัทการลงทุนเกิงจุ้น หยุนหนัน และบริษัทการลงทุนเจี๋ยเฟิงหยุนหนัน และยังมีนายหลี่ เผย เท่อ กรรมการถาวรประจำคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ มณฑลหยุนหนัน เข้าร่วมพิธีลงนาม ในพิธีที่ดำเนินการโดยคณะกรรมการปฏิรูป และการพัฒนาแห่งมณฑลหยุนหนาน จีนตอนใต้
       
       นายหลู่กล่าวว่า หลายฝ่ายคาดหวังว่าโครงการจะดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วและเกิดผล ทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจะพัฒนาให้ทั้งคุนหมิงและเชียงรายเป็นเมืองท่าที่เชื่อมกันหรือ International Land port เป็นท่าระดับโลก เพราะเชื่อมระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ ในภูมิภาค เชื่อมเศรษฐกิจคุนหมิง-กรุงเทพฯ จึงถือเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ลุ่มแม่น้ำโขง และเป็นประตูสู่อาเชียน-จีน อย่างแท้จริง โดยถือเป็น 1 ใน 5 โครงการโลจิสติกส์ใหญ่ที่เป็นจุดเชื่อมบนเส้นทางรถไฟสายเอเชีย และตั้งอยู่บนเส้นทางถนนหลักระหว่างประเทศด้วย ขณะนี้โครงการในส่วนของประเทศจีนได้สร้างเสร็จระยะที่หนึ่งแล้ว โดยมีพื้นที่ 1,528 ไร่ มูลค่าการลงทุน 9,060 ล้านหยวน คาดว่าทั้งโครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2015
       
       นอกจากนี้ ตนยังได้เข้าร่วมโครงการศึกษาความเป็นไปได้ของนิคมอุตสาหกรรมนิวไฮเทคโนโลยี คุนหมิง ในการจะขยายมาสร้างนิคมเศรษฐกิจภาคเหนือของไทยเมื่อหลายปีก่อน แต่ประสบความล้มเหลว แต่ในปี 2007 การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะสร้างนิคมอุตสาหกรรมเชียงรายอีก โดยจ้างบริษัทที่ปรึกษาปัญญา จำกัด ศูนย์วิจัยลอจิสติกส์จีเอ็มเอส ร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาเศรษฐกิจสังคม ที่ได้รับผิดชอบงานวิจัยในส่วนที่เป็นลอจิสติกส์ ดังนั้นจึงยังมีความหวังที่จะเกิดขึ้นได้อยู่
       
       นายหลู่กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ค .2009 ประธานาธิบดี หู จิ่น เทา ได้เสนอยุทธศาสตร์พัฒนามณฑล เป็นด่านหน้าสู่ภาคตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ปีเดียวกันรัฐบาลหยุนหนัน ได้ตั้งคณะทำงานศึกษายุทธศาสตร์ด่านหน้า โดยมีนายฉิน กวาง หรง ผู้ว่าราชการมณฑล เป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งตนเป็นหนึ่งในกรรมการนั้นด้วย และในปี 2011 สำนักนายกรัฐมนตรีได้มีคำประกาศให้หยุนหนันเป็นด่านหน้าสู่ภาคตะวันตกเฉียงใต้
       
      นายหลู่ยังได้นำเสนอผลงานศึกษาวิจัยของจีนว่า สำหรับ จ.เชียงราย มีประชากร 1.2 ล้าน ชนกลุ่มน้อยคิดเป็นร้อยละ 12.5 เป็นแหล่งผลิตข้าว ใบชา ผลไม้ และไม้ เป็นเมืองประตูสู่การค้าชายแดน มีเส้นทางเชื่อมโยงไปยังเมืองต่างๆ สะดวก ดังนั้นตนคิดว่า เชียงราย สามารถพัฒนาอุตสาหกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และมีความเข้มแข็ง อนุรักษ์ความเป็นเมืองประวัติศาสตร์ การท่องเที่ยว พัฒนาบริการ แปรรูปสินค้าและการเกษตรเพื่อการส่งออก การค้าชายแดน ฯลฯ รวมทั้งควรพัฒนากิจการประชุม การแสดงสินค้า การศึกษา การกุศล ฯลฯ โดยมีสถาบันการศึกษาหลายแห่งที่สนับสนุนได้
       
       มีตัวอย่างกรณีเมื่อวันที่ 8-14 ส.ค. 2012 นายวิจิต หยาง นายกสมาคมส่งเสริมเศรษฐกิจการค้าอาเซียน-จีน ได้จัดแสดงสินค้า 6 ประเทศในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยมีพื้นที่แสดงสินค้า 18,000 ตารางเมตร มีบูท 900 กว่าบูท สินค้ามาจากโครงการหลวง สินค้าหัตถกรรม เฟอร์นิเจอร์ ซึ่งพบว่าเป็นนิยมของชาวจีนจนต้องแย่งกันซื้อ ภายในงานยังมีการแสดงศิลปมวยไทยได้ดึงดูดคนหนุ่มสาวชาวจีนมาก ทำให้ตลาดบริโภคสินค้าไทยเกิดความคึกคักมากขึ้นด้วย
       
       “ภาพแบบนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นที่เชียงราย ดังนั้น จ.เชียงรายสามารถสอบถามไปยังนายวิจิต เพื่อนำมาพัฒนาพื้นที่ตามที่ผมเสนอได้ นอกจากนี้ตนเสนอให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรางการคลัง ของไทยสนับสนุน จัดงานสัมมนา จัดงานแสดงสินค้า และเชิญผู้นำระดับสูงของธนาคาพัฒนาเอเชีย หรือเอดีบี ผู้นำรับดับสูงของประเทศ นักวิชาการที่มีชื่อเสียงมาร่วมหารือ เพื่อวางแผนในการพัฒนา สร้างเวทีให้คนช่วยกันคิด ช่วยกันทำ และมีการประกาศเกียรติคุณ ยกย่องบุคคลที่มีคุณงามความดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจเชียงราย เป็นต้น” นายหลู่กล่าว
       
       เขายังระบุในตอนท้ายว่า ปีที่ผ่านมารัฐบาลจีนอนุมัติให้มี 19 นิคมอุตสาหกรรมในต่างประเทศ แต่เหตุการณ์เมื่อ 9 ปีก่อนที่ จ.เชียงราย ทำให้บริษัทหยุนหนัน ยังไม่ลืมบทเรียน จึงเป็นสิ่งที่เราต้องคิดว่าจะทำอย่างไรไม่ให้โครงการล้มเหลวอีก ไม่เช่นนั้นตนทำนายได้เลยว่า จ.เชียงราย จะเป็นได้แค่ระเบียงเศรษฐกิจคุนหมิง-กรุงเทพฯ โดยไม่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนเลย
       
       ด้าน นายสุพจน์ กลิ่นปราณีต กรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และประธานคณะอนุกรรมการความร่วมมือเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (พม่า) กล่าวว่า จ.เชียงราย มีความได้เปรียบด้านที่ตั้ง เพราะเป็นฐานเศรษฐกิจที่สำคัญตามแนวเขตเศรษฐกิจ เหนือ-ใต้ มีด่านถาวร 4 ด่าน ใน 3 อำเภอ และจุดผ่อนปรน 10 แห่ง การค้าขยายตัวอย่างต่อเนื่องเป็น 6 เท่า ในรอบ 10 ปี เหมาะสำหรับเป็นเมืองหน้าด่านประตูเศรษฐกิจของประเทศไทยกับหลากหลายกลุ่ม

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9550000115074
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
samurai_ฅนเมือง
VIP
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,120



« ตอบ #92 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2012, 20:04:12 »

ตอนนี้เรียนภาษาพม่า ล่ะคับที่รอคือ รอประตูอาเซียนเปิดอย่างเดียว
ไม่รู้จะสำคัญหรือได้ประโยชน์อาไรป่าวที่เรียนภาษานี้ ยิงฟันยิ้ม
ไม่เป็นไรคับ ถ้าไม่ได้ใช้ประโยน์ อย่างน้อยไปเที่ยวบ้านเขาคุยกันรู้เรื่องก็พอละคับ
IP : บันทึกการเข้า

หลายคนเรียนไม่จบแต่พบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เพราะเป็นคนใฝ่เรียนรู้ด้วยตนเอง ปัญญาไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัยแต่อยู่ในจิตใจที่ใฝ่รู้
joejoral
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 36


« ตอบ #93 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2012, 21:25:33 »

ยังบะพร้อมเตื่อเลยคับ บ้านเฮาตี่จะต้องเจอคือบ้านเฮาเป็นเมืองหน้าด่านและเศรษฐกิจเจียงฮายจะโตก้าวกระโดดรถลาขนส่งสินค้าจะวิ่งกั๋นเต็นเจียงฮาย สังคมวัฒธรรมจากฝั่ง พม่า ลาว ก็เริ่มเกิดขึ้นแรงงานจากประเทศชมาชิค ก่มาอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ผมอยากหื้อเจียงฮายเป็นเจียงฮายจะอี้ต่อไปก่อนคับ
IP : บันทึกการเข้า
Ck 401
"....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,267


...งานหนักไม่เคยฆ่าคน...


« ตอบ #94 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2012, 22:36:38 »

ยังบะพร้อมเตื่อเลยคับ บ้านเฮาตี่จะต้องเจอคือบ้านเฮาเป็นเมืองหน้าด่านและเศรษฐกิจเจียงฮายจะโตก้าวกระโดดรถลาขนส่งสินค้าจะวิ่งกั๋นเต็นเจียงฮาย สังคมวัฒธรรมจากฝั่ง พม่า ลาว ก็เริ่มเกิดขึ้นแรงงานจากประเทศชมาชิค ก่มาอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ผมอยากหื้อเจียงฮายเป็นเจียงฮายจะอี้ต่อไปก่อนคับ
ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บ่าตันละครับ 1 มกราคม2558ใกล้เข้ามาทุกวันครับ
IP : บันทึกการเข้า

"....คณะเรา ไม่ยอมให้ด้อยถอยลง ต่ำเราต้องค้ำชูให้สูงจรุงศรี....."
....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา  ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
benzto
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,443


มิตรภาพซื้อไม่ได้ด้วยเงิน


« ตอบ #95 เมื่อ: วันที่ 21 กันยายน 2012, 11:01:48 »

ผมว่าหลายชาติก็คงยังไม่พร้อม....เห็นข่าวในทีวีมีสิทธิ์เลือนออกไป  ผมว่าเราลืมมองเรื่องความมั่นคงไปนะ  ไม่ได้ขว้างความเจริญใครนะครับ แต่ว่าคิดเรื่องความมั่นคงบ้างก็ดีนะครับ  "ความเจริญมาพร้อมกับความเสื่อมนะครับอย่าลืมข้อนี้ละ"
IP : บันทึกการเข้า

ขออภัยในบางลีลา
หนุ่มวัยทอง
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 170


« ตอบ #96 เมื่อ: วันที่ 21 กันยายน 2012, 11:40:30 »

ที่แขวงบ่อแก้ว เด็ก ๆ พูดภาษาอังกฤษ จีน ไทย ลาว ฝรั่งเศส

ที่เชียงราย หลายโรงเรียน เด็กๆ พูดภาษาอาข่า  กะเหรี่ยง  ลาหู่  ลีซอ  ม้ง  เย้า  โอ๊ยเยอะแยะ  โรงเรียนในเมืองเชียงรายยังมีเลย  พร้อมครับ AEC
IP : บันทึกการเข้า
put_put
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 181


« ตอบ #97 เมื่อ: วันที่ 21 กันยายน 2012, 11:59:56 »

ขออำภัยตกข่าวไปหน่อยไม่เข้าใจว่ามีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันมั๊ยครับ วันวันขายแต่ขนมปังจะเกี่ยวกับเค้ามั๊ยเนี่ย
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 4 [5] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!